ฝึกมโนมยิทธิพบพระพุทธเจ้าเร็วกว่าสายอื่น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 9 กันยายน 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    พบพระพุทธ.jpg

    จากที.ปา. ๑๑/๕๕/๙๒/พ.ศ. ๒๕๒๕มีข้อความตอนหนึ่งว่า

    “ตถาคตสฺสเหตํ วาเสฏฺฐาอธิวจนํธมฺมกาโยอิติปิ
    พฺรหฺมกาโยอิติปิธมฺมภูโตอิติปิพฺรหฺมภูโตอิติปิฯ”

    “ดูกรวาเสฏฐะ และภารทวาชะเพราะคำว่า ธรรมกายก็ดี ว่า พรหมกายก็ดี
    ว่าธรรมภูตก็ดี ว่าพรหมภูตก็ดีเป็นชื่อของตถาคตฯ ”

    คือ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เพราะคำว่า "ธรรมกาย"ก็ดี พรหมกายก็ดี ธรรมภูตก็ดี
    พรหมภูตก็ดี คำที่เป็นชื่อต่าง ๆ เหล่านี้เป็นชื่อของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น" ​

    จากพระสูตรดังกล่าว คำว่าธรรมกาย, พรหมกาย, ธรรมภูต หรือพรหมภูต อันเป็น
    ชื่อของพระพุทธเจ้า หรือ ตถาคต หรือ "เรา" ล้วนแล้วแต่หมายถึงสิ่งเดียวกัน คือ ธรรม ​

    (1) ผู้ใดแล เห็นธรรมผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นเรา (ตถาคต)= พรหมกาย
    ผู้ใดเห็นพรหมกายผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม. วักกลิเป็นความจริง บุคคลเห็นธรรม ก็
    ย่อมเห็นพรหมกาย (พระพุทธเจ้า) บุคคลเห็นพรหมกายก็ย่อมเห็นธรรม. ​

    (2) ผู้ใดแล เห็นธรรมผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรมกาย ผู้ใดเห็นธรรมกาย ผู้นั้นชื่อว่า
    ย่อมเห็นธรรม.วักกลิเป็นความจริง บุคคลเห็นธรรม ก็ย่อมเห็น
    ธรรมกาย (พระพุทธเจ้า) บุคคลเห็นธรรมกายก็ย่อมเห็นธรรม.. ​

    ข้อความที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” ไม่ได้หมายถึง การเห็นด้วยตา
    เนื้อ แต่หมายถึง การเห็นด้วยตาในซึ่งเกิดจากการปฏิบัติสมถ/วิปัสสนา
    กรรมฐานจนกระทั่งเกิดทิพยจักษุหรือปัญญาจักษุ เขาจะเห็นดวงธรรมที่สว่าง
    ใส และสามารถเห็นธรรมกาย/พรหมกายได้ ​

    เมื่อพิจารณาดูสายปฏิบัติธรรมของพุทธเถรวาทในประเทศไทย จำนวน 4 สาย
    ใหญ่ๆ คือ สายพุทโธ สายยุบหนอพองหนอ สายนะมะพะทะ( มโนมยิทธิ) และ
    สายวิชชาธรรมกาย จะพบว่ามี 2 สายเท่านั้น ที่รับรองการ "เห็น" ในการปฏิบัติธรรม
    คือ สายนะมะพะทะ(มโนมยิทธิ)กับสายวิชชาธรรมกาย ​


    สำหรับสายพุทโธกับสายยุบหนอพองหนอ มีแนวคิดที่ว่าการเห็นในสมาธิเป็น
    นิมิตลวง จึงปฏิเสธการเห็นในการปฏิบัติธรรม แต่ถ้าใจเขาเปิดกว้าง เขาย่อมรู้
    ทางจิตด้วยว่า สิ่งที่มาสอนธรรมทางใจนั้นคือ พรหมภูต และธรรมภูต ซึ่งก็คือ
    พระพุทธเจ้า(ตถาคต)นั่นเอง

