ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๗

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย phumiput, 1 มกราคม 2024.

  1. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๘๕
    รายการฝาก
    ให้บูชาเป็นคู่ ของครูบาอินตา วัดห้วยไซ จ.ลำพูน
    องค์แรก พระสมเด็จ ด้านหน้าฝังเพชรหน้าทั่ง รุ่นอายุมงคล ๙๕ ฝังเพชรหน้าทั่ง ปลุกเสกเมื่อปี 41
    องค์ที่สอง พระปิดตาพิมพ์เล็กเนื้อทองแดง รุ่นอายุมงคล ๙๖ เป็นพระปิดตาโลหะรุ่นแรกของท่าน ปลุกเสกเมื่อปี 42
    สำหรับ ครูบาอินตา วัดห้วยไซนั้นสรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และท่านยังเป็นพระอาจารย์องค์แรกของครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูนอีกด้วย ครูบาอินตา วัดห้วยไซได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับครูบาเจ้าศรีวิชัย พระเถระที่หลวงปู่ครูบาอินตาท่านสนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็มี ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ครูบาดวงจันทร์ วัดป่าเส้า ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาอินตา วัดวังทอง สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลังจากศิษยานุศิษย์ได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ครูบาอินตาไว้เป็นเวลาหลาย ปีแต่รางของท่านก็มิได้มีการเน่าเปื่อยแต่อย่างใด เมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จจึงได้ของไฟพระราชทานและประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ขึ้น
    ชุดนี้ฝากมาที่ 380 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    280019.jpg 280018.jpg 280021.jpg 280020.jpg
     
  2. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๘๖
    ให้บูชาเหรียญอุดมสมบูรณ์พูลสุข รูป หลวงปู่สด วัดปากน้ำ หลังดวง ปี 27 ชุบทองเดิมจากวัด พร้อมใบอาราธนา ซองเดิมจากวัด
    ข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้
    เหรียญ นี้ คุณเสาวนีย์ คำพันธุ์นิพ ฝันว่าเธอและเพื่อนอีกคนหนึ่ง คือคุณวลี คุณารัตน์พานิช ได้ขึ้นไปกราบศพหลวงพ่อ(พระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ) บนหอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต หลวงพ่อนั่งบนแท่นที่หน้าหีบศพของท่าน หลังจากจุดธูปเทียนและกราบ
    ท่านเสร็จแล้ว คุณเสาวณีย์บอกว่าในความรู้สึกของเธอนั้น เห็นเหมือนท่านลอยลงมาในมือท่านมีเหรียญ 3 เหรียญ เป็น เหรียญทอง 2 เหรียญ เหรียญเงิน 1 เหรียญ หลวงพ่อยื่นเหรียญเงินให้คุณเสาวณีย์ แต่คุณเสาณีย์กราบเรียนว่า ขอเป็นเหรียญทอง หลวงพ่อท่านก็ส่งเหรียญทองให้คุณเสาวณีย์ 1 เหรียญ ให้คุณวลี 1 เหรียญ แล้วถามว่ารู้ความหมายของเหรียญนี้หรือไม่ คุณเสาวณีย์ตอบว่า ไม่ทราบ
    หลวงพ่อท่านก็บอกว่า นี่คือ เหรียญอุดมสมบูรณ์พูลสุข
    ....ด้วย นิมิตหมายดังนี้ คุณเสาวณีย์ คำพันธุ์นิพ และคุณวลี คุณารัตน์พานิช จึงขอเป็นเจ้าภาพสร้างเหรียญอุดมสมบูรณ์พูลสุขนี้ เนื่องในวาระสมโภชชนมายุครบ 100 ปี ของพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ ในวันที่ 23-24-25 พฤศจิกายน 2527 ถวายให้กับวัดปากน้ำ และทางวัดปากน้ำได้ปลุกเสกตามวิชาธรรมกาย บรรจุพุทธคุณลงในเหรียญ เห็นเป็นเหรียญรุ่นใหม่เห็นว่ามีประสบการณ์ด้านลาภแล้วนะครับ
    มีอยู่ 2 เหรียญ ให้บูชาเหรียญละ 140 บาท จัดส่ง 40 จองได้สามว้นครับ
    280026.jpg 280025.jpg 280028.jpg
     
