ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดิ้นอีกแล้ว
    อิหร่านเตรียมนั่งประธานคณะมนตรีฯ ‘UN-Habitat’
    สหรัฐค้านหนัก ขู่ถอนตัว-ยกเลิกเงินสนับสนุน UN

    กระทรวงต่างประเทศอิหร่านเปิดเผย อิหร่านได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะมนตรีการบริหารโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (The Executive Council of the United Nations Human Settlement Program : UN-Habitat) ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐในการคัดค้านกระบวนการเลือกตั้งดังกล่าวอย่างหนักหน่วง

    ถ้อยแถลงระบุว่า ตัวแทนของสหรัฐในที่ประชุม ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อคัดค้านฉันทามติของชาติสมาชิกทั้งหมด รวมถึงการเข้าขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อกีดกันมิให้อิหร่านได้รับเลือกดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีฯ นอกจากนี้ทางการสหรัฐยังออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงถึงขั้นขู่จะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก และจะตัดเงินช่วยเหลือทั้งหมดต่อโครงการต่างๆ ของสหประชาชาติ หากอิหร่านได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีฯ

    อย่างไรก็ตาม อิหร่านได้ใช้วิถีทางการทูตและหลักความเป็นเหตุเป็นผลในการหาเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกเพื่อขึ้นดำรงประธานคณะมนตรีฯ และในขณะที่สหรัฐดิ้นรนอย่างหนักด้วยการใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มี ทั้งทางด้านการเงิน การเมือง รวมถึงการใช้กลไกองค์กร และการกดดันเลขาธิการรวมถึงชาติสมาชิกอื่นๆ นั้น แต่สิ่งดังกล่าวกลับไม่เป็นผล เพราะอิหร่านชนะเลือกตั้งในท้ายที่สุด

    โดย UN-Habitat ปฏิบัติงานภายใต้การดูแลของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีภารกิจในการส่งเสริมความยั่งยืนทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชนและเมือง เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยให้เพียงพอสำหรับมนุษย์ทุกคน

    ข่าวโลกที่ 3

    https://en.farsnews.ir/newstext.asp...Ywsm5qmt-505eXRBrMvTKoJRNuJP4hYw56e2CE80mzmuM



     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทรัมป์ ชี้ ระเบิดใหญ่เขย่ากรุงเบรุต อาจมาจากการโจมตีอันเลวร้าย

    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเกี่ยวกับเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน ว่า อาจมาจากการโจมตีอันเลวร้าย

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับสถานการณ์ระเบิดครั้งรุนแรงที่กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ว่าเขาได้หารือเรื่องดังกล่าวกับทหารระดับสูงหลายนายในกองทัพ และ "มีความเป็นไปได้" ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นผลจาก "ระเบิดบางประเภท" และ "ดูเหมือนเป็นการโจมตีอันเลวร้าย" ทั้งนี้ ทรัมป์ ยืนยันว่า รัฐบาลวอชิงตันอยู่เคียงข้างรัฐบาลและประชาชนเลบานอน และพร้อมมอบความช่วยเหลือทันทีที่ได้รับการร้องขอ อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐ ปฏิเสธที่จะขยายความเกี่ยวกับการตั้งสมมติฐานของตัวเอง ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว "ไม่ใช่อุบัติเหตุ"

    ทั้งนี้ เหตุระเบิดอย่างรุนแรง ซึ่งสร้างความเสียหายยับเยินและเป็นวงกว้างให้กับท่าเรือหลัก ที่อยู่ริมชายฝั่งกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อช่วงเย็นของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80 คน และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 4,000 คนนั้น

    ข่าวโลกที่3

    https://www.tasnimnews.com/fa/news/1399/05/15/2321343/واکنش-ترامپ-به-انفجار-بیروت

    https://www.farsnews.ir/news/13990515000051/ترامپ-به-نظر-می‌رسد-انفجارهای-بیروت-یک-حمله-وحشتناک-باشد



     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ต้นเหตุของการระเบิด

    ปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติเคยออกแถลงว่าท่าเรือกรุงเบรุตเป็นคลังเก็บอาวุธของกลุ่มติดอาวุธเฮสบอเลาะห์ แท้จริงแล้ว เป็นคลังเก็บสารเคมีที่รัฐบาลเลบานอนและเฮสบอเลาะห์ยึดได้จากเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายไอสิสที่ต่างชาติสนับสนุนต่างหาก ท่าเรือกรุงเบรุตจึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาลอิสราเอลจะทำลายมานานแล้ว

    @ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ญี่ปุ่นกุมขมับหลังพบเคสใหม่วันเดียวพุ่ง 1,200 ราย ส่วนเด็กป.2 สหรัฐฯไปโรงเรียนวันเดียวติดโควิด-19
    .
    .
    เอเจนซีส์ - ทั่วโลกติดเชื้อรวมวันนี้(5 ส.ค)อยู่ที่18,570,858 คน และ เสียชีวิต701,316คนขณะที่สหรัฐฯมีจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุด 4,771,846 และ เสียชีวิต 156,839 คน โรงเรียนในสหรัฐฯเริ่มกลับมาเปิดสอนตามชั้นเรียนปกติ
    แต่พบว่ามีเด็กนักเรียนชาวจอร์เจียป 2 ติดเชื้อโควิด-19 หลังไปโรงเรียนวันแรก ด้านญี่ปุ่นพบกับการติดเชื้อใหม่ครั้งมโหฬาร 1,240 คน ภายในแค่วันเดียว และเสียชีวิตอีก 6 ราย
    .
    CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(5 ส.ค)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงออกมายืนยันต้องการให้โรงเรียนในสหรัฐฯกลับมาเปิดเรียนตามปกติ โดยพบว่าเมื่อวานนี้(4)เขาออกมาอ้างเหตุผลที่เด็กๆสมควรต้องกลับเข้าสู่ชั้นเรียนเป็นเพราะบรรดาเด็กเหล่านี้ดูเหมือนมีภูมิคุมกันโรคโควิด-19 ไปกลาย
    .
    “หากพวกคุณดูพวกเด็กๆ พบว่าพวกเด็กๆเกือบจะผมเกือบจะบอกว่าแน่นอนอยู่แล้ว แต่เกือบจะมีภูมิคุ้มกันจากโรคนี้ ดังนั้นแค่เล็กน้อย พวกเขาจะมีความแข็งแรงมากขึ้น ยากที่จะเชื่อนะ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรในเรื่องนี้ แต่พวกเขามีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรา บางทีจากสิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่เป็นอะไร พวกเขาไม่มีปัญหาอะไร”รายงานจากแถลงการณ์ของทรัมป์
    .
    อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯชี้ว่าหลังจากที่ชั้นเรียนระดับเกรด 2 หรือเทียบเท่าประถม 2 ของไทยในโรงเรียนรัฐประจำเชอโรกี เคาน์ตี (Cherokee County) รัฐจอร์เจียกลับเข้าสู่การเปิดเทอมเป็นวันแรกในวันจันทร์(4) แต่ต้องกลับมาปิดลงทันทีในวันอังคาร(5)เพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่หลังจากมีเด็กนักเรียน 1 คนจากในชั้นมีผลการตรวจเชื้อไวรัสเป็นบวก และทำให้ครูและเด็กคนอื่นอีก 20 คนถูกสั่งให้ทำการกักกันโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อดูอาการ
    .
    สหรัฐฯมีตัวเลขเคสใหม่วันอังคาร(4)อยู่ที่57,540 คน เสียชีวิตเพิ่ม1,399 คน และมีตัวเลขการติดเชื้อรวม4,771,846 และ เสียชีวิต 156,839 คนส่วนทั่วโลกติดเชื้อรวมวันนี้(5 ส.ค)อยู่ที่ 18,570,858 คน และ เสียชีวิต 701,316 คน
    .
    ด้านญี่ปุ่นพบกับการกลับมาระบาดรอบใหม่โดยในวันอังคาร(4) ญี่ปุ่นมีเคสใหม่เพิ่ม1,240 คน ภายในแค่วันเดียว
    และเสียชีวิตอีก 6 ราย ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม42,587 คน และเสียชีวิต 1,024 คน
    .
    CNN ชี้ว่า เคสใหม่ที่เกิดขึ้นวันอังคาร(4)พบว่า 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมดมาจากกรุงโตเกียว และนี่ถือเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่กรุงโตเกียวมีเคสใหม่เพิ่มแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 200 รายส่วนเมืองสำคัญอื่นๆ เช่น โอซาก้า เห็นจำนวนเคสเพิ่มเช่นกันสร้างความวิตกให้กับนักการเมืองในพื้นที่

