ร่วมกันศึกษาวิจัย ภาพมือถือถ่ายติดวิญญาณ ที่ปัตตานี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jack5487, 6 มิถุนายน 2008.

  1. theliger

    theliger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +219
    ถ้าเป็นการตัดต่อผมตัดต่อได้เนียนกว่านี้อีก
    ลักษณะโปร่งแสงหรือเทคนิคต่าง ๆ
    คนเป็น photoshop ไม่ต้องเก่งมากก็ทำได้
    แต่จะทำทำไมอีกเรื่องหนึ่ง
    ไม่ได้กล่าวหาว่าภาพเป็นของปลอมนะครับ
    แต่จะบอกว่าสามารถทำได้เฉย ๆ
     
  2. jarnan

    jarnan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +9
    สงสัยเค้าคงมาขอส่วนบุญมั้งคะ
     
  3. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    ล่าสุดมีวิญญาณผีนางแบบในเกมโผล่มาร่วมวง


    [​IMG]

    ขยายให้ดูกันชัดๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    [​IMG]

    สังเกตุในภาพว่าวิญญาณในภาพมีลักษณะโปร่งแสง
    กล่าวคือสามารถมองเห็นข้างหลังผ่านลำตัว

    ของวิญญานได้ ซึ่งหากจะเป็นการใช้โปรแกรม
    ตัดต่อก็จะมีร่องรอยให้เห็น


    [​IMG]

    สังเกตุว่าเท้าของเด็กน้อยในภาพจะมีเงา
    ของเท้าให้เห็นอยู่และไม่โปร่งแสง

    แต่ตรงกันข้ามกับวิญญาณในภาพ
    ที่โปร่งแสงและไม่มีเงา<!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jjj2.jpg
      jjj2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      959
  5. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    [​IMG]

    เมื่อเปรียบเทียบสรีระของร่างกายมนุษย์เพศหญิงปกติที่น่าจะ
    เกิดจากการสั่นไหวของภาพที่ทำให้ได้ภาพลักษณะแขนยืดยาว

    ก็จะเห็นได้ว่ายากมากและเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้แขนขา
    มีลักษณะดังในภาพได้ไม่ว่าเทคนิคใดๆโดยไม่ทิ้งร้องรอยไว้
    ยิ่งโดยเฉพาะกับภาพที่ใช้มือถือถ่ายไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jjj2.jpg
      jjj2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      449
  6. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    [​IMG]

    เมื่อนำภาพมาทำเป็น Negative(สลับค่าสี) จะเห็นภาพ
    ในลักษณะที่เห็นโครงร่างใบหน้าของวิญญานอย่างชัดเจน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jjj2.jpg
      jjj2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.2 KB
      เปิดดู:
      434
  7. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    [​IMG]


    และสิ่งที่น่าตกใจ เมื่อเราตัดผีทั้งสองตัวออกจากภาพ
    เราจะพบได้ว่า เด็กคนนี้รู้มาก่อนว่าจะมีผีมาถ่ายด้วย
    ซึ่งปกติเวลาคนถ่ายรูปคนเดียว ผู้ถ่ายก็จะต้องให้ภาพคนอยู่กลางภาพ
    แต่เมื่อตัดผีทั้งสองตัวออก เราพบได้เลยว่า เด็กน้องคนนี้เว้นที่ว่างเอาไว้ให้ผี
    โดยไม่ได้ยืนถ่ายตรงกลางภาพ ทำให้ทราบได้เลยว่าเด็กหญิงผู้นี้มีญาณวิเศษ
    สามารถติดต่อกับผีได้ และรู้มาก่อนว่าผีจะมาถ่ายด้วยเลยเว้นที่ไว้ให้
    เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่จะเชิญเด็กหญิงมาสัมภาษณ์ถึงสัมผัสพิเศษที่เธอมีอยู่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jjj2.jpg
      jjj2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      544
  8. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    เหตุผลและหลักวิชาการของคุณราตีกาล น่าเชื่อถือที่สุด

    ส่วนที่คุณ jubb กล่าวว่า

    เหตุผลแรก คือเรื่ององค์ประกอบของภาพ (การจัดวางตำแหน่งการยืนของเด็กผู้หญิง) ถ้าตั้งใจถ่ายภาพคนคนเดียว คนๆ นั้นมักจะอยู่ตำแหน่งตรงกลางของภาพ แต่ถ้าดูจากภาพที่ถ่ายมา กึ่งกลางภาพจะอยู่ระหว่างเด็กผู้หญิงกับผี

    นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย....
    เพราะผู้ถ่ายไม่ใช่มืออาชีพ และก็บอกแล้วว่าถ่ายเล่น ๆ เท่านั้น

    ส่วนการแกล้งกระโดด....ภาพก็จะไม่ออกมาชัดแบบนี้หรอกครับ

    ในโลกเรานี้ ยังมีสิ่งที่รี้ลับ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้อีกมากมาย

    มีแต่ "พุทธธรรม" และ "สัจธรรม" เท่านั้น ที่สามารถพิสูจน์ได้ทุกกาลเวลา
     
  9. manson810

    manson810 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    410
    ค่าพลัง:
    +780
    แจ่มแจ้งครับท่าน "ศิวิไลซ์"

    โดยส่วนตัวผมเชื่อเรื่องพวกนี้นะ แต่ว่าหาของจริงได้ยากเต็มที

    ส่วนมากจะเป็นของปลอมซะมากกว่า คงต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้มากๆครับ
     
  10. neo1982

    neo1982 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +17
    ชื่นชมในความขยันของคุณ "ศิวิไลซ์" ครับ ที่อุตส่านั่งทำมาให้เราได้ชมกัน
     
  11. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ผมเคยท้านะเรื่องผี เลยมาหาที่บ้านเลย แต่มันดึกเขามาเรียก ไอ้เราก็ง่วงเลยเอาพระมาแขวนแล้วนอนต่อ รุ่งเช้านึกขึ้นได้ว่ามีคนมาเรียกเรา แต่ก็แผ่เมตตาไปให้แล้ว ก็ไม่เจออีกเลย
     
  12. jack5487

    jack5487 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2006
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +186
    [​IMG]

    มองพิจารณาด้วยตาไม่ต้องใช้เทคนิคใดๆพิสูจน์อีกก็เห็นได้ว่าในส่วนของภาพ
    ที่คุณ ศิวิไลซ์ ตัดต่อ กับภาพที่เป็นต้นฉบับต่างกันเพียงใด ระหว่างส่วนที่ตัดต่อ
    กับส่วนที่เป็นต้นฉบับ เอาหลักๆเลยดู grain ของภาพ

    คิดว่ายิ่งเสริมทฤษฎีผมให้แน่นครับ ^^
     
  13. oหนุ่มพเนจรo

    oหนุ่มพเนจรo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +55
    เชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ส่วนตัวผมเชื่อครับ
     
  14. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    คุณ ราตรีกาล<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1257497", true); </SCRIPT> ผมถามจริงนะครับว่ารู้เรื่อง cst ของสีจริงหรือไม่รู้
    ถ้ารู้แล้วทำไมไม่ลองปรับดูล่ะครับ

    เห็นส่วนขอบเหลืองๆ รอบตัววิญญาณที่ผมทำเครื่องหมายมั้ยครับ
    ในทาง graphic ถือว่าเมื่อเร่ง cst ของสีจนสุดแล้ว ขอบสีที่ไม่เข้ากันกับตัวภาพ
    เกิดจากการตัดต่อที่ไม่เนียน ถึงแม้ตอนตกแต่งภาพจะใช้ Opacity เพื่อปรับความโปร่ง จนไม่เห็นร่องรอยตัดต่อ ทำให้ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
    แต่หากเร่ง cst ของสีจนสุดทาย ค่า Opacity ที่ตัดต่อภาพโดยปรับไม่สมบูรณ์จะแสดงออกมา ทำให้เราเห็นขอบเหลืองๆ รอบตัววิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาพ ซึ่งเกิดจากการปรับค่า Opacity ที่ไม่เนียนพอ


    [​IMG]



    สังเกตดูดีๆ แล้วกันนะครับ


    [​IMG]

