เวลาเข้าสมาธิแล้วจะนิ่งแล้วหลับ

ใครเคยมีประสบการนั่งสมาธิแล้วซักพักมันหลับเลยเข้าองค์ชานไม่ได้
พอจะมีวิธีแก้ยังไงบ้างคับ

 

สมาธิเป็นการลดคลื่นถี่ของจิต
จากสูงให้ค่อยๆน้อยลงจากสภาวะ
การลืมตาในชีวิตประจำวันปกติ
บ้างก็เรียกการกดการข่ม
การหลับนี้
เกิดได้เป็นปกติเลยครับถ้าทำสมาธิ
เพราะคลื่นของจิต(ทางวิทยาศาสตร์วัดเป็นคลื่นสมอง) มันลดลงมาถึงระดับหนึ่ง
เหตุเพราะกำลังสมาธิสะสมไม่เพียง
พอที่จะข้ามสภาวะหลับ
หรือไม่พอที่จะลดคลื่นลงไปอีก
ซึ่งเทียบกำลังได้เท่าๆกับระดับปฐมฌาน
หรือคลื่นสมองอยู่ระหว่าง ๑ ถึง ๓ Hz
ถ้าเมื่อไรทำสมาธิแล้วปลายทางคือหลับ
หรือว่าทำสมาธิแล้วหลับได้เร็ว
ทางปฎิบัติจะเรียกว่า อาการจมหรือแช่
ในสมาธิซึ่งถือว่าไม่ดี เพราะมันทำ
ให้จิตขาดการพัฒนาไม่ว่าในด้าน
ของสมาธิและปัญญา.
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับอาการจิตพิการครับ

วิธีแก้ไม่ยากครับ
ให้มาเจริญสติในชีวิตประจำวัน
ให้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจริงๆ เช่นเดินไปไหน
ก็รู้ว่าใช้กี่ก้าว หรือถ้านิ่งๆไม่ได้ทำงาน
ก็ระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกกระทบ
ที่ปลายจมูก ส่วนเวลาทำงานก็ตั้งใจ
ทำเต็มที่

และให้เดินจงกลมสลับกับการนั่งสมาธิ
ถ้ารู้สึกง่วง ให้ลุกขึ้นหาอะไรทำก่อน
ที่สำคัญคือให้รักษาระบบหายใจไว้
ให้เหมือนตอนที่นั่ง แล้วค่อยมานั่งต่อ

หรือถ้าไม่อยากลุก เวลาสัปหงก
ให้ยกกายขึ้นให้ตรง แต่ห้ามลืมตา
ย้ำว่าห้ามลืมตา

ทำบ่อยๆ เด่วสมาธิมันจะยกระดับ
ก้าวข้ามสภาวะหลับได้เองครับ

ปล มีความจำเป็นต้องทำนะครับ ถ้าจะผ่าน
สภาวะจมแช่ที่อนาคตจะทำให้จิต
พิการแบบนี้ครับ เพราะหลายดวงจิต
เข้าใจว่าคือ
ความชำนาญ นั่นหละคือพลาดอย่างแรง
เลยไม่พัฒนาทั้งสมาธิและปัญญา
ทั้งๆที่เวลาผ่านมานานหรือหลายปีครับ

 

ถ้าง่วงก็นอนหลับไปเลย อันนี้ได้ผลนะ ดีกว่าทรมาน เพราะว่าภาวนาไป ถ้าเวลานั้นจิตไม่ถึงฌานมันจะหลับไม่ได้ ถ้านอนแล้วภาวนา ถ้าจิตถึงฌานจะตัดหลับทันที ช่วงเวลาหลับกี่ชั่วโมงก็ตาม ยังทรงฌานนั้นอยู่ ควรทำแบบนี้นะ อย่าทรมาน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่ออื่นท่านก็สอนให้หลับไปเลย อย่างหลวงพ่อพุธ แล้วมันมีผลจริงๆตามที่ท่านบอก ตอนเราฝึกทีแรกคือนอนเลย 555

 

555 สงสัยเอา ความชำนาญตอนจะนอนมาใช้ตอนนั่งด้วย แบบว่าแหละคับ

 

