จะแก้กรรมได้อย่างไรเมื่อคนรักของเรากำลังจะไปเป็นของคนอื่น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tummai, 12 มกราคม 2006.

  1. tummai

    tummai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2006
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +132
    จะแก้กรรมได้อย่างไรเมื่อคนรักของเรากำลังจะไปเป็นของคนอื่น ทั้งๆที่เรารักกันมากนะแต่เค้าจำเป็นต้องไปเป็นของคนอื่นด้วยเหตุผลบางประการ ทั้งๆที่ก็ไม่น่าจะต้องทำถึงขนาดนั้น พูดแล้วเจ็บมากคุยกันที่ไรก็ร้องไห้กันทุกทีพยายามจะหาทางออกแต่ก็หาไม่เจอ ทรมานด้วยกันทั้งคู่ ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันตั้งนาน เราก็สงสารเค้ามากนะต้องตกเป็นของคนที่ไม่รัก กรรมใดหนอถึงทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ และพอจะมีทางแก้มั๊ย ถ้ามีจะพยายามทำทุกทางที่แนะนำ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว วอนผู้รู้ช่วยตอบทีจะเป็นพระคุณยิ่ง
     
  2. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +142
    หึ หึ หึ แล้วมีแรงอะไรมาบีบให้เขาต้องทำอย่างนั้นล่ะ... ถ้าทำได้ก็ทำลายแรงนั้นทิ้งซะ ( แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณมีพลังอำนาจที่เหนือกว่าแรงนั้น จึงจะใช้พลังของตัวเองไปหักล้างกับแรงนั้นได้หมดอ่ะนะ... )
    (bb-flower
     
  3. cwyp

    cwyp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +529
    การที่มีคนอื่นมาทำให้เราเจ็บช้ำใจนี้อาจจะเป็นผลมาจากการที่เราเคยทำกรรมไว้ ไม่ว่าจะในชาตินี้หรือชาติที่แล้ว ลองทบทวนดูดี ๆ สิครับว่าคุณเคยทำอะไรในลักษณะที่คล้าย ๆ กันนี้หรือเปล่า เพราะถ้าคุณจำได้แล้วว่าเคยทำคล้าย ๆ กันมาก็ขออโหสิกรรมกับสิ่งที่มาเสีย แล้วตั้งใจทำกุศลในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกรรมนี้แทน และทุกครั้งที่ทำบุญควรอธิฐานจิตขออโหสิพร้อมกับแผ่เมตตาด้วย ถ้าถือศีล 8 ทุกวันพระด้วยจะดีมากครับ ลองพิจารณาดูนะครับหากคุณไม่เคยทำใครไว้แล้วจะมีใครมาทำคุณอย่างนี้หรือครับ หากคุณโดนกรรมแบบทำให้เจ็บช้ำใจ คุณก็ควรทำกุศลในสิ่งที่ตรงข้ามก็คือ ทำให้คนอื่นปลื้มใจกับคุณแทน แบบนี้จะไปลดทอนอำนาจกรรมให้ส่งผลลดลงได้ครับ
     
  4. BOONCHAUY

    BOONCHAUY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +344
    สัตว์โลกล้วนแล้วเป็นไปตามกรรม

    อย่ายึดมั่น ว่าเรา ว่าเขา ว่าเขาเป็นของเรา เราเป็นของเขา เพราะ อีกไม่นาน ไม่รู้วันไหน เขา หรือ ว่า เราก็ต้องจากกัน แม้แต่ร่างกายของเรามันจะ ยังต้องสูญสลายไปในที่สุด ในตอนนี้ ก็ขอให้ คุณ จงมีสติ รู้จักใช้สติ มาพิจารณา สิ่งเหล่า นี้เถิด
     
  5. visarut

    visarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +1,580
    ปล่อยวางครับใช้ธรรมะของพระพุทธทองค์ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น จะมานั่งทรมานใจตัวเองทำไม คิดว่าถ้าเป็นคู่กันเคยตักบาตรร่วมขันกันมาคงไม่แคล้วกัน บางคนเกิดมาเพื่อเป็นคู่ร้างก็เนื่องด้วยผลแห่งกรรมนั่นแหละครับ ในอดีต
    อาจไม่ซื่อสตย์ต่อคนรัก ไม่ยึดมั่นในรักเดียว
    ทุกอย่างขึ้นกับคุณ 2คนต้องร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณและแฟนใหม่ฝ่ายหญิงอธิษฐานให้เขาเลิกสนใจฝ่ายหญิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กุมภาพันธ์ 2006
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    อันความรักที่เเท้จริงนั้น คือยินดีกับคนทีเรารักไม่ว่าเขาคนนั้นตัดสินใจว่าจะอยู่กับเราหรือกับคนอื่น รักเเท้คือเราต้องรู้สึกดีกับคนรักถ้าเขามีความสุข เราก็ควรมีสุขไปด้วยครับ นี่ล่ะคือรักเเท้ ผมรู้นะว่ามันทําใจยาก เเต่ทําได้เเน่นอน ถ้าเราคิดที่จะทําครับ เริ่มต้นตั้งเเต่วันนี้ได้เลย เเล้วคุณจะเห็นเอง ไม่มีอะไรที่เราทําไม่ได้ครับ โดยเฉพาะใจเรา เรามีศักยภาพพอที่จะชนะใจเราได้เเน่นอน ขึ้นอยู่ที่เราจะเอา ไม่เอาเท่านั้นเองครับ
     
  7. ข้าวเกรียบปู

    ข้าวเกรียบปู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +12
    มีทางแก้

    แก้ตรงที่ จิต ที่ใจที่ห่วง หวง และพันผูก
    มองให้เห็นว่า ไม่มีสิ่งใด สักอย่างในโลกนี้ อยู่จีรังยั่งยืน

