เวลาเป็นเพียงสิ่งสมมุติ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ล้วนมีอยู่พร้อมกันแล้ว ที่นี่-เดี๋ยวนี้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 3 ตุลาคม 2008.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]

    ผมเคยสงสัยและได้อ่านงานเขียนต่างๆเกี่ยวกับเรื่องของกาลเวลา
    มันทำให้ผมเริ่มสงสัย และอยากหาคำตอบมานานแล้ว วันนี้ก็เลยถือโอกาส
    นำสิ่งที่ได้อ่านมา ได้รู้มา มาสรุปลงในกระทู้นี้ เพื่อแบ่งปันให้กับทุกๆท่านได้รู้ด้วย

    การจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อไม่เชื่อ หรือไม่ เกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้
    ผมขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของวิจารณญาณของท่านผู้อ่านเอาเองนะครับ

    และหากท่านใด มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของ "เวลา" อีก จากแหล่งอื่นๆ
    ก็สามารถนำมาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟังได้นะครับ

    ..............................................................................
    1). เริ่มจาก ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ก่อนก็แล้วกันนะครับ
    เพราะเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตน์ และเป็นที่ยอมรับ เชื่อถือกันมากที่สุด

    [​IMG]



    E = MC<SUP>2</SUP>



    สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวลาก็คือ ในทางทฤษฎีถ้าเราเพิ่มความเร็วให้กับวัตถุใดๆ


    มากกว่าความเร็วของแสงแล้ว เราก็อาจเดินทางย้อนเวลาได้


    แต่ก็อันนี้ยังเป็นแค่ทฤษฎีอยู่นะครับ เพราะว่าไม่มีวัตถุใดเดินทางได้เร็วกว่าแสง


    และยิ่งเพิ่มความเร็วของวัตถุเข้าใกล้ความเร็วของแสงเท่าไหร่


    พลังงานที่ใส่เข้าไปแทนที่จะไปเป็นความเร็ว แต่จะกลับกลายไปเป็นมวลของวัตถุแทน

    ..............................................................​


    2). เรื่องที่สอง คือจากหนังสือชุด "จักรวาลในเปลือกนัท" ของสตีเฟ่น เฮอร์คิงส์

    [​IMG][​IMG]



    ที่ได้พูดถึงข้อสมมุติฐานของนักวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับเรื่อง "เวลา"


    นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่ามิติของ "เวลา" มีลักษณะเป็นเส้นตรง


    คือจากอดีต ไปสู่ปัจจุบัน และสู่อนาคต แบบที่เราๆท่านๆเข้าใจกันนี่แหละครับ


    แต่ก็พบว่า มันไม่ใช่ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ต่อมานักวิทยาศาสตร์ก็พากันสร้างแบบจำลอง


    ของ"เวลา"ขึ้นมา ว่า"รูปร่าง"ของเวลาน่าจะเป็นแบบใดกันแน่ มีทั้งแบบทรงกลม แบบทรงกรวย


    และแบบอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็พบว่าแบบทรงกลมก็ไม่ใช่ แบบอื่นๆก็ดูท่าจะไม่ใช่ด้วยเหมือนกัน


    จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้เลย

    .......................................................................

    ปล. Update เมื่อวันที่ 3/3/12 ครับ ..คืออยากจะบอกว่า
    ตอนนี้ผมว่าผมได้คำตอบเกี่ยวกับกาลเวลาแล้วหละครับ
    คือได้คำตอบจากข้อความจากต่างมิติทั้งหลายนั่นแหละครับ

    และพวกเขาก็บอกแบบนี้ตรงกันหมดทั้ง 100% อีกด้วยว่า
    กาลเวลาใน "ห้วงแห่งปรมัตถ์" แล้ว มันไม่มีอยู่จริง
    มันเป็นแค่โปรแกรมๆหนึ่ง ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในโลกทางกายภาพนี้เท่านั้นเอง

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ

    "ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/

    "ข้อความจากต่างมิติ-จักรวาลที่กำลังกระพริบ-และความเป็นจริงหลากมิติ"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...่กำลังกระพริบ-และความเป็นจริงหลากมิติ.261510/

    "ข้อความจากต่างมิติ-ตัวตนหลากมิติของเรา-and-คุณลักษณะของ-light-worker-โดย-kryon"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...d-คุณลักษณะของ-light-worker-โดย-kryon.301196/

    ส่วนข้างล่างนี้ เฉพาะในโพสต์แรกสุดเท่านั้น
    เป็นส่วนที่ผม "สรุปย่อๆ" เกี่ยวกับกาลเวลาและอนาคต
    เอาไว้ให้แล้วหนะนะครับ

    "ข้อความจากต่างมิติ-พยากรณ์ปี-2012-ประตูสู่การเริ่มต้นครั้งใหม่"

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-พยากรณ์ปี-2012-ประตูสู่การเริ่มต้นครั้งใหม่.327885/


    ส่วน 2 กระทู้ข้างล่างนี้ เป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่ตายแล้วฟื้น แล้วไปพบว่า
    กาลเวลาไม่มีผลต่อจิตวิญญาณที่อยู่ในรูปของพลังงานล้วนๆแต่อย่างใดเลย

    "แอนิต้า-ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น-และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน"

    http://palungjit.org/threads/แอนิต้...วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน.265002/

    "โลกหลังความตาย-จักรวาล-บิ๊กแบง-เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตายแล้วฟื้นของนาย-mellen-t-benedict"

    http://palungjit.org/threads/โลกหลั...ณ์ตายแล้วฟื้นของนาย-mellen-t-benedict.264647/

    ส่วนกระทู้ข้างล่างนี้ เป็นสารพัดข้อความสื่อสารจากต่างมิติ
    ที่มีพูดถึงเรื่องกาลเวลาด้วยเป็นระยะๆ
    และมี update สถานการณ์ให้รู้ตลอดเวลาหนะนะครับ
    แต่ยาวมากกกกๆนะครับ เพราะโพสต์มาหลายปีแล้วครับ

    "ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/

    ..............................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2012
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    3). จากหนังสือ “สนทนากับพระเจ้า – การพูดคุยที่ไม่ธรรมดา เล่ม 2” บทที่ 5 หน้า 90 – 109
    (Conversations with God, An uncommon dialogue Book 2)

    โดย นีล โดนัลด์ วอลซ์ - เขียน
    อัฐพงศ์ เพลินพฤกษา - แปล

    [​IMG]<O:p</O:p
    ..................................................................................................................................

    นีล: ในเล่มแรกท่านสัญญาไว้เยอะเลยว่าจะคุยเรื่องที่กว้างขึ้นในเล่มสอง ทั้งเรื่องที่ว่างและเวลา
    ความรักและสงคราม ความดีความชั่ว รวมถึงประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลกในลำดับขั้นสูงสุด
    แล้วยังสัญญาด้วยว่าจะลงรายละเอียดบางอย่างเรื่องประสบการณ์ทางเพศของมนุษย์

