ภาพถ่ายลึกลับมหัศจรรย์"จักรแก้ว"

ใครไม่เชื่อไม่ว่ากัน

แต่ผมเชื่อว่า เป็นพรหมเทพครับ ไม่ใช่จักรแก้วซะหน่อย

ภายในวงคือลวดลายธรรมจักรนะครับ ที่คนโบราณเขาสร้างธรรมจักรขึ้นบูชา
ก็สร้างขึ้นตามแบบของจริงในโลกทิพย์นี่แหละ วัดวาอารามตลอดจนเวียงวังก็ล้วนจำลองมาจากโลกทิพท์ทั้งสิ้น

เพิ่งมายุคที่ผ่านมานี่เองที่นิยมปิดหูปิดตา เห็นว่าเท่ ถ้าทำเป็นไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ปิดกั้นการฝึกฝน พัฒนาทิพยอำนาจกันอย่างกว้างขวาง

วงใดที่ปรากฎมีรายละเอียดสมบูรณ์กว่า แสดงถึงภมิธรรมที่ละเอียด สูงกว่า

ภาพที่แนบมา คือ พระเจดีย์บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น ณฯ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทา จ.ปทุมธานี ในวันถวายสรงน้ำร่างของหลวงปู่เจี๊ยะ

 

ว้าว

 

จักรแก้ว

มีท่านผู้รู้ ใด้เมตตาอธิบายให้ฟังว่า กรณีการเกิดมีภาพบางอย่างซ้อนขึ้นมาในภาพที่ถ่ายนั้น เกิดใด้จากสองสาเหตุ

๑ . เกิดจากอานุภาพบุญบัลดาล
๒. เกิดจากฝุ่นที่ติดอยู่บริเวณเลนส์

กรณีภาพถ่ายจักรแก้วนั้น ไม่ใด้เกิดจากฝุ่น แต่เกิดจากอานุภาพบุญที่ผู้มีบุญจำนวนมากมาสั่งสมบุ_ร่วมกัน เลยทำให้บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่ศักดิ์สิทธิ์ ลองสังเกตุว่าภายในดวงนั้นจะมีลายคล้ายๆกับจักรที่มีซี่ๆ และทุกดวงจะมีขอบของจักรซ้อนกันอยู่ภายในชัดเจน

 

ธรรมจักร และ จักรแก้ว

"จักรแก้ว"นี้เป็นสัญลักษณ์ แทนถึง บัดนี้เป็นถึงเวลาที่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะใด้แผ่ไปสู่จิตใจมหาชนเป็นจำนวนมากอีกวาระหนึ่งดุจ"ธรรมจักร"ที่เคลื่อนไปเพื่อการประกาศพุทธธรรมฉนั้น

 

โดยปรกติ "จักรแก้ว" จะเป็นสมบัติหนึ่งในเจ็ดอย่างของพระเจ้าจักรพรรดิเรียกสมบัติเหล่านี้ว่า "รัตนะ ๗" ซึ้งจักรแก้วนี้จะมีอานุภาพมาก เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าจักรพรรดิปราถนาที่จะขยายราชอาณาเขต "จักรแก้ว"จะทำหน้าที่เป็นเสมือนยานพาหนะและอาวุธของพระเจ้าจักรพรรดิ เมื่อ"จักรแก้ว"ไปถึงที่ใด ที่นั้นจะต้องครั้นคร้ามในอานุภาพของ"จักรแก้ว "แล้วเจ้าผู้ครองเมืองนั้นๆก็สวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าจักรพรรดิจนหมดสิ้น

ในทางพระพุทธศาสนาท่านใด้เอา"จักรแก้ว"มาแทนเป็น"ธรรมจักร" และการเคลื่อนของจักรแก้วในทางธรรมนั้นมิใด้มีนัยยะแบบเช่นของอาณาจักร แต่ท่านหมายถึงเป็นการขยายพระพุทธศาสนาออกไปให้ทั่วนั่นเอง

ภาพจักรแก้วที่"คุณกระเจียว"นำมาโพสไว้นั้น เป็นภาพที่"ผู้มีรู้มี_าณ " "ผู้ปฏิบัติธรรมขั้นสูง" ท่านใด้เมตตาวาดออกมาให้ชาวโลกใด้รู้และใด้เห็น ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ท่านเห็นมาจากการทำภาวนา ดังนั้นภาพที่ปรากฏจึงไม่ใช่เกิดจากการใช้จินตนาการหรือสันนิฐานด้นเดาเอาเอง

