ร่วมทำบุญบูชา ชุดลองพิมพ์ปัดเสนียดพระธนบดีเปิดคลังพ่อเศรษฐี(ยอดขุนคลังกายสิทธิ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    หลายคนที่ถามหารายการหลักร้อยเอาไว้ช่วงเดือนที่ผ่านมา เดี๋ยวมาติดตามกันรอบพรุ่งนี้นะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ชีวิตแบบไหน..ที่ปัญหาเยอะ เย็นนี้ติดตามกันดรๆนะครับ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    "มีเรื่องใหญ่" ...ก็เอาขึ้นแขวนคอ

    จะเป็นอะไรพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสามเพชร(หลบ,หลีก,ลี้)สละปลดวางภาระปัญหา

    "มีเรื่องใหญ่" ...ก็เอาขึ้นแขวนคอ
    ตะกรุดสามเพชรเป็นตะกรุดชนิดพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยนำออกมาให้ใครใช้หรือแม้แต่จะใช้เองท่านยังคิดแล้วคิดอีก ด้วยมีอานุภาพเป็นลูกโดดให้คุณถึงสามทางพร้อมกัน ทั้งท่านถือคติว่าปัญหาต่างๆในชีวิตคนนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาปัญญาให้ชัดแจ้ง ที่ผ่านมาท่านจึงไม่ได้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาเลยเพราะกลัวว่าชีวิตที่ราบรื่นมากเกินไปจะไม่เหลืออะไรให้คนได้ขัดเกลาปัญญานั้น...แต่ทุกวันนี้ภาพรวมของสังคมและสิ่งรอบตัวเปลี่ยนจากเดิมไปทั้งหมด ปัญหาสะสมในชีวิตของแต่ละคนก็มากมายท่านจึงอนุญาติให้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาใช้งาน

    ตะกรุดสามเพชรนั้นใช้กันเรื่อง..กันปัญหาเข้าตัว ที่ท่านเรียกว่าสามเพชรเพราะว่ามีอานุภาพสามประการคือ
    - เป็นเพชรหลบ ใช้เลี่ยงปัญหาต่างๆบรรดามีที่จะถาโถมเข้ามาในชีวิตให้พ้นตัว ไม่ให้ถูกต้องกายจะเรื่องเลวร้ายรึเหตุอันไม่ปรารถนาทั้งหลาย ท่านว่าดุจตัวเราแอบอยู่หลุดรอดสายตาหากันเท่าไหร่ย่อมหาไม่เจอคลาดกันเสมอดังนี้
    - เป็นเพชรหลีก ใช้หลีกปัญหาให้พ้นทางชีวิตดุจได้รับการขยับหรือเคลื่อนย้ายสิ่งอันไม่พึงประสงค์ออกไปจากการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหลายจะไม่อยู่ในหนทางที่เราจะก้าวเดินแบบนี้เช่นนี้จึงเรียกว่าเพชรหลีก..แต่เป็นตัวที่ใช้หลีกปัญหานะ
    - เป็นเพชรลี้ ดุจว่าชีวิตเราเกิดเส้นทางคู่ขนานที่ดำเนินไปแล้วจะไม่ย้อนกลับมาเจอปัญหาซ้ำๆเดิมๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเราซ่อนตัวไว้ในหนทางใหม่ไม่มีวันบรรจบกับชะตากรรมแบบที่เคยเจออีก
    ด้วยปัญหานั้นย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราขัดข้องเกิดความแคลงใจ
    เป็นอุปสรรคที่ต้องรีบแก้ไขให้ทันท่วงทีเพื่อจะหลีกเลี่ยงให้พ้นเภทภัย ...ตะกรุดสามเพชรนี้ท่านว่ามันเป็นอย่างนี้พอห้อยแล้วเราไม่วางมันมันก็วางเราหมด เรียกว่าปลดภาระและปัญหาอันหนักบ่าทั้งหลายไม่มีที่ให้เหลือให้ยึดไว้ได้อีกเลย เช่นนี้แต่เดิมท่านจึงไม่ค่อยออกให้ใครด้วยเกรงว่าหนทางชีวิตที่ลื่นไหลไปได้ง่ายมากไปจะทำให้คนขาดสติ พ่ออาจารย์ท่านว่า ***จะไม่ดีได้อย่างไรนี่เป็นวิชาแรกที่ครูบรมพรหมท่านสอนฉันเชียวนะ

    ด้วยชีวิตประจำวันทุกคนย่อมต้องพบกับปัญหาต่างๆมากมายตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน,การงาน,การเงิน..หรือแม้แต่บางครั้งกินข้าวยังกลืนไม่ลงหายใจบางคนยังติดขัดแต่ละคนมีปัญหาชีวิตสะสมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งมีปัญหาแตกต่างกันออกไปและทุกคนก็มีวิธีจัดการหรือรับมือกับเรื่องของตัวเองตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของแต่ละคน ด้วยมุ่งหวังผลลัพธ์คือการแก้ไขให้ได้ไวที่สุดแต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหาชีวิตใช่ว่าจะแก้ได้ง่าย..ใช่ว่าจะแก้ได้หมดไม่มีสะสมเป็นเงาดำมืดตามติดชีวิตแต่ละคน ด้วยบางคนก็แก้ผิดทางใช้ผิดวิธีหรือที่อันตรายกว่านั้นก็สะสมไว้เป็นดินพอกหางหมูหลายเงื่อนปมจนแก้ไม่ได้คิดไม่ตก พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นใจเหล่าคนที่ลองผิดลองถูกกันทั้งชีวิตเพื่อจะใช้ความสามารถของตนเองขจัดปัญหาและเภทภัยทั้งหลายที่ก่อตัวขึ้น ทั้งๆที่ใช้หมดกำลังความคิดก็ยังไม่ได้หลุดพ้นจากวังวนเก่าๆด้วยปัญญาความสามารถนั้นไม่ตอบโจทย์กับปัญหาชีวิตที่สะสมพอกพูน พ่ออาจารย์ท่านเห็นใจคนที่หนีไม้พ้นวัฏสงสารเหล่านี้ท่านจึงให้นำตะกรุดสามเพชรนั้นออกมา ท่านว่าตะกรุดสามเพชรนี้เมื่อ"มีเรื่องใหญ่" ...ก็เอาขึ้นแขวนคอ ปัญหาที่สะสมมาตลอดทางเดินชีวิตจะหลุดลุ่ยคลี่คลายของมันไปเอง

    ตะกรุดสามเพชรนี้จะทำงานสอดคล้องเพื่อสนองความต้องการของเราในสถานการณ์ที่เกิดปัญหาต่างๆตามแต่ละทักษะและความเข้าใจของแต่ละคน ไม่ใช่ว่าคนทำอาชีพนี้ใช้ได้คนทำอาชีพอีกแบบใช้ไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงอาราธนาไว้เมื่อตกอยู่ในวังวนของความเดือดร้อนก็จะหลบหลีกลี้ได้ทุกสิ่ง กล่าวโดยง่ายว่าสามวิชานี้เมื่อรวมกันแล้วจะขจัดสภาวะความไม่สมดุลออกจากชีวิตไป ทั้งยังปรับให้ตัวเรากลืนเข้าหาธรรมชาติหรือเข้าสู่สภาวะสมดุลตามที่เราคาดหวังหรือตั้งสัจอธิษฐานเอาไว้กับครูบาอาจารย์ที่รักษาตะกรุด ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยหรือเรื่องใหญ่ๆขอให้เป็นปัญหาที่อาจเปลี่ยนแปลงอาจพลิกชีวิตของเราให้จ่อมจมลงได้นั้นความยากในการแก้ไขจะระงับไป ด้วยพ่ออาจารย์ท่านมักพูดย้ำว่าชีวิตคนเรานั้นย่อมมีหลายทางเดินหลายตัวเลือก บางทีเลือกผิดเรื่องเดียวกันคนละคนกันแก้คนละวิธีคิดยิ่งแก้ก็ยิ่งทำให้มันยากขึ้นๆไปเรื่อยๆเช่นนี้ท่านจึงได้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาให้สั่งจองกันในยุคที่แต่ละคนมีปัญหาสะสมมากมาย

