อยากทราบว่า " การสำเร็จความใคร่ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ทำ " จะผิดศีลหรือป่าว ? จะได้อภิญญา?

ไม่บาปหรอก
สนับสนุน การช่วยตัวเองแบบไม่เดือดร้อนใครคะ

 

บางอย่างก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวครับ ไม่ควรเลียนแบบ

 

สรุปพี่อยู่ที่ใจ สบายใจมากว่าศรัษทา ก็เหนี่ยวไป ศรัษทามากกว่าก็ปฏิบัติตามศรัษฐาต่อไป
มันจะยากอะไร เนอะ

 

ก็ดีกว่า ปล้ำเขาใช่ไหม

... บางอย่าง ผิดน้อย ก็ดีกว่าผิดมาก ...

 

กลมอ้วน ปล้ำเขานั่นบาปนะจ๊ะ
ผิดศีลข้อ 999 ... ฮ่าฮ่ะฮ่ะ ..!!!

 

เอ... ทำไมกระทู้นี้มันถึงไม่ตกขอบจักรวาลหายไปซะทีล่ะเนี่ย...
(b-ng)

 

หึ หึ หึ : bat: : bat: : bat:

 

การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องที่มีเหตุผลครับ และต้องใช้เวลาครับผม
ผมว่าลองพิจารณาข้อความนี้ดูนะครับว่าถูกหรือเปล่า ถ้าเข้าใจ
ก็แสดงว่าทำถูกต้องและก็ควรแล้วปฏิบัติต่อไปได้ครับผม ข้อความ
ง่าย ๆ สั้น ๆ แต่ความหมายสุดยอด แล้วลองหาคำตอบดูนะครับ

"เมื่อสามรถ ลด ได้ จง ลด เถอะ
เพราะเมื่อเรา ลด ได้บ้างแล้ว
บ้างเวลาเราก็จะ ละ มันได้ และ
เมื่อเมื่อเราได้ ลด และ ได้ ละ จนเป็นปกติแล้ว
มันก็จะ เลิก ไปโดยปริยาย ซึ่งผู้ปฏิบัติเท่านั้น
จะสัมผัสกับอารมณ์แห่งธรรมนั้นได้ "

จากผม.....ผู้มีปัญญาน้อยครับ อิ อิ

 

ถ้าหากได้อภิญญาแล้ว เรื่องความไคร่เรื่องกามก็จะลดลงมาจนแทบจะไม่มีแล้วละครับ แทบจะไม่คิดเรื่องนั้นเลย.....

 

เจตนาครับ ผมว่าอยู่ที่เจตนา เราไม่ได้ไปเบียดเบียนใครให้เป็นทุกข์ แต่ถ้าทำแบบหมกมุ่นมาก ๆ เกิดจิตใจเศร้าหมองเป็นทุกข์อีกแหละ ถ้าทำแบบสบาย ๆ ไม่เศร้าหมองก็จะมีความสุข..5555
มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่ยังตัดกิเลสไม่ขาด
มีหลวงปู่ท่านหนึ่งจำไม่ได้ว่าท่านใด กล่าวไว้ว่า หนทางสู่นิพพานมีสิ่งหนึ่งที่ตัดได้ยากยิ่ง
สิ่งนั้นคือ กามราคะ

 

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านบอกไว้ว่า
"ไม่มีใครตัดให้ขาดได้หรอก มีแต่รู้ทันเมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"

 

ถ้าไม่ได้บวชก็ไม่ผิดศีล

เพียงแค่ใจมันไม่บริสุทธุ์เท่านั้นเอง มันจะทำให้ได้ฉานอยากก็เท่านั้นเอง

 

เรื่องนี้เคยสงสัยเหมือนกันครับ..พอเรียนรู้มาบ้างก็ขอเอามาเล่าให้ฟังครับ..

