ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

โซมาเลีย อย่างน้อย4 คนเสียชีวิต ในวันพุธและอีก8คนได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจมตีโดยกลุ่มอัลชาบับ/โดยระเบิดรถยนต์ที่สี่แยกใกล้กับรัฐสภาโซมาลี ในโมกาดิชู
แหล่งที่มาของสถาบันได้รับการยืนยัน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เครื่องบินยูเครน ผู้โดยสาร 176 ตายหมด
82 จากอิหร่าน 63 จากแคนาดา
11 ยูเครน 10 สวีเดน
4 อัฟกานิสถาน 3 เยอรมนี 3 สหราชอาณาจักร

 

มีรายงานข่าว วัดไทยในออสเตรเลีย รอดพ้นจากไฟป่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ...ในขณะที่ป่าโดยรอบถูกเพลิงเผาไหม้...
โบสถ์วัดไทย อยู่ท่ามกลางไฟป่า ที่ซิดนีย์ แต่ไม่ถูกไฟไหม้เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก
.
.
.
.
.
.
.
.
เครดิตภาพ ดร. ภัทรนิธิ์ วิสุทธิศักดิ์
เครดิตข้อมูล เตือนภัยพิบัติโลก

 

ผู้นำสูงสุดอิหร่านกร้าว ตอบโต้ต่อสหรัฐขณะนี้ แค่ ‘ตบ’ เท่านั้น
โดยกองบรรณาธิการ -8 มกราคม 2020

ภาพ เพรสทีวี
ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี ได้กล่าวถึงการตอบโต้ในตอนเช้าวันนี้ของอิหร่านต่อสหรัฐจากเหตุลอบสังหารนายพลกอเซม สุไลมานี ว่าเป็นเพียง “ ตบ” เท่านั้น เพรสทีวีสื่ออิหร่านรายงาน

“การตบถูกส่งออกไปเมื่อคืน แต่สิ่งที่สำคัญคือการปรากฏตัวของอเมริกาในภูมิภาคจะสิ้นสุดลงแล้ว” คาเมเนอี กล่าวในวันพุธ (8 ม.ค.)

คำปราศรัยของผู้นำสูงสุดอิหร่านซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แห่งชาติเกิดขึ้นคล้อยหลังไม่กี่ชั่วโมงที่อิหร่านตอบโต้สหรัฐต่อการลอบสังหารนายพลกอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายที่โดดเด่นที่สุดในตะวันออกกลางและอิหร่าน

คาเมเนอีกล่าวว่า อิหร่านมีความพร้อมในการเผชิญกับอำนาจการข่มขู่ทั่วโลก

อิหร่านยิงจรวดหลายสิบลูกโจมตีฐานทัพอิรักสองแห่งที่เป็นที่ตั้งกำลังของกองทัพสหรัฐฯ จรวดชุดแรกยิงที่ฐานเอนอันอะซัด ในจังหวัดอันบาร์ และชุดที่สองยิงไปยังฐานทัพในจังหวัดเออร์บิล ในช่วงเช้าตรู่ของวันพุธ (8 ม.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างเตหะรานและวอชิงตัน


https://www.publicpostonline.net/33793

 

นายพลระดับสูงเตือน อิหร่านจะตอบโต้รุนแรงกว่านี้ หากสหรัฐโจมตีครั้งใหม่ โดย กองบรรณาธิการ
-8 มกราคม 2020


ภาพ ตัสนีมนิวส์
ตัสนีมสื่อกึ่งทางการของอิหร่าน รายงานว่า เสนาธิการกองกำลังอิหร่านเตือนสหรัฐว่าการกระทำชั่วร้ายใหม่ใดๆ จะนำไปสู่การตอบโต้ของอิหร่านที่ “รุนแรงกว่า บดขยี้มากขึ้น และกว้างขึ้น”

ถ้อยแถลงนี้เกิดขึ้นคล้อยหลังหลายชั่วโมงที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) โจมตีฐานทัพสหรัฐสองแห่งในอิรักเพื่อตอบโต้การลอบสังหารนายพลกอเซม สุไลมานี

ในแถลงการณ์เมื่อเช้าวันพุธ (8 ม.ค.) นายพลโมฮัมหมัด ฮุสเซน บากีรี กล่าวว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธของกองทัพอากาศ IRGC ในชั่วโมงแรกของวันพุธนี้ยังฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก คือคำเตือนแก่เจ้าหน้าที่ ของ “ระบอบก่อการร้ายสหรัฐฯ”

เขากล่าวว่า การโจมตีกองกำลังอเมริกันในอิรักครั้งนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของความสามารถของกองกำลังอิหร่าน และดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายสหรัฐในการสังหารนายพลสุไลมานี

“นับจากนี้ไป การกระทำชั่วร้ายใหม่ใด ๆ ของสหรัฐฯจะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรงกว่า และบดขยี้ยิ่งขึ้น ด้วยขอบเขตที่กว้างขึ้น” นายพลอาวุโสชาวอิหร่านกล่าวเสริม

“ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่ชั่วร้ายของสหรัฐอเมริกาจะตระหนักถึงความสามารถของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านในขอบเขตทางภูมิศาสตร์ระดับโลกที่มากขึ้น ใช้แนวทางที่มีหลักการ และถอนกองกำลังของกองทัพผู้ก่อการร้ายออกจากภูมิภาคโดยเร็วที่สุด” บากีรีย้ำ

