พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    จัดส่งเรียบร้อยนะครับ รายละเอียดในข้อความครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1978. เหรียญหลวงพ่อเพี้ยน รุ่นโอมมหารวย หลังหนุมานเชิญธง เนื้อทองแดงรมดำ ปิดรายการครับ



    upload_2023-7-6_17-35-51.png

    upload_2023-7-6_17-35-57.png

    upload_2023-7-6_17-36-45.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2023
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1979. ท่านพระครูเรืองวิทยาคม ทายาทของท่านอาจารย์ทัน รุจิเรข เหรียญ "รุ่นแรก" หลวงพ่อพระสมุห์ชาลี ปภัสสะโร วัดวังยาว ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปิดรายการครับ


    upload_2023-7-25_18-23-14.png

    upload_2023-7-25_18-24-26.png



    " เป็นเหรียญรุ่นแรก รุ่นเดียว และรุ่นสุดท้าย " ของประวัติศาสตร์การก่อตั้งวัดวังยาว โดยหลวงพ่อชาลี ท่านเป็น " ปฐมสมภาร "
    ปลุกเสก 1 พรรษาก่อนท่านจะละสังขาร


    ข้อมูลเรื่องเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อชาลี
    ข้อแรกที่ค่อนข้างพิเศษ สำหรับผู้เขียน คือนี่เป็นครั้งแรก ที่ท่านยอม ให้ทำเหรียญเป็นรูปท่าน ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าคณะศิษย์ หรือใคร มาขอ ท่านจะปฏิเสธตลอด บอกแต่เพียงว่า ยังไม่ถึงเวลาลูก ทำรูปหลวงปู่ รูปครูบาอาจารย์เรา รูปหลวงพ่อดำดีกว่า เพราะเป็นรูปของครู ยังใงก็ดีกว่ารูปท่านอยู่แล้ว
    ทุกคณะ เมื่อได้คำตอบเช่นนี้ ก็ได้ยิ้มแห้งๆ แล้วลาท่านออกมา
    แต่ครานี้ ท่านไม่ได้ปฏิเสธและอนุญาติให้มีการทำรูปท่าน ผู้เขียนเห็นผิดวิสัย จึงเรียนถามท่าน ท่านบอกแต่เพียงว่า ถึงเวลาแล้วลูก หลวงพ่อก็แก่ขึ้นทุกวันแล้ว เลยอนุญาติ จะได้มีไว้เป็นเครื่องระลึกถึงกัน จึงเป็นที่มาของเหรียญรุ่นนี้
    ข้อที่สองในเรื่องการปลุกเสก เหรียญชุดนี้ ท่านวางไว้หน้ารูปหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อดำ ตรงหัวนอนในกุฏิท่าน และปลุกเสกเดี่ยวทุกคืน ผู้เขียนเคยถือโอกาสเรียนถามท่าน ว่าท่านเสกด้วยคาถา หรือวิชาอะไร ท่านได้เมตตา ให้คำตอบไว้ว่า ท่านเสกด้วยวิชา ที่ใช้ลงตระกรุดโสฬสมหามงคลตำราหลวงปู่เอี่ยม เป็นหลัก ทั้งรัตนมาลา และคาถาบังคับต่างๆ เพราะด้านหลังเหรียญก็เป็นยันต์โสฬสมหามงคลด้วย
    นอกจากนี้ ท่านยังเพิ่มเติมด้วยทุกสายวิชาต่างๆ ที่ท่านได้ได้ร่ำเรียนมา ทั้งสายเขาอ้อ ที่เรียนจากท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี สายวัดราชโยธา และวัดสะพานสูง ที่เรียนจากคุณปู่ทัน สายวัดมะขามเฒ่าที่เรียนจากอาจารย์สิบเอกประสงค์ ยงพลจุลศร ตลอดจนสายวิชาทางโภคทรัพย์และวิชายันต์เกราะเพชร ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ( ขอแอบเล่านิด วิชาโภคทรัพย์ของวัดบางนมโค นี่ท่านใช้ภาวนามาตลอด และท่านเชื่อมั่นมาก ท่านเคยเมตตาสอนไว้ว่า "เอ็งดูสิ ไอ้หนู วัดข้า เข้ามาก็ลึก หาก็ยาก อยู่กลางไร่ คนยังขวนขวายเข้ามาทำบุญ จนสร้างโบสถ์ สร้างศาลาเสร็จไปเป็นหลังๆ และข้าเองก็ไม่เคยต้องอดข้าว ก็เพราะวิชานี้ นี่แหละ" )
    เรียกได้ว่า อะไรดี ท่านเมตตา ประจุ ลงในเหรียญท่านหมด ท่านว่า ในเมื่อเป็นเหรียญรูปท่านแล้ว ท่านก็ขอเสกไว้ ด้วยทุกสายวิชาของท่าน ให้เป็นเครื่องแทนตัว ใว้เป็นเครื่องระลึกถึงกัน
    ข้อสาม เหตุมหัศจรรย์ระหว่างปลุกเสก เบื้องต้น ท่านเล่าว่า ครูบาอาจารย์ทุกท่าน มาปรากฏในนิมิตร ช่วยปลุกเสกทุกคืนไป แต่ที่ปรากฏบ่อยๆ จะเป็นหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงปู่ทองวัดราชโยธา และคุณปู่ทัน รุจิเรข โดยคุณปู่ทันนั้น มักจะมาในนิมิตร แทบจะทันที ทุกครั้ง ที่ท่านเริ่มหลับตา
    ( ท่านว่า ปู่จะไม่มาได้ใง เราเชิญทุกครั้งที่เวลาจะทำอะไร เราไม่เก่งหรอก แต่พ่อเรา ครูเรา ท่านเก่ง แน่นอน เราก็ต้องขอบารมีท่านแหละ ให้มาทำให้)
    และในส่วนของผู้เขียนเองก็เคยพบเจอเหตุมหัศจรรย์ระหว่างการปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ของท่าน กับตัวเอง ด้วยสองครั้ง ในช่วงที่ผู้เขียนไปค้างคืนที่กุฏิท่าน ครั้งแรก ระหว่างการปลุกเสก อยู่ดีๆ ก็เกิดกลิ่นหอมคล้ายๆ ดอกมะลิ ตลบอบอวลอยู่ภายในกุฏิท่าน ทั้งๆ ที่ปิดประตูหน้าต่างทุกบาน และไม่มีดอกไม้สดอยู่หน้าพระ มีเพียงดอกไม้แห้ง ที่อยู่ในแจกันหน้าพระ ซึ่งก็ไม่มีกลิ่นตั้งนานแล้ว และก็ไม่มีดอกมะลิ อยู่ตรงนั้น แต่กลิ่นคล้ายๆดอกมะลิ ชัดมาก ประหนึ่งยกมาทั้งสวน มาจัดบูชาอยู่ตรงนั้น และค้างอยู่อย่างนั้นอีกชั่วโมงกว่า จนท่านปลุกเสกเสร็จสิ้นของท่าน กลิ่นก็หายไปพร้อมกัน อย่างน่าอัศจรรย์
    อีกครั้ง รอบนี้ ไม่มีกลิ่นใดๆ แต่ระหว่างการปลุกเสก อยู่ดีๆ ก็มีเสียงเหมือนโลหะ กระทบกันอยู่ในกล่อง ดังอยู่ราวๆ สิบห้า ถึง ยี่สิบนาที จึงสงบลง ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ ผู้เขียนได้เรียนถามท่าน องค์หลวงพ่อท่านเองก็เพียงแต่ยิ้มๆ แล้วบอกว่าเราไม่รู้ สงสัยครูบาอาจารย์ จะบันดาลให้เป็นไป
    นี่เป็นเพียงตัวอย่างสองเหตุการณ์ ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสอยู่ด้วย ในระหว่างปลุกเสก และยังมีเหตุการณ์อื่นๆ อีกมาก ที่เกิดขึ้นระหว่างการปลุกเสก ผู้เขียนก็ขอเล่าแต่พอหอมปาก หอมคอเท่านี้ แต่ผู้เขียนขอยืนยันแน่นอน ว่าเหรียญท่าน ห้อยไว้บูชา แล้วคุ้มตัวได้
    ไม่หนักคอ ปล่าวแน่นอนครับ
    และส่วนสำคัญยิ่ง สำหรับผู้ที่ได้ไว้บูชา เมื่อรับไปแล้วห้อยบูชาแล้ว สมควรอย่างยิ่ง ที่จะระลึกถึงยึดถือ และปฏิบัติตนตาม คุณงามความดี คุณธรรม และความสมถะของท่าน ที่ท่านดำรงใว้ เป็นแบบอย่างเสมอมา ในยามที่ท่านยังดำรงสังขารอยู่ เพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ของท่าน ที่ว่า
    "ให้ใว้ เป็นเครื่องระลึกถึงกัน "


