พระเครื่องวัตถุมงคลดีๆ ราคาบูชาตามตกลง

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 29 พฤศจิกายน 2019.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระสิวลี หลวงปู่นาค พิมพ์ใหญ่ หน้าจีน องค์ 2.jpg

    1.พระสิวลี หลวงปู่นาค พิมพ์ใหญ่ หน้าจีน ปี 2499 ราคาบูชาตามตกลง (ลองเสนอราคาบูชามาได้เลยครับ)

    พระสิวลีของหลวงปู่นาคนี้ สร้างขึ้นในปี 2499

    พระที่ทำเป็นรูปปั้น กับ พระที่ ประทับรูปลงในบล็อกติดด้านหลัง หรือ ด้านหน้า
    ท่านว่าไว้ว่า มีอุปเทห์ที่แตกต่างกัน
    หากทำเป็นรูปปั้น คือ เสมือนมีชีวิต และ พร้อมที่จะก้าวเดินอยู่ทุกเมื่อ แต่ผู้ใช้ ผู้ครอบครอง ต้องมีชีวิตที่ขวนขวาย หมั่นปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ก้าวย่าง อยู่ เหนื่อยก็ได้แค่พัก แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ
    ส่วน รุปเหมือนที่ประทับไว้ในองค์พระด้านหลัง หรือ ด้านหน้า
    ท่านว่า เอาไว้เสริม
    นี่เป็นหลักกว้าง ๆ

    พระสิวลีของหลวงปู่นาคนี้ สร้างขึ้นในปี 2499
    ชนวนเหตุ คือ สงครามหาเอเซียบูรพา สงบลงแล้ว
    ประเทศชำรุดทรุดโทรมมาก
    สภาสวรรค์ มีประชุมกัน แล้วมีมติ ขอให้อัญเชิญดวงแก้วแห่งพระสิวลี เพื่อลงมาเชื่อมสานรอยต่อของสภาวะในโลก ให้เข้าสู่สมดุล ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    คือ การเปลี่ยนศตวรรษ
    ดวงแก้วสิวลีนี้ ถูกอัญเชิญมาไว้ที่ฐานกุฎิของสมเด็จฯ โต ที่ยังเหลือตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น
    หลวงปู่นาค ผู้รับถ่ายทอดวิชาสายตรง และ เป็นวิชาที่ไม่มีเปิดเผยถึงรายละเอียด
    ช่วงแรก ท่านก็ทำพระสมเด็จ โดยอาศัยเศษเนื้อมวลสารที่แตกหักของสมเด็จวัดระฆังเดิม มาอัด มาผสม มาเข้ากรอบ เข้ารูป ใหม่
    โดยยังคงใช้วิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมาทั้งหมด

    พอถึงเวลาหนึี่ง โองการสวรรค์ ได้สื่อกับท่านถึง วาระที่จะต้องทำและ มีแต่ท่านเท่านั้นที่ทำสิ่งนี้ได้

    ขณะนั้น การเตรียมการในการรับศตวรรษใหม่เริ่มต้นขึ้นทีละน้อย ๆ ทุกภาคส่วนมีดำริกันว่า จะต้องรวมทุกสิ่งทุกอย่างทีดี และ มีพุทธคุณ จากทั่วประเทศ นั่นคือที่มาของ สมเด็จปรกเกศ และ ระฆังหลังฆ้อนในปี 05
    แต่ในช่วงเตรียมการนั้น หลายคนได้นำสิ่งของที่มีค่า และหนึ่งในนั้น คือ ชนวนที่สมเด็จโตมอบไว้กับคนหนึ่ง และ ตกทอดมาถึงรุ่นหลาน
    หลานคนนี้ฝันว่า หลวงปู่โตมาหา แล้วบอกว่า ถึงเวลาอีกแล้ว ให้นำชนวนนี้ไปให้หลวงปู่นาค ท่านจะทำพระ

    หลวงปู่นาค จึงได้นำเอาชนวนที่ว่านี้ รวมกับสิ่งของต่าง ๆ ที่ผู้มามอบให้
    และที่สำคัญ ท่านได้อัญเชิญดวงแก้วสิวลี ซึ่งฝังอยู่ขึ้นมา

    คืนนั้น หลวงปู่นาค ได้เข้าญาณและองค์พระสิวลี ได้อวตารลงมา ประกอบพิธีรวมมวลสารให้เป็นสายเชื่อมโยง พลังแห่งโลกกับพลังแห่งจักรวาฬ
    พลานุภาพที่เกิดขึ้นนี้ จะเชื่อมโยงอดีตและอนาคตเข้าด้วยกัน
    โดยเฉพาะอนาคตที่เกี่ยวโยงกับพระที่จะสร้างในวาระต่อไป คือ ระฆังหลังฆ้อน และ พระปรกเกศ

    หลวงปู่นาค เล่าให้ฟังว่า ทุกครั้งที่นำพระสิวลีองค์นี้ขึ้นมาอาราธนา จะเสมือน การชัดนำเอาพลังญาณแห่งสมเด็จวัดระฆังทั้งหมด และ ระฆังหลังฆ้อน รวมทั้งพระปรกเกศมารวมกัน แล้วเกิดเป็นกำแพงแก้ว 7 ชั้น ดึงดูดสิ่งที่ดี บุญที่ดี เข้ามา เพื่อพยุงชีวิตให้กลับคือนสู่สิ่งที่ควรเป็น นอกจากนั้น กำแพงชั้น ที่ 8 และ 9 จะเป็นตัวป้องกันภยันอันตราย มีรัศมีมากกว่า 1 กิโลเมตร ไม่ว่าอันตรายอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่ข้างหน้า สภาวะการป้องกันจะหันเหหรือเบี่ยงเบนให้เราเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ไปประสบ ไม่แม้แต่จะได้เห็น

    ดังนั้น หากใครที่มีพระระฆังหลังฆ้อนอยู่ในขณะนี้ หรือมีพระปรกเกศอยู่ ก็ขอให้ท่านได้นำสิ่งนี้ไปประกอบกัน เสมือน ชนวนตัวสุดท้าย ที่จะทำให้เหตุปัจจัยทั้งหมด ลงตัวและสมบูรณ์

    จบเรื่องเล่าจากการสื่อกับหลวงปู่นาคที่ท่านมาให้เห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตเพียงเท่านี้ครับ


    เครดิตข้อมูล : คุณธรรมลิขิต
     
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ให้เช่าบูชา รับประกันแท้ 100%

    ท่านที่สนใจเช่าบูชา เสนอราคาที่ต้องการเช่าบูชามาได้เลยครับ ถ้าให้ได้ก็จะให้ครับ โพสต์ลงได้เลยในกระทู้นี้ พระเครื่องวัตถุมงคลรายการอะไร ราคาที่ต้องการเช่าบูชาเท่าไร หรือติดต่อหาผมทาง PM ก็ได้ครับ

    ท่านที่ได้จองเอาไว้ จองได้ 3 วันครับ ถ้าเลยกำหนดแล้วไม่ได้โอนเงิน ก็ขอยกเลิกสิทธิ์การจองครับ

    ราคาบูชารวมค่าจัดส่งแล้ว

    บัญชีสำหรับโอนเงินนะครับ : ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 129-5-235657 ชื่อบัญชี เมธา รุ่งพัฒนพันธ์

    ติดต่อหาผมได้ที่ มือถือ 081-2670895
    เมธา.
     
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84-jpg.jpg

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่องหลวงปู่นาค...วัดระฆัง ปลุกเสกพระ

    เรื่องของหลวงพ่อนาค เขียนไว้อีกข้อเดียว คือเรื่องดูใจเวลาปลุกพระ นี่เรื่องมันเกี่ยวกันกับอาตมา ต้องขอประทานโทษบรรดาท่านผู้อ่านหรือท่านผู้ฟัง เมื่อฟังแล้วอ่านแล้วก็อย่าคิดว่าอาตมาเป็นผู้วิเศษ อย่าคิดยังงั้นนะ จงคิดเสียว่าอาตมาก็เป็นเถรหัวล้านธรรมดาๆ ไม่มีอะไรดีกว่าท่านผู้ฟัง เกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย กินแล้วก็ขี้

    ตื่นแล้วก็หลับ ธรรมดา ปวดเมื่อยไม่สบาย ปวดฟันตาฟ้าหูฟางเหมือนกัน พูดจาเอะอะโวยวายหยาบคายก็ได้ พูดนิ่มนวลก็ได้ ทำท่าเป็นผู้ดีก็ได้ ทำท่าเป็นสิงห์หน้าพลับพลาก็ได้ ทำเป็นหมาเห่าชาวบ้านก็ได้ เป็นทุกอย่าง ไอ้ที่ทำอย่างนั้น เพราะใจมันเป็นอย่างนั้น ไม่เหมือนหลวงพ่อนาค ท่านดีจริงๆ เลยยอมรับนับถือท่าน

