มหาปรินิพพานเอ็กซ์เพรส เส้นทางทำเงิน"การรถไฟอินเดีย"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 1 พฤศจิกายน 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    มหาปรินิพพานเอ็กซ์เพรส เส้นทางทำเงิน"การรถไฟอินเดีย"

    คอลัมน์ ทางเลือกทางรอด

    โดย ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวแดนโรตี พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า สังเวชนียสถาน 4แห่ง เป็นจุดที่บรรดาพุทธศาสนิกชนจากทั่วโลกหลั่งไหลมากันนับแสนนับล้านคนในแต่ละปี สร้างรายได้ก้อนงามให้กับอินเดีย ฉะนั้น การที่การรถไฟแห่งอินเดีย จัดรถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ "มหาปรินิพพานเอ็กซ์เพรส" เพื่อรองรับนักแสวงบุญจึงเป็นโครงการที่สามารถทำเงินได้ไม่ยากเย็นนัก

    สำหรับการจัดทริปดังกล่าวมีขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว โดยในปีนี้ทางการรถไฟอินเดียได้เชื้อเชิญผู้สื่อข่าวหลายสำนักทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวี และนิตยสารจากประเทศต่างๆ อาทิ ไทย สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ มาร่วมขบวนรถไฟสายพิเศษนี้ด้วย พร้อมกับนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์มากับเอเย่นต์ทั้งจากเมืองไทย สิงคโปร์ และผู้โดยสารที่จองตั๋วกับทางการรถไฟอินเดียผ่านทางอินเตอร์เน็ต รวมแล้วร้อยกว่าชีวิตเห็นจะได้

    ปกติการมาเยือนสังเวชนียสถานนั้นนิยมมากันในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อน เข้าฤดูหนาวของอินเดีย ถ้าเลยจากช่วงนี้จะไปร้อนมาก ไม่เหมาะแก่การเดินทางเพราะสถานที่แต่ละแห่งอยู่ห่างไกลกันมาก ที่ผ่านมาทัวร์ไทยมักจะใช้วิธีนั่งรถบัส รถโค้ช หรือรถตู้ ส่วนใหญ่ราคาทัวร์ตกประมาณคนละ 3-4 หมื่นกว่าบาท แล้วแต่ว่าจะนอนจะกินโรงแรมหรูขนาดไหน หรือจะกินนอนที่วัดไทย แต่หากจะมาทัวร์กับขบวนรถไฟ "มหาปรินิพพานเอ็กซ์เพรส" ต้องควักค่าใช้จ่ายในช่วงแปดวันที่อยู่อินเดีย 6 หมื่นเศษ ซึ่งเป็นเงินก้อนโตทีเดียว การตัดสินใจซื้อทัวร์พิเศษนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับคนไทยทั่วไป

    ในห้วงเวลา 8 วัน ที่ทางการรถไฟอินเดียเป็นเจ้าภาพพาทัวร์ไปตามสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ทั้งที่ประเทศอินเดียและเนปาล คือ ที่ลุมพินีวัน-สถานที่ประสูติ พุทธคยา-สถานที่ตรัสรู้ พาราณสี-สถานที่แสดงปฐมเทศนา และนครกุสินารา-สถานที่ปรินิพพาน ต้องขอชมว่าเขาพยายามทำได้ดีมาก บนรถไฟมีคนทำความสะอาดห้องน้ำห้องท่าอยู่ตลอด ลูกค้าเข้าคนหนึ่งก็ทำความสะอาดครั้งหนึ่ง มีอาหารการกินให้ไม่ขาด แต่เสียอย่างเดียวเป็นอาหารแขกเสียเยอะ ใครที่ไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศก็มีอันต้องลดเชฟไปในตัว แถมยังเสิร์ฟอาหารเย็นเสียดึก 2-3 ทุ่ม แทนที่จะให้รับประทานในช่วงเย็นๆ หลายรายเลยขอนอนดีกว่าเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ว่าไปแล้วราคาต่อหัว 6 หมื่นกว่าบาทนั้น ไม่แพงจนเกินไป (นอนห้องปรับอากาศชั้นสองแบบมีผ้าม่านปิด) เพราะเป็นราคาที่รวมหมดทั้งค่าโรงแรมที่ต้องไปพักอ้างแรมในบางคืน ค่าอาหาร และค่ารถโค้ชปรับอากาศระหว่างเมือง พวกลูกค้าฝรั่งเห็นราคาแล้วบอกว่าถูกมาก ดีกว่ามาเองหรือซื้อทัวร์บริษัทเอกชน เพราะตกวันหนึ่ง 150 เหรียญยูเอสเท่านั้น (ห้องแอร์ชั้นหนึ่งมีสองเตียงมีประตูปิดมิดชิด) แต่ในทรรศนะของคนเอเชีย อย่างที่ได้คุยกับเอเย่นต์และนักข่าวจากสิงคโปร์ต่างบ่นว่าแพงไม่คุ้ม ที่สำคัญอาหารไม่ถูกปากเอาเสียเลย