    หลวงพ่อพระสมุห์ชาลี ปภัสสะโร (โดยสังเขป)
    .......... พื้นเพเดิมท่านเป็นคนลาดหลุมแก้ว(ระแหง) ปทุมธานี ก่อนที่โยมบิดาท่านจะย้ายถิ่นฐาน มาตั้งรกราก อยู่ที่ปราณบุรีหลวงพ่อท่านบวชกับหลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อยตั้งแต่เป็นเณรจนเป็นพระภิกษุ จำพรรษาอยู่ที่วัดเขาน้อย
    ประมาณปี ๒๕๑๒ ได้ย้ายไปอยู่ที่ วัดบางบัว บางเขน กรุงเทพ.ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโยมมารดา จำพรรษาที่นั่นประมาณ ๔ พรรษา ได้ทำการย้ายกลับมาปราณบุรี ในปลายปี พ.ศ. ๒๕๑๖ จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์พูนบุญญาวาส(ปัจจุบันคือวัดวังยาว) ตามวัตถุประสงค์ของโยมบิดา ด้วยขณะนั้นโยมบิดาท่าน พร้อมด้วยโยมพูนและโยมทิม ตระกลูสาลี ได้เห็นพ้องที่จะสร้างวัดขึ้น จึงได้นิมนต์ท่านและพระภิกษุเรือง มาอยู่จำพรรษาร่วมสร้างวัด
    หลวงพ่อท่านอยู่จำพรรษา เรื่อยมาจนกระทั้ง พ.ศ.๒๕๒๐ หลวงพ่อป่วยหนัก ฉันอาหารไม่ได้ จึงได้ลาสิกขาออกมารักษาตัว และใช้ชีวิตฆราวาส อยู่ 5 ปี ในปี พ.ศ.๒๕๒๕ ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสอีกครั้ง ณ อุโบสถวัดเขาน้อยล่าง โดยมีหลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย เป็นอุปัชฌาย์ และกลับมาจำพรรษาอยู่ปฏิบัติ ที่สำนักสงฆ์ตามเดิม จนได้พัฒนาสำนักสงฆ์จนเป็นวัดวังยาวในปัจจุบัน สมกับความตั้งใจของโยมบิดาท่าน และผู้บริจาคที่ดิน
    หลวงพ่อเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดมาก ไม่ปรารถนาทางโลก มุ่งทางธรรม ในวัดท่านใครมาบวช ท่านไม่ให้มีวิทยุ ทีวี หรือเครื่องเล่นดูหนังฟังเพลง ที่เป็นสิ่งเร้า ท่านว่าเป็นพระ หากดูมากๆ ฟังมากๆ เข้าจะพากันตกนรก ตัวหลวงพ่อเอง กุฏิที่ท่านจำวัดก็มีแค่เสื่อผืนหนึ่ง มุ้งหลังหนึ่งเท่านั้น
    หลวงพ่อเป็นผู้ศึกษาสรรพวิชาเก่าๆภูมิปัญญาเก่าๆตามคตินิยมความเชื่อของบรรพบุรุษไว้มาก ดังนี้
    -สายวิชา วัดสะพานสูง ท่านเรียนมาจากโยมบิดาท่าน ซึ่งเป็นสายวิชาที่ผูกพันมาในตระกูล โดยคุณปู่ทัน โยมบิดาท่าน สืบมาจาก หลวงปู่กลิ่น ปู่เอม ปู่เพ็ง และปู่คอน ซึ่งเป็นศิษย์ในองค์ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม แห่งวัดสะพานสูง วิชาหลักในสายนี้ คือ พระยันต์โสฬสมหามงคล และ ผงถอน
    -สายวิชา วัดบางนมโคและวัดปากคลองมะขามเฒ่า โยมบิดาท่านเรียนมาจาก หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ซึ่งหลวงพ่อแฉ่งนี้ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน และหลวงปู่ศุข วิชาที่เป็นหลักคือ ยันต์เกราะเพชร ซึ่งหลวงพ่อท่านก็สืบมาจากโยมบิดาท่าน
    -สายวิชา วัดราชโยธา ท่านเรียนการสัก ลงยันต์ครู ลง น ปัดตลอด และอื่นๆ มาจาก พ่อเขียน ไกรทองสุข ซึ่งพ่อเขียนท่านนี้เป็นลูกศิษย์ ปู่แถว กรเดช ศิษย์หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา และ พ่อเขียน ยังเป็นศิษย์ อ.อยู่ เรือลอย สาย วัดปากคลอง อีกด้วย
    -สายวิชา เขาอ้อ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจาก ปรมาจารย์ไสยศาสตร์แห่งยุครัตนโกสินทร์ อ.ชุม ไชยคีรี แห่งสำนักกุญแจไสยศาสตร์
    -สายวิชา วัดโตนดหลวง ท่านสืบมาจาก หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย ซึ่งเป็นทั้งอุปัชฌาย์และบิดาบุญธรรมของท่าน และอีกท่านคือหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ซึ่งมีความคุ้นเคยกับท่านดี เนื่องด้วยเวลาที่หลวงพ่อยิด ท่านต้องการพักผ่อนจากผู้คน ท่านจะหลบมาอยู่ที่วัดวังยาวแห่งนี้
    -สายวิชา วัดสมรโกฏิ นนทบุรี สืบทอดจาก อาจารย์ใบ ทับทอง บ้านห้วยโป่ง จ.ระยอง ทั้งยันต์หมู ยันต์พญาเต่าเลือน และยันต์ในสายตามตำรา หลวงปู่บุญมา ปู่บก วัดสมรโกฏิ
    -เรียนวิชาการเขียน-ลบ ผง ๕ คัมภีร์ และผงวิเศษต่างๆ จากโยมบิดา ซึ่งโยมบิดาท่านสืบมาจาก อ.สำรวย วงเลิศ ศิษย์สายสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทวดแกละ ญาติผู้ใหญ่ และ หลวงปู่ฉัตร นาโค วัดคังคาว นนทบุรี
    -เรียนวิชาลงทองตำรับวัดปากคลองมะขามเฒ่าการกระทำคงกระพัน การอาพัด จากอาจารย์ประสงค์ ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี เจ้าตำรับเหนียวยันองคชาต
    และสรรพวิชาอื่นๆอีกมากมายที่ยังมิได้กล่าวไว้ อาธิ เช่น อาจารย์ทองดี วัดท่าเกวียน, อาจารย์คง ราชบุรี, ปู่โฉม หลังค่าย, โยมเสือแฉ่ง, การลงยันต์และชักยันต์หนุมาน จากพระธุดงค์ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนพุทธมนต์โอสถแขนงต่างๆเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อน
    นับว่าหลวงพ่อท่านเป็น ภิกษุผู้เพียบพร้อมด้วยสรรพวิชาและถึงพร้อมด้วยสมาธิ-วิปัสสนา ที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
    หลวงพ่อดำรงตนให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกศิษย์ โดยเป็นผู้อยู่ง่าย กินง่าย สมถะ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด สมความภาคภูมิที่เป็นสงฆ์สาวกแห่งองค์พระศาสดาโดยแท้จริง จวบจนมรณะกาลมาถึง
    ท่าน มรณภาพลงอย่างสงบ ในรุ่งเช้าเวลาประมาณ ๕ นาฬิกา ของวันเสาร์ ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่โรงพยาบาลหัวหิน
    จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ สิริอายุรวม ๗๒ ปี
    พระสมุห์ชาลี ปภัสสโร
    *****ปฐมสมภาร*****
    วัดวังยาว ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2023
  5. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
  6. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1980.เหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวในชีวิตหลวงพ่อที่ปลุกเสกยาวนานถึง 9 ปีเต็ม เหรียญหลวงปู่ปาน วัดคลองด่าน หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส ปี14 ปลุกเสก 9 ไตรมาส (จาก2514-2523) ปิดรายการครับ