    มาครั้งหนึ่ง ที่วัดชิโนรสาราม ธนบุรี ตอนนั้น สมัยนั้น เจ้าคุณสุวรรณเวที(ทองดี) อดีตเป็นพระของวัดระฆังมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ทำพิธีพุทธาภิเศก ปลุกพระเรียกว่าบวชพระพุทธเจ้า พระเครื่องนี่เขาทำรูปเปรียบพระพุทธเจ้าบ้าง บางทีก็ทำรูปเปรียบของพระสงฆ์

    แต่วันนั้นทำรูปเปรียบเฉพาะพระพุทธเจ้า ก็เลยเรียกว่าไปบวชพระพุทธเจ้ากัน ปลุก ไม่ใช่บวชกระมัง ท่านกำลังหลับ ไปปลุกให้ตื่น ท่านมีหน้าที่ปลุกเขานิมนต์มา 9 องค์ พระอะไรบ้างก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่รู้จักมีอยู่หลายองค์ แต่พูดถึงอยู่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อนาค กับพระครูธรรมาภิราม พระแขนสั้นแขนยาวนครปฐม นอกนั้นที่รู้จักก็มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกัน ในสมัยนี้ก็โด่งดัง สมัยนั้นก็โด่งดังอีก 7 องค์

    แต่ไม่พูดถึงหรอก คือพูดถึงไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกด่า เวลาท่านปลุกพระ สำหรับพระครูธรรมาภิราม รู้จักอาตมาดี อาตมาเรียกหลวงน้า พอเจอะท่านเข้าก็คุยตามแบบฉบับ ทีแรกก็ทำท่าเป็นพระติ๋มๆ เพราะไม่เคยรู้จักใคร พออาตมาเข้าไปก็เลยออกท่าตามแบบฉบับ ออกท่าอะไรทราบไหม ท่าลิง ก็ไปยั่วท่านด้วยอาการต่างๆ ท่านก็ทำโน่นทำนี่
    ชาวบ้านเขาก็เลยรู้สึกว่าท่านจะล่อกแล่กไปหน่อย ก็เลยบอกว่าหลวงน้า ไอ้แก้วน้ำน่ะ มันอยู่ไกลผม หลวงน้าช่วยหยิบมาให้ทีเถอะ

    ท่านบอก เฮ้ย แขนกูหยิบไม่ถึงนี่หว่า ก็เลยบอก เอ๊อะ พระจะปลุกพระนี่ เอาพระที่ไม่มีฤทธิ์มามันก็เสีย เสียของเปลืองที่ ไม่เอา ถ้าหยิบแก้วน้ำไม่ได้ก็นิมนต์กลับวัด ไม่มีประโยชน์ พระแบบนี้ ความจริงตอนนั้นพระคณาจารย์หลายองค์ก็นั่งอยู่ด้วย แต่เราไม่เกี่ยว เราคุยกับน้าชาย ท่านบอกไอ้นี่มันดูผิดคนนี่หว่า

    หนอยแน่มันดูถูกนี่หว่า หาว่ากูหยิบไม่ได้เรอะ ก็ตอบว่าไม่ได้ดูถูก แต่ว่าหยิบไม่ถึง นิมนต์กลับวัดเลย เอามารกที่ พระประเภทนี้ เสียศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ นี่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปานนะ แล้วก็เป็นหลานชายหลวงพ่อปานด้วยนะ ไม่ใช่ลูกศิษย์อย่างเดียว มองหน้าเป๋ง
    เออ มึงดูถูกกู กูก็เอาได้วะ เรื่องอะไร ท่านก็ยื่นแขนซ้ายออกไปมันก็ไม่ถึง เลยเอาแขนขวาตบตรงข้อศอก บอกแขนยาวออกไปซิหว่า ไอ้แขนมันค่อยๆ ยาวออกไปๆ ความจริง ไอ้แก้วน้ำตั้งอยู่ห่างสุดแขนท่านสักเมตรหนึ่งเห็นจะได้หรือเมตรเศษๆ ในที่สุดท่านก็หยิบแก้วน้ำมาส่งให้

    คนพวกนั้นมองกันตาตั้งหมดแปลกใจว่าพระทำได้ ท่านก็บอก ไอ้นี่มันเป็นยังงี้ละ ถ้าไปเจอะมันเข้าทีไรมันทำเสียผู้ใหญ่ทุกทีแหละ มันให้เล่นอย่างโน้นเล่นอย่างนี้ ไม่เล่นมันก็ว่า

    เราจะให้มันทำมั่งมันก็บอกว่ามันลูกศิษย์รุ่นหลัง มันเล็กกว่า มันไม่ทำ นี่ให้มันทำอะไรซี มันไม่ทำหรอก แล้วมันก็ไม่ทำจริงๆ เพราะอะไร เพราะว่า หลวงน้า คือหลวงพ่อปานนะ ท่านเรียกหลวงน้า หลวงน้าท่านสั่งมันไว้ ห้ามไม่ให้ทำ

    มันก็เลยเลิกทำ ไอ้นี่เคารพคำสั่งครูบาอาจารย์จริงๆ ไอ้เราไม่ถูกจำกัดนี่ มันก็เลยใช้ให้เราทำอะไรต่ออะไรเรื่อยไป ชาวบ้านเขาถามว่าไม่โกรธมันรึ ลูกหลาน บอก โกรธมันยังไงไปด่ามันเข้าซี ดีไม่ดีมันล้วงย่ามเอาสตางค์หมด ไม่ได้หรอก ไปด่งไปด่ามันไม่ได้หรอก

    ถ้ามันจะว่าอะไร จะใช้อะไรก็ต้องตามใจมัน เดี๋ยวมันไม่ชอบในมันก็หยิบก็ล้วงเอาตามพอใจ เขาก็ถามว่าไม่บาปเรอะ มันจะบาปยังไง มันลูกมันหลาน มันเอาไปแล้วก็เลยนึกให้มันไปเลย ไม่เอาโทษเอาโพยกับมัน นี่เล่าเรื่องตอนต้นนะ สำหรับครูธรรมาภิราม

    ทีนี้ถึงเวลาปลุกพระจริงๆ เก้าองค์เข้าไปนั่ง อาตมาเองคิดในใจ ว่าเราก็ไม่มีความรู้อะไร ความดีด้านสมาธิก็ไม่มีอะไร เพราะเป็นคนธรรมดาๆ เป็นพระเดินผ่านหน้านรกไปผ่านหน้านรกมา เดินห่างนรกอยู่ครึ่งนิ้วเท่านั้นเอง ถ้าเผลอเมื่อไรหัวก็ทิ่มนรกเมื่อนั้น ก็เลยนึกในใจว่าเอาพระ 9 องค์นี้องค์ไหนมีอานุภาพมากบ้าง อยากรู้ก็เลยเข้าไปในโบสถ์ เขาปลุกในโบสถ์ ไปนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์ สำหรับพระที่ปลุกพระเขาทำเก้าอี้ให้นั่ง เอาไม้ไผ่มาทำเก้าอี้ เขาบอกว่าถ้าปลุกด้วยเก้าอี้ไม้ไผ่มันขลังดี ไอ้นั่นเรื่องของอุปาทาน
    ไม่เกี่ยว เรื่องของคนคิด
    เมื่อไปนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์ตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า คือมองดูพระประธานเป็นกำลัง ขอบารมีพระพุทธเจ้าได้โปรดสงเคราะห์ ข้าพระพุทธเจ้าอยากจะดูอานุภาพจิตของพระแต่ละองค์ที่มานั่งปลุกพระในวันนี้ ถ้ากระแสจิตของบุคคลใด มีขนาดเท่าใด มีอานุภาพอย่างไรก็ขอให้ปรากฏแก่อารมณ์ของข้าพระพุทธเจ้า นึกเท่านี้นะ อธิษฐานเอาตามเรื่อง ตามเรื่องของคนที่ไม่มีฌานสมาบัติชั้นดีอย่างเขาหรืออาจจะไม่มีเลย พออธิษฐานเท่านั้นก็จับลมหายใจเข้าออก ทำจิตสงบนิดหนึ่ง ก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ นี่เป็นอำนาจของพุทธานุภาพจริงๆ นะ

    ไม่ใช่ความดีของอาตมา เห็นกระแสจิตของพระทุกองค์ใสแจ๋ว เหมือนกับเห็นของในเวลากลางวัน สำหรับกระแสจิตหลวงพ่อนาคนี่พุ่งออกมาใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด เรียกว่าแสงสว่างของจิตแทรกลงไปในเครื่องของขลังอยู่ที่ผิดด้านหน้า ยันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมด อาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างชัด ของพระครูธรรมาภิราม พุ่งออกมาเหมือนหอก เป็นกระแสเล็กแต่พุ่งแรงมาก แสดงว่าพระครูธรรมาภิราม เป็นพระนักเลง ชอบคงกระพันชาตรี ของหลวงพ่อนาคนี่เต็มไปด้วยอำนาจพระพุทธบารมีจริงๆ มีความเยือกเย็นสบายๆ ยังไงชอบกล แต่พระอีก 9 องค์ มองดูไปแล้วกระแสจิตไม่ได้ออกมา เหมือนกับจุดเทียนจุดริบหรี่ ปักอยู่ในอกนั่นเองอยู่เฉยๆ เป็นดวงนิดหนึ่ง แล้วก็อยู่ในอกเฉยๆ ก็นั่งดูอยู่ยังงั้นจนกว่าเขาจะเลิกปลุกกัน

