นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

ภาพก่อนแก้ไข ปรับตรีกับพระขรรค์ให้หนาขึ้น



แก้ไขแล้ว..
ภาพหุ่นแบบหนุมานออกมาแล้วอาจดูยากหน่อยเพราะส่งผ่านไลน์มา รอช่างเข้าไปรับครับ รอช่างเก็บตะเข็บถอดพิพม์ฉีดเทียนแล้ว 2-3 วันจะได้แบบตัวอย่างออกมา แล้วนัดวันหล่อกัน

สร้างไม่มากตามนโยบายครูบาไชย... รอหล่อเสร็จค่อยเปิดจองครับ งานนี้พลาดจะเสียใจสุด ๆ เพราะผมตั้งใจจะหยุดไปอีกนานครับ ...

 

ตอนครูบาไชยจารชนวนมาให้ ได้กล่าวว่า "ทำน้อย ๆ นะดีเพราะทำมาก ๆ ความเอาใจใส่ต่างกัน และทำน้อยจะน่าค้นหา"

ที่ปรึกษาบอก ครูบาท่านชมเลย จึงยึดตามนโยบายท่าน ที่สำคัญใช้ทุนมากกว่าตอนงานแหวนเยอะครับ จึงไม่สร้างมาก

รอดูเนื้อตัวอย่างภาพสตูออกมาค่อยตัดสินใจครับ แล้วค่อยสั่งจำนวนฉีดเทียนไป แล้วนัดวันหล่ออีกที...

หลังหล่อเสร็จดูของจริงเปิดจองครับ.. โปรดติดตาม พญาหรมานประลัยกัลป์ เครื่องรางสะท้านแผ่นดินยุค 5 g

พรุ่งนี้ผมก็จะได้แผ่นจารจากสายเขาอ้อแล้ว แล้วจะมาเปิดตำนานวิชานะคาบสำเหร็จวิชาลับสุดยอดที่หวงแหนของสายเขาอ้อ สืบทอดจากตาหมอแบน ที่สมัยเด็กพ่อท่านเอียด จับมือหัดลากยันต์นะคาบสำเหร็จเองเลย

โดยชนวนนี้ระบุเจาะจงเลยครับว่ามาสร้างหนุมาน ไม่ใช่เอามั่วนะครับ

นะคาบสายฟ้าฟาด นะไฟประลัยกัลป์มากำกับในอาวุธของหนุมาน เพื่อจะได้พอฟัดพอเหวี่ยงกับพระขรรค์สรี๋กัญไชย

 