    upload_2023-7-25_18-32-58.png

    upload_2023-7-16_9-11-52.png
    เกจิผู้เป็นเจ้าของเสือโลหะที่แพงที่สุดในประเทศไทย
    เสือทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นสุดท้าย ท่านจะปลุกเสกจนเสือกระโดดได้ และทุกรุ่นจะมีหลวงพ่อวงษ์ และหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ผ่านร่างประทับทรงร่วมพิธีปลุกเสกด้วยกันทุกครั้ง เสือท่านจึงเข้มขลังพุทธคุณเป็นที่โจษจันกล่าวขานไปทั่ว

    เหรียญนี้ปลุกเสกพร้อมเสือ รุ่น ๕ มี2แบบ เหรียญกลม และ เหรียญไข่ แบบละ 5,000 เหรียญ หลวงพ่อวงษ์จัดสร้าง เพื่อสมนาคุณผู้ที่ร่วมบริจาคบูรณะพระอุโบสถ

    อมตะวาจา
    "หากเป็นรูปของกูไม่ต้องเสก มึงอธิษฐานถึงกูก็ใช้ได้" แค่พวกมึงขยันสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน กูก็จะไปเยี่ยมพวกมึงทุกครั้ง พวกมึงมีเหตุอะไรทุกข์ใจ ก็ให้สวดมนต์แล้วนึกถึงกู เดี๋ยวกูจะมาช่วยพวกมึงตามบุญที่พวกมึงได้เคยทำไว้
    "ตอนกูเสกเสือรุ่น1 กูพึ่งจบชั้นประถม แต่เสือรุ่น6 กูจบปริญญาแล้ว พวกมึงว่ารุ่นไหนจะดีกว่ากัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2023
  7. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
  8. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2023-7-8_15-9-21.png
     
  9. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1981.พระดีที่น่าบูชา พระสมเด็จเขี้ยวแก้ว หลวงพ่อก๋วน วัดตะเคียนราม เนื้อผสมแร่เหล็กไหล ให้บูชา 499 บาท



    upload_2023-7-25_11-54-1.png


    upload_2023-7-8_15-56-41.png

    หลวงปู่ก๋วนท่านสร้างเอาไว้จำหน่ายเพื่อเอาไว้ปรับปรุงเสนาสนะของวัด และเพื่อเอาไว้สร้างโบสถ์ในอนาคต โดยเก็บเอาไว้ใต้หลังคาโบสถ์ สร้างพร้อมกันด้วยมวลสารเดียวกันกับพิมพ์สมเด็จเกศทะลุซุ้มที่ราคาเป็นหมื่น พระรุ่นนี้เป็นพระเนื้อผงที่อุดมไปด้วยผงแร่ง่วนดิน กะปิดิน เครือดิน มากเป็นพิเศษ ทว่าเนื้อพระยังไม่แกร่งเหมือนพระพิมพ์ปรกโพธิ์ที่ท่านสร้างราวๆ ปี 2545-46