    จากการเร่งค่า cst จนสุด จะเห็นได้อีกอย่างว่า ส่วนที่เป็นเด็กยังเห็นสีสันที่ชัด
    แต่ของส่วนตัวผีจะดำแทบหมดทั้งตัว แล้วยังเห็นขอบเหลืองๆ เหลือออกมาเยอะแยะ เนื่องจากการตัดต่อที่ไม่ได้ชำนาญพอเรื่องการปรับ grain นั่นแหละครับ
    ซึ่ง grain ของภาพจริงๆ แล้วไม่ใช่ค่า Quality ของภาพ แต่แปลผันตรงกัน
    การนำภาพสองภาพที่มีความอิ่มสีต่างกัน มารวมกัน และพยายามปรับภาพอีกภาพให้มีค่าความอิ่มเข้ากับ
    อีกภาพ จะทำให้ภาพเม็ดจุดสีของอีกภาพเกิดความกระเจิงของเม็ดสี เนื่องจากเม็ดสีไม่พอที่จะกระจาย
    ซึ่งจะมองไม่เห็นด้วยแต่เปล่า แต่เมื่อเร่งด้วยเทคนิคเม็ดสีที่ไม่สามารถกระจายพอเหล่านั้นจะแทนที่ด้วยค่า
    #000000 ตามหลักค่าสี RGB ซึ่งตามหลักค่าสี RGB การคือผสมสีตามหลัก สีแดง(R) สีเขียว(G) และสีน้ำเงิน(B) เลข #000000 ในค่าทางเทคนิคคือค่าสีดำ ค่า FF0000 คือค่าสีแดง เพราะมีสีแดงเป็น FF สีเขียว และ สีน้ำเงินเป็น 00 เป็นต้น 00FF00 คือสีเขียว 0000FF คือสีน้ำเงินเป็นต้น

    จะอธิบายเรื่องวิธีดูสีเมื่อปรับค่า Cst อีกนิด
    การปรับค่า Cst จะทำให้ภาพมีความสีเข้มขึ้นตามขนาดสเกลที่ปรับ
    เช่น ส่วนที่เป็นสีขาว ก็จะขาวสว่างจ้า ส่วนที่เป็นชุดเด็กสีชมพู ก็จะ ชมพูจ้า และเมื่อส่วนที่เป็นสีชมพู
    ที่เข้มในระดับหนึ่งจะถูกเร่งให้เข้มขึ้นจนแดง เช่นส่วนที่ปิดตาเด็ก เป็นต้น
    แต่เมื่อรูปผีที่ถูกตัดต่อเข้ามามีค่า grain ไม่เข้ากับภาพ การปรับ Cst ที่สเกลเดียวกัน จะทำให้สีที่แสดงออกมาไม่เหมือนกัน (หากภาพที่เข้ากันจะมีสีไปในทิศทางเดียวกัน)

    เพราะฉะนั้นจึงดูบริเวณเสื้อ และกางเกงของผีที่เป็นสีฟ้าโทนเดียวกับโซฟาด้านข้าง
    ซึ่งสีของโซฟาถูกปรับเร่งจนเป็นสีน้ำเงินเจิดจ้า และบางส่วนที่เป็นสีฟ้าก็จะถูกเร่งจนเป็นสีขาว
    มีบางส่วนที่ถูกเร่งจนเม็ดสีไม่สามารถแสดงสีได้จนให้ค่าเป็น #000000 แต่ลองสังเกตดีๆ ก็จะเห็นสี
    น้ำเงินเข้มแซมอยู่ในสีดำของโซฟานั้นด้วย

    ซึ่งต่างจากเสื้อผ้าของผี หากค่าความกระจายเม็ดสีถึงระดับเดียวกับรูปถ่าย จะต้องแสดงสีโทนเดียวกับโซฟาออกมาบนเสื้อและกางเกงของผี แต่นี่กลับดำหมดทั้งตัว
    เนื่องจากเม็ดสีกระจายไม่ได้สเกลเดียวกับสเกลของภาพต้นฉบับจริงๆ นั่นเอง


    อ้อ ยังมีอีกเยอะแยะครับ ไว้ว่างๆ เดี่ยวจะเอามาเฉลยให้ดู
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  15. zcracher

    zcracher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +267
    ถ้าตัดต่อจริง คาดว่าจะใช้กำลังทรัพย์เท่าไร ในการทำให้เนียนแบบนี้ ลองไปสืบด้วยว่าเขาฐานะเป็นยังไง เขามีความรู้ระดับใหน เขามีความสามารถตัดต่อเองได้ใหม หรือเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่สามารถมีตังไปซื้อมือถือที่ถ่ายรูปได้แค่นั้น

