"บัณเฑาะก์"..ตามพระธรรมวินัยห้ามบวชโดยเด็ดขาด..!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 15 พฤษภาคม 2008.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    จากกรณีที่...พระนฤพนธ์ ติสสวโร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พระสมเจตน์ ฐานังกโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสนามนอก และ พระอ๊อด พระลูกวัดโชติการาม
    ถ่ายภาพแสดงถึงความไม่สำรวมที่น้ำตกแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี โดยเป็นภาพที่พระอ๊อดนอนหนุนตักพระสมเจตน์ในน้ำตก และจีวรถลกขึ้นไปถึงขาอ่อน

    ในขณะที่มีพระอีกรูปหนึ่ง ควงแขนเด็กผู้ชาย และพระกอดกับเด็กชาย โดยภาพถ่ายดังกล่าวถูกนำมาโพสต์ในอินเทอร์เน็ต ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และกลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมสนใจในพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีลักษณะการแสดงออกในทางกระตุ้งกระติ้ง จนกลายเป็นข่าวครึกโครมนั้น

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    ต่อมาเจ้าคณะสงฆ์อำเภอบางคูเวียง ซึ่งเป็นคณะสงฆ์ปกครองในตำบลดังกล่าว ได้เรียกตัวมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าพระบางรูปจะยอมรับว่า เป็นเกย์ผ่านรายการทีวีช่องหนึ่ง แต่กลับไม่มีการดำเนินการตามพระวินัยแต่อย่างใด
    นอกจากนี้แล้ว มีพระอยู่รูปหนึ่ง ที่ตกเป็นข่าวต้องข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาล คณะสงฆ์ปกครองยังปกป้องราวกับว่า ไม่ใช่ความผิดทางวินัยที่ร้ายแรง

    "พระที่ไม่เคารพพระธรรมวินัย ถือว่าไม่เคารพพระพุทธเจ้า ต้องเอาพระธรรมวินัยเป็นตัวตั้ง พระอย่าสำคัญว่า พุทธศาสนาและวัดเป็นของตัวต้องรับผิดชอบ การที่พูดว่า เป็นเรื่องของพระ ฆราวาสไม่เกี่ยวนั้นไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าฝากพระพุทธศาสนากับพุทธบริษัทสี่ วัดและพระอยู่ได้ด้วยศรัทธาของญาติโยม พระไม่เอาธุระ ไม่เอางานด้านศาสนา บวชไปก็เปลืองข้าวสุก ยิ่งเป็นพระที่มีสมณศักดิ์ด้วยแล้ว หากละเลยก็ไม่สมควรเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า พระที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองบางรูป มีกิเลสหนากว่าฆราวาสด้วยซ้ำไป แต่พระดีๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย" นี่คือเสียงสะท้อนของ พระเทพวิสุทธิกวี กรรมการและเลขาธิการ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    พระเทพวิสุทธิกวี บอกว่า บุรุษที่มีความผิดปกติทางเพศ เข้ามาบวชในสังฆมณฑล ย่อมทำให้สังฆมณฑลเกิดความวิบัติ ดังเพศสัมพันธ์วิปริตที่พรรณนาไว้ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ ปฐมปาราชิกสิกขาบท (ว่าด้วยเมถุนธรรม) ควรที่พระอุปัชฌาย์ต้องเข้มงวดในตัวผู้ขอบวชให้มากขึ้น เพียงแค่เสียงที่เพี้ยนจากปกติ ก็ควรขอใบรับรองจากแพทย์ เพื่อยืนยันความเป็นบุรุษของผู้นั้น
    การที่ให้ผู้ขอบวชมาอยู่วัดก่อนบวชระยะหนึ่ง ก็เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บวชว่า มีความผิดปกติทางเพศหรือไม่ ถ้าพบเหตุชวนสงสัย ก็ต้องงดการบวชของผู้นั้นไว้ก่อน
    ทั้งนี้ พระเทพวิสุทธิกวี ได้ยกคำจำกัดความ "บัณเฑาะก์-กะเทย" ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงให้ไว้ในวินัยมุข เล่ม ๑ และอคฺคโรจโน ภิกฺขุ นวกะ (นพ.วิโรจน์ เหวียนระวี) ได้ขยายความดังนี้

    บัณเฑาะก์ ได้แก่บุคคล ๓ จำพวก คือ

    ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทางเสพกาม (ผู้มีราคะกล้า) คือเป็นผู้ชายมีอวัยวะเพศเป็นชายโดยสมบูรณ์ แต่เสพกามกับผู้ชายด้วยกัน ทางเวจมรรค และทางปาก
    บุคคลจำพวกนี้ มีจิตใจและการแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่กิริยาอ่อนช้อยคล้ายผู้หญิง ปัจจุบันมีศัพท์เรียกเป็นภาษาสแลงว่า "เกย์" เมื่อเสพกาม คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นชาย คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นหญิง