    แม้ว่าพระพุทธองค์จะไม่มาเป็นภาพให้เห็นในนิมิตเป็นธรรมกายและพรหมกาย
    แต่พระพุทธองค์ก็มาปรากฏเป็นธรรมภูตและ
    พรหมภูต ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่เขาต้องเปิดใจกว้างจึงจะรับพระ
    พุทธองค์ได้ ​



    อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้ปฏิบัติท่านนั้นจะไม่ยอมรับในขั้นต้น แต่เมื่อเขาปฏิบัติจน
    ถึงขั้นอริยะบุคคล โดยเฉพาะพระอรหันต์ เขาก็ต้องได้พบพระพุทธเจ้า ที่เป็น
    ธรรมกาย พรหมกาย ธรรมภูต พรหมภูต อยู่ดี และเขาจะรู้ด้วยตัวเองว่า นั่นคือ
    พระพุทธเจ้า ​



    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติสายพุทโธ ท่านก็ยืนยันว่าเมื่อท่านสำเร็จขั้น
    อรหันต์ ท่านได้พบพระพุทธเจ้า แสดงว่า สายพุทโธอาจจะต้องปฏิบัติจนถึงขั้น
    อรหันต์จึงจะได้พบพระพุทธเจ้า ส่วนสายอื่นไม่ว่า สายมโนมยิทธิ และสาย
    ธรรมกาย ต่างกำหนดรูปนิมิตไว้ก่อนแล้ว จึงเป็นสื่อให้ได้เห็นพระพุทธเจ้าก่อนสาย
    พุทโธ และยุบหนอพอหนอ ซึ่งไม่ได้สร้างนิมิตมารองรับและยังปฏิเสทสิ่งที่รู้เห็นในจิต ​


    ลืมบอกไป! หลักการฝึกจิตแบบธรรมะเปิดโลก ยุบหนอ พองหนอของหลวงพ่อ
    คง จตฺตมโล ในขั้นสุดท้าย เมื่อถึงขั้นอริยะบุคคลแล้ว หลวงพ่อคงท่านก็ยืนยันว่าพบพระพุทธเจ้า

    สรุป ​

    สายปฏิบัติธรรม สายนะมะพะทะ(มโนมยิทธิ)กับสายวิชชาธรรมกาย
    จะพบพระพุทธเจ้าที่เป็นธรรมกายหรือพรหมกายได้เร็ว เนื่องจาก 2 สายนี้ได้สร้าง
    นิมิตไว้รองรับพระพุทธเจ้า และใจของเขาเปิดใจรับพระองค์

    ส่วนสายพุทโธและสายยุบหนอพองหนอ ถ้าเขาปิดจิตไม่ยอมรับสิ่งที่
    เห็นหรือไม่ยิน เขาจะปฏิเสทพระพุทธเจ้าได้ในระดับต้น แต่
    เมื่อเข้าสู่ความเป็นอริยะบุคคล ยังไงเขาก็ต้องเจอพระพุทธเจ้าที่เป็นธรรมกาย
    พรหมกาย ธรรมภูต พรหมภูต อยู่ดี



    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17674
     
  2. pop024

    pop024 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +529
    อนุโมทนาสาธุครับ

    อยากฝึกอยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มอย่างไรดี
     
  3. หมูสวย

    หมูสวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +123
    อนุโมทนา เห็นด้วยค่ะ ต้องลองฝึกมโนมยิทธิ แล้วจะพบคำตอบ
     
  4. หมูสวย

    หมูสวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +123
    คุณ Pop ลองหาเวลาว่างไปฝึกที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ดูนะคะ จะได้เร็วขึ้นค่ะ
     
  5. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
     
  6. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    นายแน่มาก
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
     
  8. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ที่บ้านซอยสายลมยังมีฝึกกันอยู่ไหมค่ะ ไปวันไหนได้บ้าง
     
  9. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  10. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ที่บ้านซอยสายลมยังมีการฝึกมโนมยิทธิอยู่เป็นประจำครับ

    ที่นี่จะเปิดให้ฝึกมโนมยิทธิได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ของต้นเดือน

    ซึ่งเป็นช่วงวันที่ท่านพระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง มารับสังฆทาน



    .
     