  3. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๘๗
    ให้บูชาพระกริ่งญาณวิศิษฏ์ ของ หลวงพ่อทอง วัดอโศการาม สมุทรปราการ รุ่น2 เนื้อทองทิพย์ ปี 48 หล่อจากแร่ที่นำมาจากสามหมื่นทุ่ง จ.ตาก ซึ่งต้องใช้ช้างลากแร่ออกมาเพื่อนำมาเข้าโรงหลอมที่ ก.ท.ม สร้างในปี 2548 ก้นกริ่งตอกโค้ดนะ ทุกองค์
    สำหรับหลวงพ่อทอง ท่านสร้างพระกริ่งไว้แจกให้กับพระที่บวชและมาจำพรรษาที่วัดรวมถึงญาติโยมที่มาร่วมงานและมากราบท่านที่วัดด้วยครับ หายากครับ คนในพื้นที่หากันมาก ใครมีก็เก็บเงียบกันหมดครับ
    ประวัติ พระญาณวิศิษฏ์ หรือ หลวงพ่อทอง จนฺทสิริ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2475 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี ณ พื้นเพเดิมครอบครัวเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกันทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 ต่อมาครอบครัวอพยพย้ายถิ่นฐานมาปักหลักอยู่ ณ ต.วังใหญ่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 และเป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันของวัดอโศการาม โดยได้รับสถาปนาตำแหน่งสืบต่อจาก พระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฑฺโฒ) ในชีวิตวัยเยาว์ของท่าน ท่านศึกษาจบชั้นเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต้องเลิกเรียนกลางคันเพื่อมาช่วยเหลือทางบ้านทำนาหาเลี้ยงปากท้อง
    บรรพชา
    อุปสมบท ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2494 ขณะมีอายุได้ 19 ปี ณ วัดป่าคลองกุ้ง ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 21 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2496 ก่อนย้ายไปพักจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาแก้ว ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
    ปฏิบัติธรรม ผู้ที่คอยชี้ทางส่งเสริมให้ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน คือ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมมฺธโร) หรือท่านพ่อลี ธมฺมธโร ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ นั่นเอง[2] หลวงพ่อทอง ได้ศึกษาวิชาความรู้จากท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะเคยศึกษาวิชาบาลีที่กรุงเทพ ฯ มาแล้วก็ตาม จนมาถึงปี พ.ศ. 2500 ไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ้านสันกอเก็ด ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 3 ปี กระทั่งท่านพ่อลีได้มรณภาพลง ท่านจึงได้กลับมาอยู่ที่วัดอโศการาม และท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอโศการามเมื่อปี พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน ในด้านพระธรรม หลวงพ่อทองท่านมักจะเน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และท่านก็เคยกล่าวไว้ว่า การฝึกธรรมมะ ต้องรู้จักการฝึกความอดทนไว้ก่อน และต้องมีสติด้วย เพราะมนุษย์ ไม่มีจุดยืนในความคิด ชอบใช้สติปัญญาของตนไปตัดสินโดยการสังหารกิเลสของตนเอง เมื่อสมาธิเป็นสมถะจิตจะบังเกิดความสงบ อย่างบางคนบอกอะไรอนิจจัง อะไรไม่เที่ยง อะไรก็อยู่ไม่ได้ อะไรแตกดับ ทำไมไม่ถึงวิปัสสนา เพราะใจมันยังไม่มีสมถะ ใจมันไม่นิ่ง ใจมันส่ายไปมา พอใจหยุดนิ่ง สิ่งที่เห็นคือพระ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ไม่ได้เห็นจากดวงตา สิ่งที่มันเกิดคือผู้รู้แท้ ถ้ารู้ใจเจ้าของคือผู้รู้ตน ใจก็อยู่ที่ใจ ไม่ใช่เอาใจไปไว้ที่หัวหรือบนผม รู้จักที่มาที่ไป ไม่ใช่ไปรู้ตามหนังสือที่เขียน แล้วก็หอบสังขารไป” พระอาจารย์ทองท่านเป็นนักเทศน์ธรรมมะรูปหนึ่ง ที่ติดรับกิจนิมนต์ตลอดเวลา และเป็นศูนย์รวมใจของชาวชุมชนโดยมิเสื่อมถอย วัดอโศการามแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มเย็นสำหรับเป็นที่พักพิงแก่มวลสรรพสัตว์ฉันใด พระอาจารย์ทองก็เป็นธงธรรมให้ร่มเงาจิตใจแก่ชาวบ้านญาติโยมฉันนั้น

    ให้บูชา 250 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    279570.jpg 279571.jpg 279568.jpg 279569.jpg
     
  4. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,981
    ค่าพลัง:
    +6,889
    ขอจอง1เหรียญครับ
     
  5. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองรายการที่ ๑๘๖ เหรียญอุดมสมบูรณ์พูลสุข รูป หลวงปู่สด วัดปากน้ำ หลังดวง ปี 27 ครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  6. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๘๘
    บูชาเป็นคู่ ของ หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    รายการแรก ผ้ายันต์เสือฟุบ สีเหลืองของ หลวงปู่สุภา กันตสีโล ภูเก็ต ผ้ายันต์นี้ออกที่วัดสีลสุภาราม ตอนหลวงปู่อายุ 109 ปี เมื่อปี 47 ยันต์นี้ลงไว้เป็นผ้าเช็ดหน้าเป็นมหาราชเสน่ห์แก่ฝูงชนทั้งหลายทั้งปวงวิเศษนัก ไปป่าดงเข้มแข็ง ใครทำอันตรายมิได้ กันได้สารพัด สิงสาราสัตว์ทั้งปวงแลฯ ยันต์เสือโผนหรือเสือเผ่น นี้ว่ากันว่าหลวงปู่เอามาจากตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน
    คาถากำกับมีดังนี้
    เพียกเมนาเควิเลพูเต อิติมุลินะมะอะอุ

    รายการที่สอง ผ้ายันต์เสือโผนหรือเสือเผ่น สีแดง ของ หลวงปู่สุภา กันตสีโล ภูเก็ต ผ้ายันต์นี้ออกที่วัดสีลสุภาราม ตอนหลวงปู่อายุ 109 ปี เมื่อปี 47 ยันต์นี้ลงไว้เป็นผ้าเช็ดหน้าเป็นมหาราชเสน่ห์แก่ฝูงชนทั้งหลายทั้งปวงวิเศษนัก ไปป่าดงเข้มแข็ง ใครทำอันตรายมิได้ กันได้สารพัด สิงสาราสัตว์ทั้งปวงแลฯ ยันต์เสือโผนหรือเสือเผ่น นี้ว่ากันว่าหลวงปู่เอามาจากตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน
    สำหรับยันต์เสือโผนหรือเสือเผ่นนี้ จะเป็นยันต์ที่นิยมในการสักเป็นอย่างยิ่งแทบจะทุกสำนักที่มีการสักจะตัองมียันต์นี้ด้วยครับ
    ด้านหลังผ้ายันต์จะมีปั๊มตรายางวัดด้วยครับ

