กินเนื้อ เป็นบาป หรือไม่ กินผัก ได้บุญหรือไม่อยากทราบว่า ข้อเท็จจริงในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ภาณุศรัณย์, 30 กันยายน 2008.

  1. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,092
    อย่าไปคิดมากกันครับ เดี๋ยวไปปรามาส กุศลเจตนา แล้วจะว่าไม่เตือนกัน...

    ใช่ครับ

    พระเทวทัต ท่านเลือกเอาการไม่ฉันเนื้อ ด้วยเจตนาเพื่อเบียดเบียน ไม่ใช้เพื่อลด

    Vegetarian บางคน ก็มีเจตนาไม่เบียดเบียด

    บางคน ก็มีเจตนาเพื่อชำระใจให้บริสุทธิ์ (คิดให้ดีก่อน อย่าพึ่งไปปรามาส)

    บางคน ก็มีเจตนาไปตามกระแส แต่เป็น กุศลจิต

    บางคน อาจคิดเลยเถิดไปบ้าง เรื่องยกตนข่มท่าน เป็นธรรมดาของปถุชน

    บางคน เจตนาดีเหมือนด้านบน แต่ยังยินดีในรสชาติต่าง ก็ไม่แปลก

    คนทานปกติ ก็มีเจตนาดี คือ ไม่อยากให้ไปยึดติด กับธรรม

    เรื่องกินเจแล้วจะทำให้ละกิเลส จน ละเลยการปฏิบัติไปครับ

    บางคน ก็อาจจะไปยึดติดว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ห้าม หรือหลวงปู่มั่นก็ไม่

    แล้วจะไม่กินเนื้อ ก็ไม่ได้ช่วยให้กิเลสลดลง อันนี้ต้องไปดูเรื่องราวที่มา

    อย่าไปยึดว่า ต้องอย่างนั้นตามกันไป ตามกา-ลา-มาสูตรนะครับ

    และอื่นๆอีกมากมาย

    คนเรามีเหตุผล ในการเลือกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง

    ถ้า คนกินเจ เขาเลือกที่จะช่วยกันลด ปริมาณสัตว์ที่ตายลงไป ในช่วงนี้ ก็น่าสรรเสริญนะ

    การไปปรามาสนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยินดีด้วยเลย ถึงไม่จะละกิเลสไม่ได้ ตามที่คนปกติกล่าว

    อ้างไว้ก็ตาม

    ส่วนคนกินปกติ ถ้าไม่ได้ปฏิบัติธรรม ศีลไม่เคยครบเลย ลุ่มๆดอนๆ จะนำเอาธรรมของพระ

    ท่านมากล่าวอ้างนั้น เพื่อลดทอนกำลังใจคนกินเจนั้น ก็มิสมควรครับ

    สำหรับท่านที่ปฎิบัติธรรม มีศีลและธรรมกันครับถ้วน มีอย่างเดียวครับ

    อนุโมทนาในส่วนที่ดีๆ วางอุเบกขาในสิ่งที่จะไปเบียดเบียน หรือ ยังไม่รู้จริงๆครับ

    เป็นห่วงครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  2. คนอีสาน

    คนอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +283
    ฝ่ายเถรวาทก็มี เปิดใจกว้างแล้วลองค้นคว้าใหม่ดูครับ
    หลวงตามหาบัวเคยบอกไว้ว่า สัตว์ไม่รู้จะให้ทานยังไงในเมื่อทำเยี่ยงมนุษย์ไม่ได้ ก็มีแต่ร่างกายนี้แหละที่ให้ได้ ลองหาอ่านดูนะครับ
    ผมว่า กรรมมันอยู่ที่เจตนาเป็นตัวกำหนด ถ้าเราไม่ยึดติด ก็จะพบ
    อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  3. ธันวาธนู

    ธันวาธนู สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาทุก ๆ ความเห็น ท่านคือผู้ทำให้เราพบทางสว่าง สาธุ ....สาธุ....สาธุ...
     
  4. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    เคยคุยเรื่องนี้กับพระอาจารย์ ท่านว่าท่านก็ฉันมาแล้วทุกอย่าง เคยฉันมังสวิรัติก็เคย เคยไม่ฉันเนื้อก็เคย
    แต่เดี๋ยวนี้ฉันหมดแหละ (ไม่นับข้อห้ามของพระพุทธองค์) มีอะไรให้ฉันก็ฉัน

    ไม่ได้ฉัน "เจ" แต่ฉัน "เจอ" เจออะไรก็ฉัน ; D
     
  5. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    การกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่บาป แต่ที่แน่ ๆ เป็นบ่อเกิด ต้นตอของหลาย ๆ โรคร้าย

    การกินเนื้อสัตว์ เป็นบาป หรือ ไม่ บาป แต่ที่แน่ ๆ เป็นแหล่งต้น ต้นตอของนานาโรคร้ายหลากหลายชนิดเช่นโรคมะเร็ง เต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและ
    จากการวิจัยล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ ฮาวาด์ แห่งสหรัฐ และมหาลัยแพทย์ ลีด แห่ง ประเทศอังกฤษ เนื้อสัตว์ ยังเป็นต้นเหตุหลัก ๆ ของมะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งรังไข่