    เมื่อถึงเวลา 23 น. เศษๆ ก็หมดสัญญาณการปลุก ความจริงการปลุกพระนี่ ไม่ต้องใช้เวลามาก ถ้าใช้เวลามากแล้วไม่มีผล ควรจะให้พระกำหนดกันเอง ปลุกพร้อมกัน ใครเต็มเมื่อไรก็พัดผ่อนได้เมื่อนั้น แต่ยังไม่ลุกออกมา ยังงี้จะดีมาก แล้วเวลาปลุกพระ ต้องใช้กำลังสมาธิสูงมาก

    ถ้าพระได้สมาบัติยังต่ำหรือโยเยอยู่ ยังไม่มั่นคงนัก จิตจะส่ายไปตามกระแสสวด ผลจะไม่ดี แต่ว่าที่ทำกันเวลานี้ ก็มีพระสวดพุทธาภิเศกควบไปด้วย เขาเอาแบบมาจากไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าเอาแบบมาจากไหน แต่ว่ามันจะดีหรือไม่ดีแค่ไหนก็ตามเรื่อง หากมีพระกำลังจิตดีก็ใช้ได้ ถ้าพระกำลังจิตไม่ดีก็เลยนั่งหลับตา อีตอนนั่งหลับตาใครจะรู้ว่าทำอะไรบ้าง บางวัดก็เกณฑ์กันตลอดรุ่งไม่เห็นมีประโยชน์ เคยไปร่วมกับเขาเหมือนกัน ถ้าเกณฑ์ตลอดรุ่งดีไม่ดีก็นั่งหลับเลย

    ตานี้ พอเขาเลิกทำพิธี พระอาจารย์ทุกองค์ก็ลงมา พอลงมาเสร็จท่านก็ไปนั่งกันตามหน้าอาสนสงฆ์แต่ไม่ถึงท้าย อาตมานั่งอยู่ทางท้ายกับพระสมุห์สมบูรณ์ พอลงมานั่งกันเรียบร้อย หลวงพ่อนาคก็บอกว่านี่ท่านพวกนี้รู้ไหม ไอ้ขโมยมันมานั่งขโมยอยู่ พระพวกนั้นก็ทำหน้าล่อกแล่กๆ มีพระครูธรรมาภิรามองค์เดียวยิ้ม หันมายิ้มด้วยแสดงว่าท่านรู้ก็เลยยิ้มกับท่าน แต่หลวงพ่อนาคท่านก็ทำเฉย ทำไม่รู้ไม่ชี้ บอกท่านทั้งหลายรู้หรือเปล่า ไอ้ขโมยมันมานั่งขโมยอยู่ ท้ายอาสนสงฆ์ แล้วก็มีญาติโยมคนหนึ่งถามว่าขโมยอะไร ถามขโมยอะไรเจ้าค่ะหลวงพ่อ ท่านก็บอก มันไม่ได้ขโมยอะไรหรอก มันมานั่งขโมยดูใจพระปลุกพระ ไอ้ขโมย มันนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์

    ตานี้เวลาที่ท่านลงมาแล้วเขาขอพระท่าน ท่านก็แจก เวลาท่านแจกไปขอท่านมั่ง ท่านไม่ให้ บอกไอ้นี่ขโมย ไม่ให้ละ ทำได้อย่างที่เขาทำนี่ ทำได้ไปทำเอาเองซี ท่านไม่ให้ ก็มีพระหลายองค์ท่านมองหน้า

    ท่านก็เลยบอกว่าไอ้นี่แหละขโมย ขโมยดูใจพระทุกองค์ มันรู้ ว่าใจพระองค์ไหนเป็นยังไง นี่มันทำได้นะพระนี่ มันทำได้ ทำได้คล้ายๆ ข้าแหละ

    แต่ไอ้ข้ากับมันใครดีกว่ากันข้าไม่รู้หรอก แต่วันนี้ท่านผู้ฟังจำไว้นะ ว่าอาตมาไม่ดีเท่าหลวงพ่อนาค แล้วก็ดียังไม่ใกล้หลวงพ่อนาค ยังไกลอยู่นะ เพราะยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา ยังเป็นคนปวดอุจจาระ
    ปวดปัสสาวะ มีหนาว มีร้อน มีเมื่อย มีหิว มีกระหาย รู้เปรี้ยว รู้เค็ม รู้เผ็ด แล้วมีอารมณ์ เสียงดังบ้าง ดุบ้าง ด่าบ้าง ว่าบ้าง คำสุภาพบ้าง ยิ้มแย้มแจ่มใสบ้าง หน้าบึ้งขึงจอบ้าง

    อย่างนี้อย่าชมกันว่าดีนะ เป็นอาการของคนเลว แต่มันยังอยากจะเลวอยู่ก็ปล่อยมันไป ตายเมื่อไร เลิกเมื่อนั้น

    เป็นอันว่าเรื่องของหลวงพ่อนาค ยุติกันเพียงเท่านี้ แต่ก็ยังไม่เลิกพูด เวลามันยังไม่หมด วันนี้เห็นจะสรุปงานกันได้แล้วนะ เพราะว่าเทปเหลือนิดเดียว
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    สำหรับหลวงปู่นาค วัดระฆังฯนั้น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า หลวงปู่นาคท่านเป็นพระทองคำ ตามความหมายที่ว่าลูกศิษย์จะทราบกันดีครับ ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ เพราะเรื่องนี้จะพูดบอกกันตรงๆไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะอาบัติกัน พระเกจิอาจารย์หลายท่านยืนยันเหมือนกันครับ ในคราวปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ไปปลุกเสกร่วมกับ หลวงปู่นาค ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนหลวงปู่นาคปลุกเสกมีลำแสงสว่างจ้าเป็นลำใหญ่เลยครับ ท่านปลุกเสกองค์เดียวก็เกินพอครับ สำหรับพระรูปอื่นๆที่มาร่วมปลุกเสก มีกันคนละนิดละหน่อย เทียบกันไม่ได้เลยครับ...
     
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ตะกรุดคอแมว ด้าน1.jpg ตะกรุดคอแมว ด้าน2.jpg

    2.ตะกรุดคอแมว (เชือกแดง) หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร วัดบุ้งขี้เหล็ก อุบลราชธานี ราคาทุน 1,550 บาท ราคาบูชาตามตกลง


    ตะกรุดคอแมว (เชือกแดง) รุ่นแรกๆ อันโด่งดัง หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร สุดยอดประสบการณ์ หายากครับ สภาพสวยเดิมๆ จากวัด ไม่เคยผ่านการใช้งาน

    หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ่งขี้เหล็ก ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

    "เจ้าตำรับตะกรุดคงกะพันมหาอุตม์แห่งแดนอีสาน"

    หลวงปู่จันทร์หอม พระเกจิชื่อดังในสายสำเร็จลุน เป็นศิษย์เอกสำเร็จตันผู้เก่งกาจ วิชาของหลวงปู่จันทร์หอมถือได้ว่าอยู่ในลำดับต้นๆ ในสายของสำเร็จลุน

    หลวงปู่จันทร์หอมท่านเป็นศิษย์สมเด็จลุน ยุคสุดท้ายท่านมีโอกาสได้ศึกษาวิชากับสมเด็จลุนโดยตรงเนื่องจากท่านเป็นหลานของสำเร็จตัน

    ตะกรุดยุคแรกๆท่านจะจารมือให้รอรับได้เลย ก่อนเอาไปถ้าเป็นทหารตำรวจท่านให้ลองก่อนโดยทำเสร็จท่านผูกคอแมวที่ท่านเลี้ยงไว้แล้วให้ยิง ไม่มีออกครับ นี่คือตะกรุดที่สร้างชื่อให้ท่านจากนั้นท่านก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

    ถึงขนาดมีคำพูดกันว่า "ในอุบลราชธานีปัจจุบันนี้มีสิงห์เหนือเสือใต้" กล่าวคือ สิงห์เหนือได้แก่หลวงปู่คำบุซึ่งมีชื่อเสียงแถบพิบูลมังสาหาร ตาลสุม ส่วนเสือใต้ก็คือหลวงปู่จันทร์หอมนั่นเองที่มีชื่อเสียงในละแวก เขมราฐ วารินชำราบ

    หลวงปู่จันทร์หอม คือพระเกจิอาจารย์ ที่อ.หม่อม นิรนามไตรภูมิ ผู้สร้างเหรียญมหายันต์พระนเรศวร-กรมหลวงชุมพร ให้เคารพนับถือเป็นอย่างมาก