  11. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    มโนมยิทธิ

    วิชามโนมยิทธิ เป็นหลักสูตรทางพระพุทธศาสนาทางด้านวิชชา ๓ กึ่งอภิญญา
    คำว่ามโนมยิทธิ แปลว่ามีฤทธิ์ทางใจ เป็นวิชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) นำมาสอน จุดประสงค์
    เพื่อให้คนได้พิศูจน์พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่อง นรก สวรรค์
    พรหม พระนิพพาน เป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริง เป็นการตัดตัววิจิตกิจฉา
    ความลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๒ ในสังโยชน์ ๑๐

    คนที่ฝึกได้สามารถใช้จิตหรืออทิสมานกาย ท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่างๆ ได้
    เมื่อเขาไปเห็นแดนอบายภูมิ เห็นโทษจากการละเมิดศีล เขาก็จะตั้งใจและ
    รักษาศีลได้บริสุทธิ เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๓ คือสีลัพพตปรามาส

    คนที่ฝึกมโนมยิทธิได้ การทรงอารมณ์พระโสดาบันจะได้ผลอย่างรวดเร็ว
    เพราะพระโสดาบันตัดสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ คือ สักกายะทิษฐิ, วิจิกิจฉา และ
    สีลัพพตปรามาส และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านกล่าวไว้ว่า
    สักกายะทิษฐิของพระโสดาบันคือ คิดว่าตัวเราจะต้องตายแน่ และให้นึกถึง
    ความตายอยู่เสมอ คิดว่าเราอาจจะตายวันนี้ พรุ่งนี้ จะได้ไม่ประมาทในชีวิต

    ในผลของการปฏิบัติ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กล่าวไว้ว่า ถ้าปฏิบัติได้คล่อง
    ทรงอารมณ์ฌาน ๔ ได้เป็นปกติ จะเกิดญาณรู้เจ็ดอย่างคือ
    ๑. จุตูปปาตญาณ รู้ว่าสัตว์ตายแล้วไปเกิดที่ใด สัตว์ที่มาเกิดนี้มาจากใหน
    ๒. เจโตปริญาณ รู้อารมณ์จิตของคนและสัตว์
    ๓. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
    ๔. อตีตังสญาณ รู้เหตุการในอดีตของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ต่างๆ ได้
    ๕. อนาคตังสญาณ รู้เหตุการณ์ในอนาคตได้
    ๖. ปัจจุปันนังสญาณ รู้เหตุการณ์ปัจจุบัน ว่าขณะนี้ใครกำลังทำอะไรอยู่
    ไม่ว่าคนๆ นั้นจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม
    ๗. ยถากัมมุตตาญาณ รู้ผลกรรมของคนและสัตว์ได้ ทั้งอดีต อนาคต และ
    ปัจจุบัน

    การปฏิบัติพระกรรมฐานไม่ว่าจะเป็นสายใด ก็ดีทุกสาย ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกจริต
    กับเราหรือไม่ เพราะทุกสายมีจุดมุ่งหวังเดียวกันเพื่อความพ้นทุกข์
    แล้วแต่ว่าใครจะพ้นทุกข์ได้ช้าได้เร็วกว่ากัน ถ้าสมมุติว่าพระนิพพานคือกรุงเทพ
    ทุกคนมุ่งหวังที่จะไปกรุงเทพ ใครจะเดินไป จะขึ้นรถไป หรือขึ้นเครื่องบินไป
    ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่สั่งสมมา พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีกำลังใจ
    เป็นปรมัถบารมี ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าพระนิพพานได้ ถ้าปฏิบัติได้ถูกต้อง
    ตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