ของผมมีแต่นั่งสมาธิแล้วสักพักมันหลับ มันวูบไปเลย เป็นช่วงเวลาสั้นๆ

 

๕๕๕ ท่านอนมันชิวๆสิวๆกับการหลับอยู่
เพราะมนุษย์ทั่วไปเวลาหลับจะใช่ท่านอน
ยกเว้นว่า จะเวลานอนจะนั่งหลับ
ห้อยหัวหลับไม่ว่ากัน ๕๕

คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ
แต่ให้แง่คิด.
ถามว่า เด็กทารกเวลานอนหลับ
เข้าฌานอยู่หรือเปล่าครับ ?
ถามว่า ถ้าเรานอนหลับ
แสดงว่าเราเข้าฌานอยู่หรือเปล่าครับ?
ถามว่า คนทั่วไปที่ไม่เคยฝึกสมาธิ
เวลานอนหลับ ถือว่าหลับในฌานไหมครับ?

ดังนั้นควรแยกแยะให้ดีทั่วไปนะครับ
ว่าการจะเข้า
ในฌานได้ หรือการจะหลับในฌานได้
มันเกิดจากธรรมชาติของมันเอง
หรือมีอะไรมากระทำมันให้เกิดครับ ? จบ


ทั่วไป
ถ้าอยู่ในท่านั่งแล้วหลับหรือสัปหงก
แก้แบบที่ส่วนตัวแนะนำได้
ไม่งั้นมันจะกลายเป็นฌานสมาหลับ
ก็จะแช่จะจม และสมาธิก็จะได้เท่านั้นหละ
ตลอดทั้งชาติ


ถ้าอยู่ในท่านอน และถ้าไม่มีจุดกระทบของลมหายใจภายนอกหรือไม่ย้าย
จุดกระทบของลมหายใจมาไว้ที่อวัยวะ
ใดก็ได้ที่ไม่ใช่ปลายจมูก เช่น อาจจะใช้นิ้ว
มาเป็นตำแหน่งให้ลมหายใจมากระทบแทน
ยังไงๆ ร้อยละ ๙๙ ยังไงมันก็หลับ
ถ้าไม่ทำอย่างที่บอก
มันจะกลายเป็นฌานสมาหลับคร๊อกฟี้ๆเช่นกัน


ตามด้วยนอนกร๊นคร๊อก ฟี้ๆ
บางคนก็สะดุ้งตื่น ลืมตา
เพราะได้ยินเสียงดังหูแทบแตก
ไม่ว่าเสียงคน เสียงระเบิด หรือเสียงอะไร
เหตุเพราะปราณรั่ว (คือกิริยาที่จิตส่งออกไปรับรู้ภายนอกโดยไม่มีสติทางธรรมคอย
กำกับเนื่องจากเวลาหลับสติทางธรรมจะอ่อนสุด). บางคนก็เหมือนกับตื่นขึ้นมา
แบบว่ายังไม่ลืมตา แต่มองเห็นนามธรรมต่างๆ
แล้วกลัว วิตก กังวล ทำอะไรไม่เป็น
เหตุเพราะ คลื่นความถี่ที่จิตมันสามารถ
เห็นนามธรรมได้ มันสูงกว่าคลื่นหลับ
(คลื่นหลับประมาน ๑ ถึง ๓ Hz คลื่นเห็นผี
คลื่นฝัน คลื่นจิตใต้สำนึก คลื่นมโนเรื่อยเปื่อย ฝันเรื่อยเปื่อย คลื่นลางสังหรณ์
คลื่นอนาคตังสญานอย่างอ่อน คลื่นผีอำ คลื่นแขนหรือขาวางบนกายแล้วนึกว่าผีอำฯลฯ
มันประมาน ๔ ถึง ๗ Hz) ดังนั้นเวลาหลับ
จึงเกิดเหตุการณ์อย่างที่เล่ามาได้ปกติ
เพราะถ้าคลื่นสูงกว่านี้ ร่างกายจะขยับ
ได้ปกติและเราจะตื่น สามารถตื่นได้ง่ายๆ
เพียงแค่มีสติระลึกรู้ตัวครับ

