เรื่องเด่น กรรมหนัก กรรมเบา ให้ผลต่างวาระ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 24 เมษายน 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    962112CC-53BC-441D-B6CA-0304F589D7A0.jpeg

    ถาม : มีคนเขาบอกว่า การสวดอาการวัฏฏสูตรเป็นการเร่งเจ้ากรรมนายเวรจริงหรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : ตรงนี้ไม่น่าจะจริงนะ เรื่องของเจ้ากรรมนายเวร โอกาสที่คุณจะไปเร่งรัดไม่มีทั้งนั้น

    เรื่องของกรรมพระพุทธเจ้าแบ่งออกเป็น ๓ หมวด ๑๒ ประเภท ให้ผลตามวาระ ให้ผลตามลักษณะ ให้ผลตามความหนักเบา จะแบ่งกันเป็นระยะ ๆ อันนี้มา อันโน้นไป อะไรอย่างนี้ ของเขาจะจัดลำดับกันตามเวลา ตามลักษณะ ตามหนักเบาของเขากันเอง

    คุณไม่มีสิทธิ์จะไปนั่งเร่งเขาหรอก ยกเว้นอย่างเดียวว่า เร่งความดีเพื่อหนีกรรมให้มากเข้าไว้

    ถ้ามีบทสวดประเภทชุมนุมเจ้ากรรมนายเวรได้ก็ดีนะ เรียกว่าอะไรนะ อาการวัฏฏสูตรใช่ไหม ? ถ้าเป็นไปได้ก็ดี จะได้ตกลงกันไปเสียทีเดียวเลยว่า ถ้าแน่จริงก็ทวงให้ตาย ๆ ไป จะได้หมดเรื่อง ไม่ต้องเสียเวลามาทนทุกข์อยู่อย่างนี้

    พยายามเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าหรือของหลวงพ่อวัดท่าซุงเข้าไปจับสิ่งต่าง ๆ แต่ที่อยู่ในพระไตรปิฎกนั่นคือหลักเลย ตามหลักการนั้น แต่ว่าส่วนใหญ่พวกเราขี้เกียจค้นคว้า..ใช่ไหม ? ก็ต้องเดือดร้อนถึงพระ

    ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ให้ผลในปัจจุบัน แบ่งออกเป็นครุกรรมฝ่ายกุศล คือ กรรมหนักฝ่ายดี กับครุกรรมฝ่ายอกุศล คือ กรรมหนักฝ่ายชั่ว

    อุปปัชชเวทนียกรรม ให้ผลในชาติที่ ๒

    อปราปรเวทนียกรรม ให้ผลในชาติที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ไล่ไปเรื่อย จนหมวดท้าย ๆ เป็นอโหสิกรรม เลิกแล้วต่อกัน

    ฉะนั้น..วาระเวลาของการให้ผลเขามีอยู่ เราจะไปเร่งรัดอะไรของเขาไม่ได้ทั้งนั้น ต้องเป็นไปตามหนักเบาของการกระทำ แต่อัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งคือ กรรมที่เรารู้สึกว่าหนัก แต่ให้ผลแล้วก็แล้วกันไป แต่กรรมที่เรารู้สึกว่าเบา ให้ผลแล้วก็ยังให้ผลไปเรื่อย ๆ แปลกดี

    เช่น เราทำครุกรรมฝ่ายกุศล โดยถวายทานกับพระที่ออกนิโรธสมาบัติ เราจะรวยวันนั้นเลย แต่ว่าได้ตอนนั้นครั้งเดียว แล้วเลิกกันไปเลย ไม่มีผลต่อเนื่องอีก

    ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าคุณถวายสังฆทาน แม้จะไม่หนักเท่านั้น แต่ว่าชาติต่อไปคุณรวย เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพระมหากษัตริย์ เป็นมหาเศรษฐีตามหลังยาวไปเรื่อย กลายเป็นว่าของหนักแต่ให้ผลครั้งเดียว ของเบากว่า แต่ให้ผลยาวนาน

    ถ้าเปรียบเหมือนกับพวกพืชผัก เช่น การเพาะถั่วงอก ให้ผลเร็วมาก แต่เก็บครั้งเดียวหมด แต่ขณะเดียวกันถ้าเป็นผลไม้ยืนต้นจะให้ผลช้า อาจจะชาติที่ ๒ ๓ ๔ ๕ แต่เมื่อให้ผลแล้ว ก็จะให้ไปเรื่อย ๆ
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...