    พระรุ่นนี้หลวงปู่ก๋วนท่านได้บอกกับตาปื๊ดว่า “ เอาปืนลองเลย ยิงไม่ออก ”ก็เลยมีลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรนำไปทดลองยิงปรากฏว่าปืนยิงไม่ออกจริงๆทำให้เป็นที่เสาะหากันมากในหมู่ตำรวจปากน้ำประแสร์

    ง่วนดิน กะปิดิน เครือดิน ธาตุสามชนิดนี้เมื่อนำมาคลุกเคล้ารวมกันแล้วอธิษฐานจิตหลอมธาตุเป็นหนึ่งเดียวจะกลายเป็น เหล็กไหล หลวงปู่ก๋วนท่านเป็นผู้ค้นพบ และท่านได้สร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์เนื้อเหล็กไหลที่มีอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์จากการหลอมธาตุทั้งสามเป็นหนึ่งเดียวด้วยวิปัสสนาญาณของท่าน หลวงพ่อมหาบุญมีท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่าในระหว่างที่หลวงปู่ก๋วนท่านได้ทรงญาณอยู่ในถ้ำเขตเขาชะเมา-ชะอางค์โอน ได้บังเกิดนิมิตรเห็นเทวดาในถ้ำ (เทพที่รักษาเหล็กไหล) ได้นำเหล็กไหลมาใส่ลงในมือท่านรูปพรรณสัณฐานขนาดเท่าเม็ดข้าวสารสีดำ ท่านเห็นแล้วท่านก็ตอบกลับไปว่า

    “ ลูกศิษย์ของอาตมามีมาก หากได้ไปก็แบ่งให้กันไม่ครบ เอาอย่างนี้อาตมาขอหินขอแร่ที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ไปแล้วกัน ”เมื่อเทวดาหรือเทพที่รักษาเหล็กไหลได้ยินอย่างนั้นก็บอกกับหลวงปู่ก๋วนท่านว่า ” ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ”
    หลวงปู่ท่านก็จึงเก็บเอาหินและแร่ที่เคยเป็นที่อยู่ที่อาศัยของเหล็กไหลไป ก่อนหยิบท่านได้ถามเทพยดาที่รักษาเหล็กไหลว่า ” หินก้อนนี้หยิบได้ไหม ”
    เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลก็ตอบว่า ” ได้ ”พอท่านหยิบอีกก้อนหนึ่งก็ถามเทพยดาที่รักษาเหล็กไหลว่า ” หยิบได้ไหม ”เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลก็ตอบว่า ” ไม่ได้ ”
    ทุกครั้งที่หลวงปู่ท่านหยิบท่านจะถามอย่างนี้ทุกครั้ง และท่านก็ได้นำหินก้อนแร่ต่างๆ ที่เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลให้มา นำมาสร้างเป็นพระสมเด็จอันลือเลื่องทรงพุทธานุภาพสูงยิ่งนัก พระผงเหล็กไหลของท่านแปลกมาก ที่เป็นเนื้อผงก็จริง แต่สามารถเอาแปรงทองเหลืองขัดได้ ยิ่งขัดก็ยิ่งขึ้นเงาและเปลี่ยนเป็นสีดำมันเงามากขึ้นเท่านั้น

    หลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทอง พระอริยเจ้าที่ทรงภูมิธรรมชั้นสูง รู้วาระจิต ตรวจกรรม เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับพระอุปคุต สรีระไม่เน่าเปื่อย เหรียญรุ่น 80 ปีของท่านเทวดามาขอ พระแม่คงคาก็มาขอท่านเป็นพระที่มีศีลจารวัตรดีเลิศ เอาใจใส่ลูกศิษย์ทุกคน หลวงปู่เป็นพระปฏิบัติดี และสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติตามท่าน ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานสายยุบหนอ-พองหนอโดยท่านได้ธรรมกายมาก่อน แล้วท่านก็ได้บรรลุธรรมสูงสุดด้วยบริกรรม ยุบหนอ-พองหนอ ตามแนวทางที่ เจ้าคุณโชดก พระธรรมธีรราชมหามุนี (ปธ.9) วัดมหาธาตุๆ ได้ให้แนวทางไว้

    เหล่าญาติโยมที่มีเรื่องทุกข์ใจจะเดินทางมาหาหลวงปู่ขอให้หลวงปู่ดูให้หน่อย (ดูด้วยตาในคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็น) ว่าทำไมชีวิตถึงได้ประสบเคราะห์กรรมแบบนี้และหลวงปู่ท่านก็จะดูให้โดยท่านจะพูดโต้ตอบกับสิ่งที่มองไม่เห็นในอีกมิติหนึ่ง แล้วก็บอกให้ญาติโยมนำไปแก้ไข แม้แต่ฝรั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวสวนสน ระยอง ยังเอ่ยปากเรียก หลวงปู่ก๋วนว่า “ The Magic of Monk ” (หลวงปู่ตาทิพย์หูทิพย์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2023
  10. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1982. พระเนื้อผง พิมพ์หลวงพ่อโสธร (หลังนักษัตร ปีเถาะ) วัดชิโนรส ปี๒๕๑๒ (พิธีปลุกเสกใหญ่ ลป.โต๊ะ/ลพ.กวย/ลพ.พรหม/ลพ.สุข/อจ.นำ ฯลฯ ปลุกเสก) ปิดรายการครับ


    upload_2023-7-8_16-16-17.png upload_2023-7-8_16-17-6.png

    ประวัติการจัดสร้าง พระเครื่องวัดชิโนรส ปี พ.ศ. 2512

    วัดชิโนรสารามวรวิหาร (วัดชิโนรส) ตั้งอยู่ริมคลองมอญ ติดถนนอิสรภาพ ตรงข้ามกับกรมอู่ทหารเรือ ฝั่งธนบุรี สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโรรส เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นนุชิตชิโนรส ทรงสร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2379 ในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอารามหลวง

    ในปี พ.ศ. 2512 วัดชิโนรส มีพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่หลายวาระ และปีนี้มีวันเสาร์ห้าด้วย โดยมีจุดประสงค์การสร้างวัตถุมงคล เพื่อหาเงินมาบูรณะถาวรวัตถุภายในวัด ได้มีการสร้างพระบูชา และพระเครื่องอยู่หลายพิมพ์ เช่น พระผงหลายสิบพิมพ์ เหรียญ พระกริ่ง รูปหล่อ ฯลฯ เป็นต้น หัวแรงใหญ่ในการจัดสร้างพระเครื่องต่างๆ นี้เท่าที่ทราบมี 3 ท่านคือ
    1. พระมหาประดับ แน่นหนา เป็นชาวสรรคบุรี จ.ชัยนาท มีความนับถือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นอย่างยิ่ง และได้นิมนต์ หลวงพ่อกวย มาร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เป็นกรณีพิเศษ
    2. พระปลัดมานพ เป็นศิษย์ของ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จึงนิมนต์ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง มาร่วมปลุกเสก
    3. พระอาจารย์แก้ว มณีงาม

    เนื่องจากวัดชิโนรส เป็นพระอารามหลวง ดังนั้น การจัดพิธีพุทธาภิเษกแต่ละครั้ง จึงต้องทำอย่างดี และในงานนี้ มีพระเกจิดังๆ จากทั่วประเทศในยุคนั้นมาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกมากมาย (มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน) เช่น
    1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    2. หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    3. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ฯ กทม.
    4. หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท
    5. หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
    6. พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    7. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
    8. หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    9. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    10. หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    11. หลวงพ่อเสมียน วัดหนองกระทุ่ม ชลบุรี
    12. พระอาจารย์เชื้อ หนูเพชร วัดสะพานสูง กทม.
    13. หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    14. หลวงพ่อทอง วัดหมอสอ กาญจนบุรี
    15. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน ลำปาง
    16. หลวงพ่อสุข วัดบันไดทอง เพชรบุรี ฯลฯ เป็นต้น

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเสร็จพิธีแล้ว หลวงพ่อกวย ท่านได้เมตตานั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวให้กับวัตถุมงคลชุดนี้เป็นพิเศษ จนใกล้สว่างเลยทีเดียว ถือว่า วัตถุมงคลชุดนี้ ใช้แทนวัตถุมงคลของท่านได้เป็นอย่างดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2024
  11. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2023-7-8_17-27-15.png
     
  12. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1983.พระดีพิธีใหญ่ พระสมเด็จพระอุณาโลมทรงจิตรดา พิมพ์เล็ก ปิดรายการครับ



    upload_2023-7-8_17-30-49.png upload_2023-7-8_17-32-14.png

    พระสมเด็จอุณาโลมทรงจิตรลดานั้น เป็นพระที่มีเนื้อหามวลสารดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่คณะบุคคลจะพึงทำได้ โดยมีมวลสารหลัก คือ กระเบื้องพระอุโบสถของทั้งสองหลังและยังแสวงหาผงพุทธคุณต่าง ๆ จากพระเถราจารย์ทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งพระสายกรรมฐานและพระสายวิชา ว่าน-ยา ที่รวมแล้วมีกว่าพันชนิดมิใช่ 108 ดังที่นิยมทั่วไป แร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศจากสถานที่ต่าง ๆ ทุกมุมเมืองเกือบสองร้อยรายการ เส้นเกศาของพระสุปฏิปันโนซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของพุทธศาสนิกชน องค์หลักก็คือ เส้นพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ย้อนยุคขึ้นไปหลายพระองค์ เส้นเกศาของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นต้น

    เมื่อสร้างเสร็จเป็นองค์พระแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นอีก 7 วัน ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหารฯ ในวันที่ 5-11 ก.ค. 2519
    พิธีพุทธภิเษก - หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสกให้ถึง 7 วัน

    รายนามพระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกและเจริญพุทธมนต์พระสมเด็จพระอุณาโลมทรงจิตรลดา 2519
    ครั้งที่ 1 วันจันทร์ 5 ก.ค. 2519 เวลา 17.00 น.
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    4. หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ฯ จ.นครราชสีมา
    5. พระเทพราลังการ(หลวงปู่ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย
    6. พระสุทธิสารโสภณ วัดศรีโพแท่น จ.เลย
    7. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
    พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพุทธมนต์ 10 รูป ปลุกเสก
    1. สมเด็จพระวันรัต วัดสังเวชวิศยารามฯ
    2. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยาฉิมพลี
    3. สมเด็จพระพุทธิวงศมุนี วัดเบญจมบพิธ
    4. พระพรหมคุณากรณ์ วัดสระเกศ
    5. พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม
    6. พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติการาม จ.เลย
    7. พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดปากน้ำ
    8. พระราชสารมุนี วัดเขมาภิรตาราม
    9. พระปริยัติเมธี วัดมกุฎกษัตริย์
    10. พระอุดมศีลคุณ วัดบุรณศิริมาตยาราม

    ครั้งที่ 2 วันอังคาร 6 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
    3. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
    5. หลวงพ่อมา วัดวิเวกอาศรม ร้อยเอ็ด
    6. พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต ธนบุรี
    7. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง

    ครั้งที่ 3 วันพุธ 7 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร
    3. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม จ.หนองคาย
    5. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์
    6. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ จ.ร้อยเอ็ด
    7. หลวงพ่อชา วัดศรีแก่งคร้อ จ.ชัยภูมิ
    8. หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม จ.อุดรธานี
    9. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    10. หลวงพ่อมา วัดวิเวกฯ จ.ร้อยเอ็ด

    ครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดี 8 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    3. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ จ.ร้อยเอ็ด
    4. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    5. พระอาจารย์สาม วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์
    6. หลวงพ่อจ้อย วัดสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
    7. หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    8. หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
    9. พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต จ.หนองคาย

    ครั้งที่ 5 วันศุกร์ 9 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    3. หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา
    4. หลวงพ่อโชติ วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลฯ
    5. หลวงพ่อพั่ว วัดบ้านนาเจริญ จ.อุบลฯ
    6. พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
    7. หลวงพ่อจันทร์(อายุ ๑๐๒ปี) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี

    ครั้งที่ 6 วันเสาร์ 10 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
    4. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    5. หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    6. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
    7. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

    ครั้งที่ 7 วันอาทิตย์ 11 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    ตอนกลางวัน (เวลา 13.00 - 16.00 น.)
    หลวงปู่ธูป วัดสุทรธรรมทาน(วัดแค) กทม. นั่งปรกบริกรรมภาวนาเดี่ยว 4 ชั่วโมงเต็ม
    ตอนค่ำ
    1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
    4. พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม กทม.
    5. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ ธนบุรี
    6. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กทม.
    7. พระครูสงัด วัดพระเชตุพนฯ กทม.

