แห่นอนโลงสะเดาะเคราะห์คนปีมะ เถาะ ชวด ระกา จอ ฉลู

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย lekgunner, 25 สิงหาคม 2008.

  1. lekgunner

    lekgunner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    777
    ค่าพลัง:
    +2,693
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>แห่นอนโลงสะเดาะเคราะห์คนปีมะ เถาะ ชวด ระกา จอ ฉลู

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>


    คนปีมะ เถาะ ชวด ระกา จอ ฉลู แห่นอนโลงศพสะเดาะเคราะห์ที่เมืองย่าโม ปิดฝาโลงสวดบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ประพรมน้ำมนต์ 108 วัดเพื่อความเป็นสิริมงคล ชาวบ้านเชื่อจะทำให้เป็นคนใหม่ ขจัดสิ่งชั่วร้ายและทำให้เจริญรุ่งเรือง
    พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่และได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากครั้งนี้ มีขึ้นระหว่างเวลา 08.00-13.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม ที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยกลุ่มมิตรสัมพันธ์ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้จัดพิธีสะเดาะเคราะห์ครั้งใหญ่ ด้วยการให้คนลงไปนอนในโลงศพ ที่จัดเตรียมมาทั้งหมด 59 ใบ วางเรียงรายกัน ท่ามกลางความสนใจของผู้เข้าร่วมพิธีหลายพันคน โดยเฉพาะผู้ชายที่เกิดปีมะเมีย เถาะ ชวด และระกา ส่วนหญิงที่เกิดปีมะแม จอ ฉลู และมะโรง ที่ตามตำราโหราศาสตร์ระบุว่า ปีนี้จะมีเคราะห์ ได้เข้าร่วมพิธีเพื่อแก้เคล็ดแก้ดวงจำนวนมาก

    บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้มาแจ้งชื่อประสงค์ขอนอนในโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์กันอย่างมากมาย เจ้าหน้าที่ต้องจัดคิวให้ตามลำดับ โดยขอกำลังนักศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 1 ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย 2 จำนวน 80 คน มาอำนวยความสะดวก จากนั้นเรียกตามคิวให้ไปนอนคราวละ 59 คน ซึ่งพิธีการนอนโลงศพถือดอกไม้ธูปเทียน นอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก ปิดฝาโลง จากนั้นพระสงฆ์จำนวน 4 รูป สวดบังสุกุลตาย และให้ผู้นอนในโลงหันหัวกลับมานอนทางด้านทิศตะวันออก พระสงฆ์สวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีลให้พร เป็นขั้นตอนสุดท้าย ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

    นายจำลอง กาญจนวัฒนา คณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า โลงศพที่ใช้ทำพิธี ประกอบขึ้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับการสะเดาะเคราะห์โดยเฉพาะ โดยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นผู้ประกอบพิธีให้ และสุดท้ายผู้ที่ลงไปนอนในโลงศพจะได้รับการประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่นำมาจากวัดชื่อดังต่างๆ ทั่วประเทศรวม 108 วัด โดยการสะเดาะเคราะห์ครั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และผู้จัดงานยังมีน้ำพระพุทธมนต์จาก 108 วัด ใส่ถุงแจกจ่ายแก่ประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้ทุกคนอีกด้วย

    "พิธีสะเดาะเคราะห์โดยการลงไปนอนในโลงศพ เป็นความเชื่อมาแต่โบราณว่า หากผู้ใดที่มีเคราะห์ มีวิบากกรรม มีปัญหาขัดข้องหรือมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตในช่วงระยะเวลาและในปีดังกล่าว ถ้าหากได้กระทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ด้วยการลงไปนอนในโลงศพ มีพระสงฆ์ประกอบพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายเหมือนพิธีสวดอภิธรรมศพคนตายและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ ก็จะเป็นสิริมงคลที่ดีแก่ชีวิต เป็นการขจัดปัดเป่าปัญหา อุปสรรคและภัยอันตรายทั้งปวง จะทำให้ชีวิตของผู้นั้นดีขึ้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ และเชื่อว่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ตายไปกับคนเก่าแล้ว ต่อไปนี้ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำแต่ในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคมและประเทศชาติ" นายจำลองกล่าว