    ข้อมูลโดยมหาลัยแพทย์ชื่อดังระดับโลก


    โดยการสนับสนุนสถาบันวิจัย โรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ
    National Cancer Research Institue - USA
    สถาบันโรคมะเร็ง แห่ง WHO
    The World Cancer Research Fund ( WCRF )
    และวารสารสุขภาพ ชื่อดังทั่วโลก

    **********************************************

    ยังมีข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 100 บทความ
    ที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรียถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสัตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย
    นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์

    แต่ ถ้า รักสุขภาพ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อภัยของโรคมะเร็งร้าย ควรงด อาหารจานเนื้อ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า อันน่ารู้นี้ มีแต่เฉพาะวงการแพทย์ ที่หันหลังการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารปลอดเนื้อสัตว์

    ที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรมจากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ

    แนบเอกสารมาให้อ่าน คิด พิจารณา ที่ สถาบันโรคมะเร็งแห่งสหรัฐ
    ได้ออกประกาศเตือน ถึงภัยโรคมะเร็งร้ายที่ล้างผาญ ฆ่าชีวิต คนอเมริกันมากมาย เพราะ ต้นเหตุจากการบริโภคเนื้อสัตว์

    *********************************

    โรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริง


    จากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
    โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากหลายหลาย
    มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก
    สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่ง สหประชาชาติ

    The World Cancer Research Fund (WCRF

    รายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมูลในเวป

    http://www.dhammajak.net:80/board/viewtopic.php?t=14583

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17241

    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=22743



    http://palungjit.org/showthread.php?t=145201

    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=22040


    การเบียดเบียนชีวิตตัวเองและสัตว์ร่วมโลก เป็นการสร้างเวรกรรม ที่ไม่สิ้นสุด

    :- การไม่ประมาณในการบริโภคย่อมนำภัยมาสู่นัว

    ได้ส่งเว็บที่น่าสนใจมาให้ดูนะ :

    www.tamdee.net/dhamma/play.asp?QID=105
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • xc1.jpg
      xc1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.6 KB
      เปิดดู:
      60
    • c16.jp.jpg
      c16.jp.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.4 KB
      เปิดดู:
      63
  6. lunasea

    lunasea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    429
    ค่าพลัง:
    +433
    ส่วนตัวผม นั้นคิดว่า...ขึ้นอยู่กับเจตนา นะครับ
     
  7. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    [​IMG]สถาบันโรคมะเร็งแห่งสหรัฐ ได้ระบุอย่างชัดแจ้ง เนื้อสัตว์ ต้นเหตุหลักของโรคมะเร็งร้าย

    หลีกเลี่ยง ลด ละ เลิก การบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้ายนานาชนิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dx2.jpg
      dx2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.8 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2008
  8. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    ข้อมูลเพิ่มเติมหาอ่านได้จากเวปข้างล่างนี้

    ความคิดเห็นจากพระภิกษุสงฆ์ไทย รูปหนึ่งทางภาคอีสาน ในเรื่องการบริโภคเนื้อสัตว์ และอาหารปลอดเนื้อสัตว์ หรือ อาหารมังสะวิรัติ ที่น่าสนใจในแง่มุมมองอันหลากหลาย

    จากเวปข้างล่างนี้



    http://www.watisan.com/wizContent.as...&txtmMenu_ID=7

    http://www.watisan.com/wizContent.as...&txtmMenu_ID=7

    http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080


    <!-- / message -->
     
  9. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    ตามความคิดของผมนะครับ เข้าใจว่า การกินเจ มีมาก่อนศาสนาของพระสมณโคดม นะครับ เพราะคนที่กินเจ มักจะเป็นความเชื่อของมหายาน ซึ่งมหายาน ก็นับถือพระพุทธเจ้าในอดีตกาล ก่อนที่จะมาถึงพระศาสนาของพระสมณโคดม อีกนะครับ

    และการกินเจเพื่อเป็นพุทธบูชาต่อพระพุทธเจ้าในอดีต ก็หน้าจะบอกได้ว่า มีมาก่อนพระไตรปิฏของพระสมณโคดมเจ้า

    มหายานเองนอกจากศรัทธาพระพุทธเจ้าองค์อดีตแล้ว ก็ยังนับถือ พระสมณโคดม ซึ่งเป็นพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ดังจะเห็นได้ว่า มหายาน จะยกให้พระสมณโคดม ประทับอยู่ตรงกลาง ระหว่าง พระอมิตภพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า นี้เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงต่อพระสมณโคดม ผมจึงเห็นว่า ผู้ศรัทธาต่อพระสมณโคดม ก็ไม่ควรหลบหลู่ พุทธเจ้าองค์ในอดีต

    ดังนั้น ท่านผู้ใดกินเจ ก็อย่าได้ว่ากล่าว ผู้ที่ไม่ได้กินเจ
    และท่านผู้ไม่ได้กินเจ ก็อย่าได้ว่ากล่าว ผู้ที่ถือศีล และกินเจ เลยครับ การกล่าวโทษผู้ถือศีลกินเจ นั้น ย่อมไม่เป็นการสมควร
     