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โมดีทำพิธีวางศิลาฤกษ์ “วัดมหาศรีราม” เมืองอโยธยาในรอบ 28 ปีหลังมัสยิดศตวรรษที่ 16 ถูกทำลาย
    .
    .
    เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี วันนี้(5 ส.ค)เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งเพื่อเริ่มการก่อสร้างวัดฮินดูมหาศรีรามในเมืองอโยธยารัฐอุตตรประเทศ หลังจากมัสยิดบาบรีที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถูกกลุ่มผู้ประท้วงฮินดูขวาจัดเข้าบุกทำลายเมื่อ 28 ปีก่อนและทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นเหตุจลาจลครั้งใหญ่

    อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้(5 ส.ค)ว่า นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มต้นการก่อสร้างวัดฮินดูศรีมหารามตามความเชื่อว่า สถานที่นี้เคยเป็นที่ประสูติขององค์ศรีรามหนึ่งในเทพตามหลักศาสนาฮินดูและเป็นจุดเดียวกันกับที่มัสยิดมัสยิดบาบรี(Babri mosque)ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ได้ถูกทำลายลงเมื่อ 28 ปีก่อน
    .
    ภายในพิธีโมดีได้สวดต่อศิลา 9 แท่งที่มีรูปองค์ศรีรามสลักอยู่ท่ามกลางการกล่าวมนต์ตามหลักศาสนาฮินดูอันถือเป็นการเริ่มต้นการก่อสร้างวัดศรีมหารามอย่างเป็นทางการ
    .
    ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่า การก่อสร้างจะต้องใช้เวลาราว 3 ปีครึ่งถึงจะเสร็จสมบูรณ์
    .
    “ผมรู้สึกยินดีที่ได้เป็นพยานต่อประวัติศาสตร์ที่ได้สร้างขึ้น ซึ่งมีชาวอินเดียร่วมหลายล้านคนไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้ได้ ทั่วทั้งประเทศตกอยู่ในมนต์สะกดขององค์ศรีราม...ซึ่งพระองค์เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในความแตกต่างของอินเดีย”
    รายงานจากแถลงการณ์ของโมดี
    .
    ทั้งนี้พบว่าถนนหลักถูกปิดลงและมีทหารพรานจำนวนร่วม 3,000 คนทำหน้าที่คุ้มกันเมืองอโยธยาซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดก่อสร้างวัดมหาศรีรามรัฐอุตตรประเทศ และร้านค้าและธุรกิจต่างๆถูกปิดลงในวันนี้ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า มีนักบวชและตำรวจ 15 นายประจำวัดมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
    .
    นอกจากนี้พบว่าในพิธีได้มีการเชิญตัวแทนชุมชนชาวมุสลิมเข้าร่วมงานด้วย
    .
    โดยเดือนธันวาคม ปี 1992มัสยิดบาบรีที่เก่าแก่ถูกม็อบฮินดูชาตินิยมที่มีพลั่วขุดและชะแลงงัดทำลาย และทำให้เกิดการจลาจลบานปลายมีผู้เสียชีวิตถึง 2,000 คน ส่วนใหญ่พบเป็นชาวมุสลิม และศาลสูงสุดของอินเดียในเวลาต่อมาออกคำตัดสินอนุญาตให้ทำการก่อสร้างวัดฮินดูขึ้นในสถานที่แห่งนี้ได้
    .
    และในคำพิพากษาศาลสูงอินเดียยังออกคำสั่งให้จัดหาที่ดินใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำการก่อสร้างมัสยิดใหม่สื่อกาตาร์ชี้
    .
    วัดมหาศรีรามเพื่อบูชาเทพองค์ศรีรามนี้จะมีขนาดความกว้าง 72 เมตร ยาว 91.5 เมตร และสูง 49 เมตร พร้อมกับโดมทั้ง 5 ซึ่งมีพื้นที่รวมทั้งหมด7,804 เมตร ภายในวัดจะมีห้องสวดขนาดใหญ่ ห้องสำหรับการขึ้นเทศนา รวมไปถึงโรงแรมที่พักของแขกผู้มาเยือน และพิพิธภัณฑ์
    .
    อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรทั้งหมดราว 1.3 พันล้านคนและนับถือศาสนาฮินดูเป็นศาสนาหลัก มีเพียงแค่ 14% ของประชากรเท่านั้นที่นับถือศาสนาอิสลาม

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คลัง “ซุกหนี้” ค้างจ่ายโครงการประชานิยมที่ให้ "แบงก์รัฐ" ทำ - ประกันสังคมเกือบ 1 ล้านล้านบาท

    ก่อนที่รัฐบาลจะเข็นโครงการประชานิยมใหม่ๆ ออกมาอีก ก็ควรคำนึงถึงหนี้เก่าและภาระผูกพันต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการทางการคลังในอนาคตต่อไป อ่านเพิ่มเติม... https://thaipublica.org/2020/08/public-debt-29-07-2563/

    คลัง “ซุกหนี้” ค้างจ่ายแบงก์รัฐ-ประกันสังคมเกือบ 1 ล้านล้านบาท ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน
    4 สิงหาคม 2020

    สบน. คาดปี 65 หนี้สาธารณะหลุดกรอบวินัยการคลัง เผยคลังซุกหนี้ประชานิยม-ค้างจ่ายเงินสมทบประกันสังคมกว่า 9.5 ล้านล้านบาท สำนักงบฯ เตรียมตั้งงบฯ ใช้หนี้แบงก์รัฐ รวม 4 ปี 4.5 แสนล้าน

    ต่อจากตอนที่แล้ว 8 ปี รัฐบาลประยุทธ์ปลดล็อกวินัยการคลัง รับงบกลางกระฉูด 6 แสนล้าน

    8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเงินงบประมาณ (งบกลาง)ในมือมากกว่าทุกกระทรวง โดยใช้ทุกกลยุทธ์ทั้งจัดงบประมาณเพิ่มเติมกลางปี 3 ครั้ง โยกงบฯ ปกติมาเติมงบกลาง รายการสำรองจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็น 5 ครั้ง ยิ่งในปีงบประมาณ 2563 หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากรัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาทมากระตุ้นเศรษฐกิจ และเยียวยาประชาชนแล้ว ในปีนี้ยังมีการโยกงบฯ ปกติ 88,453 ล้านบาท มาใส่ไว้ในงบกลางสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ เพื่อสำรองไว้ให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีใช้จ่ายยามฉุกเฉิน แก้ปัญหาโควิดฯ และพิบัติต่างๆ

    แต่ที่น่าสนใจ ปฏิบัติการโอนงบฯ ปกติปีนี้ มีการโยกงบฯ ชำระหนี้คืนที่รัฐบาลกู้ ซึ่งปีงบประมาณ 2563 จัดงบคืนเงินต้นทั้งหมด 88,780 โดยโยกงบชำระคืนต้นเงินกู้มาจำนวน 35,303 ล้านบาทมาโปะงบกลาง คงเหลืองบฯ ชำระคืนต้นเงินกู้ 53,477 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1.7% ของวงเงินงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ขณะที่กฎหมายวินัยการเงินการคลังกำหนดให้ดำรงสัดส่วนงบฯ ชำระคืนต้นเงินกู้ขั้นต่ำที่ 2.5% ของวงเงินงบประมาณโดยรวมในปีนั้นๆ

    ส่วนงบกลาง รายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามกฎหมายกำหนดเพดานการตั้งงบฯ ประเภทนี้ได้สูงสุดไม่เกิน 3.5% ของวงเงินงบประมาณโดยรวมในแต่ละปี ปรากฏว่าการโยกงบฯ ปกติ 88,453 ล้านบาทมาใส่ไว้ในงบกลาง รายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นครั้งนี้ ทำให้สัดส่วนงบกลางต่องบประมาณโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.76% ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

    ดังนั้น ก่อนที่รัฐบาลจะส่ง พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 ให้สภาผ่านความเห็นชอบ นายกรัฐมนตรีจึงต้องมานั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ เพื่อออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ฉบับที่ 3 แก้ไขกรอบวินัยการเงินการคลัง 2 จุด คือ การขยายเพดานงบกลาง รายการสำรองจ่าย กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จาก 3.5% เพิ่มเป็น 7.5% ของวงเงินงบประมาณโดยรวมในแต่ละปี และปรับลดสัดส่วนงบฯ ชำระคืนต้นเงินกู้ขั้นต่ำจาก 2.5% ลงมาเหลือ 1.5% ของวงเงินงบประมาณ

    อย่างไรก็ตามในภาวะหรือสถาการณ์เช่นนี้ การใช้เงินเยียวยาหรือกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องทำ “ไทยพับลิก้า” นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

    COVID-19 กับปัญหาหนี้สาธารณะของไทย

    คราวนี้มาดูตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศไทย ซึ่งเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มียอดสาธารณะคงค้างอยู่ที่ 7.34 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 44% ของ GDP ที่ผ่านมาก็มีผู้อ่านทางบ้านสอบถามกันมามากว่าหนี้ก้อนนี้ได้นับรวม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทแล้วหรือยัง คำตอบก็คือกำลังทยอยเข้าไปรวมอยู่ในหนี้สาธารณะทันทีที่กระทรวงการคลังมีการกู้เงิน