มนูษย์เราได้ถูกองค์แห่งธรรมชาติออกแบบสร้างขึ้นมาจากบรรพบุรุษของเราในอดีต รวมถึงสัตว์ต่างๆก็เช่นกัน ล้วนถูกใส่รหัสเหล่านี้เอาไว้เรียบร้อย เรียกกว่า"รหัสแห่งการดำรงอยู่"เพื่อการสืบทอดเผ่าพันธ์ครับ..ไม่เช่นนั้นป่านนี้อาจต้องสูญพันธ์ ไม่มีผู้ทำหน้าที่รักษาสมดุลย์ให้กับโลกใบนี้ต่อๆไปนะครับ..
เพียงแต่อย่าไปใส่รหัสเหล่านั้นเพิ่มเติมเข้าไปมากเกินความจำเป็น เหมือนเครื่อง harddise computer ถ้าใส่ข้อมูลที่เกินจำเป็นเครื่องก็จะช้าอืดอาด ต้องมีการ format ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไปเสมอๆ ให้คงอยู่ตามคุณสมบัติเดิม..
ร่างกายจึงมีต่อมไร้ท่อ มีฮอโมลน์ต่างๆ โดยขับเคลื่อนไปตามธรรมชาติเป็นปกติครับ..แต่จิตของมนุษย์เรากลับยิ่งพิเศษกว่าร่างกายของเราเสียอีก สามารถอยู่เหนือกฏเกณฑ์ทางชีวะภาพเหล่านี้ได้ถ้าหากมุ่งมั่นและหวังการหลุดพ้น..ก็สามารถก้า้วพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้ครับ..

 