  10. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ฉันตั้งสัจจะทานมังสวิรัติตลอดชีวิต แต่ฉันไม่ได้อยู่กับนิกายไหน
    ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ฉันไม่ได้ทานเนื้อสัตว์
    เหตุเพราะฉันมีจิตคิดสงสาร
    ไม่ต้องการผูกพันธ์ด้วยเศษของกรรม
    แม้ฉันจะไม่ได้เห็นด้วยตา ไม่ได้ยินด้วยหู ไม่ได้สั่งให้ฆ่า
    แต่ในส่วนจิตลึก ๆ ของฉัน ก็รู้ว่ามันมีที่มาจากที่ไหน

    บ้านฉันอยู่ใกล้ตลาด เด็ก ๆ ฉันมักจะไปยืนมองแม่ค้าปลา
    ทุบหัวปลา เอาไส้เอาพุงออก และขอดเกล็ด
    ปลาพวกนั้นดิ้นรนหนี เถือกเกล็ด กระเสือกกระสน
    แต่ด้วยวิบากรรม และความจำยอมของความทุกข์ทรมานที่ได้รับ
    พวกมันจนแต้ม จึงต้องสนองความอยากความต้องการให้กับมนุษย์
    ฉันมักจะสงสารและร้องไห้บ่อย ๆ
    จนฉันคิดได้เอง ว่าฉันไม่อยากทำร้ายพวกเขา
    เราก็มีเนื้อ มีดบาดฉันยังเจ็บ
    โดนต่อยยังทรมาน
    และแล้วความคิดเหล่านั้นก็หายไปจนโต

    จวบจนฉันเข้ามหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัย
    ก็มีกิจกรรมไปถือศีล บำเพ็ญเพียรที่วัด
    วัดที่ฉันไป อยู่จังหวัดนครราชสีมา
    พระที่วัดนั้นไม่ฉันเนื้อสัตว์เพราะเป็นมังสวิรัติทั้งวัด
    พระอบรมให้ฉันหลายอย่าง จนถึงช่วงหนึ่ง
    ท่านก็เปิดวีดีโอฆ่าสัตว์ ให้ดู ฉันหดหู่และสังเวชใจมาก
    รู้สึก และรับรู้ถึงความทรมานของพวกเขา
    สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในท้องก็เริ่มปั่นป่วน
    และจบลงที่ระเบียงข้างหอพระ
    หลังจากออกจากวัดนั้นมา ฉันก็ได้กลับมาทานมังสวิรัติอีกครั้ง
    และขอสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าจะทำ เพราะมันสวนกระแสความอยาก
    คือ ตั้งสัจจะอธิษฐานขอทานมังสวิรัติตลอดชีวิต

    บัดนี้ เป็นเวลาล่วงเลยมากว่า แปดปีแล้ว
    ฉันมีความสุขมาก สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกอย่าง
    ทานมังสวิรัติแบบฉันนี้ มันไม่ได้บุญ หรือ บาปอะไร
    มันคงได้เพียงแค่ความสุขใจ
    แต่ความสุขใจ ก็ทำให้จิตเรามีความสุข
    จิตมีความสุข ทุกอย่างก็ดีขึ้น

    ฉันไม่เคยโจมตีว่าใครต้องทาน หรือไม่ทาน จึงจะได้บุญหรือบาป
    แต่ฉันเลือกที่จะทำของฉัน ฉันทานมังสวิรัติคนมองว่าฉันบ้า
    ฉันทานตั้งแต่เด็ก ๆ เขาก็หาว่าฉันจะตายมั่ง ป่วยมั่ง
    แต่ฉันก็ยังยืนยันว่า สุขภาพของฉันแข็งแรงสมบูรณ์
    สุขภาพจิตดี สดใสแข็งแรง(เหมือนดื่มโอวัลตินในโฆษณา) ฮ่า ๆ

    อย่ามัวแต่ เอาพระอักษรต่าง ๆ มาโจมตีกันอยู่เลย
    ทำตัวเองให้ดีเสียก่อน คำสอนนั้นอาจเปลี่ยนแปลงตามกันไปแต่ละสถานที่
    แต่ละวัฒนธรรม ทั้งนี้ก็เพื่อสนองตัณหาลึก ๆ ของมนุษย์
    หากผู้ใดทำได้ มีประโยชน์ก็มักจะสนับสนุนผลของการกระทำนั้น
    หากผู้ใดทำไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ก็มักจะต่อต้านผลของการกระทำนั้น
    จงใช้สติ และเจริญสติ ดำรงจิตของตน พิจารณาส่วนตน แบบไร้อักษร

    "ไร้อักษร ยึดมั่น ไร้จิตปรุงแต่ง"

