ขอวิธีแก้นั่งสมาธิแล้วหลับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วัฏจจักรสงสาร, 30 มีนาคม 2008.

  1. บารเมศวร์

    บารเมศวร์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +21
    เรื่องนั่งสมาธิแล้วหลับผมไม่เคยเป็นนะ แต่เรื่องนอนสมาธิแล้วหลับนี้ซิ แปป ๆ ตื่นมา เอ้า เราหลับทำไม ทำสมาธิไม่ใช่เหรอ ก็ไม่ได้สนใจ เพราะถือว่าเราทำแล้ว สบายใจ เด๋วนี้ทำบ่อยขึ้น สวดมนต์ไม่ค่อยได้สวดไม่รู้ว่าจะผิดหรือป่าว นั่งสมาธิเน้นนั่งบ่อยมากขึ้นจากเก่ามาก เวลานั่งอยากออก บอกตัวเองเสมอ นั่งเล่นเกมส์ข้ามวันยังทำได้ กินข้าวก็ไม่กิน แค่นั่งสมาธิ 1 - 2 ชั่วโมง ทำไมจะทำไม่ได้ ก็นั่งได้นานขึ้น >>> เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเล่นเกมส์แล้วนะครับ เบื่อกระทันหันขึ้นมา รอบข้างก็เบื่อ

    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ส า ธุ ส า ธุ. . .
     
  2. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    ถ้าจากที่เราเป็นอะนะ...ยังไม่เคยหลับ แค่ตกภวังค์ สาเหตุมาจากความเพลีย
    ก็ให้คุณนั่งสมาธิให้ไวขึ้น จาก 4 ทุ่มก็เลื่อนมาสัก 1 ทุ่ม กินแต่พออิ่ม ที่สำคัญอาบน้ำก่อนทำสมาธิเพื่อความสดชื่น ถ้าอาบแล้วมานั่ง ยังหลับอีกก็เอาน้ำแข็งวางบนหัวเลยทีนี้ ( อิิิอิ อันท้ายนี่ล้อเล่นนะ )
     
  3. ผู้เดินทาง

    ผู้เดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +407
    อุบายวิธีเอาชนะความง่วงที่ผมใช้อยู่ ได้ผลดีมากๆ

    อาศัยความรู้ว่า ความง่วงเกิดอยู่ในภายหัว(สมอง) สติเป็นศัตรูกับความง่วง องค์แห่งสมาธิคือวิตก (การยกจิตขึ้นสู่อารมณ์) ก็เป็นศัตรูกับความง่วง

    ดังนั้น กำหนดจิตเฝ้าดูสติภายในหัว (สติคือความระลึกรู้ ฐานของสติอยู่ในหัว) เป็นการใช้องค์แห่งสมาธิคือวิตกเฝ้าดูสติ ใช้องค์แห่งสมาธิคือวิจารณ์ พิจารณาลักษณะของสติ คือความระลึกรู้ ตั้งใจว่าเราจะทำสติให้บริบูรณ์

    จะสังเกตุเห็นความง่วงในหัวตั้งอยู่ไม่ได้ ค่อยๆดับไปอย่างรวดเร็ว

    จิตตื่นรู้อยู่ภายใน เป็นทั้งสมาธิและวิปัสสนา

    เมื่อทำได้คล่องจะได้ถึงอรูปฌาณที่ 2 โดยเปลี่ยนมาเฝ้าดูจิตที่เฝ้าดูสติ


    หากทนง่วงไม่ไหวก็นอนหลับสักครู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2008
  4. จิตคิดดี

    จิตคิดดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +9
    วิธีแก้เวลานั่งสมาธิแล้วหลับก็คือ ให้กลั้นลมหายใจไว้สักครู่ค่ะ
    พอเริ่มหายใจไม่ออกตอนนั้นมันจะตื่นเองอัตโนมัติ
    ลองไปใช้ดูนะ
    คุณแม่ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นคนสอนเรื่องนี้ค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญให้กับคุณแม่ด้วยค่ะ
     