การช่วยตัวเอง นะครับ บอกอยู่แล้ว ชัดๆ เลย ว่า ช่วยตัวเอง มันจะบาปไปได้อย่างไร การเกาะเขากิน หรืออาศัยคนอื่นกิน นั่นแหละเป็นบาป ครับ ไม่ได้พาลนะท่าน
- ใน ขณะที่ เกิดอารมณ์ เป็นกิเลส แต่ เป็นกิเลสที่ ทีกระ่ทำเพื่อให้ตัวเองพ้นทุกข์ ในขณะนั้น เป็นประจุลบครับ กระทำเพื่อให้เกิดประจุบวก เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว หญิงใดที่เราเหนี่ยวนำมาสร้างมโนภาพ ก็จะได้กระแสประจุบวกโดยอัตฺโนมัติครับ อันนี้ ผมเคยทดสอบ กับผู้หญิงที่ เป็น ศัตรูกัน ไม่ถูกกันนั่นเองครับ
แต่เวลาผมเกิดอารมณ์ทางเพศอยากช่วยตัวเอง ไม่รู้ จะนึกถึงใคร เพราะไม่เซกซี่ พอเท่า ผู้หญิงคนที่ เป็นคุ่ปรับกันนี้ครับ ฝืนๆหน่อย จนเกิดอารมณ์ เต็มเหนี่ยวครับ นึกเห็น ซวดทรงองค์เอง ต่างๆ ก็สามารถถึงจุดสุดยอดได้เช่นกัน แล้ว ให้สังเกตุนิ๊ดหนึ่ง ช่วงหัวเลี่ยวหัวต่อครับ ขณะใกล้ถึงจุด จะมี กระแสจิตวิ่งเร็วกว่าจรวดครับ พุ่งไปยังเป้าหมาย คือผู้หญิงคนนั้น ได้รับเต็มๆ ครับ เป็น พลังหรือประจุบวกครับ
เรียกเป็น ฌาณโลกีย์ ครับ จะไม่ไปสวรรค์ สูงมากอย่างดีก็แด่ดาวดึงห์ หรือต่ำกว่านั้น ประมาณนั้น
- แล้วอีกอย่าหนึ่งครับ เป็นการเพิ่มประจุบวกให้กับ โลกกลมๆใบนี้ ด้วยครับ เป็นมิติหนึ่งที่ยังไม่มีใครค้นพบครับ เราท่านทั้งหลายอย่าได้ รังเกียจหรือดูถูกกับ พวกไวรุ่นที่ชอบช่วยตัวเอง มากเลย ไม่ได้เข้าข้าง นะครับ แต่ เป็นความจริงนะครับ ว่าโลกกำลังต้องการ ประจุบวก หรือกระแสไฟฟ้าที่เป็นบวกจาก พืชต้นไม้ สัตว์ และคน ตลอดทั้งอื่นๆ ครับ ก็ต้องได้จากการกระทำจากพืช สัตว์ และคน ที่ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เนี้ยแหละครับ กินก็ให้กินอย่างอร่อย จิตก็คายประจุบวกออกมา ถ่ายก็ขับถ่ายอย่างมีความสุข ก็ปล่อยประจุบวกเช่นกัน ครับ จึงเกิดเป็นห้องสุขา ขึ้นไงครับ 5555 เมื่อปลดปล่อยแล้วมีความสุขจริงๆ แม้แต่ การร่วมเพศก็เช่นกัน ทั้งคู่ก็ ช่วยกันปลดปล่อยพลังงานด้านบวกออกมามากมายครับ เพราะเป็นการเช้าฌาณชนิดหนึ่ง ครับ แต่เป็นฌาณโลกีย์ นั้นเอง หรือการเข้าฌาณแบบฤาษี ก็เป็นฌาณโลกีย์ เช่นกัน แต่อีกแบบหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงเรียกว่าเป็นฌาณโลกีย์ ครับ ก็ ปลดปล่อยประจุบวก มากกว่า แบบแรกมากครับ และแบบสุดท้ายคือการเข้าฌาณโลกุตตระครับ อันนี้ก็ ปลดปล่อยไฟฟ้าประจุบวกมากว่า แบบสองครับ เป็นต้น พูดมาตั้งนาน ไม่ได้เข้าข้างผู้ชายด้วยกันนะครับ ด้วยความสัตย์จริง เท่าที่ค้นพบ ผิดถูกก็พิจารณากันเองนะครับ
ยังมีอีกมากมายที่ยังไม่ได้พูด เท่าที่เวลาอำนวยนะครับ
- สรุป การช่วยตัวเอง ทางการแพทย์สนับสนุนครับ ทางศาสนาห้ามครับ
ทีนี้ ถามอีกคำครับว่า ท่านเป็นพระ หรือเป็น ชาวบ้านธรรมดา
ให้ข้อคิดอีกนิด ว่า ถ้าเป็นพระก็อย่าทำตัวแบบฆราวาสครับ
ถ้าเป็นฆราวาสก็อย่าทำตัวแบบพระ แค่นี้ ท่านผู้ อ่านก็ตัดสินใจตอบในใจได้เอง ไม่ต้องสงสัยใดๆ อีกเลย ครับ

 