    สาธุ กายกรรมใด วจีกรรมใด มโนกรรมใด
    กรรมอันหนึ่งอันใด ที่ข้าพเจ้าได้กระทำไป
    ไม่ว่าจะเป็นกรรมที่ดี หรือกรรมที่ไม่ดี
    ในขณะที่ข้าพเจ้าได้เล่าเรื่องนี้
    ข้าพเจ้าขอ ขมากรรม ต่อท่านพระพุทธเจ้า
    พระอริยเจ้าทุก ๆ จำพวก
    องค์พระโพธิสัตว์ทุก ๆ จำพวก
    องค์มหาเทพ มหาเทวี ทุกชั้นฟ้า
    องค์เทพ องค์เซียนต่าง ๆ
    ขอได้โปรดประทานอภัยให้ ข้าพเจ้าด้วย เทอญฯ


    ;41
     
  11. 我是泰国福建人

    我是泰国福建人 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +306
    เห็นด้วย
     
  12. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337

    อนุโมทนาค่ะ


    คิดเหมือนกันไม่มีผิด ขอความตั้งมั่นจงอยู่กับเราเช่นเดียวกันคะ
     
  13. ทิวัตถ์

    ทิวัตถ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +56
    ลังกาวตารสูตร
    แปลโดย "พุทธทาสภิกขุ"
    ---------------------------------------------------------
    ลังกาวตารสูตร เป็นคัมภีร์หลัก (text) ของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เป็นคัมภีร์หนึ่งในเก้าคัมภีร์ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญที่เรียกว่าสูตร สูตรหนึ่งนั้นมิใช่สั้นๆ เช่นที่เราเข้าใจกัน แต่เป็นหนังสือขนาดใหญ่ หรือคัมภีร์หนึ่งนั่นเอง
    ลังกาวตารสูตร พิมพ์ขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต เมื่อ ค.ศ. ๑๙๒๒ โดยท่าน Bunyin Nangio, M.A. (Oxon) D. Litt. Kyoto. สูตรนี้แปลเป็นภาษาจีนครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. ๔๔๓ โดยท่านคุณภัทระแห่งอินเดีย และครั้งที่สองเมื่อ ค.ศ. ๕๑๓ โดย ท่าน โพธิ รุจิ แห่งอินเดีย และครั้งที่สาม เมื่อ ค.ศ. ๗๐๐ โดยท่านศึกษานันทะ แห่งอินเดียเหมือนกัน เป็นสูตรว่าด้วยศีลธรรมล้วน
    ภาคที่แปดแห่งลังกาวตารสูตรนี้ กล่าวถึงเรื่องการกินเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ เรียกว่า ภาคมางสภักษนปริวรรต จากข้อความในภาคนี้ ย่อมเป็นการพิสูจน์ไว้อย่างเต็มที่ว่า สาวกในพระพุทธศาสนาจะเป็นบรรพชิต หรือฆราวาสก็ตาม จะไม่รับประทานเนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งเลย
    ต่อไปนี้เป็นข้อความบางตอน ซึ่งตัดตอนมาจากข้อความในภาคนั้น โดยเห็นว่าพวกเรา แม้เป็นฝ่ายเถรวาท (หินยาน) ก็ควรได้อ่านฟังกันไว้บ้าง เป็นการประกอบการศึกษาธรรมเรื่องนี้ ด้วยใจเป็นอันอิสระ ข้อความในพระสูตรนั้น มีดังนี้ :
    "พระตถาคตเจ้าผู้องค์อรหันต์ ได้ตรัสรู้อย่างถูกถ้วนแล้ว, และได้ตรัสความเป็นกุศลหรืออกุศลแห่งการบริโภคเนื้อสัตว์แก่เรา, เพื่อว่าเราและสาวกอื่นๆ ในพระพุทธศาสนา ทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะได้ประกาศสัจธรรมอันนี้ แก่เขาเหล่าโน้นผู้บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการทำลายความอยากเสพในเนื้อสัตว์ของเขานั้นๆ เสีย"
    "พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า: โอ, มหาบัณฑิต! ด้วยน้ำหนักแห่งเหตุผลอันมากมายเหลือจะประมาณ บ่งแสดงว่าเนื้อทุกชนิดเป็นสิ่งที่ควรปฏิเสธ โดยสาวกแห่งพระพุทธศาสนา ผู้มีใจเปี่ยมอยู่ด้วยความกรุณา สำหรับเขาเหล่านั้น เราจักกล่าวแต่โดยย่อๆ