    พระเจ้า: ใช่..ฉันสัญญาไว้
    เล่มแรกจะเกี่ยวกับคำถามส่วนตัวมากหน่อย เป็นเรื่องชีวิตในเชิงปัจเจก ส่วนเล่มสอง จะเกี่ยวกับการอยู่รวมกันบนโลกนี้
    เล่มสามจะสรุปไตรภาคด้วยความจริงอันกว้างใหญ่ที่สุด นั่นคือ เอกภพวิทยา ภาพรวมทั้งหมด และการเดินทางของ
    จิตวิญญาณ เมื่อผนึกทั้งสามเล่มเข้าด้วยกัน จะเป็นคำแนะนำและข้อมูลในปัจจุบันที่ดีที่สุดของฉันที่มีต่อทุกเรื่อง
    ตั้งแต่การผูกเชือกรองเท้ายันการทำความเข้าใจเอกภพ
    <O:p
    นีล: แล้วเรื่อง “เวลา” นี่ ท่านพูดจบหรือยัง
    <O:p</O:p
    พระเจ้า: ฉันพูดไปหมดเท่าที่เธอจำเป็นต้องรู้
    ไม่มีเวลาหรอก ทุกสิ่งดำรงอยู่พร้อมกัน ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาเดียวกัน หนังสือเล่มนี้กำลังถูกเขียนขึ้น
    และขณะที่มันถูกเขียนอยู่นี้ มันก็ถูกเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันมีอยู่ก่อนแล้ว จริงๆ เธอได้ข้อมูลทั้งหมดนี้
    มาจากตรงนั้นนั่นแหละ ได้มาจากหนังสือที่มีอยู่ก่อน เธอเพียงทำให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเท่านั้น
    นี่คือความหมายของคำว่า “แม้ก่อนเธอจะร้องขอ ฉันก็ได้ให้ไปแล้ว”
    <O:p</O:p
    นีล: ข้อมูลทั้งหมดนี้ ที่เกี่ยวกับเรื่อง”เวลา” ดูเหมือน..จะพูดยังไงดีหละ..ดูน่าสนใจ แต่ก็ค่อนข้างแปลกประหลาด
    ที่นี้จะเอาไปปฏิบัติในชีวิตจริงได้หรือเปล่าครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า: ความเข้าใจแท้จริงเรื่องเวลา จะทำให้เธอใช้ชีวิตกับโลกสัมพัทธ์ได้สงบขึ้น โลกที่เธอเข้าใจว่า
    เวลาเป็นความเคลื่อนไหวและไหลเวียน แทนที่จะเป็นภาวะคงตัว
    ตัวเธอนั่นแหละที่เคลื่อน ไม่ใช่เวลา เวลาไม่เคลื่อนไปไหน มีเพียงห้วงเวลาเดียว
    ในระดับหนึ่ง เธอเข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกล้ำ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เมื่อมีบางสิ่งสุดงดงามและเปี่ยมความหมาย
    เกิดขึ้นในชีวิตเธอ หลายครั้งเธอจะบอกว่ามันเหมือน “เวลาหยุดนิ่งเลย” เวลาหยุดนิ่งอย่างนั้นจริงๆนั่นละ
    และทีนี้เมื่อเธอเป็นอย่างนั้นด้วย เธอก็มักมีประสบการณ์ถึงห้วงยามตราตรึงของชีวิต
    <O:p</O:p
    นีล: มันเหลือเชื่อนะครับ เป็นไปได้ยังไงกัน
    <O:p</O:p
    พระเจ้า: วิทยาศาสตร์ของพวกเธอพิสูจน์เรื่องนี้ได้แล้วในเชิงคณิตศาสตร์ สูตรสมการต่างๆถูกเขียนขึ้น
    เพื่อแสดงให้เห็นว่าถ้าเธอเข้าไปในยานอวกาศ แล้วทะยานไปให้ไกลพอและเร็วพอ เธอจะกลับมายังโลก
    และเห็นตัวเองกำลังทะยานขึ้นไป

    นี่แสดงว่าเวลามิใช่สิ่งเคลื่อนไหว ทว่าเป็นสนามให้เธอเคลื่อนผ่าน ซึ่งในกรณีนี้ ก็คือยานโลกนั่นเอง
    เธอบอกว่าต้องใช้เวลา 365 วัน ถึงจะได้ 1 ปี แต่ทีนี้ อะไรคือ 1 วันล่ะ เธอได้ตัดสินใจเอาเองว่า 1 วัน
    คือเวลาที่ยานโลกต้องใช้ในการหมุนรอบแกนตัวเอง

    เธอรู้ได้อย่างไรว่าโลกหมุนอยู่ (เธอไม่รู้สึกว่ามันกำลังเคลื่อนอยู่ด้วยซ้ำ!) เธอได้เลือกจุดอ้างอิง จากเหล่าสรวงสวรรค์
    ซึ่งก็คือดวงอาทิตย์ เธอบอกว่าต้องใช้เวลาเต็มวัน เพื่อให้โลกฝั่งที่เธออาศัยอยู่หันหน้าเข้าดวงอาทิตย์
    แล้วก็หันออก และก็หันเข้าไปใหม่
    เธอแบ่ง ”วัน” ออกเป็น 24“ชั่วโมง” (เอาเองอีกรอบ) ซึ่งจริงๆเธออาจจะบอกว่า 10 หรือ 73 ก็ได้
    แล้วเธอยังแบ่งแต่ละ “ชั่วโมง” ให้เป็น “นาที” ....

    ....ทว่าทั้งหมดที่เธอกำลังทำอยู่นี้ เป็นเพียงการสร้างวิธีที่จะวัดการเคลื่อนผ่านพื้นที่เท่านั้นเอง
    ฉะนั้น เราเห็นแล้วว่าเวลาไม่ได้ “ผันผ่าน” ไปไหนแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นวัตถุต่างหากที่เคลื่อนและวนเวียนอยู่
    ในสนามสถิตที่เธอเรียกว่าที่ว่าง “เวลา” จึงเป็นเพียงวิธีที่เธอนับการเคลื่อนไหวเท่านั้น!
    นักวิทยาศาสตร์เข้าใจความสัมพันธ์นี้อย่างลึกซึ้ง ฉะนั้นจึงพูดด้วยคำว่า “ความโยงใยของพื้นที่และเวลา
    ”(Space-Time Continuum)

    ไอน์สไตน์และคนอื่นๆได้ประจักษ์ว่า เวลาคือประดิษฐกรรมทางใจ เป็นมโนคติเชิงสัมพัทธ์ “เวลา”
    คือสิ่งซึ่งสัมพัทธ์กันพื้นที่ที่ดำรงอยู่ระหว่างวัตถุ! (ถ้าเอกภพกำลังขยายตัว ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    นั่นหมายความว่า ในปัจจุบันโลกต้องใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ “นานขึ้น” กว่าเมื่อหนึ่งพันล้านปีก่อน
    เพราะมี “พื้นที่” ให้ต้องโคจรเพิ่มขึ้น)

    เพราะฉะนั้น จึงต้องใช้จำนวนนาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี ทศวรรษ และศตวรรษมากกว่าเดิม
    เพื่อให้วัฏจักรเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ในช่วงหลัง เมื่อเทียบกับที่เกิดขึ้นในปี 1492! (ทีนี้ “วัน”
    ไหนหละที่ไม่ใช่หนึ่งวัน และ”ปี”ไหนหละที่ไม่ใช่หนึ่งปี)

    ตอนนี้ เครื่องวัดเวลาชนิดใหม่ของพวกเธอซึ่งมีความสลับซับซ้อนสูง ได้บันทึกความไม่ลงตัวของ “เวลา”
    โดยแต่ละปี นาฬิกาทั่วโลกจะถูกปรับเวลาให้เข้ากับเอกภพ ซึ่งจะไม่ยอมอยู่นิ่งๆ! นี่เรียกว่า “เวลามาตรฐาน
    สากล” (Greenwich Mean Time : GMT) และ..ที่มัน”ต่ำ” ก็เพราะไปทำให้เอกภพกลายเป็นพวกมดเท็จ
    (คำว่า mean ซึ่งมาจาก Greenwich mean time นั้น นอกจากจะแปลว่า”เฉลี่ย”ได้แล้ว ยังมีความหมายว่า
    “ต่ำทราม” ได้อีกด้วย)

    ไอน์สไตน์ได้สร้างทฤษฎีขึ้นมาว่า ถ้าเวลาไม่ได้เคลื่อนไปไหน แต่เป็นตัวเขาเองที่กำลังเคลื่อนผ่านพื้นที่
    ณ ระดับความเร็วใดๆละก็ ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือ ให้เปลี่ยนปริมาณพื้นที่ระหว่างวัตถุ (หรือเปลี่ยนอัตรา
    ความเร็วที่เขาเคลื่อนผ่านที่ว่างจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง) แล้วจะเปลี่ยน “เวลา” ได้
    นี่คือทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปของไอน์สไตน์ ซึ่งขยายความเข้าใจในปัจจุบันของพวกเธอ เรื่องความสัมพันธ์
    ระหว่างเวลาและที่ว่าง

    ทีนี้เธออาจเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมถ้าเธอเดินทางไกลออกสู่อวกาศ และหวนกลับมา เธออาจมีอายุเพียง 10 ปี
    ขณะที่เพื่อนๆบนโลกมีอายุปาเข้าไป 30 ปี ยิ่งออกไปไกลแค่ไหน เธอก็จะยิ่งบิดงอความต่อเนื่องของพื้นที่และเวลา
    ได้มากขึ้นเท่านั้น และก็ยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่เธอจะกลับมาเห็นคนที่มีชีวิตอยู่ตอนที่เธอจากไป ยังมีลมหายใจอยู่!