    หลวงปู่สุภาท่านเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อายุท่านยืนถึง 119 ปี เมื่อปี 2556 สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย เหมือนคนนอนหลับ แต่ภายหลังทางวัดคอนสวรรค์ได้เผาสรีระของท่าน แต่อัฐิของท่านกลับกลายเป็นสีต่างๆ ครับ

    ให้บูชาคู่นี้ 330 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    ปล.ด้านหลังประทับตราวัดด้วยครับ
    20240709_085940.jpg 20240709_090141.jpg
     
  7. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๘๙
    บูชาเป็นคู่ ของ หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    รายการแรก ผ้ายันต์ราชสีห์ สีเหลือง ของหลวงปู่สุภา กันตสีโล ผ้ายันต์นี้ออกที่วัดสีลสุภาราม ตอนหลวงปู่อายุ 109 ปี เมื่อปี 47 ยันต์นี้ลงไว้เป็นผ้าเช็ดหน้ากันทั้งนั่งและนอน กันภัยอันตราย มิให้ถูกต้องคุ้มได้ทั้งเรือนถึงนอนหลับใหลก็สกลมิลง กันได้สารพัดแลฯ พระคาถาคือ ตะโตโพธิสัตว์โต ราชาสีโห จะมหิทธิโก สัตถาอาหะหัมหิหัมอังอะ สีหะนาทังนะทันตันเต ปุริสะสุวิสาระทา ยันต์ราชสีห์เผ่นนี้ว่ากันว่าหลวงปู่เอามาจากตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน

    รายการที่สอง ผ้ายันต์ราชสีห์เผ่น สีแดง ของหลวงปู่สุภา กันตสีโล ผ้ายันต์นี้ออกที่วัดสีลสุภาราม ตอนหลวงปู่อายุ 109 ปี เมื่อปี 47 ยันต์นี้ลงไว้เป็นผ้าเช็ดหน้ากันทั้งนั่งและนอน กันภัยอันตราย มิให้ถูกต้องคุ้มได้ทั้งเรือนถึงนอนหลับใหลก็สกลมิลง กันได้สารพัดแลฯ พระคาถาคือ ตะโตโพธิสัตว์โต ราชาสีโห จะมหิทธิโก สัตถาอาหะหัมหิหัมอังอะ สีหะนาทังนะทันตันเต ปุริสะสุวิสาระทา ยันต์ราชสีห์เผ่นนี้ว่ากันว่าหลวงปู่เอามาจากตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน

    หลวงปู่สุภาท่านเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อายุท่านยืนถึง 119 ปี เมื่อปี 2556 สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย เหมือนคนนอนหลับ แต่ภายหลังทางวัดคอนสวรรค์ได้เผาสรีระของท่าน แต่อัฐิของท่านกลับกลายเป็นสีต่างๆ ครับ

    ให้บูชาคู่นี้ 330 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    ปล.ด้านหลังประทับตราวัดด้วยครับ

    20240709_085456.jpg 20240709_085515.jpg
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๐
    รายการฝาก
    ให้บูชาพระขุนแผนออกวัดบุญวาทย์วิหาร จ.ลำปาง ซึ่งรุ่นนี้ หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้เสกไว้เมื่อปี 2532 ซึ่งในสายลำปางถือได้ว่าเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่านที่ออกใน จ.ลำปาง ในสารบบพระเครื่องของจังหวัดลำปางจัดว่าเป็นรุ่นสอง รุ่นนี้จะมีแบบฝังกรุและไม่ฝังกรุครับ (ตามข้อมูลที่ลงกันไว้ในปัจจุบัน) พระขุนแผนรุ่นนี้ ทางวัดบุญวาทย์วิหาร จ,ลำปาง ได้ ทำการจัดสร้างขึ้นแจก ในงานทอดฝ้าป่า รุ่นนี้ได้รับความนิยมแบบเงียย ๆ ถ้าราคาไม่แรงก็มีคนเก็บกันอยู่เรื่อย ๆ ครับ

    ฝากมาที่ 200 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    ปล.สำหรับองค์นี้จะฝังกรุครับ จะหย่อนสวยหน่อยครับ
    IMG_8370.JPG IMG_8371.JPG IMG_8372.JPG
     
  9. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๑
    รายการฝาก
    ให้บูชาพระขุนแผนออกวัดบุญวาทย์วิหาร จ.ลำปาง ซึ่งรุ่นนี้ หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้เสกไว้เมื่อปี 2532 ซึ่งในสายลำปางถือได้ว่าเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่านที่ออกใน จ.ลำปาง ในสารบบพระเครื่องของจังหวัดลำปางจัดว่าเป็นรุ่นสอง รุ่นนี้จะมีแบบฝังกรุและไม่ฝังกรุครับ (ตามข้อมูลที่ลงกันไว้ในปัจจุบัน) พระขุนแผนรุ่นนี้ ทางวัดบุญวาทย์วิหาร จ,ลำปาง ได้ ทำการจัดสร้างขึ้นแจก ในงานทอดฝ้าป่า รุ่นนี้ได้รับความนิยมแบบเงียย ๆ ถ้าราคาไม่แรงก็มีคนเก็บกันอยู่เรื่อย ๆ ครับ

    ฝากมาที่ 230 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    ปล.สำหรับองค์นี้จะฝังกรุครับ

