ต้อนรับ "วัวบ้า" ศาสตร์แห่งโหร 2552 คู่มือตั้งรับเหตุการณ์ปีหน้า

ศาสตร์แห่งโหร 2552 หยั่งรู้ปี"ฉลู"อย่างฉลุย

​

กลายเป็นหนังสือสามัญประจำบ้าน ที่ทุกครัวเรือนไปจนถึงบริษัทห้างร้านต่างๆ รอคอย

นั่นคือ "ศาสตร์แห่งโหร" โดยสำนักพิมพ์มติชน ที่ออกติดต่อกันทุกปีมาจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 28 แล้ว

การรอคอยในปีนี้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วทันใจ เพราะ "ศาสตร์แห่งโหร 2552" ต้อนรับปีฉลูแห่งพ.ศ.2552 ด้วยปกเหลืองปนทองสวยสว่าง ออกวางแผงแล้ว และคาดว่าจะเป็น 1 ในเบสต์เซลเลอร์ ในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ที่กำลังคึกคักอยู่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ขณะนี้ (11-23 ต.ค.)

ศาสตร์แห่งโหรในปี 2552 นี้ ยังคงนำขบวนมาโดย "หมอทรัพย์ สวนพลู" ด้วยสำนวนคลาสสิคและมุมมองสุขุมลุ่มลึก มีอารมณ์ขัน เปี่ยมเมตตาต่อเจ้าของดวงชะตาทุกดวง

หมอทรัพย์เสนอคำทำนายดวงชะตา 12 ราศี ว่าด้วยชีวิต งาน เงิน มิตร ศัตรู อนามัย การเดินทาง ความรักและการสมรส นำเอาเส้นทางโคจรของดวงดาวมาตีความ และติงเตือนมิให้ตั้งในความประมาท

และข้อเขียนพิเศษเรื่อง "ลางสังหรณ์"

ขุนพลประจำกองทัพ "ศาสตร์แห่งโหร" มากันพร้อมหน้า ตั้งแต่ โสรัจจะ นวลอยู่ โหรแนวฮาร์ดคอร์ ผู้มากับคำพยากรณ์คมกล้าทะลุทะลวง เจ้าของคำทำนายว่า หิมะจะตกในประเทศไทย ที่ก่อให้เกิดความระแวดระวังปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวางเมื่อปี 2551 ในปีนี้ คำทำนายของโหรโสรัจจะ ยังคงเป็นเข็มทิศเดินทางที่พลาดไม่ได้

บุศรินทร์ ปัทมาคม นักการศึกษาผู้ผันมาเป็นนักพยากรณ์ที่เชี่ยวชาญและละเอียดลออ

ที่พิเศษในปีนี้ ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เศรษฐศาสตรบัณฑิตจากธรรมศาสตร์ รับเชิญมาเป็นพิเศษ ร่วมเสนอคำพยากรณ์หนักแน่นมั่นคง เริ่มจากเคลียร์ตำนานดวงเมืองประเทศไทยและดวงกรุงรัตนโกสินทร์

ก่อนจะมองสู่อนาคตของปี 2552 ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

อีกหนึ่งขุนพลรับเชิญ คือ กรหริศ บัวสรวง ผู้ที่ติดตามศาสตร์เหนือโลกมาต่อเนื่อง คงจะคุ้นกับนามสกุลนี้เป็นอย่างดี

สิงห์ดำ รุ่น 20 (2513) ผู้นี้เคยทำนายไว้ล่วงหน้า 3 ปีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะหมดอำนาจวาสนา และมีชะตากรรมคล้ายซัดดัม ฮุสเซน

พัฒนา พัฒนศิริ สิงห์ดำจากจุฬาฯ มาพร้อมกับคำพยากรณ์และบทวิเคราะห์ ชี้ปัญหาและช่องทางแก้พร้อมสรรพ

นอกจากนี้ ยังมี ซินแสภานุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดวงจีน

ศ.ดุสิต เจ้าประจำในมติชนสุดสัปดาห์ มาเพิ่มพูนความรู้เรื่อง "ทักษาแทรกในเลข 7 ตัว" อีกศาสตร์ของการพยากรณ์ที่ดูเหมือนง่ายๆ แต่ ศ.ดุสิต ยิ่งสอน ยิ่งลึกซึ้ง เสริมสายตาให้มองทะลุไกลไปในอนาคต

นักพยากรณ์รุ่นใหม่ ที่มาเสริมบรรยากาศการพยากรณ์ให้สดใส ในปีนี้ได้แก่ ปุญญชา ญาณปภัสสร, การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ นักเขียนแห่งมติชนสุดสัปดาห์ และ สุดธิดา เปลี่ยนสายสืบ สาวมัณฑนศิลป์ ศิลปากร นำเอาเคล็ดโหราศาสตร์มาปรับให้เข้ากับชีวิตสมัยใหม่ในแบบกุ๊กกิ๊ก ด้วยเรื่อง "ของขวัญ 12 ราศี" และ "เที่ยวไปกับ 12 ราศี" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
1.หมอทรัพย์ สวนพลู