    ในวันที่ 12 ก.ค. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมและสุหร่ายพระสมเด็จอุณาโลม ในเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรฯ
    รายนามพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญชัยมงคลคาถา 10 รูป
    1. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผติการาม
    2. พระสาสนโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
    3. พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดราชบพิธ
    4. พระญาณวโรดม วัดบวรราชนิเวศ
    5. พระธรรมปาโมกข์ วัดราชประดิษฐ์
    6. พระธรรมเสนานี วัดพระเชตุพนฯ
    7. พระธรรมวราภรณ์ วัดนรนาทสุนทริการาม
    8. พระเทพวราภรณ์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
    9. พระเทพปัญญากวี วัดราชาธิวาส
    10. พระเทพกวี วัดบวรฯ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2023
  13. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1984.พระสมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดหนองสังข์ กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ปี 2522 ปิดรายการครับ



    upload_2023-7-9_6-51-27.png upload_2023-7-9_6-51-33.png

    โบราณจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า
    ต้นพญางิ้วดำเป็นต้นไม้วิเศษที่มีเทพธิดารักษา หลายร้อยปีจะเกิดมีขึ้นสักต้นหนึ่ง จัดเป็นของทนสิทธิ์มหาวิเศษชั้นดีชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันควรเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาดูแล จะพลีต้นยืนตายพรายทิ้งไว้ เพื่อรอผู้มีบุญญาบารมีนำไปทำประโยชน์เพื่อพระศาสนาต่อไป อานุภาพพญางิ้วดำดีเด่นทางมหาอุต คงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม และป้องกันคุณไสยมนต์ดำได้อีกด้วย

    พิธีดี พิฑีใหญ่ของวัดครับ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ร่วมปลุกเสก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2023
  14. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1985. สุดยอดตำราวิชามหาเสน่ห์ มหาหลง มวลสารศักดิ์สิทธิ์พิศดาร จากผู้สืบทอดวิชาของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค น้ำมันมนต์เสน่ห์มหาหลง + ผงอกแตก (หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง วัดดาวเรือง ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี) ปิดรายการครับ




    upload_2023-7-9_14-45-54.png

    upload_2023-7-9_14-46-22.png upload_2023-7-9_14-46-30.png


    น้ำมันมนต์เสน่ห์มหาหลง ตำรับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ นำว่านเถาวัลย์หลง หรือ เครือเถาหลงของอาถรรพณ์ทางธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบ จัดว่าเป็นของทนสิทธิ์ซึ่งผู้มีวิชาอาคมเท่านั้นถึงไป ขอพลีตัดเอามาได้ เถาหลงจัดอยู่ในประเภทเสน่ห์เมตตามหานิยม เหมาะในทางค้าขายหรือพกติดตัวเพื่อเพิ่มเสน่ห์ในตัว เถาหลงนิยมใช้ทางเมตตามหานิยมกันมาแต่โบราณกาล ในกระบวนพิธีการสร้างพระผง พระเครื่องด้านเมตตามหาเสน่ห์ จะขาดเถาหลงไม่ได้ที่จะเป็น ตัวหลักของมวลสารต่าง ๆ ที่จะนำมาผสมอยู่ในพระเครื่องซึ่งจะต้องมีมวลสารของเครือเถาหลงนี้อยู่ด้วยเสมอ แต่ถ้าใครมีรากของเถาหลง, ใบ, กิ่ง, ก้าน, ดอก ไว้พกติดตัว เดินทางไปยังที่แห่งใดก็ตาม ผู้คนที่ได้กลิ่นจะถึงกับงวยงง หลงใหล ยิ่งนำรากของว่านนั้นมาฝนกับน้ำมันจันทน์ หรือผสมกับสีผึ้งทาปากด้วยแล้วจะเป็นสุดยอดเสน่ห์มหานิยมยิ่งนัก คนเจ้าชู้มักจะรู้จักเถาหลงดีมาแต่โบราณซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันในสมัยก่อน
    แล้วนำมาผสมว่านพญาไก่แดง เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์ขาว และว่านดอกทอง ซึ่งหากใครได้กลิ่นหอมของว่านชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จะพากันมัวเมาอยูในโลกียรสมิได้สร่างซา จึงนิยมเด็ดดอกแล้วนำไปแช่น้ำมันเก็บไว้ใช้เป็นยาเสน่ห์ใช้ตามบ้าน ร้านค้า เรือค้า ห้างร้าน บริษัทต่าง ๆ สถานเริงรมย์ หรือแหล่งสำราญตามผับตามบาร์ตามไนท์คลับ ย่อมเป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมดึงดูดผู้คนไปอุดหนุนจุนเจืออยู่มิได้ขาด

    ผงอกแตก” ตามตำราโบราณเป็นการนำผงจากว่านยาต่าง ๆ ที่มีชื่อนามเป็นไปในทางเสน่ห์เมตตา จึงได้มานำมาพลีและกำกับด้วยคาถาเมตตามหานิยมและบดเป็นผงแล้วจึงปั้นเป็นดินสอ แล้วลบผงให้เป็น ผงอกแตกใช้มัดจิตผูกใจคนทั้งหลายไม่ให้คลายรักมิรู้ลืม ผูกมัดใจไม่รู้ลืมให้อยู่ไม่ได้ ดังอกจะแตกอยู่ใน 3 วัน 7 วัน อิทธิคุณมัดให้หลงพะวงหา ห่วงหวง ไม่รู้วาย มัดใจไว้ไม่คลาย หลับก็ไม่ลืม ตื่นมาก็หลง
    การลบผงนี้ ต้องใช้ระยะเวลาในการทำ ต้องเขียนผง ลบผงเป็นนะอกแตก เสกให้เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหาละลวย มหารัญจวน แม้ว่านักสิทธิ์วิทยา เทวดาต้องผงนี้เพียงอณูเดียวว่ากันว่าต้องมนต์ อกแตกอยู่มิได้ใน 3 วัน แล 7 วัน การกำหนดจิตในการเสกต้องตั้งจิตเป็นสมาธิภาวนา 108 คาบ นำผงที่ได้ผสมกับผงอิทฺธิเจ ผงปัถมังกำเนิดและผสมกับว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ผงแป้งผัดหน้านางละคร (เวลาออกโรงออกแขก ผัดหน้าไปคนดูติดอก ติดใจ แสดงไปก็เข้าถึงอารมณ์ โกรธด้วย รักด้วย หลงด้วย ยิ้มด้วย ผงนี้ดีนัก ได้ผงแล้วนำเอามาผสมแป้งโรยตัวเด็กที่เพิ่งคลอดได้ 7 ราตรี (ถือว่าเป็นแป้งพรหมจรรย์ แป้งบริสุทธิ์ จากนั้นจึงนำมาบรรจุใส่ขวด
    ใช้เห็นผลดีทั้ง 7 วัน ใช้วันไหนก็ได้ผล วันนั้น ผงทั้งหมดเป็นผงสุดยอดตามตำราเสน่ห์มหาหลง เกจิยุคโบราณเอาผงอกแตกเพียงอณูเดียว ผสมสร้างพระเป็นหมื่น เป็นแสน ๆ องค์ มีฤทธิ์ผูกจิตมัดใจ ไม่คลายไม่จาง

    หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง เสือเมืองสิงห์
    เสกหนุมานหมุน ปลัดบิน มีประสบการณ์หนาหู ท่านเป็นศิษย์สายวิชาอาคมแห่ง หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ มารวมกันอยู่ที่หลวงปู่แป๋ว องค์นี้ องค์เดียว
    ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานผ้าไตร น้ำสรง คราวหลวงปู่ทำบุญอายุ ๗ รอบ สมัยนี้หาพระดี พระขลัง อย่าง หลวงปู่ พระครูแป๋ว เป็นไม่มี
    หลวงปู่แป๋วสืบสายวิชาจาก
    1. #สายวิชาหลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์ เป็นอาจารย์ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ หลวงปู่แป๋วองค์นี้ ท่านสืบวิชาตำรับโบราณของหลวงพ่อศรี จาก หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์
    2. #สายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มนต์จินดามณี หลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว ยันต์ค่ายกล หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ สารพัดวิชา หลวงปู่แป๋วท่าน #ได้วิชาสืบสายวิชาจากหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค
    3. #สายวิชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่แป๋ว ได้วิชาจาก หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
    คนเมืองสิงห์รู้ดีว่า ของ หลวงปู่ พระครูแป๋ววัดดาวเรือง มีปาฏิหาริย์แค่ไหน
    “หลวงปู่แป๋ว ออกเหรียญ รุ่นแรก ตั้งแต่ ปี ๒๕๒๖ เดี๋ยวนี้ ครึ่งราคาหมื่น”
    “หลวงปู่แป๋ว ทำตะกรุด คงกะพัน แคล้วคลาดชั้น ๑ ของเมืองสิงห์”
    “หลวงปู่แป๋ว ทำปลัด ขยับชนกล่อง อีกครั้ง กระโดดจากพาน
    “หลวงปู่แป๋ว ทำแหวนพิรอด ผ้าขอด หัวตะกร้อ กันเขี้ยวงา งูอ้าปากไม่ขึ้น หมากัดไม่เข้า ตะขาบกัดไม่บวม ปลิงแกะลื่น”
    “หลวงปู่แป๋ว ทำผ้ายันต์ กันไฟ ตอนไฟไหม้โบสถ์ มีคนเห็นยันต์เป็นเส้นสีแดง คลุมวัด
    ประวัติ หลวงปู่ พระครูแป๋ว (พระครูปัญญาวิมล) ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล เป็น พระอุปัชฌาย์ อายุ ๘๕ปี บวชตั้งแต่ อายุ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ กับพระราชสิงหมุนี พระครูรัตนาธาร(หลวงพ่อเยื้อน)
    พรรษาแรก "หลวงพ่อแป๋ว" อยู่กับหลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ร่ำเรียนวิชา ทำตะกรุด ต่อมา #ไปเรียนกับหลวงพ่อกวย สักหนุมาน แผลงฤทธิ์ สักธนูมือ สักมงกุฎพระเจ้า (หลังเหรียญรุ่นแรก) หลวงพ่อกวยป้อนน้ำมันงาเสกให้ท่านเพียงรูปเดียว ตั้งแต่ปี 2498 หลวงพ่อกวยเอ่ยปากยอมรับว่า "อื้อใช้ได้ใช้ได้ทำเหมือนหลวงพ่อแล้วนี่" ปกติหลวงพ่อกวยไม่ยอมรับใครง่ายๆ
    ต่อมาไปหา "หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์" ศิษย์ "หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์" เรียกหลวงพ่อทองว่า "พ่อ" ปี 2513
    ปี 2517 หลวงพ่อกวยมาเสกพระให้ถึงโบสถ์วัดดาวเรือง #หลวงพ่อกวยบอกว่า "ให้พระครูทำบ่อยๆ ทำทุกวันทั้งยืนเดินนั่งนอนกรรมฐานอย่าทิ้ง เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป ทำได้ขลังเหมือนข้าฯ ถึงวันนั้น พระครูแป๋วไม่เป็นสองรองใคร

    เวลาใช้ ให้เอาผงนี้ผสมกับน้ำมันเสน่ห์มหาหลงให้กลั้นใจแตะที่หน้าผาก หรือไรผมเพียงเท่านี้ ก็จะเห็นผลทางเมตตามหาเสน่ห์มากมาย ล้นเหลือตามมา
    เด็กๆ ภิกษุสามเณร ห้ามใช้เด็ดขาด!!! สงวนไว้ให้หนุ่มสาว พ่อค้าแม่ขาย นายหน้านายประกันใช้ หรือคนที่จะไปติดต่องานการธุรกิจ ติดต่อราชการ เข้าหาเจ้านายผู้หลักผู้ใหญ่ใช้เท่านั้น และใช้ด้วยความรับผิดชอบ มีศีลธรรมจรรยา จะเกิดผลดีมหาวิเศษนักแล (ห้ามผสมผงให้กิน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2023
  15. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
  16. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  17. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1986. พระผงวิเศษ แห่งสุพรรณ ผงท่านศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ยังนำไปสร้างพระผงของขวัญของท่าน พระผงพิมพ์ชินราช หลวงพ่อผึ่ง วัดสว่างอารมณ์ราษฎร์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พ.ศ.2493 ปิดรายการครับ



