นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

สาธุ...

 

รอติดตามครับ

 

วันนี้ ได้นำยอดบูชาล็อคเก็ตของทุกท่านโอน ถวายสังฆทานในวันที่ 30 ธันวาคม 2561 นี้จำนวน 10,000 บาท แล้วครับ

ทุกท่านที่ส่งเสื่อผ้ามาร่วมพิธีส่งเคราะห์ ทางวัดได้รับแล้ว ตอนนี้กำลังทำเทียนลดเคราะห์ ให้อยู่ครับเพื่อจุดวันส่งเคราะห์สิ้นปีเลย

หลังปีใหม่อย่าแปลกใจนะครับว่า อะไรๆๆ ดีขึ้นแน่นอน 555

 

พระขรรค์สรี๋กัญไชย พระอาจารย์อ่าง กำลังนำตระเวนขอครูบาอาจารย์เสกกันสะบั้นหั่นแหลก รอเสกปิด 30 ธันวาคมนี้ ติดตามได้ในเฟส FB อาจารย์อ่าง อชิโต ครับ เรียกว่าท่านที่จองไว้ คุ้มเกินคุ้ม

ยังมีเหลือให้ผู้สนใจอยู่ครับประมาณ 30 เล่ม

 

วันนี้ เป็นวันเดือนเพ็ญ วันพระใหญ่ จากนี้ไปก็จะเข้าข้างแรมแล้ว ...

ต่อ ๆ หลัง ปู่หยัดรักษาให้แล้ว แน่นอน หัวใจพรรคพวกคนนั้นยังเจ็บ ๆ อยู่ท่านบอกไปภาวนาเอา เขาก็เข้าโบสถ์ไปภาวนาอยู่ อาทิตย์กว่า ๆ ก็หายเจ็บในหัวใจ

ดังผมเคยเล่าไปแล้ว ในหน้าแรก ๆ ของกระทู้ตั้งแต่หน้า 2 วิชาสายไหมมัดใจ ปกติจะใช้มีดหมอหรือดาบอาคมตัดขาด ไหมก็พันกันอยู่ สมเป็นวิชาของนอกศาสนา

เคสนี้ ผมได้สอบถามที่ปรึกษา ท่านก็ว่ายังไม่เคยพบ ท่านเคยพบของแขกอิสลาม หรือ สายอื่น ๆ มามาก โดยจากที่ครูบาข่ายสมัยก่อนท่านก็รักษาคนมามาก จึงได้พบหลายๆ กรณี

แต่... เหมือนจบแต่ไม่จบ จากนั้นพรรคพวกก็มีอาการ ปวดหลัง การงานแย่ลงเป็นระยะ ๆ ตอนแรกคิดว่าดวงตก แต่ไม่ใช่ละ พอไปพบหลวงปู่ประหยัด ตรวจสอบจึงทราบว่า ตัวการยังหาคนมาทำร้ายอยู่เป็นระยะ ๆ คือ เปลี่ยนคนทำแล้ว ซึ่งก็รักษาได้ไม่ยากมาก ทีเดียวจบ ๆ

ถามว่า...แล้วรู้ได้อย่างไร ว่าเจอโรคประหลาดแบบนี้ ก็ต้องสังเกตุครับ ดังเพื่อนผมพบ อาการจะออกมาในช่วงข้างแรม โดยเฉพาะวันเดือนดับ หรือวันพระใหญ่ ถามว่า ทำไมต้องเป็นวันพวกนี้ ท่านว่า เกิดจาก แรงดึงดูดของดวงจันทร์ มีผลต่อเลือดลมของร่างกายเรา

ร่างกายเสมือนเกราะป้องกันชั้นแรก หากธาตุเราถูกทำลาย ก็จะมีช่องโหว่ ทำให้ เจอของแปลกปลอมง่าย ดังเช่นคนมีจิตสัมผัส หรือจิตอ่อน อะไรมากระทบก็เกิดอาการได้ง่าย...