    IMG_8367.JPG IMG_8368.JPG IMG_8369.JPG
     
  10. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๒
    ให้บูชาล็อกเก็ตรูปหัวใจ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ด้านหลังเป็น ยันต์ท่านท้าวมหาชมภู รุ่นนี้ปลุกเสกเมื่อปี 2528 ออกที่วัดท่าซุงโดยตรงครับ มีข้อมูลในหนังสือสมบัติพ่อให้ของวัดท่าซุงโดยตรง
    ข้อมูลของยันต์ท้าวมหาชมพู ตามหนังสือสมบัติพ่อให้ วัดท่าซุงได้กล่าว่า
    ป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุ โรคระบาดต่าง ๆ เช่น ไข้ป่า เป็นต้น หากมีอันตราย ก็เพียงเนื้อแตก หนังแตก กระดูกจะไม่หัก หรือสิ้นชีวิตในระหว่างที่ ยังไม่ถึงอายุขัย ถ้าถึงที่ตาย จะให้กลับมาตายที่บ้าน แต่ท่านไม่รับรองในด้านคงกระพันชาตรี และจะไม่มีผล ต่อท่านที่เป็นมิจฉาทิฐิ

    องค์นี้ขนาดเหรียญประมาณเหรียญ 50 สตางค์ครับ

    สำหรับองค์นี้ผมได้นำไปชุบทองคำแท้มาครับ
    ให้บูชา 550
    ติดจอง จ้ดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    281213.jpg 281212.jpg 281203.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2024
  11. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,510
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ปิดรายการนี้ 1 ซองครับ
     
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองรายการที่ ๑๗๑ สร้อยข้อมือเพชร หลวงปู่สุภา จำนวน 1 ซอง ขอบพระคุณมากครับ
     