    ขอเชิญทุกท่านได้โมทนาบุญผ้าป่า ๓ กองบุญร่วมกันครับ
    http://palungjit.org/showthrea...=158315&page=3

    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เพียงท่านแวะชมและโมทนาท่านก็จะได้บุญได้กุศลตามกำลังใจของแต่ละท่าน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2008
  12. dhammashare

    dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +189
    <center>มโนมยิทธิญาณ
    </center> ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน
    ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิตรูปอันเกิดแต่ใจ
    คือ นิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง

    ดูกรผู้มีอายุ ภิกษุใดรู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นควรหรือที่จะกล่าวว่า ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น
    หรือว่าชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง บรรพชิตทั้งสองนั้นกล่าวว่า ท่านผู้มีอายุ ภิกษุใด
    รู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นไม่ควรจะกล่าวว่า ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น หรือว่าชีพอย่างหนึ่ง
    สรีระอย่างหนึ่ง ดูกรผู้มีอายุ เรารู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ เราจึงมิได้กล่าวว่า ชีพก็อันนั้น
    สรีระก็อันนั้น หรือว่าชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง.

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ บรรทัดที่ ๔๖๓๐ - ๔๙๖๐. หน้าที่ ๑๙๓ - ๒๐๗.
    http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=9&A=4630&Z=4960&pagebreak=1


    </pre>
     
  13. ราเมง

    ราเมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +120
    จะสายไหนก็ได้พบพระพุทธเจ้าเหมือนกันคับ
    ไม่ว่า มโนมยิทธิ(หลวงพ่อฤาษี) ธรรมกาย(หลวงพ่อสด) สติปัฎฐาน4(หลวงพ่อจรัญ)
    ธรรมะเปิดโลก(หลวงพ่อคง) พุทโธ(หลวงปู่มั่น) ผมว่าดีทุกสายล่ะคับเพราะผมฝึกมาหมดแล้วแต่ผมจะถนัด มโนมยิทธิ กับ สติปัฎฐาน4 มากกว่า เราก็อย่าไปสงสัยในตัวครูบาอาจารย์หรอกคับ เดี๋ยวจะเป็นการปรามาสแบบไม่รู้ตัวจิงๆนะคับ.....
     
  14. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    เข้าใจแล้ว ครับ ข้อมูลดีจริงๆ มีเพิ่มเติมอีกใหม
     
  15. mangmumdam

    mangmumdam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ใยคนโพสถ์ได้กล่าวเทียบอย่างนี้ ที่ว่าสายพุทโธกับสายพองหนอยุบหนอปฏิเสธการเห็นภาพในสมาธิเป็นนิมิตลวงประหนึ่งว่าสองสายนี้ปฏิเสธไปเสียทั้งหมด จึงติงมาด้วยความเคารพอ้างจาก"สำหรับสายพุทโธกับสายยุบหนอพองหนอ มีแนวคิดที่ว่าการเห็นในสมาธิเป็น
    นิมิตลวง จึงปฏิเสธการเห็นในการปฏิบัติธรรม แต่ถ้าใจเขาเปิดกว้าง เขาย่อมรู้
    ทางจิตด้วยว่า สิ่งที่มาสอนธรรมทางใจนั้นคือ พรหมภูต และธรรมภูต ซึ่งก็คือ
    พระพุทธเจ้า(ตถาคต)นั่นเอง
    "
     
