ทำไม ? พระพุทธองค์มิทรงประกาศจุดตรัสรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย mossolo, 28 เมษายน 2008.

  1. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
    แน่นอนครับ ถ้าคนที่ทำกรรมชั่ว ถึงจะได้รับวิถีธรรมแล้ว แต่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองและยังปฏบัติสิ่งที่ไม่ดีผิดศีลธรรมเหมืิอนเดิม ก็ตามยังคงต้องสงสู่อบายภูมิอยู่ดี

    เคยมีดวงวิญญาณ ที่พระอาจารย์จี้กง พามาจากนรก ขึ้นมาเข้าร่างทรง มายืนร้องไห้ และเล่าเรื่องที่ตนยังมีชีวิตอยู่ให้ฟัง ซึ่งคนนี้รับธรรมะแล้วเหมือนกันสมัย สมัยพระบรรพจารย์รุ่นที่ 17 ก็ประมาณ 100 กว่าปี (ถ้าจำไม่ผิดนะ) มาเล่าเรื่องให้ฟังว่าตอนนี้มีชีวิตอยู่ในได้รับธรรมแล้ว แต่ยังทำชั่วให้ร้ายว่ากล่าวธรรมะนี้อีก ผลกรรมจึงต้องไปตกอยู่ในนรก เขาเลยได้มาเตือนแก่ผู้รับธรรมะแล้ว จงอย่าว่าร้าย ไม่ดี และจงรีบบำเพ็ญ เพราะธรรมะสามารถหลุดพ้น การเวียนว่ายตายเกิดได้จริง (เฉพาะผู้ที่บำเพ็ญจริงๆเท่านั้น)

    ส่วนใครที่บำเพ็ญธรรมแต่ยังบำเพ็ยได้ไม่ดี ครึ่งกลางๆ หรือยังมีจิตที่คิดไม่ดีอยู่
    ก็อาจต้องไปติดอยู่ที่ คุกสวรรค์ (แต่ไม่ต้องไปนรกแน่นอน)
    ลองอ่านได้ที่
    http://mindcyber.com/home/index.php?category=34
     
  2. paramitra

    paramitra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +180
    ถ้าคนที่ทำกรรมชั่ว ถึงจะได้รับวิถีธรรมแล้ว แต่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองและยังปฏบัติสิ่งที่ไม่ดีผิดศีลธรรมเหมืิอนเดิม ก็ตามยังคงต้องสงสู่อบายภูมิอยู่ดี

    บำเพ็ญธรรมนี่ ต้องทำยังไงครับ ต้องบำเพ็ญแบบที่เค้าสอนกันมาในพุทธสถาน หรือว่าบำเพ็ญเองข้างนอกได้ อย่างเช่นสมมุติว่า ถ้าผมรับธรรมมะแล้ว แล้วไม่เข้าสถานธรรมอีกเลย แต่ตลอดเวลาก็รักษาศีล5 ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างนี้ถือว่าบำเพ็ญธรรมมั้ยครับ

    ไม่รับธรรม ไม่ทำความดี ทำความชั่วลงนรก
    รับธรรม ไม่ทำความดี ทำความชั่วก็ลงนรก
    ไม่รับธรรม ทำความดี ไม่ทำความชั่ว ไปสวรรค์
    รับธรรม ทำความดี ไม่ทำความชั่ว ไปสวรรค์
    ไม่รับธรรม ขจัดกิเลสหมด ไปนิพพาน
    รับธรรม ขจัดกิเลสหมด ไปนิพพาน

    สรุป สุดท้ายอยู่ที่ตัวเรา

    ทำดี ละชั่ว ขจัดกิเลส
     
  3. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
    ธรรมะนี้ บำเพ็ญชาติเดียวสำเร็จชาติเดียวนะ

    คุณคิดว่า คุณสามารถบำเพ็ญ ละกิเลส และมรรคผลครบถ้วนสมบูรณ์ ในชาตินี้เลยหรือเปล่าหล่ะ ไม่งั้นผลบุญที่คุณทำมาก็็อาจส่งผลให้ไป เป็นเทพ เป็นพรหม แต่ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ดี

