รบกวนขอความรู้ด้วยครับ

พอดีได้พระขุนแผนมาจากกรุของพ่อครับ ท่านเสียนานแล้วเพิ่งจะมาพบ เลยเอามารบกวนถามพี่ๆว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วไหนๆก็ถามพระขุนแผนแล้วเลย ถ่ายรูป พระขุนช้างที่ได้รับจากเพื่อนมาขอความเห็นด้วยเลยครับ

รบกวนชี้แนะด้วยครับว่าพระวัดอะไร เนื้ออะไรครับ

 

ขอเรียนบอกตามความจริงเลยนะครับไม่โกรธกันนะครับ พระเนื้อดินแบบนี้เป็นพระสนามที่ทำขึ้นมาเพื่อจำหน่ายบุคคลกลุ่มหนึ่งครับไม่น่าเล่นครับ คือพยามทำเป็นแบบขุนแผนขี่พราย อุ้มนาง หลังกุมารทอง ถ้าสนามเขาเก๊ครับ ถ้าชอบผมแนะนำหลวงพ่อสาครดีกว่าครับ ท่านทำขุนแผน ตามคำราหลวงปู่ทิมวัดละหานไร่ครับ

โดยความเคารพ

 

ไม่โกรธครับพี่ ผมทำใจไว้ก่อนเอาลงมาถามแล้วครับ

ขอบคุณพี่อดุลย์ที่ให้ความเห็นครับ

โดยปกติผม ไม่แขวนพระขุนแผนอยู่แล้วครับ

ผมนิยมพระพุทธหรือไม่ก็พระเกจิมากกว่าครับ แต่เผอิญนี่ไปเจอของพ่อมาเลยนำมาถามดูน่ะครับ


ขอบคุณอีกครั้งครับพี่อดุลย์

 

ที่จริงขุนแผนกรุบ้านกร่างก็คือ พระพุทธชินราชซุ้มเรือนแก้ว ครับพระนเรศวรท่านนับถือเลยสร้างขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจ และมาฝากกรุไว้ที่วัดบ้านกร่าง เพื่ออุทิศบุญให้กับนักรบไทย เลยไปคล้องกับวรรณกรรมพื้นบ้านเลยตั้งชื่อ เป็นแบบนิยายครับ

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ของผมครับ

 

พระขุนแผนที่เป็นของเก่า ของกรุ โดยเฉพาะกรุบ้านกร่างนั้น ท่านสร้างให้กับทหารไปออกรบ มีพุทธคุณด้านคงกระพัน ข้าศึกฟันไม่เข้า คือ หนังเหนียว เหมือนขุนแผนในวรรณคดี เพราะท่านสร้างเอาไว้ให้ไปออกรบ ไม่ได้ไปหาเมีย ทีนี้คนเข้าใจผิด คิดว่า พระดังกล่าวมีพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม เจ้าชู้เหมือนขุนแผน ก็เลยเรียกพระขุนแผนเรื่อยมา

คนอย่างขุนแผน ผมว่า เป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด หากจะมีคนประเภทนี้ในสังคมในยุคปัจจุบัน คือ ปราชิกตั้งแต่เป็นเณร สึกหาลาเพศกับต้นไม้ แล้วไปนอนกับนางพิม นอนเสร็จก็กลับมาบวชกับต้นไม้ นุ่งเหลือง ห่มเหลือง หลอกผู้คนว่าเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ จนพระอาจารย์ต้องไล่ออกจากวัด เมื่อถูกจับได้ไล่ทัน

พอสึกออกมาเป็นฆราวาส แต่งงานกับนางพิม ก็นอกใจนางพิม เมื่อคราวไปออกรบที่เชียงใหม่ พานางลาวทองมาเย้ย หลงไหลนางลาวทองมาก ถึงกับขนาดหนีเวรยาม ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่มีความรับผิดชอบ

พอนางพิมยอมเป็นเมียขุนช้าง ก็ไปแย่งชิงนางพิม ถึงห้องหอขุนช้าง สักหน้าขุนช้างอีก ใช้คาถาอาคมไปในทางที่ผิดศีล ผิดธรรม

เวลารักใครชอบใคร มักจะใช้เวทย์มนตร์คาถา ไม่เคยใช้ความสามารถของตนเอง ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่า ขุนแผนในเรื่อง หล่อจริงหรือเปล่า ? ถ้าหล่อ ทำไม ต้องใช้คาถาอาคมด้วย

ฆ่าลูกฆ่าเมียได้ลงคอ ด้วยการฆ่านางบัวคลี่ ผ่าท้องทั้งเป็น นำศพเด็กในท้องมาทำกุมารทอง ช่างใจดำอำมหิตแท้ ๆ

ขัดใจกับลูกตนเอง คือ พลายงาม ถึงกับวางแผนให้พลายชุมพล ปลอมตนเป็นมอญใหม่ เข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา พอพลายงามยกทัพไปปราบ ก็จะทำกลลวงฆ่าเสียให้ตาย จนวิญญาณนางพิม ต้องแปลงกายมาห้ามทัพ

คนอย่างนี้ ไม่ควรได้ชื่อว่า "มนุษย์"ที่มีจิตใจสูง และไม่ควรนำชื่อมาใช้เป็นพระพิมพ์ ผมเป็นคนหนึ่งล่ะครับ หากยังใช้ชื่อไอ้หมอนี่มาเป็นชื่อพระล่ะก็ ผมไม่แขวนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นของพระเกจิอาจารย์ท่านใด หรือของกรุใด มันแสลงหู แสลงใจ ทำใจไม่ได้ครับ

 

อืม

 

Ajarn Lek must love your wife very much.

