เอาอีกทีนะ...อรหันต์กับนิพพานต่างกันอย่างไร..?

เห็นมีหลายท่านแสดงความสนใจ ในคำว่า "อรหันต์" กับ " นิพพาน" กันจัง
สำหรับผม "อรหันต์" คือผู้บรรลุธรรม สิ้นซึ่งอาสวะกิเลสหมดแล้ว ผู้ที่มีชีวิตอยู่แต่ได้บรรลุอรหันต์แล้วก็มี แต่เมื่อถึงคราวละสังขารต้องไปนิพพานอย่างเดียว ถึงแม้จะเข้านิพพานแล้วก็ยังสามารถมาโปรดสัตว์ได้ถ้าต้องการ เพราะนิพพานไม่สูญ

"นิพพาน" คือแดนสุขาวดี คือสถานที่ซึ่งปราศจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย..

ไม่รู้ผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า แล้วท่านอื่นล่ะเข้าใจว่าอย่างไรบ้างครับ..?

 

นิพพานคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
ผู้ที่ตัดกิเลสอย่างหมดสิ้นจึงบรรลุนิพพาน
(อาจารย์พุทธทาสบอกว่าแปลว่าเย็น)

ผู้ที่บรรลุนิพพานแล้วเราจึงเรียกว่าพระอรหันต์

พระสงฆ์ผู้บรรลุแบ่งเป็น

จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
คู่แห่งบุรุษ๔คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้๘บุรุษ

๔คู่นับเรียงตัวบุรุษได้๘บุรุษ คือ
พระโสดาบัน(โสดาปัตติมรรค,โสดาปัตติผล)
พระสกิทาคามี(สกิทาคามิมรรค,สกิทาคามิผล)
พระอนาคามี(อนาคามิมรรค,อนาคามิผล)
พระอรหันต์(อรหัตตมรรค,อรหัตตผล)

 

อรหันต์ ดับสิ้นแล้วซึ่งเชื้อแห่งทุกข์

นิพพาน สภาวะที่ละซึ่งขันธ์ 5

 

(อาจารย์พุทธทาสบอกว่าแปลว่าเย็น)
----------------------------------
สงสัยพวกที่อยู่แถบขั่วโลกคงจะได้นิพพานกันถ้วนหน้าเลยนะครับ...








อ่ะ...ล้อเล่น^-^

 

ที่อาจารย์พุทธทาสบอกท่านบอกว่าเย็นกายเย็นใจ
ท่านยังบอกอีกด้วยว่า

"นิพพานคือตายก่อนตาย"

อันหมายความว่ากิเลสตายก่อนที่ร่างกายจะตาย

 

ผมเชื่อว่านิพพานไม่สูญ

 

นิพพานชั่วคราว คนทั่วไปไปได้ เป็นจิตที่ไม่ปรุงกิเลสอยู่ ยังสงบเย็นอยู่ ไม่ต้องคนขั้วโลกก็ไปได้ ถ้ารู้จักทำจิตให้ปกติ ไม่หากิเลสใส่ตัว ก็คงอยู่ในความสงบใจนั้นได้ เย็นใจ ไม่ใช่เย็นกายแต่ร้อนใจ

นิพพานที่กดข่มกิเลสโดยสมาธิ คนมีฌานไปได้ แม้นแต่นิพพานพุทธนิมิตร ก็ไปโดยกำลังฌานนี้ได้

นิพพานโลกุตระ หรืออริยะขั้นต่างๆ สัมผัสแล้ว เข้าใจแล้วแต่ยังไม่แจ้ง กิเลสยังไม่ถูกประหารทั้งหมด เหมือนพระอรหันต์



นิพพานธาตุหรืออสังขตธาตุอยู่ที่ไหน นิพพานสถานหรืออสังขตสถานอยู่ทีนั่น คือไม่อาจบังคับ ไม่อาจรู้ ไม่อาจบอก

 

พระอรหันต์ที่อยู่ที่นิพพานท่านเย็นแน่ครับไม่มีความทุกข์เหมือนคนที่อยู่บนโลกนี้หรอกครับ
แต่คงไม่ได้หมายความว่าเย็นตามความหมายของท่านพุทธทาส

 

เห้อ งง ยิ่งอ่านยิ่ง งง

 

ลองปฏิบัติดูซิคร้าบ กำลังสมาธิระดับฌาณหรืออุปจารสมาธิ ก็ทำให้เย็นได้แล้วครับ เย็นเข้าไปถึงจิตใจ และร่างกายเลย แม้แต่อากาศหรือแดดที่ร้อน นี่หายร้อนเลยครับ

 

พระพุทธเจ้าท่านโปรดสัตว์ได้ตลอดครับ ไม่เกี่ยวว่านิพพานแล้วไหม
เพราะนิพพานมันไม่ใช่ภาวะของพระองค์ ภาวะของพระองค์ไม่ใช่ความสูญนี่ครับ

 

คนที่จะไปนิพพานได้ก้ต้องเป็นพระอรหันต์ตัดขันธ์5 ให้ได้ จะตัดขันธ์5ได้ก็ต้องละสังโยชน์สิบข้อให้ได้

 

ละสิ้นแล้วถึงสู่นิพพาน