    ด้วยพ่ออาจารย์ท่านทราบว่าวัฏจักรชีวิตคนนั้นคือบทเรียน เมื่อเป็นบทเรียนย่อมต้องมีบททดสอบไม่ใช่น้อยรออยู่ตามกรรมในอดีตที่ทำไว้ เช่นนั้นเรื่องปวดหัวไอ้ตัวปัญหาความวิบัติที่จะดึงชีวิตต่ำลงนี้ ย่อมเป็นของคู่ตัวที่ต้องเจอกันไปตลอดจนกว่าจะตาย บางคนก็มีวิธีเลี่ยงคือหลบมันหลบจากภาระด้วยการใช้ความบันเทิงต่างๆทำให้ลืมมันไปชั่วครั้งชั่วคราวแต่แท้จริงแล้วปัญหาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่เพราะไม่ได้รับการแก้ไข พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตัวนี้ของฉันไม่ใช่ทำไว้ให้คนหนีปัญหานะ เพราะถ้าทำแบบนั้นปัญหามันสะสมมันเป็นการเดินออกมาจากสิ่งที่ตัวเองไม่ปรารถนาแล้วสุขภาพจิตของเธอก็จะตกด้วยเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าใช้ความสามารถแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ยิ่งเธอหนีเธอก็ต้องเจอไปตลอดชีวิตเพราะเธอได้ยอมแพ้มันไปแล้ว ะกรุดฉันให้เอาไว้สู้กับปัญหาเฉพาะคนที่มีใจสู้เท่านั้นเภทภัยทั้งหลายจะกลายเป็นมงคล อัปมงคลนั้นจะหลบเลี่ยงหลีกลี้กลับไป

    ตะกรุดสามเพชรท่านทำให้สอดคล้องกับสภาวะโลกอย่างแท้จริง ด้วยเรื่องราวมากมายที่เราต้องแบกไว้ในทุกๆวันล้วนแต่เป็นเรื่องทางโลก ตะกรุดสามเพชรจึงช่วยผ่อนคลายบรรเทาผ่อนปรนในภาระทางโลกของเราด้วยแรงครูท่านสงเคราะห์ แต่ก็อย่าได้ลำพองใจด้วยวัฏจักรนั้นยิ่งใหญ่เมื่อมีโอกาสแต่เพียงน้อยก็ให้คว้าไว้และเร่งทำชีวิตตนให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดไอ้ประเภทรอเรื่องร้ายๆมาชนแล้วหายไปมันก็หายจริงแต่ชีวิตเธอก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะอยู่เท่าเดิมเช่นนี้ นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากนะชีวิตที่หลีกเลี่ยงเรื่องเดือดร้อนได้ เมื่อลี้หนีได้แบบนี้ที่จะเอาดีในชีวิตมันก็ไม่ยากเลยเพราะโอกาสมันเปิดรอเราตักตวงหมดแล้วขอแค่อย่ากลัวอย่าหนีปัญหาย่อมมีครูบาอาจารย์ให้พึ่งให้ยึดเกาะเสมอไป ที่ผ่านมานั้นสถานการณ์จะเลือกเรา นับแต่นี้ไปก็ให้ตัวเราได้เลือกสถานการณ์ทั้งหลายบ้าง อะไรที่ไม่ควรอยู่ไม่ควรข้องติดก็เอาตัวเองออกมา เรียกว่าสิ่งที่ไม่ควรเกี่ยวข้องไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตก็อย่าไปยุ่ง พ่ออาจารย์ท่านยกตะกรุดสามเพชรไว้ว่าเป็นของสูงสำหรับใช้ทางดำเนินชีวิตโดยตรง เพราะชีวิตของคนปกตินั้นมีกรรมมากปัญหามันก็มาจากกรรมทั้งนั้นและมันก็จะคิดดอกเบี้ยคือผลกระทบที่รุนแรงบานปลายมากขึ้นในตัวของมันเอง จะพูดง่ายๆว่าตะกรุดสามเพชรนี้ย่อมใช้หลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมก็ไม่ผิด ไม่ต้องรอให้กรรมคิดดอกเบี้ยงอกเงยขึ้นมาชีวิตใครที่เจอมาแบบนี้ท่านว่าต่อไปไม่มีขอแค่ใช้ชีวิตให้เป็นก็เอาตัวรอดได้แล้ว

    ### ทุกดอกท่านอุดด้วยน้ำมันสังคโลกของเก่าที่จับตัวจนแข็งเป็นก้อนสีผึ้ง(รายการนี้ต้องย้อนกระทู้กันนานมากถ้าใครอยากอ่านเคยมีลงไว้..ย้ำว่าเป้นของโบราณที่พ่ออาจารย์ท่านหวงมากไม่ใช่ของหุงใหม่) ท่านว่าตะกรุดนี้เอาแช่น้ำมันขอคุณพระท่านสงเคราะห์เอาน้ำมันมาตักกินหรือจุณเจิมได้ทั้งหมดเลยเพราะมีก้อนขี้ผึ้งนี่อยู่ทุกดอก เป็นขี้ผึ้งที่ตกตะกอนของน้ำมันสังคโลกโบราณ...แช่กินไปเถอะรักษาได้ทุกอย่างแก้ได้ทุกโรคแม้แต่โรคเวรโรคกรรมสุดแล้วแต่จะอธิฐาน ***ขี้ผึ้งชุดนี้ท่านหวงมากเพราะเป็นต้นตำรับของน้ำมันสังคโลกที่ท่านเน้นย้ำว่ามีกำลังมาก มีแรงครูสูงกว่าน้ำมันที่หุงชั้นหลังอย่างเทียบกันไม่ได้


    *** ตะกรุดสามเพชรนี้พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งรายละเอียดคร่าวๆก่อน ท่านว่าไม่เสียชื่อปฐมวิชาที่ครูบรมพรหมท่านสอนฉันแน่นอน ใครไม่เอาก็ช่างเขาเพราะฉันทำแค่ครั้งเดียวพลาดแล้วก็คือพลาดไปทั้งชีวิต(รายละเอียดทั้งหมดจะเอามาลงหลังเปิดจองหรือยอดเต็มแล้วอีกที)

    รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ลงรายละเอียดคร่าวๆเอาเฉพาะคนที่มีวาสนาจะได้พ้นจากปัญหาชีวิตได้จองได้ใช้ ท่านว่าจะให้จองเท่าที่มีคนรู้ค่าเท่านั้นเพราะองค์สหัมบดีท่านสั่งมาเช่นนี้ ท่านว่ามันเป็นวิชาที่เกินเรื่องสำหรับมนุษย์มากเกินไป..เดี๋ยวจะสบายจนไม่รู้จักความทุกข์ ### ตะกรุดรุ่นนี้เป็นครั้งแรกเลยที่พ่ออาจารย์ท่านบอกสั้นว่า "เชื่อใจฉันเถอะ" คนที่ไม่เชื่อย่อมไม่คู่ควร(เดี๋ยวรอรายละเอียดฉบับเต็มๆแล้วจะรู้ว่าท่านอยากให้เอาไปใช้กันจริงๆ เพราะรุ่นนี้แม้จะขายดอกละสี่พันคนยังแย่งกันเลย ...เเค่มวลสารในตะกรุดก็เกินคุ้มมากครับ)

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสามเพชร(หลบ,หลีก,ลี้)สละปลดวางภาระปัญหา บูชา 900 บาท


    116886848-910551886110989-3279614723758921585-n.jpg
    116880003-720047055513334-956360388853671711-n.jpg
    116873215-298482188152375-5357506670783189465-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2020
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    เป็นครั้งแรกเลยในการออกเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเพิ่งไปลงรายละเอียดทั้งหมด "จะได้คัดคนของเรา พวกไม่เชื่อใจฉันก็ไม่ต้องเอาไปใช้" รับรองได้ว่าถ้าลงรายละเอียดทั้งหมดใครไม่จองหรือรีรอของหมดมีบ่นเสียดายกันแน่ๆ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้ติดตามรายละเอียดตะกรุดสามเพชรต่อนะครับ ชุดนี้ใครไม่ทันรับรองหมดไม่มีทำเพิ่มเเน่นอน
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็ลงข้อมูลให้แล้ว ตะกรุดดอกนี้ท่านอุดด้วยยอดมวลสารชนิดหัวเชื้อที่มีแรงครูสูงมาก ดอกเดียวนี้ท่านว่าเอาไว้แช่น้ำมันงาตักกินได้ทั้งชีวิตอานุภาพไม่ต่างกันเลย *** ยิ่งกินยิ่งดีใครทำใครได้ขอคุณพระท่านสงเคราะห์เอาดีทั้งนั้น
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ED 2400 1380 2 TH