2.พัฒนา พัฒนศิริ

3.บุศรินทร์ ปัทมาคม

4.ธนากร สินเกษม

5.โสรัจจะ นวลอยู่

6.กรหริศ บัวสรวง

7.ภานุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล

8.ศ.ดุสิต


</TD></TR></TBODY></TABLE>

บางส่วนจากคำทำนายปีวัว ขอนำมาเสนอบางส่วนดังนี้ *

ข่าวดีจากโหรธนกร สินเกษม ระบุว่า ปี 2552 นี้ ดาวที่ดีเยี่ยมตลอดปีคือ ดาวพุธ เป็นทั้งมนตรีและเดช ทำให้ธุรกิจดาวพุธเฟื่องฟู นั่นคือ มือถือจะบูมมาก ธุรกิจสื่อสารการพิมพ์ และหนังสือจะแรงมาก

อีกดาวหนึ่งที่เด่นมากคือ ศุกร์ เป็นเดช ทำให้ธุรกิจดาวศุกร์ไม่ว่าจะเป็น อาหาร น้ำเกลือแร่ น้ำผลไม้ เครื่องหนัง เพชร คอนเสิร์ต สวนสนุก จะโกยเงินกันสุดๆ

ส่วนธุรกิจก่อสร้าง เสาร์เป็นกาลี คุมต้นทุนยาก แต่หลัง 21 เมษายน 2552 ราคาเหล็กและน้ำมันจะค่อยๆ ลดลง

เช่นเดียวกับ การเกษตร ได้รับผลจากเสาร์เป็นกาลี แต่หลังจาก 21 เมษายน 2552 ไปแล้วจะดีขึ้น

ส่วน กรหริศ บัวสรวง ชี้ว่า อิทธิพลของราหู (8) ยังคงให้โทษ หลังจากทำให้ประเทศไทยได้นายกฯราหู อย่าง นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกฯ ทำให้กรณีเขาพระวิหารจะยืดเยื้อข้ามปีไปถึงปลายปี 2552 และก่อให้เกิดการกระทำผิด ลุ่มหลงมัวเมา ซึ่งส่งผลไปถึงภาคเศรษฐกิจและสังคม

และบางส่วนจากคำพยากรณ์ของ โหรโสรัจจะ ในปีนี้ ขอนำบางส่วนมาถ่ายทอดพอเป็นตัวอย่าง

ปีฉลู พ.ศ.2552 พระเสาร์สถิตอยู่ราศีสิงห์ไปจนถึงวันที่ 29 กันยายน 2552 พร้อมด้วยราหูยังสถิตอยู่ในราศีมังกรจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552

สยามประเทศ ถูกร้อยด้วยดาวบาปเคราะห์เป็นลูกโซ่

อาถรรพ์ของดวงประชาธิปไตยได้สำแดงฤทธิ์อีกครั้ง

วันที่ 2 มีนาคม 2552 ดาวมฤตยูย้ายจากราศีกุมภ์เข้าสู่ราศีมีนเป็นวินาศกับดวงบ้านเมือง

โสรัจจะโหมโรงปีวัวอย่างเร้าใจ

ก่อนจะชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครองอุบัติขึ้น อิทธิพลของดาวมฤตยูนี้ทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร สงครามกลางเมือง ประกาศกฎอัยการศึก รัฐธรรมนูญเขียนขึ้นแล้วก็ต้องล้มแล้วล้มเล่า จำต้องเปลี่ยนอยู่เรื่อยไปเป็นเพราะอิทธิพลของดาวมฤตยู ดาวมฤตยูเป็นเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลง การแสวงหาสิ่งของแปลกๆ ใหม่ๆ ไม่ยอมย่ำเท้าอยู่กับที่

มีการปฏิรูปใหม่ๆ เกิดขึ้นในประเทศ

หรือจะพูดได้ว่า ต้นปีประเทศไทยจะเข้าสู่ท่าทีใหม่ เข้าสู่ยุคใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มีแผนการใหม่อันเหมาะสมกับประเทศ มิฉะนั้นจะนองเลือด <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
9.การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์

10.ปุญญชา ญาณปภัสสร

11.สุดธิดา เปลี่ยนสายสืบ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

ดวงประเทศผูกพันติดไว้กับดาว 3 ดวง คือ ราหู ดาวพฤหัสบดี และดาวมฤตยู

ตั้งแต่ต้นปี ดาวพฤหัสบดีได้ย้ายมาอยู่ราศีมังกร อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีที่ตั้งฉากกับลัคนาเมือง อันเป็นมุมทะลุทะลวง มิใช่มุมอะลุ่มอล่วย รูปของดวงดาวโคจรแบบนี้มองเห็นความไม่ปรองดองของนักการเมืองยังมีอยู่ ได้เพิ่มความแก่กล้าทิฐิมานะเต็มที่ นักการเมืองระดับกึ่งวิชาการเข้าไม่ติด จะยิ่งหาทางเอาตัวรอดยิ่งขึ้น

ความรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วอาณาจักร ดาวแห่งการรุดไปข้างหน้า การแสวงหาหนทางใหม่ หมดโอกาสเสียแล้วที่จะคอยความหวัง ปะทุตัวเตรียมระเบิด กลุ่มบุคคลบูชาหลักการปกครองสมัยใหม่ กำลังปลุกปั่นผู้คนอย่างเต็มที่ ขณะที่เศรษฐกิจของบ้านเมืองที่ตกต่ำอย่างสุดขีดยังไม่ได้รับการเยียวยา บ้านเมืองจะพลิกถอยหลังเข้าคลองไปสู่เผด็จการ ปัญหาซึ่งใหญ่หลวงเกินไปที่จะตอบได้ ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจำเป็นจะต้องคุมไว้ให้อยู่ เชื่อว่าจะเป็นปีที่คาบลูกคาบดอกเต็มที่ การแข็งข้อของราษฎรมีความระอาต่อการกระทำของผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่หลงอำนาจและคอร์รัปชั่นสุดโต่ง

ประเทศไทยเราถึงเวลาแล้วที่ควรจะประคับประคองประชาธิปไตยไว้ให้ดี เนื่องจากประชาธิป ไตยที่เราได้มาบรรพบุรุษเราแลกด้วยเลือดเนื้อ

มีผู้ปกครองผู้โหดเหี้ยมไม่ตั้งอยู่ในธรรม บ้านเมืองจะวิปริตเกิดอาเพศทั่วไปหมด

โสรัจจะสรุปปี 2552 อย่างสั้นๆ ว่า เป็น "ปีวัวบ้า"

เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา หรือต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

ส่วนปัญหาทางภาคใต้ อิทธิพลของดาวเสาร์และดาวอังคารทำให้ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้าย และการก่อวินาศกรรมทั้งปีเหมือนปีก่อนๆ ที่แล้วมาแต่ยังแก้ไม่ตก จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศ ก่อการร้ายบานปลายเป็นสงครามระหว่างภาค ขยายวงกว้างออกไปทางภาคใต้ การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป มิมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ทำความยุ่งยากให้แก่รัฐบาล ต้องกลายเป็นหัวหลักหัวตอ

ส่วนด้านเศรษฐกิจ ถือว่าตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองไทยที่สร้างเมืองมา เป็นปีแห่งความล้มละลายทางเศรษฐกิจ ไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ ประชาชนอดอยากขึ้นแบ่งปันอาหาร เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ธุรกิจสับสน ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่เริ่มล้มและปิดตัวเองลง ตลาดหุ้นถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก อาจจะต้องปิดลงเป็นการชั่วคราว มีคนฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก

น้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นราคาไม่หยุด แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาอย่างหนักเช่นกัน สร้างความปั่นป่วนเดือดร้อน

ปีฉลู 2552 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศ ในปลายปีฉลูนี้จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรม ชาติ ที่น่าแปลกมหัศ จรรย์จะเกิด "หิมะตก" ในเมืองไทยไปทั่วทางภาคเหนือและภาคกลางบางส่วน คนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกตกตะลึงเพราะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

การผันแปรของบรรยากาศโลกอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ทำให้มีอุณหภูมิอากาศสูงขึ้น เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกที่กั้นความร้อนไว้มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันและจากฝีมือมนุษย์ ช่วยทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายจำนวนมากกลายเป็นน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร ส่งผลให้น้ำทะเลสูงขึ้น

น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำในทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้น เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ บางส่วนของโลกถูกน้ำท่วมใหญ่จมหายลงไปในทะเล

ทำให้ผืนดินบางส่วนของกรุงเทพฯ ในปีนี้เริ่มถูกน้ำท่วมจมหายไปอย่างรวดเร็ว

ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์และสัตว์ หรือเป็นเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ติดต่อมาถึงคน ทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์มากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์ทั่วโลก

ปีนี้แกนโลกเอียงมากทำให้ขั้วแม่เหล็กโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาจทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากขึ้น เกิดพายุร้ายรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไปทั่วโลก (รวมทั้งประเทศไทยด้วย) มีผู้เสียชีวิตมากและโลกของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของประเทศทางแถบยุโรปครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลกที่เกี่ยวกับ "หลุมดำ" จะประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงและนำไปสู่ความหายนะแก่โลก โดยประเทศยุโรปบางประเทศต้องย่อยยับและพังพินาศไป

ช่วงปลายปี"52 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ วิกฤตการณ์ของโลกเขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

จุดฆาตคือ สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ จีนและเกาหลี ส่วนสหรัฐแน่นอนละ ฐานทัพนอกประเทศจะถูกทำลายสิ้นไม่มีเหลือ

"...ส่วนประเทศไทยเราจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามยืดเยื้อไปถึงปี 2553 จนอาจจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้..."


-----------------

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNQzB4TlE9PQ==