    ด้านนายวิชัย นันทธนถาวร ประธานกลุ่มกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ได้จัดให้มีการประกอบพิธีนี้ขึ้น มีผู้สนใจเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ปีนี้จึงเพิ่มโลงศพเป็น 59 ใบ ถือเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ที่ให้คนลงไปนอนในโลงศพมากที่สุดในโลก เป็นการทำลายสถิติเท่าที่เคยทำมาในประเทศไทยและในโลกนี้ สำหรับปี 2551 ผู้หญิงที่เกิดปีมะแม ปีจอ ปีฉลู ปีมะโรง และผู้ชายที่เกิดปีมะเมีย ปีเถาะ ปีชวด และปีระกา ควรจะได้สะเดาะเคราะห์ในปีนี้เพราะตามความเชื่อในโหราศาสตร์ระบุว่า บุคคลที่เกิดปีดังกล่าวจะตกราหูคนถูกจองจำต้องโทษ ตกพญานาคราชและตกคนคอขาด เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายดังกล่าวและปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งสุขภาพพลานามัยที่ไม่ดี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองประสบผลสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงานและครอบครัว

    นายวิชัยกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มมิตรสัมพันธ์ได้จัดพิธีทอดผ้าป่าหีบศพเพื่อผู้ยากไร้ได้โลงศพกว่า 2,500 ใบ ในปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ว่าหากมีผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคปัจจัยมากๆ ก็จะได้โลงศพเพื่อบริจาคให้ผู้ยากไร้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,999 ใบ เพื่อมอบให้ผู้ยากไร้และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นปีที่ 9 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีองค์กรการกุศล วัด มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ได้แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคหีบศพมายังกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นจำนวนมาก จ.ส.อ.พรมมา ยีรัมย์ ชาวจ.สุรินทร์ผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากสะเดาะเคราะห์ด้วยการนอนโลงศพแล้ว ชีวิตจะเหมือนเกิดใหม่ และจะมีสิ่งดีเข้ามาในชีวิต เคราะห์ภัยที่อาจจะเผชิญอยู่ก็จะหมดไป ชีวิตต่อจากนี้จะรุ่งเรือง การงานเจริญก้าวหน้า ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ครอบครัวจะพบแต่ความสุข และกิจการค้าของครอบครัวจะเจริญก้าวหน้า น.ส.วิมลพรรณ อัครวสิน ชาวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า มีความเชื่อว่า การสะเดาะเคราะห์โดยการนอนในโลงศพจะสามารถช่วยปัดเป่าภัยอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง หรืออุปสรรคต่างๆ ที่คอยขัดขวางให้การดำเนินชีวิตไม่ราบรื่น และหลังจากที่ได้ร่วมพิธีแล้วก็เหมือนกับได้เกิดใหม่ เป็นคนใหม่ ต่อไปนี้จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต รู้สึกสบายใจอย่างมาก



    [​IMG]



    _______________________________________​



    แนะนำ พิธีสะเดาะเคราะห์ วัดท่าซุง

    (โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน คัดจากหนังสือสมบัติพ่อให้เล่ม ๑ หน้า ๒๔๓ -๒๔๘)

    http://palungjit.org/showthrea...34#post1227134





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ภัทรลีญา

    ภัทรลีญา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +1
    อยากทราบว่าพิธีนี้ เป็นความเชื่อของศาสนาพุทธหรือเปล่าคะ

    ขอบคุณคะ
     
  3. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    เห็นม่ะเริ่มออกแนวธุรกิจ ล่ะ
    เด้วจังหวัดโน้นจังหวัดนี้จัดกันอีกล่ะ
    พร้อมกับภาพยนต์ที่กำลังจะฉาย โลงต่อตาย

    http://www.youtube.com/watch?v=c6H1RYMJ-qE

    ชาวพุทธใด...ที่มีธรรมเข้าถึงภายใน
    จะไม่ไปในลักษณะ...นี้อย่างเด็ดขาดแน่

    ความเห็นชอบ...ทางเดินข้อแรก
    ใช้แสงสว่าง...แห่งปัญญา
    ด้วยศรัทธา...ที่ประกอบโดยสัมมาทิฏฐิ


