วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รายการที่ 215 ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551(1)

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ศิษย์ไปซื้อมา หลวง่พอท่านบอกกับศิษย์ว่า "กูเสกเป็น"

พระอาจารย์ทินและศิษย์วัดช่วยกันลงเหล็กจาร แต่เหล่าศิษย์ก็จารได้ไม่มากนักครับ เนื่องจากการกดเหล็กจารลงไปบนลูกแก้วนั้นไม่ง่าย เลยจะพบเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะส่วนใหญ่ ศิษย์รุ่นเก่าๆหลานๆท่านรวมถึงพระอาจารย์ทินเองท่านก็ให้ข้อมูลว่าลูกแก้วนี้หลวงพ่อตัดท่านเสกด้วย "มนต์จินดามณี" ซึ่งปัจจุบันตะกรุดมนต์จินดามณีของหลวงพ่อตัดเองเรียกว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอง่ายๆแล้ว ลูกศิษย์ใหม่ยุคหลังๆจึงนิยมบูชาลูกแก้วแทนเพราะยังพอหาได้และราคาไม่สูง

คนแถววัดหวงแหนกันมากนะครับ บางคนนี่เลี่ยมแขวนเป็นสายสะพายเลย เพราะเขาขอและได้ลาภสมความปรารถนามาหลายครั้ง

สมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ มีคนไปถามท่านว่า "ลูกแก้วนี้ดีอย่างไร"

ท่านก็จะตอบตามสไตล์ท่านคือ

"มึงมีหน้าที่ใช้มึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

หรือถามว่า

"ใช่ลูกแก้วสารพัดนึกมั้ย"

ท่านก็จะตอบว่า

"สารพัดนึกหรือจะนึกสารพัดก็ไม่รู้"

ถือว่าเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆคนต้องกลับมานั่งคิดความลึกซึ้งในคำตอบนี้ ซึ่งตอนนำไปอาราธนาบูชาก็ได้ผลดีเหมือนคำถามที่ถามหลวงพ่อไป

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดทางด้านเมตตาโชคลาภที่ราคาย่อมเยา เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ น่าบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 216 ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551(2)

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ศิษย์ไปซื้อมา หลวง่พอท่านบอกกับศิษย์ว่า "กูเสกเป็น" พระอาจารย์ทินและศิษย์วัดช่วยกันจาร แต่เหล่าศิษย์ก็จารได้ไม่มากนักครับ เนื่องจากการกดเหล็กจารลงไปบนลูกแก้วนั้นไม่ง่าย เลยจะพบเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะส่วนใหญ่ ศิษย์รุ่นเก่าๆหลานๆท่านรวมถึงพระอาจารย์ทินเองท่านก็ให้ข้อมูลว่าลูกแก้วนี้หลวงพ่อตัดท่านเสกด้วย "มนต์จินดามณี" ซึ่งปัจจุบันตะกรุดมนต์จินดามณีของหลวงพ่อตัดเองเรียกว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอง่ายๆแล้ว ลูกศิษย์ใหม่ยุคหลังๆจึงนิยมบูชาลูกแก้วแทนเพราะยังพอหาได้และราคาไม่สูง

คนแถววัดหวงแหนกันมากนะครับ บางคนนี่เลี่ยมแขวนเป็นสายสะพายเลย เพราะเขาขอและได้ลาภสมความปรารถนามาหลายครั้ง สมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ มีคนไปถามท่านว่า "ลูกแก้วนี้ดีอย่างไร"

ท่านก็จะตอบตามสไตล์ท่านคือ

"มึงมีหน้าที่ใช้มึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

หรือถามว่า

"ใช่ลูกแก้วสารพัดนึกมั้ย"

ท่านก็จะตอบว่า

"สารพัดนึกหรือจะนึกสารพัดก็ไม่รู้"

ถือว่าเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆคนต้องกลับมานั่งคิดความลึกซึ้งในคำตอบนี้

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดที่ราคาย่อมเยา เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ น่าบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 217 ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551(3)