    แต่ถ้าใน “อนาคต” ข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์บนโลกนี้สามารถพัฒนาวิธีที่จะขับเคลื่อนตัวเองให้เร็วขึ้น พวกเขาจะ
    สามารถ”โกง”เอกภพและคงความสอดคล้องไปกับ “เวลา” จริงบนโลกได้ พอกลับมาก็จะพบว่าเวลาที่ผ่านไป
    บนโลกเท่ากับเวลาที่ผ่านไปในยานอวกาศ

    ที่ชัดเจนคือ ถ้าขับเคลื่อนตัวเองให้เร็วขึ้นไปอีก เราจะกลับมาถึงโลกได้ก่อนที่จะออกไปจากโลกเสียอีก!
    หมายความว่า เวลาบนโลกเดินช้ากว่าเวลาบนยานอวกาศ เธออาจจะเดินทางกลับมาหลังจากหายไปสิบ”ปี”
    โดยที่เวลาบนโลกกลับผ่านไปเพียงสี่ปีเท่านั้น! ยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าไป สิบปีในอวกาศ อาจเป็นเพียงสิบนาทีบนโลก

    ทีนี้มาถึงเรื่อง”ด้าน” ในผืนแห่งพื้นที่-ที่ว่าง (ไอน์สไตน์และคนอื่นๆเชื่อว่า “ด้าน” ต่างๆมีอยู่จริง ซึ่งก็เข้าใจถูกต้องแล้ว!)
    เธอถูกเหวี่ยงข้าม “อวกาศ” ไปใน”ช่วง” เสี้ยววินาที จะถือได้ไหมว่าปรากฎการณ์แห่งการโยงใยของพื้นที่และเวลานี้
    แท้จริงแล้วได้”เหวี่ยง”เธอกลับสู่”เวลา”หนะ
    ถึงตอนนี้ก็ไม่ควรยากเกินไปที่จะเห็นว่า “เวลา” ไม่ได้มีอยู่จริง เว้นแต่ในฐานะที่เป็นการให้ความหมายจากจิตใจเท่านั้น
    ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้น และที่จะเกิดต่อไป...ล้วนกำลังเกิดอยู่ตอนนี้ ส่วนเธอจะเห็นความจริงนี้หรือเปล่า ก็ขึ้นกับมุมมองหรือ
    “ตำแหน่งที่เธอยืน” เท่านั้นเอง

    ถ้าเธออยู่ในที่ที่ฉันอยู่นะ เธอจะเห็นทุกสิ่งทั้งหมดตอนนี้เลย! เข้าใจไหม๊
    <O:p</O:p

    นีล : โว้วว! ในทางทฤษฎี ผมเริ่มๆเข้าใจแล้วครับ!
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : ดีแล้ว ฉันอธิบายให้เธอฟังแบบที่เข้าใจได้ง่ายมากๆ...ง่ายจนแม้แต่เด็กยังเข้าใจได้เลย
    อาจฟังดูไม่เป็นวิชาการเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยให้เข้าใจได้ดีทีเดียวหละ

    (ยังมีต่อ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สนทนากับพระเจ้า-2 (ต่อ)

    .................................................................................................

    นีล : ทีนี้วัตถุทางกายภาพจะมีข้อจำกัดเรื่องความเร็ว แต่ถ้าเป็นสิ่งไร้รูปอย่างความคิด...วิญญาณ..
    ในทางทฤษฎีแล้วมันจะสามารถเคลื่อนผ่านอีเธอร์ได้ด้วยความเร็วสุดหยั่ง
    </O:p
    พระเจ้า : นั่นไง! ใช่เลย! นี่หละคือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ขณะฝัน รวมถึงในประสบการณ์ถอดจิตหรือวิญญาณออกจากร่าง
    (out-of-body) และประสบการณ์ทางจิตอื่นๆ

    ถึงตรงนี้ เธอเข้าใจประสบการณ์ ”เดจาวู” แล้วนะ เธอได้อยู่ตรงนั้นมาก่อนแล้ว!
    <O:p</O:p
    นีล : แต่...ถ้าทุกสิ่งเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วอย่างนี้ ก็หมายความว่า ผมไม่สามารถเปลี่ยนอนาคตอะไรได้เลยสิ
    ทุกอย่างถูกกำหนดมาหมดแล้วอย่างนั้นหรือครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : คนละเรื่องเลย! อย่าไปคิดอย่างนั้นเด็ดขาดนะ! ไม่ใช่เลย จริงๆแล้วทั้งหมดนี้ ควรเป็นประโยชน์ต่อชีวิตเธอ
    ไม่ใช่ส่งผลร้าย!
    เธออยู่ในจุดแห่งเจตจำนงเสรี และทางเลือกอิสระเสมอ การมองเห็น “อนาคต” (หรือให้คนอื่นมาดูให้) ควรช่วยเพิ่ม
    ความสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างที่เธอต้องการ ไม่ใช่ไปลดลง
    <O:p</O:p
    นีล : ยังไงครับ ช่วยอธิบายหน่อย
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : ถ้า “เห็น” เหตุการณ์หรือประสบการณ์ในอนาคตที่เธอไม่ชอบ ก็อย่าไปเลือกมัน! เลือกใหม่เสีย!
    เลือกอย่างอื่นแทน! ให้เปลี่ยนหรือปรับพฤติกรรมตัวเอง เพื่อเลี่ยงผลที่ไม่พึงปรารถนา
    <O:p</O:p
    นีล : แล้วผมจะเลี่ยงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้ยังไงหละครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : มันยังไม่ได้เกิดกับเธอไง! เธออยู่ในจุดแห่งความต่อเนื่องโยงใยของพื้นที่และเวลา ซึ่งยังไม่ได้รับรู้
    สภาวการณ์ที่เกิดขึ้น เธอยังไม่ ”รู้” ว่ามัน “เกิดขึ้น” แล้ว เธอยัง “จำ” อนาคตของเธอไม่ได้เลย!
    (การหลงลืมนี้เอง คือความลับของทุกชั่วกาล นี่เองที่ทำให้เธอเล่นเกมส์ชีวิตอันยิ่งใหญ่ได้!
    แล้วจะอธิบายให้ฟังตอนหลัง)

    สิ่งที่เธอไม่ “รู้” ก็จะยังไม่เป็น “เช่นนั้น” เพราะ “เธอ” ยัง “จำ” อนาคตตัวเองไม่ได้ มันก็เลยยังไม่ “เกิดขึ้น”
    กับ “เธอ” สิ่งใดๆจะ “เกิดขึ้น” ได้ต่อเมื่อสิ่งนั้น “ถูกมีประสบการณ์แล้ว” และสิ่งๆนั้น จะ”ถูกมีประสบการณ์”
    ได้ก็ต่อเมื่อ “มันเป็นที่รับรู้” เสียก่อน

