*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    พระพุทธเหล็กไหลน้ำเต้า ลป สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้อเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ ปี19
    หลวงปู่สรวง พาหลวงปู่สร้อย ไปที่ภูตะแบง ประเทศเขมร ทำพิธีตัดและอัญเชิญเหล็กไหลมาสร้างวัตถุมงคล เสกตั้งแต่ปี 19 เข้าพิธีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะพิธีใหญ่ พิธีแรกที่งานฝังลูกนิมิตวัดเลียบราษฎร์บำรุง ปี 19 ในงานมี ลป.โต๊ะ ลพ.แพ ลป.ฝั้น ลป.แหวน เป็นต้น มาร่วมงานปลุกเสก โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์
    พุทธคุณ หลวงปู่สรวง เชิญเทวา เชิญบรมครูปู่เหล็กไหล ลงมาสถิตเพื่อเร่งลาภผลเงินทองให้ต่อเนื่อง พลิกชะตาที่ย่ำแย่ให้ดีกว่าเดิม ก้าวผ่านความทุกข์ยากให้เร็วพลัน และด้วยอนิสงฆ์แห่งบารมีเหล็กไหล สามารถใช้แก้อาถรรพณ์ แก้คุณไสย ดูดสิ่งที่ไม่ดีในกายเรา ให้หมดมลทินรวมทั้งยังเป็นเกราะป้องกันภัยต่างๆ ไม่ให้ก้าวเข้ามา แคล้วคลาดกันภัยเหนือมัจจุราช คาถา บูชาหลวงปู่สรวงนะโม 3 จบก่อนแล้วว่าตามนี้ นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา
    ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่
    จะค่อยๆหายไปในที่สุด ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิ

    คุณnaiburit ปิดครับ
    IMG_25620202_204349.JPG
    IMG_25620202_204324.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2019
  2. naiburit

    naiburit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    749
    ค่าพลัง:
    +580
    ปิดครับ
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1183 นกคุ้มเงิน นกคุ้มทอง 1.5*2.5 นิ้ว หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุกจ.ชัยนาท
    บูชา 650 บาท
    downloadfile-1.jpeg downloadfile.jpeg
    4063119-53b6e73e683ec37fc6f032497fc9974d.jpg 4063128-225adac066f9918868f9d23744632db9.jpg 4063127-5d8cab68f2206a637676ab0058fe0797.jpg
    4063105-22ba6e783d908278d58adfb22736cdfc.jpg 4063106-4d4c6ec2979edeed2750df59d4f6f777.jpg 4063107-053c767db6fce2f49e24aed221ac4c21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2019
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***เหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ปี19***
    ประวัติศาสตร์ของเหล็กไหลในสยามประเทศมีปรากฏชัดเจนที่สุดใน “โองการพระเจ้านอโม” กล่าวถึงเหล็กไหลในการประพันธ์โองการพระเจ้านอโมที่กล่าวถึงเหล็กไหลอยู่ประมาณปลายสมัยอยุธยาหรือต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ดังนี้ “ตน+++เพ็ชชคงคงแก่ขวานเสน่านาง กระเบากระบี่สิ่งจะฟันกันหยั่นเยิน พะเนินหักฉะนักอยู่อังอะ ตน+++เพ็ชรคงคงแก่แสนธนูหน้าไม้ปืนไฟ ฟ้าดินดับหับบันดาล ทวาทศมิดปิดราษี ด้วยเดชะพระบารมีพระอิสวาสุ สุราไลยในไตรภพตลบวินาศ ตน+++เพ็ชชคงคงแก่เหล็กหมาด มีดตะบองกล้องสะลัดไชย ไม้รวกฉมวกและมีดเหน็บ เลื่อยและเหล็กแหลนหลาวหอกดาบคมขาว ของ้าวคมงอนลงอักษรถ้วนทั้งตัวดาบด้ามคร่ำนพคุณ พยู่บิ่นหินแลงคงแสง กะระมะถะ อสุนิการขวานฟ้าผ่าวังมหาเนาวะโลหะหล่อ เหล็กไหล หัวใจนพรัตนธนูสินเขาโคนินแลเขี้ยวพราย............

    องค์นี้ทรงรูปแคปซูล ขนาด 1.5 นิ้ว เป็นเครื่องรางอจินไตยของท่าน หายากสุดๆ เหล็กไหลชนิดนี้มักพบในที่เย็นจัด เช่นในแถบประเทศเนปาล ธิเบต และในแถบที่มีหิมะปกคลุม จึงไม่ค่อยพบในประเทศไทย เหล็กไหลชนิดนี้มีสีสันที่แปลกไปกว่าเหล็กไหลโดยทั่วไปเพราะมีสีขาวเงินยวงเหมือนปรอท เหมือนโลหะแวววาว บางชิ้นผิวพรรณดูคล้าย เกล็ดงูจึงเรียกว่า "นางพญางูขาวหรือพญางูเผีอก" จะมีอิทธิฤทธิ์ ทางด้านมายาภาพเช่นกัน และสามารถปรับอุณหภูมิรอบตัวให้ เหมาะสมแก่ผู้พกพาได้ เด่นในทางล่องหนหายตัว เป็นแคล้วคลาด จากภยันตรายทั้งปวง เหล็กไหลประเภทนี้ไม่ค่อยชอบเสพน้ำผึ้ง แต่ชอบอาบแสงจันทร์