 

อาการแบบนี้ หายแล้วก็เป็นอีก จนชักจะงง แม้มีของดีป้องกันแต่อย่างว่าละครับ

ในวงการเรารู้กัน เราไม่ได้เอาของดีติดตัวตลอดเวลา เมื่อมีช่องว่างปุป ก็จะโดนทันที

แม้มีของดีป้องกันบ้าน ท่านบอก ของเหล่านี้ก็จะรอหน้าบ้าน 555 ออกจากบ้านปุ๊ป ก็ ต้องลุ้นว่าของดีกันได้แค่ไหน

จน ผมได้พาไปหา ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ท่านก็พาไปอาบน้ำมนต์ จากนั้นพาไปพบ ท่านปรมาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์มืด ท่านก็ตรวจวิเคราะห์ให้ พบว่าธาตุในร่างกายเสียไปแล้ว จึงเกิดช่องว่าง

จากนั้นเลยเริ่มการรักษาอันยาวนานนับปี

ตอนนั้นก็ไม่ได้บอกท่านว่า แรก ๆ เกิดจากอะไร ท่านก็ได้ตรวจสอบให้ ว่าสาเหตุแรก เกิดจากตัวการใหญ่หวังผลประโยชน์ พอเราไม่ยอมมัน จึงตามจองเวรไม่จบสิ้น

นั่นละครับ จึงถึงเวลาเอาคืนกันมั่ง... แต่เหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย แม้ส่งของที่มันทำมากลับไป มันก็กันได้ เมื่อรู้ว่ากันได้จึงสงสัยตัวการมีของดีอะไร

พวกผมก็ไม่ได้บอก ว่าตอนไปรักษากับปู่หยัดว่า เป็นของแขกมาเลย์ แต่ท่านปรมาจารย์ตรวจพบว่า เป็นของนอกศาสนา ของที่มันลงก็ต่างจากสายเรา คือไม่ตรงสาย เรียกว่าปวดหัวกันแถบ ๆ

และตรงกับที่หลวงปู่เหิรตรวจสอบว่า มันเตรียมการมาแล้วอย่างดี เรามารู้ทีหลัง

....คอยติดตามครับ ว่า พระเอกของงานนี้ ได้ออกโรงอย่างไร...

 

รอฟังเลยครับตอนนี้

 

จากที่ผมได้ศึกษามาจากหลวงปู่ประหยัด และจากท่านปรมาจารย์ศาสตร์มืด และผู้รู้ที่สืบทอดกันมา

เริ่มจากพื้นฐาน ร่างกายคนเราประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดินน้ำลมไฟ ซึ่งร่างกายแต่ละคนย่อมแตกต่างกันทั้งภายนอกและภายใน มาตั้งแต่กำเนิด หากว่าตามหลักพุทธ ก็คือกรรม นั่นละครับ กรรมชี้แนะมาแต่กำเนิดเลย จึงเป็นที่มาของวิชาโหราศาสตร์ที่บอก คนเกิดวันนี้ เวลานี้ปีนี้ จะมีพื้นฐานลักษณะหน้าตานิสัยเช่นไร ซึ่ง จะแม่นแค่ไหนก็อยู่ที่เจ้าของวิชาจะ จดสถิติศึกษามาครับ...

ในแง่ ของไสยศาสตร์ ก็เช่นกัน เมื่อธาตุในร่างกายเราแตกต่างกัน คำว่าต่างคือ บางคนธาตุไฟมาก ก็จะร้อน บางคนธาตุน้ำมากก็เป็นคนเยือกเย็น ตามหลักโหราศาสตร์จีนจึงแบ่งคนตามธาตุว่าเกิดวันนี้ เป็นคนธาตุอะไร ปีนี้ธาตุอะไร

ในแง่ไสยศาสตร์ เมื่อ คนเราต่างกัน จึงสร้างเครื่องรางวัตถุมงคลมาใช้กัน บางคนของก็สัมพันธ์ถูกโฉลกกับ ธาตุในตัวเรา หรือเกิดต้านกัน ตามแต่พลังงานในวัตถุมงคล เช่น วัตถุมงคลสายเมตตา พอมาอยู่กับคนใจร้อนก็ จิตใจเยือกเย็นลง

ในแง่ศาสตร์มืด ก็ ทราบกันอยู่ว่าอาศัยพลังงานจากขันครู และพลังงานทางจิตของผู้ที่เรียนมา แม้ หลายคนเรียนสำนักเดียวกันคาถาเดียวกัน ก็เก่งไม่เท่ากันอีก

ศาสตร์มืด ก็ส่งพลังงานมา เพื่อทำร้ายคน หากคนเรามีของป้องกัน ก็ป้องกันได้ แต่พลังงานเหล่านั้น ก็จะล้อมรอบตัวเราอยู่ ตามแต่พลังจิตที่ส่งมา ที่มีศัพท์ในวงการว่า ทำแล้วต้องเติมเรื่อย ๆ อย่าให้อ่อน....