((( วิชานะคาบสำเหร็จ )))
#สายวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดจากพระสงฆ์สู่ฆราวาส
////////////////////////////////////////////////////////
***...เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๘๖
ตอนนั้นตาแบน จันทร์แผ้ว อายุเพียงแค่ ๒๒ ปีเท่านั้น
ได้เดินทางไปหาท่านพระครูสิทธยาภิรัต
( พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา จ.พัทลุง )
โดย...พ่อเฒ่าหมึก บ้านไสท้อน อ.เมือง จ.ตรัง
( ท่านมีศักดิ์เป็นลุงของตาแบน จันทร์แผ้ว )
พ่อเฒ่าหมึกผู้นี้ท่านเก่งวิชาคาถาอาคมอย่างมาก
อีกท่านยังเป็นหมอรักษาคนไข้โดยอาการต่างๆ
และชำนาญมากในด้านการใช้ยาสมุนไพรรักษาโรค
ซึ่งเป็นศิษย์ฆราวาสคนหนึ่งของสำนักเขาอ้อ
ที่เล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
( ซึ่งตาแบนเรียกว่า " พ่อท่านทอง วัดเขาอ้อ " )
///////////////////////////////////////////////////////
***...วันหนึ่งพ่อเฒ่าหมึกใช้ให้คนไปตามตาแบน
ให้ตาแบนมาหาท่านให้ได้ที่บ้านไสท้อน
วันนั้นตาแบนก็ได้ถีบรถถีบไปหาพ่อเฒ่าหมึกทันที
เมื่อตาแบนถีบรถถีบไปจอดตรงหน้าชานบ้าน
และยังไม่ทันหายเหนื่อยเพราะระยะทางไกลพอสมควร
พ่อเฒ่าหมึกก็ตวาดตาแบนออกมาจากในบ้านทันที
ว่า "ได้ข่าวว่ามึงเที่ยวจังแล้ว สากูแลไม่เรื่องไหร
เอาพันนี้ตะต่อไปกูอีสอนวิชาของกูให้กับมึง
ให้มึงมาเรียนทุกวันหัสและวันเพ็ง (ขึ้น ๑๕ ค่ำ)"
เมื่อถึงทุกวันพฤหัสบดีและในวันเพ็งของทุกๆเดือน
ตาแบนก็ได้ถีบรถถีบไปเรียนสรรพวิชาต่างๆ
จากพ่อเฒ่าหมึกเป็นประจำไม่เคยขาด
จนตาแบนมีความแตกฉานและชำนาญในความรู้
เพราะตาแบนมีความจำดี สามารถท่องจำได้หมด
แม้แต่สูตรยาสมุนไพรต่างๆที่ท่องจำยากก็จำได้หมด
โดยไม่ต้องดูตำราขณะบอกตัวยาหรือประกอบยา
หรือแม้แต่ใช้ให้เขาจดชื่อตัวยาต่างๆก็ตามแต่
เพื่อไปซื้อหรือให้เขาไปหาตัวยามาเพื่อต้มรักษาโรค
ถึงจะอย่างไรก็ตาม ตาแบนท่านก็ยังศึกษาต่อไป
ท่านยังไปเรียนกับพ่อเฒ่าหมึกอยู่ตลอด ๒ ปี
จากนั้นเมื่อถึงหน้าพระเข้าพรรษา (ก่อนเข้าพรรษา)
พ่อเฒ่าหมึกก็ได้ชวนตาแบนไปหาพระครูสิทธยาภิรัต
(พ่อท่านเอียด ปทุมฺสโร) ที่วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
การเดินทางไปโดยการเดินตีนตลอดเส้นทาง
ถึงมื้อเที่ยงก็แวะกินข้าวที่วัดหรือบ้านของคนที่รู้จัก
พอตอนเย็นก็แวะนอนที่วัดหรือบ้านของคนที่รู้จัก
เพราะพ่อเฒ่าหมึกเป็นคนดีและรู้จักกว้างขวางไปทั่ว
เมื่อยามเย็นเกือบหวันมุ้งมิ้งก็เดินทางถึงวัดดอนศาลา
พ่อท่านเอียดท่านเสร็จจากภาระกิจทำวัตรเย็นพอดี
เมื่อพ่อท่านเอียดท่านหันหน้ามาเห็นพ่อเฒ่าหมึก
พ่อท่านเอียดก็ดีใจมากๆที่ได้เจอกันและได้พูดขึ้นว่า...
"ไอ้เกลอไม่ค่อยมาหาเราทั้งสิบปีหวาแล้ว
หน้าตาไม่เคยเปลี่ยน ยังอยู่เหมือนเดิมเหลยนะ "
พ่อท่านเอียดพูดเสร็จก็ชวนเดินไปที่กุฏิของท่าน
พ่อท่านเอียดใช้ให้เด็กวัดต้มน้ำร้อนชงน้ำชา
พอเด็กวัดชงน้ำชาก็นำมาประเคนให้พ่อท่านเอียด
และได้ยกมาให้พ่อเฒ่าหมึกและตาแบนกินด้วย
ตาแบนก็หิวน้ำจัดเลยรีบกินน้ำชาที่ชงมาทันที
พอกินได้แค่ครึ่งเดียวก็พูดขึ้นว่า...
" น้ำชาไอ้ไหรทั้งฝาดทั้งเผ็ดๆร้อนๆพันนี้ "
พ่อท่านเอียดพูดว่า " กินไปตะลูกเห้อของดีเพแหละ "
ทราบภายหลังว่าเป็นใบชุมเห็ดกับเปลือกไอ้แหวง
ถ้าต้มกินบ่อยๆร่างกายจะไม่หนาวในตอนกลางคืน
และจะไม่เป็นไข้ป่า ไข้ห่าลวก และเป็นยาบำรุงกำลัง
( ตอนที่ตาแบนกำลังเล่าให้ฟังผมก็จดไว้ทันที )
พ่อท่านเอียดและพ่อเฒ่าหมึกก็นั่งคุยกันสักพักใหญ่
พ่อเฒ่าหมึกก็พูดขึ้นในเรื่องที่จะไปธุระทันที ว่า...
" ผมเอาหลานชายมาฝากไว้กับท่านเกลอกันนะ
มันเป็นเด็กที่หนังสือดี ผมสอนไหรกะมันจำได้หมด
ผมเห็นมันชอบในด้านนี้ จึงเอามันมาฝากไว้กับท่าน
ขอท่านเกลอช่วยสอน ผิดไหรกะทุบตีได้ อย่าเกรงใจไหรผม "
พอสิ้นคำพ่อเฒ่าหมึก พ่อท่านเอียดก็พูดทันที ว่า...
" ไอ้เกลอเอาเด็กมาฝากด้วยตัวเอง อีขัดใจได้พรือ
เอาตะพันพรือกะรับมันให้เป็นเด็กวัดสักคน "
พอตกในตอนดึกมากแล้วก็ต่างแยกย้ายกันไปนอน
จนยามหัวเช้าตาแบนก็ไปเป็นลูกโยมให้พ่อท่านเอียด
เพราะพ่อท่านเอียดท่านออกบิณฑบาตรทุกวันไม่ขาด
พอหลบมาถึงวัดตาแบนก็ไม่เห็นหน้าพ่อเฒ่าหมึกแล้ว
พ่อท่านเอียดบอกว่า... " ไอ้เกลอมันไปแรกหัวรุ่งโด้
มันบอกว่ามันไปหาไอ้ทับ ลำพาย เกลอมันอีกคน"
( แต่ในตอนนั้นเสือทับ บ้านลำพาย เสียชีวิตแล้ว )
ตาแบนเล่าว่า... " ตอนนั้นท่านรู้สึกใจไม่ค่อยดี
เพราะตั้งแต่เกิดก็ไม่เคยออกจากบ้านไปอยู่นอกจังหวัดเลย
แต่ท่านนึกในใจว่าชาติชายอยู่ที่ไหนกะต้องสู้ ตายกะตาย "
ตาแบนเลยอดทนอยู่กับพ่อท่านเอียดมาตลอด ๑ - ๒ ปี
ทั้งช่วยถือชั้น (ปิ่นโต) เวลาพระบิณฑบาตร
ช่วยกวาดลานวัด ช่วยหายา สับยาต้ม
เพราะพ่อท่านเอียดต้มยารักษาคนบ้า รักษาคนไข้