    พี่วีระพัฒน์ ED 2400 1381 6 TH

    พี่ลัทธพล ED 2400 1382 0 TH

    พี่กีรติศักดิ์ ED 2400 1383 3 TH

    พี่ครรชิต ED 2400 1384 7 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ED 2400 1385 5 TH

    พี่วิชัย ED 2400 1386 4 TH

    พี่ภิญโญ ED 2400 1387 8 TH

    พี่วิศณุกร ED 2400 1388 1 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 2400 1389 5 TH

    พี่วุฒิชัย ED 2400 1390 4 TH

    พี่ธีรนนท์ ED 2400 1391 8 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ปัญญา 3 ประการ

    "สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา"

    ปัญญา นั้นหมายถึง ความฉลาด รอบรู้ ความเข้าใจชัดในสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นความรู้ทั่วถึงเหตุผล รู้อย่างชัดเจนในบาปบุญคุณโทษ รู้วิชา รู้จักกาลเทศะ

    ผู้มีปัญญานั้นไม่จำเป็นว่าจะเป็นว่าจะเป็นคนรวยหน้าตาดีฐานะดีจบการศึกษาสูงจึงจะมี IQ (สติปัญญา) สูง แต่คนธรรมดาอย่างท่านทั้งหลายหรือคนที่จบป.4ก็สามารถเป็นผู้มีปัญญา ซึ่งฉลาด ทั้งในด้าน IQ และความฉลาดทางอารมณ์ EQ ได้เช่นเดียวกัน

    ผู้มีปัญญานั้นจะประกอบการพัฒนาปัญญา 3 ประการ ซึ่งนำไปสู่การเป็นผู้มีปัญญาสูงสุดได้

    1. สุตมยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการได้ฟัง ได้อ่าน ได้เรียนรู้เรื่องราวจากผู้อื่น ซึ่งเป็นความรู้ที่นำมากำหนดแนวคิดของเราเอง และนำไปใช้ในการทำงานการใช้ชีวิต เป็นการสร้างปัญญาชั้นแรกของมนุษย์

    สุตมยปัญญาไม่อาจทำให้เราหลุดพ้นได้ เพราะเป็นปัญญาที่เกิดจากความเชื่อที่ได้ยินมาหรือสอนต่อกันมา จนกลายเป็นความเชื่อโดยไม่สนใจวาเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ จนกลายเป็นการหลงงมงาย

    2. จินตมยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจาการเอาสุตมยปัญญาที่ได้เรียนรู้ มาพิจารณาดูว่ามีเหตุผลควรเชื่อถือได้หรือไม่ และสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับตนเอง หรือนำไปสู่ทางพ้นทุกข์ได้หรือไม่

    3. ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นปัญญาที่แท้จริงเป็นการต่อยอดจากสุตมยปัญญาและจิตมยปัญญา จึงจะเป็นไปในรูปแบบของการ รู้ - คิด - ทำ

    ภาวนามยปัญญาในทางธรรมเพื่อการหลุดพ้นนั้นจะเกิดจากการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานและการ วิปัสสนา ส่วนภาวนายปัญญาในทางโลกก็คือการลงมือทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเชี่ยวชาญ จนแตกฉานในสิ่งนั้นๆ

    ในการพัฒนาปัญญาของคุณเองนั้น คุณต้องใช้ปัญญาทั้ง 3 ประการนี้ด้วยกัน

    - เพราะถ้ามีแต่ "สุตมยปัญญา" นั้นท้ายทีสุดแล้วจะเป็นผู้หลงในความรู้เท่านั้น
    - เพราะถ้ามีแต่ "จิตมยปัญญา" กับ "สุตมยปัญญา" นั้นท้ายที่สุดแล้วจะเป็นผู้ยึดติดในอัตตา ว่าตัวนี้เป็นผู้มีปัญญามาพอแล้ว


    ดังนั้นในการพัฒนาปัญญาแล้วท่านต้องพัฒนาจิตไปพร้อมกันด้วยจึงจะเป็นการพัฒนาที่มนุษย์ทุกชนชั้นทุกชาติศาสนาสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งการพัฒนาเช่นนี้จะทำให้เกิดความฉลาดทางอารมณ์และความฉลาดจากการรู้แจ้งเห็นจริงของธรรมชาติจากภายในดวงจิตของตัวคุณเอง

    34e2bfdbbcfd8b9281d8eae20d585203.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันนี้เดี๋ยวจัดส่งของให้แล้วมาติดตามพูดคุยกันนะเรื่องเครื่องรางประหลาดที่ว่านั้นประหลาดอย่างไร
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่งEMS

    พี่ทวีพงษ์ ED 2400 1669 8 TH

    พี่สุรวุฒิ ED 2400 1670 7 TH

    พี่พรหมพล ED 2400 1671 5 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันเรื่อง"ตรากลับชาติ"นะครับ รับรองว่าเป็นเครื่องมงคลที่ใช้งานค่อนข้างแปลกทีเดียว
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามกันดีๆนะกับ "เหรียญพระเวทย์กลับชาติลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต" รายการนี้ใครพลาดพ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนคนเสียโอกาสไปเลย ติดตามกันดีๆ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองพรุ่งนี้เช้าพร้อมกัน จะรับยอดไม่นานนะครับเพราะของมีน้อย
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเวทย์กลับชาติลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต (กังหันแปลงฟ้าดิน)

    ศาสตร์กลับชาติชะตา...ดั่งชีวิตลิขิตด้วยปาฎิหาริย์
    พ่ออาจารย์ท่านได้สถาปนา"ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต" ซึ่งเป็นวิชาการสร้างตุ๊กตาทองสมัยดึกดำบรรพ์ขึ้นมาตามคำสั่งครูบรมพรหมสหัมบดี ด้วยเป็นวิชาสำคัญที่ทำขึ้นได้ยากกว่าการทำกุมารทองทั้งหลายจึงยากยิ่งกว่าที่จะหาคนสร้างได้สำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่าจะทำวิชาตามที่องค์บรมพรหมท่านกำหนดเพื่อให้ผู้ปรารถนาที่พึ่งได้พึ่งพิงชะตาของลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต องค์บรมพรหมท่านกำหนดให้สร้างในฤกษ์มหาเศรษฐีทั้งยังได้ประกาศนามเชิญบารมีแห่งมหาเศรษฐีผู้อริยะบุคคลครั้งพุทธกาลสู่ตุ๊กตาทองอีกคำรบหนึ่ง