    โอ, มหาบัณฑิต! ในวัฏสงสาร อันไม่มีใครทราบที่สุดในเบื้องต้นนี้ สัตว์ผู้มีชีพได้พากันท่องเที่ยวไป ในการว่ายเวียนในการเกิดอีกตายอีก, ไม่มีสัตว์แม้แต่ตัวเดียว ที่ในบางสมัย ไม่เคยเป็น แม่ พ่อ พี่น้องชาย พี่น้องหญิง ลูกชาย ลูกหญิง หรือเครือญาติอย่างอื่นๆ แก่กัน สัตว์ตัวเดียวกัน ย่อมถือปฏิสนธิในภพต่างๆ เป็นกวาง หรือสัตว์สองเท้าสัตว์สี่เท้าอื่นๆ เป็นนก ฯลฯ ซึ่งยังนับได้ว่าเป็นเครือญาติของเราโดยตรง สาวกแห่งพระพุทธศาสนา จะทำลงไปได้อย่างไรหนอ, จะเป็นผู้สำเร็จแล้วหรือยังเป็นสาวกธรรมดาอยู่ก็ตาม ผู้เห็นอยู่ว่าสัตว์เหล่านี้ทั้งหมด, เป็นภราดรของตน, แล้วจะเชือดเถือเนื้อหนังของมันอีกหรือ?
    โอ, มหาบัณฑิต! เนื้อสุนัข เนื้อลา อูฐ ม้า โค และเนื้อมนุษย์ เหล่านี้เป็นเนื้อที่ประชาชนไม่รับประทาน แม้กระนั้นเนื้อของสัตว์เหล่านี้ก็ถูกนำมาปลอมขาย ในนามของเนื้อแกะฯ ภายในเมืองเพราะเห็นแก่เงิน เพราะเหตุนี้ เนื้อสัตว์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรกิน โดยสาวกแห่งพระพุทธศาสนา
    โอ, มหาบัณฑิต! เพราะว่าเนื้อย่อมเกิดจากเลือด และน้ำอสุจิ, เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งไม่ควรบริโภค สำหรับสาวกแห่งพระพุทธศาสนา ผู้ประสงค์ต่อความสะอาดบริสุทธิ์ (หลุดพ้นทุกข์ทางจิตใจ) และเพราะมันเป็นการสร้างความหวาดกลัว ให้เกิดขึ้นในระหว่างกันและกัน
    โอ, มหาบัณฑิต! เพราะฉะนั้นเนื้อนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรบริโภคโดยบรรพชิตแห่งพระพุทธศาสนา ผู้ประสงค์มิตรภาพในเพื่อนสัตว์ด้วยกัน ทุกถ้วนหน้า
    ตัวอย่างอันประจักษ์เช่นเมื่อสัตว์ได้เห็นนายพรานป่า ชาวประมงหรือนักกินเนื้ออื่นๆ เดินมาแม้ในระยะอันไกล สัตว์ทั้งหลายก็สะดุ้งกลัวเสียแล้ว บางครั้งหรือสัตว์บางชนิดขาดใจตาย ทำนองเดียวกัน สัตว์ตัวน้อยๆ อื่นๆ ในท้องฟ้า บนบกหรือในน้ำก็ตาม เมื่อได้เห็นนักกินเนื้อแต่ที่ไกล หรือได้กลิ่นด้วยจมูกอันไวของมัน ก็จะพากันวิ่งหนีไปไกลพร้อมกับความรู้สึกอยู่ในใจว่า เขาเหล่านั้นเป็นผียักษ์อสุรกายผู้ล้างผลาญ นั่นเพราะความกลัวต่อความตายของมัน
    เนื้อเป็นสิ่งที่ควรกินสำหรับผู้ใจดำอำมหิต เป็นสิ่งที่มีกลิ่นน่ารังเกียจ เป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมเสีย และเป็นสิ่งที่จะถูกห้ามกันโดยท่านสัตบุรุษ
    โอ, มหาบัณฑิต! เนื้อนี้เป็นของไม่ควรบริโภคโดยพุทธสาวก
    โอ, มหาบัณฑิต! สัตบุรุษย่อมบริโภคเฉพาะแต่ อาหารที่สมควรแด่ท่านผู้บริสุทธิ์ ไม่ยอมบริโภคเนื้อและเลือด เพราะฉะนั้นควรที่สาวกแห่งพระพุทธศาสนา จะต้องไม่บริโภคเนื้อสัตว์เลย
    พระพุทธเจ้าผู้ซึ่งเยือกเย็นไปด้วยพระกรุณา มีพระทัยเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นที่พึ่งที่ป้องกันภัยแก่ดวงใจของปวงสัตว์ และมีพระสัมปชัญญะสมบูรณ์พอที่จะไม่ปล่อยให้เป็นโอกาสสำหรับความเสื่อมเสียระบาดขึ้นได้เลยนั้น ย่อมจะทรงบัญญัติเนื้อสัตว์ว่าเป็นสิ่งไม่ควรบริโภค