    พูดอย่างนี้ก็ได้ว่า เธอโชคดีที่ได้เห็นภาพอนาคตแบบผาดๆ ได้รู้ชั่วแวบๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้คือ จิตวิญญาณของเธอ
    (ซึ่งเป็นส่วนอรูปของตัวเธอ) ได้เร่งเครื่องสู่สถานที่แห่งอื่นบนความต่อเนื่องของพื้นที่และเวลา และนำพลังงานตกค้าง
    (ภาพหรือความทรงจำ) บางส่วนของห้วงขณะหรือเหตุการณ์นั้นกลับมาด้วย

    อะไรพวกนี้ เธอสามารถ “รู้สึก” ได้ หรือบางครั้งผู้ที่ได้พัฒนาพรสวรรค์ขั้นทิพย์ สามารถ “รู้สึก” หรือ “เห็น” ภาพ
    หรือพลังงานซึ่งวนเวียนอยู่รอบๆตัวเธอนี้ได้

    ถ้าไม่ชอบสิ่งที่เธอได้ “สัมผัส” ถึง “อนาคต” ตัวเองหละก็ โปรดถอยออกมาให้ห่างๆ เพียงถอยออกมาเท่านั้น!
    ในเสี้ยววินาทีนั้น เธอได้เปลี่ยนประสบการณ์ตัวเอง แล้วตัวเธอทุกคน จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก!

    (ยังมีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สนทนากับพระเจ้า-2 (ต่อ)

    .................................................................................................

    นีล : เดี๋ยวๆๆๆๆ ! เมื่อกี๊พูดอะไรนะ

    พระเจ้า : ถึงตรงนี้เธอพร้อมแล้วที่จะฟัง เธอต้องรู้ว่ามีตัวเธออยู่พร้อมๆกัน
    ในทุกระดับขั้นของความต่อเนื่องแห่งพื้นที่และเวลา
    นั่นคือ วิญญาณของเธอเคยดำรงอยู่เสมอ กำลังดำรงอยู่ตลอดไป
    และจะดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ไม่มีที่สิ้นสุด อาเมน

    นีล : ผม “ดำรงอยู่” มากกว่าหนึ่งแห่งหรือครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : แน่นอนอยู่แล้ว! มีตัวเธออยู่ทุกที่และทุกช่วงเวลา!
    <O:p</O:p
    นีล : มี “ตัวผม” อยู่ในอนาคต และ “ตัวผม” อยู่ในอดีตด้วยในตอนนี้?
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : คืออย่างนี้..ทั้ง “อนาคต” และ “อดีต” ไม่มีอยู่จริงหรอก
    ตามที่เราได้ลงแรงทำความเข้าใจกันไป แต่ถ้าเอาตามความหมายของคำที่เธอใช้
    ก็ขอตอบว่า “ใช่”
    <O:p</O:p
    นีล : มีตัวผมมากกว่าหนึ่งคน ?
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : มีเธอคนเดียวนั่นแหละ แต่เธอนั้นไพศาลกว่าที่ตัวเองคิดมากนัก
    <O:p</O:p
    นีล : ถ้า “ผม” ที่เป็นอยู่ “ตอนนี้” เปลี่ยนสิ่งที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับ “อนาคต” ตัวเอง
    ผลก็คือ “ผม” ที่อยู่ใน “อนาคต” จะไม่พบสิ่งเหล่านั้นในประสบการณ์ชีวิต?
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : ถูกเผ็ง ภาพโมเสคทั้งผืนจะเปลี่ยนโฉมไปเลย แต่เธอจะไม่สูญเสียประสบการณ์
    ที่ให้แก่ตัวเองไปไหนหรอกนะ เพียงผ่อนคลายและเป็นสุขที่ “เธอ” ไม่ต้องประสบเหตุการณ์พวกนั้น
    <O:p</O:p
    นีล : แต่ตัวผมในอดีตยังไม่ได้มีประสบการณ์ตรงนี้ ฉะนั้นก็ต้องเจอกับมันใช่ไหม๊?
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : ในความหมายหนึ่ง ก็ใช่ แต่ ”เธอ” ช่วย ”เขา” ได้
    <O:p</O:p
    นีล : ทำได้ด้วยหรือครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : แน่นอน ขั้นแรก ก็ด้วยการเปลี่ยนสิ่งที่เธอ คนข้างหน้าตัวเธอได้ประสบแล้ว
    เธอที่อยู่ข้างหลังตัวเธอจะได้ไม่ต้องพบกับอะไรพวกนั้น! ด้วยวิธีนี้เองวิญญาณเธอจึงได้วิวัฒน์เติบโต
    ในแบบเดียวกัน ตัวเธอในอนาคตได้รับความช่วยเหลือจากตัวตนในอนาคตของตัวเอง
    ฉะนั้นจึงช่วยให้เธอหลีกเลี่ยงสิ่งที่เขาเลี่ยงไม่พ้นได้ ตามทันไหม๊
    <O:p</O:p
    นีล : ทันครับ น่าทึ่งจริงๆ แต่ตอนนี้ ผมมีอีกคำถาม อดีตชาติทั้งหลายหละ ถ้าผมเป็น “ผม”
    มาตลอดทั้งใน “อดีต” และ “อนาคต” แล้วผมจะไปเป็นคนอื่นอีกได้ยังไงในหนึ่งอดีตชาติ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : เธอคือสิ่งมีชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประสบการณ์ได้มากกว่าหนึ่งแบบใน “เวลา” เดียวกัน
    และยังสามารถแบ่งภาคตัวเองออกเป็นหลาย “ตัวตน” ที่ต่างกันไปตามที่เธอเลือก

    เธออาจใช้ “ชีวิตเดิม” ครั้งแล้วครั้งเล่า ในแบบที่ต่างกันไปอย่างที่อธิบายให้ฟัง
    ทั้งยังอาจใช้ชีวิตที่เหมือนเดิมในช่วง “เวลา” ที่ต่างกันไปบนความต่อเนื่องของพื้นที่และเวลา

    ฉะนั้น ตลอดเวลาที่เธอเป็นเธออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ เธอก็สามารถเป็น (และเคยเป็น)
    “ตัวตน” อื่น ในช่วง “เวลา” อื่น และ “สถานที่” อื่นได้ด้วย
    <O:p</O:p
    นีล : โอย นี่ชักจะซับซ้อน และซับซ้อนขึ้นทุกที!
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : ใช่ จริงๆแค่ข่วนอยู่ที่ผิวนอกเท่านั้นนะ

    (ยังมีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สนทนากับพระเจ้า-2 (ต่อ)

    ..................................................................................................