เสริมข้างบนครับ......
ทุกคนทำเพื่อโลกทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวครับ เราเคยสังเกตุกับบ้างไหมครับ ว่าโลกต้องการอะไรจากพวกเรา สรรพสัตว์ พืชพันธ์นานา หรือวัตถุแร่ธาตุ ต่างๆ กันบ้างไหม ส่วนมาจะมองข้ามกันครับ พวกเราก็มา ก็เพื่อจะช่วยโลกกลมๆ ใบนี้ นี้เองครับ ทั้งช่วยทางตรงและทางอ้อมครับ ทางตรงเช่น ช่วยปลูกป่า รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างขยะให้รกโลก ฯลฯ ทางอ้อมก็เช่น รักกัน ชอบกัน เหนี่ยวนำความรักต่อกัน ทั้งคนกับคน คนกับสัตว์ และคนกับวัตถุสิ่งของ ต่างๆ เพราะในขณะที่คนรักคน ก็ จะเกิดพลังชนิดหนึ่งที่ถูกปลดปล่อยออกมา โดยไม่รู้ตัว มีค่า เป็นประจุบวก เรียกในทางศาสนาคือบุญ ซึ่งแปลค่าเรียกตามสังคมว่า ความรัก นั่นเอง ตัวนี้แหละจะเป็นตัวเหนี่ยวนำ กระแสพลังงานออกมาจากตัวคน สู่โลกกลมๆ ด้วยแรงดึงดูดของโลกเป็นตัวดูดซับอีกทีหนึ่ง จะสังเกตุได้ว่า สถานที่ซึมซับพลังงานบวกมากๆ ในโลกนี้ ก็มี หลายๆจุดครับ เช่น สถานที่จัดคอนเสริต์เพลงที่ชื่นชอบ ท่านคิดดู คนไปฟังเป็นหมื่นเป็นแสน ทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการเพ่งอยู่ในอารมณ์เดียว ตั้งเป็นหมื่นๆ คน แล้วพลังงานประจุบวกจะออกมาสักชนาดไหนครับท่าน แล้วยิ่ง เมืองนอกสนามกีฬาฯ แข่งบอล อีกละ คนเป็นแสน ประจุบวกสักปานใด 555 คิดต่อเอง เพราะโลกต้องการประจุบวกเหล่านี้ แหละไปทำปฏิกิริยา ทางเคมี เพื่อการทรงตัว หมุนรอบตัวเอง สร้างพลังงานทดแทน และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ขอพูดตรงนี้ ครับ
เพราะฉนั้น การร่วยเพศ และการช่วยตัวเอง ไม่ว่าของ หญิงหรือชาย ก็สามารถ ทำให้เกิดพลังงานตรงนี้ได้เช่นกันครับ เป็นความลับของมิติโลกที่ต้องค้นคว้าเอาเอง ทางศาสนาก็เช่นกัน ่เมื่อถึงแล้วก็รู้เอง บรรลุแล้วเห็นเอง ทำนองนั้นครับ ไม่เชื่อลองถามคุณ เวปสโน ดู 5555
แม้แต่การคิดดี ทำดีทุกอย่างในชีวิตประจำวัน จะมีประจุทั้งลบ และบวก ออกมามากมายก่ายกองครับ
แต่โลกจะดูดซับไว้เฉพาะประจุบวกเท่านั้น ส่วนประจุลบก็จะถูกทอดทิ้งไว้ให้เจ้าของประจุ ซึ่มซับเอาเอง หรือต้องจัดการเอาเอง ทางศาสนาเรียกว่า ต้องชดใช้กรรม การกระทำของตัวเอง เช่น ไอ้.พ ั น.ไม่เอ๋ยชื่อ.555.
ไปข่มขึนเด็กผู้หญิง ถามว่าบาป หรือไม่ ตอบได้ทันทีไม่ต้องคิดครับว่าบาป แน่นอน
แต่ถ้ามองในมิติของจักรวาลแล้ว แยกได้ว่า ขณะอารมณ์หึ่น เป็นบาปแล้ว ขณะข่มขืนกระทำกรรมอยู่ กำลังร่วมเพศจะมี ประจุลบ และคลุกเคล้าด้วยประจุบวกออกมาด้วย อารมณ์สุดยอดไง แต่เร็วมาก เพราะในใจต้องรีบๆ ตกใจ กลัวคนเห็น กลัวตำรวจ แต่อีกใจหนึ่ง ยากจะให้สำเร็จความใคร่ตรงนี้เร็วๆ เมื่อมันทำเสร็จแล้ว จิตจะได้ประจุบวกชั่วขณะหนึ่ง แวป แล้ว ประจุลบก็จะเข้ามาแทนที่ทั้งหมด