    เหล็กไหลชีปะขาวหรือเหล็กไหลเงินยวงเป็นเหล็กไหลที่ นักบวชทางเหนือของประเทศไทยและพวกลามะธิเบตนิยมหามาพกติดตัวไว้เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ใช้ในการปกป้องคุ้มครองและใช้ในการแสดง ฤทธิ์ เช่น ใช้ทำน้ำมนต์ หรือเป็นเครื่องเพิ่มกระแสจิตให้กับตัวเอง เหล็กไหลชีปะขาวนี้จะล่องหนหายตัวไปต่อเมื่อผู้ที่เป็นเจ้าของ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือผู้นั้นถึงคราวหมดอายุขัย

    เนื่องจากเหล็กไหลชีปะขาวเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่หาดู ได้ยาก จึงมีน้อยคนที่จะรู้จักหรือได้เห็น อีกทั้งไม่ค่อยมีผู้ใดมีไว้ใน ครอบครอง คนทั่วไปจึงมักเข้าใจว่าเหล็กไหลต้องมีสีดำเท่านั้น รูปพรรณสัณฐานทั่วไปของเหล็กไหลชีปะขาวจะมีลักษณะยาวมนรื ทรงหนำเลี้ยบคล้ายเหล็กไหลที่ได้จากการตัด แต่เหล็กไหลชนิดนี้ สามารถเก็บมาเฉย ๆ ได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการตัดเช่นเหล็กไหล ทั่วๆ ไป และบางครั้งยังพบที่มีลักษณะเป็นก้อนฝังอยู่ในใต้ดินด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องอาศัยการตรวจดูโดยทางในจึงจะสามารถรู้ได้ โดยมากเหล็กไหลชนิดนี้มักมีญาณของชีปะขาวหรือคนธรรพ์ดูแลรักษาอยู่

    IMG_25620210_135143.JPG
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1184 "ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นแรก เนื้อชนวนทองเหลือง" หลวงพ่อทวีศักดิ์ (หลวงพ่อเสือดำ) ปลุกเสกตลอดไตรมาสที่วัดศรีนวลฯ จัดสร้างเนื่องในโอกาสครอบรอบ 50 ปี และเพื่อสร้างกุฏิสงฆ์ วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ พ.ศ.2557 มีจารและหมายเลขกำกับ
    "ท้าวเวสสุวรรณ" เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ ปกครองเหล่าอสูร ยักษ์ ตลอดจนเหล่าภูติผีปีศาจทั้งหมด และยังเป็นเจ้าบัญชีพระกาฬใหญ่ ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นยักษ์ที่ใจบุญ อีกทั้งยังให้ความเคารพนับถือในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ท้าวเวสสุวรรณเป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตย์อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก

    ท้าวเวสสุวรรณยังเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยสัญญลักษณ์แห่งมหาเศรษฐี ผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณ นอกจากต้องการได้รับการปกป้องคุ้มครองภัยพาลต่างๆ แล้ว อีกด้านหนึ่งล้วนมุ่งหมายทางความร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ เพราะชื่อของท่านท้าวเวสสุวรรณ แปลว่า ยิ่งด้วยทรัพย์ หรืออีกชื่อหนึ่งของท่านคือท้าวกุเวรธนบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ แม้แต่ชาวจีนก็ยกย่ององค์ท้าวเวสสุวรรณว่า เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความร่ำรวยในนาม “องค์ไฉ่ซิงเอี้ย” ซึ่งมีบูชากันทุกบ้านร่ำรวยทุกคน

    "ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นแรก" หลวงพ่อทวีศักดิ์ (หลวงพ่อเสือดำ) นั่งแท่นฐานถุงเงินถุงทอง เป็นปางที่สุขสบาย สมบูรณ์พูลสุข เจริญลาภเจริญยศ ร่ำรวย สุขกายสบายใจ มีโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา กันภัย กันภูติผี ปีศาจ ยักษ์ มารและเทวดาผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิรบกวนหลอกหลอน แก้ถูกของ หรือโดนผีเข้าเจ้าสิง ลมเพลมพัด กันคุณไสย์คุณคนมนต์ดำอาถรรพ์เวทย์และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายครับ

    "ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นแรก เนื้อชนวนทองเหลือง" หลวงพ่อทวีศักดิ์ (หลวงพ่อเสือดำ) ปลุกเสกตลอดไตรมาสที่วัดศรีนวลฯ จัดสร้างเนื่องในโอกาสครอบรอบ 50 ปี และเพื่อสร้างกุฏิสงฆ์ วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ พ.ศ.2557 มีจารและหมายเลขกำกับ (หมายเลขอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากรูป) จำนวนสร้าง 999 องค์ เท่านั้นครับ