    ส่วนคนที่รับธรรมะแล้ว บำเพ็ญแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็กลับนิพพานแน่นอน ไม่ต้องไปเป็นเทวดา พรหม แต่ต้องไปบำเพ็ญต่อที่เบื้องบนเพื่อขลัดเกลากิเสสจนหมดสิ้นก่อน จึงไปเสวยสุขที่แดนพุทธาลัย ต่อไป

    ** แล้วใครจะกล้ารับประกันได้หล่ะว่าคุณจะกลับนิพพานได้ในชาิตินี้ นอกเสียจาก ธรรมะอันล้ำค่านี้ **
     
  4. paramitra

    paramitra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +180
    ยังเหลืออีก 1 คำถามครับ

    บำเพ็ญธรรมนี่ ต้องทำยังไงครับ ต้องบำเพ็ญแบบที่เค้าสอนกันมาในพุทธสถาน หรือว่าบำเพ็ญเองข้างนอกได้ อย่างเช่นสมมุติว่า ถ้าผมรับธรรมมะแล้ว แล้วไม่เข้าสถานธรรมอีกเลย แต่ตลอดเวลาก็รักษาศีล5 ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างนี้ถือว่าบำเพ็ญธรรมมั้ยครับ
     
  5. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101

    การปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็คือการบำเพ็ญเช่นกัน แต่จะแตกต่างกับการบำเพ็ญของ อนุตตรธรรม ก็คือ การบำเพ็ญอยู่ที่บ้านได้ บำเพ็ญในครัวเรือน ถือศีล กินเจ พูดดี คิดดี ทำดี นอกจากจะขลัดเกลาตัวเองแล้ว ยังช่วยเหลือคนอื่นให้รับรู้หนทางหลุดพ้นด้วย คือการชวนคนอื่นมารับธรรมะ เพื่อรู้หนทางหลุดพ้นเช่นเดียวกับเราด้วย (สิ่งศักสิทธิ์ทรงตรัสไว้ว่า การชวนคนรับธรรมะ 1 คน ได้บุญเท่ากับสร้างวัด 1 วัด) นี่คือจุดประสงค์ของฟ้า เหมือนเราทำงานแทนฟ้า จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเราจะไม่เข้าไปในพุทธสถานอีก เพราะถ้าเราชวนคนมารับธรรมะแล้ว เราก็ต้องไปที่พุทธสถานอยู่ดี แล้วอีกอย่างที่นั้นจะมีการฟังธรรมทุกๆอาทิตย์ และประชุมธรรม 1 วันทุกๆเดือน
    เราก็ควรไปฟังด้วยตามเวลาที่เราสะดวกจะไป เพื่อให้เราได้รู้แจ้ง ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ และการไปฟังธรรมที่สถานธรรม หรือไปช่วยเหลืองานธรรมก็เป็นการสร้างบุญกุศลให้เราอีก แล้วทำไมเราถึงจะไม่ไปหล่ะ
     
  6. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
  7. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    พระอรหันต์จี้กง ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น พระอรหันต์

    ตามตำราที่ผมอ่าน และ...(ไม่บอก)

    ท่านเป็นองค์อวตารของพระอรหันต์ แต่มีจิตใจของพระมหาโพธิสัตว์ครับ


     
  8. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    ความเชื่อต้องผ่านการพิสูจน์ จึงเป็นศรัทธา
    ความเชื่อไม่ผ่านการพิสูจน์ นั้นงมงาย
    การพิสูจน์ต้องแน่ชัด หักล้างด้วยเวลา ด้วยความจริง ด้วยพระไตรปิฎก ตีความไม่เข้าข้าง อ้างอิงซึ่งเหตุผล ไม่ใช่จะใช้ตรรกะเพียงแคบๆ นี้คือการพิสูจน์ ที่ถูกต้อง เป็นศรัทธาที่ถูกต้อง เพียบพร้อมด้วยปัญญา
     