    ๒.ชายผู้ถูกตอน (จีนเรียกขันที) คือ ผู้ชายที่ถูกตัดอวัยวะเพศออกหมด ทั้งส่วนที่เป็นองคชาตและอัณฑะ บุคคลจำพวกนี้ขาดฮอร์โมนเพศชาย จึงไม่มีความรู้สึกทางเพศ แต่ความสำนึกและจิตใจรวมทั้งความแข็งแรงยังเหมือนผู้ชายโดยสมบูรณ์
    และ
    ๓.กะเทย คือ คนหรือสัตว์ที่ไม่ปรากฏว่า เป็นชายหรือหญิง มีหลายอย่าง เช่น บางคนมีตัวบังคับ (ยีน) เป็นผู้ชาย บุคคลนั้นก็เป็นผู้ชาย แต่ผิดปกติที่อวัยวะเพศ ทำให้มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศของสตรี บางคนมีตัวบังคับ (ยีน) เป็นผู้หญิง บุคคลนั้นก็เป็นผู้หญิง แต่อวัยวะเพศบางส่วนมีขนาดใหญ่ จึงทำให้ดูคล้ายองคชาตของผู้ชาย
    ในทางพระพุทธศาสนา คำว่า บัณเฑาะก์-กะเทย-อุภโตพยัญชนกะ หมายเอาบุคคลในข้อ ๓ นี้เอง

    "ภิกษุรูปใดคิดว่าตัวเองมีความเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ตุ๊ด กะเทย ซึ่งถือว่าเป็นบัณเฑาะก์ พึงเห็นแก่คณะสงฆ์ ลาสิขาไปเถิด อย่าอยู่ในสมณเพศจนผู้อื่นต้องเดือดร้อน หรือต้องรอการพิสูจน์ว่าเป็นบัณเฑาะก์เลย นอกจากจะทำให้ตระกูลเสื่อมเสียแล้ว ยังทำให้สังฆมณฑลเสื่อมเสียเกิดความวิบัติในสังฆกรรมอีกด้วย เป็นตัวอย่างที่เลวทรามแก่เยาวชนผู้ไม่รู้ความ ถือว่าเป็นวิบากกรรมติดตัวไปตลอดชีวิต ทั้งในภพนี้และชาติหน้า" พระเทพวิสุทธิกวี กล่าวทิ้งท้าย

    บัณเฑาะก์-กะเทย (ตามพระไตรปิฎก)
    "บัณเฑาะก์" มาจากคำว่า "ปณฺฑก" หมายถึง ผู้ที่มีเครื่องหมายของบุรุษหรือสตรีเพศขาดตกบกพร่องไป หรือที่เราท่านทั้งหลายเรียกบุคคลประเภทนี้ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  2. ธนิดาพรหม

    ธนิดาพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +7
    กรรมไม่แบเลย...
     
  3. nonggibpan

    nonggibpan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนาครับ

    สังคมสมัยนี้ยอมรับขึ้นเยอะเลย

    แต่สำหรับพระก็เกินไปนะครับ ไม่อยากติกลัวบาป
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เรื่องนี้ทางสังฆมณฑลก็ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน

    อย่าได้ปล่อยปละละเลยเสีย จนเป็นที่วิปริตต่อสังคมอันเป็นเหตุให้คนรุ่นใหม่สับสนถึงความถูกต้องตามพระวินัยด้วย นะครับ
     
  5. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    เหตุที่บัณเฑาะก์

    (*) เหตุที่บัณเฑาะก์ ห้ามบวช เหตุหนึ่งในอาภัพพบุคคลก็ด้วย ไม่สามารถทำฌาณสมาธิให้เกิดได้ จึงไม่สามารถบันลุอริยะบุคคลได้การบวชจึงเสียปล่าว ทำให้บวชเข้ามาเกิดความยุ่งเหยิง มีข่าวเสียหาย
    เจริญพร
    พระ12
     
  6. พระมหากุลวัฒน์ธนะ

    พระมหากุลวัฒน์ธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +3,589
    ปัจจุบันนี้มีเยอะนะผู้ชายที่มีจิตใจชอบเพศชายด้วยกันแล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ต้องกวดขันกันตั้งแต่ที่วัด แต่บางคนก็ดูไม่ออกว่าเป็นบัณเฑาะ เพราะไม่ออกอาการ ท่าทาง แถมทำเสียงให้เหมือนกับผู้ชายทั่วๆ ไป แต่พอบวชแล้วถึงได้ออกอาการ ถึงได้รู้ว่าเป็นบัณเฑาะ ก็น่าหนักใจเหมือนกันนะครับ
     
  7. ชาวพุทธครับ

    ชาวพุทธครับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +59
    บวชไปก็ไม่ได้บุญ บาปทั้งลูก ทั้งพ่อแม่ ใครมีลูกเป็นแบบนี้ก็อย่าได้ให้บวชเลยครับ ไม่ได้บุญ ทำให้พระศาสนาเสื่อม บาปมากนะครับ

    ทางที่ดี ประพฤติตนเป็น สาธุชนดีกว่า รักษา ศีล 5 ได้ครับ เพราะอันนี้ไม่มีข้อห้ามว่าเป็นแบบนี้แล้วจะรักษาไม่ได้ไม่
     
  8. analyst

    analyst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2007
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +105
    ปัจจุบันยากครับเพราะบางแห่งอุปปัชฌาจารย์ก็เป็นพระกะเทยเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอในหลายๆแห่งก็เป็นกระเทย บางคนก็แอบบางคนก็เปิดเผยชาวบ้านก็ไม่นับถือถือบ้านเมืองเรามีบ้านก็ต้องมีวัดมีวัดก็ต้องมีพระแต่การตรวจสอบพระไม่ค่อยมีบางครั้งพูดล้อเล่นกันกับโยมยังกะเป็นเพื่อนกันโยมก็ไม่เกรงพระพระก็ยิ่งอยากหยอกโยม กรรมจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...