อีกหนึ่งคำถามกับการภาวนาพุทโธ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อัฑฒเศรษฐ์, 28 เมษายน 2008.

  1. อัฑฒเศรษฐ์

    อัฑฒเศรษฐ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +21
    ปกติแล้วผมจะทำสมาธิโดยการกำหนดลมหายใจและภาวนาพุทโธนะครับ แต่คำถามของผมคือว่า เมื่อผมภาวนาไปสักพักหนึ่ง ( ถ้าสงบเร็วก็ใช้เวลาแค่ 1-2 นาทีก็เห็น )ผมจะเห็นแสงเหมือนหมอก เป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ตรงหน้า แล้วกลุ่มหมอกนี้ห่างออกไปจนหายไป หมายถึงจากตรงหน้าเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แล้วมันก็ลอยห่างออกไปจนหายไป พอกลุ่มแรกหายไป กลุ่มที่สอง สาม สี่ห้า หก ก็ตามมา เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ผมอยากทราบว่าสิ่งนี้คืออะไร ควรจะจดจ่ออยู่กับกลุ่มหมอก หรือปล่อยไปไม่ต้องไปตาม ช่วยตอบหน่อยนะครับ ขอบพระคุณอย่างยิ่ง
     
  2. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    การเห็นกลุ่มหมอกควันเบื้องหน้านั้นถ้าได้สังเกตุดี ๆเป็นกันแทบทุกคนครับ

    ส่วนตัวผมเองจะกำหนดให้เห็นก็ได้ไม่ให้เห็นก็ได้ ผมไม่ได้มีอภินิหารอะไรหรอก แต่มันเป็นอาการเห็นภาพแสงของดวงตาเราเอง แปลความหมายไม่ถูกต้องจากสมองนั่นเอง

    การทำสมาธิเป็นการเอาจิตจดจ่ออยู่จุดใดจุดหนึ่งให้แน่วแน่มั่นคง หรือเป็นการเพ่งนั่นเองแต่เราเพ่งโดยที่เราไม่ได้ลืมตา และเราก็ไม่ได้เพ่งโดยใช้ตาเนื้อที่หลับอยู่ด้วย แต่เราเอาความรู้สึกหรือสติเพ่งในตำแหน่งที่เราต้องการ

    จะเห็นได้ว่าการตามดูกลุ่มแสงสีนั้นไม่มีทางที่จิตจะนิ่งอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งได้เลย ดังนั้นควรละการตามดูเสียแล้วหาตำแหน่งฐานที่ตั้งแห่งสติให้ดี บางท่านตามดูลมหายใจอาณาปาณสติ บางท่านเอาจิตไว้ปลายจมูก บางท่านเอาจิตไว้เหนือสะดือสองนิ้ว แต่ละท่านจะชอบหรือชำนาญไม่เหมือนกันครับ
     
  3. สะพานแก้ว

    สะพานแก้ว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +47
    ดิฉันจะเห็นแต่แสงสว่างเปรียบได้สองอย่างคือ สว่างเหมือนเรามองท้องฟ้าที่ใสโปร่งไม่มีก้อนเมฆกับ ความสว่างเหมือนเราเปิิดไฟนีออน ถ้าเป็นตอนกลางคืนไฟดับมืด จะสว่างเหมือนมีคนเอาไฟโคมดวงเล็กๆมาวางไว้ข้างหน้าส่วนหมอกที่คุณมองเห็นมันจะเกิดเสมอถ้าคุณหลับตาธรรมดาโดยที่ไม่ได้นั่งสมาธิ เข้าใจว่าเป็นอาการปกติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนั่งสมาธิแต่อย่างใด ซึ่งบางครั้งจะเห็นเป็นสีต่างๆด้วยซ้ำไป อันนี้เกิดกับตัวเองค่ะ เป็นไปได้ที่แต่ละคนจะเกิดอาการไม่เหมือนกัน
     
  4. rawiphan

    rawiphan บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ปล่อยไปไม่ต้องไปตาม ส่องในทำลายเชื้ออย่างเดียวพอ
    มีให้ดูก็ดู ดูแล้วก็อย่าลืมเพ่งกายทำลายเชื้อ
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    สิ่งดังกล่าว คือ นิมิต ไม่ต้องตามนิมิตไป กำหนดลมหายใจ พร้อมกับภาวนาพุทโธ หายใจเข้าภาวนา พุท ลมหายใจออก ภาวนา โธ ก็เท่านี้เองทำกรรมฐาน
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่ต้องไปสนใจ กลับมาดูจิตว่าใจขณะนั้นเป็นอย่างไร
    ก็จะเห็นว่าสภาวะธรรมนั้นกำลังถูกรู้อยู่
    ทีนี้เมี่อพบตัวรู้แล้ว ก็ฝึกเข้าให้ชำนาญ
     
  7. อัฑฒเศรษฐ์

    อัฑฒเศรษฐ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +21
    ขอบคุณมากครับ
     
  8. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    เป็นดวงกสิณค่ะ


    เรียกว่ากสิณสีขาว
    ให้กำหนดจิตบริกรรม "โอทากสิณัง"ๆๆ
    ไปเรื่อยๆ ค่ะ เพ่งตามหมอกขาวไปเรื่อยๆ


    จนกว่าจะเห็นแสงสว่างวาบเหมือนจะแสบตา
    เป็นอันจะเปิดตาทิพย์ได้สำเร็จ
     
  9. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    อันนี้ดวงกสิณเกิดแล้วค่ะ เมื่อดวงกสิณเกิดแล้ว
    ผู้ฉลาดในฌาณจะฉวยดวงกสิณนั้นนำทางทำสมาธิทันทีค่ะ
    ส่วนผู้ขลาดเขลาจะกลัว ก็จะหนีบ้าง เลี่ยงไปทางอื่นบ้าง


    สำหรับดวงกสิณที่สว่างคือ กสิณแสงสว่าง (อาโลกสิณ)
    ให้บริกรรมว่า "อาโลกสิณัง"ๆๆๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าตาทิพย์จะเปิดค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...