  9. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    อย่าอ้างคำพูดของบุคคลผู้มาที่หลัง ผู้กล่าวอ้างแล้วว่าตัวเองเป็นนั้น เป็นนี้ มีตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้
    ยิ่งผู้ไร้สติเช่นร่างทรงก็หาได้เชื่อถือไม่ เพราะถือว่า ยังไม่มีสติ จักพูดอะไร กล่าวสิ่งไร ตามที่จิตจะนึกคิด หรือเก็บไว้ ใต้จิตใต้สำนึก ไม่ควรอ้างอิง
    .... หนังสือตำราชั้นหลัง นอกจากพระไตรปิฎกทั้งมหายานและหินยาน เช่นพงศาธรรม หรือ คัมภีร์สัจจคาถาพระเมตตรัยยะ จะอ้างอิงได้เต็มที่ไม่ได้ ถือเป็นเอกสารไม่สมบูรณ์ ไม่ประกอบด้วยพุทธพจน์ที่มีการอ้างถึง หากจะอ้างอิงพุทธพจน์ ที่ไม่ใช่พระไตรปิฎก มักจะถือว่าสร้างสัธรรมปฏิรูป เอาคำพูดใส่พระโอษฐ์พระพุทธองค์
    พูดไว้ให้ไตร่ตรอง
    การวิเคราะห์เช่นกันพึงวิเคราะห์ด้วยเวลาและสภาพสมัยที่เป็นอยู๋ ณ ช่วงที่มีการอ้างในบันทึกนั้น เช่นพุทธกาล ควรรู้สภาพ ความคิดของคนในสมัยนั้นแล้วเปรียบกับสมัยนี้ ให้เข้าใจ ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกของคนสมัยนี้ไปจับ จะเกิดการตีความผิดพลาด ในหนังสือหลายเล่มในเครือของลัทธิอนุตรธรรม มีการอรรถาธิบาย พระสูตรต่างๆได้เข้าข้างตนเองมากเกินไป ขอท่านทั้งหลายจงวิเคราะห์เปรียบเทียบดูเอาเถอะ

    ฝากไว้....
    ความเชื่อมนุษย์ เชื่อง่าย ไม่พิสูจน์ ผิดง่าย แก้ยาก
    เชื่อยาก พิสูจน์มักง่าย ผิดง่าย แก้ยาก
    เชื่อยาก พิสูจน์รอบคอบ ผิดยาก แก้ยาก
    เชื่อยาก พิสูจน์รอบคอบและละเอียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ผิด
     
  10. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
    แล้วท่านใช้อะไรพิสูจน์หล่ะ ว่าธรรมะนี้ไม่จริง

    ทางที่ดีไปพิสูจน์ที่ พุทธสถาน ดีไหม ( 10 ปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น )

    ไม่เชื่อก็ต้องไปพิสูจน์เลย อย่าพึ่งบอกว่าไม่จริง ต้องเห็นด้วยตาสัมผัสด้วยใจจริงๆ อย่าทิฐิ ลองดูไม่เสียหลายอยู่แล้ว มีแต่ได้กับได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2008
  11. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    อันนี้ ขอแสดงความเห็นนะครับ
    ไม่ได้เข้าข้างใครนะ และมีใจเป็นกลาง

    ผมเข้าใจว่าการรับอนุตตรธรรมหรือวิถีธรรมที่ว่านี้ หมายถึง พิธีการอย่างหนึ่ง
    ที่ต้องการให้สานุศิษย์น้อมรับไว้เหนือเกล้ากระหม่อม เหมือนกับพิธีครอบครู
    ใช่หรือเปล่าครับ?

    หากใช่ ผมก็ว่าไม่น่าจะแปลก ส่วนจะบำเพ็ญอย่างไร ก็แล้วแต่จริตของ
    แต่ละท่าน ไม่ว่ากัน เพราะวัชรยานก็มีพิธีการนี้เหมือนกัน

    อย่างศาสนาพุทธ เวลาบวชเป็นพระ ก็ต้องมีพิธีการลักษณะนี้เช่นกัน
    เพราะถือว่าพระสงฆ์เป็นตัวแทนหรือผู้นำพาพระธรรม
    แห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเผยแพร่เช่นกัน

    ดังนั้น แนวทางแต่ละศาสนาแต่ละนิกายย่อมแตกต่างกัน
    เพราะมองที่เจตนาแล้ว คือ ต้องการให้มนุษย์ทำความดีนั่นเอง
    เพียงแต่หลักการ แนวคิด และข้อพระวินัยแตกต่างกัน
    จะให้อีกนิกายหนึ่งที่ไม่ใช่ของตน ยอมรับเป็นสิ่งที่อยากอยู่แล้ว
    เราเป็นชาวพุทธ ต้องใจกว้างพอที่จะเปิดรับกับสิ่งเหล่านี้
    โดยไม่กล่าวหา เพียงเพราะขัดแย้งกับหลักธรรมของตน
    เพราะบางครั้งเรายอมรับของเราเอง คนอื่นเขาก็ไม่ยอมรับเช่นกัน