    กลัวแต่การตาย...แต่ไม่กลัวการเกิด


    บทเพลงพระอรหันต์
    สุรชัย จันทิมาธร (หงา คาราวาน)​

    [music]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=13143music]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2008
  4. จารุง นิ่มนวล

    จารุง นิ่มนวล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +105
    เคราะห์สะเดาะได้ด้วยการทำสมาธิครับเมื่อคนเรามีสมาธิก็มีปัญญาใหการใช้ชีวิตและแก้ไขปัญหาได้
     
  5. คอสโม

    คอสโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +133
    ปีมะ = มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม รวม 4 ปี
    เถาะ ชวด ระกา จอ ฉลู รวม 5 ปี
    4+5 = 9 จาก 12 ปีนักษัตร
    ทำไมมันมากขนาดนั้น
     
  6. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ทำแบบนี้ ลองไปอ่านพระไตรปิฏก ดูบ้าง หมวดไหนที่บอกให้ นอนโลงสะเดาะเคราะห์

    ก็เพราะเราไปทำกรรมไว้ เราก็รับผลแห่งกรรมนั้น หลีกหนีไปไม่พ้น รู้สึกพักหลังๆ จะเน้นสอนให้คน ทำตัวมีนิสัย "ติดหนี้ไม่ยอมใช้"

    รู้สึกพักหลังๆ นี้ ชักเริ่มงมงาย เข้าไปทุกที
     
  7. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    เปิดวัดให้กลายเป็นวิกหาปัจจัยสู้เอาเวลาไปปฎิบัติดีกว่านะ
     
  8. ตะติยะทาส

    ตะติยะทาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +846
    ธรรม ย่อมรักษา ผู้ประพฤติ ธรรม
     
  9. เรายังเลว

    เรายังเลว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +52
    ที่จริงแล้วเรื่องนอนโลง น่าจะเป็นอุบายของคนเก่านะครับ ที่เตือนสติไม่ให้ลืมความตาย แต่ตอนนี้กลายเป็นนอนเพื่อไม่อยากจะตายไปเสียฉิบ
     
  10. ช่อชมพู

    ช่อชมพู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +9
    จะดีจะชั่ว อยู่ที่ตัวเรา ทำกรรมใดไว้ ก็ย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  11. Prathuang

    Prathuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    658
    ค่าพลัง:
    +178
    รู้กาย รู้จิต ของตนเองดีที่สุดครับ
     
  12. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ถ้าทำแล้วสบายใจก็ดีครับ
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  13. ใจสวรรค์

    ใจสวรรค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +105
    ไม่ใช่ ไม่เชื่อแต่ตัวเอง คิดว่าหากกฎแห่งกรรมมาถึงไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งได้ ต่อให้ไปนอนโลงสะเดาะเคราะห์มาก็ตาม ยกเว้นเราทำกรรมดี สั่งสมกรรมดีเอาไว้มากๆ รู้จักเอื้อเฟื้อ ไม่เบียดเบียนกัน ทำให้กรรมไม่ดีตามไม่ทัน นั่นจึงจะเป็นการสะเดาะเคราะห์มากกว่า ศาสนาพุทธ สอนให้เรามีสติ ระลึกรู้ ระลึกชอบ ทำดีละชั่ว ท่านๆที่เข้ามาในเวบนี้ ก็ล้วนแล้วแต่มีวิจารณญาณทั้งสิ้น ควรรู้ว่าสิ่งใดคือพุทธ สิ่งใดคือพานิช อย่าให้ตัวหลงมาครอบงำ
     
  14. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332


    อดีตก็เป็นธรรมเมาอันหนึ่งอนาคตก็เป็นธรรมเมา พึงทำให้จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ปัจจุบัน ละปัจจุบัน ตัดตัณหาตัดกิเลส ตัดมานะทิฐิ ตัดความยึดมั่นของตนให้เสร็จลง แล้วก็สงบได้<O:p</O:p