  13. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๓
    รายการฝาก
    ให้บูชาพัดโพธิศัสตรา ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
    ผมขอนำข้อความเกี่ยวกับพัดจากเพจเกษมธรรมบำเพ็ญบุญมาให้อ่านครับ
    ถึงช่วงเวลา ที่ต้องมาตามนัดของพัด “โพธิศัสตรา” ซึ่งบรรดาแอดมินทั้งหลายต่างภูมิใจนำเสนอ เพียงแค่ได้ยินชื่อครั้งแรก ก็รู้สึกอเมซซิ่ง เพราะฟังดูยิ่งใหญ่ และอาจเกี่ยวข้องอะไรกับพระโพธิสัตว์ (หรือเปล่า..?) เราไปฟังเฉลยพร้อมกันเลยดีกว่าครับ
    ตามที่พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในวันเสาร์ ๕ พุทธาภิเษกที่ผ่านมานั้น มีความสำคัญอย่างไร มีอะไรเป็นความมหัศจรรย์จากเบื้องบนสู่เบื้องล่างกันบ้าง วัตถุมงคลหลายต่อหลายชิ้น ที่ผ่านการเล่าเรื่องจากหลวงพ่อเอ สู่ตัวอักษรให้พวกเราได้รับรู้ เสมือนนั่งปลุกเสกอยู่ด้วยกัน ต่างทยอยออกมาให้ทุกคนร่วมบุญบูชา ยังความรื่นเริง บันเทิงใจ ในบุญทานการกุศล ให้เปี่ยมล้นแก่เหล่าศิษย์ทั้งหลายทั้งปวง
    ในเรื่องของ พัดโพธิศัสตรา
    หลวงพ่อเอท่านแย้มให้ฟังว่า....ในเมื่อท่านปู่ทรงอนุญาตให้จัดสร้าง “สังข์แก้วมณีเสต” ได้ หลวงพ่อจึงเข้าไปหาท่านย่า เพื่อขออนุญาตสร้างพัดที่ท่านย่าถืออยู่ เผื่อจะได้ปัดเป่าสิ่งเลวร้าย และให้ความร่มเย็นกายใจแก่ลูกหลานทั้งหลาย ท่านย่าทรงยิ้ม แล้วพูดว่า ถ้าแกจะทำพัดแบบนี้ อย่าทำเลย ดูมันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่..! ถ้าอยากทำก็ให้ไปปรึกษาแม่แกดูนะ แม่แกทั้งฉลาด ทั้งรวยมาก ได้ฟังเท่านี้ถือว่าไฟเขียวนะครับ
    หลวงพ่อจึงไม่รอช้า รีบไต่ขึ้นไปหาท่านแม่ แล้วขออนุญาตปรึกษาเรื่องการจัดสร้างพัดทันที ท่านแม่นิ่งไปสักพักแล้วพูดว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ทำพัดในลักษณะพัดของเซียน(ท่านทำภาพให้ดู) ซึ่งเราจะคุ้นตากับเทพทางจีนอยู่แล้ว ท่านให้เหตุผลว่า ถ้าเป็นพัดทั่วไป เราอาจรู้สึกเฉยๆ ไม่ระวังรักษาเพราะธรรมดา แต่ถ้าเป็นลักษณะพัดเซียนจะรู้สึกว่า เป็นของสูงค่าขึ้นมาทันที ตรงส่วนบน ให้ออกแบบเป็นรูไว้สำหรับคล้องสร้อยหรือเชือก ทำให้สามารถใช้งานได้เลย
    ท่านแม่เมตตาสอนต่อไปว่า หน้าและหลังพัดให้ติดอักขระขอม คือ นะ กับ โม เพราะเป็นแม่บทพ่อบทสำคัญ ที่เราจะมองข้ามกันไม่ได้
    ส่วนวิธีใช้นั่นสิ ช่างอัศจรรย์ใจ ท่านว่าวิธีใช้มี ๒ แบบ คือ
    ๑.เอาไว้กวักเรียกสิ่งที่เป็นมงคลทุกอย่างทุกประการเข้ามาหาตัวเรา โดยให้เราอธิษฐานในสิ่งที่เราปรารถนา ว่าคาถา.... แล้วนำพัดกวักเข้าหาตัวเรา
    ๒.เอาไว้ขับไล่สิ่งอัปมงคล เรื่องเลวร้าย ภูติผีปิศาจ โรคและภัยอันตรายทั้งหลาย ให้ไกลออกไป โดยให้เราอธิษฐานสิ่งที่เราต้องการ ว่าคาถา...แล้วนำพัดปัดไล่ออกจากตัวเราไป
    ได้ฟังเพียงเท่านี้ แอดทั้งหลายถึงกับน้ำลายไหล จะว่าไปการใช้งานมีลักษณะคล้ายกับ กังหันลมของท่านแชกงอันเลื่องชื่อลือชาไปทั่วโลก...เยี่ยมจริงๆ
    หลวงพ่อเอท่านว่า ท่านยังสงสัยต่ออีกนะ คือถ้าท่านให้ออกแบบในลักษณะห้อยได้ แล้วเวลาที่ห้อยในรถ หรือห้อยที่ตัว หรือจะที่ไหนๆก็ตาม เกิดพัดหมุนไปหมุนมา แล้วจะมีผลต่อการใช้งานหรือไม่ อย่างไรครับ..?
    ท่านแม่ตอบว่า อย่าไปสับสนกับการกวักเข้าหรือปัดออกสิ คนละอย่างกัน ถ้าพัดห้อยอยู่แล้วเกิดการหมุนไปหมุนมากลับกลายเป็นดีเสียอีก เพราะพัดจะช่วยปรับสมดุลให้ในพื้นที่ๆเขาหมุนอยู่ แต่ถ้าอยู่กับตัวเราล่ะครับ ท่านยิ้มอ่อนแล้วตอบว่า ก็ปรับสมดุลให้ตัวเรายังไงล่ะ จะถามอะไรอีกไหม ถามครับ....ตอนนั้นหลวงพ่อเออยู่ในลักษณะหน้าก้มพนมมือไว้เหนือหัว ไม่กล้าสบตาท่านแม่อีกแล้ว ท่านถามว่า เอ้า..! เจ้าตัวยุ่งจะถามอะไรอีก..? หลวงพ่อเอจึงกราบถามท่านว่า สามารถนำมาทำน้ำมนต์ได้ด้วยไหมครับ ท่านพยักหน้า ตอบว่า สบายมาก
    ท่านเมตตาอธิบายเพิ่มเติมว่า
    ถ้าจะทำน้ำมนต์ในด้านมงคล ก็นำพัดแกว่งในน้ำ แล้วว่าคาถาที่กวักเรียกมงคล
    ถ้าต้องการทำน้ำมนต์ เพื่อปราบหรือขับไล่...ก็ให้นำพัดแกว่งในน้ำ แล้วว่าคาถาที่ให้ปัดขับไล่ (ซึ่งตัวคาถานั้น ได้แนบไปกับซองวัตถุมงคลทุกชิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
    จากนั้นท่านแม่ทรงประทานชื่อพัดว่า “โพธิศัสตรา” ท่านว่า โพธิ หมายนัยยะคือพุทธะ ส่วนศัสตรา คืออาวุธ เพราะงานนี้พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานให้ มาถึงตรงนี้พวกเราจึงได้แต่ร้อง โอ้โห...! โง่ตั้งนาน คือตอนแรกที่แอดได้ยินชื่อก็นึกถึงแค่ว่า พัดนี้ต้องเป็นกำลังของพระโพธิสัตว์แน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น มันแค่พ้องเสียง เชื่อว่าทุกท่านคงแปลได้ไม่ยาก ถึงว่าสิ แอดมักได้ยินหลวงพ่อเอพูดเสมอว่า ความรู้ของข้างบนไม่มีวันหมดนะลูก...สาธุขอรับ
    เมื่อภาพนิมิตทุกอย่างชัดเจนเเล้ว หลวงพ่อจึงสั่งช่าง ให้เริ่มทำงานทันที พร้อมทั้งรีบนำมวลสารสำคัญ อาทิ แผ่นทองเหลือง ที่หลวงพ่อเอจารสารพัดยันต์ ตามคำสั่งของท่าน ตะกรุดฉุดเงินล้าน จตุราวุธ รวมถึงทองชนวนในการสร้างพระพุทธรูปทุกองค์ในชีวิตของหลวงพ่อ เป็นต้น พร้อมกำชับช่าง ให้รีบดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะเหลือเวลาอีกเเค่ ๒ สัปดาห์ ก่อนงานพิธี
    แอดแอบสังเกตมาหลายงานแล้ว ถ้าเป็นงานเร่งด่วนแบบฝุ่นตลบขนาดนี้ มักจะเป็นวัตถุมงคลที่ฝืนกรรม บอกนานทำนานไม่ได้ นอกจากไม่ให้เตรียมตัวนานแล้ว ยังสร้างมากไม่ได้อีกด้วย และสิ่งที่ตอกย้ำซ้ำความมั่นใจลงไป ก็คือการปรากฏตัวของลูกแก้วหลวงปู่ทวดองค์ครู ที่ตั้งอยู่กลางพิธี ซึ่งได้รับการประสิทธิ์ประสาทจากหลวงพ่อเล็กเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากหลวงพ่อเล็กเคยบอกว่าพลังงานของลูกแก้วหลวงปู่ทวดองค์จริงอยู่ที่ท่าน และท่านก็ยินดีประสิทธิ์ให้ในแก้วลูกนี้ด้วย
    (มีเรื่องเล่า... แก้วลูกนี้เมื่อพระอาจารย์บ๊ะมาเห็นเข้า ถึงกับนั่งคุกเข่าลง แล้วเอาลูกแก้วลูกนี้ทูนไว้บนหัว พร้อมกับขอพรแล้วพูดว่า นี่สิของดีจริง แก้วลูกนี้มีขนาดเท่ากับแก้วประจำตัวของหลวงปู่ทวดจริงๆ พลังงานดีจริงๆ)
    เมื่อแก้วของหลวงปู่ทวดปรากฏ ถือเป็นการลั่นฆ้องกลองสัญญาณ เชื่อมพลังงานจากพระโพธิสัตว์ มีหลวงปู่ทวดเป็นต้น เพื่อเข้าสงเคราะห์วัตถุมงคลทุกชิ้น ให้มีกำลังอันยิ่งใหญ่ ไปไหนก็สบายใจ ยิ่งผนึกกำลังเข้ากับเพชรจักรพรรดิองค์ครูสมัยที่หลวงพ่อฤๅษีฯเสกให้ ก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันอีก...
    และจงอย่าลืมว่า พัดนี้ก็ได้รับการเสกโดยท่านปู่ท่านย่า ท่านแม่ ท่านพี่ทั้ง ๔ พระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ ตลอดจนถึง ครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ปาน หลวงปู่สมเด็จ(นวม) หลวงพ่อฤๅษีฯ เป็นต้นด้วยเช่นกัน ภายใต้พระเมตตาอันสูงสุด ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสว่า “วัตถุมงคลทั้งหมดมีเเสงออกจากตัวเองเเล้ว สมบูรณ์เเล้ว ใช้งานได้เเล้ว…” คงไม่ต้องอารัมภบทกันยืดยาวในรายละเอียดอีกต่อไป (สามารถหาอ่านได้ ในวัตถุมงคลชิ้นก่อนๆ)
    สรุป จะห้อยคอก็ได้ ติดตัวก็ได้ ติดรถก็ดี จะไว้ในบ้านก็ไม่มีปัญหา พัดจะช่วยขจัดปัดเป่าภยันตราย ปกป้องคุ้มครองเราให้ปลอดภัย ทำน้ำมนต์ก็ได้อีก ถ้าพัดหมุนไปหมุนมา ถือเป็นการรักษาสมดุล ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ดีตั้งแต่ในถึงนอก บอกได้คำเดียวว่า...เลอค่า
    ****ปล. เพิ่มเติมคือ อัพเดทเพิ่มเติม คือ ได้ผ่านพิธีสวดมนต์ข้ามปีล่าสุดของบ้านสุมโน เป็นเคล็ดเเห่งการข้ามพ้นสิ่งไม่ดีทั้งหลาย และเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นศิริมงคลอย่างเต็มที่ตลอดปี ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยเคล็ดเเห่งการขจัดปัดเป่าอุปสรรค พัดไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป เเล้วกวักเรียกสิ่งใหม่ที่เป็นมงคลเข้ามาเเทน ซึ่งพัดโพธิศัสตรา ชุดนี้ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกสำคัญๆเพิ่มเติม มีพิธีเสกพระสมเด็จยอดบายศรี รูปเคารพท่านปู่ท่านย่า เเละพระอนุรุทธ รุ่น ๑ รวมถึงพิธีพระอาจารย์บ๊ะ อธิษฐานจิตเสกเดี่ยว เเละหลวงพ่อเอเสกเดี่ยว ที่บ้านสุมโน หลายวาระ จึงทำให้พัดโพธิศัสตราชุดนี้ถูกอัดเสริมเพิ่มอานุภาพทั้งหลายจากทุกพิธี ไม่ว่าจะเป็น ด้านทิพยจักขุญาณ รวมถึงการได้อะไรที่เป็นยอดสูงสุดเช่นเดียวกับพระสมเด็จยอดบายศรีนั่นเอง…
    ให้บูชา 1100
    ปิดรายการ ค่าส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    IMG_8391.jpg IMG_8392.jpg IMG_8393.jpg IMG_8394.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2024
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,981
    ค่าพลัง:
    +6,889
    ขอจองครับ
     