เราจะสังเกตุ จุดนี้นะครับ ว่าประจุบวกที่ปลดปล่อยออกมาตอนถึงจุดสุดยอด ได้ถูกดูดซับจากแรงดังดูดของโลกเอาหมด ก็เหลือไว้แต่เพียงประจุลบ 555 คราวนี้แหละไอ้ พ ั น ..มึงต้องหนีหัวซุกหัวซุง แล้วละ จนจับได้ เข้าคุกไป เพราะจิดใต้สำนึกมันได้ดูดประจุบวกเอาไว้ เพราะให้โลก โลกไม่รับ เลยต้องรับไว้เอง 555 คือรับกรรมเอาไว้นั้นเอง ผลการกระทำ นั้นแหละท่าน 5555
พอเข้าใจนะครับ เราคนนอกต้องแสดงความขอบคุณเจ้า พ ั น มันนะครับที่ แสดงบทบาทได้สมกับเป็นตัวละครจริงๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหมด ไม่ควรไปประนามเขานะครับ ต้องขอบคุณแผ่เมตตาให้เขา ส่งความรักให้เขา เพราะเขาเป็นตัวแทน่ที่เป็นคนชั่วแทนเรานั้นเองหรือเป็นครูของเรา
เห็นไม๋ ว่า คนชั่วคนดี มีค่า เท่ากัน (มองในแงของจักรวาลนะครับ) อย่าเข้าใจผิดกันโน้อ
ถ้าโลกนี้ มีแต่ คนชั่ว โลกก็หยุดหมุนครับ หรือมีแต่คนดีทั้งโลก โลกก็หยุดหมุนเช่นกันครับ คิดเองต่อนะ 555
หรือมีแต่กลางวัน มีแต่กลางคืน 5555 ไม่ได้ ครับ ต้องมีคนชั่ว / คนดี ไว้สร้างความสมดุล กันครับ
แต่ในยุกต์นี้ เท่าที่ดูแล้ว คนชั่ว หรือประจุชั่วมันมากว่า คนดี หรือประจุบวก มากจนเกินไปแล้ว ครับ
พูดแบบชาวบ้านก็ คนชั่ว หรือ ประจุลบ มันมาจนเกินแล้ว แก้กันไม่ไหวแล้ว
- ยัง ๆ ครับอย่าเพิ่งผิดหวังครับ เพราะเราไม่ได้อยู่ โดดเดี่ยวเดียวดายครับ ยังมีจักรวาล รอบข้างอีกเยอะครับ ที่ต้องมาช่วยเรา โดยผ่านทาง ดวงดาว ดาวหาง มนุษย์ต่างดาว และอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งตอนนี้ พวกนี้แหละจะมาช่วยเรา และกำลังช่วยอยู่ในขณะนี้ด้วย แต่จะไม่พูดถึงตรงนี้ครับ 5555
เขาจะมาช่วยปรับความสมมดุลให้กับพวกเรา โดยอาศัย ดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติ ต่างๆ ที่เห็นๆ อยู่ครับ
รับรองว่า ไม่ใช้ วันล้างโลก แน่นอน ท่านผู้ อ่านต้องทำใจ ให้เป็นกลางนะครับ ฝนตกเพื่ออะไร ก็เพื่อชะล้าง บางสิ่งบางอย่าง เหมือนเราสาดนั้น ตอนสงกรานต์ ก็เพื่อ ผ่อนคลายร้อน เพื่อรักษาประเพณี หรือฤดูการนั้นเอง
ไอ้ที่ฝนตกหนัก แผ่นดินไหว น้ำท่วม อะไรต่างๆ ก็กระทำเพื่อปรับความสมดุล นั้นเองครับ แต่อาจจะกระทบกระเทือนต่อ พ่อแม่พีน้อง ผองชาวโลกบ้างเขา ก็ขออภัย มาทาง สายรุ้งบ้าง ธรรมชาติ อันสดใสของต้นไม้ หรือธรรมชาติทดแทนอย่างที่ภูเก็ตเห็นไม่ว่า ทัศนียภาพยิ่งสวยกว่า เก่าเสียอีก ครับเนี้ย เราต้องทำใจให้กว้าง มองการไกล มองเพื่อประเทศ โลก แล้วจะเห็นอะไร ต่อมิอะไร ดังกล่าวครับ 555
ฉนั้น มาพูดถึง การสำเร็จความใครด้วยตัวเองอีกทีหนึ่งครับว่า เป็นผลดีเสียอีกแทนที่จะมานั่งกังวลอยู่ ว่าเรื่องบาป หรือไม่ ผิดศีลหรือไม่ เราไม่ได้ ไปสำเร็จความใครบนเวที ท้องสนามหลวง หรือ ห้องประชุม ก็เหมือน