    คุณ~หัตถ์oBuddha~ ปิดครับ
    IMG_20181020_192621.jpg
    IMG_20181020_192612.jpg IMG_20181020_192603.jpg IMG_20181020_192555.jpg IMG_20181020_192545.jpg IMG_20181020_192019.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2019
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1185 เหรียญอาร์ม ภปร. ในหลวง ร.๙ เสด็จคู่พระราชินี (เนื้อทองแดงลงยา) ในหลวงคู่พระราชินี(เสด็จงานพระราชพิธีตัดลูกนิมิต) วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ปีพ.ศ.2522
    พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ พ.ศ.๒๕๒๒ โดยพระเกจิคณาจารย์แห่งยุคนั่งปรกอธิษฐานจิต
    ด้านหน้า: เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๙ คู่กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งสองพระองค์ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ระดับพระอังสา ทรงเครื่องแบบเต็มพระยศ
    ด้านหลัง: กลางเหรียญเป็นตราพระสัญลักษณ์ ภปร.ใต้มหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี โดยมีข้อความสองบรรทัดใต้พระสัญลักษณ์ บรรทัดแรกมีข้อความ "เสด็จฯในงานทรงตัดลูกนิมิต" และบรรทัดที่สองมีข้อความ "วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ ๒๕๒๒"

    บูชา 350 บาท
    IMG_20181020_191906.jpg
    IMG_20181020_191852.jpg IMG_20181020_192006.jpg 3087106-3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2019
  7. ~หัตถ์oBuddha~

    ~หัตถ์oBuddha~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    573
    ค่าพลัง:
    +401
    จอง 1184 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2019
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ...ขอบคุณครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***สีผึ้งเขียวมหาเสน่ห์ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน***
    สีผึ้งเขียวอยู่ในบาตรหลวงปู่สรวง(ทำเอง) ส่วนสีผึ้งขาว ออกที่วัดเลียบฯ หลวงพ่อประโยคจัดทำ สีผึ้งเขียว หลวงปู่สรวง พุทธคุณทางด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม มหารัก มหาหลง ยังรวมไปถึงโภคทรัพย์ โชคลาภ ไม่แพ้สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขี้ผึ้งครับ

    ท่องนะโม3จบ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ใช้นิ้วกลางป้ายที่ขอบปาก วนขวา 3 รอบ ท่องบ่นในใจคาถาหลวงปู่ เต๋ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู ...3จบ ห้ามพูดคำหยาบ

    เคล็ดการใช้นิ้วแต่ละนิ้วในการป้ายสีผึ้งครับ
    *เมื่อเราไปหาผู้ใหญ่หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วโป้งแตะสีผึ้งทาปาก
    *เมื่อเราไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกันอายุไล่เลี่ยกัน หรืคนรับใช้ ลูกน้องของเรา ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งทาปาก
    *เมื่อเราไปหาผู้สูงอายุ หรืแม่หม้าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งทาปาก

    *เมื่อจะไปหาหนุ่มๆสาวๆ ให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งทาปาก
    *เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งทาปาก

    IMG_25620508_194019.JPG
    IMG_25620508_193955.JPG IMG_25620508_194130.JPG IMG_25620508_194105.JPG 9786165264181l.jpg
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***พระพิฆเนศ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ออกวัดสุทัศน์ ปี 41***
    สร้างโดยเจ้าคณะวัดสุทัศน์ ใต้ฐานบรรจุสีผึ้งปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน

    IMG_25620508_193809.JPG
    IMG_25620508_193720.JPG IMG_25620508_193741.JPG
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1186 ลูกอมผ้าจีวรห่อชานหมากสร้างโบสถ์ พระคุณเจ้าหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค อรหันต์ 7 แผ่นดิน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม.
    ในราวปลายปี พ.ศ.๒๕๑๒ ในระยะแรก ... ยังไม่มีคนทราบข่าวว่ามีพระเป็นหลวงปู่แก่ๆมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ในขณะนั้นคนในตลาดตาคลียังไม่ค่อยมีคนรู้จักหลวงปู่และหลวงปู่ท่าน ก็ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อันใดให้ใครรู้ วันๆท่านจะนั่งตะบันหมากฉัน แต่การฉันหมากของท่านไม่เหมือนใคร เพราะท่านไม่ได้ฉันเปลือกไม้ ที่มีขายตามท้องตลาดเหมือนที่คนกินหมากทั่วไปซื้อกิน ... หลวงปู่ท่าน จะฉันแก่นไม้คูณแดง ซึ่งมักจะมีคนตัดมาถวายตลอด ... ท่านจะนำมาฟันเป็นชิ้นๆแล้วนำลงตำให้ละเอียด ... จึงฉันกับหมากแทนเปลือกไม้ ... ต่อมาในประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๓ ก็มีคนลือกันว่าหลวงปู่สีท่านให้หวยได้แม่นยำมาก จึงมีผู้คนหลั่งไหล กันมาขอหวยกับหลวงปู่แต่ท่านไม่ชอบเพราะมันผิดศีล เลยเลี่ยงใบ้แทน แต่ก็ดันมีคนตีหวยถูกอีกยิ่งทำให้หลวงปู่เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น แล้วต่อมา วันนึงมีศิษย์ที่ไกล้ชิดหลวงปู่ ถามหลวงปู่ว่ามีของดีอะไรบ้าง บอกว่าอยากจะได้เอาไว้ป้องกันตัว หลวงปู่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร ขณะนั้นท่านกำลังฉันหมากอยู่ ก็คายชานหมากออกมา ใส่ผ้าเหลืองที่ท่านใช้ทำเป็นผ้าขี้ริ้ว แล้วผูกส่งให้ลูกศิษย์คนนั้น พร้อมทั้งบอกว่า ... ห้ามแก้ออกนะ ... หากใครเขาอยากยิงมึงก็แหกตูดให้เค้ายิงเลย ... สามวันสามคืนก็ยิงไม่ถูกมึง ... แรกๆเค้าก็ยังไม่เชื่อ !!! จึงนำเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนฟัง ขณะนั้นมีพ่อค้าวัว-ควาย เป็นชาวปาทานอยู่ในตลาดตาคลีนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งเค้าบอกอยากลองยิงดู ลูกศิษย์คนนั้นจึงมอบชานหมากของหลวงปู่ให้เขาไป เขาก็นำไปคล้องคอ ไก่แล้วยิงด้วยปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ระยะห่างประมาณ 1 วาเศษเท่านั้น เขายิงไปหมด 6 นัดไม่เคยถูกเลยซักนัดเดียว ทั้งที่เขาเป็นคนที่ยิงปืนได้ แม่นยำมากคนนึง เค้าจึงเชื่อถือและศรัทธาหลวงปู่สีมากขึ้นเลยทีเดียว ต่อมามีนายทหารอากาศกองบิน 4 ชื่อเรืออากาศโทครรชิต บัวอำไพ ทราบข่าวเรื่องชานหมากของหลวงปู่ แต่ก็ยังไม่เชื่อ จึงของนำชานหมาก ไปทดลองยิงโดยให้มือปืนของกองบิน ยิงโดยนำไปแขวนที่คอเป็ดแล้วยิง แต่ยิงเท่าไหรก็ไม่ถูก ใช้ปืนถึง 4 กระบอก จากนั้นนำเอาออกจากคอเป็ด ใช้ก้อนหินวางแทน ยิงก้อนหินกระเด็นเลย แต่ยิงเป็ดเท่าไหร่ก็ยิงไม่ถูก เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมาก ... ต่อมาจึงได้พาทหารที่อยู่ในเหตุการครั้งนั้น ไปกราบหลวงปู่สีเพื่อ ขอชานหมาก หลวงปู่สีก็มีเมตตาให้กับทุกคนส่วนชานหมากก้อน ที่นำไปทดลองยิงเป็ดนั้น เรืออากาศโทครรชิตได้นำไปเลี่ยมทอง คล้องคออยู่จน ทุกวันนี้ หลังจากนั้นมาทหารกองบิน 4 ตาคลี ต่างก็หลั่งไหลฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีอย่างมากมาย สถานีวิทยุกระจายเสียงทหารกองบิน 4 ก็ออกอากาศเรื่องของหลวงปู่ ทุกวัน ทำให้หลวงปู่สีเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และใครๆก็อยากได้ชานหมาก และวัตถุมงคลของหลวงปู่สี ทำให้หลวงปู่สีต้องเคี้ยวหมากแจกทั้งวัน ช่วงนั้นยังไม่มีการสร้างวัตถุมงคล มีเพียงแต่คำหมาก ห่อจีวรของหลวงปู่ ซึ่งทางวัดให้บูชา 15 บาท ถ้าอัดพลาสติก 25 บาท นึงเพื่อนำเงินไปจัดสร้างพระอุโบสถของวัดเขาถ้ำบุญนาค ... #จึงเป็นที่มาของชานหมากสร้างโบสถ์ ... เครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียง อันโด่งดัง กล่าวขานกันมาถึง ปัจจุบัน ... ชานหมากเม็ดนี้คือ ??? ผ้าไหมผ้ารับประเคนหลวงปู่ที่ใช้ประจำซึ่งหายากไม่น้อยกัน อย่างไรก็แล้วแต่ ในเรื่องผ้าก็เป็นองค์ประกอบ ??? อย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราพิจารณาก่อนที่ จะเช่าหาบูชาชานหมากห่อจีวร ซึ่งข้อมูลสำคัญจริงๆนั้นคือสิ่งของวิเศษที่อยู่ในผ้า เป็นของหายากมี มูลค่าทางจิตใจต่อลูกศิษย์เป็นสุดยอดของในฝันของใครหลายๆคน
    บูชา 800 บาท

    IMG_25620504_220156.JPG
    IMG_25620504_220223.JPG
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1187 หาแก้วมรกตของหลวงปู่หมุนไม่ได้ ใช้รุ่นนี้แทนได้สบายใจครับ
    พระผงแก้วมรกต หลวงปู่สรวง 2519 ทุกองค์มีตราปั้มที่ระลึกงาน ปี 19 ด้านหลัง

    พระรุ่นนี้เทวดาลอยมาสั่งให้ทำครับ อนุภาพร่ำรวย หนุนดวง พลิกชะตา เมตตามหานิยมชั้นสูง
    พระรุ่นนี้เข้าพิธีที่วัดเลียบ นนทบุรี มาอย่างยาวนาน กว่า 20 ปี
    โดยเฉพาะพิธีใหญ่งานฝังลูกนิมิตรวัดเลียบ ปี 19

    ในงานมี ลป โต๊ะ ลพ แพ ลป ฝั้น ลป แหวน เป็นต้น มาร่วมงานปลุกเสก โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์
    บูชา 850 บาท

    IMG_25620503_213448.JPG
    IMG_25620503_213322.JPG
     
  13. ~หัตถ์oBuddha~

    ~หัตถ์oBuddha~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    573
    ค่าพลัง:
    +401
    เเจ้งโอนครับ/
    ที่อยู่เดิม
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณครับ...จัดส่งให้ครับ
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1188 นางกวัก หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ขนาด 1.5*2 ซม.
    ***นะชาลีติ เรียกเงินเรียกทองโชคลาภ เมตตาค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา***
    หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคหลังปี 2500 ที่มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม

    นามเดิม นายสงวน นามสกุล ร่มโพธิ์ชี ชาตะ เมื่อปี พ.ศ. 2460 พื้นเพเป็นชาวบ้าน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

    เดิมสมัยเป็นฆราวาสวัยหนุ่ม ท่านมีนิสัยนักเลง เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ไม่ยอมคน ไม่กลัวใคร ท่านยังรู้จักและสนิมสนมกับเสือในสมัยก่อน เช่น เสือมเหศวร เป็นต้น (ภายหลังจากที่ท่านบวช เสือมเหศวรยังได้ไปมาหาสู่ ช่วยสร้างวัดไผ่พันมือ ตลอดจนแม้ท่านมรณภาพก็ยังมาเป็นประธานในงานฌาปนกิจ)

    ราวปี 2470กว่าๆ ทางราชการเร่งปราบปรามบรรดาเสือและสมัครพรรคพวก หลวงพ่อสงวนเกรงว่าจะถูกทางราชการเพ่งเล็งว่าเป็นสมัครพรรคพวกบรรดาเสือ เมืองสุพรรณ จึงได้อุปสมบท ณ.พัทธสีมาวัดสังโฆษิตาราม อ.บางปลาม้า เมื่อราวปี พ.ศ.2480 โดยมีพระครูโฆสิตธรรมสาร หรือ หลวงพ่อครื้น อมโร เป็นพระอุปัชฌาย์

    หลังจากอุปสมบทได้ศึกษาอักขระเลขยันต์คาถาอาคม การเขียนผง-ลบผงอิทธิเจ จากหลวงพ่อครื้น และศึกษาพระปริยัติธรรมควบคู่ไปด้วยจนสอบได้นักธรรมเอก

    ต่อมาย้ายไปจำพรรษาที่วัดองครักษ์ อ.บางปลาม้า ราว 4-5 พรรษา ชาวบ้านเลื่อมใสในปฎิปทาต้องการให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส แต่ท่านไม่ต้องการรับตำแหน่ง จึงปฏิเสธและย้ายมาอยู่วัดบ้างกร่าง อ.ศรีประจันต์ ในปี พ.ศ.2490 เป็นศิษย์พระเมธีธรรมสาร (ท่านเจ้าคุณไสว) ซึ่งท่านเจ้าคุณไสวรูปนี้เป็นพระเกจิอาจารย์ชั้นแนวหน้าเมืองสุพรรณ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อาทิ พระพรหมคุณาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณประยุต ประยุตโต ) , พระครูโสภณสิทธิการ (หลวงพ่อสันต์ ) วัดเสือ , หลวงพ่อน่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ , หลวงพ่อทวี (พระปลัดทวี) วัดบ้านกร่าง เป็นต้น ต่อมาหลวงพ่อสงวนท่านได้ลาสิกขาออกมาในช่วงราวปี 2498 ที่วัดบ้านกร่างนี่เอง

    ได้พบหญิงคนรัก มีครอบครัว บุตรและธิดา รวม 2 คน ชีวิตฆราวาสของท่านก็คงถือศีล นุ่งขาวห่มขาวมาตลอด และในช่วงปี พ.ศ.2500-2504 ท่านก็อาศัยอยู่ที่วัดห้วยสุวรรณวนาราม อ.ศรีประจันต์

    ต่อมาในปี พ.ศ.2505 ขณะอายุ 45 ปี ท่านก็ได้อุปสมบทอีกครั้ง ณ.พัทธสีมาวัดองครักษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยสันนิษฐานว่า พระครูอุดมโชติวัตร (หลวงพ่ออรรถ) วัดองครักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้วจำพรรษาที่วัดทุ่งแฝกประมาณ 7 พรรษา และที่วัดทุ่งแฝกนี้เองท่านเริ่มสร้างเครื่องราง เป็นลูกอมเนื้อผงแจกแก่ชาวบ้านครั้งแรกในราวปี 2510 ซึ่งส่วนใหญ่จะตกอยู่กับเด็กๆ เพราะแรกๆชาวบ้านไม่ค่อยชอบลูกอม ว่ากันว่า แรกๆชาวบ้านชอบพูดสนุกปากว่า “ลูกอมท่านยังกับลูกกระสุนยิงนก ไม่น่าแขวนน่าเอาไปยิงนกมากกว่า”หลังจากที่เด็กๆแขวนลูกอมของท่าน แต่ถูกหมากัดไม่เข้า จึงเริ่มมีชาวบ้านมาขอลูกอมท่าน

    ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2512 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดไผ่พันมือ อ.ศรีประจันต์ ซึ่งขณะนั้นวัดไผ่พันมือเป็นป่าไผ่ มีต้นไม้ใหญ่มากมาย ต้องอาศัยชาวบ้านและพระเณรจากวัดองครักษ์ มาช่วยกันถากถางไม้ให้โล่งเตียน งูเหลือมก็มีมากมาย ขนาดที่ว่า งูชอบไปนอนขดในโบสถ์มหาอุตม์ที่วัด ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สร้างในสมัยอยุธยา คราวละหลายๆตัว และโบสถ์นี้ในปัจจุบัน พระเณรในวัดก็ยังคงใช้โบสถ์หลังนี้มาโดยตลอด (ไม่มีการสร้างโบสถ์ใหม่)