    ศาสตร์กลับชาติชะตา.. # เป็นตุ๊กตาทองที่ใช้เปลี่ยนชีวิตคน เปลี่ยนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ไปด้วยเสน่ห์เมตตาแก่ฝูงชน ทั้งโชคลาภเงินทองให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย จะอยู่ดีกระเดื่องเกียรติยศระบือไปได้ไกลกว่าทุกชนชั้นแลทุกตระกูลบนแผ่นดิน...เพื่อให้คนที่เกิดมาในชะตาอาภัพทำอะไรปราศจากหนทางรุ่งเรืองนั้นได้เจริญก้าวหน้าไปด้วยโชคลาภวาสนาเงินทองต่างๆบรรดามี *** หากแต่ไม่ใช่ดีขึ้นด้วยวาสนาที่ติดขัดในชาตินี้ของตนเอง ด้วยว่าจะได้ใช้วาสนาในลูกกรอปาฏิหาริย์หรือพ่อตุ๊กตาทองนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์การทำตุ๊กตาทองนี่เหนือกว่าวิชาทำกุมารทั่วไปและจะทำให้เป็นสาธารณะก็ไม่ได้เพราะเบื้องบนท่านกำชับให้ปกปิดไว้หนักหนา ด้วยขึ้นชื่อว่าเป็นศาสตร์กลับชาติชะตา(ไม่ใช่ตุ๊กตาผีสิง) พ่ออาจารย์ท่านเคยทำสงเคราะห์คนมาแล้วตามโองการบรมพรหมที่เจาะจงเป็นรายบุคคลเมื่อต้องการจะโปรดใคร...ย้อนไปยี่สิบแปดปีก่อนตามีเคยเป็นขอทานอยู่ที่ตลาดหัวรอ พ่ออาจารย์ท่านว่าตามีเขาเป็นคนดีองค์บรมพรหมท่านจึงต้องการให้แกมีสมชื่อจึงอนุญาติให้พ่ออาจารย์ท่านใช้ศาสตร์กลับชาติชะตาทำตุ๊กตาทองให้ตามีได้พึ่งบารมี...เช่นนั้นกาลเวลาผ่านไปจากขอทานยาจกจึงพลิกชีวิตฝืนชะตากรรมแห่งภพชาติกลายเป็นเศรษฐีคหบดี..จากคนเร่ร่อนไร้ที่อยู่กลายเป็นคนมีเคหะสถานได้ช่วยเหลือผู้คนได้สร้างศาสนสถานให้ความอุปถัมภ์แก่ภิกษุสามเณรเป็นอันมากทั้งชีวิตของตามีนั้นท่านใช้แค่ตุ๊กตาทองกลับชาติชะตา(หรือที่เรียกว่าลูกกรอปาฏิหาริย์)ของพ่ออาจารย์เท่านั้น

    ### วิชาสำคัญอันถูกปกปิดนี้มีต้นกำเนิดมาแต่ครั้งพุทธกาล เป็นเรื่องของคนที่แสนจะธรรมดาผู้หนึ่งที่จะได้ถึงวาสนาเป็นมหาเศรษฐีโดยไม่ต้องพึ่งชะตาตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นคนมีฐานะเขาก็นั่งเกวียนส่วนคนจรก็เดินเท้ากันไป เมื่อคนที่แสนจะธรรมดาผู้นี้ต้องการเดินทางไปต่างเมืองจึงต้องเดินเท้าเช่นกัน ขณะนั้นด้วยเหตุบังเอิญเมื่อราตรีกาลมาเยือนดวงดาราสาดแสงผิดสามัญปกติจนชายผู้นั้นจับสังเกตุได้กอปรกับระหว่างทางได้เจอกับขบวนมหาพราหมณ์ผู้มีความรู้ทางดาราศาสตร์จึงได้สอบถามเกี่ยวกับดาวบนฟ้าที่สุกสว่างกระจ่างตาผิดปกติดวงนั้นว่าปรากฏกาณ์บนฟ้าเช่นนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่ มหาพราหมณ์จึงได้ทัศนาดวงดาวและทำนายความเบื้องหลังแสงสุกใสนั้นบอกแก่ชายคนจรว่า "ในเวลาบัดเดี๋ยวนี้กำลังจะมีเทพเจ้าเบื้องบนลงมาเกิด ทารกผู้นี้มีบุญญาธิการมากเมื่อเกิดมาชีวิตเขาจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นถึงขั้นมหาเศรษฐีปรากฏแก่ตาโลก ด้วยบารมีของเขาดังนี้จะได้ค้ำชูพระศาสนาต่อไป" เมื่อชายคนจรทราบความเบื้องหลังดวงดารากำลังจะจุติมาเช่นนั้นจึงเที่ยวเสาะหาทารกที่มีลักษณะตรงตามที่มหาพราหมณ์นั้นได้บอกกล่าวจึงไปเจอเข้ากับเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งไว้ ชายคนจรจึงนำทารกมาเลี้ยงดูเป็นบุตรของตน พ่ออาจารย์ท่านว่านับแต่นั้นวาสนาการถึงซึ่งชะตาพญามหาเศรษฐีของทารกก็ได้ตกแก่ชายคนจรที่ไม่มีฐานะและวาสนาใดๆในชะตาเลย ทำให้ชายคนนั้นได้ร่ำรวยรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีของพระราชาที่ทุกเมืองทุกมหานครให้การยอมรับ และเมื่อกุมารผู้นั้นจำเริญวัยขึ้นก็เจริญในลาภโภคสมบัติสืบต่อจากบิดาบุญธรรมเป็นอันมากทั้งสองจึงได้ช่วยกันบำรุงพระศาสนาสืบมา

    เช่นนั้น
    ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิตศาสตร์กลับชาติชะตาจึงเป็นยอดกุมารที่สร้างได้ยากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำให้สำเร็จได้นั้นต้องรู้เวลาเกิดของทารกในตำนานผู้นั้น ซึ่งองค์บรมพรหมท่านต้องบอกต้องให้ฤกษ์ทุกสิ่ง(ให้เกิดมาแบบฟ้าประทาน) ทั้งต้องเชิญดวงจิตแห่งมหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์แบ่งภาคเคลื่อนลงเป็นดวงจิตแห่งองค์กุมารนั้น ผู้ที่ได้ทารกตุ๊กตาทองนี้ไปบำรุงรักษาก็จะได้พึ่งวาสนาบารมีของเขาให้ชีวิตเจริญขึ้นถึงขั้นยอดคนเป็นมหาคหบดีมีทรัพย์สมบัติมากมายนับไม่ได้ แต่นี้ต่อไปจะจำเริญด้วยทรัพย์สมบัติตักไม่พร่องไม่รู้หมดดั่งได้สมบัติจักรพรรดิมีขุนคลังแก้วเป็นบริวาร จะได้เสวยสุขสมบัติไม่ต้องเจอกับความยากลำบากใดๆเลย(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าส่วนสำคัญที่สุดมีอย่างเดียว...นั่นคือชีวิตเปลี่ยนแล้วอย่าลืมคุณมหากุมาร อย่าลืมอุปถัมภ์พระศาสนาภิกษุสามเณรตามเจตนาแห่งองค์มหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญรุ่นนี้ครูพรหมให้ฉันทำกันเหนียวเอาไว้อีกหลายชั้น เพราะท่านเทียบเชิญอริยะบุคคลมหาเศรษฐีพุทธกาลอันมีนามกระเดื่องแดนดินทั้งหมดทั้งสิ้นมาแบ่งกำลังจุติบารมีสู่มหากุมารนี้ให้พร้อมสรรพ เช่นนี้ตุ๊กตาทองขุนคลังแก้วจึงเป็นมหากกว่าขุนคลังใดๆเพราะหนึ่งคือจิตมหาโพธิสัตว์ที่พร้อมจะโอบอุ้มผู้เป็นนาย สองคือบารมีขุนคลังผู้เป็นอริยะครั้งพุทธกาลทั้งหมดจึงประเสริฐกว่าขุนคลังจักรพรรดิยุคใดๆ

    หมดยุคแล้วที่จะหนีชะตากรรมตนเอง
    หลายๆคนนั้นยอมรับวาสนาชะตาตนเองไม่ได้ที่เกิดมาเอาดีได้แค่นี้...ไปไกลไม่ได้มากกว่านี้ คนที่หนีและปฏิเสธชะตาตนเหล่านั้น พ่อาจารย์ท่านว่าเขาไม่ได้แก้ไขอะไรเลยเพียงแต่ยืดเวลาให้ตนเองทรมานกับชะตาชีวิตไปเรื่อยๆและจะไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้ เช่นนั้นในเมื่อพึ่งวาสนาตนเอาดีไม่ได้ก็ให้ใช้วาสนาแห่งตุ๊กตาลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต ...ต่อไปชีวิตจะได้มีความสุข กุมารฉันนั้นเค้าถือคติว่า "ขอได้สารพัด ใครดีมาเขาดีตอบ..ใครร้ายมาเขายันกลับเหยียบไว้ใต้ตีน" ด้วยกำเนิดจากจิตมหาโพธิสัตว์จึงเป็นยอดกว่าทุกสรรพวิชาในวัฏจักรอันไม่มีใครเทียบและเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านชุมนุมอัครมหาเศรษฐีพุทธกาลมาเป่ามนต์เจิมนะเศรษฐีทั้งสี่ทิศเหนือใต้ออกตกครบองค์ประชุม สี่มหาทิศดึงดูดโชคลาภเพิ่มพูนเงินทุกช่องทาง มหากุมารนี้นอกจากจะเด่นเรื่องโชคลาภเงินทองอันประจักษ์ชัดยังเป็นเสน่ห์เมตตา โชคลาภ คุ้มครองภัยใช้ได้ทั้งสิ้น มีอิทธิฤทธิ์นานัปการตามที่อธิษฐาน

