นักธรณีอาศัยดาวเทียมจับตาสึนามิรอบใหม่

สหรัฐฟันธง"เกาะสุมาตรา" มีสิทธิเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่ รุนแรงกว่าเดิม ทั้งยังมีโอกาสเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในอีก 10 ปีข้างหน้า


ศาสตราจารย์เคอร์รี่ ไซห์ จากสถาบันคาลเท็กซ์ สหรัฐ ใช้เครือข่ายระบบจีพีเอส ซึ่งเป็นระบบแสดงพิกัดด้วยดาวเทียม ติดตามการเคลื่อนตัวของแผ่นดินที่อยู่ใกล้กับรอยเลื่อนใหญ่ที่เกิดแแยกตัวเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งใกล้เคียง เป็นผลให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามันเสียชีวิตเรือนแสน

จากการติดตามการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน พบว่าบริเวณสันธรณีที่แผ่นทวีปชนกัน ยังมีความเครียดปรากฏอยู่ และอาจปล่อยพลังงานออกมาในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเชื่อว่าเมืองชายฝั่งอย่างเช่น เปดัง และเบงกูลู ของอินโดนีเซียมีความเสี่ยงมากที่สุด
นักวิจัยยอมรับว่ายังไม่อาจบอกได้ชัดเจนว่า การปล่อยพลังงานของแผ่นทวีปที่เคลื่อนตัวมาชนกันนี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร แต่ทีมงานของเขาก็ได้แจ้งเตือนให้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้ทราบแล้วว่าอาจเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิได้ในชั่วชีวิตของรุ่นลูก


แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีที่แล้ว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 9.2 ริกเตอร์ เป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินเดีย/ออสเตรเลีย กับแผ่นทวีปยูเรเซีย ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตามแนวชายฝั่งทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ไทย ศรีลังกา และอินเดีย หลังจากนั้นไม่นานได้เกิดแผ่นดินไหวระดับ 8.7 ริกเตอร์ตามมาในเดือนมีนาคม ซึ่งการปลดพลังงานครั้งที่สองนี้เกิดขึ้นเลื่อนลงมาทางใต้ของรอยเลื่อน

ศาสตราจารย์เคอร์รี่ กลาวว่า ความเครียดที่ก่อตัวขึ้นในบริเวณนี้ให้สังเกตจากสภาพของแนวชายฝั่งของเกาะต่างๆ อาทิ ชายฝั่งบางแห่งกำลังมุดตัวลง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว แผ่นทวีปสองแผ่นที่มาชนกันจะไม่ชนในแนวเฉือน แต่มักจะเป็นในรูปแบบที่แผ่นหนึ่งมุดลงใต้อีกแผ่นหนึ่ง และหลังจากเกิดแผ่นดินไหวแล้ว แผ่นดินที่ถูกกดลงจะดันตัวโผล่ขึ้นมาใหม่

หมายความว่า ขอบที่เกยของแผ่นทวีปที่มุดตัวจะถูกดึงลงในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะดันตัวขึ้นไปใหม่ ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
จากการสำรวจใต้พื้นทะเลบริเวณเกาะสุมาตราตอนเหนือหลังจากเกิดสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม และ 28 มีนาคม พบว่า ปะการังโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเนื่องจากแผ่นดินถูกดันขึ้นมา และเมื่อไล่มองไปตามแนวทางใต้สันทวีป พบว่าพวกพืชทะเลและชายฝั่งเติบโตอยู่ใต้ผิวน้ำ ยังไม่โผล่ขึ้นมา

ทำให้นักวิจัยรู้ว่ายังคงมีความเครียดสะสมอยู่ และเครือข่ายจีพีเอสยืนยันข้อมูลดังกล่าวเช่นกัน จึงเป็นเหตุให้พวกเขาวิตกจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีก

 

ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เทพ พรหม เทวดา และความดีทั้งหมดของมวลมนุษย์ชาติได้ปกป้องคุ้มครองโลกนี้ให้พ้นภัยพิบัติทุกประการจนล่วงพ้น 5000 ปี เพื่อจรรโลงพุทธศาสนาให้อยู่คู่แผ่นดินนี้ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อะไรจะเกิดคงต้องยอมรับ แต่ว่าจะปรับตัวอย่างไรจึงจะอยู่กับมันได้ต่างหาก ยิ่งตอนนี้ธรรมชาติกำลังไล่กวาดล้างอยู่ คนจนเท่านั้นที่เอาไปได้ ไอ้พวกรวยล้นฟ้ามันยังไม่ถึงวลา ไว้กรรมไล่ทันเมื่อไร จะหัวเราะให้ลั่นฟ้า ฮ่าๆๆๆ

 

ใครกลัวก็ปฏิบัติธรรมซิครับ ไม่ต้องรอ
ว่าแต่ว่าศ.เคอรี่ไซต์ ที่ค้นคว้าเรื่องนี้ปฏิบัติธรรมหรือยังครับ

 

อนาคตกาลข้างหน้าขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย,พระสยามเทวาธิราชและสิ่ง

ศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายทั้งปวงปกป้องคุ้มครองพวกเราชาวสยามประเทศด้วยเทอญ

ด้วยเดชะแห่ง พุทธานุภาเวนะ ธรรมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ.

 

ไม่รู้ว่า..อะไรจะเกิดขึ้น ไม่รู้จริงๆ
แต่อาจมีเหตุเกิด...แถวๆ ...ญีปุ่น
และแอนตาคติค...แถวๆ ...ขั่วโลกรึเปล่า...ก็ไม่แน่นะ

 

((เยี่ยมครับ))

โอ้ฝรั่งไฮเทคดีครับ ไทยเราน่าจะมีการลงทุนเทคโนโลยีเช่นนี้นะครับ ไทยเราจะได้ เทคโนโลยีก้าวไกล เทคโนโลยีไทยสู่อนาคต ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

ภัยพิบัติคือผลที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์

 

มนุษย์เป็นผู้พยากรณ์ตัวเอง

ศาสดาพยากรณ์คือตัวมนุษย์เอง

 

สึนามิคือฝีมือมนุษย์