    แล้วจะขัดแย้งกันไปทำไม

    หากคุณเม ปฏิเสธการพิสูจน์ในสิ่งที่ท่านกล่าวมา

    ผมจะขอเป็นผู้พิสูจน์เอง จะได้ไหมครับ

    ถือว่า เป็นการเรียนรู้ หาประสบการณ์อีกแบบหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2008
  12. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    คุณ เฮียปอ ตำมะลัง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1169641", true); </SCRIPT>

    ขอถามเป็นประเด็นนะครับ

    พระอรหันต์จี้กง ทำไมท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว เหตุใดต้องอวตารอีกละครับ?
    เพราะเข้าใจว่าอวตาร คือการแบ่งพระภาค
    หรือว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ที่ไม่ยอมเข้าสู่พระนิพพาน
    แต่ต้องการบำเพ็ญบารมีเฉกเช่นพระมหาโพธิสัตว์

    อย่างนี้น่าจะเรียกว่า พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ มากกว่าที่จะเรียกว่า พระอรหันต์
    น่าจะเรียกพระนามท่านว่า "พระมหาโพธิสัตว์จี้กง"

    ลองถามคนที่เขาสื่อได้ เพื่อยันยันอีกครั้งได้ไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2008
  13. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
    [​IMG]

    พระพุทธบรรพจารย์เทียนหยาน พระภาคจุติหนึ่งของพระอาจารย์จี้กง
    อวตารภาคลงมาเพื่อสืบทอดและเผยแพร่ธรรมะเพื่อโปรดเวไนยสัตย์

    ส่วนรายละเอียดและประวัติดูได้ที่
    http://thaijinde.is.in.th/?md=content&ma=show&id=28
     
  14. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    คุณ meedoo

    ตอบแทนดีกว่าครับ...ผมแค่คนที่ศรัทธา ท่านอรหันต์จี้กง ไม่รู้ลึกเท่า
     
  15. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    บุคคลที่เชื่อคนอื่น พระพุทธเจ้าของเราไม่ตรัสสรรเสริญว่าบุคคลนั้นเป็นปราชญ์ คนที่เป็นปราชญ์นั้น ก็คือคนที่ปฏิบัติธรรมะให้เป็นธรรมะ จนเชื่อตัวของตัว ไม่ต้องเชื่อคนอื่น

    ในคราวหนึ่งครั้งพุทธกาล พระสารีบุตรและสาวกหลายรูปนั่งฟังธรรมด้วยความเคารพต่อพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ท่านก็อธิบายธรรมะให้ความเข้าใจไป แล้วที่สุดท่านก็ย้อนถามพระสารีบุตรว่า
    "ท่านสารีบุตรเชื่อแล้วหรือยัง"

    พระสารีบุตรตอบว่า "ข้าพระองค์ยังไม่เชื่อ"

    นี่เป็นตัวอย่าง แต่ว่าท่านรับฟัง คำที่ว่าท่านยังไม่เชื่อนั้นมิใช่ว่าท่านประมาท ท่านพูดความจริงออกมา ท่านรับฟังเฉยๆ คือปัญญายังไม่เกิด ท่านจึงตอบพระพุทธองค์ว่ายังไม่เชื่อ ก็เพราะว่ายังไม่เชื่อจริงๆ คำพูดนี้คล้ายๆกับประมาท แต่ความจริงท่านมิได้ประมาทเลยท่านพูดตามความจริงใจว่าท่านยังไม่เชื่อ

    พระพุทธองค์ก็ทรงสรรเสริญ "เออ สารีบุตรดีแล้ว นักปราชญ์ไม่ควรเชื่อง่ายๆ ควรไตร่ตรองพิจารณาแล้วจึงเชื่อ"

    ที่มา : http://palungjit.org/showthread.php?t=11792
     
  16. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    [SIZE=+2]ใบไม้ในกำมือ[/SIZE]
    [SIZE=+2] [/SIZE]
    [SIZE=+2] [/SIZE]สีสปาสูตร
    เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น