    โบสถ์หลังนี้เป็นโบสถ์มหาอุด คือ มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว ปัจจุบันหาดูได้ยากมาก

    แรกเริ่มที่ท่านมาจำวัดที่วัดไผ่พันมือ ท่านสร้างกระต๊อบหลังเล็กๆเพียงหลังเดียว อยู่ตามลำพัง ออกบิณฑบาตเช้าตรู่ด้วยเท้าเปล่าวันละ 5-6 กิโลเมตร วัดก็เป็นวัดร้าง ไม่มีพระเณรจำพรรษา แต่เพียงไม่กี่ปี ท่านก็สามารถสร้างวัดใหญ่มี กุฏิ ศาลาหลังใหญ่ได้อันเกิดจากศรัทธาชาวบ้านมีภิกษุสามเณรมาจำพรรษาที่วัดมาก ขึ้นท่านเป็นพระสมถะ น่ากราบไหว้ รวมตลอดจนเสียงร่ำลือจากประสบการณ์อภินิหารว่า ปลัดขิกและลูกอมท่านหมากัดไม่เข้า นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่อง เมตตามหานิยม ท่านเป็นพระที่ชอบดุบ่อยๆ แต่ชาวบ้านกลับไม่ถือสา แถมยังบอกว่า ถ้าท่านดุด่าว่าเมื่อไหร่เป็นได้โชคทุกครั้ง ท่านเป็นพระที่ไม่เคยเอ่ยปากขอ ไม่เคยเรี่ยไร แต่แปลกที่ท่านมีลาภสักการะไม่เคยขาด ศิษย์ทราบว่าสร้างอะไรก็จะบอกต่อๆกันไป ในช่วงที่ท่านเริ่มสร้างหวดมนต์ มีเงินเพียง 600 บาท( สร้างหอสวดมนต์ ช่วงปี 2522 – 2524) นายจวง คหบดี ในแถบทุ่งแฝก เคยปวารณาขอถวาย 50,000 บาท ช่วยสร้างหอสวดมนต์ แต่เริ่มสร้างก็ไม่นำเงินมาถวายสักทีจนสร้างเสร็จถึงได้นำเงินมาถวาย หลวงพ่อก็ไม่ยอมรับว่า สร้างเสร็จแล้วไม่เอาแล้ว ไม่ว่านายจวงจะพูดอย่างไร หลวงพ่อก็ไม่ยอมรับเพราะสร้างเสร็จแล้ว จนนายจวงไม่ทราบจะทำอย่างไรเพราะท่านไม่ยอมรับเงินจึงขอสร้างกุฏิถวายวัด หลวงพ่อก็บอกว่า “ตามใจจะสร้างก็ตามใจ” นายจวงจึงได้สร้างกุฏิวัดหลังเล็กๆถวายวัด

    หลวงพ่อสงวน ท่านเป็นผู้ที่อุทิศตนบุกเบิกสร้างวัดไผ่พันมือ โดยร่วมกับหลวงพ่อแกละ (สหธรรมิก) สร้างถาวรวัตถุภายในวัด หลวงพ่อแกละท่านชำนาญด้านดูดวง ส่วนหลวงพ่อสงวนชำนาญด้านรดน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ ปัจจัยที่ได้ท่านทั้งสองจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัดทั้งสิ้น เรียกได้ว่า พระเณรในยุคนั้นไม่มีอดอยาก แม้ในคราวที่ฝนตกฟ้าร้องไม่อาจออกไปบิณฑบาต ก็มีข้าวปลาอาหารฉันไม่อด

    หลวงพ่อสงวนท่านเริ่มที่จะบูรณะวัดนี้โดยสร้างกุฏิไม้หลังเล็กๆขึ้นก่อน จากนั้นจึงสร้างศาลาหลังใหญ่ เมื่อราวปี 2526 ในการสร้างศาลาหลังใหญ่นี้ ได้มีการจัดสร้างเครื่องราง และพระเครื่องเนื้อผงเป็นจำนวนมากเพื่อแจกญาติโยมเป็นที่ระลึกในการร่วมทำ บุญสร้างศาลา ท่านสร้างพระเครื่องเนื้อผง โดยใช้มวลสารผงอิทธิเจที่ท่านปั้นและลบด้วยตัวเอง ตลอดจนดูแลการสร้างด้วยตัวเอง โดยให้พระเณรช่วยกันปั้นและกดพิมพ์พระ (มิใช่จ้างช่างไปทำตามโรงงานแบบที่แต่ละวัดทำในยุคหลังปี 2500) มีประสบการณ์อภินิหารมากมาย ทำให้มีลูกศิษย์นับถือท่านมากมายมาช่วยเหลือท่านสร้างวัดจนมีกุฏิ ศาลา หลังใหญ่

    พระเครื่องท่านสร้างจากผงอิทธิเจ ซึ่งท่านเขียนและลบผงด้วยตัวท่านเองตลอดชีวิต ศิษย์และกรรมการในสมัยนั้นต่างทราบดี ว่างจากรับแขก ท่านก็จะเขียนและลบผงทั้งคืน โดยนำมวลสารมาปั้นเป็นแท่ง เขียนแล้วลบเป็นผง จากนั้นก็นำมาเขียนแล้วลบเป็นผง ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้งจนสำเร็จ จึงนำผงที่ได้มาผสมกับมวลสารอื่นๆอาทิ ว่าน ดินกรุ (ซึ่งบดละเอียด) เป็นต้น