 

อ่า ขอบคุนครับ ชอบๆ ครับ

แต่ งง ว่าจักร แก้ว นี่ตกลงมันเป็นอะไร ครับ

ผม เหมือน เคนเห็นไอ้ แบบนี้ด้วยตา เปล่า ตอน อาบน้ำ

นานๆ ครั้งครับ แต่ เอ.... คงไม่ใช่มั้งง

คุน กระเจียว นี่ ขยัน จังครับ นับถือๆ

 

อ่านๆ แล้ว ดูท่าทาง สรุป ได้ 2 ประเด็น นะ ครับ

1 ฝุ่น
2 อำนาจบุ_

 

จักรแก้วในไตรภูมิพระร่วง กระผมหมายถึง จานบินAlien น่ะ 'You get?

ไตรภูมิพระร่วงเป็นการรวบรวมคัมภีร์เท่าที่หาได้จำได้ในยุคนั้นมาบันทึก
เข้าเป็นหมวดหมู่อย่างนักวิชาการ เพราะเพิ่งประดิษฐ์อักษรใช้เองได้
โดยแบ่งเป็น 3 โลก; นรก สวรรค์ และ มนุษย์ ในโลกมนุษย์ยังแบ่งเป็น
เดรัจฉาน มนุษย์ และมนุษย์อื่นๆ ที่อยู่มิติเดียวกัน เรื่องราวต่างๆ อาจ
มีที่มาจากดินแดนอื่นทวีปอื่น จะเห็นว่าบางตอนมีการแหวกแยกสมุทรโดยจักรแก้วเหมือนเรื่องโมเสส หรือ การหลั่งสิโณทกตามดินแดนต่างๆ ให้อยู่ในศีลในธรรม ก็เหมือนกับ บั__ัติ 10 ประการ ที่ข้อแรกเหมือน
ศีลข้อ 1 คือ ห้ามฆ่า Do not kill ข้อ 2 Do not Liar,3,,, ก็เหมือนศีล 5 ทั่วไป
สรุป คือ พระมหาจักรพรรดิเป็นคล้ายๆ หุ่นเชิดของพระเจ้าที่อยู่ในจักรแก้ว
และพระมหาจักรพรรดิอาจเป็นคนทวีปอื่น เช่น อินคา และแท่นปิรามิดอินคาก็อาจเป็นที่สถิตย์ของยานจักรแก้วก็ได้
ลองคิดถึงว่าคนโบราณเขาคิดถึงสิ่งที่เขารู้เขาเห็นขณะนั้น ก็แล้วกัน
เขาคิดและเขียนรวบรวมจดบันทึกตาม Paradiam สมองน้อยๆ ของเขาเป็นฉะนี้