    ปี’63 กู้เพิ่ม 1.49 ล้านล้านบาท

    ตามแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2563 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563) ที่ สบน. นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 คาดว่า ภายในปีงบประมาณ 2563 รัฐบาลจะมีการก่อหนี้ใหม่ หรือ “กู้เงินเพิ่ม” ทั้งสิ้น 1,497,498 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแผนงานฯ เดิม 603,493 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐบาลกู้เงิน 1,331,677 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจกู้ 163,829 ล้านบาท และหน่วยงานรัฐอื่นๆ กู้อีก 1,992 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 600,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่เหลืออีก 400,000 ล้านบาท คาดว่าจะไปกู้เงินในปีงบประมาณ 2564

    หากมีการกู้เงินจนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ในแผนก่อหนี้ใหม่ 1,497,498 ล้านบาท สบน. คาดว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 51.84% ถือว่ายังอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายวินัยการเงินการคลังที่กำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ไม่เกิน 60%

    สบน. คาดปี’65 หนี้สาธารณะหลุดกรอบวินัยการคลัง

    แต่ถ้าดูตามกราฟที่สำนักบริหารหนี้สาธารณะ นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ จะเห็นได้ว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จะเริ่มทะลุกรอบวินัยการเงินการคลัง (เกิน 60% ของ GDP) ในช่วงปีงบประมาณ 2565 โดยการคาดการณ์ครั้งนี้ ทาง สบน.ใช้ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีงบประมาณ 2563 จะติดลบ 5.3% และปีงบประมาณ 2564 กลับมาขยายตัว 3.0% ต่อปี แต่ถ้า GDP ติดลบมากกว่าที่ ธปท. ประมาณการเอาไว้ ก็จะส่งผลทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าที่กฎหมายวินัยการเงินการคลังกำหนด

    และจากการที่รัฐบาลทยอยกู้เงินเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 ถึงปีงบประมาณ 2564 แม้อัตราดอกเบี้ยในตลาดจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม แต่เนื่องจากมีการกู้เงินเป็นจำนวนมาก ย่อมส่งผลทำให้รัฐบาลมีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลมีแนวโน้มลดลงตามการหดตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดฯ ส่งผลทำให้สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าที่กฎหมายวินัยการเงินการคลังกำหนดไว้ที่ 35% โดยในปีงบประมาณ 2564 สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ในปีนี้จะอยู่ที่ 21.22% และในปีงบประมาณ 2565 จะเพิ่มเป็น 42.07% หากเป็นไปตามที่ สบน. ประมาณการไว้ คาดว่ารัฐบาลอาจจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายวินัยการเงินการคลังอีกรอบ

    นอกจากปัญหาหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว รัฐบาลมีภาระงบประมาณจากการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐในอดีต หรือที่เรียกว่า “ประชานิยม” ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และ SMEs โดยให้แบงก์รัฐสำรองจ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะตั้งงบประมาณมาชดเชยให้ในภายหลัง

    รวม 5 ปี ใช้หนี้ประชานิยมแล้ว 4 แสนล้าน ยังค้างจ่ายอีก 8 แสนล้าน

    จากข้อมูลรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2562 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะเห็นว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีภาระในการจัดหางบประมาณมาใช้ในการดำเนินนโยบายรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวม 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้แบงก์รัฐไปแล้วทั้งสิ้น 419,686 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ยังค้างจ่ายเงินชดเชยให้กับแบงก์รัฐจากการดำเนินโครงการนโยบายรัฐอีก 858,085 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 28.60% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 (3,000,000 ล้านบาท) ซึ่งตามกรอบวินัยการเงินการคลังกำหนดให้รัฐจ่ายชดเชยให้หน่วยงานของรัฐจากการดำเนินมาตรการต่างๆ ตามนโยบายรัฐ รวมกันไม่เกิน 30% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายในแต่ละปี

    ติดหนี้ ธ.ก.ส. กว่า 7 แสนล้านบาท

    สำหรับสถาบันการเงินที่รัฐบาลติดค้างจ่ายเงินชดเชยจากการดำเนินโครงการนโยบายรัฐมากที่สุด คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งสิ้น 756,152 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดค้างจ่ายเงินชดเชยโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตร 279,821 ล้านบาท และโครงการนโยบายรัฐอื่นๆ อีก 476,331 ล้านบาท ลำดับถัดไปคือบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้างจ่ายเงินชดเชย 53,695 ล้านบาท และธนาคารออมสิน 53,695 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 4,666 ล้านบาท, ธนาคารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 4,184 ล้านบาท และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ค้างจ่าย 1,106 ล้านบาท

    สำนักงบฯ เตรียมตั้งงบฯ ผ่อนหนี้แบงก์รัฐ รวม 4 ปี 4.5 แสนล้าน

    ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้จัดทำประมาณการภาระงบประมาณที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับแบงก์รัฐ จากการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐในช่วง 4 ปีข้างหน้า รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 454,643 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลจะต้องจัดสรรงบประมาณมาจ่ายชดเชยให้กับแบงก์รัฐ 95,394 ล้านบาท, ปีงบประมาณ 2565 จัดสรรงบประมาณมาจ่ายชดเชยให้กับแบงก์รัฐ 136,607 ล้านบาท, ปีงบประมาณ 2566 จัดสรรงบประมาณมาจ่ายชดเชย 119,514 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 อีก 103,128 ล้านบาท

    รวมค้างจ่ายหนี้แบงก์รัฐ-ประกันสังคม เกือบ 1 ล้านล้าน

    นอกจากนี้รัฐบาลยังค้างเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม 2533 กำหนดให้มีการจ่ายเงินสมทบ 3 ฝ่าย คือ นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกครั้งที่จ่ายค่าจ้าง ปรากฏว่ารัฐบาลไม่ได้ตั้งงบประมาณเข้าสมทบกองทุนประกันสังคมตามเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยในรายงานความเสี่ยงทางการคลังของ สศค. ระบุว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 รัฐบาลค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 96,450 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการค้างจ่ายเงินสมทบตามาตรา 33 และมาตรา 39 ประมาณ 95,572 ล้านบาท และค้างจ่ายเงินสมทบตามมาตรา 40 อีก 878 ล้านบาท หากนำมารวมกับยอดเงินชดเชยที่รัฐบาลยังไม่จ่ายให้กับแบงก์รัฐ 858,085 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562 รัฐบาลจะมีภาระงบประมาณที่ค้างจ่ายอยู่ประมาณ 954,535 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่นับรวมหนี้ของรัฐวิสาหกิจ อย่างเช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่รัฐบาลต้องรับภาระตามมติ ครม. อีก 239,893 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ยังไม่รู้เมื่อไหร่รัฐบาลจะตั้งงบประมาณมาชดเชยให้กับหน่วยงานเหล่านี้

    ดังนั้น ก่อนที่รัฐบาลจะเข็นโครงการประชานิยมใหม่ๆ ออกมา ก็ควรคำนึงถึงหนี้เก่าและภาระผูกพันต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการทางการคลังในอนาคตต่อไป

    #หนี้สาธารณะ
    #ซุกหนี้แบงก์รัฐ
    #กระทรวงการคลัง
    #Thaipublica
    #ไทยพับลิก้า

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สรุป ประเทศ เลบานอน ฉบับสมบูรณ์ /โดย ลงทุนแมน
    เลบานอน ประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
    มีชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอยู่ทางทิศตะวันตก
    ทิศเหนือและทิศตะวันออกถูกล้อมรอบด้วยประเทศซีเรีย ส่วนทางทิศใต้ติดกับประเทศอิสราเอล

    เมื่อดูจากทำเลที่ตั้งแล้ว ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่า
    ความขัดแย้ง และสงครามกลางเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน
    จะต้องส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจของประเทศนี้ไม่มากก็น้อย

    ทั้งๆ ที่เลบานอนก็ไม่ได้มีน้ำมันมากมายเหมือนประเทศอาหรับอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
    แต่รู้หรือไม่ว่า ผู้คนในประเทศนี้ มี GDP ต่อหัว มากกว่าคนไทย..