และช่วยงานทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองพอจะช่วยได้
และเมื่อยามว่างก็ไปหาหวากให้พ่อท่านเอียดฉัน
เมื่อวันพระพ่อท่านเอียดก็จะเรียกตาแบนให้ไปหา
และจะสอนวิชาคาถาอาคมให้ อีกทั้งเรื่องยาสมุนไพร
เป็นแบบนี้ตลอดมา จนย่างเข้าปีที่ ๒ - ๓
อยู่มาครั้งหนึ่งพ่อท่านเอียดก็ได้หุงเหนียวดำ ,
เสกน้ำมันอ้ายกลิ้งให้ตาแบนและลูกศิษย์กินกันหลายคน
ในพิธีวันนั้นตาแบนเล่าว่ามีท่านขุนพันธ์ฯมากินด้วย
ตาแบนเล่าว่า... " แม้ในปัจจุบันยังจำหนวดได้แม่นยำ "
เมื่อกินเหนียวกินมันเสร็จต่างคนก็ได้แยกย้ายกันไป
และเมื่ออยู่มาไม่นาน (ประมาณ ๑ เดือน)
พ่อท่านเอียดก็ได้เริ่มสอนวิชาหุงเหนียวให้แก่ตาแบน
และสอนให้ตาแบนเรียนฝอยนอโม ทั้ง ๒๙ ตัว
และเมื่อตาแบนได้เรียนจริงจังแล้วในเวลาต่อมา
พ่อท่านเอียดก็ได้สอนให้ตาแบนชักผงยันต์นะคาบสำเหร็จ
โดยพ่อท่านเอียดได้เรียกตาแบนให้เข้าไปหาในกุฏิ
และยกตำราบุดดำ ( หนังสือบุด ) ให้แก่ตาแบน
และให้ตาแบนอ่านทำความเข้าใจหลายเที่ยว
เมื่อยามหัวรุ่งคืนนั้นก็ได้สอนให้ตาแบนชักผงนอโมถอด
และสอนให้ชักผงนะคาบสำเหร็จ , นะสูตรสำเหร็จ
ตลอดถึงนะคาบสายฟ้าฟาดและนะคาบตัวอื่นๆ
จนตาแบนมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในวิชานี้
หลังจากนั้นตาแบนก็ได้ขอให้พ่อท่านเอียด
ทำพิธีแช่ยาให้แก่ตาแบนและเพื่อนๆที่ได้ปรึกษากันไว้
แต่พ่อท่านเอียดบอกว่าท่านหยุดทำมาหลายปีแล้ว
ถ้าต้องการจะแช่ยาให้ไปแช่กับท่านปานที่วัดเขาอ้อ
ตาแบนและเพื่อนๆที่ได้ปรึกษากันไว้แล้วนั้น
พอถึงเดือน ๕ ก็ไปขอแช่ยากับพ่อท่านปานที่วัดเขาอ้อ
เมื่อได้จัดเตรียมเครื่องยาและทุกอย่างพร้อมแล้ว
พ่อท่านปานก็นัดวันให้มาเข้ามณฑลแช่ยา (นอนราง)
โดยแช่ในรางเรือที่บนไหล่เขาอ้อ ด้านตะวันออกเขาอ้อ
ตอนนั้นทางวัดได้กำหนดค่าแช่ยาคนละ ๑๒ บาท
เมื่อต้มน้ำยาเทใส่ลงในรางเรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตาแบนเห็นว่ามีหนามอยู่ในรางยาเลยไม่กล้าลงแช่
พ่อท่านปานเลยเรียกให้ตาแบนมายืนบนเหล็กกล้า
แล้วให้หลับตาว่าคาถาตามที่พ่อท่านปาลบอกให้ท่อง
เมื่อท่องคาถาเสร็จตาแบนก็เกิดอาการของขึ้นทันที
เลยกระโดดลงไปนั่งในรางยาแล้วแย่ (ขย่มตัว)
จนหนามบ้องที่มีขนาดใหญ่ๆในรางแช่ยาหักหมด
แล้วพ่อท่านปานก็พาคนอื่นๆลงในรางจนหมดทุกคน
ตอนขณะที่กำลังนอนแช่ยาต้องภาวนาคาถากำกับ
พ่อท่านปานจะให้ทุกคนท่องคาถาอยู่ตลอดเวลา
พอครบ ๑ ชั่วยามก็ขึ้นจากรางเรือ ชุดต่อไปก็ลงแช่อีก
พอครบอีก ๑ ชั่วยาม ชุดตาแบนก็ลงสลับกันไป
ได้ผลัดกันนอนแช่อยู่แบบนี้จนครบทั้ง ๗ วัน
พอวันที่ ๗ ก็ขึ้นจากรางแช่ เพื่อเข้ามณฑลไหว้ครู
พอยามหน้าเที่ยงก็ทำพิธีหุงเหนียวดำ - กินน้ำมัน
เมื่อพ่อท่านปานป้อนเหนียว - ป้อนน้ำมันจนครบทุกคน
พ่อท่านปานก็ทำการปลุกทุกคนที่เข้าร่วมในมณฑลพิธี
เมื่อพ่อท่านปานว่าบทปลุกตาแบนก็เกิดอาการของขึ้น
เมื่อตาแบนปล่อยให้ของขึ้นจนเต็มที่แล้ว
พ่อท่านปานท่านก็ได้ถีบตาแบนลงมาจากรางแช่ยา
ม้วนกลิ้งลงมาจากรางแช่ กระทบต้นไม้ ชนก้อนหิน
เมื่อลงมาถึงด้านล่างตาแบนก็ตั้งสติได้กับตัว
ตาแบนเล่าว่า...
" ท่านเขาอ้อแกถีบตาไอ้นุ้ยเหัอ
ม้วนกลิ้งลงจากเขาไม่รู้กี่หลบมั้ย แต่ไม่พรือไหรตรงไหน "
พ่อท่านปานเลยสั่งตาแบนเอาไว้ว่า " อย่าขึ้นจนลืมตัว
เพราะขึ้นแล้วมีแต่เพื่อนทำเรา ทำให้เราเสียเปรียบได้
ให้เรามีสติอยู่กับตัวเองให้มาก บังคับอย่าให้ขึ้นแรง "
พร้อมพ่อท่านปานบอกคาถาแย่กรอบให้ตาแบน
และข้อที่สั่งห้ามในการยึดถือสำหรับผู้ที่แช่ยา
จากนั้นตาแบนก็ลาพ่อท่านปานกลับวัดดอนศาลา
อยู่ต่อมาเพียงเดือนเดียวพ่อท่านเอียดก็มรณะภาพ
ไม่ทันได้จัดงานศพของพ่อท่านเอียด
พ่อเฒ่าหมึกพอทราบข่าวพ่อท่านเอียดมรณะภาพ
พ่อเฒ่าหมึกก็เดินทางมาจากจังหวัดตรังโดยทันที
เมื่อมาเห็นหีบศพของพ่อท่านเอียดที่ตั้งอยู่ในศาลา
พ่อเฒ่าหมึกก็น้ำตาไหล พร้อมพูดขึ้นว่า...
" ไม่ทันไหนทีท่านเกลอกะแขบไปเสียแล้ว "
วันรุ่งเช้าพ่อเฒ่าหมึกก็ชวนตาแบนกลับจังหวัดตรังทันที
ตาแบนถามพ่อเฒ่าหมึกว่า... " ไซไม่อยู่เผาอาจารย์ก่อน "
พ่อเฒ่าหมึกบอกตาแบนว่า... " กูทำใจไม่ได้
ท่านครูแกเป็นเกลอกับกูตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี "
เมื่อพ่อเฒ่าหมึกและตาแบนกับมาถึงจังหวัดตรัง
พ่อเฒ่าหมึกก็ไม่เคยไปพัทลุงอีกเลย...
***...ทั้งหมดนี้เป็นคำบอกเล่าจากปากของตาแบน
เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้สอบถามจากปากของท่านเอง
ตาแบนท่านจึงได้เล่าให้ฟัง...
#นี้คือความเกี่ยวข้องระหว่างตาแบนกับพ่อท่านเอียด
และการสืบทอดสายวิชานะคาบสำเหร็จจากพ่อท่านเอียด
ต่อมาตาแบนได้มอบตำราและครอบมือให้แก่ศิษย์หลายคน
และได้สั่งห้ามไว้ว่า..." อย่าให้ผิดเรื่องเมียคนอื่นเด็ดขาด "
((( อาจารย์เหลี้ยม นาโยง ผู้เขียน )))

