ทำใจอย่างไรให้เกิดสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย prapi55, 1 กรกฎาคม 2008.

  1. prapi55

    prapi55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +145
    ในเวลาทำสมาธิ พอเริ่มทำใจก็คิด น้อยใจเสียใจ ที่หลานชาย หลงเมีย ให้เรา ทำความสะอาดบ้าน ล้างห้องน้ำ ทำกับข้าว กินกันเสร็จ ทั้งผัวทั้งเมียกองจานไว้ให้ดิฉันล้าง เราเลี้ยงดู ส่งเสีย ให้มีความรู้ กลับปฏิบัติกับดิฉัน เหมือนเป็นคนใช้ ทั้งที่อาศัยดิฉันอยู่ ความรู้สึกเหล่านี้ จะวนเวียน คิดแล้วคิดอีก ยิ่งพอลงมือ ภาวนา ดูมันยิ่งคิดมากมาย พยายามกำหนดสติก็ใช้ใด้ดีแต่ตอนยังไม่ภาวนา พอเริ่มนั่ง ก็ฟุ้งทันที .
    ขอความกรุณา ช่วยแนะนำดิฉันด้วย จะวางใจอย่างไรคะ
    กราบขอบพระคุณอย่างสูง
    ประไพ
     
  2. Saint Telwada

    Saint Telwada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2008
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +5
    อ้าว ทำสมาธิ แล้วมีวิตกวิจาร ได้อย่างไรกันละคุณ
    ทำสมาธิ ต้องขจัด วิตกวิจาร ขจัดความคิด คือไม่ให้คิด ถ้ารู้ตัวว่าคิด ก็อย่าปล่อยตามใจ ต้องบังคับควบคุม เพื่อให้เกิดสมาธิ
    ไม่อย่างนั้น คุณจะนั่งปฏิบัติสมาธิทำไมหรือคุณ
     
  3. สีเทียน

    สีเทียน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    ป็นกำลังใจครับแรกเริ่มก็แบบนี้แหละแต่ค่อยๆขจัดตัวโลภ โกรธ หลง ให้เป็นแบบ ไม่มีตัว ไม่มีตน ทุกอย่างคือความว่างเปล่า สิ่งเหล่านั้นหาใช่สิ่งนั้นไม่ อย่าเอารูปกายมาตั้ง แต่พึงตั้งรูปจิต ทุกอย่างย่อมเป็นไป เกิดดับทุกเวลา จับให้ได้
     
  4. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขอเสนอแนะดังนี้นะคะ ขณะนั่งสมาธิภาวนาแล้วจิตเกิดฟุ้งซ่าน

    ให้ตึงลมหายใจเข้าช้าๆ(ระลึกรู้ด้วย)ลึกๆจนเต็มที่ อั้นไว้นิดนึง

    ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆเช่นกัน ทำสัก ๓ ครั้ง อาการฟุ้งซ่านจะหายไป

    ให้ใช้วิธีนี้แก้อาการฟุ้งซ่านนะคะ เมื่ออาการฟุ้งซ่านหายแล้ว จิตตั้งมั่นได้

    ก็เข้าใจได้เองว่า จะจัดการกับปัญหาอย่างไรจึงจะลงตัวคะ ^_^
     
  5. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาล้วนเป็นวัฏฏะสาม แห่งกิเลศ กรรม และวิบากทั้งสิ้นนะครับ

    มันเหมือนเส้นผมบังตา ทำให้เราเข้าใจอะไรตามจริงได้ยาก

    การทำสมาธิก็เพื่อ ปลดปล่อยจิตใจให้มีอิสระ จากความคิด จากกิเลศตัญหาทั้งหลาย

    ถ้าเราทำสมาธิได้ดี จิตของเราก็จะบางเบามากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จนพ้นจากการเกาะกุมของกิเลศ อันนั้นเป็นทางสงบ ทางเข้าสู่พระนิพพาน

    ถ้าเรายังทำสมาธิไม่ได้ดี จะถูกนิวรณ์ ๕ เล่นงานได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากมาย เพราะการทำสมาธิคือการฝึกฝน ไม่มีใครทำได้ดีมาตั้งแต่ต้น

    เมื่อเราเริ่มหัดทำสมาธิ อาจทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าเรามีความตั้งใจพยายามที่ดี เราจะสามารถละนิวรณ์ ได้ ตามลำดับ เช่น พยาบาทหรือ ความฟุ้งซ่านเป็นต้น