ทีนี้ ถามว่าเราห้อยพระตลอดไหม ก็แล้วแต่ข้อห้ามของแต่ละท่าน และในสายหลวงปู่โน ก็มี กฎเหล็ก คือ ระวังตอนถ่ายหนักถ่ายเบา คือ ทวารเปิด...แม้ห้อยพระท่าน ก็เป็นช่องว่างได้ง่าย

ณ จุดนี้ เมื่อถึงความรู้ใหม่ เรื่องธาตุในร่างกายท่านปรมาจารย์บอก แม้เราห้อยของดี แต่ถ้าธาตุเราบกพร่อง จากการเคยโดนคุณไสยมานาน หรือร่างกายอ่อนแอจากโรคภัย.. ก็เป็นช่องว่างได้ง่าย

ถามว่า คุณไสย ศาสตร์มืด ทำลายอะไรบ้างก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ของเขา ที่แน่ ๆ ทำลายร่างกาย ให้ โรคภัยเบียดเบียน ไปหาหมอ... ได้ยามาไม่หาย หรือพอจะไปหาหมอ หายดื้อ ๆ พอไม่ไปหา เป็นอีก...

ทำลาย...สิ่งรอบตัวเช่นการงาน ขัดลาภผล ซึ่งอาจมาจากร่างกายเราแย่ จิตใจแย่ สติปัญญาย่อม ลดถอยทำให้การงาน ลาภถดถอย...

ที่แน่ ๆ ร่างกายไปแน่นอน..ธาตุในตัวเกิดช่องว่าง แม้มีของดี เราก็ไม่ได้พกตลอด ก็ทราบกันอยู่ครับตอนไหนต้องถอด ... 555

รอบตัวของเรา มีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็นอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่มองไม่เห็น ก็แล้วแต่ว่าสิ่งนั้นมีพลังงานแค่ไหน ส่งผลกับเราแบบใด ดังเช่นเราไปที่แรง ๆ คำว่าแรงคือมีพลังงานจากจิตวิญญาณ หรือพลังงานจากสิ่งก่อสร้างที่มีพลังงานมาก ก็ส่งผลกับตัวเราเช่นกัน ดังเช่น ที่ศักดิ์สิทธิ์ คนมีจิตสัมผัสก็จะเกิดอาการขนลุก หากเป็นพลังงานร้าย ๆ เช่นป่าช้า หรือเป็นที่ เกิดคนตายบ่อย ก็จะอีกแบบ ของดีวัตถุมงคลดี ๆ เราก็จะทำงานอัตโนมัติ ต่อต้านสิ่งเหล่านี้

สัตว์ เช่น สุนัขย่อมมีสัมผัสได้ง่าย เช่นเกิดหมาหอนในคืนวันเดือนดับ ก็แสดงว่าสิ่งที่มองไม่เห็นออกมาให้หมาสัมผัสแล้ว...เป็นต้น

 

เรื่องราวต่าง ๆ จากท่านปรมาจารย์ ผู้ที่นำพาไปกล่าวว่า ท่านสูงจนเกินจากตำราได้แล้ว เรียกว่าสื่อสารทางจิตกับครูบาอาจารย์ได้เลย

ผมเองได้เห็นกับตาเกี่ยวกับการทำเทียนตรวจสอบศัตรูของพรรคพวก ซึ่งเป็นสิ่งอัศจรรย์เกินบรรยาย

วิชาเทียนที่ได้เห็นกับตามีหลายแบบ เช่น ดูเปลวเทียน บอกให้เลี้ยวซ้าย เปลวไฟก็ไปซ้าย บอกขอให้ เปลวเทียนไปขวา ก็ไปขวา เรียกว่าอัศจรรย์สุด ๆ ครับ

เทียนทางเหนือ แบบระดับสูงจะทำมาเฉพาะงาน ๆ นะครับ ไม่ใช่ว่า แบบขายทั่วไปที่วางขายตามร้านสังฆภัณฑ์ แบบสำเร็จรูป


เปลวไฟแห่งเทียนบ่งบอกเรื่องราวขนาดถามตอบ กันได้เลย เช่นถามว่า คนนี้ตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ดูเปลวเทียนเอา ถ้าสว่างไสว คือดี ถ้าเปลวเทียนสั่น ปะทุ คือไม่ดีแล้ว