    แล้วเศรษฐกิจของเลบานอนตอนนี้ เป็นอย่างไร?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ประเทศเลบานอนมีพื้นที่เพียง 10,452 ตารางกิโลเมตร ใกล้เคียงกับจังหวัดขอนแก่น
    แต่มีประชากรกว่า 6.8 ล้านคน
    ทำให้ความหนาแน่นของประชากรในประเทศนี้สูงถึง 650 คน ต่อตารางกิโลเมตร

    ประชากรที่หนาแน่นมีส่วนมาจากความอุดมสมบูรณ์ของประเทศ
    บริเวณที่เป็นประเทศเลบานอน คือหนึ่งในบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในแถบตะวันออกกลาง
    และด้วยความที่ติดชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน
    ดินแดนนี้จึงมีผู้คนมาตั้งรกรากเป็นเมืองท่าค้าขายมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน

    ในแง่ประวัติศาสตร์ ดินแดนแถบนี้เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรฟินิเชีย ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเดินเรือและการค้าขายมาตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล
    ก่อนจะถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน

    พอมาถึงช่วงยุคกลาง ดินแดนนี้กลายมาเป็นที่ตั้งชุมชนชาวคริสต์ในสงครามครูเสด

    หลังจากนั้น ดินแดนเลบานอนก็ถูกยึดครองโดยจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งเป็นจักรวรรดิของชาวมุสลิม จนเมื่อจักรวรรดิออตโตมันล่มสลายหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศผู้ชนะสงครามอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส
    จึงได้นำดินแดนทั้งหลายมาอยู่ในอาณัติของตนเอง

    โดยฝรั่งเศสได้ดินแดนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาครอบครอง
    ต่อมาได้แบ่งออกเป็น ซีเรียทางตอนเหนือที่แห้งแล้ง และเลบานอนทางตอนใต้ที่อุดมสมบูรณ์

    ความอุดมสมบูรณ์ของเลบานอน ทำให้กรุงเบรุตเมืองหลวงกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของภูมิภาค นักธุรกิจชาวเลบานอนค้าขายเก่ง ได้พัฒนาเมืองหลวงจนกลายเป็นศูนย์กลางการเงิน

    เมื่อร่ำรวยก็นำเงินมาสร้างตึกรามบ้านช่องให้สวยงามตามอิทธิพลของฝรั่งเศส จนกรุงเบรุตได้รับฉายาว่า “ปารีสแห่งตะวันออกกลาง”

    เมื่อได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1943

    ในช่วงได้รับเอกราช เลบานอนมีสัดส่วนชาวคริสต์มากกว่าชาวมุสลิม
    จึงมีข้อตกลงแห่งชาติร่วมกันว่าประธานาธิบดีจะต้องเป็นชาวคริสต์
    แต่ต่อมา เมื่อชาวมุสลิมมีสัดส่วนมากขึ้น ก็เริ่มไม่พอใจ
    จึงมีเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีหลายต่อหลายครั้ง

    ปัจจุบัน เลบานอนเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่มีชาวคริสต์เป็นสัดส่วนสูงที่สุด
    คือราว 35% ของประชากร ในขณะที่ประชากรอีกราว 60% เป็นชาวมุสลิม

    ความขัดแย้งทางศาสนานำมาสู่สงครามกลางเมืองเลบานอน ที่กินระยะเวลากว่า 15 ปี
    ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 - ค.ศ. 1990 สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนที่สวยงามของกรุงเบรุต

    ในแง่เศรษฐกิจ
    เลบานอนเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ จึงส่งออกพืชผลได้มากมาย
    โดยเฉพาะพืชผลที่เติบโตในภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
    ทั้งองุ่น มะกอก ผลไม้ตระกูลส้ม และถั่ว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างไวน์ และน้ำมันมะกอก

    แต่พืชผลทางการเกษตรก็ไม่ใช่สินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของเลบานอน..

    สินค้าส่งออกอันดับ 1 ของเลบานอนก็คือ อัญมณีและเครื่องประดับ คิดเป็นสัดส่วน 41%
    ปี 2019 เลบานอนส่งออกสินค้าเหล่านี้คิดเป็นมูลค่ากว่า 37,000 ล้านบาท
    ทั้งๆ ที่เลบานอนไม่ได้มีแหล่งแร่ธาตุ หรืออัญมณีมากมาย

    ด้วยความที่กรุงเบรุตเป็นศูนย์กลางค้าขาย และศูนย์กลางการเงิน
    นักธุรกิจชาวเลบานอนเป็นผู้เชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศในแอฟริกา และกลุ่มประเทศอาหรับ

    การไม่มีภาษีนำเข้าสำหรับสินแร่โลหะ และอัญมณี ทำให้เลบานอนสามารถนำเข้าแร่มีค่าจากประเทศในแอฟริกาได้ในราคาถูก
    บวกกับช่างฝีมือชาวเลบานอนที่เก่ง และมีค่าแรงถูกกว่าช่างฝีมือในภูมิภาคยุโรปเกือบครึ่งหนึ่ง

    ทำให้กรุงเบรุตเป็นหนึ่งในศูนย์กลางค้าอัญมณีที่สำคัญ
    บริษัท Tabbah บริษัทเครื่องประดับสัญชาติเลบานอน เป็นผู้นำในการออกแบบเครื่องประดับ
    ที่มีลูกค้าอยู่ทั่วทุกมุมโลก

    นอกจากผลผลิตทางการเกษตร และอัญมณี
    ด้วยความที่เลบานอนเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรต่างๆ ตั้งแต่ยุคโบราณ
    เลบานอนจึงมีโบราณสถานในยุคสมัยต่างๆ มากมาย ทั้งโรงละครสมัยโรมัน โบสถ์คริสต์
    มัสยิดสมัยออตโตมัน ทั้งที่เป็นประเทศเล็กๆ แต่มีมรดกโลกทางวัฒนธรรมมากถึง 5 แห่ง

    การท่องเที่ยวจึงเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยในปี 2018 มีนักท่องเที่ยวถึง 4.7 ล้านคน
    สร้างรายได้กว่า 2.6 แสนล้านบาท

    ทั้งที่มีประชากรไม่มาก แต่เลบานอนมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ
    ทำให้ขนาดเศรษฐกิจของเลบานอนอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท
    ชาวเลบานอนมี GDP ต่อหัว 267,000 บาท
    มากกว่าคนไทยที่มี GDP ต่อหัว 237,000 บาทอยู่เล็กน้อย

    แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย
    ทำให้เศรษฐกิจของเลบานอนเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
    โดยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2012 ที่ 5.5 ล้านคน เกือบ 1 ล้านคน

    รายได้ที่ลดลงทำให้เลบานอนขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
    รายจ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นทั้งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
    และการต้องรองรับผู้อพยพชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคน
    ทำให้หนี้สาธารณะของเลบานอนพุ่งสูงถึง 155% ของ GDP

    รัฐบาลจึงต้องหารายได้เพิ่มด้วยการพยายามขึ้นภาษี ทั้งภาษีบุหรี่ ภาษีน้ำมัน และภาษีสำหรับการใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจาก Social Media เช่น WhatsApp, Facebook Messenger, FaceTime

    เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน จนนำมาสู่การประท้วงอย่างรุนแรงในปี 2019
    สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ จน GDP ของเลบานอนในปี 2019 ติดลบกว่า 5.6%

    แต่นั่นยังไม่พอ..

    ปี 2020 เศรษฐกิจของเลบานอนถูกซ้ำเติมด้วยการระบาดของโควิด-19
    เลบานอนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 5,000 คน ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักในภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิสราเอล
    ทำให้การท่องเที่ยว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก
    ซ้ำเติมเศรษฐกิจที่บอบช้ำอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงไปอีก

    นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ล่าสุดที่ไม่มีใครคาดคิด..
    เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ 2 ระลอกที่ท่าเรือกรุงเบรุตในวันที่ 4 สิงหาคม
    สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับกรุงเบรุต ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเลบานอน

    รัฐบาลได้กำหนดให้เมืองหลวงกลายเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
    และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์

    ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่
    ปี 2020 เป็นปีที่หนักหนาสำหรับทุกๆ ประเทศ
    และประเทศที่สาหัสที่สุด ก็น่าจะมีประเทศนี้อยู่ในนั้น.. เลบานอน

    ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
    #PrayForLebanon..
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -http://www.worldstopexports.com/lebanons-top-10-exports/
    -https://atlas.cid.harvard.edu/countries/124/export-basket
    -https://blog.blominvestbank.com/wp-content/uploads/2016/01/Lebanese-Jewelry-Industry-Radiant-yet-Opaque1.pdf
    -https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.KD.ZG?locations=LB