 

หลายท่านถามถึงยอดการสร้างหนุมาน ดังผมได้เคยแจ้งไปตอนแหวนมหาชะตาล่าช้ามาก เรียกว่าทำให้หงุดหงิดไปมาก ซึ่งเพราะจำนวนไซส์ที่มากถึง 30 กว่าไซส์

ผมเองไม่ชอบรับจองรับค่าบูชามาแล้วต้องมาคอยลุ้นการล่าช้า ในงานหนุมานนี้จึงขอให้หล่อเสร็จแน่ใจถึงค่อยเปิดบูชาครับ เพราะหากช้าจากการขัดแต่ง ก็คงไม่นานมากแล้ว

ส่วนจำนวนสร้างแน่นอนว่าจะไม่ใช่แบบแหวนมหาชะตาที่เนื้อพิเศษหรือนวโลหะจะให้ตามจอง จึงขอดูเนื้อตัวอย่างให้แน่ใจก่อนครับ บวกกับงบประมาณ แล้วค่อยแจ้งช่างไป คือสร้างจำนวนจำกัด เพราะจะมีเนื้อชนวนรุ้งซึ่งจะถวายวัดด้วย

งานนี้จะทำกล่องใส่ด้วยครับจะได้ดูดีให้สมเป็นรุ่นแรก เพราะมั่นใจว่าจะติดทำเนียบเครื่องรางสะท้านแผ่นดินแน่นอน เพราะไม่ได้ลอกแบบพระดังไม่ได้ทำแบบโหลตามท้องตลาด

สรุป หากผมลงภาพการหล่อเมื่อไรก็เตรียมจองได้เลยครับ รอให้หล่อเสร็จซึ่งจะวันเดียวจบเพราะสร้างไม่มาก ลงภาพสรุปอะไรเสร็จแล้วก็เปิดจองครับ ท่านที่ติดตามไม่พลาดแน่นอน... จะได้บันทึกคุมยอดกันทีเดียวครับไม่ต้องหลายรอบซึ่งจะมึนมาก ๆ ..

หากเหลือจากการจองก็จะถวายวัดทั้งหมด (ขอเก็บเป็นที่ระลึกส่วนตัวเล็กน้อย) บวกกับกำไรที่ได้จากงานนี้ก็ถวายวัดด้วยครับ..

งานหนุมาน ผมคุยกับที่ปรึกษาเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งใช้ได้แน่นอนตามสไตล์พวกเราที่เทา ๆ 55 จะจำกัดรับจองเฉพาะผู้เคยร่วมบุญกันมาและไม่สร้างความวุ่นวายให้นะครับ พูดง่ายๆ ไม่รู้จักกันไม่รับจอง ...

 

นี่คือกำลังใจครับ งานหนุมานจะให้ดีที่สุด

 

ปัจจุบันวิชานะคาบสำเหร็จมีการถ่ายเอกสารตำรา ขายหรือแจกจ่ายกันไปมาก
มาสร้างพระตะกรุดหลายรุ่นแต่......ๆๆๆ

ผู้จารให้ผมสืบทอดครอบมือมาจากตาหมอแบนโดยตรง และยืนยันว่า.... มีเคล็ดลับที่สอนกันปากเปล่าไม่มีในตำรา และไม่สอนให้ง่ายๆ (หลักอาคมก็แบบนี้ครับ สายผมกับที่ปรึกษาเรียกว่า. อั้น...)