  5. visut_p

    visut_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,763
    อันนี้เป็นสิ่งที่ผมทำนะครับ ไม่รู้ว่าถูกรึเปล่าเพราะว่าเพิ่งเริ่มหัดนั่ง
    1. กาแฟซักแก้วก่อนนั่งถ้ารู้ว่าต้องง่วงแน่
    2. เริ่มนั่งสมาธิให้เร็วกว่าปกติซัก 1 ชั่วโมงถ้านั่งตอนกลางคืน
    3. เปลื่ยนจากนั่งบริกรรมมาเป็นสวดมนต์แทนตอนที่กำลังง่วง หายง่วงแล้วค่อยมาท่องบทบริกรรมต่อ
    4. เพ่งลูกตาดำไปข้างหน้าครับ อันนี้คนส่วนมากจะไม่รู้ เวลาเราหลับตาเนี่ย ลูกตาดำจะเหลือกขึ้นไปข้างบนโดยอัตโนมัติ ไอ้ตอนนอนหลับเนี่ยลูกตาดำเราก็อยู่ในตำแหน่งที่เหลือกขึ้นข้างบนครับ เพราะฉะนั้นผมจะพยายามเพ่งลูกตาดำไปข้างหน้าตอนง่วง อันนี้จะช่วยทำให้รวบรวมสมาธิได้ง่วยขึ้น (สำหรับผมนะครับ)
     
  6. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    ขอให้ประสบความสำเร็จในการนั่งเร็วๆครับ
    นั่งแล้วหลับ วิธีแก้คือ
    หลับให้สบายก่อนแล้วค่อยมานั่งครับ
     
  7. madar4u

    madar4u สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ขออ้างอิงตามประสบการณ์ของตัวเองนะครับ... ย้ำของตัวเอง
    หากไปขัดแย้งกับใคร ก็ขออภัยด้วยนะครับ

    ๑. สวดมนต์แล้วขนลุก ไม่อยากเลิกสวดครับและนั่งไปเลยๆ
    จิตเป็นปิติ มีสมาธิ ทำให้ใจอยากอยู่กับสิ่งนั้น

    ๒. นั่งสมาธิ หลับตาทีไร นึกเห็นจุดสีขาวไม่ชัดที่ขอบตาทุกที
    การนึกเห็นจุดขาวไม่ชัด ไม่เป็นไรครับ หมั่นปฏิบัติบ่อยๆ จะชัดและสว่างมาก โดยอัตโนมัติ จากตอนแรกที่นึก แต่พอหลังๆ มาจะเห็นเอง เหมือนเห็นด้วยตาเนื้อเลยครับ แล้วให้พยายามเคลื่อนจุดนั้นให้ไปตามฐานของจิตนะครับ

    ๓. นั่งสมาธิแล้วหลับทุกครั้ง(มีคนสอนว่าให้ละทุกอย่างไมคิดไม่ตั้งมั่น ปล่อยวาง ทุกสิ่ง) ผลก็คือสับประหงกเลยครับ
    แต่ก่อนผมก็เป็นครับ หลับตลอด เพราะเขาให้ปล่อยวาง จะเห็นความว่างเปล่า พอว่างมากเข้าก็จะหลับไปเลย 555 แต่พอมารู้จักกับวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ (ไม่ใช้ของวัดพระธรรมกายนะ) เขาสอนให้เราทำ 18 กาย คุณจะนั่ง 2 ชั่วโมงก็ไม่มีทางหลับเลยครับ เพราะตลอดที่เรานั่งกว่าจะครบ 18 กายก็ใช้เวลาทางโลกนานครับ(สำหรับผมที่ยังเดินวิชาไม่คล่องนะครับ แค่คนที่เขาเก่งๆ แล้วเขาทำกันแป๊ปเดียว) แต่ถ้าเป็นเวลาในสมาธิมันสั้นมากครับ เลยไม่รู้ว่าจะเอาเวลาช่วงไหนไปเผลอหลับ อีกอย่างเวลาอยู่ในสมาธิ มันมีอะไรให้เราต้องเรียนรู้มากมายครับ บอกได้เลยว่าหลับไม่ลง.
     
  8. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    มีหลายวิธีครับ

    นอนก็ดีนะครับ...

    สะสมไปเรื่อยๆ ลองลดการกินลง เพิ่มการออกกำลังกาย

    ร่างกายจะกะปรี้กะเปร่าขึ้นครับ..ไม่ง่วงง่ายๆหรอก ถ้าเกินนี้ก็แสดงว่าเพลียครับ นอนเลย

    ถ้าจะฝึกฝืนร่างกายก็ได้สมาธิเหมือนกัน แต่ต้องดูกำลังตัวเองด้วยครับ เป็นสัจจะบารมี ค่อยๆเพิ่มเวลาเอาเองนะครับ อย่าให้เสียสัจจะเชียว
     
  9. new2009

    new2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +34
    ผมฝึกมาประมาณ 12 วัน นั่งเช้าเย็นวันล่ะ 1 ชั่วโมงจิตยังไม่นิ่งเลยครับภาวนา พุทธ โธ อยุ่ดีๆใจมันไปนึกคำอื่นซะงั้น แต่ก็จะทำต่อๆไปครับ
     
  10. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
  11. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ตัวง่วงเหงาหาวนอน เป็นนิวรณ์ตัวหนึ่ง

    อย่าไปยอมแพ้มัน
    ตั้งการให้ตรง ตั้งกายให้ตรง ตั้งกายให้ตรง...
     