    Dr. Nalin Shinghai กรรมการผู้จัดการ Indian Railway Catering and Tourism Corporation (TRCTC) บอกว่า

    การเดินทางด้วยรถไฟแบบนี้เหมาะกับผู้สูงอายุเพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย เป็นขบวนรถพิเศษเฉพาะผู้แสวงบุญอย่างเดียว และในช่วงเวลาดังกล่าวรถไฟจะไม่สามารถรับผู้โดยสารอื่นใดอีก ไม่ต้องไปปะปนกับใครๆ สำหรับปีแรกที่จัดมีชาวเกาหลีกับคนไทยมามากพอๆ กัน คาดว่าปีที่สองนี้คงจะมีลูกค้าต่างชาติมาใช้บริการมากขึ้น เนื่องจากปีแรกคนยังมีค่อยรู้จักมากนัก

    ด้าน Mr.Arun Srivastava ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดต่างประเทศ เสริมว่า ปีแรกมีลูกค้าใช้บริการประมาณ 500 คน ปีนี้ตั้งเป้าว่าน่าจะได้สัก 1,000 คน ข้อดีของการมาทัวร์กับขบวนรถไฟพิเศษนี้ นอกจากจะไม่ต้องไปปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ แล้ว ทางรัฐบาลอินเดียยังได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อย่างครบครัน อย่างเช่น การรักษาความปลอดภัย โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนรถไฟ และยังได้จัดรถตำรวจนำทางให้ด้วย เพราะบางจุดการจราจรติดขัดมาก ต้องให้ตำรวจเข้าไปจัดการ

    หากมีผู้โดยสารป่วยระหว่างทางก็สามารถประสานนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที ในขบวนรถยังจัดที่ขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย และในปีหน้าจะจัดห้องอาหารไว้บนรถไฟสำหรับลูกค้า
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    (ซ้ายบน) ด้านหน้าวัดภูฏานที่พุทธคยา (ซ้ายล่าง) ภายในวัดภูฏานมีพระบรมฉายาลักษณ์ของเจ้าชายจิกมีและพระราชบิดา (ขวา) หน้าตารถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ "มหาปรินิพพานเอ็กซ์เพรส"

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    การจัดขบวนรถไฟพิเศษนี้ทางรัฐบาลอินเดียลงทุนไปประมาณ 2 ล้านเหรียญยูเอส ตั้งเป้าว่าน่าจะได้ทุนคืนและได้กำไรหลัง 6 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็ได้ไปทำตลาดในประเทศต่างๆ อย่างเช่นที่ไทย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ซึ่งแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ

    อย่างที่บอก การรถไฟอินเดียเขาต้อนรับขับสู้ดีมาก ขนาดอาม่า อาซิ้ม คุณยายวัย 80-90 ปี จากเมืองไทยไป เขายังจัดคนงานมาหามรถเข็นให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเดินขึ้นลงสะพานลอยให้เหนื่อยยาก สัมภาระก็ดูแลยกให้ถึงที่ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส (ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นตัวแขกก็อาจจะไม่ปลื้มนัก) มีน้ำให้ดื่มตลอด สามารถอาบน้ำอาบท่าได้ แต่ต้องทำใจถ้าห้องน้ำบางห้องไหลแบบไม่เต็มใจ

    การได้มานั่งมานอนบนรถไฟขบวนพิเศษนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมจริงๆ แต่ต้องขอบอกว่า นั่งรถไฟอินเดียต้องทำใจล่วงหน้า อย่าคิดหวังว่าจะถึงสถานีปลายทางตรงตามเวลาที่เขากำหนดไว้ และใช่ว่าใช้รถไฟแล้วจะถึงสังเวชนียสถานเลย ต้องนั่งรถโค้ชต่อไปอีกหลายชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงจากเมืองชายแดนอินเดีย "โครักปูร์" ไปลุมพินีวัน ในประเทศเนปาล

    นี่เป็นบางแง่บางมุมที่นำมาเล่าสู่กันฟังได้ แต่ถ้าจะให้ดีหากมีโอกาสต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่าอินเดียนั้นมีอะไรที่ไม่ธรรมดา มีอะไรที่น่าตื่นเต้น และน่าค้นหาคำตอบอีกเยอะ