ในช่วงต้นชั่วโมงของวันพุธ IRGC ยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐสองแห่งในอิรัก รวมถึงฐานทัพอากาศสหรัฐเอน อัลอะซัด ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของอิรักในการตอบโต้การลอบสังหารนายพลอิหร่าน

https://www.publicpostonline.net/33802

 

สุดประทับใจ! วัยรุ่นสองพี่น้องชาวออสเตรเลีย ตระเวนขับรถช่วยโคอาลาพ้นเปลวเพลิงไฟป่า ในเขตเกาะจิงโจ้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งช่วยมาแล้วกว่า 20 ตัว และจะพาโคอาลาเหล่านี้ไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนส่งมันกลับคืนสู่ป่าที่ปลอดภัย เมื่อหายดีแล้ว #ข่าวช่องวัน

 

ใครว่าปีนี้ “เผา” ไม่จริง
เผยแพร่: 8 ม.ค. 2563 16:33 โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


การสังหารนายพลกอเซ็ม สุไลมานี ของอิหร่าน กลายเป็นปัจจัยใหม่ ซึ่งซ้ำเติมให้เศรษฐกิจปีนี้ ส่อเค้าว่า จะเลวร้ายเกินกว่าที่เคยประเมินกันไว้ และไม่ง่ายที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรับมือผลกระทบรุนแรงที่กำลังตามมา

ตลาดหุ้น ราคาทองคำ และราคาน้ำมันเกิดความปั่นป่วนอย่างหนัก จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หรือทันทีที่สหรัฐฯ ส่งโดรนสังหารนายพลกอเซ็ม

และเมื่ออิหร่านเปิดปฏิบัติการตอบโต้ โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ทำให้คาดหมายว่า ศึกระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านคงจะไม่จบลงง่าย

ชนวนสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านก่อตัวขึ้นแล้ว โดยไม่มีใครทำนายได้ว่า เหตุการณ์จะลุกลามบานปลายอย่างไร ยืดเยื้อขนาดไหน และผลกระทบทางเศรษฐกิจจะร้ายแรงเพียงใด

เศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางอยู่แล้ว ถ้าถูกผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านเข้ามาอีก จึงหวั่นกันว่า อาจเกิดวิกฤตขึ้นได้

ประมาณการเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ ตัวเลขที่ตั้งไว้ตัวเลขต่ำอยู่แล้ว โดยคาดว่าจีดีพีจะโตประมาณ 2.8% ภายใต้สมมติฐานว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนคลี่คลาย การส่งออกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเกิน 2%

แต่ประมาณการจีดีพี ยังไม่ได้ประเมินผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าปีนี้จะวิกฤตหนัก และยังไม่ได้รวมผลกระทบจากชนวนสงครามสหรัฐฯ กับอิหร่าน จนอาจจะทำให้การเซ็นข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนต้องเลื่อนออกไป

ปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลต้องตั้งทีมขึ้นมาทางแก้ไข เพื่อบรรเทาผลกระทบของเกษตรกรทั้งประเทศ เพราะผลผลิตภาคเกษตรจะเสียหายหนัก ทำให้เกษตรกรไม่มีรายได้ และส่งผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศที่ตกต่ำอยู่แล้ว

ส่วนวิกฤตในตะวันออกกลางครั้งใหม่ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิต โดยสินค้ามีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้น

ข้าวของจะแพงขึ้น ท่ามกลางภาวะที่ผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ และทำให้ยอดขายสินค้าทรุดลงต่อเนื่อง

การส่งออกที่พยายามผลักดันให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 2% นั้น อาจต้องทบทวนประมาณการกันใหม่ เพราะผลกระทบจากสถานการณ์สงคราม ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จะทำให้การส่งออกลดลง เช่นเดียวกับรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจะยกเลิกการเดินทาง

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านในขณะนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยไม่อาจประเมินได้ว่า จะใช้เวลาสถานการณ์การตอบโต้ระหว่างทั้งสองฝ่าย จะยาวนานเท่าไหร่

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ หาความแน่นอนไม่ได้ นักลงทุนคงชะลอการตัดสินใจ เว้นวรรคการลงทุน ผู้บริโภคหยุดการใช้จ่าย ทำให้การค้าและการลงทุนทั่วโลกซบเซา เศรษฐกิจเงียบเหงา

แม้ไม่เกิดเหตุการณ์สังหารนายพลอิหร่าน เศรษฐกิจไทยก็ย่ำร่อแร่อยู่แล้ว โดยปีนี้ประเมินว่า สถานการณ์จะไม่ดีขึ้นกว่าปีก่อนมากนัก โดยกำลังซื้อยังตกต่ำ การส่งออกไม่ฟื้น การลงทุนไม่สดใส เมื่อเกิดกรณีสหรัฐฯ กับอิหร่าน ทำให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจปีนี้จะทรุดหนักกว่าปีที่แล้ว

เริ่มต้นศักราชใหม่เพียงไม่กี่วัน ข่าวร้ายชิ้นใหญ่ก็ถล่มใส่ซ้ำเติมเศรษฐกิจเข้ามาอีก จนต้องทบทวนประเมินภาวะเศรษฐกิจกันใหม่ เพราะทุกอย่างมีแนวโน้มเลวร้ายลง