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ศิษย์ไปซื้อมา หลวง่พอท่านบอกกับศิษย์ว่า "กูเสกเป็น" พระอาจารย์ทินและศิษย์วัดช่วยกันจาร แต่เหล่าศิษย์ก็จารได้ไม่มากนักครับ เนื่องจากการกดเหล็กจารลงไปบนลูกแก้วนั้นไม่ง่าย เลยจะพบเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะส่วนใหญ่ ศิษย์รุ่นเก่าๆหลานๆท่านรวมถึงพระอาจารย์ทินเองท่านก็ให้ข้อมูลว่าลูกแก้วนี้หลวงพ่อตัดท่านเสกด้วย "มนต์จินดามณี" ซึ่งปัจจุบันตะกรุดมนต์จินดามณีของหลวงพ่อตัดเองเรียกว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอง่ายๆแล้ว ลูกศิษย์ใหม่ยุคหลังๆจึงนิยมบูชาลูกแก้วแทนเพราะยังพอหาได้และราคาไม่สูง

คนแถววัดหวงแหนกันมากนะครับ บางคนนี่เลี่ยมแขวนเป็นสายสะพายเลย เพราะเขาขอและได้ลาภสมความปรารถนามาหลายครั้ง สมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ มีคนไปถามท่านว่า "ลูกแก้วนี้ดีอย่างไร"

ท่านก็จะตอบตามสไตล์ท่านคือ

"มึงมีหน้าที่ใช้มึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

หรือถามว่า

"ใช่ลูกแก้วสารพัดนึกมั้ย"

ท่านก็จะตอบว่า

"สารพัดนึกหรือจะนึกสารพัดก็ไม่รู้"

ถือว่าเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆคนต้องกลับมานั่งคิดความลึกซึ้งในคำตอบนี้

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดที่ราคาย่อมเยา เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ น่าบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 218 ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551(4)

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ศิษย์ไปซื้อมา หลวง่พอท่านบอกกับศิษย์ว่า "กูเสกเป็น" พระอาจารย์ทินและศิษย์วัดช่วยกันจาร แต่เหล่าศิษย์ก็จารได้ไม่มากนักครับ เนื่องจากการกดเหล็กจารลงไปบนลูกแก้วนั้นไม่ง่าย เลยจะพบเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะส่วนใหญ่ ศิษย์รุ่นเก่าๆหลานๆท่านรวมถึงพระอาจารย์ทินเองท่านก็ให้ข้อมูลว่าลูกแก้วนี้หลวงพ่อตัดท่านเสกด้วย "มนต์จินดามณี" ซึ่งปัจจุบันตะกรุดมนต์จินดามณีของหลวงพ่อตัดเองเรียกว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอง่ายๆแล้ว ลูกศิษย์ใหม่ยุคหลังๆจึงนิยมบูชาลูกแก้วแทนเพราะยังพอหาได้และราคาไม่สูง

คนแถววัดหวงแหนกันมากนะครับ บางคนนี่เลี่ยมแขวนเป็นสายสะพายเลย เพราะเขาขอและได้ลาภสมความปรารถนามาหลายครั้ง สมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ มีคนไปถามท่านว่า "ลูกแก้วนี้ดีอย่างไร"

ท่านก็จะตอบตามสไตล์ท่านคือ

"มึงมีหน้าที่ใช้มึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

หรือถามว่า

"ใช่ลูกแก้วสารพัดนึกมั้ย"

ท่านก็จะตอบว่า

"สารพัดนึกหรือจะนึกสารพัดก็ไม่รู้"

ถือว่าเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆคนต้องกลับมานั่งคิดความลึกซึ้งในคำตอบนี้

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดที่ราคาย่อมเยา เหมาะกับเศรษฐกิจแบบนี้ น่าบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 219 ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551(5)

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ศิษย์ไปซื้อมา หลวง่พอท่านบอกกับศิษย์ว่า "กูเสกเป็น" พระอาจารย์ทินและศิษย์วัดช่วยกันจาร แต่เหล่าศิษย์ก็จารได้ไม่มากนักครับ เนื่องจากการกดเหล็กจารลงไปบนลูกแก้วนั้นไม่ง่าย เลยจะพบเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะส่วนใหญ่ ศิษย์รุ่นเก่าๆหลานๆท่านรวมถึงพระอาจารย์ทินเองท่านก็ให้ข้อมูลว่าลูกแก้วนี้หลวงพ่อตัดท่านเสกด้วย "มนต์จินดามณี" ซึ่งปัจจุบันตะกรุดมนต์จินดามณีของหลวงพ่อตัดเองเรียกว่าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอง่ายๆแล้ว ลูกศิษย์ใหม่ยุคหลังๆจึงนิยมบูชาลูกแก้วแทนเพราะยังพอหาได้และราคาไม่สูง