    พ่ออาจารย์ท่านหล่อหลอมขึ้นจาก"ปรอทกินเงิน"
    และพระยันต์บังคับตามสูตรที่มหาพรหมท่านกำชับมากมาย อันปรอทกินเงินนั้นแม้นติดตัวไว้จะสามารถช่วยเหลือเกื้อหนุนผู้เป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ สามารถขับพิษร้ายที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกไปทำให้มีกำลังวังชา แม้ใช้สวมใส่เวลานอนหลับก็ทำให้นอนหลับสบายตื่นมาด้วยความสดชื่น ทั้งยังป้องกันสิ่งอัปมงคลอำนาจคุณไสย์มนต์ดำภูตผีปีศาจร้ายอันตรายทั้งปวงไม่ให้มากร้ำกรายราวี ป้องกันภยันตรายให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัย เป็นคงกระพันชาตรี..ศัตรูหมู่คนพาลแพ้ภัยตนเอง ป้องกันอสรพิษสัตว์มีพิษทั้งหลายตลอดจนเขี้ยวงาต่างๆได้ จะปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกายให้สม่ำเสมอสมดุลกันเพื่ออานิสงส์ว่าตัวเราจะไม่เจ็บป่วยง่ายมีสุขภาพดี ทั้งยังเสริมธาตุในตัวเสริมอำนาจวาสนาบารมีเสน่ห์โชคลาภ ช่วย หนุนดวงให้ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองเสริมในสิ่งที่ขาดไปเสริมสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เสริมดวงชะตาราศีเวลาดวงชะตาขึ้นเหรียญพระเวทย์จะสุกใสเปล่งประกายวาววับ เวลาดวงตกเคราะห์ร้ายตามชะตาฟ้าเหรียญจะหม่นหมองคล้ำดำลงท่านว่าเป็นการเตือนให้เราอาราธนาคุณเทพยดาเอาเหรียญจุ่ทน้ำทำน้ำมนต์อาบตัวสะเดาะเคราะห์เสีย แม้ปรารถนาสิ่งใดก็ให้นำน้ำหอมมาประพรมที่เหรียญแล้วอธิษฐานจะสมดังใจเราแล...หากสวดพระพุทธคุณบูชาเหรียญวันละสามรอบชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระเวทย์กลับชาตินั้น คือกลับให้ดีขึ้นในชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้าไม่ต้องขายฝันถ้าบุญทำกรรมแต่งตัวเองไม่พร้อมก็ให้ใช้วาสนาของมหากุมารนี้ เมื่อเอาเหรียญติดตัวไปเขาจะป้องกันเสนียดลบล้างความอัปมงคลทั้งกันเหล่าภูติผีเพชรพญาธรที่คอยกลั่นแกล้งสูบฤทธิ์ของกายสิทธิ์ จะช่วยเสริมตัวและเสริมบุญบารมีท่านว่าจะมีกินจำเริญในเกียรติยศ..จะคิดทำอะไรก็ดีในชีวิตทุกเรื่องทุกกิจย่อมไร้พ่ายไม่รู้จักแพ้ดั่งพญาพาลีชนะได้ทุกศึกไม่เสียกำลังเช่นนั้น หากมั่นใจแล้วแค่เหรียญนี้เหรียญเดียวพกติดตัวไว้ออกแสวงหาลาภได้ทั่วทั้งปฐพี คุ้มกะลาหัวรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยไปแล้วต้องได้กลับไม่ตายนอกถิ่น *** สิ่งที่เสียไปย่อมได้คืนมา เสริมสิริมงคลให้เจริญรุ่งเรืองอยู่ฝ่ายเดียวอยู่ที่ไหนก็เจริญที่นั่น เป็นเมตตามหานิยมชั้นยอดเสริมอำนาจวาสนาบารมีไปได้ทั่วสารทิศทุกสถานการณ์อธิษฐานได้ตามประสงค์

    ด้านหลังท่านอุดด้วยผงประคำครูที่สืบมาแต่ครูบาศรีวิชัย พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ซึมซับพระเวทย์พระคาถาจากครูบาศีลธรรมเจ้ามาจนหมด ผู้ใดมีไว้บูชาก็เจริญก้าวหน้าก้าวไกลก้าวไว กว่าใครเขาด้วยอำนาจแรงครู พ่ออาจารย์ท่านพลีมาทำผงชุดนี้ด้วยเป็นของสำคัญเฉพาะผู้มีวาสนาบารมีจะได้ใช้เท่านั้น นำมาป่นเป็นผงแล้วก็มีฤทธิ์อธิษฐานใช้ได้สารพัดนึก มีคุณวิเศษมากมาย เป็นเสน่ห์เมตตาโชคลาภวาสนาบารมีชั้นสูงทั้งแรงครูยังช่วยป้องกันเสนียดลบล้างความอัปมงคลใช้เป็นตัวเร่งบุญเสริมบารมีได้ยอดเยี่ยม ผงนี้ติดตัวไว้จะรอดพ้นปลอดภัยจากสัมภเวสี,ภูติผีปีศาจวิญญาณร้าย,เทวดาผ่ายมิจฉาทิฏฐิ รวมไปถึงลมเพลมพัดคุณไสยมนต์ดำและภัยที่มองไม่เห็นทุกประการ
    ท่านนำผงนี้มาเข้ากับ
    ผงเฉพาะตามสูตรสร้างพระเวทย์กลับชาติ ผงสูตรนี้ท่านว่าติดตัวไว้จะบังเกิดโชคลาภมีเงินทองไม่ขาดมือ คนที่ไม่มีก็จะมี คนที่มีก็จะพึงรักษาเอาไว้ได้ทั้งหาใหม่เพิ่มให้พอกพูน คิดสิ่งใดก็ทำได้คล่องตัวกิจการเจริญรุ่งเรืองพ้นวิกฤตในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงนี้หาเงินดีจริงท่านว่าสมัยก่อนลบเสร็จใช้ทำเลยไม่ได้นะต้องลองให้ประจักษ์แก่ใจก่อน ผงนี้ฉันแค่ใส่ถุงซิบให้คนเขาพกไปเล่นหวยกลับมาอีกทีข้อมือนี่ได้ใส่ทองเส้นโตกำไลทองหนาเท่าขอบโอ่งใส่ทองทั้งตัวหลายสิบบาท ท่านว่าต้องดีเพียงนี้จึงเรียกว่าทำสำเร็จเอามาใช้สร้างมหากุมารได้
    ทั้งยังผสมผงมวลสารต่างๆที่องค์บรมพรหมท่านกำชับไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าเน้นไปทางมีกินไม่รู้สิ้นสุดทั้งนั้น ผงพวกนี้นี้แค่พกติดตัวก็มีกินมีใช้ไม่ขาดคนไม่มีโชคจะมีโชค โชคลาภเงินทองจะเข้ามาแบบไม่คาดฝัน ติดตัวไว้กันฝันร้ายทำให้ฝันดีและฝันเห็นช่องทางการทำมาหากินที่จะทำให้รวยหากมีวาสนาเทวดาจะมาบอกนิมิตรบันดาลซึ่งทรัพย์สินเงินทองและความสมปรารถนา