    ถ้าเขามีปัจจัยเพียงพอ ที่จะมาตัดต่อเล่น กำลังทรัพย์เขาต้องมีมากพอ ซึ่งดูจากข่าวแล้วมันมีความเป็นไปได้แค่ 20% ซึ่งถึงแม้เขาจะมีเงินเพราะเปิดร้านอาหาร แต่อยู่จังหวัดปัตตานีนะ ซึ่งเศรฐกิจตอนนี้ไม่น่าทำให้มีเงินเหลือเฟือมาเล่นอะไรแผลงๆแบบนี้ได้ และจากประโยคที่ว่า " ขณะเดียวกันเจ้าของร้านอาหารที่ใช้มือถือถ่ายรูป ได้นำภาพปริศนาไปให้พระภิกษุสงฆ์ ที่เชี่ยวชาญการนั่งทำสมาธิหรือดูทางในดู " แสดงว่ายังกังขาในวิทยาศาสตร์อยู่ ยังเชื่ออยู่ในเรื่องแบบนี้ มันยิ่งทำให้เชื่อได้ยากว่าเขาเอาไปตัดต่อจริง

    และมาดูที่ภาพช่วยอธิบายหน่อยว่าทำยังไง ให้ผมเขาเป็นทรงนั้นได้โดยที่เงาๆข้างหลังเป็นอีกทรง แล้วที่แขนขวาอีก ถ้าปรับสปีดทำใมเงาแขนถึงมีแค่นั้น เป็นเพราะเขาปรับสปีดแล้วขยับตัวไปมาระหว่างถ่ายหรือ หรือว่าเขาเอา alien มาประกบซ้อนอีกชั้นแล้วเอามาแปะ ถ้างั้น ภาพที่เร่ง cst ไรนั่นก็ต้องเห็นด้วยสิแต่ทำใมกลายเป็นสีขาวไปเลยขนาดคอที่ว่าใสๆมองเห็นถึงประตูหลังยังเป็นสีดำ แต่ทำใมรอบๆตัวถึงเป็นสีขาวไปได้ แทนที่จะเป็น เหลืองๆ อย่างที่คุณว่า อีกอย่างตรงขาเด็กเองก็ยังมีขอบเหลืองเลยนะ งั้นก็แสดงว่าเด็กเองก็ตัดมาต่อ แต่แต่งง่ายกว่าเพราะฉากหลังเด็กเป็นกำแพงสีขาว ไม่เหมือนแถวขา ตรงนั้นของเยอะไป ตัดต่อลำบาก


    เอางี้ดีกว่า นางแบบผีที่ทำมามันดูแล้วไม่เนียนแบบเขามองแล้วรู้ว่าตัดต่อ ไปวานใครซักคนก็ได้มาเป็นแบบ แล้วเอามาทำให้เหมือนเลยทั้งเรื่องใส เรื่องเบลอ แล้วก็เรื่องสัดส่วนเพี๊ยน
     
  16. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    ภาพมือถือถ่ายติดวิญญาณ

    <TABLE class=tborder id=post1268068 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    แต่หากเร่งcst ของสีจนสุดทายค่าOpacity ที่ตัดต่อภาพโดยปรับไม่สมบูรณ์จะแสดงออกมาทำให้เราเห็นขอบเหลืองๆรอบตัววิญญาณซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาพซึ่งเกิดจากการปรับค่าOpacity ที่ไม่เนียนพอ
    จะเห็นได้อีกอย่างว่าส่วนที่เป็นเด็กยังเห็นสีสันที่ชัด
    แต่ของส่วนตัวผีจะดำแทบหมดทั้งตัวแล้วยังเห็นขอบเหลืองๆเหลือออกมาเยอะแยะเนื่องจากการตัดต่อที่ไม่ได้ชำนาญพอ

    ขอขอบคุณคุณศิวิไลซ์
    ที่ได้พยายามใช้หลักวิชาการทันสมัยพิสูจน์ภาพนี้
    ที่บอกว่ายังมีอีกเยอะก็จะรอดูครับ