    ปัจจุบัน ตะกรุดของหลวงปู่จันทร์หอม หาได้ยากแล้วครับ

    ใครชอบของเหนียว มหาอุตม์ เก็บได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2019
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514

    สมัยก่อนผมเคยได้รับหนังสือประวัติหลวงปู่จันทร์หอม (รับจากมือของหลวงปู่) ในหนังสือเล่มนั้น ได้กล่าวถึงความโด่งดังของตะกรุดคอแมว ทำให้ประธานรสช.ในสมัยนั้น ก็คือพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ได้ให้ทหารติดตามไปนิมนต์หลวงปู่จันทร์หอม
     
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514

    หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร เจ้าอาวาสวัดบุ้งขี้เหล็ก
    ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ. อุบล ฯ
    พระอริยสงฆ์สาวก ศิษย์พระคุณเจ้าสมเด็จลุน นครจำปาสัก
    และพระคุณเจ้าสำเด็จตัน ( ศิษย์เอกพระคุณเจ้าสมเด็จลุน)


    ในหนังสือเล่มนี้หลวงปู่จันทร์หอมท่านได้ เผยแพร่ประวัติ
    ของท่านไว้ว่าท่านเป็นคนไทยเกิดที่เมืองไทย
    แต่ครอบครัวของท่านได้ย้ายไปทำไร่ทำนาทำสวนที่ทางฝั่งลาว
    เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ดี

    พอท่านอายุได้ 12 ปี หลวงปู่สมเด็จตันท่านได้ขอกับพ่อแม่
    ของท่าน ขอตัวท่านไปเป็นศิษย์คอยอุปฐาก ตอนแรกสมเด็จตัน
    ท่านให้บวชเป็นผ้าขาวน้อยก่อน ให้ถือศีล 8 ต่อมาท่านก็บวช
    เณรให้ตอนนั้นท่านอยู่ภูเขาควาย ไม่นานสมเด็จตันก็พาท่าน
    มากราบนมัสการสมเด็จลุน ที่ภูมะโรง และฝากให้เป็นศิษย์
    หลวงปู่สมเด็จลุน ท่านอยู่ปฎิบัติธรรมกับ สมเด็จลุน ในเรื่อง
    ธรรมธาตุจนแตกฉานภายใน 5 ปี สมเด็จจึงพากราบนมัสการลา
    สมเด็จลุนไปเดินวิเวกตามป่าเขา เพื่อหาประสบการณ์ ในสัจจธรรม
    เป็นเวลา 2 ปีกว่า ตอนนั้นท่านอายุ 20 เต็มย่างเข้า 21 ปี สมเด็จตัน
    จึงพาท่านออกจากป่ามาบวชพระให้ เมื่อบวชพระแล้วหลวงปู่จันทร์หอม
    ท่านคิดอยากเรียนปริยัติธรรม ท่านจึงขอแยกทางกับสำเร็จตัน ท่านเรียน
    จนจบ ป.ธ. 4 ประเทศลาว ท่านใช้เวลาเรียน 8 ปี หลังเรียนจบแทนที่
    หลวงปู่จะยินดีอยู่ในหมู่บ้านที่เจริญ หรืออยู่ในเมือง
    และ ยินดีในการปกครองคณะสงฆ์ เพื่อตำแหน่งทางคณะสงฆ์จะมอบให้
    แต่ตรงกันข้ามท่านกลับยินดีอยู่ในป่าเหมือนเดิม ท่านจึงหันหลัง
    มุ่งหน้าเข้าป่าโดยไปยึดภูมะโรงเป็นที่พำนักบำเพ็ญธรรม
    ทั้งนี้เพราะจิตวิญญาณของท่าน ได้ฝึกอบรมทางด้าน
    วิปัสสนากรรมฐานมาตั้งแต่อายุ 12 – 21 ปี
    โลกต่างมิติท่านได้เห็น ได้พบตั้งแต่สมัยเดินวิเวกในป่ากับสมเด็จตัน
    เพียงอยากรู้ปริยัติเท่านั้นท่านถึงเสียสละเวลาเรียน

    ในการไปอยู่ภูมะโรงครั้งที่ 2 นี้ ท่านอยู่ถ้ำแต่เพียงลำพังรูปเดียว
    จะถามว่าไม่มีพระรูปอื่นบ้างหรือไร ถึงได้อยู่เพียงลำพังรูปเดียว
    ท่านว่า มีพระหลายรูปแต่อยู่กันรูปละถ้ำ บางครั้ง หรือบางรูป
    ก็อยู่ภูละรูป ไม่เที่ยวไปหากัน หรือไม่คุยกัน ต่างรูปต่างทำหน้าที่
    ไปตามปกติของใครของมัน จะพบกันหรือมารวมกันก็ต่อเมื่อวันลง
    อุโบสถ มาลงรวมกันที่ภูมะโรงนั้น แต่มารวมกัน ณ ที่ ๆ พำนักของ
    สมเด็จลุน ซึ่งท่านเป็นประธานสงฆ์ และแสดงธรรมปาฏิโมกข์
    แจกพระธรรมวินัยและอบรมข้อวัตรปฏิบัติธรรมให้กับลูกพระที่มาลง
    พระอุโบสถ หลังจากนั้นแล้วท่านจะออกคำสั่งให้พระรูปใดแสดงธรรม
    เทศนาให้พวกบังบส หรือพวกลับแลฟัง เพราะในวันนั้นพวก
    บังบสหรือพวกลับแลก็จะมาจำศีลฟังธรรมเหมือนกัน ไม่ต่าง
    อะไรกับโลกมนุษย์เรา ที่ต่างกันคือ เขาถือศีล 5 ไม่ให้บกพร่อง
    และราคะอกุศล มูล 3 เขาละได้กว่ามนุษย์เรา

    หลวงปู่จันทร์หอม ท่านพูดถึงพระที่มาลงอุโบสถในวัน
    ลงอุโบสถนั้น ท่านว่าน่าตื่นเต้นสำหรับคนไม่เคยเห็น เพราะ
    พระที่มาแต่ละรูปนั้นไม่เหมือนกัน บางรูปเหาะมาทางอากาศ
    บางรูปไม่รู้ว่ามาทางไหน พอเห็นทีเขานั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว
    รอกันก็รอไม่นาน เพียงแต่ที่ลงอุโบสถพร้อมเท่านั้น พระรูปที่เหลือ
    ก็มาถึงพอดี ๆ ไม่เคยได้นั่งรอกัน เวลาเลิกก็เหมือนกัน
    เวลาพระจะกลับที่พัก พระนั้นก็ไปดังที่กล่าวมา บางรูปเดินไป
    ยังไม่ไกลนักก็หายจากสายตาไปได้ง่าย ๆ

    หลวงปู่จันทร์หอม ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่เป็นเลิศทางด้านฤทธิ์
    ซึ่งพระผู้ที่เป็นเลิศทางฤทธิ์ท่านจะเก่งในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะ
    เป็น มหาอุตต์ คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    ค้าขายดี นะจังงัง ป้องกันภัย ขับไล่ผูตผีปีศาจ
    กันถอนคุณไสย์คุณผีคุณคน ฯ ล ฯ


    เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงปู่จันทร์หอม
    มีพี่ท่านหนึ่งที่เป็นศิษย์ของ หลวงปู่พิศดู ธรรมจารีย์
    วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี ท่านกรุณาเล่าให้ผม
    ฟังว่า ตอนที่ หลวงปู่ละมัย สำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพร
    จ. เพชรบูร์ พระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมไปด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
    ท่านเคยได้แนะนำพี่ท่านนี้ ให้ไปกราบ หลวงปู่จันทร์หอม
    วัดบุ้งขี้เหล็ก กับ หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    จ. ลพบุรี


    เครดิตข้อมูล : คุณ Pong55
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%99-jpg.jpg

    หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร ถือกำเนิดเมื่อ เดือน 5 ปี มะโรง พุทธศักราช 2459 (โดยสมัยนั้นยังไม่มีการจดบันทึกวันเดือนปีเกิด ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์จึงขอให้วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิด เพื่อมุฑิตาจิตต่อองค์หลวงปู่)

    เกิดที่บ้านนาเอือด อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี โดยสมัยนั้นการเดินทางไปประเทศลาวยังสะดวก ไม่ยุ่งยากดังเช่นปัจจุบัน ฉะนั้นคนในหมู่บ้านนาเอือด และครอบครัวหลวงปู่จึงอพยพไปอยู่ยังประเทศลาว

    เนื่องจากมีพื้นที่เหมาะแก่การเพราะปลูก โดยครอบครัวหลวงปู่และญาติอีก 2 ครัวเรือนได้จับจองพื่นที่ ณ ตีนเขาลูกหนึ่งประกอบอาชีพทำนาทำไร่

    ซึ่งในทุกๆ วันจะมีพระรูปหนึ่ง พระรูปนี้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับโยมพ่อของหลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่หลังเขาจะเทียวมาบิณฑบาตร โปรดทั้ง 3 ครอบครัวอยู่เสมอ ซึ่งพระรูปนั้นก็คือ “สำเร็จตัน” ศิษย์แห่งองค์สมเด็จลุน นั้นเอง