หรือถามแบบเสี่ยงทาย ถ้าต่อไปจะดี ขอให้เปลวเทียนไปด้ายซ้าย ก็ไปซ้ายจริง หรือขอให้ไปด้ายขวา ก็ไปขวา

 

ติดตามครับ กำลังเข้มข้น

 

หลังโดนจองเวรมายาวนาน จนพรรคพวกทนไม่ได้จึงสวนกลับบ้างแต่ปรากฎว่า ตัวการนั้นมีของดีคือลงของป้องกันสายแขกมาเลย์

เขามาเล่าภายหลังว่าปวดหัวมาก เล่นงานระยะไกล ก็ได้ผลไม่เต็มที่ นานนับปียังสอยร่วงไม่ได้ (ฟังแล้วเครียดแทน 55) เรียกว่าจุดเทียนถอนของ จุดปุ๊ป ดับปั๊ป กี่เล่ม ๆ ก็ดับ เก่งขนาด (ตกใจเลย คำว่าเก่งคืออาจารย์ที่ลงของป้องกันให้เขาเก่งนะครับ ก็ขนาดหลวงปู่เหิร ต้องเชิญหลวงปู่โตลงมาช่วย หลวงปู่ประหยัดต้องเชิญหลวงปู่โนลงมาช่วยแก้ให้ แต่ตัวอาจารย์แผ่นป่าราบ ตามที่หลวงปู่ประหยัดไปเตือนแบบเจ็บ ๆ แล้ว)

จึงได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จึงแนะนำว่า ให้ใช้ตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือนเลย

ถามว่าใช้อย่างไร จริง ๆ วิธีแบบนี้ ผมเล่าแต่ ท่าน QC นะครับที่ทราบ

ตามที่เล่าตอนจารเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าสะเทือนเลือนลั่น ผมไปที่วัด ได้ยินชาวบ้านพูดถึง เหตุการณ์วันจารอีกครั้ง จึงมั่นใจมาก ๆ

ท่านกล่าวว่า เวลาใช้ให้เจอกันตัว ๆ ไม่ถึงขนาดว่าไปจับต้องตัวเพื่อถอน แต่ให้กำหนดจิตในระยะใกล้เลย

พรรคพวกจึงขึ้นเครื่องบินเดินทางไปเลย และ พอไปถึงบ้านตัวการใหญ่ ก็กระทำตามเคล็ดที่ได้รับการสอนมาหมด

อ้อ ก่อนเดินทาง เขาบอกว่าให้ปรมาจารย์เคลียร์เส้นทางไว้แล้ว คือ เลยวันเดือนดับจึงเดินทางได้... (การเคลียร์เส้นทางนี้ ไม่ยอมบอก...ว่าทำอย่างไร)

เมื่อพบหน้ากันจึงกำหนดจิตให้คัดถอนสิ่งป้องกันตัวของศัตรูทั้งหมด ปากก็คุยถามปกติ แต่การใช้ตะกรุดนี้ทำงานต้องใช้กำลังจิตสูงมาก จนหัวใจเต้น ตุ๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ(ได้ยินเสียงหัวใจเต้น)



จนสำเร็จ จึงทำว่าทักทายก่อนกลับ ไปแตะไหล่ร่ำลา ซึ่งตอนนั้นความรู้สึกปกติ (มาเล่าภายหลังผู้รู้บอกว่า จัดการคัดถอนจบแล้ว)

... จากนั้นก็ แอบถ่ายรูปมาตรวจสอบกัน สำเร็จด้วยดี..... (คุยกันสนุก ๆ หลังเหตุการณ์นี้ ทราบภายหลังว่า ตัวการคนนี้ ก่อเรื่องไว้มาก คือมีกระแสทำลายจากผู้อื่นมาก ไม่แต่ของพรรคพวกผมครับ ศัตรูเยอะจริงๆ จากนี้ไป ก็ คุยกันเล่น ๆ จองวัดได้เลย... จบ)

หมายเหตุ ถือว่าอ่านนิทานสนุก ๆนะครับ ตำนานการสร้างถือว่าทำได้จริง ยอดคนสมัยโบราณท่านสูงส่ง จริง ๆ

ตะกรุดนี้เป็นตะกรุดที่ ผู้สร้างและผู้ได้รับไปหวงแหนที่สุด และไม่สร้างอีกแล้ว เพราะหาแผ่นทองจังโกหุ้มพระธาตุพันปีไม่ได้....

 

ประสบการณ์ล่าสุดตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือน....