    หลักพุทธศาสนาทั้งหมดที่มีคำขึ้นต้นว่า....ศรัทธา
    จะต้องลงท้ายกำกับด้วย....ปัญญาเสมอไป
    เพื่อป้องกันความเชื่อง่ายหรืองมงายโดยขาดเหตุผลทางปัญญา

    เพราะพระพุทธเจ้าทรงอยู่ในประเภทปัญญาธิกะผู้ยิ่งด้วยปัญญา
    คำสอนของพระองค์เน้น"ปัญญา" ก่อน

    นั่นก็คือ....ต้อง"มีสัมมาทิฐิ" (ปัญญาอันเห็นชอบตามความเป็นจริง) เป็นเบื้องต้น

    แต่ขอฝากไว้นิดนึงนะครับว่า

    ในภาพนี้ต้องการถ่ายเด็ก(มนุษย์) แต่ผู้แปลกปลอมมิใช่มนุษย์(ตามข่าว)

    ดังนั้นการจะพิสูจน์ใดๆผลจะออกมาเหมือนกันไม่ได้

    ระหว่างมนุษย์กับอทิสสมานกายเพราะความละเอียดค่าความถี่ของแสง
    (เสียง) และพลังงานที่ปรากฏตามธรรมชาติแตกต่างกันมาก

    (เราจึงถ่ายถาพโอปปาติกะไม่ติดด้วยกล้องธรรมดานอกจากเกิดเหตุปัจจัยบางอย่างเป็นพิเศษในขณะนั้นๆที่ทำให้เกิดจ๊ะเอ๋กันได้)

    และนอกจากนั้นก็ดูว่าผู้ให้ข่าวเป็นมืออาชีพแค่ไหนและทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไร? (ถ้าออกมาพูดเองจะดีมากทีเดียว)

    เรื่องนี้.....

    .....ถ้าไม่จริง.....เราก็โดนหลอกกันเยอะ

    .....แต่ถ้าจริง.....ก็มีประโยชน์มากมายเช่นกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  17. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    เอางี้ ถ้าคุณมีคนรู้จักที่เรียนด้าน graphic มาลองให้เค้าเร่งสเกล cst ของภาพดู
    เค้าก็จะรู้ได้ทันทีว่าการกระจายเม็ดสีไม่เท่ากัน บางทีคนทั่วไปก็ดูไม่ออก เหมือนการร้องเพลงไงครับ ใครร้องมาเพราะเราก็ว่าเพราะ แต่ให้ครูเพลงมานั่งฟัง เค้าก็จะรู้ว่าตรงนี้เพี้ยนไปครึ่งคีย์ ตรงนั้นไม่ถึง คนที่อยู่กับงาน graphic เค้ามาเร่งสเกลดูเค้าก็รู้ครับ ผมเร่งแล้วก็รู้ว่าเป็นยังไง แต่ผมพูดคนเดียวมันก็เท่านั้น จะหาว่าเข้าข้างตัวเอง เอาเป็นว่าถ้าคุณรู้จักคนทำงานด้านนี้ให้เค้าเร่งสเกลดู แล้วลองถามเค้าดูละกันนะครับ


    [​IMG]

    ลองเร่งสเกลดู


    [​IMG]

    อ้าว ภาพเด็กอีกสองภาพซ้ายและขวาที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ ส่วนโปร่งแสงเมื่อเร่งสเกล สามารถแสดงเม็ดสีของค่า Opacity ที่ถูกต้อง เมื่อเร่งสเกล cst จนสุดแล้ว โปรแกรมสามารถทราบเม็ดสีของค่า Opacity ที่ถูกต้องได้ จึงทำให้ส่วน
    ที่ถูก Opacity(ส่วนถูกทำให้โปร่งใส) น้อยกว่า 80% หายไปเห็นด้านหลังแทน
    ภาพทั้งสองซ้าย-ขวาที่ถูกทำขึ้นมาจึงไม่ดำทึบหมดทั้งตัว เพราะอะไร??