คนแถววัดหวงแหนกันมากนะครับ บางคนนี่เลี่ยมแขวนเป็นสายสะพายเลย เพราะเขาขอและได้ลาภสมความปรารถนามาหลายครั้ง สมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ มีคนไปถามท่านว่า "ลูกแก้วนี้ดีอย่างไร"

ท่านก็จะตอบตามสไตล์ท่านคือ

"มึงมีหน้าที่ใช้มึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

หรือถามว่า

"ใช่ลูกแก้วสารพัดนึกมั้ย"

ท่านก็จะตอบว่า

"สารพัดนึกหรือจะนึกสารพัดก็ไม่รู้"

ถือว่าเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆคนต้องกลับมานั่งคิดความลึกซึ้งในคำตอบนี้

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดที่ราคาย่อมเยา เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ น่าบูชาครับ

แบ่งบูชา 449 บาท พร้อมจัดส่งครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 220 ปลัดขิกไม้สะแกผูกคอตาย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 ตอกโค๊ดเพชรพญาธร

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา ปัจจุบันนี้ปลัดขิกไม้ผูกคอหายไปจากท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม้ว่าจะถูกเก็บไว้โดยผู้ศรัทธา หรือถูกส่งออกไปต่างประเทศก็มากมายแล้ว ส่งผลให้ปลัดขิกไม้ผูกคอตายเหลือหมุนเวียนในประเทศน้อยเต็มทีแล้ว

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันตัวนี้พระอาจารย์ทินท่านจารกำกับไว้ว่าไม้สะแก ตอกโค๊ดเพชรพญาธร ไม่ค่อยเห็นหมุนเวียนในตลาดนักครับ หายาก ขนาดยาว 2.5 นิ้ว เคลือบรักษาผิวไม้พร้อมบูชาได้ยาวๆครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 221 ขุนแผนรุ่นสอง หลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อดินเผา ปี 2548 คัดสวย

ขุนแผนหลวงพ่อตัด วัดชายนา พุทธคุณเป็นที่เชื่อถือกันมานานแล้วครับ ด้วยความที่หลวงพ่อตัดท่านสำเร็จวิชาขุนแผนชมตลาด วิชาประสบเนตร วิชานะละลวย วิชามนต์จินดามณี และวิชาอื่นๆที่เกี่ยวกับทางเมตตามหานิยมจากตำรับตำราทางเพชรบุรีอื่นๆอีกมากมายที่หลวงพ่อท่านได้เล่าเรียนมา
จึงทำให้มีผู้ศรัทธาเอาไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์ทั้งทางด้านเมตตามหานิยม-แคล้วคลาดคงกระพัน รวมไปถึงเรื่องโชคลาภเงินทอง เนื่องจากยันต์ที่ใช้ในขุนแผนรุ่นสองนี้เป็นยันต์นะหน้าทอง หัวใจขุนแผนแล้ว ยังมีการใส่คาถาหัวใจพระสีวลีลงไปด้วย ซึ่งประสบการณ์ด้านโชคลาภก็ปรากฏให้ได้ยินในหลายๆครั้ง ส่งผลให้ขุนแผนหลวงพ่อตัดได้รับความนิยมในหมู่ศิษย์เป็นอย่างมาก จนมีคำกล่างที่ว่า "ขุนแผนหลวงพ่อตัดแขวนแล้วไม่จน" (แต่ก็ควรทำมาหากินด้วยมิใช่อยู่เฉยๆแล้วเงินจะมานะครับ)