    ทุกคนเกิดมาพบพระพุทธศาสนา คือศาสนาของผู้รู้ เราต้องพิจารณาสอนจิต สอนใจของตัวระวังรักษาอย่าให้ชั่วรั่วไหลเข้ามาทับถม ชั่วที่มีอยู่รีบทำลาย กำจัดปัดเป่าออกไปสิ่งใดที่จะนำความสุข ความเยือกเย็น ความสว่างไสว ความพ้นทุกข์พ้นภัยเรารีบกระทำบำเพ็ญ ให้จิตเห็น จิตรู้ เมื่อเราทุกคนทำอยู่อย่างนี้เราจะประสบความสุข<O:p</O:p
     
  15. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ถ้าลงไปนอนในโลงศพ แล้วทำสมาธิ เจริญอสุภกรรมฐาน อย่างงั้นเห็นด้วยค่ะ จะได้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา แต่ถ้าคิดว่าจะลงไปนอนในโลงเพื่อหนีตาย หรือเคราะห์ หนีเวร หนีกรรม ก็รู้ไว้เถอะว่าที่สุดแล้วชีวิตวันนึงก็ต้องลงไปนอนอยู่ในโลงอย่างฐาวร ณ ตอนนั้นจะทำใจได้หรือไม่ละ ที่เขาให้นอนในโลงก็เพื่อจะปลง สังขาร เห็น ความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย มากกว่านะค่ะ เป็นอุบายให้เราอย่ากลัวความตาย อย่าหลงกับชีวิต ให้เรารองตาย ก่อนที่จะตายจริงมากกว่า

    มีอยู่วัดนึงที่จังหวัดระยอง เมื่อก่อนเพื่อนมาชวนไปนอนในโลงแบบนี้เราก็ไปกับเขา ตอนนั้นยังไม่เจอธรรมะ ยังไม่ค่อยรู้อะไร เราก็รองไปดู เขาบอกว่าทำแล้วชีวิตจะดีขึ้น แต่จริงๆแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นเลยทุกอย่างเหมือนเิดิม แต่สิ่งที่เราได้จากการไปคราวนั้นก็คือ สติที่ว่าเวลาตายจริงๆมันเป็นเช่นนี้เอง ตอนที่ลงไปนอนมันก็รู้สึกขนลุก ใจหาย คิดว่าถ้าตายความรู้สึกมันคงเป็นแบบนี้จริงๆ พอลุกออกจากโลงมาได้ ก็รู้สึกโล่ง นี่แหละ คือเขาให้เราเห็นตรงนี้ ให้เราเตรียมตัวก่อนตาย เตรียมตายก่อนแก่
     
  16. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    มองในแง่บวก คิดดี ทำดี พูดดี ก็จะพบความดีที่แทรกอยู่ ให้พิจารณา ผมไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับโครงการนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อ เถียงกันไม่จบเลย... บางครั้งกลายเป็นความขัดแย้งกันไปเลย ทำแล้วเขารู้สึกสบายใจก็ปล่อยเขาเถอะ เพราะเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการบริจาคทาน ปัญญาจะเกิดตามมาเองว่าเหมาะสมหรือไม่และเรื่องโหราศาสตร์ อยู่มานานแล้วตั้งแต่สมัยพระพุทธกาลโน่น เช่น การทำนายว่าพระองค์ใดจะเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ได้เป็นก็จะเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกาลนั้น ฟังไว้ก็ไม่เสียหายอะไร แต่สำหรับผมไม่เคยเชื่อเรื่องดวง ดวงจะอยู่ที่ผมเอง อนาคตกำหนดได้ด้วยปัจจุบัน..
     