    ก็เพราะว่าภาพที่ถูกทำมาใหม่ทั้งสองนั้น นำส่วนของภาพมาจากภาพนั้นเลย
    ความละเอียดเม็ดสี grain ของภาพ Quality ของภาพ จึงเท่ากับภาพเดิม
    แต่ภาพที่ถูกนำมาจากภาพอื่น แล้วพยายามปรับ grain และความอิ่มตัวของสี
    ให้เท่ากับภาพ เมื่อมีการเร่งสเกลมากเข้าจนถึงระดับที่ภาพที่ถูกนำมาตัดต่อ
    กระจายสีต่อไปไม่ได้เท่าส่วนอื่นของภาพ เม็ดสีจึงไม่ถูกอ่าน และถูกให้ค่าเป็น
    #000000 ตามหลักสี RGB ที่ได้อธิบายไป จึงเห็นเป็นสีดำหมดทั้งตัว

    ถามว่าทำไมส่วนหัวของผีบางส่วนหายไป เมื่อเร่งสเกล
    ก็เพราะว่าส่วนนนั้นถูกทำ Opacity ไว้ที่น้อยกว่า ร้อยละ 50% เมื่อเร่งสเกลแล้ว
    โปรแกรมจึงอ่านค่าความต่างได้

    เหมือนเอาสีดำ มาลดสีลง 5 %
    มันก็เป็นสีดำอ่อนลงนิดๆ จนแทบไม่เห็นว่ามันอ่อนลง ไม่ว่าจะเอาสีดำนี้
    ไปวางบนภาพไหน มันก็แทบดูไม่ออกว่าถูกลดเม็ดสีลง 5% เมื่อถูกเร่งสเกลเข้า
    เม็ดสีที่ถูกลดลง 5% นั้นก็จะถูกอ่านไม่ได้เพราะมันใกล้เคียงกับสีดำมาก
    โปรแกรมจึงแสดงป็นสีดำไปเลย
    แต่ถ้าเอาสีดำมาลดน้อยกว่า 50% มันก็เป็นเทาๆ ค่อนไปทางเป็นสีขาวมากกว่าเป็นสีดำ โปรแกรมจึงแสดงส่วนหัวของผีบางส่วนและส่วนกางเกงเป็นสีขาว ออกมาเป็นสีขาวดังที่เห็น
    แต่ส่วนอื่นของผีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นส่วนสีน้ำเงิน หรือส่วนอื่นๆ
    เมื่อเร่งสเกลมากเข้าขณะที่ภาพเดิมยังปรับสีได้ เนื่องจากมีความละเอียดของเม็ดสีจริงๆที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่ามากกว่า จึงยังแสดงสีได้
    รวมไปถึงผีเด็กสองตัวซ้าย-ขวาที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ ก็ยังแสดงสีได้
    เนื่องจากภาพนั้นถูกเอามาจากส่วนหนึ่งของภาพ ไม่ได้เอาภาพใหม่มา
    ความละเอียดเม็ดสี และส่วนอื่นๆ จึงเท่ากันกับส่วนทั้งหมดของภาพ
    เมื่อเร่งถึงระดับหนึ่ง ภาพทั้งหมดจึงไม่มืด เหลือเพียงภาพผีที่นำมาจากภาพอื่น ที่ความละเอียดเม็ดสีไม่ถึง จึงไม่ถูกอ่านเม็ดสีต่อ จึงถูกแทนที่ส่วนทั้งหมด
    ที่ไม่ถูกอ่านเป็นค่า 000000 หรือสีดำทั้งหมด
    แทนที่บางส่วนของหน้าผีที่ค่อนไปทางน้ำตาลอ่อน ออกสีขาว จะถูกแทนด้วยสีขาว
    แต่มันถูกแทนด้วยด้วยสีดำทึบเกือบหมดทั้งตัวผี หรือค่าสีเป้น 000000 เพราะเม็ดสีมันไม่ถึงเหมือนกับส่วนอื่นๆ ของภาพนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  18. zcracher

    zcracher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +267
    ถามว่าทำไมส่วนหัวของผีบางส่วนหายไป เมื่อเร่งสเกล
    ก็เพราะว่าส่วนนนั้นถูกทำ Opacity ไว้ที่น้อยกว่า ร้อยละ 50% เมื่อเร่งสเกลแล้ว
    โปรแกรมจึงอ่านค่าความต่างได้


    แต่ลองดูหัวเวลาเร่งอีกทีสิ มันดำปื๊ดเลย แต่หัวเด็กกลับโปร่งแสง << ตรงนี้ยังไงก็แตกต่าง

    ขาเด็ก ไม่ว่าจะเป็นตัวปลอมข้างซ้ายหรือขวา ผมก็ยังเห้นว่ามันแทบไม่มีขอบเหลือง ทั้งๆที่ต้นฉบับมี

    ส่วนหัวผู้หญิงอีกคน ที่บอกว่ามันทรงแปลกๆ คือมันเหมือนแหว่ง แต่เงาซ้อนข้างหลังมันเหมือนหัว ET มาก กลมบ๊อกเลย เขาทำยังไง ?