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “หยุดก่อน ฉันจะดูบอล” เมื่อการประชุม จี-8 ต้องหยุด เพราะอังเกลา แมร์เคิล อยากดูบอลแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง
    .
    ใครที่เป็นแฟนฟุตบอลคงจะรู้ดีว่านัดชิงชนะเลิศของการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถือเป็นเกมใหญ่ที่สุดเกมหนึ่งในรอบปี แน่นอนว่ามันคือเกมที่แฟนฟุตบอลไม่ว่าจะทีมใดห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
    .
    ย้อนกลับไปในปี 2012 อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ถือเป็นแฟนฟุตบอลตัวยง กลับต้องอดชมคู่ชิงปีดังกล่าว ระหว่างทีมประเทศตัวเองอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้เล่นในถิ่นอัลลิอันซ์อารีน ต้อนรับการมาเยือนของทีมอาคันตุกะจากลอนดอนอย่างเชลซี หลายคนอาจจะงงว่าระดับแมร์เคิล ทำไมถึงพลาดชมเกมดังกล่าว คำตอบก็คือวันนั้นเธอดันติดประชุมผู้นำจี-8 อยู่นั่นเอง
    .
    ช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2012 สถานการณ์ปัญหาในประเทศซีเรียทวีความตึงเครียดขึ้นทุกที นั่นจึงทำให้เหล่าผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 8 ชาติ หรือ จี-8 ต้องมาถกกันถึงปัญหาต่าง ๆ ที่แคมป์เดวิด รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งการประชุมนี้มีขึ้นวันและเวลาเดียวกันกับนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกพอดิบพอดี ทำให้แมร์เคิลที่ชอบตามเชียร์ทีมจากเยอรมนีต้องอดเชียร์ทีมเสือใต้ไปโดยปริยาย
    .
    แต่...เพราะความอยากดูจัดของเธอ สุดท้ายนายกฯ หญิงเหล็กก็ได้ดูสมใจอยาก เพราะหลังจากการประชุมเริ่มไปหลายชั่วโมง แมร์เคิลที่คอยแอบดูสกอร์การแข่งขันในไอแพดของตัวเองตลอด ก็เห็นว่าเกมคู่ดังกล่าวเพิ่งแข่งจบ 120 นาที และดูเหมือนว่าต้องมาชิงดำกันถึงการดวลจุดโทษ ทันใดนั้นเองเธอก็ตัดสินใจหันไปบอก บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะนั้นว่า “ฉันขอพักไปดูบอลก่อน”
    .
    โอบามาในฐานะเจ้าภาพก็ไม่รอช้า สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเตรียมทีวีและเปิดเกมคู่ดังกล่าวในห้องรับรองด้านนอกเพื่อให้แมร์เคิลออกไปดูบอล หลังจากนั้นโอบามาก็หันไปถาม เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ว่า “แล้วคุณไม่สนใจออกไปเชียร์ทีมบ้านเกิดตัวเองบ้างเหรอ” ซึ่งนายกฯ อังกฤษก็ตอบกลับมาว่า “โหย ไม่เอาอะ ดูไปทำไม เราไม่ชนะหรอก”
    .
    สาเหตุที่คาเมรอนตอบกลับไปแบบนั้น เพราะเขาเคยอกหักจากการเชียร์ทีมชาติอังกฤษแข่งกับเยอรมนีในศึกฟุตบอลโลก 2010 ระหว่างกำลังประชุมจี-20 ที่แคนาดา ซึ่งเกมนั้นจบลงที่ทีมสิงโตคำรามโดนถล่มไป 4-1
    .
    ขณะที่ผู้นำส่วนใหญ่กำลังลุ้นช่วงการดวลจุดโทษอย่างออกรสชาติ คาเมรอนที่ได้ยินเสียงกรี๊ดสุดลุ้นของแมร์เคิล สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวเดินออกไปร่วมเชียร์ทีมจากบ้านเกิดตัวเองบ้าง
    .
    งานนี้เหล่าผู้นำจี-8 หลายคนลุกขึ้นเชียร์ด้วยความลุ้นสุด ๆ นำทีมโดย แมร์เคิล, คาเมรอน, ฟรองซัวส์ โอลลองด์ (ประธานาธิบดีฝรั่งเศส) เจ้าภาพอย่างโอบามา รวมไปถึง ดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ที่แอบเชียร์เชลซี เพราะเจ้าตัวสนิทสนมกับ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมสิงโตน้ำเงินคราม
    .
    มีการรายงานว่าในจังหวะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางของทีมเสือใต้พลาดจุดโทษ แมร์เคิลถึงขั้นอุทานด้วยภาษาบ้านเกิดว่า "scheisse" หรือแปลว่า “ฉิบหาย” เลยทีเดียว ก่อนที่จังหวะต่อมา ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าของเชลซีจะสังหารจุดโทษปิดกล่องเข้าไป
    .
    ขอ recap เกมในวันนั้นสักเล็กน้อย โธมัส มุลเลอร์ โหม่งทำประตูให้ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียขึ้นนำไปก่อน 0-1 ก่อนที่ดร็อกบาจะโหม่งตีเสมอในเวลาต่อมา เกมวันนั้น เชลซีร่อแร่จะแพ้สุด ๆ เพราะช่วงต่อเวลาพิเศษ ดร็อกบาคนเดิมดันไปแซะขา ฟรองก์ ริเบรี่ จนทำให้ทีมเสียจุดโทษ แต่เดชะบุญที่ อาร์เยน ร็อบเบน ดันยิงทีมเก่าไม่เข้า จบ 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 และทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนเป็นเชลซีที่แม่นกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไปครองเป็นสมัยแรก
    .
    “มันน่าตื่นเต้นมาก มันคือสิทธิพิเศษเลยนะที่ได้ลุ้นระหว่างช่วงยิงจุดโทษกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แล้วสุดท้ายชนะด้วย” คาเมรอนให้สัมภาษณ์แอบขิงเล็กน้อย
    .
    หลังจบเกม แมร์เคิลแสดงความเป็นผู้แพ้ที่ดี เธอกับคาเมรอนสวมกอดกันเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปประชุมเครียดต่อโดยที่ไม่มีใครได้ดูพิธีการรับถ้วยหลังจากนั้น แม้คาเมรอนจะเป็นแฟนเดนตายของทีมแอสตัน วิลล่า แต่งานนี้ชัยชนะเหนือทีมจากเยอรมนีกลายเป็นความสุขเล็ก ๆ ของเขาตลอดช่วงการประชุมที่เหลือ
    .
    “มันเป็นช่วงเวลาที่เป็นมิตรมากเลย เรามีกอดกันแป๊บ ๆ หลังจากนั้นด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษอย่างมากในการดูช่วงจุดโทษระหว่างทีมจากอังกฤษกับเยอรมนี และผลลัพธ์ก็ออกมาด้วยชัยชนะ” คาเมรอนเล่า
    .
    นอกจากไฮไลต์เหตุการณ์พักการประชุมมาเชียร์บอลแล้ว หลังจากนั้นคำพูดที่คาเมรอนคุยกับแมร์เคิลเกี่ยวกับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี ก็กลายเป็นประเด็นร้อนในเวลาต่อมาด้วย
    .
    แมร์เคิลถามคาเมรอนว่า “จอห์น เทอร์รี่ ไม่ได้ลงเหรอ?” ซึ่งนายกฯ อังกฤษตอบว่า “ดีแล้วแหละ” ด้วยความสงสัย แมร์เคิลจึงถามกลับอีกว่า “อ่าว คุณไม่ชอบเขาเหรอ?” ซึ่งคาเมรอนก็ทิ้งท้ายว่า “เขา (เทอร์รี่) เคยพูดอะไรไม่ดีไว้”
    .
    หลายคนมองว่าเหตุผลที่คาเมรอนพูดถึงเทอร์รี่แบบนั้น เพราะไม่เห็นด้วยกับการที่เทอร์รี่ พูดเหยียดผิวใส่ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ เมื่อเดือนตุลาคนปี 2011
    .
    เรื่อง: วิทวัส ปัญญาเลิศวุฒิ

    อ่าน ““หยุดก่อน ฉันจะดูบอล” เมื่อการประชุม จี-8 ต้องหยุด เพราะอังเกลา แมร์เคิล อยากดูบอลแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง” เวอร์ชั่นเว็บไซต์ได้ที่ลิ้งก์นี้: https://thepeople.co/sports-david-cameron-angela-merkel-champions-league-final/