You are an honest man; bless your heart.

I wish all Thai men will be like you; it's wonderful.

Actually, I mean all men in this world not just Thai men ka.

All women will be very HAPPY ka; sa-tu.

 

สมัยนี้หายากครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่าสมัยนี้จะหวังกันได้หรือเปล่านะครับ เพราะว่าไปแล้วสมัยนี้ ตอนยังไม่แต่งงานก็คบกันทีละหลายๆคน ไม่ใช่เฉพาะผู้ชายนะครับ ผู้หญิงก็เป็นครับ พอถามก็บอกว่าคบกันแบบว่ามากกว่าเพื่อนแต่ก็ไม่ใช่แฟน ซึ่งเค้าเรียกว่า กิ๊ก ครับ ยิ่งมีหลายคนยิ่งเท่ห์ครับ แข่งขันกันสะสมกิ๊ก อีกต่างหาก ครับ ถึงจะห้อยพระขุนแผนหรือไม่ห้อยพระขุนแผนก็เป็นเหมือนกันครับ เพราะไม่มีศีล เป็นที่ยึด จึงเสาะแสวงหาขุมนรก อเวจีแทนกันไงล่ะครับ

 

ครับ ค่านิยมที่ผิดเข้าใจผิดจึงทำให้จิตใจของผู้ที่มีความเห็นผิดเร่าร้อน

ไปตามอำนาจของกิเลสที่แผดเผาใจให้เกิดความกระวนกระวายไม่มี

ความสุข ศีลที่พระพุทธองค์ท่านบรรญัติไว้จึงเป็นน้ำดับไฟนรกให้ใจได้

มีความสงบร่มเย็นตามอำนาจวาสนาของผู้ที่ประพฤติตามหลักของ

ศีลธรรม ถ้าใจไม่มีศีลไม่มีธรรม ไม่มีหิริโอตตัปปะอย่าหวังเลยว่าจะหา

ความสงบร่มเย็นภายในใจได้ ....สาธุ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติปฏิบัติ

ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว

 

ผมว่าหาไม่ยากนะครับ อยู่ในบอร์ดนี้อย่างน้อยหนึ่งคนครับ อิอิ ^_^


ผมว่าจะพระขุนแผน หรือ พระ อะไรก็ตามแต่ หากจิตใจของผู้ที่สวมมิได้ยึดมั่นในคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วไซร้ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ เพียงได ก็กลายเป็นเหมือนดั่งเครื่องประดับโก้หรูที่มีไว้ เพื่ออวดบารมีของตน


ผมเองก็ยอมรับ(แบบยึดอกพกถุงเลยครับ)ว่าเป็นคนหนึ่งที่อาราธนาพระเครื่องขึ้นคอ แต่ก็มิได้ปฎิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าไปเสียทุกอย่าง บางครั้งผมยังคิดว่าแขวนเพื่อความเท่ห์เลยครับ ผมมองว่าเป็นเครื่องประดับติดกายชิ้นหนึ่งไปเลยครับ

มีเรื่องน่าคิดอยู่เรื่องนะครับ คือ เวลาขับรถเมื่อผมแขวนพระขึ้นคอผมจะรู้สึกว่าปลอดภัยและขับค่อนข้างเร็วและน่าหวาดเสียวขาดความระมัดระวัง แต่เวลาลืมแขวนผมกลับรู้สึกใจแป้วว่าไม่มีสิ่งยึดเหนียว ทำให้ไม่กล้าขับเร็ว และระมัดระวังขึ้นซะอีกครับ

ทำให้บางทีผมก็กลับมาคิดเหมือนกันนะครับว่าผมแขวนพระไปเพื่ออะไรกันแน่???

พวกพี่ๆเคยมีพฤติกรรมคล้ายๆผมกันบ้างไหมครับ?

 

มีความรู้สึกนั้นจริงๆครับ การนำท่านมาคล้องก็เพื่ระลึกถึงความดีที่พึง

กระทำมากว่าเมื่อใจเราถึงความดีแล้วทำให้เราเกิดความมั่นใจในความดีที่เราเพียงสร้างขึ้นและไม่อยากที่จะกระทำชั่ว คิดชั่ว และพูดชั่วด้วยว่าเรามีพระอยู่กับตัว

ในเมื่อเรายังละสมมุติไม่ได้ก็ต้องอาศัยสมมุติเพื่อประกอบในการสร้างคุณงามความดี จนกว่าจิตใจจะรู้รอบแล้วจึงละสมมุติขึ้นสู่ทางสายตรงคือนิพพานครับ