    เมื่อสมาธิดี จิตก็พร้อมที่จะเกิดปัญญาตามมา เมื่อมีปัญญา จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ตั้งแต่ระดับปัญหาในชีวิตประจำวันจนถึงปัญหาระดับปรมัตถ์

    ผมก็ผ่านร้อนหนาวมาพอสมควร และกำลังเติบโตได้ดีทางเส้นทางธรรม ผมพบความจริงแท้แห่งชีวิตอย่างหนึ่งคือ ธรรมมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่เคยผิดจากคำนี้เลยครับ

    ขอให้มีความพยายาม ความตั้งใจดีต่อไปนะครับ
     
  6. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    จริงแล้วคุณประไพ ภาวนาเป็นแล้ว ถึงได้รู้ว่า ฟุ้งไปแล้ว พอเริ่มภาวนา
    มันก็มาให้ดู ก็ถูกแล้ว เพราะเวลาภาวนาได้เป็นได้ถูก จะมีของมาให้ดู
    มาให้รู้ว่าจิตเจาเราติดอะไร หลง จมอยู่กับอะไร ถ้า ภาวนาไม่เป็น จิตจะ
    นิ่งๆจมอยู่กับอะไรสักอย่างหนึ่ง นิ่งๆ ไม่เกิดมรรคผลอะไร เป็นการหนี
    การศึกษาจิตใจตัวเอง

    ถ้าคุณประไพเห็นมันมา เห็นสภาวะใดๆมา แล้วไม่จมไปข้างผิดศีล คือ
    ไปคิดนึก-พูด-กระทำ อะไรที่ผิดศีล ก็ถือว่าไม่เกิดสิ่งขัดขวางการภาวนา
    ก็ให้ ภาวนาต่อไปเลย ถ้าจิตใจทนไม่ไหว เริ่ม สบถ ด่า สาปแช่ง เริ่ม
    เจ็บ ปวดใจ ร่ำไห้ จมกับเรื่องมากเกินไป ก็จะเริ่มเป็นอกุศลมากไป อันนี้
    ก็ต้องรักษาศีลไว้ก่อน หรือ รักษาจิตไว้ก่อน โดยการเปลี่ยนอารมณ์ ไป
    ทำอย่างอื่นก่อน คือ พักการภาวนาไว้ก่อนก็ไม่มีปัญหา

    แต่ให้ดูไปเลยครับ ถ้าภาวนาเป็นแล้ว เดี๋ยวมันก็ ภาวนาเอง เห็นเอง ระลึก
    เหตุการณ์กิเลส อนุสัย ขึ้นมาเอง พอผุดมาให้รู้แล้ว เราก็ไม่อยากภาวนา
    ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น นี่อวิชชามันดิ้น ก็ดูมันไป ดูจิตใจมันทำงาน

    มากๆเข้า จิตมันพาเข้าไปทำสมาธิเอง หรือบางทีเราทนไม่ไหว เราก็จม
    อยู่กับสมาธิสมถะด้วยตัวเองก็มี นั้นคือ ภาวะติดสุข ขอแวะ ขอพัก จากการ
    ภาวนาถอดถอนกิเลสนั่นเอง

    จะ ภาวนา ก็ต้องกล้าๆครับ ต้องรู้ลงมาที่กายและใจ

    แรกๆก็แย่หน่อย มันไม่เคยทำใจว่าตัวเองนั้นมีเรื่องรกใจ หรือเรื่องน่ากลียดที่
    สะสม กดข่ม ไม่มองไว้เยอะแยะ ก็ให้ดูอย่างเป็นกลางให้ได้ ดูภาวะชอบ
    ใจ และไม่ชอบใจให้ทัน จิตจะเริ่มเป็นกลางเรื่อยๆ พอเป็นกลางมากๆเข้า
    เห็นกิเลส อนสัย จรไปจรมา ก็จะมันส์ สนุกกับการเห็น แต่อย่าหัวเราะนะครับ
    เพราะนั้นติดไปข้างหลง แต่ห้ามไม่ได้ ก็ปล่อยมันไป คือ ดูความชอบใจที่
    เราภาวนาเป็น อันนี้ก็ทำให้ติดการภาวนาได้

    ติดมากๆ ก็จะกลายเป็นจงใจทำ ก็จะพลาด จะโกรธ เกิดปฏิฆะขึ้นมา

    จะเห็นว่า กิเลส นั้นเขาไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ ไปทางไหน เขาก็มีทางแก้
    ทางรั้งเราไว้อยู่ทุกรูปแบบ