    ที่มา:

    https://www.theguardian.com/world/2012/may/20/champions-league-final-g8-leaders



    #ThePeople #Sports #Football #G8 #อังเกลาแมร์เคิล #เยอรมนี



     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลายๆท่านที่ติดตามข่าวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
    คงจะได้เห็นข่าวการระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือในกรุงเบรุต
    เมืองหลวงของประเทศเลบานอนกันแล้ว ทั้งภาพความ
    เสียหายต่างๆ รวมไปถึงคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    จะเห็นได้ว่าการระเบิดนั้นมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก
    จนเกิดความเสียหายในพื้นที่แถบนั้นเป็นวงกว้าง
    .
    แต่ระเบิดที่รุนแรงนั้น เชื่อไหมครับว่าบนโลกใบนี้
    มนุษย์ยังเคยสร้าง “โคตรระเบิด” ที่รุนแรงกว่า
    ระเบิดเมื่อคืนนี้ถึง 200,000 เท่า !! ระเบิดลูกนี้
    มีนามว่า “Tsar Bomba” นั่นเอง
    .
    Tsar Bomba หรือ ซาร์ บอมบา คือระเบิดไฮโดรเจน
    ที่ถูกสร้างขึ้นและทดสอบโดยสหภาพโซเวียตในช่วง
    สงครามเย็น เมื่อปี 1961 เป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาด
    ใหญ่ที่สุด และมีพลังทำลายล้างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคย
    มีการสร้างมา จัดว่าเป็น “อาวุธที่มีพลังทำลายล้าง
    มากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ”
    .
    พลังทำลายล้างของ Tsar Bomba คิดเป็น 1,400 เท่า
    ของระเบิด Little Boy และ Fat Man ที่ถูกนำไปทิ้ง
    ที่เมือง Hiroshima และเมือง Nagasaki ประเทศญี่ปุ่น
    ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมกัน
    .
    Tsar Bomba เป็นอาวุธนิวเคลียร์แบบความร้อน
    มีการทำงานเป็น 3 ขั้นตอนแบบ Teller–Ulam คือ
    ขั้นแรกเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิซชันทำให้เกิดแรงอัด
    จากนั้นจึงเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ให้ความร้อน
    และใช้พลังงานจากการระเบิดนำพาความร้อนให้มี
    ประสิทธิภาพในการทำลายล้างมากยิ่งขึ้น
    .
    เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปี 1961 เวลา 11.32 น.
    Tsar Bomba ได้ถูกทำการทดสอบที่เกาะ
    “Novaya Zemlya” ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือ
    ของสแกนดิเนเวีย โดยระเบิดทำให้เกิดลูกไฟขนาด
    เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 กิโลเมตรในอากาศ สามารถ
    มองเห็นและรู้สึกถึงคลื่นความร้อนได้ที่ระยะ
    1,000 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางการระเบิด มีรัศมี
    การทำลายในระยะ 100 กิโลเมตรจากศูนย์กลาง
    โดยทุกอย่างในรัศมี 40 กิโลเมตรได้ระเหยกลายเป็น
    ไอทั้งหมด เมื่อก๊าซที่เกิดขึ้นปะทะกับเมฆ ทำให้เกิด
    เมฆรูปเห็ดมีความสูงประมาณ 64 กิโลเมตร ความกว้าง
    ของฐานเมฆประมาณ 40 กิโลเมตร การระเบิดนี้ทำให้
    หมู่บ้านในละแวกนั้นถูกทำลายทั้งหมด อีกทั้งการระเบิด
    ยังได้ส่งแรงอัดมหาศาลสู่ห้วงอวกาศ ทำให้การสื่อสาร
    ทางวิทยุเป็นอัมพาตไปกว่า 1 ชั่วโมง
    .
    เดิมทีระเบิดลูกนี้จะมีขนาดเทียบเท่ากับการระเบิดทีเอ็นที
    (TNT) 100 เมกะตัน ต่อมาได้ลดขนาดของระเบิดเหลือ
    50 เมกะตัน เพื่อให้สามารถบรรทุกด้วยเครื่องบินได้
    ซึ่งระเบิด 50 เมกะตัน ก็คือ TNT กว่า 50,000,000 ตัน
    แต่เหตุระเบิดที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เกิดจาก
    แอมโมเนียมไนเตรท 2,000 กว่าตัน ซึ่งในส่วนนี้เอง
    นักวิชาการได้มีการคำนวณแรงระเบิดว่า น่าจะเทียบเท่า
    กับระเบิด TNT ประมาณ 240 ตัน นั่นเท่ากับว่าระเบิด
    Tsar Bomba มีความรุนแรงมากกว่าระเบิดที่กรุงเบรุต
    ถึง 208,333 เท่านั่นเอง
    .
    ข้อมูลที่น่าสนใจ : ปัจจุบันประเทศรัสเซียคือประเทศ
    ที่มีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลกกว่า 6,370 ลูก
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจ
    จากเพจ Thailand State กด Like เพจ
    และตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : https://www.atomicheritage.org/history/tsar-bomba
    .
    https://allthatsinteresting.com/tsar-bomba
    .
    https://en.m.wikipedia.org/wiki/Tsar_Bomba
    .
    https://fas.org/issues/nuclear-weapons/status-world-nuclear-forces/
    .
    #ThailandState #ThailandCaseStudy

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เป็นกำลังใจและแสดงความเสียใจกับเลบานอน
    .
    ตึก burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลกซึ่งอยู่ที่ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ขึ้นภาพไฟบนตึกเป็นรูปธงของเลบานอน เพื่อให้กำลังใจและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเบรุตประเทศเลบานอนซึ่งมีเหตุระเบิดและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 78 คนและบาดเจ็บกว่า 4000 คน
    โดยบนธงของเลบานอนจะมีต้นไม้ปรากฏอยู่ต้นไม้ที่ว่าเป็นต้นสนซีดาร์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ถูกตื่นถึงในคัมภีร์ไบเบิล ว่าเป็นต้นไม้ของเลบานอน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลับฝันดีนะครับ
     
  12. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    Tsar boom ทางปฏิบัติเเล้วใช้เป็นอาวุธไม่ได้ เพราะ ขนาดใหญ่มากจนเครื่องบินที่บรรทุกไปนั้นต้องใหญ่มากเเละบินต่ำ บินช้าด้วย ไปไม่ถึงประเทศที่จะใช้เป็นเป้าหรอก โดนยิงล่วงก่อน
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #PrayforLebanon
    (5 ส.ค.) - ด้านซ้ายของภาพคือศูนย์กลางการระเบิดที่บริเวณคลังสินค้า ท่าเรือในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน โดยแรงระเบิดทำให้คลังสินค้าขนาดใหญ่ กลายเป็นหลุมลึกขนาดกว้างกว่าสนามฟุตบอล กับอาคารฝั่งขวาที่ถูกแรงอัดเกิดเป็นเนินดิน กองสูงเกือบครึ่งหนึ่งของอาคาร ขณะที่คลังสินค้าอื่น ๆ บริเวณนั้น แทบไม่เหลือแม้ซากโครงฯ (ภาพ Hussein Malla/Associated Press)

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #สูตรคูณฉบับทรัมพ์ๆกับอัตราการตายด้วยCovidของคนมะกัน
    #นักข่าวถามเดือด_ท่านไปอ่านตำราเล่มไหน?

    ยังคงสร้างความพิศวงได้อย่างต่อเนื่อง กับท่านเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ของเรา ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Covid-19 ที่แกยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า สหรัฐควบคุมโรคระบาดได้แล้ว ผู้ติดเชื้อลด อัตราตายต่ำ จำนวนการตรวจเชื้อดีเยี่ยม เราคือที่ 1 ของโลก และจะประกาศชัยชนะในไม่ช้า

    ด้วยเหตุนี้ โจนาธาน สวอน ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังชาวออสเตรเลียช่อง Axios เลยขอคิวพิเศษสัมภาษณ์ท่านเสี่ยทรัมพ์หน่อยว่า ท่านไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน

    ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า รายการนี้ไม่ได้เป็นรายการสด แต่ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ในช่วงที่กำลังมีการประท้วงของกลุ่ม Black Lives Matter เป็นการสัมภาษณ์แบบ Exclusive สุดๆ ความยาว 14 นาที แต่ปรากฏว่าเทปสัมภาษณ์ไม่ได้ออกอากาศสักที ที่หลายๆคนก็ถามไถ่ว่าทำไม??

    เมื่อวานนี้ ทาง HBO ได้เอาเทปสัมภาษณ์นั้นมาออกแล้ว ก็สร้างความมึนตึ๊บไปทั่วสารทิศ ทั้งข้อมูลสถิติ ตัวเลข ที่เล่นเอานักข่าวของโจนาธาน สวอน แทบสติแตกกลางรายการ

    วันนี้เลยขอแชร์ บางช่วง บางตอนของบทสัมภาษณ์สุดหรรษา มาให้อ่านกัน พร้อมแคปชั่นว่า อ่านเพื่อความบันเทิง เพราะท่านเสี่ยก็คุยแต่เรื่องเดิมๆ หาสาระเพิ่มเติมไม่ได้

    เมื่อนักข่าว โจนาธาน สวอนถามทรัมพ์ว่า
    ท่านครับ คนอเมริกันกำลังจะตายเพราะ Covid-19 ถึงวันละ 1,000 คนเลยนะครับ ท่านมีความเห็นอย่างไร

    ทรัมพ์ตอบกลับมาทันควันว่า

    "They are dying. That's true. And it is what it is. But that doesn't mean we aren't doing everything we can. It's under control, as much as you can control it. This is a horrible plague that beset us."

    "คนอเมริกันกำลังจะตาย ใช่ครับ มันช่วยไม่ได้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ทำอะไรนะครับ เราควบคุมมันได้เท่าที่เราสามารถทำได้แล้ว นี้เป็นโรคระบาดร้ายแรงระดับโลกนะครับ"

    นักข่าวก็ยังจี้ถามต่อว่า ถ้าทำสุดความสามารถแล้ว ทำไมสถานการณ์แย่ลง?