ก็ขอตัดบางตอนมาให้พิจารณาอีกสักครั้ง

ฯลฯ
เมื่อครั้งนั้นพระ_ามหาจักรพรรดิ ราชเทศนาธรรมอันชื่อว่า ไชยวาศ สั่งสอนท้าวพระ_าทั้งหลายอันมีฝ่ายตระวันออกในแผ่นดินอันชื่อว่าบุพพวิเทหะนั้นแล้วจึง ธจึงเลี้ยงลาอามสายท้าวพระ_าทั้งหลาย อีกลูกเจ้าเหง้าขุนทมุนทนายไพร่ฟ้าทั้งหลาย ด้วยข้าวแลน้ำโภชนาหารทั้งปวงอันมีโอชารสอันมีสำเร็จฯ จึงกงจักรแก้วนั้นก็เหาะขึ้นไปบนอากาศ แล้วก็นำพระ_ามหาจักรพรรดิราชเลรี้พลทั้งหลาย ไปโดยอากาศไปสู่ทิศตระวันออก แล้วจึงบ่ายหน้าไปยังกำแพงจักรวาฬฝ่ายบุพทิศแล้วจึงลุเถิงฝั่งมหาสมุทรอันมีฝ่ายบุพทิศ จึงกงจักรแก้วนั้นลงสู่น้ำมหาสมุทรๆ อันเร่งตีฟองนองระลอกนักนั้น แลน้ำมหาสมุทรนั้นกลัวกงจักรแก้ว แลมิอาจตีฟองนองระลอกขึ้นมาได้เลยฯ ผิจะอุประมาดุจพระ_านาคราชอันเลิกพังพานอยู่แล้วแลถูกไอยาแลกลัวไอยานั้น แลก้มหัวซบลงเร้นอยู่นั้นแลมีดังฤาคือมหาสมุทรกลัวบุ_ แห่งกงจักรแก้วนั้น แลบมิอาจตีฟองนองระลอกขึ้นได้เลยฯ เมื่อกงจักรแก้วนั้นไปสู่สมุทรอันนั้น แลน้ำมหาสมุทรนั้นน้อย หลีกแยกแตกเป็นคลองไปโดยกว้างได้โยชน์ 1 ผิจะนับโดยวาได้ 8000 วาแล แลเห็นน้ำสองข้างนั้นงามดังกำแพงแก้วไพรฑูริย์ฯ จึงกงจักรแก้วนั้นลงไปเถิงพื้นพระสมุทร แลน้ำนั้นก็หลีกกงจักรแก้วแปลงพื้นสมุทรด้วยวาไส้ได้ 8000 วาแล อันว่าแก้วสัตตพิธรัตนะ 7 ประการอันมีในพื้นพระสมุทรนั้นแล แก้วสัตตพิธรัตนะอันประเสริฐดีต่างๆ ก็มาเองแล อยู่ซึ่งทางที่พระ_าจักรพรรดิราชเสด็จไปด้วยแลรี้พลทั้งหลายนั้น ด้วยเดชอำนาจแห่งกงจักรแก้วนั้นแล โดยหนทางแต่ฝั่งมหาสมุทรข้างนี้ไปบนเถิงฝั่งข้างโพ้นแลตระหลอดไปเถิงพื้นกำแพงจักรวาฬนั้นแลฯ กล่าวเถิงเมืองนั้นฝูงคนทั้งหลายนั้นไปโดยเสด็จวันนั้น ต่างคนต่างแลเห็นแก้วแหวนเงินทองอันดี ต่างคนต่างก็เลือกเอาอันดีอันพึงใจคน ลางคนกวาดเอาใส่พกใส่ห่อผ้า แลคนทั้งหลายนั้นย่อมชื่นชมยินดีทั่วทุกคน ร้องชมว่าแต่ก่อนเรามาเราบห่อนได้พบได้เห็น แลบัดนี้เรามาได้พบได้เห็นดังนี้เพราะบุ_สมภารเจ้านายเราแลฯ จึงกงจักรแก้วนั้นก็นำไปเถิงสมุทร ฝั่งสมุทรข้างโพ้นจรดตีนเขากำแพงจักรวาฬฝ่ายบุรพทิศ พระ_าจักรพรรดิราชนั้นจึงจับเอาสุวรรณภิงคาร อันเต็มไปด้วยน้ำอันหอมนั้นมา แล้วธจึงหลั่งน้ำลงแล้วธก็ว่าดังนี้ แดนนี้เป็นแดนเมืองแห่งกู แลเป็นอาณาราฐแห่งกูฝ่ายหนตระวันออกแลฯ ครั้นธว่าเท่านั้นแล้ว พระ_ามหาจักรพรรดิราชเจ้านั้นก็กลับคืนมาโดยหนทางเก่านั้นเล่าแลฯ จึงลูกเจ้าเหง้าขุนแลไพร่ฟ้าข้าไทยทั้งหลายบางคนมาก่อนบางคนมาหลัง พระ_ามหาจักรพรรดิราชนั้นแลฯ ส่วนว่ากงจักรแก้วนั้นจึงค่อยมาภายหลังคนทั้งหลาย เพราะว่ามิให้น้ำในสมุทรนั้นกลัดหนทางคนทั้งหลายเสียฯ ส่วนว่าน้ำพระสมุทรนั้นมีใจรักกงจักรแก้วนักหนามิใคร่จะให้ไปจากเลย ผิจะอุปมาดุจนางผู้หนึ่งแลมีรูปงามแลได้ผัวอันพึงใจ แลผัวนั้นไปจากตนช้านานแล้วแลคืนมาหาตนเล่าแล้วสิว่าผัวนั้นจะไปจากตนอีกเล่า แลว่าใจตนรักผัวตนมิใคร่ให้ไปจากเลย แลกล่าวถ้อยคำเล้าโลมผัวตนเพราะมิให้ใคร่ไปจากตนนั้นแลมีดังฤา คือว่าน้ำมหาสมุทรมิใคร่ให้กงจักรแก้วนั้นไปจากตนแลมีอุปมาดุจนั้นแลฯ แลน้ำพระมหาสมุทรมีใจรักนักอดทนมิได้จึงตามมาส่งกงจักรแก้วนั้น น้ำนั้นคอยกลบหนทางตามมา แต่ว่าน้ำนั้นมิได้ถูกต้องริมกงจักรแก้วนั้นฯ แก้วแหวนเงินทองทั้งหลายก็มีใจรักกงจักรแก้วนั้นนักหนา จึงชวนกันมาส่งกงจักรแก้วเถิงฝั่งสมุทรข้าง 1 แลฯ ครั้นว่ากงจักรแก้วขึ้นจากพระมหาสมุทรๆ นั้นก็เต็มมาดังเก่าแลฯ เมื่อนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชบพิตร ธปราบแผ่นดินเมืองเบื้องตระวันออกอันชื่อว่าบุรพวิเทหะ แลเอาน้ำสมุทรแลตีนเขากำแพงจักรวาฬเป็นแดนเมืองฝ่ายข้างตระวันออกแลฯ แลจะใคร่มาปราบแผ่นดินชมพูทวีปอันเราอยู่นี้แลมีพระสมุทรหากเป็นแดนนั้น ธก็เสด็จมาโดยทางอากาศเวหาเล่าแลฯ เมื่อนั้นจึงกงจักรแก้วนั้นหาฯ ชักชวนพระองค์เสด็จไปโดยอัมพรากาศ โดยนิยมดังกล่าวมาแต่ก่อนนั้นดุจเดียวแล แล้วจึงมาในแผ่นดินอันเราอยู่นี้แลฯ อันว่าท้าวพระ_าทั้งหลายซึ่งอยู่ในแผ่นดินชมพูทวีปนี้ ต่างองคืก็ต่างมาถวายเครื่องบรรณาการแลไหว้นบคำรพยำเยงแต่บรมมหาจักรพรรดิราช แลมหาจักรพรรดิราชนั้นตรัสสั่งสอนด้วยบุ_แลธรรม อันชื่อว่าไชยวาทาสาสน์แล้วธก็เสด็จไปยังพระสมุทร แลน้ำในพระสมุทรก็หลีกออกสองข้างให้เป็นทางดังกล่าวมาแล้วแต่ก่อนนั้นฯ อันว่ารี้พลทั้งหลายก็เก็บเอาแก้วแหวนในท้องสมุทรตามใจเขาปรารถนาเก็บเอาเต็มหอบเต็มพกแล้ว จึงนำไปเถิงกำแพงจักรวาฬเบื้องทักษิณแลฯ จึงพระ_ามหาจักรพรรดิราชจึงเอาน้ำในสุวรรณภิงคารหลั่งลงแล้วว่าดังนี้ แต่นี้เป็นแดนเมืองเป็นอาณาราฐแห่งกูเบื้องทักษิณแล ครั้นว่าแล้วจึงคืนมาโดยหนทางเก่าอันเดินในสมุทรนั้น ครั้นคืนมาน้ำสมุทรนั้นก็กลบรอบเต็มงามดังกล่าวเล่าแลฯ เมื่อนั้นพระ_ามหาจักรพรรดิราชนั้น ธ ปราบแผ่นดินเบื้องตระวันออกแล้วๆ มาปราบแผ่นดินอันเราอยู่นี้ กว้างได้ 10000 โยชน์ อันชื่อว่าชมพูทวีปแล้วฯ แล้วธจักใคร่ไปปราบแผ่นดินเบื้องข่างตระวันตก อันกว่าได้ 1000 โยชน์ชื่อว่าอมรโคยานีอันมีน้ำสมุทรเป็นแดน จึงจากน้ำสมุทรไปหนปัจฉิมทิศ ธ จึงปราบแผ่นดินนั้น แล้ว ธ ก็สั่งสอนท้าวพระ_าทั้งหลายนั้นโดยดังกล่าวก่อนนั้นแล้วๆ ก็ข้ามสมุทรไปเถิงตีนเขากำแพงจักรวาฬฝ่ายข้างปัจฉิมทิศ แล้ว ธ จึงเอาน้ำในคนที่ทองมาหลั่งลงแล้วฯ ว่าแต่นี้เป็นแดนเมืองกู เป็นอาณาราฐกูแล แล้ว ธ จึงคืนมาแลฯ แล้ว ธ จะใคร่ไปปราบแผ่นดินเมืองอุตตรกุรุทวีปอันกว้างได้ 8000 โยชน์ อันชื่อว่าอุตตรกุรุทวีปนั้นแล ท้าวพระ_ามาไว้นบ ธ แล้ว ธ จึงสั่งสอนท้าวพระ_าทั้งหลายเสร็จแล้วๆ ข้ามน้ำสมุทรไปๆ เถิงตีนเขากำแพงจักรวาฬเบื้องอุดรทิศนั้นแล้ว จึงเอาน้ำในคนทีทองมาหลั่งลง แลว่าแต่นี้เป็นแดนเมืองกูนี้เป็นอาณาราฐแห่งกูแลฯ แล้วจึงคืนมาโดยทางในกลางสมุทรดังเก่า ครั้น ะ มาแล้วน้ำสมุทรคอยกลบตามมาเต็มงามดังเก่าแลฯ ฝูงท้าวพระ_าทั้งหลายอันมีในแผ่นดินเล็กน้อย 2 พันนั้นเล่า เขาหากมาเองออกหาเองแลมิพักไปปราบเขาเลยฯ แลกล่าวเถิงแผ่นดิน 2000 นั้น เพราะว่าแผ่นดิน 2000 นั้นเป็นบริวารแผ่นดินให_่ 4 อันนั้นแลฯ แผ่นดินให_่อันหนึ่งแลมีบริวารได้ 500 แผ่นดินแล แลสัพพทรัพย์อันมีในแผ่นดินทั้งหลายอันมีในสัพพจักรวาฬแล มีอยู่ในน้ำสมุทรทั้ง 4 อันฯ สมุทรแต่ล้วนๆ รัศมีพระอาทิตย์พระจันทร์จะมารส่อนไปย่อมเป็นสมบัติแห่งพระ_าจักรพรรดิราชแลเมื่อดูมหิมาเพียงดังกงจักรเทียมพระอินทร์ผู้เป็นเจ้าไตรตรึงษาสวรรค์นั้นแลฯ เมื่อพระ_าจักรพรรดิราช ธ ปราบทวีปจักรวาฬ แล้ว ธ ก็คำนึงในพระหทัยแลมีพระทัยจะใคร่แลดูสมบัติอันมหึมาของพระองค์ทั้งมวลฯ ครั้นว่า ธ คำนึงดังนั้นอันว่ากงจักรแก้วนั้นดุจดังว่ารู้พระทัยท่าน จึงกงจักรแก้วนั้นก็ผันเหาะพุ่งขึ้นไปเบื้องบนอากาศ แลมีรัสมีดังพระจันทร์พุ่งขึ้นแวดเขาพระสิเนรุราชนั้น ดุจดังพระอาทิตย์ส่องอันเป็นใต้แผ่นดินขึ้นทั้งมวลนี้เร่งพุ่งขึ้นไปบนแล ฝูงคนทั้งหลายเห็นเลื่อมใสดูรุ่งเรืองงาม ชนทั้งปวงมุงว่าพระอาทิตย์เป็นสองดวงแลฯ