  16. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    อย่างนี้ไหมครับ.....ทั้งข้อดีข้อเสีย.....หากเราเข้ามาตรงนี้แล้วก็เอาธรรมข้อนี้มาสนทนากันตามกาลอันดีอย่างนี้แล้ว....เพราะบางทีกิเลสมีตั้งสามขาสี่ขาเหมือนท่านครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้.....แล้วทำไมเราไม่ไปสู้กิเลสโดยเป็นแมงแสนขาละครับ(หากไปกำหนดรูปเห็นตัวมันยี้อีก....นาม...แมงแสนขา).....เอาทั้งสามสี่วิชาไปรุมมันเลยเหมือนไปขอลูกสาวเขา.....หากใจไม่เป็นกิเลสจะไปทำอะไรอย่างอื่น.....หน้าต่างก็ทางเข้าประตูก็ทางเข้าหลังคาผมก็จะเข้าผมรักจริงไม่ได้คิดว่าเข้าไปแล้วจะไปจบเรื่องอย่างว่านั่น.....นี่เรื่องสมมุติเรื่องกิเลสนะครับ.....ปีนเข้าหน้าต่างมาก็อย่าให้กิเลสมันรู้ก็แล้วกันเดี๋ยวโดยกิเลสมันสอยร่วงอีก....
    มา...มาช่วยกันครับ....เอาแต่มัชณิมาปติปทามา.....เอาพลังธรรมพลังจิตมา....แต่อย่าเอาพรรคท่านมาด้วยนะ.....ความเห็นไม่ตรงกันเปลี่ยนกันมองเป็นกระจกเพราะบางคนเป็นเดือนไม่ได้เห็นหน้าในตัวเองในกระจกเลยก็มี....ลืมตัวลืมตนไปเลยครับ....ให้เพื่อนเขาช่วยชี้ให้เห็นให้ดูบ้างว่าเฮ้ยผมเริ่มหงอกข้างหลังแล้วนะ.....นั่นไงมรณานุสติมาเยือนแล้วเรามองไม่เห็น.....อย่าลืมนะครับ....ถกกันเถียงกันในอารมณ์อุปจารสมาธิใครมีณานเจ็ดณานแปดก็มาช่วยดูน้องๆกันรวมทั้งกระผมด้วย(ชอบจัดมวยครับ)....ระงับตัวอัตตนอัตตาก่อน....มัชณิมาไม่เอาพรรคพวกมาด้วยเอามาด้วยก็ให้อยู่ในณานรวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน....ควบคุมกันเองให้ได้ควบคุมไม่ได้เดี๋ยวไปยึดค่ายทหารเขาอีกเดี๋ยวยุ่งเลยพลังอะไรจะไปสู้เขาได้ขนาดเขาเดินเป็นหมู่เขายังต้อง...ซ้าย-ขาว..ๆ...มากันเป็นแถวเลยสหบาทา.....มาช่วยกันสร้างแมงแสนตีน(อ้าวว่าจะพิมพ์คำว่าขานา)ตัวใหญ่ๆไปปราบกิเลสกันดีไหมครับ....(ไม่แน่กิเลสอาจจะมีแสนกับอีกหนึ่งไอ้ที่เกินนี่แหละตัวร้ายอย่าไปอยู่ใกล้เชียว....แสนรู้ไปหมด....).....เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2008
  17. ทรัพย์พระฤาษี

    ทรัพย์พระฤาษี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175


    โมทนาคับ เห็นด้วยทุกประการ
     
  18. freedom

    freedom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +301
    ขอเพิ่มเติมกลัวหลายท่านอาจสงสัยและเขวออกนอกทาง สายพุทโธ พูดถึงการเห็นในนิมิต ท่านไม่ปฏิเสธหรอกว่าผลของการทำสมาธิไม่มีนิมิต แต่ท่านไม่ให้สนใจ และติดใจ ยึด หลง เพราะจะเป็นการส่งจิตออกนอกกาย และมรรคผลไม่ได้อยู่ที่นอกกายเลย ยังคงอยู่ในอาการ 32 ประการ จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้พ้นทุกข์
     
  19. Tenpokensin

    Tenpokensin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +1,639
    เปรียบเสมือนการกินยา ยามีหลายขนาน หายช้าบ้าง เร็วบ้าง ขมบ้าง หวานบ้าง แต่ท้ายที่สุดจุดประสงค์ก็เพื่อให้หายจากความเจ็บไข้ไม่สบายนั่นแล
     
  20. Anocha

    Anocha สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +1
    ดิฉันฝึกแบบ สติปัฏฐาน 4 ค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...