    และสิ่งที่ทรัมพ์ตอบ ก็ทำให้นักข่าว งงยิ่งกว่าเดิม

    Trump: "คุณรู้ไหม มีคนบอกว่ายิ่งตรวจมาก เราก็จะยิ่งเจอเคสมาก มันเป็นแบบนี้เพราะเราตรวจเยอะเกินไป คุณไม่เห็นเหรอ”

    Swan: "ใครบอกครับท่าน?”

    Trump: “ก็ แค่อ่านเอาจากในคู่มือ อ่านจากในตำราไง"

    Swan: “คู่มือ? คู่มือเล่มไหนครับ?”

    Trump: “ก็ในหนังสือไง คุณก็อ่านเอาสิ”

    Swan: "หนังสือเล่มไหนครับเนี่ย?”

    Trump: “สิ่งที่ผลตรวจแสดงน่ะ-”

    Swan: “ขอโทษครับท่าน อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง ใครเป็นคนพูดครับ-”

    แต่ท่านเสี่ยไม่ยอมให้นักข่าวถามแล้ว แกดริฟท์ยาวไป ว่าเราตรวจเชื้อเยอะ หลายสิบล้านคนแล้ว เราไม่ปกปิดตัวเลขเหมือนที่จีนหรอกนะ และตอนนี้เราคุมได้เพราะเราตรวจเชื้อเยอะที่สุดในโลก มากกว่ายุโรปเสียอีก แล้วอัตราการเสียชีวิตของสหรัฐก็ยังต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย คุณไม่เห็นตัวเลขหรือไง

    ถึงจุดนี้ นักข่าวไม่ทนอีกต่อไป ก็เลยถามท่านเสี่ยไปตรงๆว่า ท่านไปเอาตัวเลขมาจากไหนครับ ตอนนี้สหรัฐมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก วิกฤติมากกว่าที่เกาหลีใต้ หรือ เยอรมัน ถ้าเทียบกับจำนวนประชากร ดูอย่างเกาหลีใต้สิครับ ประชากร 51 ล้าน มีผู้เสียชีวิตแค่ 300 ที่เยอรมันก็แค่ 9000

    ท่านเสี่ยก็มองหน้านักข่าวด้วยความงง เหมือนกำลังคุยกันคนละเรื่อง แล้วก็เอ็ดว่า "คุณจะเอาไปเทียบอย่างนั้นไม่ได้ ต้องดูเป็นรายเคสสิ ถ้าดูตัวเลขรายเคสกับจำนวนคนเสียชีวิต ของเราต่ำที่สุดในโลกเลยนะ"

    แล้วนักข่าวก็ขอดูข้อมูลในมือทรัมพ์หน่อย ด้วยความ "อิหยังวะ?" เหล่แล้ว เหล่อีก ว่าทรัมพ์ไปเอาตัวเลขมาจากไหน

    นอกเหนือจากตัวเลขที่แกมีอยู่ในมือ คือความมั่นใจว่า แกคิดคำนวนถูกต้องแล้ว

    จริงๆแล้ว สหรัฐมีอัตราการเสียชีวิตจาก Covid-19 ต่ำที่สุดในโลกอย่างที่ท่านเสี่ยเคลม จริงหรือเปล่า?

    หากยึดจากมุมมองของทรัมพ์เป็นหลัก คือประเมินสัดส่วนจากจำนวนเคส กับผู้เสียชีวิต ทางมหาวิทยาลัย Johns Hopskin ก็มีสรุปตัวเลขมาให้ดูทุกประเทศเลยว่า แต่ละประเทศมีเรทการเสียชีวิตจาก Covid-19 เป็นเท่าไหร่

    ตัวเลขปัจจุบันของสหรัฐ มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4,700,000 คน เสียชีวิตไป 156,800 คน จะคิดเป็น 3.3%

    หากเทียบกับประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก ตอนนี้คือ เยเมน 28.7% มีผู้เสียชีวิต 506 คน รองลงมาคืออังกฤษ 15.1% มีผู้เสียชีวิต 46,295 คน

    ท่านเสี่ยคงตบเข่าฉาด! นั่นไง ที่อยากจะบอก เราดีกว่าเขาตั้งเยอะ

    แต่ไม่ใช่ดีที่สุดในโลกแน่ๆ เมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ 2.1% ผู้เสียชีวิต 302 คน หรือประเทศไทย 1.7% ผู้เสียชีวิต 58 คน หรือน้อยกว่านั้นอีกที่สิงคโปร์แค่ 0.1% ผู้เสียชีวิต 27 คน

    แล้วท่านเสี่ยก็ไม่ควรลืมว่า ถึงแม้โดยรวมจะทางยุโรปจะมีอัตราการเสียชีวิตด้วย Covid-19 สูงกว่าสหรัฐมาก เฉลี่ยถึง 9% แต่เขาก็ควบคุมการระบาดได้แล้ว มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันแค่หลักร้อยคน เมื่อเทียบกับสหรัฐ ที่ยังพุ่งเกิน 40,000 คนต่อวันอยู่เลย

    และตัวเลขผู้เสียชีวิตของสหรัฐ ก็เกือบเท่ากับ 25% ของจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจาก Covid-19 ทั้งโลกเลยนะค้า

    ไม่ว่าจะมองมุมไหน สถานการณ์ในสหรัฐก็ดูไม่ดีอยู่ดีหล่ะค่า ทีมรัฐบาลก็กลัวท่านเสี่ยจะเสียใจ เลยส่งตัวเลขที่พอจะดูดีไปให้ แกเลยยึดไว้เป็นสรณะ โชว์ใครต่อใคร ปล่อยไก่ให้ทั่วไปหมด แถมความมั่นใจสูงลิ่วอีกต่างหาก

    มิน่า ใครต่อใครถึงอยากดูเทปสัมภาษณ์นี้ มันบันเทิงอย่างนี้นี่เองค่า

    คลิปสัมภาษณ์ตัวเต็ม


    แหล่งข้อมูล

    https://www.news.com.au/entertainme...s/news-story/cfb56dcb88bd369af2c7268bc64a1c40

    https://en.yna.co.kr/view/AEN20200805000200325?section=national/diplomacy

    https://www.cbsnews.com/news/trump-covid-19-thousands-dying-daily-is-what-is/

    https://www.factcheck.org/2020/08/trumps-misleading-covid-19-comparisons-to-other-countries/

    https://www.mediaite.com/tv/who-say...-heated-back-and-forth-over-covid-19-testing/

    https://globalnews.ca/news/7251242/trump-beirut-explosion/

    https://www.worldometers.info/coronavirus/?utm_campaign=homeAdvegas1?

    https://coronavirus.jhu.edu/data/mortality

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Aug 6, 2020 เหงื่อตก-ใจสั่น-มีทองจะขายอีกมั้ย? ทองคำโลกพุ่งชน 2,048 ดอลล์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ พุ่ง 34% ตั้งแต่ต้นปีนี้

    ตลาดทองคำนิวยอร์ก สหรัฐ รายงานว่า ราคาทองคำส่งมอบล่วงหน้ามีราคาพุ่งทะยานขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 2,055.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของโลก ก่อนที่จะปิดที่ระดับ 2,048.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ พุ่งแรงถึง 27.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.4%

    สอดรับกับราคาทองคำส่งมอบทันที มีราคาพุ่งขึ้นแตะสูงสุดระหว่างวันที่ 2,055.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก่อนที่จะลงมาปิดที่ระดับ 2,037.81 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.8% ทำสถิติราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของโลก หลังจากที่เมื่อวันอังคารในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 2,033 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

    สาเหตุจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงอย่างมาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขาย ร่วงอ่อนค่าต่อเนื่องในรอบกว่า 2 ปี ความคาดหวังการเจรจาร่างกฎหมายเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง พร้อมยืนยันกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขยายเวลาเข้าซื้อตราสารหนี้และอัดฉีดสินเชื่อในระบบธุรกิจสหรัฐถึงสิ้นปีนี้ และสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่พุ่งสูงต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ ราคาทองคำโลกทะยานขึ้น 34% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงคืนที่ผ่านมา และมีส่วนต่างราคาทะยานกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

    #ทองคำ #เยาวราช #btimes

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 85 รายวานนี้ในฮ่องกง

    เมื่อวานนี้ (5 ส.ค. 20) ได้มีรายงานมีผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งหมด 85 ราย โดยมี 82 รายที่เป็นเคสติดเพิ่มจากในฮ่องกง รวมยอดสะสมทั้งหมด 3,755 ราย

    กลุ่มผู้ติดเชื้อเคสในฮ่องกงนั้นมี 49 รายที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ส่วนอีก 33 รายยังไม่ทราบแหล่งต้นตอ และมีอีกราว 70 รายที่ตวจพบว่ามีเชื้อบวก ซึ่งต้องรอการยืนยันและแถลงอีกครั้งวันต่อไป