ตลาดหุ้นที่มองกันว่า น่าจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,700 จุด ตอนนี้เริ่มมีมุมมองจากบริษัทโบรกเกอร์บางแห่งว่า นักลงทุนมีโอกาสได้เห็นดัชนีหุ้นหลุดต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด

จีดีพีที่มองกันว่า จะโต 2.8% ถ้าศึกสหรัฐฯ อิหร่านยืดเยื้อ อาจต้องปรับลดประมาณการกันใหม่ตั้งแต่ต้นปีกันเลย เช่นเดียวกับปีก่อน ซึ่งปรับประมาณการกันหลายรอบ จากจีดีพีโต 4% สุดท้ายปลายปีปรับลดเหลือเพียง 2.5%

ใครที่ประกาศว่า ปีนี้ไม่มีการเผาจริง อาจต้อง

https://mgronline.com/daily/detail/9630000002249

 

ออสเตรเลียกำจัดอูฐทิ้งหมื่นตัว เพื่อป้องกันแหล่งน้ำที่เหลืออยู่
8 มกราคม 2020 เขียนโดย workpoint News



วันที่ 8 ม.ค. 63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ชาวพื้นเมืองอะบอริจิน ในเขตAnangu Pitjantjatjara Yankunytjatjara (APY) รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) ได้เริ่มกำจัดอูฐ จำนวนมากกว่า 1 หมื่นตัว ด้วยการยิงพวกมันด้วยปืนล่าสัตว์บนเฮลิคอปเตอร์ โดยประชาชนในพื้นที่ได้อธิบายถึงแผนการกำจัดเหล่านี้ว่า เนื่องด้วยสภาพอากาศที่แล้งจัด ส่งผลให้น้ำในธรรมชาติ ในลำธาร, บ่อน้ำธรรมชาติ หรือหนองน้ำ มีจำนวนน้ำที่จำกัด อีกทั้งชาวบ้านในพื้นที่ยังต้องอาศัยแหล่งน้ำเหล่านี้ในการบริโภคและการเกษตร ทำให้พวกเขาต้องกำจัดอูฐไม่ให้มาแย่งแหล่งน้ำดังกล่าว

ปัจจุบันออสเตรเลียมีจำนวนประชากรอูฐมากกว่าล้านตัวทั่วประเทศ โดยอูฐเริ่มถูกนำเข้ามาในออสเตรเลียเมื่อปี 1840 และยังมีการนำเข้าอูฐจากอินเดียมากถึง 2 หมื่นตัวในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ทำให้ที่ผ่านมาจึงเกิดปัญหาขึ้นระหว่างเกษตรกรท้องถิ่นกับอูฐ อยู่เป็นประจำ เนื่องจากอูฐเป็นสัตว์ที่กินน้ำจุ อีกทั้งจำนวนที่มหาศาลของพวกมัน เมื่อเทียบกับแหล่งน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องกำจัดอูฐบางส่วน เพื่อกักเก็บน้ำที่มีอย่างไว้ใช้ ตามรายงานระบุว่า ในการล่าอูฐครั้งนี้จะใช้เวลาเพียง 5 วันเท่านั้น

https://workpointnews.com/2020/01/0...o-10000-camels-in-drought-stricken-australia/

 

ไม่ใช่แค่ผู้หญิง #มะเร็งเต้านม โรคร้ายที่ผู้ชายก็เป็นได้
แม้ว่าเป็นโรคร้ายที่พบในเพศหญิงมากเป็นอันดับหนึ่ง แท้จริงแล้วในเพศชายก็มีความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมเช่นกัน
จากสถิติพบว่าโดยทั่วไปเพศชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมตลอดอายุขัย อยู่ที่ 1 ใน 1,000
ในประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2562 คาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพศชายรายใหม่ 2,670 คน ซึ่งน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด และในจำนวนนี้เสียชีวิต 500 ราย
ขณะที่เพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมอยู่ที่ประมาณ 41,760 รายต่อปี โดยอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในเพศชายค่อนข้างคงที่ในช่วง 30 ปี ในขณะที่อุบัติการณ์ในเพศหญิงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประมาณ 100 เท่า
ในเพศชายนั้นพบบ่อยในช่วงอายุ 60-70 ปี โดยพบว่าผู้ชายที่เป็นมะเร็งเต้านมมีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม 7-8 ปี
ส่วนสถานการณ์มะเร็งเต้านมของคนไทย ในปี 2557 พบว่ามีผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 162 คน และผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 14,804 คน
ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งเต้านมมาจากหลายปัจจัย อาทิ เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณหน้าอก มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว ซึ่งพบว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว โดยจะเป็นญาติทางฝ่ายชายหรือหญิงก็ได้
ปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งเต้านมในเพศชายไม่ต่างจากเพศหญิง นั่นคือการมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่เรียกว่า กลุ่มอาการคลายน์เฟลเทอร์ ซึ่งมีความผิดปกติของดีเอ็นเอ คือ มีดีเอ็นเอของเพศหญิงเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงและระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำลง ทำให้มีลักษณะเหมือนเพศหญิง
ผู้ชายที่เป็นกลุ่มอาการนี้จะมีความสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ช่วงไหล่แคบกว่าช่วงเอว มีเต้านมใหญ่ ลูกอัณฑะเล็กและเป็นหมันจากการไม่มี ตัวอสุจิหรือมีตัวอสุจิน้อยมาก
กลุ่มอาการนี้พบได้ไม่บ่อยคือพบประมาณ 1 ใน 1,000 คน นอกจากนั้นภาวะอื่นๆ ที่ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ เช่น ตับแข็ง ที่ทำให้ผู้ชายนักดื่มมีเต้านมใหญ่กว่าผู้ชายปกติ เนื่องจากตับเสื่อมสภาพลง ไม่สามารถทำลายฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ เช่น ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ยาบางตัวที่มีผลข้างเคียงทำให้เต้านมใหญ่ขึ้น เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาต่อมลูกหมากโต เป็นต้น
อาการที่พบบ่อยที่สุดคือคลำเจอก้อนที่เต้านม โดยเฉพาะบริเวณ ใต้หัวนม อาการอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากในเพศหญิง ได้แก่ มีของเหลวออกจากหัวนมเป็นน้ำปนเลือด หัวนมบอด เต้านมหรือหัวนมแดง หรือมีผื่นหรือแผลเรื้อรังบริเวณหัวนม โดยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ในระยะที่เป็นมากแล้ว ส่วนอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยชายไม่แตกต่างจากเพศหญิงแต่อย่างใด
ดังนั้น ชายผู้สูงวัยจึงควรใส่ใจสังเกตความผิดปกติของเต้านมและตรวจเต้านมตนเองเป็นประจำ เช่นกัน
#Qol #MGROnline
https://mgronline.com/qol/detail/9630000002220