  12. firsthand

    firsthand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +7
    วิธีแก้ความง่วง

    พระโมคคัลลานะก็มีปัญหาความง่วงเหมือนกันครับ
    ดังที่ได้ปรากฏในพระไตรปิฎก

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 183

    ๘. โมคคัลลนสูตร
    [๕๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ป่า-
    เภสกลา มิคทายวัน ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ ก็สมัยนั้นแล
    ท่านมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม
    แคว้นมคธ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นท่านพระ-
    มหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ
    ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ ครั้นแล้วทรงหายจาก
    เภสกลามิคทายวัน ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ เสด็จไป
    ปรากฏเฉพาะหน้าท่านพระมหาโมคคัลลานะ ณ บ้านกัลลวาล-
    มุตตคาม แคว้นมคธ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนที่คู้
    หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะ
    ที่ปูลาดแล้ว ครั้นแล้วได้ตรัสถามทานพระมหาโมคคัลลานะว่า
    ดูก่อนโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ
    ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    ดูก่อนโมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เมื่อเธอมีสัญญา
    อย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ เธอพึงทำไว้ในใจซึ่ง
    สัญญานั้นให้มาก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้า
    เธอยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอถึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตน
    ได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความ
    ง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้
    สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอ

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 184

    ละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง
    เอามือลูบตัว ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละ
    ไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย
    แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้
    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงอาโลกสัญญา ตั้งความ
    สำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืน
    อย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ
    ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วง
    นั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมาย
    เดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่เปิดไปให้ภายนอก ข้อนี้
    จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึง
    สำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องหน้าขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติ-
    สัมปชัญญยะ ทำความหมายในการนอน ความสุขในการเอนข้าง
    ความสุขในการเคลิ้มหลับ ดูก่อนโมคคัลลานะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล.
    ดูก่อนโมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษา
    อย่างนี้อีกว่า เราจักไม่ชูงวง (ถือตัว) เข้าไปสู่ตระกูล ดูก่อน
    โมคคัลลานะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ถ้าภิกษุชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล
    และในตระกูลมีกรณียกิจหลายอย่าง ซึ่งจะเป็นเหตุให้มนุษย์ไม่ใส่ใจ
    ถึงภิกษุผู้มาแล้ว เพราะเหตุนั้น ภิกษุย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า
    เดี๋ยวนี้ใครหนอยุยงให้เราแตกในสกุลนี้ เดี๋ยวนี้ดูมนุษย์พวกนี้
    มีอาการอิดหนาระอาใจในเรา เพราะไม่ได้อะไร เธอจึงเป็นผู้เก้อเขิน

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 185

    เมื่อเก้อเขิน ย่อมคิดฟุ้งซ่าน เมื่อคิดฟุ้งซ่าน ย่อมไม่สำรวม เมื่อ
    ไม่สำรวมจิตย่อมห่างจากสมาธิ.
    เพราะฉะนั้นแหละ โมคคัลลานะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
    เราจักไม่พูดถ้อยคำซึ่งจะเป็นเหตุให้ทุ่มเถียงกัน ดูก่อนโมคคัลลานะ
    เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล เมื่อมีถ้อยคำซึ่งจะเป็นเหตุให้ทุ่มเถียงกัน
    ก็จำต้องหวังการพูดมาก เมื่อมีการพูดมาก ย่อมคิดฟุ้งซ่าน เมื่อ
    คิดฟุ้งซ่าน ย่อมไม่สำรวม เมื่อไม่สำรวม จิตย่อมห่างจากสมาธิ.
    ดูก่อนโมคคัลลานะ อนึ่ง เราสรรเสริญความคลุกคลี่ด้วย
    ประการทั้งปวงไม่ แต่มิใช่ว่าจะไม่สรรเสริญ ความคลุกคลีด้วย
    ประการทั้งปวงก็หามิได้ คือ เราไม่สรรเสริญความคลุกคลีด้วย
    หมู่ชนทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ก็แต่ว่า เสนาสนะอันใดเงียบเสียง
    ไม่อื้ออึ่ง ปราศจากการสัญจรของหมู่ชน ควรเป็นที่ประกอบกิจ
    ของผู้ต้องการความสงัด ควรเป็นที่หลีกออกเร้น เราสรรเสริญ
    ความคลุกคลีด้วยเสนาสนะเห็นปานนั้น.
    เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระมหา
    โมคคัลลานะทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    โดยย่อ ด้วยข้อปฏิบัติเพียงไรหนอ ภิกษุจึงเป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะ
    สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน ประเสริฐกว่า
    เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.
    พ. ดูก่อนโมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้สดับว่า
    ธรรมทั้งปวงไม่ควรถือมั่น ครั้นได้สดับดังนั้นแล้ว เธอย่อมรู้ชัด
    ธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง ครั้นรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญา

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 186

    อันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง
    แล้ว ได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุข
    มิใช่ทุกข์ก็ดี ย่อมพิจารณาเห็น ความไม่เที่ยงในเวทนาเหล่านั้น
    พิจารณาเห็นความคลายกำหนัด พิจารณาเป็นความดับ พิจารณา
    เห็นความสละคืน เมื่อเธอพิจารณาเห็นอย่างนั้น ๆ อยู่ ย่อมไม่ยืดมั่น
    อะไร ๆ ในโลก เมื่อไม่ยืดมั่น ย่อมไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อม
    ปรินิพพานเฉพาะตัวทีเดียว ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์
    อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
    มิได้มี ดูก่อนโมคคัลลานะ โดยย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุ
    จึงเป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วน เป็นผู้
    เกษมจากโยคะล่วงส่วน เป็นพรหมจารีล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน
    ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.
    จบ โมคคัลลานสูตรที่ ๘

    สรุป

    1. เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ เธอพึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก

    2. ตรึกตรองพิจารณาถึงธรรม ตามที่ตนได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ

    3. สาธยายธรรม ตามที่ตนได้สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร

    4. ยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์

    5. ทำในใจถึงอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิดไปให้ภายนอก

    6. อธิษฐานจงกรม กำหนดหมาย เดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่เปิดไปให้ภายนอก

    7. สำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องหน้าขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2008
  13. SathuSathu

    SathuSathu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านในการปฏิบัติธรรมนะครับ เจอกันทุกคนถีนมิธะ ไม่เว้นสักคน จนกว่าจะผ่านได้ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
     
  14. ใบเฟิร์นเจ้าค่ะ

    ใบเฟิร์นเจ้าค่ะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +41
    อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณท่านทั้งหลายที่เผยแพร่บอกวิธีการต่างๆ
    ขอบคุณค่ะ
     
  15. supatida

    supatida สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +13
    นั่งสมาธิแล้วหลับตลอดเหมือนกันค่ะ
    5 นาทีก็ไปแล้ว ทำให้นั่งได้ไม่นานก็ยอมแพ้ไป
    พยายามไม่หลับแต่มันก็หลับ
    การนั่งเลยไม่พัฒนาไปไหน
     
  16. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ปัญหา เรื่องหลับเหมือนกันเลยค่ะ มาจากยา ยอมรับว่า ตอนนี้รู้สึกท้อๆค่ะ นั่งมานานแล้ว แต่ก็หลับเกือบทุกครั้ง (แต่รู้ตัวว่าหลับค่ะ พยายามฝืนเดินบ้าง ล้างหน้าบ้าง ) พอกลับไปนั่งก็ หลับอีก สุดท้าย ลงไปนอนดีกว่า

    เพื่อนบอก ให้ตื่นมานั่งแต่เช้า เราเองก็นอนไม่ค่อยพออยู่แล้ว ก็หลับอีก งานต้องทำด้วย บางทีนั่งได้ดี แต่ก็ต้องลืมตา ได้เวลาทำงานแล้ว
    พอนั่ง ไม่ค่อยดี ติดกันหลายๆวัน ต้องเริ่มกันใหม่ พักนี้รู้สึกท้อ แย่จังเลยค่ะ
     
  17. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ผมแหละตัวหลับเลยล่ะ เลยนอนภาวนาเสียเลย หลับเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย แต่พอตื่นขึ้นมาสดชื่น มีแรงไว้ทำงาน พอตอนเที่ยงนั่งบ้าง นอนบ้าง สวดมนต์ไปเรื่อย ถ้าหลับก็ปล่อยให้หลับไป ตอนบ่ายก็ทำงานไป กลางคืนก็นอนภาวนา แบบนี้ ไม่ทุกวันหรอกครับ แต่บ่อยมาก ตอนเที่ยงถ้ามีงานเพิ่มก็ไม่ได้สวดมนต์ ผมว่าถ้านั่งแล้วง่วง ลุกมาเดินจงกรม ดีนะหายง่วง
     
  18. poopae191

    poopae191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +1,872
    เป็นบ่อยเลยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2013
  19. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ให้หลับก่อนแล้วมานั่งทำสมาธิไหมขอรับ
     
  20. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ระวังตัวขี้เกียจมันจะบอกว่านอนต่อดีกว่านะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...