เทวดาตามคติความเชื่อของศาสนาพุทธ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คุณ วัชรพงษ์, 25 มีนาคม 2008.

  1. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ตามคติความเชื่อของชาวพุทธ การใช้คำว่า " เทพ หรือ เทวดา" ครอบคลุมถึงพรหมทั้งหลายในพรหมโลกด้วย โดยแบ่งเป็น
    • เทวดาชั้นกามาวจร (ผู้ที่ยังเกี่ยวข้องกับกาม) อยู่บนสวรรค์ชั้นฉกามาพจร หรือสวรรค์ที่ยังเกี่ยวข้องกับกามซึ่งมี 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตสวัตดี
    • เทวดาชั้นรูปจร หรือ รูปพรหม 16 ชั้น เป็นเทวดาที่ยังมีกายทิพย์อยู่
    • เทวดาชั้นอรูปจร หรือ อรูปพรหม เป็นเทวดาซึ่งไม่มีกายทิพย์
    การเกิดเป็นเทวดา
    การเกิดเป็นเทวดาไม่ต้องผ่านครรภ์มารดา แต่จะเกิดกายเป็นเทวดาเลย เรียกว่าโอปาติกะ มนุษย์จะเกิดเป็นเทวดาได้เมื่อจิตก่อนตายระลึกถึงความดีเล็กน้อยที่เคยทำไว้ในโลกมนุษย์ เกิดเป็นมหากุศลจิต 8 ดวง อันประกอบด้วย หิริ และโอตตัปปะ การบริจาคทาน การฟังธรรม หรือการสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ เป็นต้น

    อายุของเทวดา
    อายุของเทวดามีหน่วยเป็นปีทิพย์ ประมาณอายุของผู้ที่เกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ไม่เท่ากันกล่าวคือ
    • 500 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นจาตุมมหาราชิกา ประมาณ 9,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์
    • 1,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประมาณ 4 เท่า จาก 9,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 36,000,000 ปี
    • 2,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นยามา ประมาณ 4 เท่า จาก 36,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 144,000,000 ปี
    • 4,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นดุสิต ประมาณ 4 เท่า จาก 144,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 576,000,000 ปี
    • 8,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้นนิมมานรดี ประมาณ 4 เท่า จาก 576,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 2,304,000,000 ปี
    • 16,000 ปีทิพย์ เป็นประมาณอายุของเทวดาสวรรค์ชั้น ปรนิมมิตวสวัสตี ประมาณ 4 เท่า จาก 2,304,000,000 ปี ด้วยการคำนวณแห่งปีมนุษย์ จึงเท่ากับ 9,216,000,000 ปี
    เครื่องแต่งกายของเทวดา
    ชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาเชื่อว่าเทวดาแต่งตัวด้วยเครื่องทรง บ้างก็เสื้อคลุมสีขาว สวมหมวกยอดแหลม เหมือนพระยาแรกนาขวัญ ในพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ บ้างก็ใส่เครื่องทรงประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดา มงกุฎยอดแหลม และสร้อยสังวาลย์

    ความเป็นทิพย์ของเทวดา
    เทวดาไม่มีกายเนื้อ จึงไม่เจ็บไม่ไข้ มีรูปโฉมงดงามจนดูเหมือนกันไปหมด สามารถคงความหนุ่มสาวอยู่เช่นนั้นตลอดอายุขัย อยากได้อะไรก็เพียงนึกเอาเท่านั้น เช่นว่าอยากให้อิ่มก็ไม่ต้องทานอาหาร เพียงแต่นึกเอาก็อิ่มแล้ว เรียกว่า อิ่มทิพย์

    การทำความดีของเทวดา
    ชาวพุทธถือว่า เทวดาบนสรวงสวรรค์เป็นภพภูมิที่เสวยสุขอย่างเดียว ไม่สามารถทำความดีได้มาก เนื่องจากไม่มีกายเนื้อ แต่สามารถติดตามผู้ที่ทำความดีอย่างสม่ำเสมอได้ เพื่ออนุโมทนาบุญ สามารถสวดมนต์และฟังธรรมได้ เมื่อเทวดาหมดบุญแล้วก็ต้องไปจุติในภพภูมิอื่นๆต่อไป ผู้ที่เป็นเทวดาถือว่าการเกิดในโลกมนุษย์เป็นสุขคติภูมิของตน เพราะมนุษย์มีกายเนื้อ สามารถทำความดีได้มาก

    อ้างอิง
    1. ^ http://www.navy.mi.th/newwww/code/special/budham/phungpho/tumma/taylawpainai.html
    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 26/1000000Post-expand include size: 0/2048000 bytesTemplate argument size: 0/2048000 bytes#ifexist count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:58198-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080324210255 -->
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เคยได้ยินว่าเวลาบนโลกมนุษย์และสวรรค์ไม่ใช่เวลาเดียวกัน ถูกหรือไม่ ครับ
     
  3. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    เมื่อตอนสมัยเด็กคุณยายเล่าให้ฟังว่า 1 วันบนสวรรค์ เท่ากับ 10 ปี หรือ 100 ปี บนโลกมนุษย์ ประมาณนี้แหละ จำไม่ได้แล้วครับ
     
  4. jsung

    jsung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +140
    แล้ว ยักษ์ เป็นเทวดาหรือไม่ มีที่มาที่ไปอย่างไรหนอ

    พอดีพาลูกชายไปหาพระมาครับ

    พระท่านกรุณาบอกว่าเป็นยักษ์มาเกิด แต่ก็ดันลืมถามครับว่า ยักษ์ มีความเป็นมาอย่างไร