    ทั้งนี้มีรายงายผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายวานนี้ เป็นชายอายุ86 ปี ที่เพิ่งตรวจเชื้อเบื้องต้นและพบว่าเป็นบวก ยอดสะสมผู้เสียชีวิตรวมเป็น 43 ราย

    ทั้งนี้มีผู้ที่รักษาหายแล้ว 2,314 ราย

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


    Source :https://www.thestandard.com.hk/brea...-HK-daily-virus-cases-for-third-straight-day?, https://www.coronavirus.gov.hk/eng/index.html

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พลานุภาพแห่งศาลและกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องมาล้อเล่นและดูถูกกันได้
    .
    ความขลังแบบนี้ปรากฏอยู่ในซีรี่ย์อมตะเรื่อง “เปาบุ้นจิ้น” ที่ผู้ชมชาวไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
    .
    หลายคนคงสงสัยมานานในจังหวะที่ท่านเปาขึ้นนั่งบัลลังก์เตรียมว่าความ บรรดาเจ้าหน้าที่ร้องเสียงทุ้ม ๆ ว่าอะไร?
    .
    威武 wēi wǔ (เวย-อู่ / เวย-หวู่) คือคำนั้นที่เราได้ยิน แต่ไม่ค่อยชัด
    .
    威 wēi (เวย) แปลว่า “พลังอำนาจ”
    武 wǔ (อู่) แปลว่า “กำลัง” หรือที่เราคุ้นเคยกับสำเนียงแต้จิ๋วคำว่า “บู๊” นั่นเอง
    .
    จีนโบราณใช้คำนี้เปิดศาลเพื่อย้ำเตือนสติทุกคนในศาล จะต้องเคารพยำเกรงพลานุภาพแห่งศาลและผู้พิพากษา
    .
    จะมาล้อเล่นลามปามมิได้เป็นอันขาด
    .
    ศาลไคเฟิงร้อง “เวยยยยย....หวู่....”
    .
    แล้วศาลอื่นร้องแบบไหน ใครมีประสบการณ์ Comment มาเล่าให้กันฟังบ้างนะครับ #ไทยคำจีนคำ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บทเรียนจากญี่ปุ่น ทหารสหรัฐในโอกินาวา
    ฝ่าโควิดติดเชื้อเกือบ 300 นาย
    .
    ฐานทัพสหรัฐในโอกินาวาเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ลามไปถึงชาวบ้านทั่วไปจนผู้ว่าการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน รัฐบาลญี่ปุ่นน้ำท่วมปาก ไม่รู้ผู้ติดเชื้อถูกซุกไว้อีกเท่าไหร่
    .
    ขณะที่ทหารอเมริกันกว่า 100 นายจากทั้งเกาะกวมและฐานทัพในญี่ปุ่น เดินทางมาซ้อมรบในประเทศไทยตลอดเดือนสิงหาคม สร้างความกังวลว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อสูงมาก และยังเคยมีตัวอย่างจากทหารสหรัฐในฐานทัพที่เกาะโอกินาวา ที่เฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐอย่างเอิกเกริก และใช้อภิสิทธิ์เดินทางในญี่ปุ่น จนเกิดติดเชื้อในวงกว้าง
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/japan/detail/9630000079906
    #บทเรียน #ทหารสหรัฐ #ฐานทัพสหรัฐ #โอกินาวา #แพร่ระบาดโควิด-19 #รัฐบาลญี่ปุ่น #ประกาศภาวะฉุกเฉิน


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    • ก่อนหน้านี้ iGreen นำเสนอเรื่องการละลายของธารน้ำแข็งมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ขั้วโลกที่สาม" คือธารน้ำแข็งในที่ราบสูงทิเบตซึ่งเป็นต้นแม่น้ำสำคัญของเอเชีย เช่น แม่น้ำแยงซีเกียง พรหมบุตร และแม่น้ำโขง การละลายของขั้วโลกที่สามทำให้แม่น้ำเหล่านี้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างฉับพลันและทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ในระยะยาวธารน้ำแข็งจะละลายจนหมดและจะกลายเป็นสงครามการแย่งน้ำ

    • ในตอนนี้พื้นที่ทิเบต-หิมาลัยมีการละลายของธารน้ำแข็งอย่างรวดเร็วทำให้ประเทศที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาหิมาลัยกำลังเสี่ยงอย่างมากกับการเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และหนึ่งในประเทศที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงนั้นก็คือ "ภูฏาน" ที่หลายคนยกให้เป็นดินแดนที่สวยงามเหมือนสรวงสวรรค์แห่งหนึ่งของโลก

    • ภูฏานกำลังตื่นตัวกับปัญหาโลกร้อนเพราะฤดูร้อนของที่นี้ร้อนขึ้นและหิมะลดลงส่งผลต่อปริมาณน้ำแข็งโดยตรง และเมื่อปี 2562 อุณหภูมิตามธารน้ำแข็งทั่วประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    • ธารน้ำแข็งบางแห่งหดตัวลงถึง 35 เมตรต่อปีทำให้มีปริมาณน้ำมหาศาลไหลเข้าสู่มทะเลสาบบนภูเขาแล้วทะลักออกมากลายเป็นมวลน้ำท่วมสู่พื้นที่ตอนล่าง ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า "การระเบิดของธารน้ำแข็ง" หรือ GLOF

    • ปรากฎการณ์นี้ทำให้ทั้งประเทศภูฏานตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกน้ำไหลบ่าพร้อมๆ กัน เพราะตอนเหนือของภูฏานทั้งแถบคือเทือกเขาหิมาลัยที่สูงเสียดฟ้าและสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตอนเหนือแล้วค่อยๆ ลาดลงต่ำเป็นที่ราบทางตอนใต้ โดยมีแม่น้ำสายสั้นๆ ที่ไหลเร็ว ถ้าเกิดน้ำไหลบ่ามันจะถาโถมลงมาอย่างรวดเร็ว

    • Karma Drupchu ผู้อำนวยการแห่งชาติของศูนย์อุทกวิทยาและอุตุนิยมวิทยาของประเทศภูฏาน (NCHM) บอกกับสำนักข่าว CNA ว่าภาวะโลกร้อนส่งผลให้ธารน้ำแข็งละลายและแหล่งน้ำของภูฏานไหลเร็วขึ้นจนพวกเขาเรียกมันว่า "สึนามิจากฟากฟ้า" และเป็นสึนามิที่สามารถขึ้นเกิดได้ทุกเวลา

    • จากการวิเคราะห์โดย NCHM พบว่า ภูฏานมีธารน้ำแข็ง 700 แห่ง มีทะเลสาบที่รับน้ำจากธารน้ำแข็ง 2,674 แห่ง ซึ่ง 17 แห่งจัดอยู่ในประเภทที่อาจเป็นอันตราย

    • หากเกิดสึนามาจากฟากฟ้าจะเป็นหายนะใหญ่หลวงเพราะ 70% ของชุมชนในภูฏานตั้งถิ่นฐานตามที่ราบหุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน สิ่งที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล แหล่งเพาะปลูกจะถูกทำลาย ป่าไม้จะถูกถอนรากถอนโคน สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์จะเสียหายย่อยยับ

    • เบื้องต้นเท่าที่พวกเขาได้คือส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำการในทะเลสาบที่เสี่ยงต่อการไหลทะลักเพื่อตรวจดูว่าขอบทะเลสาบจะล้นออกมาเมื่อไรเพื่อที่จะมีเวลาเตือนให้ชุมชนตอนล่างอพยพได้ทันการณ์ภายในเวลา 30 นาที แต่ทะเลสาบบางแห่งก็เข้าถึงไม่ได้

    • สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เพราะภูฏานเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบ (carbon negative) ซึ่งหมายความว่าประเทศนี้ไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนเลยและในรัฐธรรมนูญยังกำหนดมาตราปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่กลับเป็นประเทศที่ต้องรับเคราะห์จากภาวะโลกร้อนแบบทันตาเห็น

    เรียบเรียงจาก
    • Jack Board. "‘A tsunami in the sky’: Climate change is melting Bhutan’s glaciers and the danger is real". CNA. (03 Aug 2020).

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลายประเทศนอกจากต้องรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด ยังต้องรับมือกับภัยพิบัติ พายุ น้ำท่วม ฝนฟ้าคะนอง ซ้ำเติมความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ตอนกลางของประเทศ หรือพายุซินลากู ที่กำลังพัดถล่มในไทยและใกล้เคียง แต่เพื่อให้เข้าใจที่มาที่ไปของพายุรุนแรงให้มากขึ้น เราจะไปติดตามจากวิดีโอกราฟฟิกเรื่องนี้


     

แชร์หน้านี้

Loading...