    ต้องกล้าๆครับ ทันปัจจุบันเข้าไว้ ไม่มีปัญหาเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2008
  8. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    แก้ปัญหาที่เป็นอยู่เสียก่อน เจริญเมตตาต่อลูกหลาน ทำงานให้เขาด้วยความเต็มใจ มีความสุขอยู่กับงานที่ทำ จิตใจจะมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น เมื่อความสุขเกิดได้แล้วใจจะแจ่มใส จิตจดจ่ออยู่กับงานที่กำลังทำ สติก็จะตั้งมั่นได้โดยง่าย เหมือนกับการที่เรา กวาดบ้าน ถูเรือน ขุดดิน ล้างจาน ด้วยความสุขใจ ไม่มีความคิดว่าทำไมเราต้องมาลำบาก เหนื่อยกาย เหนื่อยใจอย่างนี้ นั่นคือ อัตตา ของเราเกิดขึ้นแล้ว การยึดมั่นว่า ทำไม " เรา " ต้องมาลำบาก มันก็จะปรุงแต่งใจเราให้เป็นทุกข์ เพราะ ความยึดมั่นว่า "เราน่าจะสุขสบายกว่านี้ " ถ้าไม่มีลูกหลานเราคงจะสุขกว่านี้ คิดแล้วได้อะไร? ฆ่ามันให้ตายไปซะ แล้วเราก็จะมีความสุข ไอ้ "อัตตา" น่ะ ยิ่งบ่นมาก ลูกหลานก็เกลียด ทำดีแทบตายไม่ได้ดี ทำด้วยเมตตาซิ ได้บุญกุศล และความสุข ในชาตินี้แหละ.
     
  9. prapi55

    prapi55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +145
    ขอกราบขอบพระคุณ ทุกท่านที่ชี้แนะค่ะ ตอนนี้ ดิฉันใช้วิธีกำหนด ตลอดเท่าที่ ระลึกใด้ หลุดบ้าง พอรู้ตัวก็ เริ่มใหม่ แม้เดินไปจ่ายตลาด ก็ ภาวนา เดินหนอ เดินหนอ เช้าก็สมาทานศีล กับพระพุทธรูป ดิฉันจะทำตามที่ทุกท่านกรุณาแนะนำค่ะ ขอเรียนถามข้อสงสัยค่ะ ทำไม ทำสมาธิ แล้วถึงเสียวหัวใจ และมันซ่าน ไปทั้งตัวคะ .
    กราบขอบพระคุณกัลยาณมิตรทุกๆท่านค่ะ
    ประไพ
     
  10. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สมาธิที่แท้จริงคือความสงบท่ามกลางความเคลื่อนไหวครับ แม้สิ่งต่างๆจะมีอยู่แต่จิตใจเราสงบเพราะรู้เห็นตามความเป็นจริง
     
  11. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    ลองวิธีนี้ดู....อาจจะได้ผลบ้างไม่มาก็น้อย

    ให้อยู่กับอารมณ์ที่ชอบใจก่อน.....ผ่อนคลายสบาย ๆ ๆ
    อารมณ์ที่ไม่ชอบใจหรือเป็นอกุศล เครียด วิตก กังวล ย้ำนึก ย้ำคิด ย้ำทำ นั้น
    ให้พยายามวางเฉย.....นิ่งเสีย (เท่าที่ทำได้ พอบ่อยๆก็จะเกิดความเคยชิน จะนิ่ง
    จะเฉยได้เองหรือดีขึ้นกว่าเดิม ต้องหมั่นกระทำให้มากๆเข้าไว้)

    บางอย่างเป็นเรื่องกฏของกรรมเหมือนกัน และ......บางอย่างก็หลีกเลี่ยง
    หรือหนีไม่พ้น........คิดเสียว่า (กรรมบันดาล) เมื่อครั้งอดีตชาติ เราคงจะต้องไปทำเรื่อง
    แบบนี้มาก่อน....เจ้ากรรมนายเวรเขามาทวงคืน บางผู้บางคนหนักหนา สาหัส กว่าเรา
    ก็ยังมีอยู่ โชคยังดีที่เราไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ ต้องพิกลพิการไป....บุญที่เราได้กระทำ
    ได้ปกป้อง ปกปักษ์รักษาเราไว้บ้างแล้ว......ให้ตรึก นึกถึงบุญที่เราได้กระทำไว้บ่อยๆ
    ไม่ว่าบุญอะไร (ต้องหมั่นทำบุญด้วยฯ) บุญนั้นก็จะปกปักษ์รักษาเราเอง