แผ่นจารนี้ได้ขอครูบาอาจารย์จาร และเสกกำกับมาเพิ่มอีกมาก จนผมต้องบอก พอแล้วครับ ขลังมากแล้ว555

 

ผู้ติดตามมาแต่แรกย่อมทราบแล้วว่าชนวนมวลสารต่าง ๆ เรียกว่าเตรียมการกันมาแต่กลางปีที่แล้วละครับ คัดสรรอย่างดีว่าใช้ได้จริง ๆ เหมือนตอนแหวนมหาชะตาคือ ไม่เอาชนวนเกี่ยวกับพระมาเด็ดขาด เพราะเราไม่ยึดให้เป็นแนวพระ

เรียกว่างานนี้ชนวนยิ่งกว่าแหวนมหาชะตาอีกครับ และใช้ก้านชนวนแหวนมหาชะตาที่เสกพร้อมแหวนมาแล้วด้วย

สิ่งสำคัญที่ผมต้องการเพื่อให้จบ และสุดยอดแบบไม่มีอะไรที่ค้างคาใจอีก เหมือนพระรอดปราบพิภพคือ...

ปราบมารให้สิ้นซากเรียกว่าบนบานศาลกล่าวได้ ไม่ใช่แค่มาพกเท่ ๆ รอลุ้นตอนเกิดประสบการณ์อุบัติเหตุแล้วไม่เป็นอะไร (แบบนี้มีเพียบ) หรือคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด พอไม่มีอะไรชีวิตราบเรียบก็เบื่อ วางขึ้นหิ้งหรือยัดใส่ถุง

ผลที่ต้องการที่สุดคือเป็นเหมือนคู่ชีวิต เหมือนเราสักหนุมานขลังๆ แล้วอยู่กับเราตลอดไป

ผมเรียกร้องที่ปรึกษาว่า "เป็นไปได้ไหมให้มีชีวิตจิตใจ เฝ้าบ้านรักษาทรัพย์ ปราบมารแบบสิ้นซากยิ่งกว่ากุมารทอง เพราะฤทธิ์กุมารทองอาจมีจำกัด"

เพราะปัญหามารมาราวี ย่อมมีอีกไม่จบ จะให้ทุกคนมาพกตะกรุดฟ้าสะท้านย่อมเป็นไปได้ยาก 55 หรือให้พกตะกรุดพญาพาลีก็ยากเข้าไปอีก55

จึงย้อนอดีตตอนครูบาสุข ท่านทำตะกรุดกาสะท้อนหลวงมาให้ ซึ่งได้ผลชัดเจนจากครูบาอาจารย์ที่ได้ไปคือ......มารมาแกล้งท่านตาย จนท่านไปงานศพแล้วสะเทือนใจว่า แรงเกิน"

ซึ่งผมก็ฉวยโอกาสตอนท่านสะเทือนใจ ไถตะกรุดนั้นมา และก็นำมาใช้จริงได้ผลช่วยปัดคุณไสยท่านที่โดนคุณไสย จนมีงานศพผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้น55

ที่ปรึกษาบอก "เป็นไปได้อยู่ที่ครูบาอาจารย์ท่านเสกแบบอย่างโหด ได้ไปเกริ่นกับท่านไว้แล้วว่าให้ลงให้ได้ขนาดนั้น.."

สรุป... งานหนุมานผมทุ่มเต็มที่ครับ เพราะผมอยากให้จบแบบไม่ค้างคาใจ จบคือ รู้สึกว่าตัวเองจบหน้าที่ เรียนรู้ความรู้ต่าง ๆ แล้วไปฝึกในขั้นทางจิตต่อไป...

ย้ำว่า หนุมาน ไม่รู้จักไม่รับจอง รู้จักเคยมาสร้างปัญหาให้ผมก็ไม่รับจอง ให้เฉพาะแฟนคลับจริง ๆ...

 

กว่าแบบจะออกมาสวยแบบนี้ ดังที่บอกใช้คอมพิวเตอร์ทำนะครับ ใช้เวลา Print แบบออกมา 8 ชม. แก้ไปแล้ว 2 รอบถึงพอใจ ใช้งบไป 20,000 บาทนะครับ ที่ปรึกษายังว่าไม่แพง 55

ตอนนี้รอช่างนำแบบหุ่นไปถอดพิมพ์แล้ว ทำเนื้อตัวอย่างออกมาครับ จากนั้นคุยกับที่ปรึกษาว่าจะทำเท่าไรก็จะสั่งช่างไปเลย แล้วรอนัดวันหล่อ ซึ่งอาจเป็นต้นเดือนหน้า (เลื่อนจากเดิมคือปลายเดือนนี้55)

หลังหล่อเสร็จเห็นของจริงจะมาเปิดจองครับ ยึดนโยบายเดิมคือหล่อเสร็จค่อยเปิดจอง...(เพราะยังกำหนดเวลาเสร็จไม่ได้ครับ)

ชนวนมวลสารจัดเต็มจัดหนัก คัดมาอย่างดีไม่ต้องมาลงบรรยายมาก เพราะผมไม่ชอบมาบรรยาย

ด้านการเสกวันนี้ที่ปรึกษาคุยกับครูบาท่านนึงแล้วว่าลงแบบมหาโหดท่านว่า "จัดให้ได้จะเอาแบบไหนละ55"

ซึ่งหาครูบาอาจารย์แบบโหด เฉือนไว้อีกท่านนึง ซึ่งพระผู้ใหญ่แนะนำมา รอที่ปรึกษาไปสัมผัสความลึก คม...