    - อุดกังหันแปลงฟ้าดิน วิชากังหันนี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยทำเพราะว่าทำแล้วต้องเอาให้สุดให้พัดสิ่งไม่ดีทุกเรื่องออกไปจากชีวิตทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักการของกังหัน"ฝั่งนึงพัด ฝั่งนึงดูด" นั่นหมายความว่าเมื่อมีสิ่งร้ายออกไปย่อมมีสิ่งอันเป็นมงคลมาแทนที่ไม่ให้ว่างเปล่า จะช่วยเสริมดวงดูดสิ่งดีๆเข้ามาไม่มีสิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ดูดอะไรก็ตามแต่ใจเราอธิษฐานเลยนะ แต่กังหันนั้นในขณะที่เค้าดูดเขาก็พัดปัญหาและอุปสรรคออกไปด้วยคือทำงานพร้อมกันสองทางพร้อมๆกันเลย กังหันพระเวทย์นี้คนใช้จึงเหลือแต่ความสุขสบายเพราะทุกข์เขาพัดทิ้งไปไม่เหลือเลย มื่อพกสัญลักษณ์กังหันนี้ไปทิศใดก็จะนำชัยชนะและความโชคดีมาสู่เจ้าของตัดวงจรกรรมที่ริดรอนลงได้อย่างกระทันหัน ตราบใดที่กังหันพระเวทย์อยู่กับตัวชีวิตไม่มีที่จะสะดุดเลย ชีวิตใครที่ร้อนมากหรือว่าเย็นจนนิ่งไม่ขยับ จะปัญหาหนักหนาหรือเบาบางย่อมปัดเป่าได้สิ่งที่กังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินจะดึงดูดได้ก็ในเรื่องโชคลาภ,เงินทอง,หน้าที่การงานจะให้เงินสะพัดเท่าไหร่หวังลาภก้อนโตอย่างไรนี่จิตเราสั่งได้ทั้งจะพัดปัญหาชีวิตอีกเรื่องสุขภาพทรุดโทรมเปลี่ยนจากหนักให้เบาลงเรื่อยๆ พัดพามาซึ่งชื่อเสียง,ลาภยความสมบูรณ์ของครอบครัวชีวิตคู่และลูกหลาน,ดูดเอาคนอุปการะผู้สนับสนุนชีวิตเข้ามา,ช่วยให้เรามีความรู้มีความคิดสร้างสรรค์สมองปลอดโปร่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวไว้เดินทางไปไหนก้ปลอดภัย โชคลาภคิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ

    ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิตนั้นเป็นวิชาที่ครูบรมพรหมท่านรักษาไว้ด้วยจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียวดั่งมหากุมารลิขิตชีวิตบันดาลความมั่งมีและความเจริญรุ่งเรืองให้นอกจากนี้ยังขอเขาได้ทุกอย่างจะให้ดึงจิตดึงใจชักจูงผู้คนก็ยังทำได้ องค์บรมพรหมท่านกำหนดให้ทำตุ๊กตาทองภาคนี้เป็นกุมารดูดรกด้วยอานิสงค์ว่า "เราไม่ต้องหาเลี้ยงเขา จะมีแต่เขาหาเลี้ยงเรา" ไม่ต้องเซ่นไม่ต้องล่อกันด้วยอะไรทั้งนั้นเพราะเขาอิ่มเอมกับความเป็นทิพย์มีสมบัติจักรพรรดิดั่งมหาโพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ ใช้อธิษฐานได้ตามแต่ปรารถนาดั่งเช่นความรักอันไม่มีประมาณของพระมหาสัตว์ผู้คอยอุ้มชูสรรพสัตว์บนพื้นโลก ท่านยินดีแบ่งภาคมาเป็นบริวารเพื่อให้สรรพชีวิตได้ตั้งตัวเริ่มต้นกันได้ตราบใดที่เท้ายังเหยียบดินอยู่(คือยังไม่ตาย) ท่านจะคอยปกป้องคุ้มครองให้พรผู้บูชาอยู่เสมอจะมีแต่ความรุ่งเรืองทำกิจใดไม่รู้ยากรู้อับจนเลย แม้เดินทางไปแห่งหนใดก็เสมือนมีพระญาณสอดส่องคอยค้ำชูดูแลไม่ห่าง เหรียญนี้ใช้แช่น้ำเสกเป็นน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ต้องธรณีสารได้จะใช้ประพรมบ้านเรือนให้เกิดสิริมงคลก็ได้ หรือจะใช้ทำน้ำมนต์รดใครทางด้านใดเป้นที่สุดท่านว่าอาราธนาได้เลย ### แม้เอาเหรียญนี้ไปวางทับชื่อศัตรูคนคิดร้ายหมู่มารทั้งหลายจะพ่ายแพ้ไปในที่สุดถึงขั้นไม่มีแผ่นดินจะอยู่นั่นทีเดียว
    ปล. เคล็ดการบูชาพิเศษของเหรียญพระเวทย์กลับชาตินั้น ก่อนจะทำอะไรให้ตั้งจิตตั้งใจระลึกถึงพระคุณของพระมหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์ออกพระนามท่านเสียก่อนเพื่อให้ท่านเป็นทิพย์พยานในกิจที่เราทำ *** แต่ละองค์มีเชื่อเรียกขานตามพระนามแห่งอนาคตมหาโพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ทั้งสิบที่จะได้ตรัสรู้ในยุคต่อไปจะบอกเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ

    คาถาบูชา
    เอหิตาตะปิยะปุตตะ ปุเรถะมะมาปาระมิง หัตทะยังเมภิสิณเจถะ พุทโธบุพพนิมิตตัง ปิยะปุตตัง สัพพะลาภังกะโรถะวะจะนัง ปิยังนำมามะมา

    ใครที่รู้ว่าพึ่งดวงตนเองไม่ไหวไปได้ไม่มากกว่านี้แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ให้พึ่งลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต ทุกองค์ท่านลงตะกรุดพันธะสัญญาไว้ เป็นการเชื่อมสัญญาผู้เป็นนายกับบริวารพ่ออาจารย์ท่านว่าให้ตัวคนใช้เขียนชื่อและนามสกุลเราใส่กระดาษเอากาวติดไว้กับตะกรุดออกนามมหาโพธิสัตว์ที่แบ่งกำลังมาเป็นมหากุมาร ท่านว่าต่อไปแม้ไม่พกพาอาราธนาเขา เพียงจิตเราระลึกนึกคิดอะไรในใจเขาก็จะรู้(พ่ออาจารย์ท่านว่าเผื่อเอาไว้ในวันที่ไม่สะดวกห้อยหรือพกพาไม่ได้เพื่อให้เราได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือในทุกสถานการณ์) ท่านปลุกเสกเอาไว้ในฤกษ์วันพญาวัน(ตามโองการมหาพรหม)ทุกปีมาสิบกว่าปีซึ่งฤกษ์เช่นนี้ถือว่าดีที่สุดในรอบปี เหรียญนี้ท่านเน้นให้เหนือกว่าทุกสิ่งสามารถข่มคุณไสยการกระทำได้ทุกชนิดแม้นคนรอบตัวเล่นของ...ไม่ว่าจะหุ่นพยนต์,ควายธนู,ของเสน่ห์,ของกันตัวเช่นไรพ่ออาจารย์ท่านว่าลูกกรอนี้คือกรอหมดข่มเขาลงทั้งหมด เหรียญนี้ท่านว่าไม่เน้นสวยแต่เน้นขลังทุกท่วงทำนองชีวิตดั่งลิขิตไว้ซึ่งปาฏิหาริย์

    *** เหรียญพระเวทย์กลับชาตินี้ทั้งมวลสารของฝังและขั้นตอนการสร้างหลายๆอย่างเป็นความลับอยู่มาก ท่านว่าข้างบนให้บอกได้เท่าที่ควรบอกอะไรไม่บอกก็ไม่ต้องถาม ทั้งรายการนี้จะแจ้งนามมหาโพธิสัตว์ดุสิตสววรรค์อนาคตวงศ์ทั้งสิบแต่ละพระองค์ที่แบ่งกำลังสู่เหรียญเพื่อเป็นเครื่องมงคลประจำตัวผู้บูชา องค์ไหนพระนามไหนจะเป็นของใครพ่ออาจารย์ท่านว่าสภาของมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งสิบนั้นท่านเลือกคนของท่านไว้แล้ว รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเวทย์กลับชาติลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต(กังหันแปลงฟ้าดิน) บูชา 4,000 บาท

    117644418-300972834450510-6294170520829970619-n.jpg 117390332-3204047339687003-3647662349018492425-n.jpg
    117379900-849489472245190-208356226863332674-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2020
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อภัยทาน