  15. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองที่ ๑๙๓ พัดโพธิศัตราครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  16. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๔
    ให้บูชาศิลาน้ำอธิษฐาน รุ่นย้อนยุค ของวัดอาวุธ หลวงปู่มหาศิลา จ.กาฬสินธิ์อธิษฐานจิตเดี่ยววันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
    รายละเอียดมีดังนี้
    ศิลา น้ำอธิษฐาน นี้ ตั้งแต่ คุณแม่บุญเรือน ปลงสรีรสังขาร ไม่ได้จัดสร้างอีกเลย
    มาวาระมงคลพิเศษ ที่มีพระเถระผู้ทรงวิทยาคุณที่มีเมตตาแผ่ไพศาลปรากฏทั่วประเทศ คือ หลวงปู่ศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ) จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนามของท่านเป็นมงคลยิ่งและตรงกันกับนามมงคลวัตถุของคุณแม่บุญเรือน คือ ศิลา (น้ำอธิษฐาน)
    ในวาระวันวิสาขบูชา 2567 และ เป็นวาระรำลึกครบ 130 ปี แห่งชาตกาล (และ ครบ 60 ปี แห่งการปลงสรีรสังขาร) คุณแม่บุญเรือน ทางวัดอาวุธฯ จึงจัดสร้าง ศิลาน้ำอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือนเป็นพิเศษขึ้น ในจำนวน 9,999 ก้อน โดยมียันต์ พุทโธ ประทับกำกับทุกก้อน
    ในการนี้ ได้รับประกอบพิธีอธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศิลา ณ วัดอาวุธฯ ในวันวิสาขบูชา ตรงกับวันพุธ ที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.09 น.
    หมายเหตุ ศิลา ที่นำมาอธิษฐานนี้ เป็นศิลากรวดแม่น้ำโขง และ ศิลาบาหลี อินโด ประด้วยสี ขาว สี ดำ และ เหลืองน้ำผึ้ง
    ประชาชนไปร่วมงานเพื่อบูชาศิลาน้ำนี้ในวันงานเป็นจำนวนหลักพันครับเพื่อบูชาศิลาน้ำ อีกหน่อยน่าจะต้องการกันครับ
    บูชาก้อนละ 350
    ปิดรายการ บาทครับ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    IMG_8396.jpg IMG_8397.jpg IMG_8398.jpg IMG_8402.jpg 282293.jpg 282294.jpg 282295.jpg 282296.jpg 282297.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2024
  17. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๕
    ให้บูชาศิลาน้ำอธิษฐาน รุ่นย้อนยุค ของวัดอาวุธ หลวงปู่มหาศิลา จ.กาฬสินธิ์อธิษฐานจิตเดี่ยววันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา (จารหมึกแดง พบเห็นน้อยครับ )
    รายละเอียดมีดังนี้
    ศิลา น้ำอธิษฐาน นี้ ตั้งแต่ คุณแม่บุญเรือน ปลงสรีรสังขาร ไม่ได้จัดสร้างอีกเลย
    มาวาระมงคลพิเศษ ที่มีพระเถระผู้ทรงวิทยาคุณที่มีเมตตาแผ่ไพศาลปรากฏทั่วประเทศ คือ หลวงปู่ศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ) จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนามของท่านเป็นมงคลยิ่งและตรงกันกับนามมงคลวัตถุของคุณแม่บุญเรือน คือ ศิลา (น้ำอธิษฐาน)
    ในวาระวันวิสาขบูชา 2567 และ เป็นวาระรำลึกครบ 130 ปี แห่งชาตกาล (และ ครบ 60 ปี แห่งการปลงสรีรสังขาร) คุณแม่บุญเรือน ทางวัดอาวุธฯ จึงจัดสร้าง ศิลาน้ำอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือนเป็นพิเศษขึ้น ในจำนวน 9,999 ก้อน โดยมียันต์ พุทโธ ประทับกำกับทุกก้อน
    ในการนี้ ได้รับประกอบพิธีอธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศิลา ณ วัดอาวุธฯ ในวันวิสาขบูชา ตรงกับวันพุธ ที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.09 น.
    หมายเหตุ ศิลา ที่นำมาอธิษฐานนี้ เป็นศิลากรวดแม่น้ำโขง และ ศิลาบาหลี อินโด ประด้วยสี ขาว สี ดำ และ เหลืองน้ำผึ้ง
    ประชาชนไปร่วมงานเพื่อบูชาศิลาน้ำนี้ในวันงานเป็นจำนวนหลักพันครับเพื่อบูชาศิลาน้ำ อีกหน่อยน่าจะต้องการกันครับ
    บูชาก้อนละ 370
    ปิดรายการ บาทครับ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