นับถอยหลังการปลุกเสกใหญ่ อาจารย์อ่าง ได้นำพระขรรค์ตระเวนเสกโดยผู้ทรงวิชาทั้ง ฆราวาส พระมาเรื่อย ๆ เสกกันสะบั้นหั่นแหลกจนน่าตกใจครับ

อีกไม่กี่วันผู้ที่จองไว้ก็ได้รับของขวัญปีใหม่แล้วครับ
ขณะนี้พระอาจารย์ทำเทียนลดเคราะห์ ให้ผู้ส่งเสื้อผ้ามาเรื่อย ๆ ครับ เรียกว่าคุ้มเกินคุ้ม

พระขรรค์เหลืออยู่ให้ผู้ร่วมบุญได้อีกไม่มากแล้ว... ต่อไปคงหายากเหมือนตะกรุดรุ่นก่อน ๆ ครับ....

 

สาธุ..

 

จัดเตรียมสถานที่ทำพิธี พระขรรค์สรี๋กัญไชย

ขณะนี้เหลือยอด แค่ ประมาณ 20 เล่มครับ หากชาวบ้านมาเห็นพิธีอาจหมด อนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมบุญนี้ครับ

 

ตามภาพตำราดาบสรี๋กัญไชยที่ได้ให้ชมไปเก่าแก่จนแทบจะขาดแล้ว ทราบจากที่ปรึกษาว่าตำรามี 2 เล่ม เล่มนึงเป็นการลงอักขระ อีกเล่มเป็นคำอธิบาย ไม่นานนี้มีท่านนึงเห็นภาพตำราแล้วมาขอจากที่ปรึกษา แต่ท่านไม่ให้ โดยทราบว่าตำราดาบสรี๋กัญไชยท่านนั้นก็มี แต่ไม่ครบสูตรเท่าของที่ปรึกษา

ตำราเหล่านี้ที่ปรึกษาบอกมีการ อมไว้ หรือคืออั้นไว้ มีกลลวงซ่อนอยู่ ทราบจากครูบาข่ายได้แจ้งไว้ตอนถ่ายทอดให้ก่อนละสังขาร และที่ปรึกษาได้เห็นการลง เรียกว่าลงแบบ ไหลตามน้ำ .....

คือผู้สืบทอดโดยตรงเท่านั้นถึงทราบ เหมือนตอนผมเรียนกับหลวงปู่ประหยัดละครับ ก็มีกลลวงในตำรา ดังนั้นท่านย้ำเสมอมีแค่ตำราไปศึกษาเองจะ อันตรายยิ่ง

 

ชุดนี้จึงล้ำค่ายิ่ง การเสกโดย 4 ผู้ทรงอภิญญาเพื่อดึงพลังจากฟ้ามาลงพิธี ใกล้เข้ามาแล้ว พลาดชุดนี้เสียใจแน่ครับ.....

 

การเตรียมงานปลุกเสกพรุ่งนี้ มีการจัดเตรียมใกล้พร้อมแล้ว ปลายพระขรรค์หันไปทิศใต้ ด้ามทิศเหนือตามเคล็ด

ชุดนี้ล้ำค่ามาก เดียวเสร็จงานจะมาเล่าครับ ตอนนี้เหลือเพียง 20 เล่มแล้ว ถ้าพลาดเสียใจแน่ครับ

 

ตำราในภาพที่มีผู้สนใจกันมาก เพราะสมบูรณ์กว่า ผู้ที่มาขอตำรานี้

ตามภาพเก่าจนแทบจะขาดแล้ว ตำราดาบนี้ใช้ถึง 3 เล่ม นำเข้าพิธีด้วยเอาเคล็ดเจ้าของตำรามาเสกด้วย

พรุ่งนี้ จะเป็นการรวมวิชาดาบสรี๋กัญไชยจากผู้สืบทอดหลายๆท่าน และทรงจิต วิชา อภิญญา มีเซอไพรส หลายอย่าง รอมาเล่าทีหลังครับดีใจกับผู้ครอบครองทุกท่านครับ

 

ตรงกลางเทียนชัย ซ้ายขวาเทียนพระโมคคัลลานะ เทียนพระสารีบุตร




มุมโต๊ะ เทียนธาตุ 4. เนื่องจากวัตถุมงคลนี้เสกมามากแล้ว ต้องจัดธาตุใหม่

 

เตรียมส่งเคราะห์ครับ