 

นี่เพิ่งเข้ามา/ สิงคโปร์แอร์ไลน์, แอร์แคนาดา, บริติชแอร์เวย์, เวียดนามแอร์ไลน์, แควนตัส, แอร์ฟรานซ์และเที่ยวบิน KLM จะไม่ผ่านน่านฟ้าอิหร่าน / อิรักจนกว่าจะมีประกาศ # PS752
“ ตามมาตรการป้องกันและติดตามข่าวการนัดหยุดงานของสายการบิน Air France ได้ตัดสินใจระงับจนกว่าจะมีการแจ้งเตือนทุกเที่ยวบินผ่านน่านฟ้าอิหร่านและอิรัก” Air France กล่าว
“ KLM จะไม่ใช้ประโยชน์จากน่านฟ้าอิหร่านหรืออิรัก เที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางและจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากในตะวันออกกลางจะดำเนินการโดยใช้เส้นทางอื่น KLM จะตรวจสอบภูมิภาคต่อไปและจะยังคงติดต่อกับเจ้าหน้าที่”
➡️ติดตามเราได้ที่ twitter.com/AeronewsGlobal สำหรับการอัพเดต

 

# PS752 CRASH / ภาพถ่ายเหล่านี้แสดงบางส่วนของลำตัวและส่วนปีก (ผ่านทาง twitter.com/jacdecnew) พวกมันอาจมาจากลูกกระสุนปืน แต่ก็มาจากเศษเล็กเศษน้อยที่เกิดจากปัญหาทางเทคนิคได้ด้วย นักบินไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน สายการบินระหว่างประเทศยูเครนกล่าวว่ามันเป็นการหยุดเที่ยวบินไปเตหะรานโดยไม่มีกำหนด
ความล้มเหลวของการปรับปรุง / เครื่องยนต์ก่อให้เกิดความผิดพลาดของสายการบินยูเครนในอิหร่านมากกว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือการก่อการร้าย IRIB โฆษกของอิหร่านรายงานว่าหนึ่งในกล่องดำถูกกู้คืนแล้ว
รายละเอียด: https://aeronewsglobal.com/video-crashed-in-iran-boeing-737-800-ukraine-international-flight-ps752/
#PS752 CRASH / These photos show some holes in the fuselage and a wing section (via twitter.com/jacdecnew). They could come from projectiles, but also from debris caused by a technical problem. The pilots did not declare an emergency. Ukraine International Airlines said it was suspending flights to Tehran indefinitely.
UPDATE / Engine failure caused the crash of a Ukrainian airliner in Iran, rather than a missile attack or act of terrorism, the Ukrainian embassy to Iran said on Wednesday. One of the black boxes has been recovered, Iran’s state broadcaster IRIB reported.
Details: https://aeronewsglobal.com/video-crashed-in-iran-boeing-737-800-ukraine-international-flight-ps752/

 

กองทัพอากาศสหรัฐฯ โชว์แสนยานุภาพทางอากาศ
08 ม.ค. 2020 - 16:59 น.