    IMG_8399.jpg IMG_8400.jpg IMG_8401.jpg 282293.jpg 282294.jpg 282295.jpg 282296.jpg 282297.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2024
  18. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รายการที่ ๑๙๖
    ให้บูชาเป็นชุด ชุดเหรียญรัชกาลที่ ๙ ประกอบด้วย 2 เหรียญ
    เหรียญแรกเป็นเหรียญคุ้มเกล้า ปี 2522 เนื้อนวะโลหะ
    สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
    โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชมีอายุครบรอบ 30 ปี ซึ่งในปีดังกล่าวนี้ทางโรงพยาบาลจะสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉินขนาดใหญ่สูง 12 ชั้นที่ทันสมัย ขึ้นมาหลังหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมสร้างบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม บรรดาผู้ป่วยทั้งหลายไปชั่วกาลนาน โดยค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนั้นมีการประมาณการกันว่าน่าจะต้องใช้เงืนทั้งสิ้นราว ๆ 600 ล้านบาท จึงได้มีการรณรงค์หาทุนขึ้นมาโดยใช้ชื่ออาคารที่สร้างในครั้งนั้นว่า “คุ้มเกล้า”
    ในการหาทุนสร้าง ′อาคารคุ้มเกล้าฯ′ และจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ไว้ใช้ในอาคารคุ้มเกล้าฯ นั้นโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชและกองทัพอากาศได้ร่วมกันจัดสร้าง ′วัตถุมงคลคุ้มเกล้า′ ขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อสมนาคุณให้แก่ผู้มีจิตศรัทธา ให้การสนับสนุน ประกอบด้วย พระพุทธรูปบูชา พระกริ่ง และเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งก็คือเหรียญคุ้มเกล้า
    ต่อมาความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
    พระองค์เองก็เห็นความสำคัญของการสร้างอาคารเพื่อผู้ป่วยและคุณภาพชีวิตของประชาชน พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ′ภปร′ มาประดิษฐานที่ด้านหลังเหรียญ พร้อมกับทรงให้ช่างในพระองค์เป็นผู้ปั้นแบบเหรียญคุ้มเกล้าโดย
    ด้านหน้า นั้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์
    ด้านหลัง เป็นพระปรมาภิไธยย่อ ′ภปร′ ซึ่งขั้นตอนในการเตรียมการต่างๆ นั้นใช้เวลาอยู่ถึง 4 ปีนั่นก็คือปีพ.ศ. 2526 จึงจะได้เริ่มลงมือสร้างวัตถุมงคลคุ้มเกล้า4 ปีหลังจากที่คณะกรรมการการจัดสร้างวัตถุมงคลได้รับพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเตรียมการสร้างวัตถุมงคลรุ่น “คุ้มเกล้า” จนกระทั่งถึงปีพ.ศ. 2526 ก็ได้เวลาที่จะเริ่มต้นจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวด้วยการเริ่มต้นที่พิธีจารอักขระศักดิ์สิทธิ์ลงบนแผ่นทอง เงิน นาคเพื่อเป็นชนวนมวลสารในการจัดสร้างโดยได้มีการจัดการจารอักขระเป็นปฐมฤกษ์ในวันที่ 12 สิงหาคม 2526 ณ. พระอุโบสถ วัดราชบพิตรโดยมี
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ในขณะนั้นทรงเป็นประธาน พร้อมด้วยพระเถระอีก 60รูป ที่ได้มาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ก่อนที่จะมีการส่งแผ่นทอง เงิน นาค ไปให้พระเกจิอาจารย์และพระเถรานุเถระชื่อดังของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศลงอักขระเพื่อเป็นชนวนในการจัดสร้างอาทิเช่น
    – พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดุลย์)วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ลงอักขระวันที่ 16 กันยายน 2526
    – พระคุณเจ้าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ลงอักขระแผ่นทอง นาก เงิน ณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ 19 สิงหาคม 2526
    – พระสุพรหมยานเถร (หลวงปู่พรหมจักร)วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน ลงอักขระ 21 สิงหาคม 2526
    – พระอุดมสังวรเถร(หลวงพ่ออุตตมะ)วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี ลงอักขระ 5 ตุลาคม 2526
    – พระสุนทรธรรมภาณี(หลวงพ่อแพ)วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ลงอักขระวันที่ 3 ตุลาคม 2526
    – พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ลงอักขระ 5 สิงหาคม 2526
    – หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง ลงอักขระ 22สิงหาคม 2526
    – พระครูสุวรรณประดิษฐการ(หลวงพ่อจ้อย)วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี ลงอักขระ 11 ตุลาคม 2526
    – สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เป็นต้น
    รวมชนวนแผ่นจารจากพระเกจิอาจารย์ทั้งสิ้น 1250 รูปเป็นจำนวนหลายพันแผ่น