    เรื่อง ผงอิทธิเจ ของท่านขึ้นชื่อมาก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เคยกล่าวว่าอาจารย์สงวน ทำผงเก่ง
    ในสมัยนั้นวัดพิกุลทอง มีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องเมื่อใด หลวงพ่อแพจะส่งรถมารับหลวงพ่อสงวนอยู่เสมอๆ
    หลวงพ่อสงวนก็เคยกล่าวยกย่องให้ลูกๆหลานๆฟังเสมอว่า หลวงพ่อแพ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก ผ่านไปสิงห์บุรีให้ไปกราบท่านให้ได้นะ

    บูชา 650 บาท

    IMG_25620515_214029.JPG

    IMG_25620515_214008.JPG
     
  16. ~หัตถ์oBuddha~

    ~หัตถ์oBuddha~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    573
    ค่าพลัง:
    +401
    ได้รับพระเเล้ววันนี้ มีของเเถมติดมาด้วย ขอบคุณครับบบ
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1189 พระนางพญา (ศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร) เนื้อดินผ่าน 2 สี พระรัชมงคลนายก หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร
    หลวงตาคำดี ปัญโญภาโส ท่านได้เดินทางมาพักที่วัดป่าธาตุนาเวง (ปัจจุบันคือ วัดป่าภูธรพิทักษ์) อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เพื่อมากราบมอบกายถวายตัวเป็นศิษย์ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ดังที่ได้ตั้งใจไว้ในสมัยที่ท่านยังเรียนพระปริยัติธรรม โดยหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านก็เมตตารับหลวงตาคำดี ปัญโญภาโส ไว้เป็นศิษย์ดังที่ตั้งใจ และให้หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ เป็นพระพี่เลี้ยง ดูแลและบอกสอนเรื่องข้อวัตรปฏิบัติเกี่ยวกับพระธุดงค์กรรมฐานต่างๆ ส่วนเรื่องการปฏิบัติภาวนานั้น องค์หลวงปู่ฝั้น ท่านจะเมตตาอบรมสั่งสอนอยู่เป็นประจำเสมอมิได้ขาด หากว่าหลวงตาคำดีท่านสงสัยข้ออรรถข้อธรรมอะไร ก็กราบเรียนถามกับหลวงปู่ฝั้น ซึ่งองค์ท่านก็เมตตาให้อุบายธรรมแบบแยบยล จนเป็นที่พอใจ
    สำหรับอุบายธรรมกรรมฐานต่างๆ ที่หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้สอนหลวงตาคำดีนั้น ท่านเมตตาเล่าว่า

    “ กรรมฐานที่พระอาจารย์ (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร) อบรมศิษย์ โดยทั่วไปแล้วส่วนมาก เน้นหนักในพุทธานุสสติ กับกายคตาสติ คือสอนให้บริกรรมพุทโธเป็นอารมณ์ ในทุกอิริยาบถ ให้มีสติกำหนดรู้กายรู้จิตอยู่เสมอ จะเป็นการยืนกำหนด เดินจงกรม นั่งภาวนา หรือนอนสีหไสยาสน์ภาวนา ก็ให้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา จนกว่าความรู้กับสติที่ระลึก สัมพันธ์เป็นอันเดียวกันเป็น สติชาคโร คือ จิตตื่นอยู่ หรือสว่างอยู่เป็นนิจ เป็นจิตที่ปราศจากนิวรณ์ จิตก็จะตั้งมั่นเป็นสมาธิ “สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ ยถาภูตํ ปชานาติ ภิกษุเมื่อสมาธิตั้งมั่นแล้วย่อมรู้ตามความเป็นจริง”

    เมื่อความรู้ รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมโดยรอบ คือบริบูรณ์แล้ว จิตก็จะพ้นจากอารมณ์ครอบงำ หรือ ดอง ที่เรียกว่า อาสวะ นี้เป็นหลักปฏิบัติโดยย่อที่สอนทั่ว ๆ ไปในสำนักนี้ และปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจสำหรับศิษย์ผู้ใคร่ในการปฏิบัติจริง แม้คฤหัสถ์ที่มีภารกิจในการครองเรือนก็สามารถปฏิบัติได้ตามกำลัง เพียงแต่ตั้งสัจจะไว้ว่า เราเกิดขึ้นมาครั้งนี้จะพยายามสั่งสมความดีทุกวิถีทางอย่างง่าย ๆ ก็คือ การภาวนา เมื่อว่างจากภารกิจก็เอาเสียนิดหนึ่ง โดยการตั้งสติระลึก จะใช้กิริยากายหรือวาจาก็ได้ เช่น ไหว้พระสวดมนต์เล็กน้อยแล้วก็ภาวนา โดยระลึกกำหนดดู ให้รู้กายรู้จิต เพื่อชำระอารมณ์ที่เศร้าหมองของจิตออกไปผลก็คือความสะอาดผ่องใส อันเป็นสิ่งที่ทุกดวงจิตต้องการ จึงเป็นสิ่งที่ควรพยายามไว้ให้เป็นสมบัติของตน เพราะว่า “จิตนี้ผ่องใส แต่ก็หมองเศร้าได้เพราะอุปกิเลสที่จรมา จิตนี้ผ่องใส แต่หลุดพ้นได้เพราะละอุปกิเลสที่จรมา