    โอ, มหาบัณฑิต! ในโลกนี้มีคนเป็นอันมาก ซึ่งกล่าวคำเท็จเทียมต่อพระพุทธดำรัสฯ ให้ผิดไปจากความจริง เขากล่าวกันว่า บรรดาผู้ซึ่งคัดค้านอาหารอันสมควรแด่ท่านผู้บริสุทธิ์แห่งสมัยเพรงกาล ย่อมกินอาหารเหมือนนักกินเนื้อ ย่อมเที่ยวใส่ความทุกข์เจ็บปวดให้แก่สัตว์น้อยๆ ที่มีชีวิตอยู่ในอากาศ บนบก และในน้ำ เที่ยวรบกวนรังควานมัน ทั้งที่นี่และที่นั่นอยู่เสมอ สมณภาพของเขาถูกทำลายเสียย่อยยับแล้ว พรหมณ์ภาพของเขาถูกทำให้เศร้าหมองเสียแล้ว เขามิได้ประกอบด้วยศรัทธาและสมาจาร คนชนิดนี้แหละ ที่กล่าวคำเท็จเทียมมากมายหลายชนิด แด่พระพุทธวจนะ
    โอ, มหาบัณฑิต! มีกลิ่นที่น่ารังเกียจ ไม่น่าบริโภคอยู่ในเนื้อสัตว์ เช่นเดียวกับกลิ่นแห่งศพ แม้เหตุผลเพียงเท่านี้ เนื้อก็เป็นของไม่ควรบริโภคสำหรับพุทธศาสนิกชนอยู่แล้ว ถ้าหากว่าศพถูกเผา และเนื้อสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ถูกเผา มันก็จะมีกลิ่นอันน่ารังเกียจ ไม่แตกต่างอะไรกันเลย ดังนั้น บรรพชิตในพระพุทธศาสนาผู้หวังความบริสุทธิ์ จะไม่บริโภคเนื้อใดเลย
    เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกเกียจกันแล้ว สำหรับท่านผู้บริสุทธิ์ และสาวกของท่าน ในกรณีที่จะพยายามเพื่อโมกษะและความตรัสรู้ เพราะฉะนั้นสาวกผู้ดำเนินตามทางอันสูงยิ่งนี้ ทั้งครอบครัวลูกหญิงชาย ย่อมรู้อยู่อย่างเต็มใจว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกเกียจกัน ในทุกๆกรณีที่พยายามเพื่อสมาธิ
    โอ, มหาบัณฑิต! เพราะฉะนั้น เนื้อทุกๆ ชนิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรบริโภคสำหรับพุทธศาสนิกชนซึ่งเป็นผู้ที่ปรารถนาจะมีสาธุคุณในทางจิต ทั้งเพื่อตนเองและผู้อื่น
    นักกินเนื้อ ย่อมเป็นเหยื่อแห่งโรคหลายชนิด เช่น โรคไส้เดือน โรคพยาธิ โรคเรื้อน โรคเจ็บในท้อง ฯลฯ
    โอ, มหาบัณฑิต! เรากำลังประกาศว่า การกินเนื้อสัตว์เป็นการกินเนื้อบุตรของตนเองอยู่ดั่งนี้ แล้วจะกล่าวไปอย่างไรได้ ที่เราจะบัญญัติให้สาวกของเรากินเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นของจัดไว้ต้อนรับของพวกคนใจอำมหิต เป็นของถูกห้ามโดยท่านสัตบุรุษทั่วไป เต็มไปด้วยมลทิน ปราศจากคุณธรรมใดๆ ไม่เหมาะที่จะบริโภคสำหรับผู้บริสุทธิ์ และเป็นของควรห้ามเด็ดขาด โดยประการทั้งปวง
    โอ, มหาบัณฑิต! เราได้บัญญัติไว้แล้วว่า สำหรับอาหารอันสมควรซึ่งได้กำหนดนิยมกันมาแล้วโดยบรรดาท่านผู้บริสุทธิ์แห่งสมัยเพรงกาล ได้แก่อาหารที่ปรุงขึ้นจากข้าว ลูกเดือย ข้าวสาลี สารแห่งหญ้ามุญชะ อูรทะและมสุร ฯลฯ นมส้ม น้ำนม นม น้ำตาลสด กุท (?) น้ำตาล และน้ำตาลกรวด ฯลฯ
    โอ, มหาบัณฑิต! ในกาลก่อน มีพระราชาครองราชสมบัติอย่างผาสุกพระองค์หนึ่ง นามว่า ราชาสิงหะเสาทโส ต่อมาได้กลายเป็นผู้ละโมบอย่างแรงในการบริโภคเนื้อ ในที่สุดถึงกับใช้เนื้อคนเป็นอาหาร เนื่องจากความอยากได้เป็นไปแก่กล้าหนักเข้า เพราะเหตุนั้น พระองค์ถูกถอดออกจากความเป็นพระราชา โดยพระสหาย เสนาบดี และประยูรญาติของพระองค์เอง และคนอื่นๆ ต่อจากนั้นต้องสละราชสมบัติ ถูกเนรเทศออกไปจากแว่นแคว้นของพระองค์โดยประชาชน ต้องรับทุกข์ทรมานอันใหญ่หลวง เนื่องจากเนื้อสัตว์เป็นต้นเหตุ