ฯลฯ

 

จักรแก้ว ของพระเจ้าจักรพรรดิ

ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพจักรแก้ว ที่"คุณกระเจียว"นำมาโพสไว้นั้น คืออันเดียวกับจักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ ตามที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฏก
พระเจ้าจักรพรรดินั้นทรงมีบุญาธิการและอานุภาพมาก พระเจ้าจักรพรรดิจะมีสมบัติวิเศษ ๗ อย่าง คือ
๑.ช้างแก้ว
๒.ม้าแก้ว
๓.ขุนพลแก้ว
๔.ขุนคลังแก้ว
๕.นางแก้ว
๖.ดวงแก้วมณีโชติรส
๗.จักรแก้ว

ภาพจักรแก้วที่ที่คุณกระเจียวนำมาโพสนั้น เป็นภาพที่มองจากด้านบน
การเคลื่อนที่ของจักรแก้วนั้นช่างอัศจรรย์มาก กล่าวคือ ความเร็วในการเคลื่อนที่จะให้เร็วมากน้อยใด้ตามความปราถนา สามารถพาพระเจ้าจักรพรรดิเดินทางไปยังที่ต่างใด้อย่างรวดเร็ว แม้แต่การเดินทางไปยังทวีป(โลก)อื่นๆ เช่น อปรโคยานทวีป บุพพวิเทหะทวีป อุตตระกุรุทวีป ก็สามารถไปใด้รวดเร็วมากๆๆๆๆๆๆ