    ใครทราบกรุณาสงเคราะห์ด้วยนะครับ
     
  5. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ยักษ์จำศีล ก็คล้ายๆเทวดาละมั้ง แต่มีฤทธิ์มากกว่าเทวดา(ดูละครมานะ)
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เทวดาเป็นอย่างไรหรือ นุ่งจุงกะเบนหรือเปล่าท่าน
     
  7. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    เทวดายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่
     
  8. คนไชยา

    คนไชยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +171
    ตามคำบอกเล่าของพระอาจารย์ผู้รู้
    บอกไว้ว่าเทวดานั้นนึกอยากนุ่งอะไร
    อยากกินอะไร
    ก็จะบังเกิดขึ้นมา
     
  9. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    เทวดาเป็นอย่างไรน่ะหรือ ก็ถ้าใครมี หิริโอตัปปะ คนนั้นก็เป็นเทวดา
    ถ้าใครมี พรหมวิหารสี่ คนนั้นก็เป็นพระพรหม
    ถ้าใครมีศีล5ประจำใจ คนนั้นก็เป็นมนุษย์
    ใครจะเป็นอะไรต้องเป็นกันตั้งแต่ยังไม่ตาย ไม่ใช่ตายแล้วจึงไปเป็นเทวดา เป็นพรหม ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นอะไรก็ต้องฝึกทิพจักขุญาณ จะได้มองเห็นอาทิสมานกายของคนนั้น แต่ควรดูตนเองมากกว่า ว่าตอนนี้เป็นเทวดาเป็นพรหม เป็นมนุษย์ หรือเป็นสัตว์นรก
     
  10. พระอาทิตย์สีขาว

    พระอาทิตย์สีขาว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    เห็นด้วยนะคะ กับคุณนิพพิทา 2008

    ก็อย่างที่เคยได้ยินกันนั่นแหละค่ะ
    มนุษย์แม้จะเป็นสัตว์ประเสริฐ
    แต่ก็เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย
    ดังนั้นจงเตินตนด้วยตนเอง
    ชนะตนได้แลเป็นดีค่ะ
     
  11. bingping

    bingping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2005
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +391
    อรูปพรหม คือ พรหมที่ไม่มีรูป หรือว่า พรหมที่ไม่ใช่รูปพรหมครับ
     
  12. อมตนคร

    อมตนคร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +299
    เทวดาหรือพรหมก็สามารถบรรลุธรรมได้เเละมากกว่ามนุษย์บนโลกนี้เสียอีก
     
  13. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ภพภูมิของเทพ-เทวดามีทั้งหมด ๖ ชั้นนับจากโลกมนุษย์ขึ้น
    ไป จะอยู่ในสภาวะหรือมีสภาพร่างกายและทุกอย่างเป็นทิพย์ทั้ง
    หมด(อากาศธาตุ) จะไม่มีรูปร่างที่จับต้องได้ด้วยกายหรือมอง
    เห็นได้ด้วยตาเนื้อของมนุษย์ได้ เราจะรู้เห็นและสัมผัสได้โดย
    ทางจิตเท่านั้นและจะต้องเป็นจิตที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่าง
    ดีถึงขั้นที่เรียกว่าได้ " อภิญญาจิต " ภพภูมิของเทพเทวดานั้นมี
    แต่เสวยและรับแต่ความสุข ความเกษมสำราญแต่เพียงอย่าง
    เดียวไม่มีความทุกข์ยากลำบากอะไร เพราะอยากจะได้หรืออยาก
    จะมีอะไรแค่ทำการนึกคิดเอาก็ได้สมประสงค์สมปรารถนา
    ทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีอารมณ์มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ
    หลง มีครอบครัว มีพ่อแม่ มีลูกมีหลานเหมือนกับมนุษย์
    ทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีทุกข์เหมือนกัน มีตอนที่รู้ว่าบุญใกล้จะ
    หมดแล้วจะต้องลงมาเกิดยังโลกมนุษย์และทุกข์มากๆ ถ้ามาเกิด
    ยังโลกมนุษย์แล้วไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะการที่ได้มาเกิดเป็น
    มนุษย์นั้นสมารถทำตัวเอง ศึกษาหลักธรรมแล้วปฏิบัติฝึกจิตของ
    ตนเองให้หลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ เทพเทวดาเหล่านี้มาจาก
    ไหน? ก็เป็นดวงจิตดวงวิญญาณที่มาจากมนุษย์ที่ตายแล้วและ
    เป็นมนุษย์ที่มีทาน มีศีล มีภาวนา(ยังไม่สำเร็จฌาน)และมีธรรม
    เพราะผลของบุญกุศลที่ได้ทำมานี้ จะส่งผลให้จิตของเขาไปเกิด
    เป็นเทพเทวดา จะไปเกิดที่ชั้นไหนสูงหรือไม่ จะไปเกิดกับ
    ครอบครัวกับพ่อแม่คู่ไหนบนสวรรค์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลของบุญ
    กุศลที่ได้กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์นั้นไปสมพงษ์หรือพอดีกับพ่อ
    แม่ที่เป็นเทพเทวดาคู่ไหนและบนสวรรค์ชั้นไหนอีกที ......
    การลงมาเกิดยังโลกมนุษย์ของเทวดานั้นมีด้วยกันหลาย
    สาเหตุ
    ๑. หมดบุญหรือหมดอายุขัย
    ๒. ทำผิดกฎของสวรรค์
    ๓. ถูกส่งให้ลงมาทำหน้าที่ยังโลกมนุษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...