    บวชตั้งแต่เด็กรับใช้พระพุทธศาสนาตลอดชีวิต

    เมื่อหลวงปู่จันทร์หอม มีอายุได้ 12 ปี สำเร็จตันจึงขอพาไปรับใช้อุปฐาก และสอนสั่งหนังสือให้ หลวงปู่จันทร์หอม ขณะนั้นยังเป็นเด็กมีความซุกซนอยากรู้อยากเห็น

    เมื่อไปอยู่กับสำเร็จตัน วันๆหนึ่งวิ่งเล่นอะไรก็ไม่ได้ มีแต่ท่องจำหนังสือ จึงเกิดความเบื่อหน่ายหนีกลับมาหาพ่อแม่ที่บ้าน แต่สำเร็จตันก็กลับมาตามรับตัวเอาไปอีก

    เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนสำเร็จตันคิดว่าอยู่ใกล้พ่อแม่ไม่ได้แล้ว จึงพาหลวงปู่จันทร์หอมขึ้นภูเขาควาย ไปอยู่ในถ้ำบวชนุ่งขาวหุ่มขาว ถือศีล 8 สอนหนังสือ ปฏิบัติธรรม ถ้าไม่ทำตามก็จะถูกตีด้วยไม้เรียว ผ้าขาวน้อยจันทร์หอมในขณะนั้นไม่มีทางเลือก จะหนีกลับก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ทาง จึงจำใจร่ำเรียนปฏิบัติตามคำสั่งสอนทุกบรรทัดอย่างเคร่งครัด

    ศึกษาอยู่นานราว 2 ปี จนมีความประพฤติใช้ได้ สำเร็จตันจึงบวชเรียนให้ ขณะนั้นหลวงปู่จันทร์หอมมีอายุได้ 14 ปี บวชตั้งแต่ตอนนั้นจนปัจจุบันนี้ไม่เคยสึกเลย


    a3-25e0-25b8-25a2-25e0-25b9-258c-25e0-25b9-2583-25e0-25b8-25ab-25e0-25b8-258d-25e0-25b9-2588-jpg.jpg

    พบปรมาจารย์ใหญ่องค์สมเด็จลุน


    เมื่อบวชเณรได้ไม่นานนัก สำเร็จตันก็พามาพบสมเด็จลุนที่ภูมะโมง ได้กราบนมัสการฝากตัวเป็นศิษย์ อยู่ปฏิบัติธรรมและศึกษาไสยเวทกับสมเด็จลุน โดยเฉพาะวิชาธรรมธาตุจนแตกฉาน รวมระยะเวลาอยู่กับสมเด็จลุนประมาณ 5 ปี

    ต่อมาสำเร็จตันจึงพากราบลานมัสการสมเด็จลุน ออกเดินทางวิเวกธุดงในป่าเขาเพื่อหาประสบการณ์ในสัจธรรมเป็นเวลากว่า 2 ปี ขณะนั้นอายุ 20 ปี สำเร็จตันจึงพาออกจากป่ามาบวชพระ

    เมื่อบวชพระแล้วพระภิกษุจันทร์หอม มีความคิดที่จะเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ได้ขออนุญาตสำเร็จตัน เมื่อสำเร็จตันอนุญาตจึงออกเดินทางไปเรียนในสำนักปริยัติธรรม จนจบ ป.ธ.4 ใช้เวลาปริยัติธรรมถึง 8 ปี

    เมื่อเรียนรู้หลักทางปริยัติธรรมพอสมควร จึงได้ข้อคิดว่าแท้จริงแล้วหลักพระธรรมคำสั่งสอน จะรู้แจ้งเห็นจริงตัวเราเองต้องปฏิบัติเองถึงจะเห็นผล ประกอบกับหลวงปู่ไม่ยินดีอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย และไม่ยินดีในตำแหน่งปกครองที่ทางคณะสงฆ์จะมอบให้ จึงหันหลังเข้าสู่ป่าธุดงค์ขึ้นภูมะโรงซึ่งมีความสัปปายะวิเวกถูกจริตกับหลวงปู่อย่างมาก

    เหตุที่มาอยู่ประเทศไทย

    ในสมัยประเทศลาวเกิดสงครามสู้รบขึ้นภายในประเทศขณะนั้นน้องชายหลวงปู่เป็นทหารยศร้อยโทออกสนามรบ ได้หายตัวไปจากกองร้อยอย่างไร้ร่องรอย ทุกคนเข้าใจว่าตายไปแล้ว แต่ความเป็นห่วงพ่อแม่ของพ่อแม่ จึงได้พูดกับหลวงปู่ว่าถึงอย่างไรให้สืบหาน้องให้รู้ ถ้าตายอยู่ที่ไหนพอเก็บกระดูกได้ ก็ให้เก็บกระดูกน้องมาทำบุญด้วย

    ต่อมาเมื่อสถารการณ์ในบ้านเมืองเข้าสู่ปกติ ประเทศไทย-ลาว สามารถไปมาหาสู่กันได้เป็นปกติและได้ยินข่าวว่าน้องชายยังมีชีวิตอยู่ที่ อ.เขมราฐ บ้านโบกม่วง เลยคิดจะมาสืบดูว่าจริงหรือไม่

    วันที่ท่านมา วันนั้นเป็นงานประจำปีให้คนไทยลาว มากราบนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดปากแซง โดยขณะที่หลวงปู่รอเรืออยู่ที่ฝั่งลาว บังเอิญมีเรือลำหนึ่งมาเทียบท่าตรงที่หลวงปู่ยืนรออยู่พอดี คนขับเรือขออาสาไปส่งหลวงปู่

    เมื่อส่งถึงฝั่งไทยหลวงปู่จะให้เงินเขาไม่รับ หลวงปู่จึงอนุโมทนาให้พรแล้วเดินขึ้นมาจากท่า เมื่อหันกลับไปไม่มีเรือลำเดิม ถามเรือ 2 ลำที่จอดอยู่ก่อนหน้าเขาก็ไม่เห็น

    หลังจากเหตุการณ์นั้นหลวงปู่จึงขึ้นมากราบนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ทำบุญกับทางวัดไป 50 บาท ตอนนั้นมีเงินติดตัวมา 200 บาท

    b8-25e0-25b8-2594-25e0-25b8-2584-25e0-25b8-25ad-25e0-25b9-2581-25e0-25b8-25a1-25e0-25b8-25a7-jpg.jpg

    ศรัทธาปาฏิหาริย์ เมตตาบารมี (ที่มาของตะกรุดคอแมว)

    ในวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่ออกบิณฑบาตร ขากลับฝนตกอย่างหนักเจอลูกแมวตากฝนอยู่ มองดูแล้วถ้าไม่ช่วยมันก็คงตายแน่ จึงพากลับมาที่วัดด้วย จับมันไปผิงไฟเมื่อตัวแห้งก็หาข้าวปลาให้มันกิน เลี้ยงดูจนมันโต

    พอมันโตกีมีแมวป่ามากัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ ท่านก็หายาสมุนไพรมาใส่ให้จนหาย ครั้นเมื่อหายดีแล้วก็มิวายโดนอีก ด้วยความสงสารหลวงปู่จึงเขียนตะกรุดแขวนคอให้มัน

    หลังจากนั้นก็โดนแมวป่ากัดแต่ครั้งนี้นั้นไม่เป็นไร กลับกันซ้ำยังกัดแมวป่าคืนเสียอีก จนแมวป่าหนีไป คราวนี้เจ้าแมวกลับย่ามใจเทียวไล่กินไก่น้อยชาวบ้าน ไก่บ้านไหนฟักออกใหม่ๆ โดนกินจนหมด จนชาวบ้านเอาปืนมายิงแต่น่าแปลกก็คือ ยิงเท่าไร ก็ยิงไม่ออก

    จนวันหนึ่งบังเอิญมีทหารอากาศประอยู่กองบิน 21 กลับมาบ้าน เห็นแมวไล่ตะครุบกินไก่น้อย จึงเอาปืนมาไล่ยิง ไล่แมวตัวนี้จนมาถึงวัด เห็นมันหนีเข้าศาลาไปหาหลวงปู่ ญาติโยมจึงนำความไปแจ้งหลวงปู่ว่า แมวของหลวงปู่ตัวนี้มันไปไล่กินไก่ชาวบ้านเขา จนชาวบ้านนำปืนมายิง แต่ก็ยิงไม่ออก แมวตัวนี้มันมีอะไรดี

    หลวงปู่จึงบอกมาให้ลองดูเอง เขาก็พากันมาจับดูจึงเห็นตะกรุดแขวนอยู่ที่คอแมว คนที่เป็นทหารอากาศเลยปลดออกจากคอแมว และกราบขอหลวงปู่ไปพกติดตัว หลวงปู่จึงให้ไป