    **วันที่ 16 มกราคม 2527 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของพระอริยสงฆ์เมืองเหนือ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดดอยแม่ปั๋งเพื่อเป็นประธานในการเททองหล่อพระพุทธรูปคุ้มเกล้าและหลอมแผ่นชนวนนับพันแผ่นให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อที่จะไ้ด้นำไปจัดสร้างวัตถุมงคลต่อไปซึ่งก็รวมถึงเหรียญคุ้มเกล้าโดยมีหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์อธิษฐานจิตชนวนในระหว่างหลอม จนจบตลอดพิธี
    หลังจากที่ได้มีการนำเอาชนวนมวลสารต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเป็นประธานในการเททองหลอมมวลสารไปสร้างเป็นพระเครื่องและเหรียญคุ้มเกล้าเรียบร้อย
    พิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล
    รุ่นคุ้มเกล้า โดยพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้านั้นต้องเรียกว่ายิ่งใหญ่อลังการเป็นอันมาก โดยประกอบพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างใหญ่โตมโหฬารเป็นเวลาถึง 4 วัน 4 คืน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2527 เรื่อยไปจนกระทั่งถึงวันที่ 9 เมษายน 2527 มีการโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มายังปะรำพิธี ณ. มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีการนิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง 108 รูปจากทั่วประเทศมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดระยะเวลา 4 วัน 4 คืน อาทิเช่น
    -หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี -หลวงปู่ดูุลย์ วัดบูรพาราม -หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    -หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า-หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    -หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง-หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง-หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    -หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง-หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร-หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    -หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่-หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม-หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์
    -หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน-หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้-หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา
    -หลวงพ่อโอด วัดจันเสน-หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย เป็นต้น
    โดยในวันแรกของพิธีนั้น
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงจุดไฟพระฤกษ์ด้วยพระองค์เอง ณ. พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้มอบให้พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. อัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธี จากนั้นในเวลา 19.19 น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ 4 สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก

    สำหรับเหรียญนี้ตรงขอบเหรียญด้านหลังจะมีเนื้อเกินซึ่งเกิดจากการปั๊มเหรียญครับ
    ตอนปี 59 เหรียญนี้ราคาไปหลักพันต้นมาแล้วครับ
    เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์แคล้วคลาดมากครับ


    อีกเหรียญหนึ่งคือเหรียญในหลวงนั่งบัลลังค์ ฉลองครองราชย์ 50 ปี พ.ศ. 2539 เนื้ออัลปาก้า
    สำหรับข้อมูลของเหรียญรุ่นนี้มีดังนี้
    เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ .ศ. 2539 การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทยและประชาชนทั่วประเทศจัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เหรียญ มีราคาถูกเป็นพิเศษเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และ จักร เหรียญมีขนาดขนาด 2.8 X 4 เซนติเมตร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรืยกว่า เหรียญทรงเสมา(อาร์ม)ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539 กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป(อย่างหนึ่ง)และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออกแบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิสลักษ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตาลกาญจนสิงหาส์บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539” มีบล็อกที่นิยมคือ บล็อกกระบี่ยาวและบล็อกเส้นพระเกศาชัด ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความนิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับอันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม

    ให้บูชาคู่ละ 650 บาท จัดส่ง 40 จองได้สามว้น

    ****ปกติเฉพาะเหรียญคุ้มเกล้า เขาบูชากันเหรียญละ6-700แล้วครับ****
    IMG_8416.JPG IMG_8417.JPG IMG_8418.jpg IMG_8419.jpg IMG_8420.jpg IMG_8421.jpg IMG_8422.jpg 1474431745496.jpg 1474431745661.jpg
     
  19. สักกภพ สมคำ

    สักกภพ สมคำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2022
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +2
    จอง 196 ครับ
     
  20. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,869
    ค่าพลัง:
    +16,581
    รับทราบการจองรายการที่ ๑๙๖ ชุดเหรียญในหลวงครับ ขอบพระคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...