เขาทำธุระส่วนตัว ในห้องน้ำดีๆ นี้แหละ ที่ขอย้ำตรงนี้ เพื่อไม่ให้วัยรุ่นมาคาใจถึงเรื่องนี้ครับ
แต่ไม่ให้มัน หมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ จนมากทำให้ร่างการอ่อนเพลียจนเกินไป ก็เท่านั้นเอง
จากการทดลอง เรื่องนี้ ครับ 5555
- ถ้าคุณสำเร็จความใครในตอนเช้า วันนั้นทั้งวัน จิตใจจะไม่สงบ งานต่างๆ จะวุ่นๆ ฉนั้นไม่ควรทำตอนเช้า
- ถ้าคุณสำเร็จตอนเย็นหรือก่อนนอน เป็นเวลาที่ดีที่สุดครับ เพราะเป็นยานอนหลับที่เยี่ยมจริงๆ 555
- ไม่ควรสำเร็จความใครในห้องน้ำ เพราะประจุลบที่เกิดจากแก็สหมักหมม จากอุจจาระ-ปัสวะ ปฏิกูลต่างๆ จะระเหยขึ้นมาในรูปพลังอีกมิติหนึ่ง ตาเรามองไม่เห็น จะมาสลายประจุบวกที่เราช่วยตัวเองตรงนี้ครับ ทำให้เราหงุดหวิด เมื่อทำเสร็จ ให้ใช้สถานที่ ห้องนอนหรือห้องแต่งตัว หรือที่อื่นๆ ยกเว้นห้องพระครับ
เพราะประจุบวกที่ออกมาคนละชนิดกัน ประจุบวกในห้องพระครับ 5555
แล้วอีกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ ในขณะช่วยตัวเอง ถ้าสามารถสร้างพลังงานอารมณ์ด้วยตัวเองได้จะดีมากครับ โดยไม่ต้องนึกมโนภาพถึงผู้หญิงที่ตัวเองยาก 555 เพราะอะไรจากการทดลองอีกละครับ ถ้านึกมโนภาพจะทำให้เราอ่อนเพลียมากว่า เพราะต้องส่งพลังงานส่วนหนึ่งให้กับเขาด้วยไง 5555
พอมีเหตุผลไม่ท่าน 5555 เอ่อ แต่ถ้าใครมีเมียแล้ว ยังช่วยตัวเองอยู่ ต้องขออนุญาติเมียก่อนครับ
มิฉนั้น จะอ่อนเพลียผิดปกติครับ เพราะ ไม่ได้ถ่ายเทพลังงาน ไป-กลับเพื่อสร้างความสมดุล ครับ
และอีกอย่างจิตใต้สำนึก ของเมียที่ฝังตัวอยู่ในเรา จะทำปฏิกิริยาต่อต้านเราโดยที่เราไม่รู้ตัวตรับ ในทางกลับกัน ถ้าเมียแอบช่วยตัวเองโดยไม่ได้บอกเรา ก็จะเกิดอาการคล้ายกัน แต่จะไม่เพลียแบบเรา แต่อารมณ์ จะฉุนเฉียวเห็นได้ชัด
ถ้าใครไม่ช่วยตัวเองเสียเลย ก็ไม่ได้ครับ เพราะจะทำให้ ต่อมลูกหมากโต และมีปัญหาทางเดินปัสาวะครับหรือลามไปถึงไตด้วยครับ
สรุป ให้เดินทางสายกลาง จะทำอะไร ก็อย่างประเจิดประเจ้อ ครับ เพราะความลับ ก็อย่าไปเปิดเผย ของลับก็อย่านำไปเปิดเผยครับ ไม่เชื่อลองไปงัดเจ้าโลกโชว์ ดู จะเกิดอะไรขึ่น 555
บอกแล้ว ในโลกนี้ ต้องมีความลับ อยู่ เสมอครับ เช่นความลับสวรรค์ ใครไปเปิดเผยดูซิ เป็นเรื่องเห็นมาหลายรายแล้ว หรือความลับทางราชการลองไปเปิดเผยดูซิ หิๆๆๆ
พิมพ์มาเสียยาวนาน หวังว่า คงเคลียกับแล้วแหละ ให้สบายใจกันได้ว่า การช่วยตัวเอง ไม่ได้บาปอย่างที่คิดๆ กันครับ รู้จักคิดก่อนคิด 555 รู้จักคิดทำ รู้จักนำความสุขมาให้ตัวเองโดยธรรมชาติครับ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก เช่น นั่งสมาธิ .... เป็นต้น 55555 หวัดดีครับ เจอะกันเมื่อชาติต้องการครับ 5555