    เมื่อทหารนายนี้ได้รับตะกรุดแล้วก็กลับไปที่ค่าย เอาตะกรุดไปลองกับจ่าวิโรจน์ ปรากฏว่ายิงเท่าไรก็ยิงไม่ออก ซึ่งวันเดียวกันนั้นก็มีนายทหารจากฐานทัพดอนเมืองมาตรวจราชการก็บังเอิญได้เห็นเหตุการณ์ด้วย จึงขอเอาไปติดตัว นายทหารผู้นั้นคือ น.อ.สุนทร นามศิริ และยังมีผู้เห็นเหตุการณ์อีก 2 คน คือ พล.อ.ท. กึกก้อง แก้วสว่าง และ น.ท.โกญจนา บำเพ็ญผล

    ซึ่งหลังจากนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น ก็เพราะเจ้าแมวตัวนั้นตัวเดียว


    เครดิต : ประวัติหลวงปู่จันทร์หอม
     
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระปิดตา ด้านหน้า.jpg
    พระปิดตา ด้านหลัง33.jpg

    3.พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อวิชา รติยุตโต ราคาทุน 760 บาท ราคาบูชาตามตกลง

    พระปิดตามหาลาภ ผงชานหมาก (ฝังตะกรุดเงินยันต์เฑาะว์) ปี 2554 หลวงพ่อวิชา รติยุตโต วัดศรีมณีวรรณ จ.ชัยนาท

    พระรุ่นนี้หลวงพ่อวิชาดูแลการจัดสร้างทุกขั้นตอน โดยให้อ.สุวิชย์ (ศิษย์ฆราวาส) ช่วยจัดสร้าง รวบรวมมวลสารและทำพิมพ์พระ


    พระปิดตารุ่นนี้ รวมมวลสารที่ดีที่สุดของหลวงพ่อวิชา

    หลวงพ่อวิชาปลุกเสกเดี่ยวนานถึง 3 ปี จัดสร้างปี 2554 นำออกให้บูชาปี 2557 หลวงพ่อวิชา กล่าวว่า "พระรุ่นนี้ดี ดังแน่นอน"

    มวลสาร.jpg

    เครดิตข้อมูล : คุณปิดตาโสฬส
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    [​IMG]
    หลวงพ่อวิชา รติยุตโต เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    เป็นศิษย์ของหลวงพ่อทบ จ.เพชรบูรณ์, พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์, หลวงพ่อสด วัดหนองสะแก, หลวงปู่เกตุ จ.สุโขทัย

    สืบทอดวิชาสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    คำสอนของหลวงพ่อวิชาใกล้เคียงกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล(ศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)


    วันนี้หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ ซึ่งปัจจุบันนี้น่าจะอยู่ที่วัดป่าหิมพานต์ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ไปอยู่ที่สำนักสงฆ์ชอนทุเรียนที่ตากฟ้ามาระยะหนึ่ง ถ้าท่านทั้งหลายไม่รู้จัก ก็ต้องบอกว่าท่านอยู่ในรุ่นครูบาอาจารย์เลย ท่านใดที่เคยไปวัดท่าซุงในระยะแรกเริ่มในการก่อสร้างอุโบสถวัดท่าซุง ตลอด ๓ ปี คือ พุทธศักราช ๒๕๑๗-๒๕๑๙ กำลังใหญ่ส่วนหนึ่งที่ช่วยงานก็คือหลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณนี่เอง

    การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลระยะนั้นทุกครั้ง หลวงพ่อวัดท่าซุงจะนิมนต์หลวงพ่อวิชาเข้าร่วมพิธีกรรมด้วย แม้ว่าในขณะนั้นท่านยังเป็นพระหนุ่มเณรน้อยอยู่ อายุน้อยกว่าอาตมาตอนนี้เยอะมาก แต่ท่านมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง ปัจจุบันนี้อายุกาลพรรษาก็ ๗๐ กว่าเข้าไปแล้ว วันนี้ก็มีความเมตตาให้กับครูบาวิฑูรย์ เดินทางมาร่วมพิธีด้วย เดี๋ยวถ้าเห็นหลวงพ่อที่ห่มสีกรักเขียว ๆ เหมือนพระธรรมยุต ก็ให้รู้ว่าเป็นหลวงพ่อวิชา ต้องบอกว่าท่านอยู่ในระดับของครูบาอาจารย์ของอาตมาอีกทีหนึ่ง

    เครดิต..เก็บตกงานออกนิโรธกรรม - สืบชะตาครูบาวิฑูรย์ ชินวโร วันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ โดยหลวงพ่อเล็ก เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    เจ้าของกระทู้ท่านหนึ่งที่ผมไปเช่าบูชาผ้ายันต์บัวบาน กับ พระปิดตามหาลาภ(ผงชานหมาก) แจ้งบอกมาทาง PM ว่า :

     
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ผ้ายันต์แดง ด้านหน้า11.jpg
    ผ้ายันต์แดง ด้านหลัง11.jpg

    4.ผ้ายันต์แดง ครูบาเที่ยงธรรม โชติธัมโม คณะเวฬุวัน ราคาบูชาตามตกลง

    ผ้ายันต์ครูบาเที่ยงธรรม ประสบการณ์เด่นด้านโชคลาภและโภคทรัพย์ เป็นของดีนอกดีใน ท่านว่าของๆ ท่านไม่มีวันเสื่อมครับ เป็นผ้ายันต์แบบ 2 หน้า จากที่สัมผัสได้จะมีกระแสพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ เป็นผ้ายันต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์

    ผ้ายันต์ครูบาเที่ยงธรรม ของแท้ หายากครับ เหมาะสำหรับบูชาเอง หรือเก็บไว้เป็นสมบัติประจำตระกูล

    ผ้ายันต์ครูบาเที่ยงธรรมนั้น บางเว็บประมูลสูงสุดกันที่ 999,931 บาท บางเว็บก็ประมูลสูงสุดกันที่ 9,999 บาท

    ผ้ายันต์ครูบาเที่ยงธรรม โชติธัมโม คณะเวฬุวัน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ มีขนาดประมาณ 11 นิ้ว x 11 นิ้ว

    ผืนนี้สภาพสวยสมบูรณ์มาก อาจเป็นผืนสุดท้าย ที่แบ่งให้เช่าบูชา
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ช่วงเกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งที่ยังตามหลอกหลอนจนถึงทุกวันนี้ธุรกิจใหญ่น้อยล้มระเนระนาด ทรัสต์เจ๊งธนาคารล้มโรงงานปิดตัวเจ้าของกิจการฆ่าตัวตายคนตกงานเดือดร้อนกันทุกย่อมหญ้า บางคนใจสู้หน่อยก็ยอมลดตัวลงมาค้าขายตามชุมชนและตลาดต่างๆ คุณศิวัฒน์เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มาทำแซนวิสเดินเร่ขายเองย่านสีลมส่วนคนที่ทุนน้อยก็นำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งใหม่และเก่านำมาขายตามตลาดนัดเล็กๆจนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ที่เรียกในปัจจุปันว่า.."เปิดท้ายขายของ"เพื่อเอาตัวรอดในช่วงนั้นไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง..
    ผมเองก็ได้รับผลกระทบมากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำในตอนนั้นล้มลงเงินลงทุนเกือบร้อยล้านละลายหายไปกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแถมยังเป็นหนี้สถาบันการเงินต่างๆอีกแปดสิบกว่าล้านกลุ้มใจหาทางออกไม่เจอชีวิตมีแต่ความทุกข์หมดที่พึ่งจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ด้วยความที่เป็นคนชอบทำบุญจึงเริ่มเดินทางไปกราบพระอริยสงฆ์ทั่วประเทศทั้งวัดป่าสายปฏิบัติและพระเกจิอาจารย์ดังๆแบบที่เรียกว่า"ค่ำไหนนอนนั่น"ใกล้ที่ไหนนอนที่นั่นในปั๊มน้ำมัน ศาลาวัด ศาลาริมทาง สวนสาธารณะที่ปลอดภัยใกล้ๆชุมชนจนได้พบพระเหนือโลกยุคนั้นมากมายและเป็นที่มาของ
    #พระเหนือโลกในวันนี้

    ภาพของครูบาอาจารย์ที่ทรงจิตทรงธรรมมีเมตตาทุกครั้งที่ได้กราบไหว้ทำบุญท่านมักจะมอบวัตถุมงคลให้พร้อมกับให้ศิลให้พรให้ร่ำรวยโชคดีมีความสุข(ทุกองค์จะให้พรเหมือนกัน) เช่นหลวงปู่หมุนท่านให้ปลัดขริกที่ท่านแกะเองจากไม้คูนพร้อมกับให้พรว่า"กลับไปรวยๆเด้อ"

    หลวงปู่เที่ยงธรรมมอบผ้ายันต์แดงพร้อมปลัดขริกแล้วกำชับว่า"เอาติดตัวไปเรียกเงินเรียกทองร้อยล้านพันล้าน"ยังดังก้องหูจนทุกวันนี่ หลวงปู่อิงจับหัวแล้วเป่าจนเย็นวาบเหมือนโดนน้ำแข็งแล้วบอก"ทำอะไรให้สำเร็จสมความปรารถนาทุกอย่าง" หลวงปู่ละมัยให้ปรอทที่ท่านหุงกับมือแล้วบอก"เอาไปชนะจนชนะให้ทั่วจักรวาล" หลวงปู่กองวัดสระมณฑลลงนะด้วยแป้งที่หน้าแล้วบอกว่า"ต่อไปเอ็งจะเป็นที่รักใคร่ใครเห็นใครรักครูบาอาจารย์จะเมตตา หรือแม้แต่หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดินยังเอาขวดน้ำเปล่าตีหัวไล่เคราะห์ร้ายทุกข์โศกโรคภัยพร้อมทั้งให้หวยที่ท่านเขียนกับมือตัวเองสามตัวตรงๆเลย...