    การทำทานอีกอันหนึ่งที่ไม่ต้องเตรียมข้าวของ เครื่องใช้ และกระทำได้เลยอีกทั้งผลบุญนั้น
    ก็มหาศาลด้วยและเกิดความร่มรื่น ชุ่มเย็นแก่ตัวเราโดยทันทีทันใด คือ " อภัยทาน "

    อีกอันหนึ่งที่อยากแนะนำเป็นอย่างมากคือ การเจริญ " พรหมวิหารสี่ " อันได้แก่
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา โดยเฉพาะตัวสุดท้าย อุเบกขา ความสงบร่มเย็น
    ก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวเรา โลกทุกวันนี้อยู่ที่ไหนก็ทุกข์ ไม่ว่าผู้ใด ยาก ดี มีหรือจนหรือแม้น
    กระทั่งสัตว์ต่างๆ ทั้งกา ไก่ หมู หมา แมว ฯ ล้วนทุกข์ทั้งสิ้น

    ยึดมากก็ทุกข์มาก ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์...............ชีวิตคนเรานี้มันสั้นนัก ไม่นานก็ตาย เดี๋ยวก็เกิดอีก
    วนๆ เวียนๆ อยู่อย่างนั้น......ที่ติดตามและสนองผลดี ผลแห่งความสงบสุข หรือการหลุดพ้น
    ก็คือการปฏิบัติธรรมะ การทำบุญสุนทร์ทาน การสร้างบุญกุศล ก็ต้องคิดต้องนึกเหมือนกันว่า
    บัดนี้เราทำอะไรอยู่ เป็นบุญหรือเป็นบาปเพราะผลแห่งการกระทำนั้นจะย้อน คอยตอบสนองให้เรา
    ในภายภาคหน้า ส่วนที่ว่า ทำไม ทำสมาธิ แล้วถึงเสียวหัวใจ และมันซ่าน ไปทั้งตัวคะ ?

    อาการที่ว่าต่างๆก็มักมีหรือเกิดขึ้นหลายรูปแบบ ให้สนใจหรือประคับประคองอยู่กับกรรมฐานที่ใช้
    สติแลสัมปชัญญะแนบติดกับกรรมฐานของเรา เรื่องอื่นหรืออาการต่างๆ รู้สักแต่ว่ารู้ นิ่ง เฉย.....
    พอสติแลสมาธิดีขึ้น จดจ่ออยู่กับกรรมฐานที่ใช้ อาการที่ว่าจะหายไปเอง....ถ้ามั่วไปข้อง พินิจ
    พิจารณา แวะเกี่ยวเข้าก็จะไม่ไปไหนจะติดอยู่ที่นั้น บางทีประคับประคองจิตไม่ดี สติ สมาธิหล่น
    ถอยหลัง ต้องมาเริ่มกำหนดกันใหม่อีก

    สุดท้ายนี้ขอความเจริญในธรรม จงมีแก่ท่าน ทุกผู้ ทุกคน

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. Montesquieu

    Montesquieu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +116
    ใจเย็นๆ นะครับ และขอเป็นกำลังใจให้
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สมาธิพิจารณา ****

    ขณะที่เราปฏิบัติตัวด้วย สัจจะ ข้อนึง
    สมาธิจะเกิดขึ้นต่อตลอดเวลา
    เช่น ตั้งสัจจะ ไม่โกรธ มีกำหนดเวลา ๑ ชั่วโมง
    ในช่วงเวลาของสัจจะ
    ตัวเราจะคอยพิจารณาตัวเอง อารมณ์และการกระทำของตัวเอง อยู่ตลอดเวลา
    สมาธิ ที่เกิดขึ้น...คือ สมาธิพิจารณา
    สัจจะ ทำให้เกิดสมาธิพิจารณา
    นำให้เราเกิดการกระทำใหม่ในชีวิต
    นำพาให้พ้นทุกข์ได้
    จึงตนพิสูจน์เอง ทำเอง รู้เอง เข้าใจเอง เห็นธรรมเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. prapi55

    prapi55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +145
    ล้วนผู้รู้ และมีเมตตา ในเว็ปนี้ ขอขอบพระคุณมากๆค่ะ จะปฏิบัติตาม ก้าวหน้าอย่างไร จะมาเรียนให้ทราบค่ะ
    ประไพ
     
  15. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    ผมปฏิบัติสมาธิพระกรรมฐานโดยยึดจิตไว้ที่เสียงสวดมนต์ครับ จะทำให้ใจเรานิ่ง ส่วนเวลาฟุ่งให้หายใจเข้าออกยาวๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...