    ในแต่ละวันเราอาจต้องพบเจอผู้คนมากมาย คนเหล่านี้อาจเป็นคนที่เคยทำอะไรไม่ดีให้เราเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน เป็นต้นเหตุให้เราอารมณ์เสีย,รู้สึกไม่ดี,หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เจอ แต่ทุกข์กลับตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น

    คนที่ไม่ทุกข์ไม่มีกรรมคือคนที่ไม่เกลียดไม่เคียดแค้นใคร...ใครให้อภัยก่อน ก็มีความสุขในชีวิตก่อน

    การให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจในสิ่งผิดที่เขาทำต่อเรา ทำให้ความรู้สึกของความโกรธแค้นของเราบรรเทา เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเขาได้เราจึงให้อภัย ให้อภัยโดยไม่ขึ้นกับว่าคนที่ทำผิดนั้นจะเป็นอย่างไร...เขาจะเสียใจ..จะชดใช้..จะรับโทษหรือเปล่าเราไม่ต้องไปสน

    แต่เราก็ให้อภัยเขาได้เพื่อปลดปล่อยความแค้นออกจากใจเรา ปล่อยความคิดความรู้สึกด้านลบ ให้ออกไปจากเราเพื่อที่เราจะไม่ทุกข์ บางครั้งเราไม่ให้อภัยบางคนเพราะคิดว่าเราทำไม่ได้หรือไม่เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากให้อภัย เราจะเก็บความโกรธแค้นนี้ไว้เพราะเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย

    แต่ในขณะเดียวกันนั้นเรากลับไม่รู้ตัวว่าจิตใจที่โกรธแค้นนั้นมาพร้อมกับความทุกข์ และมันทำร้ายเราเสมอ คนที่ทำผิดต่อเราเขาไม่ได้มารู้สึกทุกข์กับเราเลย ..การให้อภัยก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องกลับไปดีกับเขา แต่เป็นการทำให้เราพ้นจากจิตใจที่เคียดแค้นและเจ็บปวดต่างหาก

    หากอยากอยู่อย่างสบายใจ อยากมีชีวิตที่สงบสุขมากก็ต้องฝึกใจ..เลิกยุ่ง..เลิกมอง..รักษาระยะห่างเท่าที่เราสบายใจ เรียนรู้ที่จะไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไป เกลียดก็อย่าไปมอง..ไม่ชอบก็อย่าไปดู

    หากไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไปก็ไม่มีใครมาทำให้เราหงุดหงิดได้ ลองท่องไว้ " ไม่โกรธไม่เกลียดและไม่เฉียดเข้าไปใกล้ " ให้อภัยเขาเราสุข...โกรธเขาเกลียดเขาเราก็ทุกข์เอง

    ให้อภัยมันช่วยปลดปล่อยเราจากความทุกข์และความแค้น คนที่ทำได้คือคนที่ชนะไม่ใช่พ่ายแพ้ จริงๆแล้วการให้อภัยกับการให้โอกาสเป็นคนละส่วนกัน..เราให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาสได้

    เพราะการให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจ แต่การให้โอกาสต้องมาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองของคนทำผิด
    ถ้าคนทำผิดไม่ได้กลับใจไม่ได้เสียใจเราไม่จำเป็นต้องกลับไปคุยด้วยไม่ต้องกลับไปสุงสิงด้วย แค่ยกโทษให้เขาแล้วเดินหนีออกมาต่างคนต่างอยู่ ## เอาความสุขของเรากลับคืนมา

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มงคล ที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา

    ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์
    เมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมออกดอกออกผลให้แก่เจ้าของฉันใด
    คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
    เมื่อมีโอกาสย่อมตอบแทนคุณพ่อแม่และผู้มีอุปการคุณฉันนั้น
    ทองคำแท้หรือไม่ โดนไฟก็รู้
    คนดีแท้หรือไม่ ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่
    ถ้าดีจริงต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยงแสดงว่าไม่ดีจริง
    เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊

    พระคุณของพ่อแม่
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
    ยังมีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ ยอดเขาพระสุเมรุแทนปากกา น้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษรภูเขาสึกกร่อนจนหมดน้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด


    บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ

    ๑. เป็นต้นแบบทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลายในโลกมีค่าสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ก้อนดินเหนียวธรรมดาถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตา ก็ทำให้ดินก้อนนั้นมีค่าขึ้นมาเป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีก เช่นแบบเป็นพระพุทธรูป ดินเหนียวก้อนนี้ก็จะทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้นมีผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแบบที่พิมพ์นั่นเอง
    ในทำนองเดียวกันการเกิดของสัตว์เช่นเป็น ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ แม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่ โชคดีที่เราได้เกิดเป็นคนได้โครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย เหมาะในการทำความดีทุกประการเราจึงสามารถใช้ความรู้ความสามารถประกอบคุณความดีได้เต็มที่ ทั้งนี้ก็เพราะเรามีพ่อแม่เป็นต้นแบบทางกายให้นั่นเอง
    ๒. เป็นต้นแบบทางใจ ให้ความอุปการะเลี้ยงดูฟูมฟักทะนุถนอมอบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาท ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก
    พระคุณพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เราก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้ว ยิ่งท่านอบรมเลี้ยงดูเรามาเป็นต้นแบบทางใจให้ด้วยก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกอนันต์


    สมญานามของพ่อแม่
    สมญานามของพ่อแม่นั้น กล่าวกันว่าท่านเป็นทั้งพรหมของลูก,เทวดาคนแรกของลูก,ครูคนแรกของลูกและเป็นพระอรหันต์ของลูก ซึ่งอธิบายได้ดังนี้
    - พ่อแม่เป็นพรหมของลูก เพราะเหตุที่มีพรหมวิหารธรรม ๔ ประการ ได้แก่
    ๑.มีเมตตา คือมีความปรารถนาดีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด
    ๒.มีกรุณา คือหวั่นใจในความทุกข์ของลูก และคอยช่วยเหลือเสมอไม่ทอดทิ้ง
    ๓.มีมุทิตา คือเมื่อลูกมีความสุขสบาย ก็มีความปลาบปลื้มยินดีด้วยความจริงใจ
    ๔.มีอุเบกขา คือเมื่อลูกมีครอบครัวสามารถเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็ไม่วุ่นวายกับชีวิตครอบครัวลูกจนเกินงาม และหากลูกผิดพลาดก็ไม่ซ้ำเติมแต่กลับคอยเป็นที่ปรึกษาให้เมื่อลูกต้องการ

    - พ่อแม่เป็นเทวดาคนแรก(บุรพเทพ)ของลูก เพราะคอยปกป้องคุ้มกันภัยเลี้ยงดูลูกมาก่อนผู้มีความปรารถนาดีคนอื่นๆ
    - พ่อแม่เป็นครูวิสุทธิเทพของลูก เพราะมีคุณธรรม ๔ ประการ ได้แก่
    ๑.ไม่ถือสาในความผิดของลูก แม้ว่าบางครั้งจะพลาดพรั้งล่วงเกินก็ให้อภัยเสมอ
    ๒.ปรารถนาประโยชน์แก่ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ก็ยังคงปรารถนาให้ลูกดีมีความสุข
    ๓.เป็นทักขิเณยยบุคคล เป็นเนื้อนาบุญของลูก เป็นผู้ที่ลูกควรทำบุญต่อตัวท่าน
    ๔.เป็นอาหุเนยยบุคคล เป็นผู้ควรแก่การรับของคำนับและการนมัสการของลูก