    #จากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุปันนี้ทำให้ย้อนกลับไปมองอดีตและบาดแผลที่เจ็บปวดของวิกฤติต้มยำกุ้ง

    เครดิต : รวยทันใจแรงบันดาลใจหลังเกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งปี2540
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    101706-1482376644-7b55c46d320220b718d0943f12abca85-jpg.jpg
    หากกล่าวถึงพระเหนือโลกที่เน้นเรื่องจิตเป็นใหญ่วินัยเป็นรองแล้วไม่กล่าวถึงหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม ป่าช้าวัดเวฬุวัน อ.พยุห์ จ.ศรีษะเกษ เรื่องพระเหนือโลกก็คงไม่สมบูรณ์ในปีพ.ศ.2540ซึ่งเป็นช่วงฟองสบู่แตกธุรกิจต่างๆล้มระเนระนาดผมก็เป็นคนหนึ่งที่ประสพความเสียหายในช่วงนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเดินทางไปกราบพระอริยะสงฆ์มากมายทั่วประเทศทำให้พบพระเหนือโลกหลายองค์ที่แตกต่างจากพระอริยะสงฆ์ที่เคยพบเห็นมา..ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่สรวงห้าร้อยพรรษาเทวดาเดินดินและหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม..วันแรกที่ผมพบท่านๆเปิดเพลงจีนดังลั่นวัดตอนนั้นผมนึกตำหนิท่านในใจว่าพระอะไรเปิดเพลงจีนฟังเสียงดังลั่น(ต่อมาจึงรู้ว่าไม่ใช่เพลงจีนเป็นบทสวดพระโพธิสัตว์กวนอิม)เวลาท่านพูดคุยก็ไม่สำรวมพูดเรื่องไม่น่าฟัง..ผมจึงไม่เข้าไปหาท่านโดยนั่งอยู่หลังสุดสักพักท่านจึงเรียกผมเข้าไปหาท่าน..ไอ้แว่นมึงมาหากูเรื่องจะขอให้กูช่วยเรื่องมึงกำลังจะไปมีเรื่องกับเขาใช่มั้ย..มึงจะไปทวงเงินลูกหนี้มึงๆจะได้เงินคืนแต่ไม่ครบนะมึงจะได้บางส่วนเอานี่ไปตอนไปทวงหนี้แล้วท่านก็หยิบปลัดขิกให้ตัวหนึ่งยาวประมาณ5"..แปลกมากท่านรู้ได้อย่างไรตั้งแต่เจอหน้าท่านผมยังไม่ได้พูดอะไรกับท่านสักคำตอนนี้ในใจผมเริ่มเชื่อแล้วว่าท่านไม่ธรรมดา...รุ่งเช้าผมจึงได้ไปทวงหนี้ที่ลูกหนี้ค้างผมอยู่สองล้านเจรจาอยู่ร่วมชม.ลูกหนี้ก็ไม่ยอมพูดคำเดียวอยากได้ก็ไปฟ้องเอาเพราะเขาเห็นว่าเขาได้เปรียบในเรื่องการทำสัญญากับผมเรียกว่าเขาปิดประตูแพ้..ผมแทบจะหมดความอดทนคิดในใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดคนเลวๆเอาเปรียบคนอย่างนี้ต้องเจอดีแน่มึงคงไม่ได้ใช้ตังที่โกงกูไปแน่..ขอตัวมันเดินกลับมาสูบบุหรี่ที่รถในใจนึกถึงคำพูดของหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม"ตอนมึงไปทวงหนี้เอาของที่กูให้ติดไปด้วย"ตอนนั้นปลัดขิกอยู่ในลิ้นชักหน้ารถผมไม่ได้เอาติดตัวลงไปด้วย..โอกาสครั้งสุดท้ายแล้วลองดู..หยิบปลัดขิกขึ้นอธิฐานแล้วใส่กระเป๋ากางเกงกลับเข้าไปหาลูกหนี้อีกครั้ง..แปลกแต่จริงเรื่องมหัศจรรย์เหลือเชื่อเกิดขึ้นลูกหนี้พูดขึ้นว่า"เอาอย่างนี้แล้วกันอั๊วะให้ลื้อล้านเดียวแล้วจบกันไป..เอามั้ย"แล้วก็หยิบเช็คขึ้นมาเขียนส่งให้ผมพูดว่าเอาไปเถอะอั๊วะเขียนเช็คเงินสดให้ไม่ได้ขีดคร่อมเข้าบัญชีพรุ่งนี้เช้าไปเบิกเลย..ผมรับเช็คแบบงงๆคิดถึงคำพูดของหลวงปู่"มึงจะได้แต่ไม่ครบ" เช้าขึ้นผมรีบไปธนาคารตั้งแต่เช้าเป็นคนแรกทีธนาคารเปิดด้วยที่ลูกหนี้กับผมใช้ธนาคารเดียวกันสาขาเดียวกันพอยื่นเช็คแคชเชียร์ดูลายเซ็นก็หยิบเงินนับให้ทันทีส่งให้ผม..เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแคชเชียร์รับสายแล้วพูดว่า"เขามาเบิกแล้ว"พอวางสายผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น..แคชเชียร์บอกว่าคุณ.......โทรมาสั่งว่าให้อายัตเช็คใบนี้ผมบอกว่าพี่เบิกไปแล้วเขาก็กระแทกหูโทรศัพท์ทิ้งครับนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบกับความมหัศจรรย์จากพระเหนือโลกหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม(ยังไม่จบครับโปรดติดตามเรื่องราวปาฎิหารย์ของหลวงปู่ที่ผมพบอีกหลายเรื่องในตอนหน้า)

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1061692583841514:0
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    full-jpg.jpg
    ผมเคยไปกราบท่านเมื่อนานมาแล้ว
    ตอนนั้นท่านบอกว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ทางใต้ของไทยรวมไปถึงอินเดีย คนจะตายกันมาก
    ต่อมาก็เกิดสึนามิตามที่ท่านบอก ท่านทำนายไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี

    ส่วนรูปนั่งบนดอกบัวนั้น คนถ่ายถ่ายรูปท่านโดยที่ท่านนั่งอยู่บนพื้นดินธรรมดา แต่เมื่อถ่าย
    ออกมาปรากฏว่ามีรูปดอกบัวล้อมรอบตัวของท่านอย่างสวยงาม ซึ่งที่ตรงนั้นเป็นที่แห้งแล้ง
    ไม่มีทางที่จะมีดอกบัวอย่างในภาพได้เลย
    องค์นี้แหละครับพระเหนือโลก เมื่อท่านมรณะภาพ ฤๅษีเกตุแก้วได้มาช่วยจัดแจงงานศพ
    ของท่านด้วยความเคารพ (ครูบาเคยบอกกับผมว่า ท่านมีอายุหลายร้อยปีแล้วและเป็นพระ
    สหธรรมิกกับหลวงปู่สรวงที่บ้านละลม ท่านยังคุยว่าท่านอายุมากกว่าหลวงปู่สรวงด้วย)


    ที่มา : ไม่ต้องกลัวน้ำจะท่วมกรุงเทพฯและสุราษฎร์ธานีแล้วครับ
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ขอกับผ้ายันต์แดงครูบาเที่ยงธรรม ถูกเลขท้าย 3 ตัว

    e0-b8-87-e0-b8-a7-e0-b8-94-2-e0-b8-a1-e0-b8-b5-e0-b8-84-2561-jpg-jpg.jpg
    e0-b8-96-e0-b8-b9-e0-b8-8111-jpg-jpg.jpg
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ล็อกเก็ตครูบาพรชัย ด้านหน้า11.jpg
    ล็อกเก็ตครูบาพรชัย ด้านหลัง22.jpg
    5.ล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง ราคาบูชาตามตกลง

    ล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ รุ่น 2 วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง จ.เชียงราย หลังแผ่นทองแดง ด้านหลังยันต์พระเจ้าเปิดโลก ตอกโค้ทหมายเลข ๑๔๓๕