ด้านครูบาไชยรอเสกให้เช่นกันบวกกับฆราวาสให้สมกับเป็นรุ่นแรกวัดหมูเปิ้งครับ

 

ตอนนี้ใช้งบประมาณไปคร่าว ๆ (คร่าว ๆ นะครับเพราะใช้ทุนตัวเอง)

1.แผ่นทองคำ เงิน 15,770 บาท

2. แท่งเงิน 92.5 ประมาณ 1 กก.ประมาณ 15,000 บาท (ราคาตอนซื้อหลายปีก่อน)

3. ร่วมทำบุญค่าครู 2,000 บาท สมทบทำบุญเพิ่ม 3,000 บาท (ไม่ถือเป็นรายจ่ายแต่คือทำบุญ) สำหรับแผ่นจารชนวนสายใต้

4. ค่าแบบรายจ่ายจิปาถะแบบหนุมาน 20,000 บาท

5. จะมีค่าใช้จ่ายการหล่อ และค่ากล่อง จิปาถะอีกมากครับ... ไม่อยากคิด555

รอสรุปจำนวนสร้างกับที่ปรึกษา ดีดคำนวนต้นทุน ครับ...

เนื่องจากกำหนดระยะเวลายังไม่ได้ว่าจะสร้างเท่าใด เสร็จเมื่อใด รอให้หล่อเสร็จก่อนครับ ถึงแน่ใจ...

 

จัดหนัก จัดเต็ม สมศักดิ์ศรีรุ่นแรกมากๆครับ นับถือใจจริงๆครับพี่

 

ความยากที่แสนยาก คือการเสกครับ เนื่องจากชนวนเราสุดยอดแน่นอน ต้องหาครูบาอาจารย์ระดับสูง จัดรวมธาตุจัดกระแส

ดังที่ยึดแนวทางเดิม คือการเสกต้องแบบขอท่านลงแบบโหดให้ได้ตามหลักวิชาไม่งั้นก็คงไม่ต่างจากเครื่องรางทั่วไป และต้องสำเร็จวิชาหนุมานแบบเฉพาะทางจริง ๆ จริต ปฏิปทาแบบดุดัน ตบะอำนาจ...ไม่ใช่หาพระสายเมตตานะครับ

ซึ่งที่ปรึกษาก็เพียรหาไว้เนิ่น ๆ แล้วครับได้คุยกับท่านคร่าว ๆ ไว้แล้วท่านนึง ก็จะหาเพิ่มเติมอีก

ในส่วนฆราวาสเรามีพร้อม

 

ถ้าไม่สวยไม่ให้ออกมาแน่ครับ555 เรื่องขลังไม่ห่วง ห่วงแต่สวยงามครับ

 

ที่ปรึกษาฝากแจ้ง

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 หรือวันมาฆบูชาจะจัดงานทำบุญนิมนต์พระสงฆ์มาร่วมพิธีอธิษฐานพญาหมูและถวายเป็นสมบัติของสงฆ์

ขอเชิญร่วมทำบุญถวายสังฆทาน พระสงฆ์ 9 รูป ๆ ละ 1,000 บาท

พระสงฆ์อธิษฐานจิต 4 รูป สังฆทานร่วมทำบุญ รูปละ 3,000 บาท

แจ้งการรับเป็นเจ้าภาพสังฆทานได้ 0835167918

อนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพงานบุญนี้ครับ ยังรับเจ้าภาพอยู่นะครับ

ผู้ร่วมบุญนี้จะได้บุญกุศลอย่างแรก และอาจโชคดีแบบคาดไม่ถึงครับ อิอิ


ร่วมเป็นเจ้าภาพได้ครับ ยังไม่ครบชุดสังฆทาน

 

