อยากทราบความรู้สึกตอนทำpsi ballได้จัง

ผมทำไม่ได้ก็จิงแต่อยากรู้จักมานเป็นอย่างไง

 

มันเป็นคลื่น เหมือนถือลูกโป่งในมือ แล้วก็ตีมันดึ๋งๆๆ ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่ต้องกังวล

 

ผมไม่รู้สึกถึงลูกโป่งน่ะแค่มันมีอะไรเย็นวนไปมาตรงฝ่ามืออ่ะหรือว่ามานเป็นลมหายใจ ไม่น่าอมเม็นทอสเลย อิอิ

 

คุณโบ๊ทรู้อะเป่า

ตรงที่มันหยึ๋ง นั้นไม่ใช่หรอก

ตัวที่ระลึกการรู้สึก หยึ๋งๆ นั้นได้ต่างหากที่ใช้

ไอ้ทำที่หยึ๋งๆ ได้นะมันจึงไม่มีประโยชน์

ประโยชน์มันอยู่ตรงที่เอาสติไรลึกสิ่งหยึ๋งๆ นั้นได้

เอาจิตที่อบรมการรู้หยึ๋งๆ ได้ไว นั้นแหละไปรู้อย่างอื่นๆ เอาไปรู้ได้อีกเยอะ

แต่ถ้าเอาจิตที่อบรมฝึกฝนการรู้หยึ๋งๆได้ไว ไปรู้ อาการของจิต หรือ พฤติจิตที่
เป็นส่วนเนื่องกับ กายใจ และกิเลส อันนี้จะเรียกว่ามาเป็น จิตพุทธะ

แต่ถ้าเอาจิตที่อบรมไปรู้อย่างอื่นๆ มันก็ไปรู้แบบนอกพุทธะ ของอนุญาติเรียกว่าไปรู้
ของสาธารณะ ของชาวบ้าน ของที่ใครๆเขาก็ทำได้ ถ้าฝึกฝนจริงจังอย่างยิ่งยวด

หัวเลี้ยวหัวต่อ อยู่แค่ปลายนิ้วที่ดึงเข้าดึงออกเองนะ จะไปทางไหนดี ทางไหนก็
ดีทั้งนั้นแหละ เพราะมันเป็น วาสนา บารมี ก็ทำกันไปนะ

 

แล้วถ้ารู้สึกว่ามันเป็นพลังงาน....วนไปวนมาในมือล่ะคะ....
แบบว่าหมุนๆๆๆนะ...แต่ข้างในมันกลวงๆๆๆน่ะค่ะ...

 

ขอบคุณคับคุณ3คนแต่ศัพย์อะไรอ่ะงงๆๆอธิบายหน่อย

 

งงนะเนี้ย

 

เอาเท่าที่รู้พอ ศัพท์ โยนทิ้งไปเลย

แต่ หยึ๋ง ๆ นี่พอเข้าใจใช่ไหม เวลามือมาใกล้ระยะ มันจะหยึ๋งๆ

ที่นี้ หยึ๋งๆ มันมี สองจังหวะ คือ ตอนเรารู้สึก กับ

ตอนเราพูดหรือรับรู้ว่าหยึ๋งๆ จิตมันคิดในใจ หรือ พูดออกมาก็แล้วแต่
แต่ส่วนใหญ่ พูดออกมามันรบกวนสมาธิ ก็มักมีแค่คิดในใจ ผุดเป็นคำ
หยึ๋งๆ ในหัว ในความคิด ทีนี้ ก็ค่อยๆน้อมให้คำว่า หยึ๋งๆ มันหายไป
อย่าให้จิตมันพูด แต่อย่าจงใจนะ ต้องค่อยทำใจน้อม มันจะเหลือ
แต่ส่วน รู้สึก

ก็ทำแบบนั้นแหละ ทำเนืองๆ เดี๋ยวแจ่มเอง psi ball

 

ผมชอบคำว่า หยึ๋งๆ ครับ
หยึ๋งๆ แปลว่า เหมือนมีอะไรหยุ่นๆ มีแรงดึงดูดและ ผลักดันระหว่างกัน ทำให้รู้สึกว่า หยึงๆ

 

ของผมคง ดึ๋งๆ อิอิ

 

ใช่ๆ ยิ่งถ้าเราหุบมือเข้า และออก อ่ะนะ สนุกไปอีกแบบอ่ะ

ลองทำดูสิค่ะ ทำแล้วรู้สึกตื่นเต้นดี

 

ใช่ๆๆ.....บางทีก็.......หุบไปหุบมา...
55+...เหมือนหมากฝรั่งติดมือเลยค่ะ.......หนุกดี....