    นารีรัตน์ พานทอง

    ในฐานะเจ้าของนิสโก้ แทรเวลฯ ที่นำลูกทัวร์คนไทยไปร่วมขบวนรถไฟสายพิเศษนี้เป็นปีที่สอง คุณนารีรัตน์ยอมรับว่าการขายทริปนี้ในราคา 6 หมื่นเศษไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    "ค่อนข้างยากเนื่องจากภาพพจน์ประเทศอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางด้วยรถไฟ ไม่ค่อยดีในสายตาของคนไทย ทำให้การขายค่อนข้างยากและลำบากเพราะต้องอธิบายให้ผู้ชื้อเห็นภาพ อีกทั้งต้องสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเห็นว่าสะดวกสะบายในการเดินทางอย่างไร อีกทั้งรัฐบาลอินเดียเพิ่งเปิดเส้นทางนี้ขึ้นมาเป็นปีที่สองเท่านั้น

    "ข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษนี้ คือผู้เดินทางจะเหนื่อยน้อยกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ อีกทั้งมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเพราะมีรัฐบาลอินเดียคอยกำกับและดูแล มีการอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่กับรถไฟตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแตกต่างเป็นอย่างมากกับการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่สำคัญสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่ต้องการนั่งรถโค้ชนานๆ ขณะนี้รถไฟได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พนักงานและบริกรบนรถไฟให้บริการที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และอดทนดี คิดว่าในอนาคตจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ต้องการเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน แบบสบายๆ"

    อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลอินเดียและการรถไฟอินเดีย จะพยายามทำทุกอย่างหวังให้ผู้โดยส่าร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธต่างชาติพอใจและประทับใจ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่จะต้องปรับปรุง มาฟังกันว่าคุณนารีรัตน์เธอให้คำแนะนำอย่างไร เพื่อให้ลูกทัวร์พอใจมากขึ้นไปอีก

    "ประการที่ 1.เรื่องความสะอาดบนรถไฟ เพราะเป็นรถไฟขบวนพิเศษ ความประทับใจของผู้โดยสารจะต้องเริ่มตั้งแต่จุดแรก คือทันทีที่ผู้โดยสารขึ้นขบวนรถไฟ ที่นั่งจะต้องไม่มีฝุ่นเลย 2.เรื่องอาหารการกิน อาหารอินเดีย จะเป็นมื้อแรกก็ไม่เกี่ยง แต่ต้องเป็นอาหารอินเดียที่ทันสมัย ให้คนต่างชาติรับประทานได้ เพราะถ้าเป็นรสชาติสไตล์พื้นเมืองจริงๆ กลิ่นเครื่องเทศจะแรงมาก ผู้โดยสารต่างชาติไม่สามารถรับประทานได้เลย ควรจัดอาหารแบบบนเครื่องบิน คืออาหารนานาชาติ 3.ถังขยะควรจัดให้มีทุกห้อง เป็นประจำ 4.ต้องรักษาเวลาในการเดินทางให้ดี ไม่ให้สาย เพราะจะกระทบกับกิจกรรมของผู้โดยสาร ณ สี่สังเวชนียสถานซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    5.ควรจัดโบกี้ห้องอาหารเอาไว้บริการลูกค้า โดยจัดอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ เอาไว้คอยบริการในโอกาสต่อไป 6.ควรจัดการเรื่องความสะอาดและมีระเบียบ ในทุกสถานีที่รถไฟจอด เพราะสิ่งนี้คือหน้าตาของประเทศอินเดีย


    ------------
    [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01cho01011151&sectionid=0144&day=2008-11-01
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขอบคุณสำหรับบทความแนะนำค่ะ เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ
     
  3. จารุรัส สุขใจ

    จารุรัส สุขใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    เคยไปมา 2 หนแล้ว ถ้าทุกคนไม่เคยไปน่าจะลองไปสักครั้งในชีวิตเพราะตามความเชื่อ
    ถ้าใครได้ไปกราบด้วยความเคารพ จะไม่ต้องไปตกนรก และจะรักประเทศไทยมาก ๆ เพราะ
    บ้านเมืองของเขากับของเราจะผิดกันราวฟ้ากับดิน สลัมของประเทศไทยเรายังดีกว่าเขาตั้งมากมาย แต่ต้องทำใจเวลาถ่ายหนักถ่ายเบาตามท้องถนน (ไม่เคยก็ต้องเคย) ขอทานมีมากจริง ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...