ว่าด้วยเรื่องวิชา " นะคาบสำเหร็จ "
วิชานะคาบสำเหร็จเป็นวิชาสำคัญอย่างมากของสำนักเขาอ้อ
เป็นดวงยันต์ที่สำเร็จมาจากลายลักษณ์ของพระพุทธองค์
คือลายเส้นเวียนขี้หอยของฝ่าพระพุทธบาทต่างๆ
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่างๆ
นะคาบสำเหร็จถือเป็นดวงยันต์ที่สำเร็จสูงสุด
และสูงยิ่งกว่าพระยันต์ทั้งปวงของสำนักเขาอ้อ
โดยดวงนะคาบสำเหร็จนี้จะเป็นดวงยันต์ที่หวงกันมาก
และเป็นวิชาที่ลับมากในศิษย์สำนักเขาอ้อ
เรียกว่าเป็นวิชาที่จะมอบให้กันก็ต่อเมื่อถึงวาระสุดท้าย
หรือถึงวาระอันสมควรแก่เหตุและผลแล้วเท่านั้น
ลักษณะของยันต์นะคาบสำเหร็จเป็นดวงยันต์ที่ซับซ้อน
เวียนไปเวียนมาคล้ายแหวนตานกยูง (ก้นหอย)
จึงมีจุดสังเกตุอยู่ว่าถ้าหากเริ่มชักดวงนะคาบสำเหร็จ
ตรงกลางสุดจากปฐมเป็นแหวนตานกยูงจากจุดต้น
และจะมีปัจฉิมอันเป็นที่สุดนะจุดปฐมที่เริ่มขึ้น
กล่าวง่ายๆคือชักเส้นดวงนะคาบสำเหร็จตรงไหน
กะจะชักเส้นดวงนะคาบสำเหร็จไปยังจุดจบตรงนั้น
และได้มีพระคณาจารย์และอาจารย์ทางสายฆราวาส
ที่เล่าเรียนสืบทอดวิชานะคาบสำเหร็จมานั้น
ได้นำมาจารแผ่นชนวนบ้าง วิธีการชักผงดินสอบ้าง
เพื่อนำมาสร้างเป็นพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆขึ้น
เพื่อหวังพุทธคุณ หวังอานุภาพแห่งดวงยันต์เป็นที่สุด
และต่อมาวิชานะคาบสำเหร็จได้ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างมาก
จนเมื่อพ.ศ.๒๕๔๙ ข้าพเจ้าได้จัดสร้างเหรียญขึ้นมา
ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ปางนั่งสมาธิ
ซึ่งมีชื่อว่า " พระศรีสรรญเพชรพุทธโคดม "
ด้านหลังเป็นดวงยันต์นะคาบสำเหร็จ ๑ ดวง
ซึ่งเป็นตำราดั้งเดิมที่ตาส้อง ทองแจ้ง อ.นาโยง จ.ตรัง
ได้เล่าเรียนสืบทอดมาจากพ่อท่านปาน วัดเขาอ้อ
จำนวนการจัดสร้างทั้งหมด เนื้อทองแดง ๓๐๐ เหรียญ
เนื้อตะกั่ว ๒ เหรียญ (เนื้อตะกั่วลองพิมพ์)
ได้ปลุกเสกเดี่ยวโดยตาส้อง ทองแจ้ง บ้านทุ่งส้าน จ.ตรัง
อาจารย์เชื้อ ทองคำแทน บ้านห้วยไทร จ.ตรัง
อาจารย์ประจวบ คงเหลือ บ้านดอนนูด จ.พัทลุง
อาจารย์เหลี้ยม บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง
และได้นำไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกในอุโบสถวัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง
((( ก่อนจะจัดสร้างข้าพเจ้าได้พิมพ์ซองขึ้น (คล้ายซองผ้าป่า)
ท่านใดร่วมปัจจัยมา ๑๐๐ บาทก็จะสมนาคุณไป ๑ เหรียญ )))
จนต่อมาเหรียญรุ่นนี้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก
เพราะประสบการณ์ต่างๆทีาเกิดขึ้นกับผู้ที่นับถือ
นำไปห้อยติดตัวและแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย
และต่อมาได้ใช้พิมพ์เดิมปั้มเนื้อผงว่าน ๒ - ๓ ครั้ง
และหล่อด้วยเนื้อตะกั่วชนวนยันต์ผสมเงินยวง ๔ ครั้ง
และเมื่อเกือบปลายปี พ.ศ.๒๕๖๑ ที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าได้จัดสร้างเหรียญนะคาบพระอรหันต์ ๘ ทิศ
หรือเหรียญโลกธาตุ ขึ้น จำนวนทั้งหมด ๑,๐๒๗ เหรียญ
ด้านหน้าส่วนตรงกลางเป็นพระพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา
และล้อมรอบองค์พระทั้ง ๘ ทิศตามทักขิณาวัตร (เวียนขวา)
ด้วยลายลักษณ์พระบาทนะคาบพระอรหันต์ ๘ ทิศ
และระหว่างกลางดวงยันต์นะคาบฯแต่ละดวงนั้น
ได้ลงเป็นองค์พระเพื่อใช้แทนพระอรหันต์ทั้ง ๘ องค์
และได้ลงชื่อของพระอรหันต์ทั้ง ๘ องค์ไว้ใต้องค์พระ
มีพระอัญญาโกณฑัญญะ (ทิศบูรพา) เป็นเบื้องต้น
และล้อมรอบชั้นนอกด้วยอักขระคาถาสูตรต่างๆ
ด้านหลังเป็นยันต์ลายลักษณ์พระบาทของพระพุทธองค์
มีนะคาบพระหัตถ์เบื้องขวา นะคาบพระหัตถ์เบื้องซ้าย
นะคาบพระบาทเบื้องขวา นะคาบพระบาทเบื้องซ้าย
และล้อมรอบชั้นนอกด้วยอักขระคาถาสูตรต่างๆ
ซึ่งเป็นตำราดั้งเดิมที่ตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง จ.ตรัง
ได้เล่าเรียนสืบทอดมาจากพ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา
ข้าพเจ้าจึงได้นำมาจัดสร้างเป็นเหรียญโลกธาตุในครั้งนี้
อีกเพื่อบูชาคุณของสำนักเขาอ้อ , พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา
คุณของตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง จ.ตรัง
และขึ้นเพื่อไว้เคารพนับถือ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ
และเพื่อสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนา...
((( อาจารย์เหลี้ยม นาโยง ผู้จัดสร้าง )))

 

แบบหนุมานถึงมือช่างแล้วครับ... ซึ่งช่างจะนำไปถอดพิมพ์ ทำตัวอย่างออกมาครับ เร็ว ๆนี้ อาจหลังตรุษจีน

แต่ได้คุยแล้วสวยงามอลังการณ์เรียกว่าอาจจะที่แรกที่พบมาจริง ๆ

โดยในการถอดพิมพ์หล่อ อาจมีปรับแต่งเล็กน้อยให้สวยงามก็รอชมได้ครับ เพราะอาศัยประสบการณ์ของช่างด้วยเพื่อให้หล่อออกมาจริงแล้วสวยงาม..

ถึงแจ้งไปว่าอาจมีช้ากว่าที่คิด จึงรอให้หล่อเสร็จนั่นละครับถึงเปิดจอง โปรดอดใจรอกัน รอให้เห็นของจริงเลยครับ ค่อยตัดสินใจมาจอง เพราะตั้งใจจะหยุดไปอีกนาน..

ด้านแผ่นจารเขาอ้อ ผู้ส่งติดธุระก็จะส่งให้พรุ่งนี้ครับถึงมือผมก็มะรืน

 

ควันหลง พระรอดปราบพิภพ

ที่ปรึกษาเล่าให้ฟังเมื่อเช้า พรรคพวกท่านรู้เข้ามาต่อว่าท่านกันใหญ่

"ทำไปได้ไงบดพระรอดแตกหัก" 555

ท่านก็ว่าทีแรกทำใจอยู่นานหลายวัน พอเห็นผมบอกจะแจกคนละ 1 องค์เลยทำใจอ้าวบดก็บดเป็นหัวเชื้อ



ต่อมา เหมือนเทพจัดสรร มีคนหามาให้เพิ่ม




ดังนั้นท่านที่ได้รับไป โปรดเก็บรักษาไว้ให้ดี มอบต่อให้คนที่รักได้เลยครับ เพราะคงไม่มีอีกแล้วในภายหน้า

ผงมีเหลือผมก็นำไปร่วมเสกพร้อมกันด้วย แล้วนำมาผสมส่วนกลางหมดแล้วครับ เรียกว่าถึงมีผสมก็ไม่เข้มข้นเท่าของเดิม และคงจะหยุดไปอีกนาน..