 

เดี๋ยวครับ ..คุณนิวตัน ผมว่ามีอีกนิดหน่อยที่ต้องขอเพิ่มเติมสักเล็กน้อย (ว่าจะไม่เข้ามาแล้วเชียวกระทู้นี้..)

การที่คุณเข้าไปอยู่ในสถานที่บางแห่งที่มีสภาวะความรุนแรง เช่น"ดิสโก้เทค" "คอนเสริท์ร็อก" "สนามกีฬา"ที่มีเสียงดังรุนแรง ทราบไหมว่าอาจเต็มไปด้วยประจุลบมากมาย ที่ผู้คนในนั้นเหวี่ยงออกมาเต็มไปหมด พอเราเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในนั้นก็มีสิทธิ์ไปรับเอาประจุที่เป็นลบเข้าไปด้วยครับ..ทำให้รู้สึกเวียนหัว ปวดหัว ไ่ม่ทราบสาเหตุ บางที่แทบจะไม่ทีประจุบวกอยู่เลยครับ เพราะคนส่วนใหญ่ที่กำลังสนุกสนานอยู่นั้นอาจมีความหลงไหล ขาดสติ หรือไม่ยั้งคิด ปล่อยอารมณ์เข้าไปกับความรุนแรงของเสียงเพลง หรือ เสียงเชียร์...อาจมีบางคนที่ไม่หวั่นไหวไปตามกระแสเหล่านั้น ก็ตั้งรับได้ คือการรับรู้ แต่ไม่รับเอา (มาปรุงแต่ง)สงบ นิ่งเฉยได้ครับ..เอาด้านบวกต้านทานไว้...(คอนเสริท์ที่ดีๆก็มีนะครับ...ไม่ใช่ทั้งหมด)

ต้องขอขยายความเรื่องประจุไฟฟ้าด้วยนะครับ..เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง...

การสร้างประจุไฟฟ้าด้านบวกที่ถูกต้อง ต้องเกิดจากแรงผลักดันทางอารมณ์ความรัก ความบริสุทธิ์ ความจริงใจ หรือการ"ให้"โดยไม่หวังผลตอบแทนนะครับ..โดยไม่สร้างเงื่อนไขให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายรู้สึกเป็นทุกข์ใจ กังวลใจทั้งปัจจุบันและอนาคต...

ไม่ได้เกิดจากการขับเคลื่อนด้วยอารมณ์หรือพฤติกรรมที่เกิดจากกิเลสตัณหา อันจะนำพาให้เกิดประจุไฟฟ้าด้านลบออกมามากมายให้ต้องรอการชดใช้ หรือชำระไม่รู้จักหมดจักสิ้น..เป็นรหัสบันทึกติดไปกับจิตวิญญาณข้ามภพข้ามชาติเลยนะครับ......

