การทดลองของเซิร์น...ความจริงที่พระพุทธเจ้าของเราเปิดเผยมานานกว่า 2,500 ปีที่แล้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 17 กันยายน 2008.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>การทดลองของเซิร์นทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่คล้องกับพุทธศาสนา



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>


    "การทดลองสร้างปรากฏการณ์บิ๊กแบงขนาดจิ๋ว" ของนักฟิสิกส์ที่ห้องปฏิบัติการศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรปหรือ เซิร์น (CERN: เป็นตัวย่อจากภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลว่า Center of European Nuclear Research) เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา
    นับเป็นวันที่เหล่ารวมถึงประชาชนทั่วโลกต่างกำลังเฝ้ารอและลุ้นระทึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการทดลองจำลองการเกิดปรากฏการณ์บิ๊กแบง โดยใช้เครื่องเร่งอนุภาคความเร็วสูงเกือบเท่าแสง หรือ Large Hadron Collider (LHC) ซึ่งในมุมมองของฟิสิกส์ต่างหวังว่าการทดลองครั้งนี้จะเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่งที่จะช่วยไขปริศนาปัญหาพื้นฐานที่เกิดขึ้นในเอกภพ
    อย่างไรก็ตามการทดลองทางวิทยาศาตร์ขั้นสูงที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ก็มีคำสอนในพุทธศาสนาหลายประเด็น ที่สอดคล้องกับวิทยาศาสต์สมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของปรมาณู อนุภาคที่เล็กกว่าควอนตัม รวมทั้งเรื่องของมิติ


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ทั้งนี้นายโอฬาร เพียรธรรม ผู้เขียนหนังสือ ตามหาความจริงวิทยาศาสตร์กับพุทธธรรม และถอดกฎ พบกรรมทฤษฎี ธรรมประยุกต์ อธิบายให้ฟังว่า
    คนทั่วไปเห็นว่าคำสอนในพุทธศาสนามีตรรกะ ของเหตุ-ผลเหมือนวิทยาศาสตร์มานานแล้ว และในส่วนที่เกี่ยวกับจิต นักจิตวิทยาสมัยใหม่ ก็ใช้หลักในพุทธศาสนามาช่วยวิเคราะห์ พฤติกรรมต่างๆของจิต ช่วยสร้างความสำเร็จตามเป้าหมายของมนุษย์ เป็นต้น
    แต่ที่นายโอฬารเสนอนั้นได้เอาสาระในพุทธศาสนามาเทียบกับวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โดยตรงเลย และหลักสำคัญในพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งคือ กฎแห่งกรรม นายโอฬารก็เอามาโยงกับโหราศาสตร์ได้โดยตรง โดยใช้ควอนตัมฟิสิกส์ รหัสพันธุกรรม เป็นตัวเชื่อม และมีเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    อย่างไรก็ตามนายโอฬาร สรุปความเชื่อมโยงเรื่องอะไรบ้างในพุทธศาสนากับศาสตร์อื่นๆ ขอสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ คือ

    ๑.ในคาถาปลินิคัณฑุพระพุทธเจ้าเคยอธิบายขนาดของปรมาณู โดยแบ่งทอนความยาวเมล็ดข้าวเปลือกลง ๖ ครั้ง ด้วยตัวเลขต่างๆ เมื่อมาคูณกัน ได้ ๘๒.๓ ล้านส่วน ทั้งนี้จากการคำนวณขนาดของ ๑ ปรมาณู จะมีขนาดเท่ากับสิบยกกำลังลบแปดเซนติเมตร ซึ่งเท่ากับขนาดของอะตอมที่วิทยาศาสตร์ระบุไว้พอดี
    นอกจากนี้แล้วพระองค์ก็บอกว่า ปรมาณูมิได้เป็นแท่งทึบ มีช่องว่างภายในมากมาย ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของอะตอมจริงๆ

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ๒.ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในพุทธศาสนามีอยู่ในทุกปรมาณู และเป็นคุณสมบัติของธาตุ มิใช่ตัวธาตุโดยตรง และทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับ ๔ แรง ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในทุกอะตอม
    กล่าวคือธาตุดิน เชื่อมโยงกับแรงโน้มถ่วง ธาตุน้ำ เชื่อมโยงกับแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม ธาตุลม เชื่อมโยงกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า และธาตุไฟ เชื่อมโยงกับแรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน

    ๓.วิทยาศาสตร์ใหม่แสดงคุณสมบัติของอนุภาคควอนตัม(ส่วนย่อยของโปรตอน นิวตรอน ในอะตอม) ที่แปลกประหลาดมากมาย เช่น เป็นได้ทั้งอนุภาค และคลื่น (ทั้งสสารและพลังงาน)
    และระหว่างอนุภาคด้วยกันจะรับส่งข้อมูลสื่อสารกันได้ด้วยความเร็วมากกว่าแสง ซึ่งอาจจะสรุปได้ว่า อนุภาคควอนตัม มีตัวรู้ คือจิตวิญญาณด้วยโดยสรุปคือทุกๆ ปรมาณู / อะตอม (คือทุกสรรพสิ่ง) มีตัวรู้ด้วย
    หรือกล่าวได้ว่าทุกปรมาณู จะมีครบ ๖ ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ หรือทุกอะตอมทางวิทยาศาสตร์ก็จะประกอบด้วย ๔ แรงดังกล่าวข้างต้น รวมกับช่องว่าง (Space) และตัวรู้ (Conciousness )

    ๔.จากคุณสมบัติของอนุภาคควอนตัมในข้อ๓ ทำให้วิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันคำสอนในพุทธศาสนา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง และหลักอิทัปปัจจยตา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ต่อเนื่องกันไปทั้งนั้น ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ได้โดยตัวของมันเองจริงๆ

    ๕.จากคุณสมบัติอนุภาคควอนตัม ที่แสดงว่า ทุกสรรพสิ่งมีตัวรู้ บันทึกข้อมูลจากพลังจิตใดๆ ก็ได้นั้น ทำให้อธิบายได้ว่า ทำไมน้ำมนต์ พระเครื่อง ฯลฯ จึงศักดิ์สิทธิ์ได้ รวมถึงความเป็นไปได้จริงของไสยศาสตร์ต่างๆ ที่เราเคยได้เห็น ได้ฟังกันมาด้วย (แต่ไม่ควรงมงาย)

    ๖.กฎแห่งกรรมโยงกับโหราศาสตร์โดยตรง อธิบายสั้นๆ ได้ว่า การทำกรรมต้องมีเจตนาทางจิต และก่อนที่กรรมจะให้ผล (วิบาก) ต้องมีขบวนการของกรรมทำงาน ระหว่างกลาง (อาจใช้เวลาเป็นปี นับสิบปี หรือ ข้ามภพชาติก็ได้) กฎแห่งกรรม ทำงานได้จากพลังกรรม ที่บันทึกในจิต ผู้เกี่ยวข้องทุกคน และบันทึกไว้ในทุกสรรพสิ่งโดยรอบ ทั่วโลก ทั่วจักรวาล ฯ
    โหราศาสตร์คือการสังเกตปรากฏการณ์ ขณะที่ขบวนการของกรรมทำงาน เทียบกับผลกรรมที่เกิดขึ้น จดบันทึก ทำสถิติ และสร้างหลักเกณฑ์การทำนายขึ้นมา(การผูกดวง การอ่านลายมือ การอ่านไพ่ มีพื้นฐานจากหลักการนี้)
    และ
    ๗.ทฤษฎีสตริง(String Theory) ที่กล่าวถึงอนุภาคพื้นฐานที่เล็กกว่าอะตอมหรือ ควอนตัม นับล้าน ล้าน ล้าน ล้าน เท่า โดยตัวสตริงนี้จะสั่น (vibrate) อยู่ตลอดเวลาด้วยความถี่ต่างๆกัน
    ทฤษฎีนี้น่าจะเชื่อมโยงกับการมีอยู่จริงของภพภูมิของโอปปาติกะ ในพุทธศาสนาได้
    ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ได้มีการคำนวณไว้ว่าตามฤทษฎีบุว่าจักรวาลหรือเอกภพอาจจะต้องมีมิติ มากถึง ๒๖ มิติ ทฤษฎีจึงจะเป็นจริง (ไม่ใช่ ๔ มิติ ของโลกปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย กว้าง ยาว สูง และเวลา)
    ในพุทธศาสนาภพภูมิของโอปปาติกะ มีรวม ๒๙ มิติ แต่ในด้านศาสนาเรียกว่าภพภูมิ และแต่ละภพภูมิก็แยกกันได้ด้วยความถี่(vibration) ที่ละเอียดหยาบ แตกต่างกันไป
    "ประโยชน์ทางวิชาการสำหรับคนสมัยใหม่ ที่มักเอาวิทยาศาสตร์เป็นตัวตั้งในทุกเรื่อง และไม่สนใจศาสนา เห็นว่าล้าสมัย จะได้ทราบว่า พุทธศาสนาสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ๑๐๐% และยังมีอีกหลายเรื่องที่วิทยาศาสตร์ก้าวไปไม่ถึงอย่างไรก็ดี เรื่องทางวิชาการย่อมไม่ใช่ทางหลุดพ้นจากทุกข์ แน่นอน ทุกคนก็ต้องยึดแนวทางปฏิบัติด้วย สั้นๆ คือ ใช้ทาน ศีล ภาวนาเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์" นายโอฬาร กล่าวทิ้งท้าย