 

อืมๆๆ

 

อันนี้วิธีฝึกที่ผมคิดเองอะนะมะได้ทำตามมาจากไหน แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัว

รู้สึกชาๆครับตามข้อนิ้ว ก็จะชาๆด้วย ถ้าฝึกซักพัก จะรู้สึกอุ่นๆ ถ้าจินตนาการว่าเป็นลูกไฟก็จะร้อนมาก และให้ผู้อื่นมาสัมผัสได้ ถ้าจินตนาการถึงเวลาที่เราอยู่ที่เย็น ฝนตก หิมะ น้ำแข็ง น้ำตก มันก็จะเย็นๆ คนอื่นก็จะรู้สึกและถ้าเอามือไปทาบที่ตัวคนอื่นสามารถส่งไปได้ลึกถ้าฝึกบ่อยๆอะครับ หรือถ้าจินตนาการว่ามันเป็นลมวิ่งวนๆมันก็จะเป็นลมจริงๆ และรอบๆมือก็จะมีลมมาด้วยเย็นนิดๆ แต่ถ้าอยากให้ดึ๋งๆก็ให้เอามือออกห่างกันแล้วเอาเข้าใกล้กัน เข้าๆออกๆจนกระทั่งมันแน่นอะครับ ซักพักเราจะกำหนดได้เลยว่าให้มันแน่น ที่ผมจินตนาการร้อนเย็นหรือลมเพราะมีคนรู้จักเคยคุยกัน ฝึกจิตมาจากอาหรับหนะครับ

ปล.ผิดถูกขออภัย มือใหม่นะครับ อันนี้ที่ผมฝึกเอง

 

ชาจิ๊กๆ ตามปลายนิ้ว ข้อนิ้วเป็นขั้นกว่าครับ เพราะ จิต ไหลไประลึก
ตรงนั้นได้มั่นคงขึ้น ก็ระลึกรู้ สภาวะธรรมได้เพิ่มเติม แต่จริงๆอาการ
ชาจิ๊กๆ นั้นปรากฏอยู่แล้ว เมื่อก่อนไม่เคยเอา จิต ไปรวมรู้ ณ จุดนั้น
เลยไม่รู้

แต่พอทำเรื่อยๆ ก็จะระลึกได้ จิตที่ได้รับการอบรม จะมีความไวของ
สติ ที่ไประลึกรู้สภาวะธรรมที่ละเอียดปราณีตขึ้นทีละน้อย หากทำไป
อีก อาการดึ๋งๆ นั้นจะเปลี่ยนรูปความรู้สึก ไปที่ปลายนิ้วแทน ตอนนี้
ก็จะเปลี่ยน นิมิต จินตภาพ จากบอลกลมๆระหว่างมือ เป็นอะไรไม่บอก

แต่อยากให้ระลึกวิถีจิต จะเห็นว่า มีจิตที่เป็นธาตุรู้ หากอบรมไปเรื่อยๆ
ก็จะไว และลุ่มลึกขึ้น และการที่จะละเอียด หรือ ลุ่มลึกขึ้น ก็คือการจด
จำสภาวะธรรมที่เกิดได้ การจดจำได้เรียกว่า สติ

พอสภาวะธรรมนั้นเกิดอีก สติ จะเป็นตัวระลึกแบ่งแยก รูป ที่ปรากฏให้
จิตรู้ได้ นี่คือ การทำงานของจิต ที่ต้องอาศัยรูป ในส่วนที่เราเอามา
สร้างจินตภาพ จะลูกบอล หรือ หยึ๋งๆ นี่คือการเติมสมมติบัญญัติลงไป
เรียกตามหลักพุทธศาสนาว่า นาม

ก็จะเห็นว่า คุณได้รู้จัก จิต ( สติ+สมาธิ ) รูป ที่จิตอาศัยในการรู้ และ
นาม ที่เราอาศัยในการหมายรู้

ถ้าประสงค์จะเข้าทางพุทธ ก็ให้ดู รูป กับ นาม นั้นมันทำงานคนละขณะกัน

รูป คือ สิ่งที่ธาตุจิตไปรู้ นาม คือ สิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้น

รูป คือ สิ่งที่มีอยู่แล้ว นาม คือ สิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้น

รูป คือ ธรรมชาติที่ถูกรู้ถูกดู นาม คือ ส่วนที่ทำให้เราสำคัญผิดไป
จากธรรมชาติที่มันมีอยู่ตามความเป็นจริง เช่นนั้นเอง

และ นาม นั้น ทำโดยขันธ์ 5 มีการเอาสัญญาเข้าไปหมาย มีสมมติ
ว่าเป็นอารมณ์ แล้วเอาอารมณ์มาขับเคลื่อนพฤติกรรมโดยรวมของ
เรา

หากประสงค์จะเข้าเป็นพุทธ ก็เพียงแต่ แยก รูป ออกจาก นาม ดูนาม
นั้นก็คือ ขันธ์5 ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เราเกิดความวิปลาสเห็นผิดไปจาก
ความเป็นจริง นำมาซึ่งทุกข์ การเวียนว่ายตายเกิด การหาเสพไม่สิ้นสุด
นั้นเอง

 

ผมรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรหยุ่นๆอยู่กลางระหว่างมืออะครับกดๆแล้วหยุ่นๆสนุกดีอะ
แต่กดเล่นบ่อยๆสมาธิเสียก้อนนั้นมันก็หายไปเลยเล่นมากไปหน่อยแหะๆ ><~!!

 

ฝึกแล้วไก้อะไรคับหรือได้แค่สมาธิ

 

ในทาง pranic healing ก็มีการฝึกคล้ายๆ ฝึกสัมผัส psi ball นี่แหล่ะ เป็นการฝึกให้มือรู้สึกถึงออร่า เป็นการฝึกขั้นแรก ลองดูในคลิปนี้ได้ ประมาณนาทีที่ 2:22

<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/d-gwm3lO9Pk&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/d-gwm3lO9Pk&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

 

จะดึ๋งๆ หรือ หยึ๋งๆ มันก็อย่างเดียวกันน่ะแหละ แค่หาคำมาอธิบายความรู้สึกไม่ได้


แต่ของผมมันดึ๋งๆ นะ