เหตุเพราะท่านอนเป็นท่าที่ยากในการยกระดับสมาธิ แต่ก็เป็นท่าที่ง่ายในการหลับหรือเข้าคลื่นระดับปฐมฌาน คือประมาน ๑ Hz. รับรองว่าทั่วไปใครก็หลับครับ
เพราะมันเป็นนอนปกติของคลื่นสมอง
ชาวโลกใบนี้ครับ ยกเว้นว่าคุณจะเป็น
มนุษย์ต่างดาว แอบมา แปลงกายในคราบชาวโลก
ค่อยว่ากันอีกทีครับ

ดังนั้นความคุ้นเคยของจิตกับคลื่น
ระดับนี้จึงมากเพราะเราใช้ท่านอน
มาตั้งเกิด ยกเว้นใครจะนั่งหรือห้อยหัวหลับ
ไม่ว่ากัน

ดังนั้นในท่านอนเราจึงพบนักปฎิบัติที่ระดับ
สมาธิเป็นไปอย่างพรวดพราด
(เพราะไม่มีหลักยกระดับหลักปฎิบัติเหมือนท่านั่ง)
ด้วยความบังเอิญหรือแม้แต่ไม่เคยฝึกมา ระดับสมาธิ
ก็จะพรวดพราดไป อรูปฌานได้เลยคือ
หลุดไปเหมือนอยู่ในอวกาส ในจักรวาล
แต่ทำอะไรไม่ได้ และพอลืมตาขึ้นมา
แม้ผ่านสมาธิสูงมา จากท่าการนอน แต่กลับพบว่า ไม่มีผล
ต่อการพัฒนาทางจิตในเวลา
ใช้ชีวิตปกติใดๆเลย
นอกจากหลงตัวเองเล่นๆไปวันๆครับ
ยิ่งหลงตัวเองมาก ก็จะเอาไว้โม้ให้คนอื่นๆฟัง ทั้งที่จิตไม่มีความสามารถใดๆได้
อย่างไม่น่าเชื่อ

ทั้งนี้ยังรวมพวกที่นอนๆอยู่แล้วอยู่ดี
หลุดพรวดออกมาเดินเล่นแถวๆนั้นๆ
(มันเรื่องปกติ เพราะมนุษย์เก่งสุด
จะไปได้ไม่เกินชั้นพรหม จึงมีวิชาพิเศษ
ต่างๆที่ต้องขอบารมีพระฯช่วยนั้นหละครับ)
หันกลับมามองเห็นใครไม่รู้
แต่หน้าเหมือนตรูจิหายนอนอยู่บนเตียง
ซึ่งแม้เกิดขึ้นได้ แต่เวลาใช้ชีวิตปกติ
ก็ไม่มีผลต่อความสามารถทางจิตเช่นเคย
นอกจาก ทำให้ตื่นเต้น เอามาไว้โม้ให้คนฟัง
และก็หลงตัวเองเล่นๆไปวันๆเหมือนกันครับ
ถ้าเผลอไปยึดนะครับ

ดังนั้นท่านจึงว่า นอนในสมาธิหรือหลับในฌานยังดีกว่า เพราะถ้าดันขี้เกียจหายใจ
ขึ้นมาอย่างน้อยก็ยังเป็นภูมิที่ดีได้
เพราะผลของสมาธิ และมันเข้าถึงง่าย
สำหรับคนส่วนมาก

แต่ทั่วไปมันไม่มีใครจะสามารถยกระดับ
สมาธิในท่านอนได้หรอก ด้วยเหตุผล
ทางกายภาพและคลื่นความถี่ที่กายคุ้นเคย
นอกจากจะนอนแล้วฝัน
เทพบันดาลให้เห็นวิธียกระดับสมาธิ
ในท่านั่ง ทั่วไปเราก็ต้องมานั่งเกร็ง
กล้ามตรูดเพื่อให้ผ่านสภาวะ
สมาธิที่เจอจากเทพ ครูบาร์อาจารย์ในฝัน
จากท่านอนเข่นเดิมครับ
(พูดถึงพื้นฐานทั่วไป)

