สงสัยคำว่า"ไม่มีเรา"

ไม่เดือนร้อนคับ
อะไรมากระทบกระเด็นกลับหมดคับ
เพราะผมไม่รับก็ไม่เดือนร้อนคับ

 

คุณปวีพูดมีเหตุผลคับ
ไม่ใช่ของๆเราแสดงว่ามีเราไปยึด
ไม่มีการยึดก็ไม่มีการติด
ไม่มีการยึดติด แล้วคำว่าหลุดพ้น
หลุดพ้นออกจากอะไรคับ
แล้วอะไรหลุดพ้น

 

พ้นจากความหลง ..ไปจนถึงนิพพานแหล่ะ ...มั้ง

 

ไปจนถึงนิพพานได้คงพ้นหลงแล้วคับ

 

ปกติ อาศัยตัวตนเรียน
รู้ความไม่มีตัวตนครับ

เพราะมันอาศัยพึ่งพากันอยู่ครับ

 

คำไม่ค่อยยาว
แต่ความหมายซับซ้อนลึกคับ

 

หลงไม่มีเราเท่ากับหลงป่าเราไม่มี
ทั้งๆที่เดินหลงป่ากลับบอกว่าเราไม่มี

 

อนิจจัง ทุกขัง.. อนัตตา
สิ่งใดมีธรรมชาติไม่เที่ยงแปรปรวนตลอดเวลา
ควรยึดมั่นถือมั่นหรือไม่

สิ่งใดมีธรรมชาติแตกทำลายเน่าเปื่อยผุพังได้เอง
ควรยึดมั่นถือมั่นหรือไม่

สิ่งใดไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงมีธรรมชาติความเกิดดับในตัวเอง บังคับบัญชาไม่ได้
ควรยึดมั่นถือมั่นหรือมั่นหรือไม่

ลองพิจารณาสิ่งที่ได้จากการตรัสรู้จัก
กันในนามสมุติว่า
พระไตรลักษณ์ (แบบย่อๆ)คับ

 

ก็เข้ามา มีอัตตา มีทุกข์ขัง มีอนิจจัง
เห็นอัตตาเห็นทุกข์ขังเห็นอนิจจัง
เห็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้แล้ว
เห็นสิ่งเหล่านี้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว
ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
ก็ละทิ้งปล่อยวางคืนใว้ที่เดิม
เห็นไตรลักษณ์ทั้งหมดแล้ว
จึงรู้ว่าไตรลักษณ์เป็นเพียงทางผ่าน
เพื่อข้ามไปฝั่งพระนิพพาน
หากยังไม่ถึงพระนิพพาน
ก็ยังต้องพึ่งไตรลักษณ์
หากไม่เข้ามาในไตรลักษณ์
ก็ออกจากไตรลักษณ์ไม่ได้คับ
พระพุทธเจ้าสอนไตรลักณ์
ก็มุ่งให้เห็นไตรลักษณ์แล้วปล่อยวาง
เห็นไตรลักษณ์แล้วปล่อยวาง
มีนิพพานเป็นที่ไปคับ

 

อยู่ฝั่งเดียวกันนี่แหล่ะ
เพียงแต่
แยกฝ่ายสมมุติฝ่ายหนึ่ง
ทำหน้าที่สังขาร(ปรุงแต่งหลอกลวง)
หรือเรียกว่าฝ่ายโลกียะ มีเพื่อเอาไว้หลงเสพเพลิดเพลินไปชาติต่อชาติ
ด้วยความเคยชิน มานับแสนชาติ
ล้านชาติมาแล้ว จึงไม่นับเปฺ็น
เรื่องแปลกอะไร ไม่เพลิดเพลินต่างหากเป็นเรื่องแปลก
กับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายวิมุติ
ที่ไม่มีอาการใดๆ
ไม่เคลื่อนไหว ไม่รับหรือผลักความชอบ ถูกใจ
ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ
ไม่มีตัวใจไม่เกิดไม่ดับ
ไม่มีการไปไม่มีการมา
ได้แต่รู้ความเป็นไปเป็นมา
ของอีกฝ่าย(โลกียะ)ทุกกิริยา
อาการโดยตัวเองเงียบสงบ
สงัดตลอดเวลา ท่านเรียก
ว่าผู้รู้ (ตัวจริง)

 

หมดกิเลสหมดตัวตน
ช้างก็ลอดเข็มรูตันได้ทุกคนคับ
เข้าใจแค่ไหนก็เขียนได้แค่นั้นคับ
แสดงความคิดเห็นเหมือนกันบ้าง
ต่างกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาคับ
เหตุและผลที่แสดงออกมาจะพิสูจน์
ผลและเหตุไปในตัวอยู่แล้วคับ

 

มาเป็นขวัญใจด่านตรวจด้วยกันมัยลุงแมว55

 

ผู้รู้ตัวจริงลุง ลุงต้องฟาดมันลงไปอีกครับ สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับมัน จึงจะปรากฎ

 

ถ้าไม่เห็นตามจริง มันก็หลอกตัวเองไปวันๆ นะ โยม นะ..

ทางเดียวที่จะเห็นตามจริงได้ คือ โยมต้องลงมือปฏิบัติจิตตภาวนา..

 

นั่นก็ผู้รู้ตัวจริงแล้ว ลุงแมวเขียนแบบนั้นก็คือละสักกายะฯได้ทุกตัวแล้ว

 

จะบอกว่า จิตไม่ใช่เราๆๆๆๆ แต่อวิชชามันห่อหุ้มจิตไว้อยู่

ถ้าพูดแบบนั้นโดยไม่เห็นตามเป็นจริง มันก็เป็นเพียง "รู้ด้วยกิเลส" นั่นแหละโยม..

 

หึ๋ย ตัวจริงนั่นละ ตัวร้าย

 

ด่านสุดท้ายคับท่านปราบ