ที่ปรึกษายังจะนำไปเลี่ยมเงิน ด้วยเลยครับ
ท่านหวงมาก ๆ ...

และคนที่หามาให้ท่านเพิ่มก็หายสาบสูญไปเลย เรียกว่าอยากได้เพิ่มก็ไม่มีอีกแล้ว...

 

บางท่านพึ่งมาติดตามกระทู้นี้ และได้บูชาวัตถุมงคลเครื่องรางในชุดหลัง เห็นผลทันตา จึงตามบูชาในรุ่นก่อน ๆ หลายรุ่น แต่ที่หาได้ยากที่สุด คือตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4 และตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือน เพราะเรียกว่าเป็นยุคแรก รุ่นแรกของการปริวรรต แนวการสร้างและเสกเครื่องราง

โดยในส่วนลูกอม คือลูกอมกายสิทธิ์มหาลาภ หรือเรียกกันว่าลูกอมมหาลาภนั่นละครับ ผมยังเลี่ยมทองบูชาตลอดและอยู่ในคอ ของพวกผมที่เป็นเจ้าสัว

ในส่วนตะกรุดคือตะกรุดปราบพิภพ และตะกรุดฟ้าสะท้านซึ่งเป็นรุ่น 1 และรุ่น 2 ของตะกรุดละครับ

จริง ๆ จะบอกสื่อความหมายว่า เพราะคุยกับที่ปรึกษาในเมื่อวานและวันนี้ รำลึกความหลังด้วยกัน

ดังที่วันก่อนตอนครูบาไชยจารแผ่นสร้างหนุมาน ที่ปรึกษาก็เรียนท่านแล้วว่า "ทุกรุ่นพวกเรานำมาใช้กันเองด้วย"

คำว่า ใช้กันเองก็มีความหมายในตัว เหมือนดังพวกนายทุนขายพระที่มีพฤติกรรมตรงกันข้ามคือ

1.พอรู้ของไม่ดี มีปัญหารีบขายให้คนอื่น

2. ของดี ๆ เก็บไว้เอง เนื้อพิเศษกรรมการเก็บไว้เอง จะบอกว่า หมด เต็ม แล้วมาประมูลขายกันภายหลัง

ซึ่งพวกเราจะทำตรงข้ามเพราะนำมาใช้กันเอง ของไม่สวยจะเก็บไว้เอง สวย ๆ ให้คนอื่น

รำลึกความหลังที่ปรึกษา คำว่า ใช้กันเองคือ เรามี case ที่ต้องให้ใช้ ต้องสร้างขึ้นมานั่นละครับ

ซึ่ง ก็ได้ค้นคว้าหาวิธีสร้างของขึ้นมาใช้กันเอง และผมได้เล่าไปแล้วในกระทู้ ซึ่งสื่อความหมายอาจไม่บอกตรงๆ บอกอ้อม ๆ

ณ วันนี้ ณ จุดนี้ก็ใกล้จะสำเร็จตามต้องการแล้ว หากทุกท่านติดตามมาแรก ๆ ย่อมทราบ อย่างแรกเลย

1. แสวงหาธาตุกายสิทธิ์มาเพิ่มอำนาจในตัว (ท่าน QC ก็เริ่มต้นจากจุดนี้)

2. สร้างมีดหมอไว้ใช้กันเอง เพราะหาซื้อเช่าตามท้องตลาดมา ใช้งานจริงไม่เป็นอย่างที่คิด สร้างเองดีกว่าแจ่มกว่า (ด้วยเหตุผลอะไรคงไม่ต้องบรรยาย)

3. สร้างลูกอมมหาลาภ และอีกหลายๆ รุ่น

4. สร้างตะกรุดปราบพิภพ ต่อมาก็ตะกรุดฟ้าสะท้าน ไปใช้ปราบมาร (ได้ผลจนมารไหวตัวทันผวา)

5. จากนั้นก็สร้างมาหลายรุ่นเพื่อเสริม ทดลองวิชา

6. สร้างกริชมาเพิ่มล้างอาถรรพ์ และมาจบในตะกรุดปิตุ 9 ชั้น (ได้ผลที่สุดถึงที่สุด)

ในส่วนตะกรุดปิตุ 9 ชั้นจากสายสำเร็จลุนที่ปรึกษายังนำไปใช้งานและยอมรับในอานุภาพ ว่า ด้านการล้างอาถรรพ์พอฟัดพอเหวี่ยงกับปราบพิภพและฟ้าสะท้าน

สรุป งานหนุมาน ก็จะรวมทุกศาสตร์มา และสวยงามชนิดที่ช่างยังบอก "ผมว่าน่าเป็นรุ่นแรกในประเทศไทยเลยที่สวยงามอลังการณ์ขนาดนี้ " (ช่างบอกมานะ เขาอาจพูดเอาใจผมก็ได้555) รอดูของจริงครับ

 

ใครมีแหวน หรือตะกรุต นี้สบายเลยนะครับ ใส่พระและเครื่องรางรวมกันได้พลังไม่ขัดกัน

 

ถ้าต้นกำเนิดเดียวกันใส่พานรวมกันได้เลยครับ ไม่ขัดกัน... ห้อยหรือพกรวมกันได้ครับ...