คนไทยกับการกินพาราเซตามอลเกินขนาด

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 18 กันยายน 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=blue22blod vAlign=top>คนไทยกับการกินพาราเซตามอลเกินขนาด</TD></TR><TR><TD class=default12 vAlign=top>
    [​IMG]


    ซองยาพาราเซตามอลมักระบุให้กิน 2 เม็ดทุก 4 -6 ชั่วโมง ถ้าปฏิบัติตามนั้นจริงแปลว่าผู้ป่วยกินยาพาราวันละ 12 เม็ด!
    พาราเซตามอล ซึ่งคนไทยมักเรียกยานี้สั้นๆ ว่า "พารา" เป็นยาแก้ปวด ลดไข้ ที่ใช้กันบ่อยที่สุดทั้งจากการสั่งใช้โดยแพทย์หรือการซื้อหามาเพื่อรักษาตนเอง แต่กลับเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าคนไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับยานี้เกินขนาด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง

    โดยทั่วไปพาราเซตามอลจัดเป็นยาแก้ปวด ลดไข้ ที่มีอันตรายจากการใช้น้อยกว่ายาแก้ปวด ลดไข้ ชนิดอื่นเช่นแอสไพริน เนื่องจากแอสไพรินมีผลยับยั้งการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดทำให้เลือดออกแล้วหยุดยากจึงห้ามใช้ลดไข้ในคนที่เป็นไข้เลือดออก และห้ามใช้แก้ปวดภายหลังการผ่าตัดหรือถอนฟัน

    แอสไพรินยังทำให้เกิดแผลที่กระเพาะอาหาร หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร อาเจียนเป็นเลือด หรือกระเพาะอาหารทะลุได้ แต่พาราเซตามอลไม่มีอันตรายดังกล่าว ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่างๆ ของแอสไพรินมากกว่าผู้ใช้ยาที่มีอายุน้อย ดังนั้นสมาคมแพทย์ผู้รักษาผู้สูงอายุแห่งสหรัฐอเมริกาจึงแนะนำให้ชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ใช้พาราเซตามอลเป็นยาหลักในการบรรเทาปวด

    นอกจากนี้สมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคข้อในหลายประเทศทั่วโลกต่างแนะนำให้ใช้พาราเซตามอลเป็นยาขนานแรกกับผู้ที่มีอาการปวดข้อจากโรคข้อเข่าเสื่อมแทนการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเช่นแอสไพริน ไอบูโพรเฟน (บรูเฟน) ไดโคลฟีแนค (โวลทาเรน) ซีลีค็อกสิบ (เซเลเบร็ก) หรือ อีโตริค็อกสิบ (อาร์ค็อกเซีย) เนื่องจากบรรเทาปวดได้พอๆ กันแต่มีความปลอดภัยกว่ามาก

    พาราเซตามอลยังเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกในเด็ก ในผู้ที่เป็นโรคไต ในผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร ในผู้ที่เป็นหอบหืดซึ่งอาจแพ้ยาในกลุ่มแอสไพรินได้ง่าย ตลอดจนผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต่างเป็นข้อห้ามใช้ของแอสไพรินทั้งสิ้น พาราเซตามอลจึงมีที่ใช้กว้างขวางทั้งในเด็กและผู้ใหญ่


    อันตรายที่สำคัญที่สุดของพาราเซตามอลคือการเกิดพิษต่อตับ ในประเทศสหรัฐอเมริกาการกินพาราเซตามอลเกินขนาดเป็นสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งของการเกิดตับอักเสบเฉียบพลันจนทำให้ตับวายซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหรือต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ

    ----------------
    ที่มา: MCOT
    http://variety.mcot.net/inside.php?docid=2536

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ~Lolita~

    ~Lolita~ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +12
    อันตรายมากๆนะคะ เดี๋ยวนี้เรารู้สึกไม่สบายก็จะกินยาพาราก่อนซึ่งความจริงอาจจะเป็นโรคอื่นก็ได้ ขอบคุณนะคะสำหรับสาระดีดี
     
  3. Ashita-p

    Ashita-p Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +95
    การรับประทานยามากๆ ไม่ว่าจะยาอะไร ก็มีผลต่อระบบการทำงานของลำไส้ และการดูดซึม ถ้าปวดหัวก็ลองใช้วิธีบำบัดแบบอื่นก่อนดีกว่ามั๊ย ถ้าไม่ไหวค่อยพึ่งยาปฏิชีวนะ ค่ะ
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    จริง ๆ แล้วนะ คนไทยในชนบทรวมถึงผู้ใช้แรงงานจะรับประทานกันมาก เนื่องจากไม่มีความรู้เบื้องต้นของอาการที่ป่วยจริง ปวดเมื่อย เป็นไข้ นิดๆๆ หน่อยๆ ก็อกินยาพาราแล้ว เรื่องจะไปพบแพทย์เป็นการยากครับ เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก รวมถึงค่าใช้จ่ายด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...