กองทัพอากาศสหรัฐฯ แสดงแสนยานุภาพทางอากาศ ที่รวมทั้งเครื่องบินรบ F-35A Lightning II ทะยานขึ้นจากฐานทัพในรัฐยูท่าห์ อย่างสวยงามถึง 52 ลำ โดยได้สมญาว่า “elephant walk”




เครื่องบินรบ F-35A Lightning II จำนวน 52 ลำ มูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 126,000 ล้านบาท ได้ทะยานขึ้นจากรันเวย์ของฐานทัพอากาศ “ฮิลล์” ในรัฐยูทาห์ เมื่อวันจันทร์ โดยเป็นการฝึกซ้อมกองบินขับไล่ทางยุทธวิธีที่ 338 กับ 419




การฝึกถูกวางแผนมาหลายเดือนแล้ว แต่บังเอิญมาตรงกับช่วงที่สหรัฐฯ กำลังมีปัญหาขัดแย้งกับอิหร่านพอดี และกองบินฯ ได้ยืนยันว่า F-35A ฝูงนี้ มีศักยภาพอย่างเต็มที่ในการเข้าสู่สงคราม F-35A ชุดแรก เข้าประจำการที่ฐานทัพอากาศฮิลล์ เมื่อ 4 ปีก่อน และได้ชื่อว่าเป็นอากาศยานที่ก้าวหน้าที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ และในขณะที่พวกมันเคลื่อนไปตามรันเวย์ ก็ถูกตั้งสมญาว่า “elephant walk” ที่พร้อมจะโจมตีเป้าหมายทุกรูปแบบ




https://www.springnews.co.th/global/598314

 

PrayforAustralia
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ไฟป่าออสเตรเลีย
พายุไซโคลน Blake เคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย
จะถือว่าเป็นเคราะห์ของประเทศออสเตรเลียก็ไม่เชิง เพราะขณะที่กำลังประสบกับวิกฤติไฟป่าในรัฐทางชายฝั่งตะวันออกที่ไม่รู้ว่าจะดับลงเมื่อไหร่ ในเวลาเดียวกันรัฐที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือก็กำลังประสบกับวิกฤติพายุไซโคลน Blake ที่มีความเร็วลมสูงอันเป็นสาเหตุให้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ของรัฐ Kimberley ได้รับผลกระทบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทางกรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย กล่าวว่า “พายุไซโคลนเขตร้อน Blake จะอ่อนกำลังลงในข้ามคืนเมื่อพัดเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ ” อย่างไรก็ตาม ตามการพยากรณ์อากาศระบุว่าพายุไซโคลน Blake ได้เคลื่อนตัวไปยังตะวันตกเฉียงใต้และเข้าฝั่งที่ Eighty Mile Beach ใกล้กับ Wallal ในช่วงเช้าของวันพุธ
SD Thailand จึงขอให้ชาวออสเตรเลียที่ประสบภัยทั้งไฟป่า และภัยจากพายุไซโคลนปลอดภัย

 

อิหร่านเตรียม 13 แผนแก้แค้นอย่างสาสม ลั่นสร้าง ‘ฝันร้าย’ ครั้งประวัติศาสตร์ให้ชาวอเมริกัน


Last updated: 8 มกราคม 2563 | 01:49

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุด ของอิหร่านเผยอิหร่านกำลังพิจารณาแผนการแก้แค้น 13 แผนด้วยกัน เพื่อตอบโต้การใช้โดรนสังหารปลิดชีพของพล.อ.กัสเซ็ม โซเลมานี ดับคาสนามบินอิรัก



7 มกราคม 2563- รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยอิหร่านกำลังพิจารณาแผนการแก้แค้น 13 แผนด้วยกัน เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ที่สังหารพล.อ.กัสเซ็ม โซเลมานี ในอิรัก

นายอาลี ชัมคานี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ระบุว่า ต่อให้รัฐบาลเตหะรานเรื่องทางเลือกที่เบาที่สุดแล้ว ทางเลือกนั้นก็ยังจะสร้าง ฝันร้ายครั้งประวัติศาสตร์ให้กับชาวอเมริกัน

แม้ชัมคานี จะไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดอย่างเจาะจงเกี่ยวกับแผนการต่างๆ แต่เขาก็บอกว่า กำลังมีการพิจารณาที่จะโจมตีกองกำลังของสหรัฐในตะวันออกกลางอยู่

เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ บอกด้วยว่า อิหร่านกำลังสอดส่องฐานทัพของสหรัฐที่มีอยู่ทั่วอิรักอย่างใกล้ชิด พร้อมอ้างว่า รู้จำนวนของกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่อยู่ตามฐานแต่ละแห่งอย่างแน่ชัด

“เรายืนยันว่า จะต้องถอนกองทัพทั้งหมดออกไป ถ้ากองทัพยังต้องการที่จะฝังตัวอยู่แต่ในที่มั่น เราก็จะทำลายฐานทัพเหล่านี้ เพิ่มเติมจากการทำลายกองทัพ”

“พวกที่คลานเข้าไปยังที่หลบภัย และปิดประตู เพราะหวังว่าจะหนีจากแก้แค้นของเรา เป็นพวกที่ไม่ตระหนักเลยว่า สาธารณรัฐอิสลามจะเปิดประตูสู่นรกให้กับพวกเขา”

ชัมคานี ยังกล่าวในเวลาต่อมาว่า หากกองทัพสหรัฐไม่ออกไปจากภูมิภาคนี้อย่างสมัครใจ และไปในทันที อิหร่านก็จะทำบางอย่างที่จะทำให้ร่างกายของพวกเขาต้องออกไปในแบบไร้วิญญาณ

แม้อิหร่านจะไม่เปิดเผยแผนการในอนาคตอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า ทหารอเมริกัน 5,000 นาย ที่ประจำการอยู่ทั่วอิรัก และอีก 500 นายที่ยังอยู่ในซีเรีย จะตกเป็นเป้าหมายในการแก้แค้น

ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ เลขาธิการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ระบุว่า ฐานทัพสหรัฐทุกแห่ง และทหารอเมริกันทุกคนในภูมิภาคนี้ ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีแล้ว

ก่อนหน้านี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐเชื่อมั่นว่า อิหร่านจะพยายามสังหารนายพลอเมริกันสักคนหนึ่ง ที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ ในการแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และเจ้าหน้าที่รายหนึ่งบอกว่า สหรัฐคาดการณ์ว่าจะเกิดการโจมตีครั้งใหญ่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งภายใน 1 หรือ 2 วันข้างหน้า

กองทัพสหรัฐยังได้เพิ่มการป้องกันกำลังพลของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอิรัก ด้วยการนำเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 จำนวน 6 ลำ มาประจำการอยู่ที่เกาะดิเอโก การ์เซีย ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษ ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อให้เครื่องบินเหล่านี้ อยู่ในระยะห่างมากพอที่จะพ้นจากรัศมีการโจมตีของขีปนาวุธอิหร่าน แต่ยังอยู่ในระยะที่ใกล้พอสำหรับการปฏิบัติภารกิจโจมตี

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุสังหารนายพลสุไลชานี ส่งผลให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐฯ และอิหร่าน ส่อแววเดือดมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด อิหร่านส่งสัญญาณการตอบโต้ต่อสหรัฐฯ ด้วยการชักธงแดงขึ้นเหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ Holy Dome of Jamkaran Mosque ทางตะวันออกของเมืองกูม (Qom)

การชักธงแดงขึ้นเหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์นี้ ถือเป็นครั้งแรก ทำให้หลายฝ่ายต่างวิตกกับท่าทีที่เกิดขึ้น เนื่องจากสัญลักษณ์การชักธงแดงขึ้นสู่ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคาราน ( Jamkaran Mosque ) ถือเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า จะมีการแก้แค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิต หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นการแสดงออกได้ว่า อิหร่านกำลังประกาศสงครามต่อสหรัฐฯนั่นเอง

สำหรับสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคารานนั้นถูกสร้างตามคำสั่งของฮาดรัท โฮจัด ในปี 393 ฮิดเราะห์ศักราชหรือปีที่ 17 แห่งรามาดอน หรือในราวปี ค.ศ.974 ซึ่งมีความสวยงามและกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มักจะแวะไปเยี่ยมชม

First posted: 8 มกราคม 2563 | 01:27

http://www.thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=37118&rand=1578421649

 

กองบัญชาการร่วม Operation Inherent Resolve (OIR) ของพันธมิตร ที่นำโดยสหรัฐ ได้ย้ายออกจากย่าน Green Zone ของกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ไปยังคูเวตเรียบร้อยแล้ว
จากการเปิดเผยของ พันเอก Tõnu Miil ทหารชาวเอสโตเนีย ตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐ ได้บอกแก่ Estonian Public Broadcasting (ERR) ทางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 8 มกราคมว่า กองบัญชาการของ OIR ได้ย้ายออกจากอิรัก ไปยังคูเวต ก่อนการโจมตีไม่กี่วัน เราบินออกจากกรุงแบกแดดในตอนกลางคืน และทุกหน่วยงานของ OIR จะร่วมกันเปิดศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ในคูเวต และตัวของพันเอก Tõnu Miil ได้มาถึงคูเวต ในเช้าวันพุธที่ 8 มกราคม 2020

 

มีรายงานด่วนขึ้นมาเมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอิรักว่า มีจรวดที่ยิงจาก MLRS หรือ Multiple Launch Rocket System จำนวน 3 ลูกถูกยิงเข้าไปในย่าน Green Zone โดยจรวดตกห่างจากสถานทูตสหรัฐเพียง 100 เมตร และเกิดไฟไหม้

 

'ทรัมป์' แถลง 'ไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิตทหารอเมริกัน' หลังอิหร่านยิงถล่มฐานทัพอิรัก
มกราคม 08, 2020

dfghuj

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงผ่านการถ่ายทอดสดในวันพุธ โดยระบุว่า การโจมตีฐานทัพในอิรักโดยอิหร่านไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของทหารอเมริกัน

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า อเมริกันเตรียมตัวที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ตาม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่อไปจากนี้ โดยจะไม่มีการใช้กำลังทางทหารตอบโต้ แต่จะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่อรัฐบาลเตหะรานโดยทันที พร้อมเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ทำความตกลงกับอิหร่านฉบับใหม่ที่ทำให้โลกสงบสุขขึ้น

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ตนจะเสนอให้องค์การสนธิสัญญาแอตเเลนติกเหนือหรือนาโต้ มีบทบาทมากขึ้นในสถานการณ์ตะวันออกกลาง และว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ประชาชนและผู้นำของอิหร่านมีอนาคตที่ดีตามที่ควรได้รับ รวมทั้งมีความรุ่งเรืองและสันติภาพที่สอดคล้องกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก

เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ฐานทัพสองแห่งในอิรัก ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้ง

ภาพเหตุการณ์โจมตีฐานทัพอากาศ ทีมีกำลังสหรัฐฯประจำการ ในอิรัก

กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หรือ IRGC อ้างความรับผิดชอบในการยิงขีปนาวุธนำวิถีกว่าสิบนัด เพื่อถล่มฐานทัพอากาศในอิรัก