    เล่มที่ ๑๙

    [๑๗๑๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน? "

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบ ที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า"

    พ. "อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก
    เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก"


    [๑๗๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว
    เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ... นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า
    นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
    จบสูตรที่ ๑


    ที่มา : http://www.tipitaka.com/baimai.htm
    ------------

    แม้แต่ใบไม้ในกำมือยังไม่รู้แจ้ง จะไปเสาะหาใบไม้ในป่าก็คงจะเกินครู: bat: เราขอเพียงใบไม้ในกำมือให้พ้นจากวัฏสงสารตามคำของบรมครูผู้ทรงสัพพัญญูวิสัยเท่านั้นก็พอ
     
  17. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    คุณ eddy1965 ผมพิสูจน์มาแล้ว รับธรรมแล้วตั้งแต่ปี 2547 ศึกษาเรื่องของอนุตรธรรมจนมาก พอเข้าใจแล้ว ถึงบอกไงว่าหลักธรรมเค้าลึกๆค้านพระพุทธองค์ ค้านพระไตรปิฎกหมด ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร การทำพิธีของเค้านั้นเหมือนลัทธิเต๋า แล้วเอาหลักธรรมพุทธมาผนวก อ้างเอาเพื่อดึงชาวพุทธ ผมเลยเลิกยึดถือ แค่ทำให้ชาวบ้านเค้าสบายใจว่านับถือของใหม่ๆ แต่ไม่สูงสุดถึงพ้นทุกข์แบบที่กล่าวอ้าง ไม่ได้ช่วยแก้ให้เจริญสติปัญญา มัวแต่พาคนหลงกับการนับถือ ศรัทธา วิถีธรรมของพระแม่อนุตรธรรมที่เค้ากล่าวอ้าง ว่ารับธรรมแล้ว รับรองว่าฉุดช่วยมนุษย์ 7 ชั่วโคตร เป็นเหมือนของแถมเหมือนตัวล่อให้นับถือ (ไม่มีพระไตรปิฏกตรงไหนกล่าวอ้างไว้) แล้วเรื่องนิกายในพุทธศาสนา ว่าแตกเพราะเราแตกกันเอง ใช่ครับ แต่มาจากเดียรถีร์ปลอมบวชอ้างหลักธรรมในลัทธิของตน มาผนวกกับพุทธ ให้ชาวบ้านหลงผิด เกิดการแตกแยกความคิดของชาวบ้าน ของพระ ชะรอยจะแนวเดียวกับอนุตรธรรม


    สาธุกับคุณ Khunkik ที่นำหลักธรรมแท้ไม่ปฏิรูปมา แสดงให้ทุกท่านได้คิดกัน อนุโมทนาอย่างสูงขอรับ ในพงศาธรรมที่ว่า" บัดนี้ ธรรมกาลยุคขาว พระศรีอาริยเมตไตรยปกครองธรรมกา ลธรรมะแพร่ลงสู่ครัวเรือนสาธุชนชายหญิงสามารถรับธรรมะ แล้วบำเพ็ญคืนกลับสู่อนุตตรภาวะโดยมิต้องทิ้งครัวเรือน เมื่อประตูพุทธสถานทุกแห่งเปิดกว้าง หญิงชาย ผู้ใหญ่ เด็ก คนทุกชั้นอาชีพจึงมีโอกาสบำเพ็ญ เป็นนักบวชในครัวเรือน ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว " พิจารณาเอาเน้อ "พระศรีอาริยเมตตรัยท่านเป็นวิริยาธิกะพุทธเจ้า กว่าจะมาตรัสรู้ก็ อีก ล้านๆปีข้างหน้า แต่อนุตรธรรมอ้างว่า ยุคนี้เป็นยุคพระศรีอาริย์ พระโคตมพุทธเจ้าท่านยังไม่หมดพระศาสนาเลย อย่ามาเป็นมาร เร่งรัดพระพุทธศานาให้สั้นไปกว่านี้เลย แค่นี้คนมันก็หลงกิเลสพอเเล้ว "