ยกเว้นว่าจะเป็นสายฮา
ชาตินี้จะพอใจกับ
กำลังสมาธิระดับนอนหลับ
หรือปฐมฌาน แล้ววนเวียนกับคลื่น
จิตเห็นนามธรรมแค่นี้ ไม่ต้องการกำลังมากกว่านี้เพื่อไปเดินปัญญาในกำลังที่สูงกว่านี้ซึ่งให้ผลดีกว่า หรือไม่ต้องการเข้าถึง
ความสามารถรับรู้ หรือ
ทำได้พิเศษต่างๆของจิต

ก็ให้มาเน้นเดินปัญญาต่อไปเลย
และ. ก็ไม่ต้องไปสนใจ
เทคนิคในการยกระดับสมาธิ
แบบที่ส่วนตัวเขียนไว้ทั้งท่านั่ง
ท่านอนที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมด
และไม่ต้องไปอ่านไปฟังเรื่องการฝึกกรรมฐานต่างๆหรือกรรมฐานพิเศษ
อะไรให้เสียเวลาครับ.


เด่วอนาคตถ้าผลของการเดิน
ปัญญาของเรามันได้ผลจริงๆ
(ไม่ใช่จากการ ค.ว.ย.ตค. คือคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ตีความ)

ความสามารถต่างๆ ความเข้าใจทางนามธรรมต่างๆ ไม่ว่าด้านความสามารถรับรู้พิเศษทำได้ต่างๆนาๆ
หรือทางด้านปัญญาทางธรรม
ที่จิตมันเคยสะสมมา

มันจะค่อยๆขึ้นมาได้ของมันเองตามลำดับ
ตามแต่ผลของระดับปัญญาของเราได้เอง
โดยที่เราไม่ต้องไปนั่งเก๊กมาดหล่อ
เพื่อให้ดูเข้มขลัง
หรือนั่ง เกร็งกล้ามดากให้
ชาวโลกมองเราแปลกๆได้
ของมันเองครับ.
เล่าให้ฟังเป็นแนวทาง
แล้วแต่จริต แล้วแต่ชอบครับ

รู้หลักรู้แนวทาง
จะหาวิถีตนเองได้เร็ว
การปฎิบัติมันถึงจะก้าวหน้าเร็ว

สมาธิ กรรมฐานฯลฯ คนเหมือนกัน
รู้ทริค รู้ทาง รู้แนว รู้การวาง
แนวทางเดินให้จิต ไม่ว่าทางกายและใจ
มันสามารถฝึกสำเร็จ
กันได้ทุกคนนั้นหละครับ

แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
ก่อนลอยกระทง ^_^

 

ขาดคำภาวนา ขาดสติ ตกภวังค์ก็จะหลับไม่รู้ตัวคับ

ต้องมีคำภาวนาในกรรมฐานที่ปฏิบัติ บริกรรมไม่ให้ขาดสาย

แล้วจิตเข้าสมาธิของจริง ไม่มีทางหลับได้เด็ดขาดครับ

 

ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็แก้ได้เอง

จะชำนาญขึ้นด้วย

 

ขอโทษครับคุณ จขกท ลืม เท่าที่ผมฟังเทศน์มาจากหลวงพ่อหลายๆองค์ ท่านก็สอนไปทางเดียวกับพระราชพรหมยานตามที่คุณช่างเถอะยกมาครับ ท่านว่าให้ปล่อยมันไปเลยครับ ถ้าฝืนประสาทมันจะเครียดจะเป็นบ้าเอา ปล่อยมันไปเลย ทำๆไป มันเก่งขึ้นแล้วจะควบคุมความง่วงได้เองครับ หลวงพ่อท่านว่ากันอย่างนี้

 