    การฝึกหัดปฏิบัติ อบรมจิตที่จะให้ธรรมเข้าถึงจิตนี้นั้น ต้องอาศัยการทำจริงและต้องมีกัลยาณมิตร การทำจริงเรียกว่าสัจจะบารมี คือเมื่อตั้งจิตว่าเมื่อจะประพฤติปฏิบัติแล้ว ต้องมีสติควบคุมการทำ การพูด การคิด การกระทำด้วยกายนั้น จะเป็นการกระทำโดยอิริยาบถยืน หรือเดิน หรือนั่ง หรือนอน ต้องมีสติควบคู่รู้ทั่วอยู่ในอิริยาบถนั้น การกระทำด้วยวาจาคำพูด ก็ต้องมีสติระลึกรู้อยู่ในการพูดนั้นๆ

    การกระทำด้วยจิต คือการคิด จะเป็นการบริกรรมภาวนาอยู่ในพุทโธก็ตาม จะเป็นการคิดพิจารณาแยกธาตุขันธ์อยู่ในรูปในนาม คือในธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ ก็ตาม ต้องมีสติกำกับ ทำงานจริงอยู่ในสิ่งนั้น ๆ เมื่อใช้ทั้งความเพียรบวกกับความจริงโดยมีสติเป็นผู้ควบคุมในการฝึกหัดปฏิบัติอบรมจิต ไม่ช้าธรรมก็จะเข้าถึงจิตหรือจะเรียกว่าจิตเข้าถึงธรรมะก็ได้ เพราะการกระทำด้วยกาย วาจา จิต บ่อย ๆ หรือต่อเนื่องกันไม่ขาดช่วงไม่ขาดตอน สิ่งที่กระทำนั้นก็จะเข้าถึงจิตหรือจิตก็จะเห็นสิ่งนั้น ตัวอย่างเช่น การเรียนหนังสือ การเขียนภาพต่าง ๆ ครั้งแรกหัดเขียนหัดอ่านตามตัวอย่าง หรือตามครูผู้บอกผู้นำ แต่พอตัวหนังสือหรือภาพเหล่านั้นเข้าถึงจิต จิตเห็นแล้ว ถึงสิ่งเหล่านั้นจะอันตรธานหายไปหมดแล้ว จิตก็สามารถสั่งให้พูดให้ทำได้อย่างถูกต้อง จะเรียกว่าด้วยหนังสือหรือภาพเหล่านั้น ถึงจิตหรือจิตบันทึกสิ่งเหล่านั้นไว้ด้วยการเห็นก็คงไม่ผิด เมื่อธรรมะเข้าถึงจิตหรือจิตเห็นธรรมแล้ว ก็จะเห็นสภาพธรรมทั้งหมดทั้งปวง ทั้งที่เรียกว่ากุศลธรรม และอกุศลธรรม ว่าเป็นเพียงสภาพของธรรมชาติเท่านั้น

    บูชา 850 บาท

    IMG_20180915_115842.jpg
    IMG_20180915_115832.jpg

     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก***
    ปลัดขิก (ปลัด) มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาพราหมณ์ คือการจำลอง ศิวลึงค์ ติดตัว เป็นเครื่อง
    ระลึกถึงพระศิวะ ถือเป็นเครื่องรางป้องกันเสนียดจัญไร
    ต่อมาได้เปลี่ยนนามเป็น ปรัศว์ (ผู้อยู่เคียงข้าง) ต่อมาเรียกเป็น ปลัดขิก

    สร้างจากวัสดุหลายชนิด เช่น งาช้าง, ไม้คูณ, กัลปังหา, ไม้พญาดำดง, เขาควายเผือก, ฯลฯ
    เด่นทาง มหาเสน่ห์, มหานิยม, ป้องกันเสนียดจัญไร, คงกระพัน, แคล้วคลาด, มหาอุด

    IMG_20181127_195603.jpg
    IMG_20181127_195622.jpg IMG_20181127_195553.jpg IMG_20181127_195531.jpg 5.jpg
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1190 นางกวัก ลป สรวง เทวดาเล่นดินแห่งบ้านละลม จ. ศรีสะเกษเนื้อดินปราสาทขอมผสมผงใบลาน ปี19 จารหมึก
    หลวงปู่ได้จัดสร้างพระ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป
    บูชา 850 บาท

    IMG_25620210_135414.JPG
    IMG_25620210_135348.JPG
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1191 พระสมเด็จ หลังจาร เนื้อข้าวเสก หลวงปู่สรวง ปี 39
    หลวงปู่สรวง อัญเชิญบารมีเทพ เทวา ครูบาอาจารย์ พระฤาษี มาร่วมปลุกเสก ผ่านพิธีที่เข้มขลัง มานับไม่ถ้วน
    สุดยอดของมงคลเหนือโลก เนื้อข้าวปู่สรวงมีกินมีใช้ตลอด ไม่ตกลำบากย่อมมีเงินไหลมาไม่ขาดตอน
    บูชา 1000 บาท

    IMG_25620515_214429.JPG
    IMG_25620515_214408.JPG
     

แชร์หน้านี้

Loading...