    คนตายตัวนิ่ม ก็มีหลักฐานทางการแพทย์ ว่า กล้ามเนื่อใช้ออกซิเจนหมดครับ อีกอย่าง ถึงแม้คนเราจะตาย หัวใจไม่เต้าแต่ สมองยังทำงานอยู่ ระบบประสาทมันสั่งการกล้ามเนื้อให้ใช้พลังงานต่อไปจนได้ครับ ในวารสารแพทย์ มีฝรั่ง คนไทยต่างชาติ ที่ไม่ได้ รับธรรมะจากอนุตรธรรม ตายตัวยังนิ่มได้ครับ การตายแล้วตัวนิ่มไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกพยากรณ์มรรคผลอะไรเลย
    เรื่องการผ่านญาณแล้วสิ่งศักดิสิทธิ์อ้างแม้กระทั่งพระพุทธองค์ที่ผมและชาวพุทธ เคารพนับถือ ก็ชอบยืนยันให้บำเพ็ญๆๆๆๆอยู่นั่นแหละไม่มีสาระให้ ดูจิตกล่าวธรรมะอะไรที่เป็นแก่นสารเลย เป็นเรื่องของนิมิต จิตใต้สำนึก ของ สามคุณ (คนทรงนั่นเอง)
    ไปฟังแล้ว เหมือนเรื่อง แม่ชีตัดที่อ้างว่าผ่านญานพระพุทธองค์ได้ แล้วหลวงปู่ฝั้น อาจาโรท่านไปแก้ทิฏฐิ ลองหาดูในประวัติท่านก็ได้ครับ

    http://thaijinde.is.in.th/?md=content&ma=show&id=1 ดูประวัติอนุตรธรรม เป็นหลักธรรมลัทธิเต๋าทั้งนั้น พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวถึง เป็นหลักธรรมนอกศาสนาพุทธที่ ไม่รู้ว่า ศาสดาลัทธิเต๋าท่านเห็นถูกรึปล่าว แต่ท่านเอามาสอน แล้วคนก็ตีความ เหมือนเป็นหลักธรรมที่พูดกำกวม คนที่บรรลุเต๋าเข้าใจเต๋าในสมัยโบราณเป็นต้นมามีน้อย มีแต่คนอ้างว่าตัวเองบรรลุแล้ว แล้วมาสอนๆๆๆกันเป็นลัทธิแตกๆกันออกไป ข้าพเจ้าจึงนำมากล่าวอ้างไว้โดยให้เข้าใจทั่วกัน 555+
     
  18. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
  19. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ไม่เห็นจะมาตอบเลยคุณ meedoo

    ท่านอรหันต์จี้กง เป็นพระโพธิสัตว์หรือพระอรหันต์ ?

    งั้นผมวิเคราะห์เองนะ อาจจะผิดพลาด ขออภัย

    ท่านอรหันต์จี้กง ท่านไม่ปราถนาพุทธภูมิ ไม่ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า

    ท่านลงมายังโลกมนุษย์เพราะพระประสงค์ของ พระมหาโพธิสัตว์

    ดังนั้น ท่านคือ พระอรหันต์

     
  20. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    หาผู้เสมอเหมือนมิใด้

    <table style="" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="5" width="550"><tbody><tr><td background="../pics/_bggray.gif" bgcolor="#eeeefe" valign="top"> หาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้</td> </tr> <tr> <td valign="top"> พระบรมศาสดา ผู้รื้อขนสรรพสัตว์ออกจากทุกข์ เจ้าฟ้าชายสิทธารถ เยื้องย่างสง่างามบนพื้นดิน ทั้งในโลกนี้ เทวโลก และนรกทั้งหลาย พระบรมศาสดาของพวกเรา หาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ พระองค์เป็นผู้ได้รับเกียรติจากมหาชน ทรงเป็นผู้มีความปราถนาดีที่สุด องอาจที่สุด และเมตตาที่สุด ทรงเป็นบรมครูผู้สอนธรรม และพระนิพพาน
    </td> </tr> <tr> <td valign="top">
    เซอร์ แอ็ดวิน อาร์โนลด์ ใน "ประทีปแห่งเอเชีย"
    </td></tr></tbody></table>

    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม


    http://www.dhammathai.org/buddhism/buddhaworld01.php
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11(1).jpg
      11(1).jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.1 KB
      เปิดดู:
      70
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...