ขุนแผนที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นขุนแผนรุ่นสองเนื้อดินเผา สภาพเกือบสมบูรณ์มากๆ ทาทองเดิมจากวัด มีทองหลุดนิดหน่อยซึ่งไม่ใช่ปัญหาในส่วนของความสวย ซึ่งได้หน้าตาติดชัดมาก ด้านหลังกดยันต์ได้คมชัด เรียกว่าเป็นสภาพพระที่ทั่วไปไม่เจอง่ายๆแน่นอนครับ
ซึ่งถ้าเป็นในพื้นที่พระสภาพขนาดนี้ ผมไปถามมาปัจจุบันตั้งขายกันอยู่พันกว่าบาทแล้วครับ แต่ชุดนี้ผมตั้งใจเอามาแบ่งปันกันราคาเบาๆจริงๆ อยากให้ผู้ศรัทธาได้ไปบูชากัน ขึ้นคอไม่อายใคร พระอาจารย์ทินเมตตาจารหมึกทองกำกับด้านหลังให้แล้วครับ

มีผู้บูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ปลัดขิกเตือนภัย

เรื่องราวนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เรื่องเกิดขึ้นราวๆ 10 ปีก่อน

เมื่อสมัยผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ผมกับเพื่อนๆมักจะไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตใกล้ๆมหาวิทยาลัยอยู่เป็นประจำ ซึ่งวันนั้นก็เป็นเหตุการณ์ปกติเหมือนเคย เล่นเกมส์เสร็จเดินไปที่โต๊ะเจ้าของร้านเพื่อจะจ่ายเงิน แต่ในขณะที่กำลังจ่ายเงินอยู่นั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรสั่นอยู่บริเวณเอว ซึ่งพอจับไปก็ได้สัมผัสกับปลัดขิกที่แขวนเอวอยู่สั่น (สั่นเหมือนมือถือมีสายเข้าน่ะครับลองจินตนาการตามดูเผื่อจะเห็นภาพมากขึ้น) ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรกเป็นเหตุการณ์ตะกรุดสั่นแล้วผมรอดจากอันตราย ตอนนั้นเองผมก็เริ่มใจไม่ดีเหมือนเดิมอีกครั้ง เลยเอาตังฝากเพื่อน แล้วบอกว่า

"ฝากจ่ายด้วยนะ เดี๋ยวไปรอร้านกาแฟข้างๆนี้"

เพื่อนผมก็รับเงินไปรอจ่ายเงินต่อ ผมเองก็เดินออกจากร้านมารอร้านกาแฟข้างๆ พอเข้าร้านกาแฟมาได้สักพักไม่ถึง 5 นาที ก็ได้เสียงอึกทึกครึกโครมจากบริเวณหน้าร้าน และมีวัยรุ่นหลายคนวิ่งกระจายกันไป รวมถึงเพื่อนผมด้วย ผมก็ยืนดูอยู่บริเวณร้านกาแฟนั่นแหละ หลังจากเหตุการณ์สงบลง เพื่อนๆก็ได้เดินเข้ามาในร้านกาแฟ แล้วก็ได้บอกกับผมว่า

"มึงโชคดีนะที่ออกมาก่อน หลังจากที่มึงออกไป เด็กแว๊นจากไหนไม่รู้ยกพวกมาตีกับกลุ่มที่เล่นเกมส์อยู่ในร้าน มีทั้งไม้ทั้งมีด พวกกูต้องวิ่งหนีออกมา นี่ก็เกือบโดนลูกหลงกันแล้ว"

ผมได้ฟังแบบนั้นแล้วก็ขนลุกซู่ คิดในใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญแล้ว เพราะเป็นลักษณะเดียวกันกับเหตุการณ์ที่ผมเคยเจอครั้งแรก
ไม่แปลกใจทำไมศิษย์หลวงพ่อหลายๆคนถึงยกปลัดขิกหลวงพ่อให้เป็น "ผู้เคียงข้าง" ของผู้บูชา
หลวงพ่อตัดท่านเมตตาช่วยชีวิตผมอีกแล้ว...