    พระเจ้า : จงรู้ไว้ว่า เธอคือปฏิภาคศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขีดจำกัด ภาคหนึ่งของตัวเธอ
    กำลังเลือกที่จะรู้จักตัวเองว่า เป็นอัตลักษณ์อย่างที่มีประสบการณ์อยู่ตอนนี้
    และตัวเธอก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นี้ แม้เธอจะคิดว่าเป็นอย่างนั้นก็ตาม

    นีล : ทำไมหละครับ
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : เธอต้องคิดว่ามันเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นก็ไม่อาจทำในสิ่งที่เธอให้ชีวิตตัวเองมาเพื่อจะทำได้
    <O:p</O:p
    นีล : แล้วมันคืออะไรหละครับ ท่านพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่อยากให้บอกอีกที “ที่นี่ เดี๋ยวนี้”
    <O:p</O:p
    พระเจ้า : เธอกำลังใช้ทุกชีวิตของชีวิต (และของหลากชีวิต) เพื่อจะเป็นและตัดสินใจ
    ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร เพื่อจะเลือกและสร้างตัวตนที่แท้จริงของเธอขึ้นมา
    เพื่อจะมีประสบการณ์และบรรลุมโนคติ ณ ปัจจุบันที่เธอมีต่อตัวเอง
    เธออยู่ในนิรันดร์ขณะแห่งการรังสรรค์ตนเอง และการบรรลุในตน ผ่านกระบวนการสำแดงตัวเองออกมา

    เธอได้ชักนำผู้คน เหตุการณ์ สภาวการณ์ต่างๆ เข้าสู่ชีวิตเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างรูปแบบสุดยอด
    ของมโนภาพบรรเจิดสุดที่เธอมีต่อตัวเอง

    กระบวนการสร้างและสร้างขึ้นใหม่นี้ จะดำเนินสืบไป ไม่สิ้นสุด และมีหลายชั้น

    ทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ “ตอนนี้” ในหลายระดับ

    ในโลกความเป็นจริงแบบเส้นตรงของเธอนั้น เธอจะมองประสบการณ์ว่าเป็นของอดีต ปัจจุบัน อนาคต
    เธอจินตนาการว่าตัวเองมีชีวิตเดียว หรือไม่ก็อาจเห็นว่ามีหลายชีวิต แต่ก็ยังต้องมีทีละชีวิตๆไปตามลำดับ

    แต่ถ้า “เวลา” ไม่มีอยู่จริงหละ นั่นหมายความว่า “ชีวิต” ทุกชาติภพของเธอ กำลังดำรงอยู่พร้อมๆกัน!
    <O:p</O:p
    เธอกำลังมีชีวิตแบบนั้นจริงๆนั่นหละ
    <O:p</O:p
    เธอกำลังดำเนินชีวิตนี้อยู่ (ซึ่งเป็นชาติภพปัจจุบันของเธอ) ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตพร้อมๆกัน!
    เคยไหม๊ที่อยู่ดีๆก็รู้สึก “สังหรณ์ใจแปลกๆ” ถึงเหตุการณ์บางอย่างในอนาคตขึ้นมา รู้สึกชัดมาก
    จนทำให้เธอต้องถอยห่างออกมา

    ในภาษาของพวกเธอเรียกว่า “ลางสังหรณ์” ทว่าจากมุมมองฉัน นี่คือการรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเธอเพิ่งประสบมาใน “อนาคต”

    “ตัวเธอในอนาคต” กำลังร้องบอกว่า “เฮ้...อันนี้ไม่สนุกนะจะบอกให้ อย่าทำนะโว้ย!”
    <O:p</O:p
    เธอกำลังมีชีวิตอื่นอยู่ด้วยตอนนี้ (ชีวิตที่เรียกว่า “ชาติปางก่อน”) แม้ตัวเธอจะรู้สึกว่ามันเป็นอดีตของเธอก็ตาม
    (ในกรณีที่เธอเคยรู้สึกขึ้นมาได้นะ) แต่แท้จริงมันกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันด้วยเหมือนกัน
    เธอจะเล่นเกมชีวิตอันเยี่ยมยอดนี้ได้ยากมากๆ ถ้าสำนึกรู้ครบถ้วนว่าสิ่งต่างๆดำเนินไปอย่างไร
    แม้แต่คำอธิบายตรงนี้ ยังทำให้เกิดภาวะนั้นไม่ได้เลย ถ้าทำได้ “เกม” ก็จบกันพอดี!
    กระบวนการจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จเสร็จสิ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการที่ยังไม่รู้ครบถ้วนในขั้นนี้ด้วย

    ฉะนั้น จงอวยพรกระบวนการ และยอมรับมันประหนึ่งของขวัญชั้นเลิศจากผู้สร้างสุดอารี
    จงโอบรับและเคลื่อนเข้าหามันด้วยศานติ ปัญญา และปีติ จงใช้และแปรเปลี่ยนมัน
    จากบางสิ่งที่ต้องกล้ำกลืน เป็นบางสิ่งที่เธอมั่นหมาย ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดยอดแห่งกาล
    ซึ่งก็คือประสบการณ์แห่งการบรรลุแจ้ง ถึงตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง

    (ยังมีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สนทนากับพระเจ้า-2 (ต่อ)

    ..................................................................................................

    นีล : ยังไงครับ ผมจะทำอย่างนั้นให้ดีที่สุดได้ยังไง

    พระเจ้า : จงอย่าเสียเวลาอันมีค่าของชีวิตในชาตินี้ ไปกับการพยายามไขทุกปริศนาความลับชีวิต

    การที่ความลับพวกนั้นยังคงเป็นความลับอยู่ มันก็ย่อมจะมีเหตุผลของมัน
    ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้พระเจ้าเถิดนะ จงใช้ปัจจุบันขณะเพื่อเป้าประสงค์สูงสุด

    นั่นคือ เพื่อสร้างและสำแดงตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา

    จงตัดสินใจว่าเธอคือใคร และผู้ใดที่เธออยากเป็น จากนั้นจงทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้เป็นไปตามนั้น

    จงนำสิ่งที่ฉันบอกเธอเรื่องเวลาไปเป็นกรอบ (ด้วยความเข้าใจที่ยังจำกัดนั่นหละ)
    ในการจัดวางสิ่งสรรค์สร้างจากมโนคติอันยิ่งใหญ่ของตัวเธอ

    ถ้ามีภาพความรู้สึกเกี่ยวกับ “อนาคต” ปรากฏแก่เธอ จงให้ค่ามัน
    ถ้ามีห้วงคำนึงเกี่ยวกับ “อดีตชาติ” ผุดขึ้นมา ให้ลองดูว่าเธอจะนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง อย่าเพิกเฉย

    ที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าหนทางได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า เพื่อเธอจะได้ใช้สร้าง แสดง สำแดง
    และมีประสบการณ์ถึงตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเธอให้สูงล้ำยิ่งขึ้นแล้ว จงตามทางนั้นไป<O:p</O:p

    ทางสายนั้นจะปรากฏต่อเธอเพราะเธอได้ร้องขอ การสร้างหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
    ก็คือสัญญาณแห่งคำร้องขอของเธอ เพราะเธอไม่อาจสร้างมันขึ้นมาต่อหน้าเธอตรงนี้ได้
    หากปราศจากความคิดและหัวใจที่เปิดกว้าง รวมทั้งวิญญาณที่พร้อมจะรับรู้
    <O:p</O:p
    นี่ยังเป็นจริงสำหรับผู้ที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ด้วย เพราะพวกเขาเป็นผู้สร้างหนังสือเล่มนี้
    ขึ้นมาด้วยเหมือนกัน เพราะไม่อย่างนั้น เขาจะมีประสบการณ์อย่างที่มีอยู่นี้ได้อย่างไร

    ทุกคนกำลังสร้างทุกสิ่งที่เขาได้มีประสบการณ์อยู่ ซึ่งหมายความอีกแบบว่า
    ฉันกำลังสร้างทุกอย่างที่ตัวฉันได้มีประสบการณ์อยู่ เพราะฉันคือทุกคน

    เห็นความสอดคล้องลงตัวตรงนี้ไหม๊ เห็นความสมบูรณ์แบบหรือยัง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้สัจจะเดียวเท่านั้น
    <O:p</O:p
    “มีเราเพียงหนึ่งเดียว”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  7. Orora416

    Orora416 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +112
    ความเข้าใจเกี่ยวกับ เวลา (เชิงศาสนา)
    ตามแนวคิดของ ท่านพุทธทาส ภิกขุ