    ล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ" วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย..ท่านผู้จัดสร้างตามขอสร้างมากว่าสองปีเมื่อปีที่แล้วท่านถึงอนุญาตให้สร้างได้ โดยกำหนดให้สร้างเพียง 2557 อันตามปีที่ท่านอนุญาต โดยไม่ให้สร้างเกิน....ช่างที่จัดทำขอสร้างเผื่อกันเสียจากเผา ท่านไม่อนุญาตบอกให้สร้างเท่านั้น ทำออกมาเสร็จช่างยกมือใส่หัวครับ เพราะว่าล๊อกเก็ตทุกอันไม่มีเสียมีแตกแม้แต่อันเดียว จนช่างกล่าวว่า "ครูบาองค์นี้ไม่ธรรมดา" เพราะปกติหากเผาแล้วอย่างน้อยต้อง20-40 เปอร์เซ็นต้องเสียหายบิ่นชำรุดหรือแตกแต่ของครุบาสมบูรณ์หมดทุกอันซึ่งช่างก็ไม่เคยเจอเช่นกัน......ถ้าถามตัวผมแล้วผมรับใช้ครูบามานานกว่าสิบห้าปีแล้วครับ เห็นคนมาพึ่งบารมีท่านมากมายจนนับไม่ไหวตั้งแต่เจ้าใหญ่นายโตจนถึงยาจกเข็ญใจท่านเมตตาหมดไม่มีเลือกชั้นวรรณะ ล๊อกเก็ตรุ่นแรกองค์ละสามหมื่นสี่หมื่นมีคนบูชานะครับขอบอกเพราะประสบการณ์เล่าไม่จบ เจ้าของธุรกิจใหญ่ของเมืองไทยหากเอ่ยชื่อแล้วเป็นต้องร้องอ๋อกันทุกคนยังแขวนเดี่ยวล็อกเก็ตครูบาครับเพราะบารมีท่านพลิกธุรกิจที่ย่ำแย่ไม่ไหวแล้วให้กลับกลายมามีผลกำไรมหาศาล

    ล๊อกเก็ตชุดนี้มีคนสร้างถวายครูบาเพื่อหาปัจจัยสร้างหอคำหลวงที่วัด โดยแบ่งเป็นสองอย่างคือ 1.หลังแผ่นทองคำ และ 2.หลังแผ่นทองแดง ล็อกเก็ตรุ่นนี้ไม่มีการโฆษณาประกาศใดๆคนที่รู้เท่านั้น เอาเป็นว่า"คนมีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ห้อยของท่าน" เพราะกว่าจะได้สร้างแต่ละครั้งถ้าครูบาไม่อนุญาตไม่มีทางที่จะได้สร้างแอบสร้างมีแต่อันเป็นไปทั้งสิ้น(เรื่องจริงครับ)

    ท่านเสกเมื่อวันพฤหัสที่แล้วด้วยองค์ท่านเองแบบเรียบๆ ง่ายๆ แล้วออกให้บุชาวันศุกร์ ข่าวเร็วมากครับคนมาจากทุกสารทิศใกล้ไกลแย่งกันหูดับตับไหม้ 5 วันจาก 2557 องค์ วันนี้เหลืออีกเพียง 400 องค์เท่านั้นครับ.....แม้แต่พระสังฆะผู้ใหญ่บางองค์ถึงขั้นฝากพระผู้น้อยมาบูชาเลยทีเดียวครับ บารมีครูบาท่านมีเพียงใดผมก็สุดประมาณได้เอาเป็นว่ารูปท่านแม้แต่ไฟยังไม่สามารถเผาผลาญได้ก็แค่นั้น

    คนตกต่ำท่านก็ช่วยให้พลิกฟื้นได้ คนที่บูชาของท่านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ปัญหาต่างๆในชีวิตคลี่คลายอย่างอัศจรรย์ ใครบูชาของๆท่านท่านตามดูแลตลอดครับรับรองได้.....ไม่รู้นะส่วนตัวผมเชื่อว่าของๆ ครูบาท่านใครบูชาแล้วไม่ดีเป็นไม่มีครับ และนี่เป็นครั้งแรกที่ครูบาท่านให้ใช้ยันต์ประจำตัวองค์ท่านคือ "ยันต์พระเจ้าเปิดโลก"ประดิษฐานด้านหลังล๊อกเก็ต ซึ่งครูบาเคยบอกไว้ว่าเอายันต์นี้เข้าไปที่ไหนเปิดหมด ทำอะไรก็เปิดทางดีหมด และอีกหนึ่งมวลสารสำคัญก็คือ "เกศาขององค์ครูบาเอง" ท่านไม่หวงครับแต่หากท่านไม่ให้แม้แต่เส้นเดียวก็ไม่มีใครกล้าเอา ผมถือว่าเป็นของสูงสุดและสุดยอดของครูบาท่านแล้วครับ

    (หากหมดจากวัดแล้วขอบอกว่าอันละ5000ก็ไม่มีใครออกครับเพราะคนที่ได้ไปหวงแหนกันทุกรุ่นที่ครูบาทำครับ)

    ผมไม่โฆษณาอะไรมากนะครับเดี๋ยวจะมาว่าผมโปรโมทเอาเป็นว่าหากไม่ดีจริงผมไม่แนะนำครับ บุญใครวาสนามันนะครับ ไม่มีของเสริมแน่นอนครับ หมดแล้วหมดเลยครับผม...


    เครดิตข้อมูล : คุณเพชรฉลูกัน
     
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระครูบาพรชัย องค์นี้ของจริงนิ่งเป็นใบ้ หูทิพย์ ตาทิพย์ มีเจโตปริยญาณ รู้วาระจิตของคนอื่นอย่างรวดเร็วและแม่นมาก ท่านที่เคยไปกราบ บอกเคยโดนท่านลองใจมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปกราบจนครั้งล่าสุด วัตถุมงคลของท่านไม่ค่อยออก จะมีก็แจกเป็นส่วนใหญ่

    เศรษฐีใหญ่ที่เอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังศรัทธาท่าน และเศรษฐีอีกหลายๆ ท่าน ที่ไม่ได้เอ่ยนาม
    คนตกต่ำท่านก็ช่วยให้พลิกฟื้นได้ คนที่บูชาของท่านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ปัญหาต่างๆในชีวิตคลี่คลายอย่างอัศจรรย์ อีกหนึ่งมวลสารสำคัญก็คือ "เกศาขององค์ครูบาเอง" ท่านไม่หวงครับแต่หากท่านไม่ให้แม้แต่เส้นเดียวก็ไม่มีใครกล้าเอา
     
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    -94-e0-b8-99-e0-b9-84-e0-b8-9f-e0-b9-84-e0-b8-ab-e0-b8-a1-e0-b9-8922-jpg-4079086-jpg-4079089-jpg.jpg
    ไม่ต้องโม้โฆษณาให้มากความนะครับ ดูรูปกันเอาเองงเพราะนี่คือของที่ผมเจอในกองเถ้าหลังไฟไหม้โต๊ะหมูู่ชาบ้านผมเอง.....ผ้ายงผ้ายันต์พระอะไรว่าดีเป็นจุณหมดครับ มีแต่รูปครูบาพรชัยเท่านั้นที่พีะเพลิงไม่้สามารถเผาผลาญได้....แค่รูปใบเล็กๆเคลือบไว้เฉยๆท่านเป่าให้ครั้งเดียวเท่านั้นครับ ส่วนล๊อกเก็ตท่านตั้งอธิษานจิตให้โดยตรงผมว่าคุณวิเศษเกินจะประมาณได้ครับ บุญใครบุญมันอย่างที่ผมว่าแหละครับพี่น้อง

    เครดิตรูปภาพ : คุณเพชรฉลูกัน
     
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    3-25e0-25b8-25a9-25e0-25b8-2590-25e0-25b8-25b511-jpg-3905728-jpg-4086894-jpg-4099676-jpg-jpg-jpg.jpg
    6.ผ้ายันต์เศรษฐี หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม ราคาบูชาตามตกลง

    ผ้ายันต์เศรษฐี หลวงพ่อดำ ประสบการณ์มากมาย ท่านหนึ่งทำอาชีพล้างขวดขาย ก่อนหน้านั้นล้างขวดส่งโรงงานได้ราวครึ่งคันรถสิบล้อ พอได้บูชาผ้ายันต์เศรษฐี รายได้ดีขึ้นมาก ล้างขวดส่งโรงงานได้เป็นวันละ 3 คันรถสิบล้อ

    อีกท่านทำอาชีพขายของ เมื่อได้บูชาผ้ายันต์เศรษฐี หลวงพ่อดำ ทำให้ขายของดีขึ้นมาก ลูกค้าเข้าตลอด


    ** ผู้เช่าบูชาผ้ายันต์เศรษฐี จะได้คาถาอาราธนาหลวงพ่อดำด้วย อยากได้สิ่งใด อาราธนาหลวงพ่อดำ แล้วก็อธิษฐานได้ตามใจปรารถนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...