โดยในวันนั้นเองผมได้แขวนปลัดตัวในรูปนี้ครับ
ปลัดขิกไม้ชมพู่ผูกคอตาย หลวงพ่อตัด วัดชายนา

รับเช่า ให้เช่า และยินดีให้คำปรึกษาเชิงอนุรักษ์วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนา
สามารติดต่อได้ที่ Line ID : ibaipai

 

รายการที่ 222 พระกริ่งปวโร หลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อนวะโลหะ ปี 2549 (1)

ได้รับฉายากริ่งตัดรุ้งของหลวงพ่อตัด อีกหนึ่งพระดีที่แนะนำให้เก็บไว้บูชาครับ

ชนวนพระกริ่งตามที่มีการบันทึกไว้ได้แก่

1.ชนวนพระกริ่งรุ่นแรก วัดชายนา ปี 2543

2.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อ เงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

3.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

4.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี เนื้อเงิน ทองแเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

5.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

6.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตี๋ วัดบางคณฑีใน เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

7.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออุดม วัดประทุมคณาวาส เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

8.แผ่นยันต์หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

9.แผ่นยันต์หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

และยังมีชนวนพระอีกหลายรุ่น ที่ใส่รวมเข้าไปแต่ไม่ได้จดบันทึกไว้อีกพอสมควร

ด้านล่างขององค์พระ หลวงพ่อตัดท่านบอกให้ใช้วิธีการอุดผงแทนอุดกริ่ง โดยหลวงพ่อท่านก็เป็นผู้มอบเกศาของท่าน และผงที่ท่านลบไว้ให้มาบรรจุลงก้นองค์พระกริ่งปวโรนี้ด้วย

มวลสารที่ใช้อุดก็จะมี

- ผงล็อกเก็ตรุ่นแรกหลวงพ่อตัด (ที่พระอาจารย์ทินท่านบอกว่าเป็นผงที่ดีที่สุด)
- ผงล็อกเก็ตโต๊ะหมู่หลวงพ่อตัด
- ผงวิเศษที่หลวงพ่อตัดท่านลบไว้(หลวงพ่อตัดท่านเจนจบในวิชาการลบผงเช่นกัน ไว้ทำข้อมูลแล้วจะเอามาลงให้ได้อ่านกันอีกครั้งเรื่องการลบผงของหลวงพ่อ)
- เกศาของหลวงพ่อตัด

โดยอุดพระกริ่งกันที่วัดทั้งหมด
หลังจากอุดผงเสร็จแล้วก็นำเข้าภายในห้องหลวงพ่อ ปลุกเสกอยู่เดือนกว่าๆก่อนที่จะจำหน่ายจ่ายแจก

ถือว่าพระกริ่งรุ่นนี้เป็นของวิเศษอีกหนึ่งรุ่นของหลวงพ่อตัดที่ท่านทำไว้ให้ "แทนตัวท่าน" ที่สำคัญราคาเช่าหายังไม่สูงมากนัก อยากแนะนำหากใครไม่มีวัตถุมงคลที่มั่นใจที่จะ "ฝากชีวิต" ไว้ด้วยได้ก็แนะนำอยากให้บูชาพระกริ่งปวโร ของหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ

มาพร้อมกล่องเดิมเก่าเก็บจากวัดตั้งแต่ปี 2549

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 223 พระกริ่งปวโร หลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อนวะโลหะ ปี 2549 (2)

ได้รับฉายากริ่งตัดรุ้งของหลวงพ่อตัด อีกหนึ่งพระดีที่แนะนำให้เก็บไว้บูชาครับ

ชนวนพระกริ่งตามที่มีการบันทึกไว้ได้แก่

1.ชนวนพระกริ่งรุ่นแรก วัดชายนา ปี 2543

2.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อ เงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

3.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

4.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี เนื้อเงิน ทองแเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

5.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

6.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตี๋ วัดบางคณฑีใน เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

7.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออุดม วัดประทุมคณาวาส เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น

8.แผ่นยันต์หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

9.แผ่นยันต์หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

และยังมีชนวนพระอีกหลายรุ่น ที่ใส่รวมเข้าไปแต่ไม่ได้จดบันทึกไว้อีกพอสมควร

ด้านล่างขององค์พระ หลวงพ่อตัดท่านบอกให้ใช้วิธีการอุดผงแทนอุดกริ่ง โดยหลวงพ่อท่านก็เป็นผู้มอบเกศาของท่าน และผงที่ท่านลบไว้ให้มาบรรจุลงก้นองค์พระกริ่งปวโรนี้ด้วย