    "๕.คำว่า เวลา

    ทีนี้มาถึงคำที่ต้องอธิบายกันเสียใหม่ คือคำว่า เวลา คำว่าเวลานี้เรามักจะเข้าใจผิด จนพูดว่า เวลาหนึ่งเดือน หนึ่งปี หนึ่งนาที หนึ่งวินาที นั้นไม่ใช่เวลา นั้นมันเป็นเครื่องกำหนดเวลา ว่ายาวเท่าไร นานเท่าไร สมมติบัญญัติกันขึ้นมาเอง ว่าหนึ่งขณะจิต หนึ่งวินาที หนึ่งนาที หนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี นั้นไม่ใช้เวลา มันเป็นเพียงคำบัญญัติสำหรับวัดเวลา หรือกำหนดเวลา ตัวเวลาที่แท้จริงไม่ใช้สิ่งนั้น

    ตัวเวลาที่แท้จริงร้ายกาจมาก เป็นสิ่งที่ร้ายกาจที่สุดเลย สิ่งที่เรียกว่าเวลา เป็นความหมายถึงสิ่งที่เป็นผลของกิเลส หรือความทุกข์ จะพูดนำเสียก่อนก็ได้ว่า เวลา คือสิ่งที่กัดกินเราอยู่ตลอดกาล สิ่งที่กัดกินเราอยู่เป็นประจำคือ เวลา เวลาคือระยะอันหนึ่ง ตั้งต้นที่ความอยาก แล้วจนกว่าจะสมอยาก พอเราลงมืออยาก ก็เป็นจุดตั้งต้นของเวลา แล้วทำไป รอไปๆ จนกว่าอันนั้นมันจะเลิกอยาก เพราะสมอยาก หรือทำไม่ได้อะไรก็ตามใจ มันเลิกอยากจากความอยากถึงเลิกอยากนั้นคือเวลา ตลอดระยะนั้นมันกัดเราเจ็บปวด พอเราอยากแล้วกว่าจะได้สมอยากนั้นคือเวลาหนึ่งๆ มันจะนานหนึ่งเดือน หนึ่งวัน หนึ่งชั่วโมง ก็ตามใจ สิ่งที่เรียกว่าเวลานั้นคืออย่างนี้

    อย่าเข้าใจว่า เวลาไม่มี อย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเป็นเรื่องมายา ลมๆ แล้งๆ ไม่มีตัวจริง มันจริงยิ่งกว่าจริง คือมันกัดเราอยู่จริงๆ พอเริ่มต้นอยาก มันก็เริ่มกัด แล้วกัดๆกัดๆกัดอยู่ จนกว่าจะหยุดเลิกความอยาก อันนั้น นั่นแหละคือ เวลา "

    ที่มา : หนังสือ "ฟ้าสางทางธรรมโฆษณ์ "

     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    4). จากหนังสือชุดโนวาอนาลัย "ขยายความธรรมชาติของชาติภพ"

    [​IMG]

    ....................................................................................

    บทที่ 7 หน้า 93 http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap7_p93.html

    …วิวัฒนาการไม่ได้ก้าวหน้าไปเป็นเส้นตรงอย่างที่เธอเข้าใจ เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีอยู่และเกิดขึ้นพร้อมกันหมด
    วงจรของวิวัฒนาการจึงไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดจบ...

    <o:p</o
    หน้า 95
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap7_p95.html

    <o:p</o

    ...ตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต-ปัจจุบันและอนาคต เกิดขึ้นพร้อมกันหมด
    ในขณะที่เธอคิดถึงปัจจุบันอยู่นี้ อดีตและอนาคตก็กำลังดำเนินไปพร้อมกันหมด แต่ระบบประสาทของเธอ
    ไม่สามารถที่จะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากปัจจุบันได้ อดีตปรากฏขึ้นอย่างเชื่องช้า
    และอนาคตปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ระบบประสาทของเธอจะรับได้

    ระบบประสาทของเธอมีคุณสมบัตินอกเหนือไปจากที่นักฟิสิกส์และนักชีววิทยาเข้าใจ
    แม้ว่าความเชื่องช้าของอดีตและความรวดเร็วของอนาคตจะผ่านระบบประสาทของเธอไป
    โดยที่เธอไม่สามารถที่จะรับรู้ได้เลยในระดับสติสัมปชัญญะ แต่ถึงกระนั้นโครงสร้าง
    ของระบบประสาทก็ทำการบันทึกอดีตและอนาคตที่ผ่านไปไว้ทั้งหมด การบันทึกดังกล่าวเกิดขึ้นในระดับเซลล์
    แม้สมองของเธอจะไม่รับรู้ แต่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเธอจำอดีตและรู้อนาคต
    โดยที่สมองของเธอไม่ได้ระแวดระวังในความจำและความรู้เหล่านี้ในระดับสติสัมปชัญญะ

    เมื่อเธออธิบายการบันทึกความจำในระดับเซลล์เหล่านี้ว่าเป็นกรรม หรือเป็นภาวะแห่งเหตุจากอดีตชาติ
    มาปรากฏผลในปัจจุบันชาติ ทำให้เธอมีประสบการณ์ชีวิต-สภาพร่างกายและสุขภาพ
    ในทิศทางที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำในอดีต เธอคำนึงถึงความเป็นไปได้ในทิศทางที่จำกัดเกินไป
    เพราะความจำในระดับเซลเหล่านี้ เป็นความจำทั้งจากอดีตและอนาคต แม้ปัจจุบันจะปรากฏ
    ความเป็นจริงที่สะท้อนจากความจำทั้งในอดีตและอนาคต แต่ปัจจุบันก็เป็นจุดพลังอำนาจ
    ที่เธอสามารถสร้างความเป็นไปได้เส้นทางใหม่ เพื่อลบล้างหรือแก้ไขได้ทั้งอดีตและอนาคต

    กระบวนการในระดับลึกของจิตก็มีความจำและความรู้เหล่านี้เช่นกัน เธอจะรื้อฟื้นความจำ
    หรือเข้าถึงแหล่งของความรู้นี้ได้ ก็ต่อเมื่อเธอละจากสภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อระบบประสาท
    และจังหวะของมัน ซึ่งจำกัดอยู่เพียงการรับรู้ข้อมูลในปัจจุบันเท่านั้น...ภาวะของการปรับเปลี่ยนนี้
    มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันตามธรรมชาติ โดยที่เธอไม่รู้ตัว แต่ก็เป็นสิ่งที่ฝึกฝนและทำให้เกิดขึ้นได้ดังเจตนา

    เมื่อใดที่สติสัมปชัญญะปรับเปลี่ยนไปสู่ภาวะที่ทำให้เธอระลึกถึงอดีตและรู้อนาคตได้
    เธอจะมองเห็นธรรมชาติของตัวตนของเธอได้กว้างขึ้นจากภาวะตามปกติ เธอจะเห็นได้ไม่มากก็น้อยว่า
    ตัวตนของเธอตัวตนใด กำลังดำเนินวิถีชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นทางใด
    อนาคตของเธอบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย เกิดขึ้นพร้อมกันกับปัจจุบันที่เธอจดจ่ออยู่นี้
    และมันก็ผ่านระบบประสาทของเธอไปอย่างรวดเร็ว จนเธอไม่สามารถจะรับรู้ได้
    เธอจึงรู้และเห็นปัจจุบันของเธอเพียงเส้นทางเดียว

    อนาคตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายเหล่านี้ ดำเนินไปพร้อมกันกับปัจจุบัน
    และมันก็มีอดีตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้นั้นๆ ซึ่งแตกต่างไปจากอดีตบนเส้นทาง
    แห่งความเป็นไปได้ที่เธอจดจ่ออยู่ในขณะนี้ เธอจะรับรู้อดีตหรืออนาคตจากต่างเส้นทางเหล่านี้ได้หรือไม่
    ขึ้นอยู่กับว่า ความรู้สึกนึกคิด-เจตนา และสติสัมปชัญญะของเธอ ดึงดูดประสบการณ์บนเส้นทางเหล่านี้
    มาสู่เส้นทางปัจจุบันได้มากน้อยเพียงใด

    อนาคตเกิดจากการเลือกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ของเธอ ซึ่งดึงดูดประสบการณ์จากต่างเส้นทาง
    ให้มาปรากฏและรับรู้ได้ในปัจจุบัน

    อดีตของเธอบนแต่ละเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ มีปัจจุบันและอนาคตของมันแตกต่างกันไป
    อดีตจำเพาะในเส้นทางหนึ่งๆ จะส่งผลให้เกิดประสบการณ์อนาคตในเส้นทางจำเพาะนั้น
    ดังนั้นเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย จึงประกอบไปด้วยอดีตและอนาคต
    ซึ่งดำเนินไปพร้อมกันหมดบนหลายเส้นทาง อย่างเป็นอนันต์

    เส้นทางชีวิตของเธอ ดำเนินไปพร้อมกันหมด ในหลายชาติภพและหลายมิติ เธอจะสัมผัสหรือรื้อฟื้นความจำ
    ในระดับเซลล์ได้ ก็ต่อเมื่อเธอติดตามเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ เส้นใดเส้นหนึ่ง
    และย้อนกลับไปหาอดีตจำเพาะของเส้นทางนั้นๆ

    ปัจจัยในอดีตของเธอเป็นสิ่งที่พยากรณ์ไม่ได้เช่นเดียวกันกับปัจจัยในอนาคต
    ความคิดสร้างสรรค์ในอดีตของเธอรอคอยการค้นพบ เช่นเดียวกันกับความคิดสร้างสรรค์ในอนาคต...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2011
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    จากหนังสือชุดโนวาอนาลัย "ขยายความธรรมชาติของชาติภพ" (ต่อ)

    ................................................................................................

    หน้า 100
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap7_p100.html

    ...การตอบสนองล่วงหน้าต่อปรากฎการณ์ในอนาคต จะทำให้ปรากฎการณ์นั้นๆแปลสภาพไป
    บางครั้งปรากฎการณ์ในอนาคตนั้นก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะเธอเปลี่ยนทางเลือกในอดีตจากเส้นทาง
    แห่งความเป็นไปได้เส้นทางหนึ่ง ไปสู่อีกเส้นทางหนึ่งเสียก่อน ปรากฎการณ์เช่นนี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
    ซึ่งหมอดูไม่สามารถจะทำนายอนาคตของเธอได้แม่นยำเสมอไป

    ทุกขณะจิตในปัจจุบัน เธอมีอำนาจจิตที่จะตัดสินตามความเชื่อของเธอ และเปลี่ยนแปลงประสบการณ์
    ในอนาคตได้เสมอ ดังนั้น ความเชื่อจึงเป็นปัจจัยหลัก ในการสร้างประสบการณ์ในปัจจุบัน...

    ...สิ่งที่ฉันกล่าวถึงนี้ เป็นภาพรวมของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดวันเวลา ในสภาวะที่เธอไม่สามารถจะรับรู้ได้
    ความเชื่อที่เกิดขึ้นใหม่ในปัจจุบัน สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอดีต ได้ในระดับของระบบประสาท
    เธอจะต้องเข้าใจว่า ตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริงนั้น อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต เกิดขึ้น
    และมีอยู่พร้อมกันหมด ดังนั้น ความเชื่อในปัจจุบัน จึงเปลี่ยนแปลงอดีตได้

    หน้า 104
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap7_p104.html
    <O:p
    ...ปัจจุบันคืออำนาจของเธอ
    ปัจจุบันคือจุดพลิกผันอดีตและอนาคต
    เธอสร้างอดีตและอนาคตได้จากเจตนารมณ์ในปัจจุบัน
    <O:p
    บทที่ 8 หน้า 115
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap8_p115.html
    <O:p
    …ระบบการเกิด-การตาย และชาติภพ เป็นระบบของแผนงานรวม ซึ่งดำเนินไปพร้อมกันทั้งหมด
    การดำเนินวิถีชีวิตในชาติภพหนึ่งๆ ส่งผลกระทบต่อทุกชาติภพในทันทีทันใด แต่ประสาทสัมผัสทั้งห้า
    และสภาวะทางกายภาพของเธอ ไม่สามารถรับรู้ความเป็นไปทั้งหมดนี้ได้ในพริบตา
    เธอจึงรับรู้ข้อมูลได้จำกัดตามเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น ความเป็นไปทั้งหลายในอดีตและอนาคต
    ก็เกิดขึ้นพร้อมกันหมดในปัจจุบัน ตัวตนของเธอในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ผลรวมของความรู้-ข้อมูล
    และความทรงจำของบรรพบุรุษ หรืออดีตชาติภพทั้งหมด
    <O:p
    บทที่ 8 หน้า 117
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap8_p117.html
    <O:p
    ...ชีวิตตัวตนในแต่ละชาติภพเป็นสื่อ ที่ทำหน้าที่แสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้ในโลกมนุษย์ให้กับจิตวิญญาณ
    พัฒนาการและการเจริญเติบโตของใบไม้แต่ละใบ มีความสำคัญกับต้นไม้
    ชีวิตตัวตนในแต่ละชาติภพก็มีความสำคัญต่อพัฒนาการของจิตวิญญาณเช่นกัน
    ชีวิตของต้นไม้และชีวิตของใบไม้ ไม่อาจแยกจากกันได้ ตัวตนในแต่ละชาติภพมีอิสรภาพสูงกว่าใบไม้
    แต่ละตัวตนเปรียบเสมือนใบไม้แต่ละใบที่สามารถงอกรากขึ้นเป็นต้นใหม่ได้ในต่างท้องที่ ต่างเวลา
    และต่างมิติตามที่มันเลือก

    ใบไม้นี้ร่วงหล่นจากต้นไม้แห่งกาลเวลา งอกรากขึ้นในมิติใหม่ และกลายเป็นพืชต้นใหม่ต่อไป
    เมื่อตัวตนในแต่ละชาติภพได้ทำหน้าที่ จนกระทั่งบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการแล้ว
    จิตวิญญาณก็จะละร่างและกาลเวลาในมิตินั้น ไปจดจ่อกับตัวตนใหม่ในต่างเวลา-ต่างชาติภพ
    ตัวตนรวมทั้งหมดของเธอจึงเปรียบเสมือนต้นไม้ทั้งต้น ที่ประกอบด้วยใบหรือตัวตนในแต่ละชาติภพทั้งหมดรวมกัน
    ตัวตนรวมทั้งหมดจึงเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ

    ...กฎเกณฑ์แห่งช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ทำให้เธอเข้าใจธรรมชาติความเป็นจริงของชาติภพได้ยาก
    ฉันจึงต้องย้ำบ่อยครั้ง และจะขอย้ำอีกว่า ชาติภพ ไม่มีอดีตและอนาคต มีแต่ปัจจุบัน
    ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันหมด การถ่ายทอดจากแหล่งข้อมูลทั้งสามสายซึ่งเป็นที่มาแห่งตัวตนของเธอ
    จึงเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเป็นระบบเครือข่าย ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดจบ ไม่มีก่อน-หลัง ไม่มีเก่า-ใหม่ ความรู้-ข้อมูล
    และความทรงจำทั้งหลาย ปรากฏอยู่-มีอยู่ พร้อมกันหมด ทั้งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
    มีการถ่ายทอดและเปลี่ยนแปลงระหว่างชาติภพ ตลอดวันเวลา<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    จากหนังสือชุดโนวาอนาลัย "ขยายความธรรมชาติของชาติภพ" (ต่อ)

    ...................................................................................................