    โอ, มหาบัณฑิต! ก็ในปัจจุบันชาตินี้เอง เขาเหล่านั้นซึ่งเคยชินเกินไปในการกินเนื้อสัตว์ ในมาตรฐานนี้ เมื่อความอยากเป็นไปรุนแรงเข้า ก็กินเนื้อคนได้ (ในยามขาดแคลน) ย่อมเป็นผู้ละโมบในการกิน และเป็นเหมือนยักษ์ปีศาจร้าย ครั้นถึงอนาคตชาติหน้า เพราะอำนาจจิตติดฝังแน่นในการอยากกินเนื้อ เขาย่อมตกไปสู่กำเนิดแห่งสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร เช่น สิงโต เสือ สุนัขป่า สุนัขไน แมว สุนัขจิ้งจอก นกเค้า และ ฯลฯ
    โอ, มหาบัณฑิต! มิใช่เพราะเนื้อจะเป็นของต้องกิน หรือการฆ่าเป็นของต้องทำก็หามิได้ ในกรณีนั้นๆ ส่วนมากทั้งหมดเป็นเพราะการเห็นแก่เงิน จึงฆ่าสัตว์ที่มีชีวิต ถึงแม้จะเป็นสัตว์เชื่องและปราศจากอันตรายแต่อย่างใด ก็ได้ถูกฆ่า การฆ่าเพราะเหตุอื่นนั้นมีน้อยที่สุด มันเป็นการทรมานใจเขามาก ในเมื่อใจเต็มไปด้วย ความอยากกินเนื้ออย่างแรงกล้า คนก็กินเนื้อคนได้อยู่เสมอ จะต้องกล่าวไปทำไมกะเนื้อสัตว์ เนื้อนก ฯลฯ ส่วนมากที่สุด เนื่องจากความโง่เง่าเข้าใจผิด มนุษย์จึงได้รับกรรม ความกระวนกระวายใจ โดยความอยากในเนื้อสัตว์ คนฆ่านก ฆ่าแกะ และปลา โดยใช้ข่ายหรือเครื่องกล การฆ่ามันเหล่านั้นซึ่งเป็นสัตว์ที่เชื่องและหาอันตรายมิได้ นั่นก็เพื่อหวังจะให้ได้เงิน
    โอ, มหาบัณฑิต! ในกรณีแห่งอาหาร ที่เราได้บัญญัติแก่สาวกนั้น มิใช่เป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งเลย ซึ่งเป็นของควรกิน สัตว์ซึ่งเป็นของไม่ควรกิน ไม่เป็นเหตุควรถูกกิน ไม่ใช่สิ่งที่ควรสมมุติว่าควรกิน ในอนาคตกาล ในหมู่สงฆ์ของเราจะเกิดมีคนบางคน ซึ่งกำลังสมาทานข้อปฏิบัติแห่งบรรพชิต และกำลังปฏิญาณตนเป็นศากยบุตร กำลังครองผ้ากาสาวพัสตร์สีแดงหม่น จะเป็นผู้มัวเมาและประกอบตนคลุกเคล้าอยู่ในความเพลิดเพลิน เขาจะมีจิตที่เต็มไปด้วย ความปรารถนาลามก บัญญัติข้อปฏิบัติที่ผิดแบบแผนขึ้นใหม่ เขาเหล่านั้น เป็นผู้อยากเสพเพราะติดรส และจะเรียบเรียงพระคัมภีร์ให้มีข้อความเท็จ อันจะเป็นเครื่องยืนยัน และโต้แย้งอย่างพอเพียง สำหรับการกินเนื้อสัตว์กัน เขาจะบัญญัติสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ เขาจะกล่าวข้อความที่ส่งเสริมการกินเนื้อสัตว์ เขาจะกล่าวว่าเรา ตถาคตได้บัญญัติไว้ในเรื่องนี้ เช่นนี้ และว่าเราตถาคตนับมันเข้าไว้ ในสิ่งทั้งหลายที่ควรกิน และว่าพระภควันต์ก็ได้ทรงเสวยเนื้อสัตว์โดยพระองค์เอง
    แต่ โอ, มหาบัณฑิต! เรามิได้เคยบัญญัติเนื้อสัตว์ไว้ในสูตรใดๆ หรือกล่าวว่ามันเป็นของควรกิน หรือนับมันเข้าในประเภทของดีที่ควรกิน
    โอ, มหาบัณฑิต! อริยสาวกทั้งหลาย ไม่บริโภค แม้แต่สิ่งที่คนธรรมดาชอบกินนิยมกันว่าดี เขาเหล่านั้นจะมาบริโภคเนื้อและเลือด ซึ่งเป็นของควรปฏิเสธได้อย่างไรเล่า? เหล่าสาวกของตถาคต เป็นผู้เดินตามแนวแห่งสัจธรรม คนผู้มีปัญญาเป็นเครื่องคิดค้นของตนเอง และบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายอื่นๆ (แห่งพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ) ก็เป็นเช่นเดียวกัน เขาเหล่านั้นมิใช่ผู้กินเนื้อสัตว์ พระตถาคตเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนๆ ก็เป็นดังนั้น
     