    แล้วก็ความใสก่ะโทนสีของแขนขวาผู้หญิงกับหน้าผากของเด็กขวาสุดมันใกล้เคียงกัน แต่พอเร่งสี ทั้งๆที่เด็กขวาสุดรู้ๆว่าตัดต่อ กลับขาวหมดแต่ของผู้หญิง มันเหลือง ได้ไง ?

    ซึ่งภาพผู้หญิงมองยังไง ก็เนียนกว่าของที่คุณทำมา ซึ่งเป็นมืออาชีพมากๆ ในไทยคงหายากหน่อยที่จะมาเก็บรายละเอียดขนาดนั้นได้ ขนาดหนังไทยเองที่ต้องทำขาย ยังตัดต่อได้ไม่เนียนเลย มองปุ๊ปรู้ปั๊บ ซึ่งในรูปเนี่ยะ มันเป้นความเข้มของตัวคนจากข้างในแล้วด้านนอกค่อยๆใส


    จากที่ว่ามา คิดว่าเจ้าของร้านที่ปัตตานี จะลงทุนทำภาพนี้เพื่อขำๆ หรือ ?
    แล้วจากเหตุนี้ ผมก็ยังไม่เห็นผลที่เขาจะได้ประโยชน์อะไรเลย จะว่าโปรโมทร้านหรือ ก็ไม่น่าใช่ เพราะไม่ได้ถ่ายที่ร้าน หรือจะให้ตัวเขาดังหรือ ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้ดังขึ้นมาแล้วจะได้ผลประโยชน์จากมันง่ายๆ

    ถ้าจะพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ก็ต้องเอาให้มันเคลียร์ แสดงให้เห็นจริงว่าทำกี่รอบก็ได้อย่างนั้น แต่นี่มันไม่เคลียร์ในหลายๆเรื่อง สู้เราปล่อยให้มันอยู่ในกลุ่มของเขาดีกว่า ก้าวข้ามไปถ้าไม่รู้จริงก็เปลืองตัวเท่านั้น
     
  19. ข้าวทิพย์

    ข้าวทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    598
    ค่าพลัง:
    +540
    ดีค่ะมีคนนำ-ทำ-ถ่ายภาพ เรื่องแบบนี้ขึ้นมาคนอ่านถ้าอ่านดีๆและทำความเข้าใจไปด้วยก็จะได้ประโยชน์อย่างมากกับตัวเอง เรื่องนี้จากการอ่านแต่ละข้อความที่โพสเข้ามา ทำให้เรารู้ว่ามนุษย์เรานี่เก่งจริงๆ คุณศิวิไลก็เยี่ยมค่ะ เสียสละเวลามาอธิบายให้เพื่อนๆได้มีประสพการณ์มากขึ้น ภาพนี้จะจริงเท็จ คนที่เป็นต้นเรื่องเท่านั้นที่จะรู้ดีว่า ตัวเองคิด-ทำอะไรอยู่ ถ้าเราเชื่อแล้วมีความสูขจิตสงบได้ก็เชื่อเถอะค่ะ แค่ถ้าไม่เชื่อแล้วจิตสงบ-มีความสูขก็สามารถทำได้ แต่ส่วนตัวเองขอเดินสายกลางค่ะ เพราะทำให้จิตสงบและมีความสูข และให้กำลังใจท่านที่คิดดีและทำในสิ่งที่ดีๆเกิดประโยชน์แก่คนหมู่มากค่ะ"สาธุ_/\_"
     
  20. zcracher

    zcracher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +267
    ผมเองก็ไม่ได้เชื่อว่าภาพนี้จะจริงนะ แต่ก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นภาพตัดต่อ เพราะมันเนียนมากเกินไป ผมเองก็อยากหาข้อพิสูจน์เหมือนกันว่าตกลงมันจริงหรือปลอม
     

แชร์หน้านี้

Loading...