    0เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ที่ว่า "....พุทธศาสนาสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ๑๐๐% "......
    ประเด็นนี้ขอค้าน เพราะ วิทยาศาสตร์ เกิดทีหลัง พระพุทธศาสนา
    ที่ถูกต้องพูดว่า " วิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับพระพุทธศาสนา ๑๐๐% "
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ..ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอ
    เป็นเพียงส่วนพ่วงต่อของประสาทสัมผัสภายใน
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันทางกายภาพ
    ที่ทำให้สื่อสารกันได้ภายนอก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    แต่ประสาทสัมผัสภายใน ทำให้สื่อสารกันได้ภายใน
    ถึงกันได้ทั้งหมดทุกเผ่าพันธุ์

    เซลทุกเซลมีประสาทสัมผัสภายใน

    อะตอม หยั่งรู้ตำแหน่ง
    หน้าที่-อัตราความเร็ว-การเคลื่อนไหว
    และธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมของมัน
    ตลอดจนส่วนประกอบของตัวตนของมัน

    โลกของเธอไม่ได้อุบัติขึ้นด้วยความบังเอิญ
    โลกไม่ได้เกิดจากอะตอมไร้สติ
    ที่ก่อตัวเข้าด้วยกันที่นี่บ้าง-ที่โน่นบ้าง
    หรือเกิดจากการรวมตัวกันอย่างไร้สติของแก็ส
    โลกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นทีละส่วนๆ
    แล้วประกอบเข้าด้วยกัน โดยพระเจ้าผู้อยู่ไกลโพ้น
    โดยที่บางชิ้นส่วน ก็ดีบ้าง เสียบ้าง
    หรือบางแบบที่ดีกว่า ก็ถูกประกอบขึ้นมาบ้างในบางฤดูกาล..<O:p</O:p
    (ซึ่งหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ - ชยุต)

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 18
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    แล้ว เราจะได้เรียนรู้ใน "หลักสัจจะธรรม"
    ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

    Tha Actions never die.

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุบุญ


    ละความชั่วด้วยศีล ทำความดีด้วยทาน จิตเบิกบานด้วยภาวนา
     
  6. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    วิทยาศาสตร์ กับ ศาสนา จริงๆ แล้วอะไรเกิดก่อนกันแน่
     
  7. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    วิทยาศาสตร์หรือธรรมชาติมีอยู่แล้วบนโลกแต่พระพุทธเจ้าทรงพบทรงเห็นแล้วได้พูดเป็นแนวทางให้มนุษย์หรือนักวิทยาศาสตร์ค้นคว้า จะค้นคว้าได้สำเร็จหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของมนุษย์เอง อย่างที่นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองสิ่งที่เร็วกว่าแสงหรือความเร็วเทียบเท่าแสงหรือเร่งอนุภาค (หรือเครื่องเจาะเวลา หรือมิติของการเกิดเอกภพอะไรบ้างอย่างที่มนุษย์อย่างพบอยากเห็นว่ามีจริงหรือไม่และอยากเห็นรูปธรรมมากกว่า) แต่ความจริงมนุษย์พบสิ่งที่ เร็วกว่าแสงมานานแล้วแต่ไม่มีใครรู้จัก สิ่งนั้นก็คือ จิต ของเรานั่นเองตากหาก
     
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,667
    ค่าพลัง:
    +9,239
    อ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" ของทันตแพทย์สม สุจีรา ค่ะ
    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  9. aaa11

    aaa11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +447
    ขอบคุณครับบบบบ
     
  10. เอกณัฐยศ

    เอกณัฐยศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,628
    ค่าพลัง:
    +9,666
  11. อยากมีดวงตาเห็นธรรม

    อยากมีดวงตาเห็นธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +2
    จากคุณสมบัติของอนุภาคควอนตัมในข้อ๓ ทำให้วิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันคำสอนในพุทธศาสนา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง และหลักอิทัปปัจจยตา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ต่อเนื่องกันไปทั้งนั้น ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ได้โดยตัวของมันเองจริงๆ

    ตรงกับ uncertainty principle ใน quantum physics ครับ
     
  12. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ใช่ๆ..ในหนังสือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" ของทันตแพทย์ สม สุจีระ
    อ่านแล้วดีๆมากๆ ใครที่หัวเือียงไปทาง วิทยาศาสต์มากจนลืมพุทธศาสนาไปแล้วอ่านเล่มนี้ท่านรู้สึกว่ายังล้ากว่าพุทธศาสนามาก

    องค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านรู้ทั้งป่าแต่เอามาแค่กำมือเดียว เอาแต่ส่วนที่จะพาเหล่าสัตว์พ้นทุกข์โดยไม่กลับกำเริบอีก
    เจริญธรรมทุกท่าน
     
  13. chingchamp

    chingchamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    788
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +503
    อนุโมมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  14. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    สุคโต โลกวิทู

    พระสุคตเจ้า ทรงรู้แจ้งโลก

     
  15. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393

    เคยเชื่อเองตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วว่าทุกสิ่งไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ทุกสิ่งอย่างจะมีพลังของอะไรบางอย่างที่สื่อถึงกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นคนกับก้อนหิน คนกับน้ำ น้ำกับก้อนหิน อะไรแบบนี้ (โปรดอย่าเชื่อตาม เพราะเป็นความเชื่อส่วนตัวของเราเอง แน้.....):VO
     
  16. tingman

    tingman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +281
    รู้หมื่นเท่า ล้านๆๆๆๆเท่า สู้การปล่อยวางไม่ได้หรอกครับ.....
     
  17. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    นักวิทยาศาสตร์ ต่างก็แสวงหา ว่าอะไรคืออนุภาคที่เล็กที่สุด

    เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเค้าจะได้รู้ว่า สิ่งที่เล็กที่สุด จริงๆแล้ว มันเป็นเพียง "ความว่างเปล่า"
     
  18. atomdekst

    atomdekst Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +79
    อย่างนี้เราก็บอกได้นะสิว่า

    โถ่วิทยาศาสตร์ ล้าสมัย!!

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พิจารณา ****

    หาก ทุกสรรพสิ่งไม่มีตัวตน
    แล้ว จะย้อนกลับมาเป็น กรรมได้อย่างไร !!!
    แล้ว พระพุทธเจ้าจะสะสมบารมี ได้อย่างไร !!!!

    ต้องพิจารณาให้มาก จึงจะพบสัจจะธรรมความจริง
    เหมือนที่พระพุทธเจ้าค้นพบ
    " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    เพียงแต่เราไม่สามารถเห็นตัวกระทำได้ ด้วยตา
    เราจึงไม่ควรตัดสินสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยตา
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หลักสัจจะธรรม ****

    " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...