ที่พิเศษคือ จักรแก้วสามารถย่อหรือขยายส่วนให้เล็กใหญ่ใด้มากมายเพื่อพาพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ติดตามและแม้แต่ประชาชนให้ขึ้นไปนั่งบนจักรแก้วใด้อย่างไม่มีขีดจำกัดจำนวน

ท่านผู้รู้ท่านใด้เคยวาดออกมาในรูปแบบแอนนิมิเนชั่น ให้ดูว่าจักรแก้วมีการเคลื่อนตัวอย่างไร มันน่าทึ่งมากครับ
คือตรงกลางของจักรที่เป็นส่วนของรูปดอกบัวนั้นจะอยู่นิ่งๆ แต่ส่วนขอบที่เป็นลักษณะไบจักรจะหมุนใด้ (คาดว่าอีกหน่อยคงจะมีภาพเคลื่อนไหวให้ทุกท่านใด้รับชมกันจะใด้เข้าใจง่ายๆ)

 

เพิ่มเติม

ส่วนภาพรูปถ่ายที่ถ่ายติดจักรแก้วเป็นดวงกลมๆมากมาย นั้นถือว่าเป็นของส่วนละเอียด(ธรรมจักร) ไม่ใช่จักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เพียงแต่ลักษณะอาจจะคล้ายกันนะครับ

 

งั้นลองดูอันนี้บ้าง VDOถ่ายเองกะมือ ที่เขากะลา 1999 ตอนรุ่งสาง

คือรู้จักเขากะลาจากที่ประชุมวิทยาศาสตร์ทางจิตที่มี อ.เทพพนมร่วมจัดประจำทุกเดือนที่ รร.รัตนโกสินทร์ สนามหลวงน่ะ
ครั้งนั้นมีการบรรยายถึงการวิ่งไล่จับ(ไล่ตาม)ดวงไฟกลมที่วิ่งเอาเถิดกันจนเปรอะขี้โคลนไปตามๆ กัน บนเขากะลา
ที่ในที่สุดดวงไฟนั้นก็ลอยข้ามหัวคนที่วิ่งตามนั้นไปโดยที่เขาไม่เห็น แต่คนที่อยู่ตรงเนินที่ตั้ง ที่คอยโทรศัพท์แจ้งนั้นเห็นอยู่ และลูกไฟนั้นก็ลอยลงหุบไป
นอกจากนี้ก็มีวิดีโอซูมระยะไกลแถบเขากะลา เป็นยานบิน 3 ลำบนพื้น ที่อีกลำหนึ่งกำลังเคลื่อนขึ้นลงอยู่ ที่ดูแล้วอาการเหมือน ฮ. แต่ดวงไฟรอบยานต่างกันมาก
ก็เลยชักสนใจ ที่แห่งนั้นมาก
เมื่อมีโอกาสก็ได้ขับรถไปเอง Weeken ตอนนั้นก็พบว่ามีแนวร่วมนับสิบๆ คนมีการฝึกกันอยู่ และกลับมากางเต๊นท์นอนบนเนินลูกเล็กที่ชื่อ"เขาดิน" ตอนราวสี่ทุ่ม (หมู่เขากะลาอยู่ตรงบึงบอระเพ็ด)
พอตอนเช้าพวกนี้ก็มาจับกลุ่มสนทนาธรรมUFO กันบ้างก็จิบกาแฟอภิปรายเจื้อยแจ้ว
บางท่านห่มชุดสีกลัก อาจมาจากสำนักโพธิรักษ์(ดูในวิดีโอมีแว๊ปๆอยู่shotนึง) งานนี้รู้สึกรวมหลากสำนัก ไอ้เรามันสำนักพั๊งฮิปปี้แรป
อภิปรายไปอภิปรายมาคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า "เนี่ย ที่เราพูดๆ กันเนี่ย เขารู้เห็นได้ยินเราน่ะ รู้เปล่า แล้วที่เราจับกลุ่มพูดถึงเขาเนี่ย เขามักจะมาเลย"
ทันใดนั้นเอง ก็มีดวงไฟปรากฏขึ้นตรงข้างหน้ากลุ่มเลย เหมือนเครื่องบินกำลังมุ่งมาจากระยะไกลที่เปิดไฟส่องแบบว่าจะลงรันเวย์สนามบินแหละ
ผมก็คิดในใจ อ้อ เครื่องบินน่ะ
แต่คนในกลุ่มบอก ใช่ๆ ๆ แล้ว ไปเอา กล้องมาถ่ายสิ
ผมก็ เอ้า ถ่ายก็ถ่ายไว้ก่อนดีกว่า และเริ่มเห็นผิดสังเกต ก็เดินไปท้ายรถMazda 323 ตัวลุยคู่ชีพ
เปิดกระดกฝาท้ายหยิบกล้อง Sony และสามขาออกมา บรรจงติดตั้งช้าๆ ตาดูไปด้วย
จากนั้นเปิดสวิทช์ เล็ง แพนกล้องตาม ก็สามารถถ่ายมาได้ดังไฟล์วิดีโอที่แนบมานี้
ความจริงดวงไฟนี้มันนิ่งมาก ขณะที่วิ่งไป แต่ภาพที่ออกมามันชัดบ้างเบลอหายไปบ้างซูมเข้าออกบ้าง แต่จริงๆ มันเป็นไฟที่นิ่ง ไม่มีกระพริบ
แม้ขณะวิ่งเข้าหาเรา และวิ่งเดี้ยงออกไปดังภาพช่วงที่ถ่ายได้ ก็มีความเข้มเท่ากัน
ถ้าเป็นเครื่องบินเวลาวิ่งเข้ามากับตอนคล้อยหลังแสงมันต้องต่างกัน และมีไฟกระพริบ
ถ้าจะว่าเป็นดาวเทียมแบบ Shot อื่นๆ ที่ผมถ่ายไว้มากมาย ก็คงไม่ใช่ เพราะคราวนี้บินตำ เห็นผ่านทิวไม้เลยที่เดียว
ในไฟล์นี้ท่านจะเห็นอีกช็อตหนึ่ง สังเกตวันที่ อันนั้นจำไม่ได้ว่าถ่ายที่ไหน อาจเป็น ม.รังสิต ที่ อ.เทพพนมนำไป
สรุปแล้วน่าจะเป็นลูกไฟลึกลับประจำเขากะลา
ที่ตีนหุบยังมีสุสานจีนด้วยล่ะ ส่องกล้องเห็นแจ๋วแหวว