    upload_2023-7-10_18-20-46.png upload_2023-7-10_18-21-19.png



    upload_2023-7-10_18-18-48.png


    ประวัติหลวงพ่อผึ่ง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุพรรณบุรี ท่านเกิดที่บ้านไผ่หมู่ ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ.2426 โยมบิดาชื่อ หร่าย โยมมารดาชื่อ ปุย อาชีพชาวนา ฐานะครอบครัวค่อนข้างยากจน ต่อมาบิดามารดาได้แยกทางกัน หลวงพ่อผึ่งอยู่กับมารดา จึงต้องช่วยทำนาตั้งแต่เด็ก มารดาของหลวงพ่อต้องการให้หลวงพ่อผึ่งอ่านออกเขียนได้จึงนำไปฝากเรียนกับ หลวงพ่อแสง วัดคลองมะดัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก หลวงพ่อผึ่งท่านเป็นคนขยันหมั่นเพียร เล่าเรียนหนังสือไทยและขอม สามารถอ่านเขียนได้คล่องแคล่วแตกฉานตลอดจนบทสวดมนต์ ต่อมาเมื่ออายุครบบวชในปีพ.ศ.2488 จึงได้อุปสมบทที่วัดสองพี่น้อง โดยมีพระปลัดบุญยัง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเหนี่ยง อินทโชโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อโหน่ง อินทวัณโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    หลวงพ่อผึ่งบวชได้หนึ่งพรรษา หลวงพ่อสด วัดปากน้ำฯ ซึ่งเป็นคนสองพี่น้องก็มาบวชที่วัดสองพี่น้อง จำพรรษาอยู่กุฏิเดียวกันกับหลวงพ่อผึ่งและหลวงพ่อหอม ท่านทั้งสามองค์สนิทสนมกันมากออกธุดงค์ด้วยกันและใฝ่เรียนวิปัสสนากรรมฐาน ได้เดินทางไปศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อปลื้ม สำนักวัดเขาใหญ่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เมื่อศึกษาแล้วก็กลับมาจำพรรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้องตามเดิม ส่วนหลวงพ่อสดท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    ต่อมาหลวงพ่อผึ่งมาอยู่ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.บ้านกุ่ม อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2462 มีขบวนแห่มาอย่างครึกครื้น หลวงพ่อโหน่ง หลวงพ่อสด และหลวงพ่อหอม ก็มาส่งด้วย ท่านมาถึงก็เริ่มก่อสร้างวัดสว่างอารมณ์ ทันทีด้วยการขอแรงชาวบ้านช่วยกันขุดคูรอบวัด ปลูกมะพร้าวบนคันคู ขุดดินถมเป็นเนินเพื่อสร้างพระอุโบสถ หลวงพ่อผึ่งท่านจะแจกพระผงของท่านให้แก่ญาติโยมที่มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัด

    พระเครื่องหลวงพ่อผึ่ง
    หลวงพ่อผึ่งท่านได้สร้างผงวิเศษขึ้นมานานแล้ว ท่านได้เขียนยันต์ด้วยดินสอพองในกระดานชนวน เสร็จแล้วลบ ท่านเขียนเป็นเวลาหลายปี เก็บไว้หลายปี๊บ ในปีพ.ศ.2493 หลวงพ่อสดยังมาขอผงวิเศษของหลวงพ่อผึ่งไปผสมสร้างพระของท่านเลย ในการสร้างพระของหลวงพ่อผึ่งท่านจะใช้สายสิญจน์ 108 เส้น วงรอบบริเวณที่จะทำพระ ผู้ที่จะทำการพิมพ์พระจะต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาด และถือศีล จึงจะเข้าร่วมพิมพ์พระของท่านได้ เมื่อสร้างพระเสร็จแล้วท่านก็จะนำพระทั้งหมดเข้าไว้ในพระอุโบสถ ให้พระสวดมนต์เช้าเย็น และกลางคืน เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นท่านก็นำมาปลุกเสกเดี่ยวอีก จนครบไตรมาส

    พระเนื้อผง ที่หลวงพ่อผึ่งท่านสร้างมีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ประภามณฑล พิมพ์เชียงแสน พิมพ์อกร่อง พิมพ์ 7 ชั้น พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์ชินราช เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2023
  18. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
  19. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1987. ชุดวัตถุมงคล หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ยอดเกจิเรืองวิทยาคมแห่งลพบุรี ให้บูชา 350 บาท (ได้รับพระ 4 องค์)
    ทุกองค์แท้และทันหลวงพ่อเสกครับ


    upload_2023-7-12_11-18-51.png upload_2023-7-12_11-19-18.png

    upload_2023-7-12_11-19-49.png

    upload_2023-7-12_11-20-37.png upload_2023-7-12_11-21-2.png

    upload_2023-7-12_11-21-36.png

    upload_2023-7-12_11-22-21.png upload_2023-7-12_11-23-2.png

    upload_2023-7-12_11-26-13.png upload_2023-7-12_11-26-20.png

    upload_2023-7-12_11-26-51.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2024
  20. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,402
    ค่าพลัง:
    +468
    1988. สุดยอดมวลสาร พระสมเด็จบารมีธรรม วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ให้บูชา 399 บาท เนื้อมวลสารล้วน มวลสารเก่าทั้งหมดของหลวงปู่ครับ



    upload_2023-7-12_11-31-54.png upload_2023-7-12_11-32-25.png

    upload_2023-7-12_11-32-54.png

    พระสมเด็จบารมีธรรมจัดสร้างโดย.. กลุ่มกองกำลังบุญ เพื่อบูชาคุณองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี และออกในนามวัดเทพธารทอง
    โดยได้รวบรวมมวลสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงปู่พิศดู และครูบาอาจารย์ของท่าน เอาไว้มากมายที่สุดเป็นประวัติกาล มาจัดสร้าง
    โดยได้ใช้ปัจจัยกองทุนของทางกลุ่มกองกำลังบุญ และปัจจัยของสมาชิกในกลุ่มมาจัดสร้าง (ไม่ได้ใช้ปัจจัยของทางวัด)
    สร้างด้วยเนื้อมวลสารล้วน

    จำนวนการจัดสร้างทั้งหมด ดังนี้..
    พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังเรียบ จำนวน 300 องค์ (ยังไม่ได้กำหนดว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในงานใด)
    พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังหลวงปู่พิศดู จำนวน 5,000 องค์ โดยแบ่งมา..
    - ถวายวัดเทพธารทอง 3,000 องค์ เพื่อใช้ในศาสนกิจต่างๆของทางวัด
    - แจกเผยแผ่แก่สมาชิกในกลุ่ม facebook วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี และผู้ร่วมสร้าง และผู้ศรัทธาทั่วไปที่ทำคุณประโยชน์ รวม 1,300 องค์
    - ถวายวัดเขาน้ำซับ จ.จันทบุรี 100 องค์
    - ถวายวัดป่าต๊ะ (รัฐฉาน) 100 องค์
    - พระที่เหลือเก็บไว้เป็นกองกลางของกลุ่มกองกำลังบุญเพื่อใช้ในสาธารณะประโยชน์ต่อไป...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2024

แชร์หน้านี้

Loading...