แถลงการณ์ของผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการสาธารณะ โจนาธาน ฮอฟฟ์แมน ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีมากกว่า 10 ลูก ใส่กองกำลังทหารสหรัฐฯ และพันธมิตร ในอิรัก ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากอิหร่าน และมีเป้าหมายไปที่ฐานทัพสองแห่ง คือ ฐานทัพอากาศ อัล-อะซาด และฐานทัพเออร์บิล ทางตะวันตกของอิรัก

ฐานทัพในอิรักเป็นหนึ่งในพื้นที่ในตะวันออกกลางที่มีการยกระดับการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดตั้งแต่ช่วงค่ำคืนวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ หลังจากมีรายงานจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ว่าอาจมีการโจมตีโดยโดรนจากอิหร่าน

ขณะที่สื่อของรัฐบาลอิหร่าน รายงานด้วยว่า กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หรือ IRGC ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการยิงขีปนาวุธหลายสิบนัดเพื่อโจมตีฐานทัพอากาศสหรัฐฯ อัล-อะซาด ที่ประจำการในอิรัก พร้อมทั้งขู่ว่าจะมีการโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม และขยายวงกว้างไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอเมริกาใช้โดรนสังหารนายพลกาส์ซิม สุไลมานีของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


Qassem Soleimani
https://www.voathai.com/a/trump-iran-attack-iraq-base/5237083.html

 