มวลสารที่ใช้อุดก็จะมี

- ผงล็อกเก็ตรุ่นแรกหลวงพ่อตัด (ที่พระอาจารย์ทินท่านบอกว่าเป็นผงที่ดีที่สุด)
- ผงล็อกเก็ตโต๊ะหมู่หลวงพ่อตัด
- ผงวิเศษที่หลวงพ่อตัดท่านลบไว้(หลวงพ่อตัดท่านเจนจบในวิชาการลบผงเช่นกัน ไว้ทำข้อมูลแล้วจะเอามาลงให้ได้อ่านกันอีกครั้งเรื่องการลบผงของหลวงพ่อ)
- เกศาของหลวงพ่อตัด

โดยอุดพระกริ่งกันที่วัดทั้งหมด
หลังจากอุดผงเสร็จแล้วก็นำเข้าภายในห้องหลวงพ่อ ปลุกเสกอยู่เดือนกว่าๆก่อนที่จะจำหน่ายจ่ายแจก

ถือว่าพระกริ่งรุ่นนี้เป็นของวิเศษอีกหนึ่งรุ่นของหลวงพ่อตัดที่ท่านทำไว้ให้ "แทนตัวท่าน" ที่สำคัญราคาเช่าหายังไม่สูงมากนัก อยากแนะนำหากใครไม่มีวัตถุมงคลที่มั่นใจที่จะ "ฝากชีวิต" ไว้ด้วยได้ก็แนะนำอยากให้บูชาพระกริ่งปวโร ของหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ

มาพร้อมกล่องเดิมเก่าเก็บจากวัดตั้งแต่ปี 2549 มีมาแบ่งแค่ไม่กี่องค์ครับสำหรับพระกริ่งปวโรชุดนี้

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

จองรายการ222ครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

"เรื่องราวของจ่าชู"

จ่าชู มีอาชีพทหาร เป็นหนึ่งในศิษย์ที่หลวงพ่อตัดท่านให้ความรักและเอ็นดูมากท่านหนึ่ง ท่านเป็นที่รู้จักของกลุ่มศิษย์ทั่วไปด้วยความที่มีการพูดการจาเป็นเอกลักษณ์ เอวคาดปลัดขิกของหลวงพ่อตัดเป็นพวง เรียกได้ว่าเห็นที่ไหนก็จะจำได้

ส่วนตัวผมเองเคยได้มีโอกาสไปนั่งฟังจ่าชูเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอมา โดยจ่าชูท่านเล่าให้ฟังว่าหลายๆปีก่อน(ก่อนหลวงพ่อตัดท่านมรณะภาพ) แกได้รับคำสั่งให้ไปประจำอยู่ที่ภาคใต้ ตอนนั้นเองจ่าชูก็เรียกว่าพกของดีของหลวงพ่อตัดไปพอสมควร หนึ่งในนั้นก็มีพวงปลัดขิกที่แกมักจะคาดเอวอยู่เป็นประจำไปด้วย อยู่มาวันหนึ่งได้ออกไปเดินลาดตระเวนกับหน่วย ขณะที่กำลังเดินๆอยู่แกก็รู้สึกเหมือนปลัดขิกมันมาทิ่มเอว และมีเสียงตะโกนว่า "หมอบ"
ด้วยความที่จ่าชูคุ้นหูกับเสียงนั้นและด้วยความตกใจก็จึงหมอบลงกับพื้น
หลังจากที่หมอบลงแล้วนั้นก็ได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นเกิดขึ้นทันที มองหาที่มาก็พบว่าเสียงระเบิดนั้นใกล้กับหน่วยของแกที่กำลังลาดตระเวนอยู่มากๆ ส่วนสมาชิกในหน่วยของแกก็โดนสะเก็ดระเบิดไปหลายคน

พอเรียกกำลังเสริมนำคนเจ็บกลับมายังฐานที่มั่นแล้ว จ่าชูก็ได้ไปถามสมาชิกในหน่วยว่าก่อนที่จะมีเสียงระเบิดดังขึ้น ได้มีใครสั่งหมอบ หรือได้ยินเสียงหมอบหรือไม่ ปรากฏว่าในหน่วยก็ไม่มีใครสั่งหรือได้ยินเสียงนั้น จ่าชูม่านก็ได้กลับมานั่งนึกถึงเสียงที่คุ้นหูนั้นก็จำได้ดีว่าเจ้าของเสียงนั้นคือ "หลวงพ่อตัด ปวโร"