    ความรัก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็เสื่อมสลาย ไปตามกาลเวลา
    ไม่ว่า จะเป็นการ ตีจาก หายจาก ตายจาก
    เมื่อสมหวัง เราก็ โลดแล่นยินดี พอในในสุขสมหวังนั้นๆ
    เมื่อไม่สมหวัง เราก็ทุกข์ แสนทุกข์ ระทม จมในห้วงทุกข์
    เมื่อ ต้องเสียคนที่ เรารักยิ่ง ต้องเป็นทุกข์ใหญ่หลวง เป็นสิ่งแน่นอน
    เพราะไปยึดมั่น ติดพันว่า เขาเป็นคนรักของเรา

    คลายความยึดนั้นเสีย มองแต่พอดี รักให้พอดี
    ดูให้เห็นว่า เมื่อมีเหตุให้พบ ให้รัก ก็ย่อมมีเหตุให้พราก ให้จาก ให้เจ็บปวด

    ลองน้อมใจศึกษา พระธรรมคำสอน เมื่อ เราพ้นจากทุกข์ในรักได้ เราก็สามารถนำคนที่เรารัก พ้นจากทุกข์ในรักได้เช่นกัน

    ขอให้รักด้วยสติ รักด้วยความไม่ครอบครอง ไม่หวงแหนยึดมั่น รักด้วยความดีงาม รักด้วยความเข้าใจ และ รักด้วยศีล 5 (รักอย่าง สัมมาทิฏฐิ)
    อย่ารักด้วยความหลง จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ตัวรักเป็นกาย ตัวหลงเป็นนาย


    ลองคิดดูแท้จริงแล้ว เราไม่เคยมีอะไรเลย นอกจาก วิบากกรรม อันเป็น ผลของการกระทำมาทุกภพชาติ

    อย่าไปยึดเอา ในสิ่งที่เรา ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น และไม่เคยมี

    ขอให้คุณพ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย ด้วยบุญที่ทำมาดีแล้ว ด้วยเถิด
     
  8. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ฐานบุญไม่เสมอกันครับ

    วิธีแก้ คือ แก้ที่ใจของเราครับ เราต้องเคารพในการตัดสินใจของอีกฝ่ายครับ

    ท้ายที่แล้วเราก็ต้องปล่อยวาง เพราะเขามีครอบครัวแล้ว เราก็ต้องตัดใจ

    เพื่อที่ศีลข้อ 3 ของเราจะได้ไม่พร่องครับ

    โมทนาครับ
     
  9. tadah.

    tadah. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +408

    การเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG]




    มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมากคบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
    เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน

    ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่าคู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
    โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
    เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมากร้องไห้
    ไม่กินไม่นอนไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

    เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ไปหาหมอเท่าไหร่ ก้อไม่ดีขึ้น
    ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
    เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้าน

    จึงเคาะประตู เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่าเป็นพระจึงบอกว่า
    ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตา แล้วพูดว่า
    "อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตร ในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ย"
    อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึเปล่า

    เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้ง แต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน
    เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
    เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่า "อยากเข้ามาก็เข้ามา!"

    เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอน
    พบว่าชายคนดังกล่าว นอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
    สีหน้าซีดเซียวร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ

    เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา
    พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
    หลวงตายิ้มแล้วพูดว่า "อาการหนักเลยนะ"
    ชายคนนั้นนิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
    หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี "จึงกล่าวว่าโทรมมากเลยนะ"
    ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่า "ไม่เชื่อลองมองที่กระจกสิ"

    ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
    เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น
    ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
    กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล


    [​IMG]



    ที่ชายทะเลแห่งนั้น เงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
    ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
    เขาพบมีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด

    เวลาผ่านไปซักครู่มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
    เขามองเห็นศพหญิงคนนั้น ด้วยความรังเกียจแล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    ต่อมาพักใหญ่ มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมาเขามองเห็นศพนั้น
    เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป

    พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมาเขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่
    จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่าเป็นศพด้วยใจสงสาร
    จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
    เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง2ข้าง ค่อยๆกอบทรายขึ้นมาเขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น
    พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

    จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
    และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก
    เขาได้เห็นก็ตกใจ พอซักพักก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไป
    เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

    ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า "ทีนี้เข้าใจรึยัง
    ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ
    ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา
    ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี
    วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน"

    เมื่อชายคนนั้นฟังจบ ก็กระอักเลือดออกมา
    เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า
    "โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือด เอาเลือดเสียออกมาแล้ว"

    ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

    คนเราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
    ความสัมพันธ์ พ่อ,แม่,พี่,น้อง,ญาติ,เพื่อน,ศัตรู,คนรัก ฯลฯ
    ไม่ใช่ของเลื่อนลอย เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน

    เมื่อสิ้นวาสนาก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่
    ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
    เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกันไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า
    ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้

    ทำดีต่อกันไว้ดีกว่าเพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องจากกันเมื่อไหร่
     
  10. moooky

    moooky สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    เคยเจอเหมือนท่านผู้เขียนเช่นกัน
    หนักกว่าตรงที่โดนโกหกหนักหนาสาหัส
    จนหาความจริงไม่เจอ มึนไประยะเวลาหนึ่ง
    มาจนทุกวันนี้ก็มีแต่คำสอนของพระองค์เท่านั้นที่จะช่วยชี้ทางสว่างให้เดิน
    เดินตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
    ก็ยังดีกว่าการจมปลักอยู่กับความเจ็บช้ำน้ำใจ เชื่อในเรื่องเวรกรรม
    คิดเสียว่าเป็นการกระทำของตัวเองเมื่ออดีตที่เราทำไว้แล้ว..แต่ลืม...กลับมาคืนสนอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...