เอ่อ..... แล้วรูปเด็กๆเอเลี่ยนที่ติดไฟล์มาน่ะ ลูกๆผมเอง แบบว่ากล้องสำหรับถ่ายสมัครเล่นในครอบครัว

 

พยายาม Post WMA

พยายาม Post WMA

 

พยายาม attach

 

POST VDO ไม่สำเร็จ (20 Meg เอง) อุตส่าห์ snap เป็นภาพนิ่งแก้ขัด

คุณ Websnow ช่วยสงเคราะห์ที

 

snap เป็นภาพนิ่งแก้ขัด ความพยายามๆ

รูปที่ 8 เป็นสาวกๆ เห็นไหมๆ

 

ไม่เห็นรูปงะครับ ทำใงดี ช่วยบอกด้วยครับ อยากดู

 

รูปหายไปเพราะเวบล่มคราวก่อน กู้ไฟล์ไม่ได้ ไฟล์หายไปหลายไฟล์ทั้งไฟลืเพลง ไฟล์ภาพ


สำหรับใครจะโพสรูปนะคะ ให้กดที่ Go Advanced แล้ว แมเนจ ไฟล์ สามารถอัพโหลดภาพได้ถึง10ภาพเลยค่ะ (ใครจะโพสเพลงก็ทำที่เดียวกันนั่นแหละค่ะ เพลงต้องไม่เกิน2เมกกะไบท์ อัพนานหน่อย เสร็จแล้วอัพเสร็จก็ไปอีดิทแก้ไขวางลิงค์ที่อัพได้แล้วใส่โค้ดทั้งหน้าและหลังของลิงค์ เสร็จค่ะ)

 

จักรแก้วโผล่ที่ปักกิ่ง
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9470000097625&Keyword=%cb%d4%c1%d0

 

โพสเดิมๆ

โพสเดิมๆ