โทษนะครับ K-newton ต้องจูนคลื่นอีกหน่อย เกือบดีแล้วครับ......

 

ใช้มือข้างเดียวถือว่าลามก
ใช้สองข้างให้สมดุลย์กัน ถือว่าออกกำลังกาย(ออกกำลังข้อมือกับแขนน่ะ.. นะ)


ไม่หมกมุ่นจนเกินไป ก็เป็นอันใช้ได้

 

ผมดีใจมากครับที่ได้สร้างประจุบวกให้โลกเรานี้ และสาวๆๆ ไทย-เทศหลายท่าน
55555555555555555555555555555555555555555555
ทุกวัน ๆจิตแจ่มใส ๆๆจริงๆๆๆ
ท่านใดละได้ก้อดีครับ ยังละไม่ได้ ก้อว่ากันไป
เราถุกสร้างมาให้สืบพันธ์ เว้นแต่ เราจะเลือกเดินอีกทาง
ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่ ใจ ครับเจตนาท่านแหละเป้นเครื่องกำหนด
ขอให่สนุกกันนะครับ 555

 

การพิจารณาหลักธรรมมีหลายระดับ นอกจากบาป ไม่บาปแล้ว ยังต้องพิจารณาต่อว่าควรหรือไม่ควรอีก หลายท่านก็จับประเด็นถูกแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน ขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมครับ
กรณีเรื่องนี้เป็นเรื่องของเพศ จัดเข้าอยู่ในศีลข้อที่ 3 ซึ่งศีลข้อ 3 นี้องค์แห่งศีลอยู่ 3 ประการคือ
๑. หญิง - ชาย ที่ตนไม่ควรร่วมประเวณี
๒. มีจิตคิดจะร่วม ฯ
๓. ยังอวัยวะเพศให้จรดกัน
การผิดศีลจะต้องครบทั้ง 3 องค์ประกอบ เมื่อนำองค์แห่งศีลมาพิจารณาแล้ว การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองไม่ผิดศีลเพราะยังไม่เกิดการร่วมจริง เพราะศีลยังไม่ขาด แต่ถ้าระหว่างทำมีจิตคิดจะร่วมกับหญิงหรือชายที่ต้องห้าม แบบนี้ถิอว่าศีลด่างพร้อย แต่ถ้านึกถึงแต่ภรรยาตน แบบนี้ศีลก็ไม่ด่างพร้อย (เป็นไปได้หรือ)
แม้จะไม่ผิดศีล แต่มโนกรรมที่คิดล่วงเกินลูกเมียชาวบ้าน ก็จัดว่าเป็นอกุศล ซึ่งอกุศลนี้ไม่ถึงกับทำให้ตกนรก แต่ก็มีวิบากคือทำให้คนรอบข้างไม่เคารพในลูกเมียของเรา คิดล่วงเกินลูกเมียเราบ้าง ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นตามหลักกฎแห่งกรรม
การได้อภิญญา ศีลต้องบริบูรณ์ ไม่ขาดไม่ด่างพร้อย เวลาปฏิบัติธรรม ท่านจึงให้เราถือศีล 8 กัน เพื่อตัดกามให้เด็ดขาด เพราะศีล 5 ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับกามอยู่
ฆราวาสสมัยพุทธกาลที่เป็นอริยบุคคล อย่างน้อยที่สุดต้องถืออุโบสถศีลครับ อย่างนางวิสาขาหรืออนาถบิณฑิกะเศรษฐี ต่ำกว่านี้ไม่ได้ครับ เพราะศีล 5 เป็นธรรมสำหรับมนุษย์ ไม่ใช่สำหรับอริยะ ดังนั้นถ้าสมัยนี้ใครบอกได้อภิญญา ก็ให้ดูว่าวันพระถือศีล 8 หรือไม่

 

ถึงกับเสื่อมสมรรถภาพเลยเลย...เหรอ
*0* น่ากลัวกว่าที่คิดนะ...ได้อภิญามาแม่บ้านด่าตายเลย