    บทที่ 8 หน้า 119
    http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1_chap8_p119.html

    ชาติภพเป็นระบบเติมเต็มความเป็นไปได้ทั้งหลาย ชาติภพไม่ใช่ระบบของต้นเหตุกับผลสืบเนื่อง
    ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เป็นเส้นตรง แต่เป็นระบบเครือข่าย ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และส่งผลกระทบถึงกันหมดในปัจจุบัน

    ...ฉันได้เปรียบเทียบตัวตนในแต่ละชาติภพของเธอว่า เป็นเสมือนภาพต่อแต่ละชิ้น แต่เธอก็คิดว่า
    ชิ้นส่วนภาพต่อของเธอตายตัวแน่นอน แท้ที่จริงแล้ว ชิ้นส่วน-ภาพต่อแต่ละชิ้น
    ซึ่งเปรียบเสมือนแต่ละชาติภพของเธอนั้น เป็นภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายทอดสด
    และเป็นระบบโยงใยถึงกันหมด เธอเป็นผู้สร้างภาพทุกภาพ ในชิ้นส่วนทุกชิ้น จากความรู้สึกนึกคิด
    และการกระทำของเธอเอง ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวในปัจจุบัน
    ก็ส่งผลกระทบต่อภาพต่อทุกชิ้น และภาพรวมทั้งหมดด้วย ไม่มีสิ่งใดคงที่ถาวร...<O:p</O:p
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนื้อหาส่วนนี้ขอลบทิ้งนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2012
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    สวัสดีค่ะ จขกท... ตามหามานานแระคนแบบนี้...

    เชื่อไหมว่า.... เรากะคุณ.... กำลังศึกษาสิ่งเดียวกันเลย ^^
     
  13. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    จริงๆเรื่องของเวลาเนี่ย....อยากหาคนคุยด้วยมานานแล้วนะ...

    เพราะว่า คนส่วนมาก ไม่ค่อยเข้าใจ สัมพัทธภาพของไอน์สไตน์

    แล้วพวกนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ก็ไม่เข้าใจเรื่อง จิตวิญญาณ

    ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่รู้เรื่องจิตวิญญาณ แบบว่าถอดจิตได้อ่ะ แล้วก็เข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ เราก็อยากจะคุยกับคุณนะ แล้วจะรอคำตอบที่กระทู้นี้ ^^

    เราอ่านหนังสือทุกเล่มแล้ว ที่คุณโชว์อ่ะ ทั้ง A brief history of time, universe in nutshell แล้วก็ Nova Analai ^^

    เราเป็นเด็กวิทยาศาสตร์นะ... แล้วเราก็นั่งสมาธิถอดจิตด้วย... เราเคยตั้งกระทู้ประมาณนี้แล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ... มีคนหนึ่งนะ ที่เค้าสนใจเหมือนกัน ชื่อ ทันตแพทย์ สม สุจิรา เค้าเขียนหนังสือด้วย ชื่อว่า ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น

    เรื่อง "เวลา" ที่อธิบายแบบวิทยาศาสตร์โดยทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์อ่ะ มันแปลกนะ เพราะว่า ไปเล่าให้คนธรรมดาฟัง นอกจากเค้าจะไม่เข้าใจแล้ว เค้ายังไม่เชื่ออีกด้วย... ... มันต้องแบบ ระดับ ปรมาจารย์อ่ะ พวกที่แบบว่า ชอบแนววิทยาศาสตร์จริงๆอ่ะ.. แล้วก็หายากด้วย พวกที่ชอบวิทยาศาสตร์จริงๆแล้วจะมานั่งสมาธิถอดจิต

    ถ้าคุณเข้าใจที่ดิฉันพูดนะ ดิฉันจะรอที่นี่ กระทู้นี้ หวังว่าเราจะได้คุยกันจ้ะ ^^
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โอ้...ยินดีสนทนาด้วยมากๆเลยครับ
    แต่เกรงว่าจะมีความรู้ไม่มากพอเท่ากับผู้ถามหนะครับ

    เพราะตามประสาตัวผมเองแล้ว เป็นคนขี้สงสัย ชอบค้นหาคำตอบ
    ชอบลอง ชอบรู้ ไปทั่วแหละครับ จะแนวไหน สายไหน ก็แทบไปมาหมดแล้ว

    สมาธิก็ปฏิบัติอยู่มาร่วมสิบปีแล้วหละครับ แต่ยังไม่ได้ถอดจิตไปไหนกับใครเขาได้เลย

    ตอนนี้เลยเลิก (ค่อนข้างเลิกนะ เพราะมันไม่สนิทหรอก) หมายถึงเลิกอยากหนะครับ

    ก็เอาแต่สติปัฏฐานสี่ ดู กาย เวทนา จิต ธรรม ไปเรื่อย เท่าที่จะทำได้หนะแหละครับ

    ได้อะไร ไม่ได้อะไร ก็ช่างศรีษะมัน ทำไปไม่หยุดก็เท่านั้นเอง

    ยินดีที่ได้รู้จักครับ

    ปล. แต่ว่าถ้าเป็นคุณ websnow นี่ ท่าจะเป็นคู่สนทนากับคุณได้มากกว่านะครับ
     
  15. หล่อล่องลม

    หล่อล่องลม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +2
    กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนไปเรื่อย
    เฉื่อยบ้าง เร็วบ้าง จริงๆหนอ
    แต่เวลา แห่งชีวิต ไม่รีรอ
    ล้วนแต่รอ เวลาสิ้น ชีวินต์ ... มอดม้วย มรณัง สังขาร์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
     
  16. นิรันตรพินทุ

    นิรันตรพินทุ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +10
    เคยอ่านเจอในวารสารวิทยาศาสตร์
    นักกายวิภาคสมอง บอกว่า

    เวลา เป็นแค่ต่อมสมองต่อมนึง

    เวลาจริงๆที่เป็นจริง มีอยู่แต่ไม่ใช่อย่างที่มนุษย์ทั่วไปเข้าใจ
     
  17. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    สวัสดี คุณชยุต เพิ่งไปฟังอ.ปริญญาเมื่อ 28 ก.ย. นี้เอง
    ท่านพูดเรื่องเวลาเหมือนกับหนังสือ สนทนากันพระเจ้าแระ (รออ่านเล่ม 3 อยู่เขาบอกออกปีหน้า) ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยผู้ทีสื่อกับนีลล์และ อ.ปริญญา เป็นพระองค์เดียวกัน
     
  18. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ข้อความบางตอน จากการถ่ายทอดสื่อจากจิตจักรวาล ครั้งที่ 145
    เรื่อง"นิพพานเถอะลูก" ที่โรงแรมมิโด 28 ก.ย. 51
     
  19. หล่อล่องลม

    หล่อล่องลม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +2
    สุดยอดเลยครับ มีพระบิดา อีกหน่อยก็มีพระมารดา
    มีพระป้า พระน้ำ พระอา พระพี่ พระน้อง ...สุดยอด

    ขอเชิญไปเล่นลิเกดีกว่า จะได้มียศบรรดาศักดิ์เพียบ

    เพี้ยน !!!
     
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    1. e-mail: แจ้งหลังไมค์นะครับ

    2. คนแบบนี้ อาจจะหาไม่ได้ง่ายที่อื่น แต่ถ้าเป็นเวปพลังจิตแห่งนี้
    เท่าที่ผมรู้จักนะครับ มีเยอะมากครับ เยอะแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่น่าจะหลักร้อยขึ้นนะ
    เผลอๆอาจจะเป็นพัน เป็นหมื่นด้วยซ้ำไป

    เพียงแต่คุณยังไม่รู้จักพวกเรา และพวกเขาเท่านั้นเองครับ
    วนเวียนอยู่ในเวปนี้นานๆ ก็จะจับทางได้เองแหละครับ ว่าใครมาสไตน์ไหนบ้าง

    สรุปว่ามีอีกเยอะครับ ทรงภูมิปัญญา ทรงศีล ทรงธรรมมากกว่าผมหลายเท่านัก

    ;welcome2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...