  14. ทิวัตถ์

    ทิวัตถ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +56
    จะขอสมมุติตัวละครขึ้นมาสามตัวด้วยกันนะครับ มีนาย ก นาย ข และนาย ค
    นาย ก ไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยอยู่มาวันหนึ่งโดนนาย ข มาจับฆ่า โดยไม่มีสาเหตุ เป็นคุณคุณจะโกรธแค้นนาย ข หรือไม่ แต่ที่จริงแล้วนาย ข ได้รับจ้างจากนาย ค ให้มาฆ่า นาย ก ถ้าคุณเป็นนาย ก คุณจะโกรธจะเคียดแค้นนาย ค หรือไม่

    ฉันใดฉันนั้น สัตว์ก็เช่นเดียวกัน เหตุปัจจัยที่ทำให้พวกเขามาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็คือผลกรรมใช่หรือไม่ กายเขาเป็นสัตว์แต่จิตของเขาก็เหมือนกับจิตของคนเรา รู้จักอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง รู้จักผิดชอบชั่วดี ถึงเราไม่ได้ฆ่าเขาด้วยมือของเราเองแต่เราไปซื้อมาเปรียบเท่ากับเราไปจ้างให้พ่อค้าฆ่า วิญญาณของสัตว์ย่อมที่จะจองเวรกับผู้ฆ่าและผู้จ้างให้ฆ่าอย่างแน่นนอนและผู้ซื้อหรือผู้จ้างให้ฆ่านั่นแหละเป็นตัวสำคัญ เพราะหากไม่มีคนซื้อ คนขายก็ไม่ฆ่ามาขาย และสัตว์ก็ไม่ต้องตาย กรรม นั้น มีกฎแห่งกรรม ซึ่งก็เปรียบเหมือนกฎหมายนั่นเอง จากตัวอย่าง นาย ค สั่งให้นาย ข ไปฆ่านาย ค เวลาตำรวจจับก็ต้องจับทั้งนาย ข และ นาย ค ดีไม่ดีนาย ค ยังต้องโทษหนักกว่านาย ข อีก

    กินเนื้อสัตว์ผิดศีลทั้ง 5 ข้อ
    ข้อ 1 ฆ่าสัตว์และจ้างให่ฆ่าเป็นบาป
    ข้อ 2 ลักโขมยชีวิตของสัตว์มาโดยเขาไม่ยินยอม
    ข้อ 3 พรากลูกพรากชีวิตครอบครัวของสัตว์
    ข้อ 4 ทุศีล ปดต่อศีล
    ข้อ 5 เสพเลือดเสพเนื้อของสัตว์

    พืชก็เป็นสิ่งมีชีวิต กินผักไม่บาปหรือ
    คนและสัตว์นั้นเกิดมาตามกฎแห่งกรรม มีวิญญาณ สามารถรับรู้ความรู้สึกแสดงกริยาท่าทาง มีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง แต่พืชนั้นมีญาณแห่งการเจริญเติบโตเท่านั้น

    หากตามคำสอนของคริสตศาสนาคือพระเจ้าสร้างโลก
    คนเกิดมารู้หน้าที่ ว่า เป็นพ่อ เป็นแม่ ต้องหาเงินทำงานเลี้ยงดูลูก สัตว์ก็เช่นกัน
    คำพูดที่ว่า สัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์เป็นคำพูดที่เดรัจฉานชนใช้พูดกัน หากสัตวืรู้หน้าที่ว่าเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ทำไมเวลาเราจะฆ่าสัตว์มาทำอาหารสัตว์จึงร้องไห้ ไม่ยอมตาย หากสัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษยืจริงก็ง่าย เพราะ แค่คุณเรียกว่า เจ้าไก่เอ้ยวันนี้ข้าจะแกงเขียวหวานมาเร็วมามาให้ข้าเชือดคอเจ้าเอาเนื้อไปแกซิ หากเป็นหน้าที่ของสัตวืที่เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์จริงมันก็ต้องมาให้ฆ่าโดยง่าย
    พืชนั้นเจริญเติบโตมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์โดยแท้ เวลาเราจะเก็บผักไปเด็ดผักมีหรือที่ผักมันวิ่งหนีมีหรือที่ผักมันร้อง ไม่ยอมให้เด็ด
     
  15. ทิวัตถ์

    ทิวัตถ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +56
    กินเจหรือมังสวิรัติ เราไม่ได้บุญครับ แต่เราลดบาปลดจำนวนเจ้ากรรมนายเวรลง ทำให้บุญที่เราทำมาเราได้รับโดยง่าย
     
  16. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    หมดเทศกาลถือศีลกินเจ แล้ว
    ขออนุโมทนา และขออาราธนาพระคุณของ กิ๋ว อ๊วง ฮุก โจ้ว ทุกพระองค์โปรดแผ่พระเมตตาอำนวยพรให้แก่ ผู้ที่ได้ถือศีลกินเจ มาตลอดเทศกาลเจ ปีนี้ รวมถึงผู้ที่อนุโมทนากับผู้ถือศีลกินเจให้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ มีทรัพย์ในปัจจุบัน มีดวงตาเห็นธรรม และได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ด้วยกันทุกท่านเทอญ....สาธุ
     
  17. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
    ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
    ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์

    หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

    นะโม 3 จบ

    หัวใจ อิติปิโส ว่า
    อิสะวาสุ
    หัวใจพาหุง
    พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
    หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    หัวใจบารมี 30 ทัส
    ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
    หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
    มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
    หัวใจพระธารณะปริตร
    ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
    หัวใจพระไตรปิฎก
    จิเจรุนิ
    หัวใจพระคาถาชินบัญชร
    ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
    คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    [​IMG]สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง[​IMG]
     
  18. คนอีสาน

    คนอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +283
    เลือกฉันแสดงว่ายังยึดติด ลองคิดๆกันดูนะครับ
    อนุโมทนา
     
  19. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ...


    ;welcome2 อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
    1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
    2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
    3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
    4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
    5. มีอายุมั่นขวัญยืน
    6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
    7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
    8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
    9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสูอบายภูมิ
    10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ ;aa22
     
  20. TKP969

    TKP969 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +34
    (smile)ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...