  17. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    เฉพาะปี มะ ก็ล่อไปกี่ปีแล้ว
    ไหนจะชวด ฉลู บราๆๆๆๆ
    ทำไมไม่บอกว่ามีเคราะห์ทุกปีนักษัตร
    เราก็มีมะ แต่ไม่เคยเชื่อเรื่องเหล่านี้เลย
    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วนอกนั้น ไม่เกี่ยว
     
  18. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    ความเชื่อส่วนบุคคล

    ไอ้เราก็เฉียดตายมาหลายครั้ง ตั้งเด็กจนโต
    จึงไม่เคยกลัวเรื่องความตายเลย
    ขอเพียงยังตนด้วยความไม่ประมาท
    หมั่นสร้างบุญกุศลมิให้ขาด
    เจริญวิปัสสนากรรมฐานสม่ำเสมอ
    มีพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ
    และมีมรณนุสสติเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
    จะกลัวอะไรอีกชีวิตนี้..
    สาธุ..สาธุ..สาธุ
     
  19. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
  20. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    กฎแห่งกรรม เลี่ยงไม่ได้ อย่างไรเสียทำกรรมเช่นไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น
    แต่ว่า เราสามารถ ทำให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง ทำให้กำลังของบาปอกุศลกรรมที่เราเคยทำ มีกำลังในการส่งผลได้ไม่เต็มที่ นั่นก็คือทำ กุศลกรรมคือกรรมดีให้มีกำลังเหนือกว่า

    ในที่นี้ ถ้าทำอย่างนี้ก็อาจได้ผลบ้างคือ

    เวลาเขามัดตราสัง เรา .... เราก็ควรจะคิดว่า สักวันหนึ่ง ข้างหน้าร่างกายของเราก็มีสภาพไม่ต่างจากนี้ ต้องถูกเขามัด อย่างนี้ หลีกลี้หนีไปไม่ได้เลย

    เวลาเขาจับเรานอนในโลง .... เราก็ควรจะคิดว่า สักวันหนึ่งข้างหน้า เราก็ต้องมานอน อยู่ในนี้แบบนี้ หลีกหนีไม่ได้ สมบัติพัสสถาน ที่หามาทั้งชีวิต สุดท้ายก็เอาไปไม่ได้ หรือแม้แต่ร่างกายของเราเองก็ต้องนอนแน่นิ่งอยู่ในนี้ นอนตายอยู่ในนี้แม้แต่ลูก เมีย(ผัว) ญาติ มิตรสหายของเรา คนที่รักเราหรือคนที่รักเขา ต่างก็ช่วยเรา ไม่ได้ ทั้งสิ้น

    ชีวิตเราก้แค่นี้เอง!!! มีความเกิดเป็นเบื้องต้น มีความตายเป็นเบื้องปลาย คนทุกคนเกิดมาก็ต้องมาตาย หรือแม้แต่เราเองก็ต้องมาตาย แบบเดียวกันนี้ หนีไปไม่พ้นเลย พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านตรัสถูกต้อง ดีแล้ว

    จากนั้น จงคิดว่า นับแต่บัดนี้ไป เราจะไม่มีความประมาทในชีวิต เราจักทำความดีละเว้นความชั่ว มีศีล 5 เป็นต้น ..เราจักเชื่อฟังคำสอนขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้า


    จากนั้น ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลดังนี้ว่า ขอผลบุญ ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าทำในวันนี้(ได้แก่มรณานุสติ พุทธานุสติ ธรรมานุสติ ศีลานุสติเป็นต้น) ข้าพเจ้าขออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ได้เคยล่วงเกินไว้ตั้งแต่อดีต จนถึง ปัจจุบันนี้ ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา ในส่วนกุศลนี้ และขอได้โปรดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า นับแต่นี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพาน...

    หรือจะใช้บทของหลวงพ่อฤาษีฯ ก็ได้


    แต่ก็อย่างว่า แหละคับ จะมีสักกี่คนที่ทำอย่างนี้ คนโบราณเขาฉลาดคับเวลาจะทำอะไร เขาแฝงเป็นกุศโลบายไว้ตลอด แต่จะมีสักกี่คนที่เห็นถึง สิ่งที่แฝงไว้

    แต่ถ้าทำอะไรแล้วใจสบาย ก็ ทำเถอะคับ อย่างน้อยใจก็เป็นสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...