ดีทั้งนั้นถ้าผู้รู้จักนำมาคล้องเพื่อจะสร้างความมั่นใจ กำลังใจใน
การที่จะประกอบคุณงามความดี และจะไม่ดีถ้าคล้องไปเพื่อมุ่งหวังกระทำสิ่งเลวร้ายต่างๆ

ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ มีความสุขถ้าพวกเราเกิดความสามัคคีกันครับ ถึงความเห็นจะไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องแตกแยก ไม่ใช่ใครเลยพี่น้องกันทั้งนั้น เพราะเราอยู่บ้านเดียวกันคือเวปพลังจิต

 

วิธีดูพระเครื่อง
พระพุทธรูปคือเจดีย์ศรีองค์พุทธ บริสุทธิ์พุทธลักษณ์ชวนฝักใฝ่
ดูพระเครื่องเรืองรองผ่องยองใย น้อมนำให้รำลึกธรรมประจำจินต์

พระสมเด็จ ฯ พระเจ้าคุณฯ พระอาจารย์ แนะศีลทานภาวนามหากสิณ
หลวงพ่อพุทธหลวงพ่อสงฆ์เนื้อผงชิน เตือนให้สิ้นจองเวรเว้นอบาย

อนุสรณ์วัตถุลุปลุกเสก ด้วยธรรมเอกพุทธคุณเจือจุนหมาย
เตือนรำลึกเกิดแก่แลเจ็บตาย เพียรสลายกิเลสมารที่ผลาญใจ

เพ่งกอร์ปบุญละบาปอาบล้างจิต ใคร่ครวญคิดหลีกชั่วหมองมัวได้
ปลงจิตใจไสวสว่างห่างทุกข์ภัย โลภโกรธไกลลดหลงปลงเรื่องราว

สิ่งทั้งหลายเกิดตั้งดับสลับเรื่อง อย่าได้เปลืองใจทุกข์ขลุกร้อนหนาว
สติตั้งอยู่ข้างหน้าทุกคราคราว รู้สั้นยาวตื้นลึกเฝ้าตรึกตรอง

มองดูพุทธให้เห็นธรรมประจำเจตน์ พิเคราะห์เหตุพันผูกได้ถูกต้อง
ห้อยหลวงพ่อนึกศีลธรรมนำครรลอง เพียรตรึกตรองธรรมคดีเป็นศรีตน

เลิกทำผิดคิดทำถูกปลูกความเห็น ตรงประเด็นดวงธรรมนำทางหน
ส่องดูพระละตัณหาพาทุกข์ทน จึงเป็นคนดูพระเป็นเห็นถูกทาง

ดูพระพึงส่องให้ เห็นธรรม
เพียรมุ่งละเวรกรรม ขุ่นข้อง
แขวนพระอย่าถลำ ไปเรื่อง อื่นนา
พระช่วยเราปกป้อง ห่างห้อง เหวอบาย


เจน จรรโลง ผู้ประพันธ์
จากหนังสือ "ต่วย ตูน" ปีที่ ๒๓ เล่มที่ ๑๗ ปักษ์แรก พฤษภาคม ๒๕๓๗

 

สาธุ ครับ พี่เล็ก

อ่านแล้ว เห็นธรรมดีครับ แต่ไม่เข้าใจความหมาย นิดหน่อยครับ


ดูพระพึงส่องให้ เห็นธรรม
เพียรมุ่งละเวรกรรม ขุ่นข้อง
แขวนพระอย่าถลำ ไปเรื่อง อื่นนา
พระช่วยเราปกป้อง ห่างห้อง เหวอบาย

คำว่า "ห่างห้อง เหวอบาย" หมายถึงอะไรเหรอครับ

อ่านว่า เหว-อบาย หรือ เหวอ-บาย ???

 

อ่านว่า ห่างห้อง เหว- อบาย ครับ เป็นโคลงสี่สุภาพ อบาย มาจากคำว่า อบายมุข คือทางแห่งความเสื่อม แต่ตัดมุขออกเพื่อให้ลงตัวพอดีกับบังคับของโคลงครับ

 

ภาษาไทยเนี่ยะ บางคำ มันอ่านได้ แต่แปลแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ต้องเอาที่แปลแล้วรู้เรื่อง แต่บางคำนะครับ อ่านแล้วแปลได้สองทาง ก็ต้องดูประโยคด้วยว่า เขาหมายถึงอะไร แต่บางประโยคมันก็แปลได้สองทาง ถ้าอ่านออกไปสองแบบ

อย่างเช่น ป.ปลา ตากลม จะอ่านว่า "ตา - กลม" หรือ "ตาก-ลม" ก็ได้

เรื่องของภาษา พาสนุกเช่นนี้แล.

 

อืมๆๆๆๆ น่าคิดคับ

 

อิอิ...ช่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ดีจังสังคมนี้ พระมิใช่เครื่องประดับครับ ผมมิเคยคิดเช่นนี้ แขวนท่านเพื่อให้มีสติ ระลึกรู้ครับ ว่าอย่าทำกรรมชั่ว

คำว่า กิ๊ก เกิ๊ก อะไรนั่นนะ ผิดศีลข้อ 3 โจ้งๆครับ