#ตามติดชีวิตคาร์ลอส2
#คาร์ลอสขอแถลง
#เรื่องราวอีกด้านของเหรียญ
วันนี้ 8 มกราคม มันช่างเป็นวันมหกรรมแห่งโลกจริงๆ ตั้งแต่อิหร่านถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก เครื่องบินยูเครนตกในอิหร่าน ปูตินย่องพบ บาร์ชา อัล-อัสซาดที่ซีเรีย เหตุการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย
นึกว่าจะหมดเพียงเท่านี้ ตอนช่วงหัวค่ำ ตามมาด้วยการแถลงออกสื่อตัวเป็นๆ ครั้งแรกของคาร์ล กอส์น อดีตประธานนิสสัน ญี่ปุ่น ที่ลักลอบหนีคดี ข้ามน้ำ ข้ามแผ่นดินมาจนถึงเลบานอนที่เราได้ติดตามเรื่องราวของเขามาตั้งแต่ช่วงปีใหม่
มหากาพย์ของเรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ และวันนี้ คาร์ลอส กอส์น ก็ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวด้วยตัวเองอย่างเป็นทางการที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ท่ามกลางสื่อมวลชนหลากหลายแหล่งไปรอทำข่าวร่วมร้อย
และคาร์ลอสก็ไม่รอช้า สับแหลกกระบวนการยุติธรรมในญี่ปุ่น และเรื่องสงครามการเมืองย่อยๆในบริษัทนิสสันที่เขาไปคุมอยู่ และบริหารจนกลายเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่ง
เขายืนยันว่าโดนกลั่นแกล้งใส่ความ และเปรียบการจับกุมตัวเขา และปลดจากตำแหน่งประธานบริษัทแบบฟ้าผ่า ไม่ต่างจาก การถล่มอ่าวเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เปรียบได้ใหญ่โตเบอร์นั้น แต่สรุปได้ใจความว่า เป็นการโจมตีของโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า และหมายให้ชีวิตการทำงานของเขาย่อยยับ
คาร์ลอส กอส์น ถูกจับตัวที่สนามบินเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2018 ทันทีที่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ และถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจมิชอบ แจ้งบัญชีรายรับเท็จ
คาร์ลอสเปิดใจในวันแถลงข่าวว่า ตัวเขาไม่เคยถูกจับกุมราวอาชญากรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต แถมต้องถูกขังเดี่ยว ถูกสอบสวนยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีทนาย ภรรยาก็ไม่อนุญาตให้พบ และรู้สึกเหมือนถูกบีบให้ยอมรับสารภาพ และไม่ได้รับความยุติธรรมในกระบวนการไต่สวน และการสู้คดี
และคาร์ลอส กอส์น ก็ปล่อยระเบิดลูกใหญ่ว่า เขาถูกใส่ความเพราะบริษัทนิสสันต้องการขับเขาให้พ้นทาง เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเรโนลท์เข้ามาเทคโอเวอร์นิสสันโดยสมบูรณ์นั่นเอง
ซึ่งการควบกิจการเรโนลท์-นิสสัน เกิดขึ้นตอนปี 1999 โดยที่เรโนลท์เข้าซื้อหุ้นของบริษัทนิสสันเกือบ 40% และได้ส่งคาร์ลอส กอส์น เข้ามาช่วยปรับโครงสร้างของนิสสันที่สุ่มเสี่ยงจะล้มละลายเพราะขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี จนกลับมาทำกำไรได้หลังจากที่เขาเจ้ามาบริหารได้เพียงปีเดียว
การบริหารงานของคาร์ลอส กอส์น เคยเป็นที่ชื่นชมของคนญี่ปุ่นมาก ถึงขนาดยกเขาเป็นเหมือนฮีโร่ และยังเคยมีการ์ตูนมังงะที่ถ่ายทอดเรื่องราว วิสัยทัศน์การทำงานของเขาออกมาด้วยชื่อเรื่องว่า The Story of Carlos Ghosn: The Know-how To Corporate Revitalization
และต่อมาในปี 2016 คาร์ลอสก็พานิสสัน เข้ามาควบกิจการของบริษัทมิตซุบิชิ ขยายกลายเป็นพันธมิตร เรโนลท์ - นิสสัน - มิตซุบิชิ ที่เป็นเครือข่ายค่ายรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
จนกระทั่งเขามาถูกจับกุมในอีก 2 ปีต่อมา เมื่อมีการพบความผิดปกติในการแจ้งยอดรายรับที่น้อยกว่าความเป็นจริง และใช้ตำแหน่งผู้บริหารแสวงหาผลกำไรจากเงินทุนของบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเอง
แต่ทั้งนี้ คาร์ลอส ยืนยันว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง ใส่ความเพื่อให้เขาพ้นจากตำแหน่งผู้บริหาร เพราะเกรงว่า กิจการของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นจะถูกครอบครองโดย เรโนลท์ ที่เป็นของต่างชาติ
ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป
แต่ประเด็นในวันนี้คือ คาร์ลอส กอส์น หนีประกันจากศาลญี่ปุ่น และถูกรัฐบาลญี่ปุ่นส่งรายชื่อไปทาง Interpol ตำรวจสากลว่าเป็นผู้ต้องหาที่ทางญี่ปุ่นต้องการตัว
และมีอยู่สิ่งหนึ่งที่หลายคนคาใจ ว่าจริงๆแล้วคาร์ลอสแกหลบหนีออกมาจากญี่ปุ่นได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า คาร์ลอส กอส์น ซ่อนตัวในกล่องดนตรี หลบหนีมากับวงดนตรีที่ แครอล ภรรยาของเขาจ้างให้เข้าไปเล่นในบ้านพักในช่วงวันคริสต์มาส
แต่กลับมีรานงานอีกชิ้นจากทาง NHK สื่อญี่ปุ่นว่า ไม่ได้มีวงดนตรีที่ไหนเลย คาร์ลอส กอส์น แก just เดินออกมาจากบ้าน ที่เป็นเซฟเฮาส์ในการควบคุมตัว
ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นคาร์ลอส เดินออกจากบ้านกลางดึกของคืนวันที่ 29 ธันวาคม เพื่อไปพบชาวต่างชาติ 2 คน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในบริเวณนั้น และน่าเชื่อว่าชายทั้ง 2 คนนั้นเป็นชาวอเมริกัน
และเป็นไปได้ว่า ชายทั้ง 2 คน พาเขาหลบหนี ขึ้นรถไฟจากโตเกียว ไปโอซาก้า เพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่สนามบินคันไซ แล้วก็ผ่านต.ม.บินออกมาดื้อๆ เฉยๆ เลยโดยใช้พาสปอร์ตฝรั่งเศสสำรอง ที่ได้เคยแชร์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เท่ากับว่ามาตรการควบคุมตัวของทางญี่ปุ่นหละหลวมมาก ที่บางแหล่งข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดในเซฟเฮาส์ของคาร์ลอส มีการตรวจเช็คจริงๆแค่เดือนละครั้งเท่านั้น และทางสนามบินคันไซ ก็ไม่ได้ตรวจเข้มงวดอะไร เมื่อมีผู้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
แต่จะหละหลวมได้ขนาดนั้นเชียวหรือ?
ถึงแม้คาร์ลอส กอส์น แกจะไม่ได้บอกว่า แกหลบหนีออกมาจากญี่ปุ่นได้อย่างไร แต่แกก็ยืนยันว่า แกวางแผนหลบหนีเพียงคนเดียว ภรรยาของเขาไม่เกี่ยวข้อง
ถึงคาร์ลอส จะยืนยันเช่นนั้น แต่ทางญี่ปุ่นก็ได้ออกหมายจับภรรยาของคาร์ลอส เพิ่มขึ้นอีก 1 คนแล้ว
ก็ไม่รู้ว่ามหากาพย์ คดีคาร์ลอส กอส์น จะจบอย่างไร แต่ดูท่าจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนไม่น้อย ฝ่ายไหนเป็นโจทก์ ฝ่ายไหนเป็นจำเลย ตอนนี้ชักจะงงๆแล้วนะค้า
แหล่งข้อมูล
https://japantoday.com/category/crime/Ghosn-describes-Japan-arrest-as-a-plot
https://www.theguardian.com/busines...earl-harbor-first-public-address-since-escape

https://www.bbc.com/news/business-51018638
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Renault–Nissan–Mitsubishi_Alliance

 

เลขาธิการยูเอ็นแสดงความโล่งใจ หลังผู้นำสหรัฐอเมริกาแถลงว่าอิหร่านมีท่าทีที่ผ่อนคลายลง เผยให้เห็นว่า 2 ประเทศไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากันครั้งใหญ่ #ThaiPBSnews

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อิสราเอลนำเสนอความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบเลเซอร์ที่แม่นยำเพื่อดักจับจรวดและโดรนที่จะทดสอบในปีนี้ ซึ่งอิสราเอลกล่าวว่าจะนำการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์มาใช้กับความสามารถในการป้องกัน