ขออภัยทุกท่านครับ ไม่ได้โลกสวยน๊ะครับ ไม่ได้อยากเป็นพระเอกอะไรด้วย แต่ขอโอกาสให้ท่านเจ้าของกระทู้และผมเองผู้ไม่ค่อยรู้เถอะ เรามาสนทนาธรรมกันเยี่ยงกัลยาณมิตรดีกว่าครับ ความคิดเห็นต่างก็ไม่เป็นไร เอามาพิจารณาก็เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ที่ผ่านมาอภัยให้กัน เป็นกุศลกันทุกท่าน ดีกว่าน๊ะครับ เอาความรู้ความสามารถทางธรรมมาแบ่งปันเป็นธรรมทานดีกว่า ผมสมัครมาเว็ปนี้เพื่อมาขอความรู้มาขอส่วนบุญส่วนกุศลของท่านๆน๊ะครับ อย่าปล่อยให้โทสะครอบงำจิตกันเลย ที่ผ่านมาถือว่าทดสอบลองของกันเล็กๆน้อยๆแล้วกัน ผมเชื่อครับ นักปฏิบัติของจริง อภัยง่ายอยู่แล้ว บางท่านที่เข้ามาใหม่ก็อย่าได้เผลอเป็นนักหมั่นใส้ที่ดีเลยครับ มันอาจทำให้ไม่เห็นดีของผู้อื่น เอาดีมาแบ่งปันมาแลกเปลี่ยนเป็นกุศลกันดีกว่า
ทีนี้เข้าเรื่องน๊ะครับ
ทำสมาธิแล้วง่วง ฝืนไม่ไหวก็นอนเถอะครับ แต่ทัศนะผมเห็นว่าเป็นการตกนิวรณ์ ข้อถีนมิทธะครับ อยากให้หาวิธีเอาชนะให้ได้ครับ
ส่วนที่หลวงพ่อท่านสอนเรื่องหลับในฌาน
ผมเข้าใจว่าท่านแนะนำผู้ที่ทำสมาธิถึงฌานได้แล้ว ให้ดำรงสภาวะฌานอยู่แม้ยามนอนหลับ คือ ถ้ายังปฏิบัติได้ไม่ถึงฌาน แล้วจะไปหลับในฌานได้อย่างไรเล่าครับ ผิดถูกอย่างไรก็แค่ความเห็นผมน๊ะครับ ท่านใดคิดต่างผมก็รับฟังครับ ท่านใดหมั่นใส้อยากด่าผมก็จะพยายามอ่านครับ ต้องขอบคุณอย่างจริงใจด้วยครับ ที่ให้โอกาสสร้างบารมี ไม่โกรธหรอกครับ ผมมันคนกระแดะอยู่แล้ว
เจริญในธรรมกันทุกท่านน๊ะครับ ณ ที่นี้ขอเรียนว่าผมถือทุกท่านเป็นกัลยาณมิตรเสมอ
(กระแดะอีกนิด) ยกเว้น ถ้ามีใครที่ผมมั่นใจว่ารับงานมาเพื่อทำลายพระศาสนา ขออภัยไว้ก่อนเลย...

 

จะใช้กระทู้นี้เป็นเวทีสับประยุทธ์กันก้อเชิญท่านจอมยุทธ์ทั้งหลายตามสบายเลยคร้าบ ผมวรยุทธ์ยังน้อย
ข้าน้อยแค่มาหาช่องทางไปชานชราที่2 ต่อเอง ขอชะแว้ปไปเก็บตัวฝึกพลังกะผู้เฒ่าเต่าดูสาวๆปลงเนื้อหนังดีก่า อิอิ

 

การนั้งสมาธิแล้วหลับ ก็ดีนะคับทำให้เราฝันถึง
อย่างผมฝันถึงพระพุทธเจ้า มาพร้อมขันติอันใด
อันนี้ก็จำไม่ได้นะคับ คืนวันเพ็ญ กี่ค่ำ ผมก็ไม่
ทราบนะ แต่ฝันถึง พระพุทธเจ้ามาพร้อมขันใบหนึ่ง
และสายน้ำที่สวยมาก ภาพเหมื่อนคำว่า พรหม
เป็นภาพไม่จางเห็นได้ชัดทางจักขุ มาให้ขันติ
ว่าอะไรนี้แหล่ะจำไม่ได้

 

ภวังค์กับคำภาวนา คือ นั้งทร้อง พุทธ โท รึเปล่าคับ
รึจะนั้งท้อง สวดมนต์ ก็ได้ ถึงจะไม่เข้าภวังค์ตก
ภวังค์ก็ดีนะคับจะได้ฝันด้วย ภวังค์ ก็ย่อมาจากคำ
เช่นข้ายๆ ฝันแหละคับ จิิงเปล่า