    คุณธรรมของลูก
    เมื่อพ่อแม่มีพระคุณมากมายปานนี้ลูกจึงควรมีคุณธรรมต่อท่าน คุณธรรมของลูกเริ่มที่รู้จักคุณพ่อแม่คือรู้ว่าท่านดีต่อเราอย่างไร สูงขึ้นไปอีกคือตอบแทนคุณท่าน ในทางพระพุทธศาสนาได้บรรยายคุณธรรมของลูกไว้อย่างสั้นๆแต่เก็บความไว้ได้อย่างครบถ้วนคือคำว่ากตัญญูกตเวที คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกรวมอยู่ใน ๒ คำนี้
    กตัญญู หมายถึง เห็นคุณค่าท่านคือเห็นด้วยใจ ด้วยปัญญา ว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปากท่องพระคุณพ่อแม่ปาวๆไปเท่านั้น
    คุณของพ่อแม่ดูได้จากอุปการะ คือประโยชน์ที่ท่านทำแก่เรามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคนอื่น ตามธรรมดาของคนทั่วๆไป เมื่อจะอุปการะใครเขาต้องเห็นทางได้เช่นเห็นหลักทรัพย์หรือดูนิสัยใจคอ ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าอุปการคุณของเขาจะไม่สูญเปล่าจึงลงมือช่วยเหลือ แต่ที่พ่อแม่อุปการะเรานั้นเป็นการอุปการะโดยบริสุทธิ์ใจจริงๆไม่ได้มองถึงหลักประกันใดๆเลย เราเองก็เกิดมาตัวเปล่าไม่มีหลักทรัพย์แม้แต่เข็มเล่มเดียว ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าอวัยวะร่างกายจะใช้ได้ครบถ้วนหรือไม่ ยิ่งนิสัยใจคอแล้วยิ่งรู้ไม่ได้เอาทีเดียวโตขึ้นมาจะเป็นอย่างไรจะเป็นคนอกตัญญูหรือไม่ไม่รู้ทั้งนั้น หนังสือสัญญาการรับปากสักคำเดียวระหว่างเรากับท่านก็ไม่มีแต่ทั้งๆที่ไม่มีท่านทั้งสองก็ได้โถมตัวเข้าช่วยเหลือเราจนสุดชีวิตที่ยากจนก็ถึงกับกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาช่วย เรื่องเหล่านี้ต้องคิดดูด้วยเหตุผลอย่าสักแต่คิดด้วยอารมณ์เท่านั้น การพิจารณาให้เห็นคุณของพ่อแม่ด้วยใจอย่างนี้แหละเรียกว่ากตัญญูเป็นคุณธรรมเบื้องต้นของผู้เป็นลูก ยิ่งพิจารณาเห็นคุณท่านมากเท่าไรแสดงว่าใจของเราเริ่มใสและสว่างมากขึ้นเท่านั้น
    กตเวที หมายถึง การทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งมีงานที่ต้องทำสองประการ คือ
    ๑.ประกาศคุณท่าน
    ๒.ตอบแทนคุณท่าน
    การประกาศคุณท่าน หมายถึง การทำให้ผู้อื่นรู้ว่าพ่อแม่มีคุณแก่เราอย่างไรบ้างมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้มีคนคิดทำอยู่มากเหมือนกันแต่ส่วนมากไปทำตอนงานศพ คือเขียนประวัติสรรเสริญคุณพ่อแม่ในหนังสือแจก การกระทำเช่นนี้ก็ถูกแต่ถูกเพียงเปลือกนอกผิวเผินนัก ถ้าเป็นการกินผลไม้ก็แค่เคี้ยวเปลือกเท่านั้น ยังมีทำเลที่จะประกาศคุณพ่อแม่ที่สำคัญกว่านี้คือที่ตัวเรานี่เอง
    คนเราทุกคนคือตัวแทนของพ่อแม่ตนทั้งนั้น เลือดก็แบ่งมาจากท่านเนื้อก็แบ่งมาจากท่านตลอดจนนิสัยใจคอก็ได้รับการอบรมถ่ายทอดมาจากท่าน ความประพฤติของตัวเรานี่แหละจะเป็นเครื่องประกาศคุณพ่อแม่อย่างชัดแจ้งที่สุด ไม่ใช่อยู่ที่หนังสือแจกไม่ใช่อยู่ที่หีบศพบนเชิงตะกอนแต่อยู่ที่ตัวเรานี่เอง หากพิมพ์ข้อความไว้ในหนังสือแจกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งอยู่ในศีลในธรรม แต่ตัวเราเองประพฤติสำมะเลเทเมาคอร์รัปชั่นทุกครั้งที่มีโอกาส ศีลข้อเดียวก็ไม่สนใจรักษาก็ผิดที่ไป สดุดีคุณพ่อแม่ว่าเป็นคนดีสุภาพเรียบร้อย แต่ตัวเรา ผู้เป็นลูกกลับประพฤติตัวเป็นนักเลงอันธพาลอย่างนี้คุณค่าของการสรรเสริญพ่อแม่ก็ลดน้ำหนักลง กลายเป็นว่ามอบหน้าที่ในการกตเวทีประกาศคุณพ่อแม่ให้หนังสือทำแทนให้กระดาษให้เครื่องพิมพ์ให้ช่างเรียงพิมพ์แสดงกตเวทีแทน แล้วตัวเรากลับประจานพ่อแม่ของตัวเองอย่างน้อยที่สุดก็ประจานแก่ชาวบ้านว่าพ่อแม่ของเราเลี้ยงลูกไม่เป็นประสา
    พ่อแม่ของใครใครก็รัก เมื่อรักท่านก็ประกาศคุณความดีของท่านสิประกาศด้วยความดีของตัวเราเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยิ่งท่านยังมีชีวิตอยู่การประกาศคุณของเราจะทำให้ท่านมีความสุขใจอย่างยิ่งส่วนใครจะประพันธ์สรรเสริญคุณพ่อแม่พิมพ์แจกเวลาท่านตายแล้ว นั่นเป็นประเด็นเบ็ดเตล็ดจะทำก็ได้ไม่ทำก็ไม่เสียหายอะไร
    ไม่ว่าเราจะตั้งใจประกาศคุณท่านหรือไม่ ความประพฤติของเราก็เป็นตัวประกาศคุณท่านหรือประจานท่านอยู่ตลอดเวลา คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเราจะประกาศคุณพ่อแม่ของเราด้วยเกียรติยศชื่อเสียงหรือจะใจดำถึงกับประจานผู้บังเกิดเกล้าด้วยการทำตัวเป็นพาลเกเรและประพฤติต่ำทราม

    การตอบแทนคุณท่าน แบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ
    ๑.เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ช่วยเหลือกิจการงานของท่าน เลี้ยงดูท่านตอบเมื่อยามท่านชรา ดูแลปรนนิบัติการกินอยู่ของท่านให้สะดวกสบายและเอาใจใส่ช่วยเหลือเมื่อท่านเจ็บป่วย
    ๒.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็จัดพิธีศพให้ท่านและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ


    แม้ว่าเราจะตอบแทนพระคุณท่านถึงเพียงนี้แล้วยังนับว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ท่านมีต่อเรา ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต้องการจะสนองพระคุณท่านให้ได้ทั้งหมดพึงกระทำดังนี้

    ๑.ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
    ๒.ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ทาน ก็พยายามชักนำให้ท่านยินดีในการบริจาคทานให้ได้
    ๓.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
    ๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ก็พยายามชักนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาให้ได้
    เพราะว่าการตั้งอยู่ในศรัทธา,การให้ทาน,การรักษาศีล,การทำสมาธิภาวนาเป็นประโยชน์โดยตรงและเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตัวบิดามารดาผู้ปฏิบัติเองทั้งในภพนี้ภพหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือเป็นหนทางไปสู่นิพพาน

    อานิสงส์การบำรุงบิดามารดา
    ๑.ทำให้เป็นคนมีความอดทน
    ๒.ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
    ๓.ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
    ๔.ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัย
    ๕.ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
    ๖.ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
    ๗.ทำให้เทวดาลงรักษา
    ๘.ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
    ๙.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
    ๑๐.ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
    ๑๑.ทำให้มีความสุข
    ๑๒.ทำให้เป็นแบบอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ฯลฯ

    “เพราะการปรนนิบัติในมารดาบิดานั้นแล บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญเขาในโลกนี้นี่เอง เมื่อเขาละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์”

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีสอบถามอยากได้จี้กังหันไปให้ลูกชายลูกสาวห้อยกันมาก เดี๋ยวจะเอามาลงไว้ให้นะครับแต่ชุดนี้มีค่อนข้างน้อยก็ติดตามกันดีๆ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้มีจัดส่งของตามปกติ เดี๋ยวรอบเย็นใครรอจี้ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ณธพรหม ED 2400 3486 4 TH

    พี่พรเทพ ED 2400 3487 8 TH

    พี่วุฒิชัย ED 2400 3488 1 TH

    พี่ศิระ ED 2400 3489 5 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...