รูปนี้เป็นรูปที่ผมขออนุญาตจ่าชูถ่ายไว้เมื่องานไหว้ครูปี 2554 จ่าชูท่านรัก-ศรัทธาและเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่อตัด วัดชายนามากๆครับ

 

รายการที่ 224 สีผึ้งตลับแดงรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2525(1)

พกเป็นเมตตา-ทาเป็นมหาเสน่ห์ เป็นวลีที่ใช้พูดถึงสีผึ้งของหลวงพ่อตัดครับ สีผึ้งที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นสีผึ้งรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านซื้อแล้วนำมาบรรจุของวิเศษ อาทิ นางกวักเนื้อชิน ปลัดขิกปี 2525

ตลับนี้สภาพสมบูรณ์เก็บตั้งแต่ ปี 2525 ปัจจุบันหาสภาพแบบนี้ไม่ง่ายแล้วครับ ผมมีมาแบ่ง 2 ตลับ
แค่ปลัดขิกตัวเดียวก็คุ้มมากแล้ว

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 225 สีผึ้งตลับแดงรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2525 (2)

พกเป็นเมตตา-ทาเป็นมหาเสน่ห์ เป็นวลีที่ใช้พูดถึงสีผึ้งของหลวงพ่อตัดครับ สีผึ้งที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นสีผึ้งรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านซื้อแล้วนำมาบรรจุของวิเศษ อาทิ นางกวักเนื้อชิน ปลัดขิกปี 2525

ตลับนี้สภาพสมบูรณ์เก็บตั้งแต่ ปี 2525 ปัจจุบันหาสภาพแบบนี้ไม่ง่ายแล้วครับ ผมมีมาแบ่ง 2 ตลับ
แค่ปลัดขิกตัวเดียวก็คุ้มมากแล้ว

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 226 ปลัดขิกกัลปังหาดำ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 หลวงพ่อตัดจารเอง (1)

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นปลัดขิกกัลปังหาดำ
กัลปังหาดำหลวงพ่อตัดและพระอาจารย์ทินท่านได้บอกว่าเป็นยาครับ หากห้อยให้แนบเนื้อจะช่วยบรรเทาริดสีดวงได้ ซึ่งข้อนี้ศิษย์วัดชายนาหลายๆคนก็มีประสบการณ์ตรงกับตัวกัน เรียกว่าได้ทั้งพุทธคุณจากหลวงพ่อและตัวยาจากกัลปังหาดำสองเด้ง
ชุดที่นำมาแบ่งปันนี้พิเศษที่หลวงพ่อตัดลงเหล็กจารเอง ยาว 1.5 นิ้ว จำนวนสร้างไม่ถึง 100 ตัวครับ หายาก แนะนำให้เก็บไว้บูชาครับ เพราะอนาคตจะหา "ตัวจริง" ยากกว่านี้เยอะครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 227 ปลัดขิกกัลปังหาดำ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 หลวงพ่อตัดจารเอง (2)

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นปลัดขิกกัลปังหาดำ
กัลปังหาดำหลวงพ่อตัดและพระอาจารย์ทินท่านได้บอกว่าเป็นยาครับ หากห้อยให้แนบเนื้อจะช่วยบรรเทาริดสีดวงได้ ซึ่งข้อนี้ศิษย์วัดชายนาหลายๆคนก็มีประสบการณ์ตรงกับตัวกัน เรียกว่าได้ทั้งพุทธคุณจากหลวงพ่อและตัวยาจากกัลปังหาดำสองเด้ง
ชุดที่นำมาแบ่งปันนี้พิเศษที่หลวงพ่อตัดลงเหล็กจารเอง ยาว 1.5 นิ้ว จำนวนสร้างไม่ถึง 100 ตัวครับ หายาก แนะนำให้เก็บไว้บูชาครับ เพราะอนาคตจะหา "ตัวจริง" ยากกว่านี้เยอะครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม