ค่อนข้างเบื่อครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์โง่ V2, 4 ตุลาคม 2017.

  1. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    - ทีวี โซเชียล มือถือ ไม่อยากเปิดครับ มีแต่เรื่องของคนยึดมั่นถือมั่นในตนก็เลย ทำบาป ไม่ยอมกัน ด่ากันไปกันมา รายการบันเทิงก็พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อไปเรื่อยๆไม่มีประโยชน์ แต่บางทีก็อดเปิดไม่ได้ เปิดแล้วก็เจอแต่กิเลส อ่านแล้วมีโทสะ ก็ยิ่งยิ่งเบื่อที่ตนมีโทสะ

    - อยากตัดโทสะ-กามราคะออกไป ไม่เห็นมันมีประโยชน์ตรงไหน แต่ก็ไม่มีปัญญาไปตัด ก็เลยเบื่อที่ตนทำอะไรไม่ได้
    - นึกถึงความผิดพลาดในอดีต ก็รู้สึกอาย นั่งนึกอยู่คนเดียวก็อยากจะแทรกแผ่นดินหนี อยากจะเตลิดเข้าป่า หรือตายไปเลย รู้สึกอายในสิ่งที่ผิดพลาดมาก จนไม่อยากไปสู้หน้าใคร ไม่อยากดังหรืออยากมีชื่อเสียง คิดว่าตนโชคดีมากที่ไม่ได้เกิดมาเป็นคนมีชื่อเสียง เพราะไม่ยังงั้นยิ่งนึกความผิดพลาดคงยิ่งอายหนักยิ่งกว่านี้เพราะคนจะรู้เยอะกว่านี้

    - เบื่อความฟุ้งซ่านในหัวสมอง เวลานั่งสมาธิสงบๆ ไม่มีความคิดแทรกก็รู้สึกดี แต่พอไม่ได้ทำสมาธิก็เบื่อความคิดในหัวตัวเอง คิดแต่เรื่องอะไรวนไปวนมาอยู่นั่นเนาะ

    - เบื่อที่อินทรีย์ของตนมีแค่นี้ ก็เลยหมดปัญญาทำอะไรไม่ได้ เบื่อมันต่อไป


    แชร์กันครับ ใครเบื่ออะไรบ้าง มาบ่นๆกันเล่นๆครับ
     
  2. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมไม่เคยคิดว่ามันจะวุ่นวายอะไรขนาดนั้น ผมโทษตัวเองที่เกิดมามากกว่า
    มันผิดตั้งแต่เราเกิด
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนตัวนะตั้งแต่เด็ก ส่วนตัวจะไม่พูดคำว่า
    เบื่อ เซ็ง และ กลุ้มเลยครับ
    และเป็นคนที่ไม่ชอบการบ่น
    เพราะพูดแล้วใจมันจะไปทางที่พูด
    และไม่คิดว่ามันคือการแก้ปัญหา
    ณ เวลานั้นครับ

    และปกติถ้าไม่ใช่เรื่องงาน
    เรื่องการดำรงชีพ ก็ไม่ค่อยคิดอะไร
    ถ้าไม่ใช่เวลาคิด ก็ไม่เอามาคิดอีก
    เน้นบันเทิง ฮาๆไปวันๆ
    เพราะเคยได้ยินมาว่า
    เราฝึกปฎิบัติมา ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม
    ก็เพื่อที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
    และสภาพแวดล้อม
    สังคมได้อย่างแยบยลครับ
    คำว่า แยบยลต้องหาให้เจอครับ

    ส่วนตัวนะ ไม่ได้ว่าใครนะ
    การบ่น มันฟ้องถึงความพร่องในเรื่องความสามารถ
    ในการแก้ปัญหาและความพร่องในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่มีอยู่ของตัวเราเองครับ มันเป็นเพียงข้ออ้าง
    หรือข้อแก้ตัว ที่จะพยายามปัดสิ่งเหล่านั้นให้พ้นตนเอง
    ทั้งที่เริ่มต้น ต้นเองเป็นคนสร้างมันเอง
    จึงไม่นิยมที่จะบ่นครับ
    มันแสดงให้เห็นว่า มะรึงมันห่วยแตกนั่นเอง(ว่าตัวเอง)
    ยิ่งตอนทำงาน มีผู้ใต้บังคับบัญชา
    เป็นหลักร้อย ทุกคนจะไม่เคยได้ยินส่วนตัว
    บ่นแม้แต่คำเดียว แต่พูดว่า
    จะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร
    ทำอย่างไร แล้วก็ไปแก้ปัญหาดู
    ถ้าวิธีตรงนี้ไม่ได้ มีแผนสำรองไหม
    ประมานนี้

    เพราะส่วนตัวอีกนะครับ
    ตาก็ยังมองเห็น
    หูก็ยังได้ยิน
    สมองก็ยังคิดได้
    จิตก็ยังปรุงแต่งได้
    ลิ้นก็ยังรู้รส
    กายโดนไม้จิ้มฟันก็ยังเจ็บ
    อากาศร้อนก็ยังรู้สึกร้อน
    อากาศเย็นก็ยังรู้สึกหนาว
    และก็ยังอยู่ร่วมกับสังคมหลายรูปแบบ

    ส่วนตัวคงไม่หาวิธีการเลี่ยงที่
    จะไป ปิด หู ตา จมูก กาย ใจ แน่นอน
    แต่จะใช้หลัก คลายความยึดมั่นถือมั่นตรงนั้นแทน
    ยกตัวอย่าง ถ้าอากาศหนาว ก็คงหาวิธีทำให้ร่างกายอุ่น
    คงไม่มามัวบ่นว่า ทำไมอากาศหนาวจังวะคือ(ไม่โทษภายนอก)
    และไม่มาบ่นว่า ไอ้ฟายยเอ้ย รู้งี้เอาเสื้อกันหนาวมาดีกว่า
    (ไม่โทษตัวเอง) และไม่บอกว่าหน้าร้อนดีกว่าเยอะ
    (ไม่เลือกข้าง ไม่เข้าข้าง)
    หรือถ้าตามองเห็น ก็ปล่อยให้มันมองเห็นไป
    แต่สำคัญคือ ตัวใจมันไปดึงสิ่งที่เห็นเข้ามาคิดปรุงแต่งหรือเปล่า
    ถ้ามันปรุง ก็จะเริ่มมาสงสัยตัวเองแระ
    (อ้าววว เราไม่ทันตัวออกไปดึงภายนอกเข้ามาปรุงนี่หว่า
    มันเลยคิดได้ ปรุงได้ ไม่ว่ากุศลหรืออกุศล ก็ปรุงทั้งนั้น
    บางทีก็ด่าตัวเองเล่นๆ ไอ้ฟายยยเอ้ยยย ไปคิด
    ตาม คิดปรุง หาป้ามะรึงหรือ)
    และจะมาเริ่มแก้ไขตัวเองแระ
    จะไม่เข้าข้างตัวเอง และไม่เข้าข้างภายนอก
    และจะไม่ไปโทษภายนอกด้วย

    ซักพักหนึ่งเมื่อ ไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่เข้าข้างภายนอก
    ไม่โทษภายนอก มันก็ไม่ปรุง
    ใจก็เริ่มจะเป็นกลางเปรียบ
    เหมือนได้ออกมายืนดูสองฝ่ายเล่นละครกัน
    คือฝ่าย ๑. ไอ้ใจกระโหลกกะลาของตัวเองที่มันไปดึง
    ภายนอกปรุงตอนแรก
    ไม่ว่ากุศลหรืออกุศล
    กับ ๒.ฝ่ายภายนอกที่แสดงละคร
    ไปตามบทบาทของตัวเองตามธรรมชาติแห่งตนตาม
    จริต วิถี อนุสัย วิบากและวาระแห่งตน
    พอซักพัก หลังจากดู ๑ กับ ๒ มันแสดงก้ามไปซักพัก
    โดยไม่เอา บทบาทภายนอกอะไรเข้าไปเติมมัน
    เพื่อให้เป็นอย่างบทนั้น

    มันก็จะรู้ได้เองว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร
    ด้วยตัวเราเองนั่นหละครับ

    ปล เราเกิดมาบนโลกแล้ว
    ก็ต้องรู้จักที่จะอยู่ร่วมกับโลกใบนี้
    ให้แยบยลครับ อย่าไปเสียเวลา
    กับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
    อย่าไปมัวเพ้อเจ้อกับเรื่องที่มายังไม่ถึง
    เอาปัจจุบันพอ ใจเราเป็นกลางได้หรือยัง
    พอใจเรามันรู้และเข้าใจอะไรๆ
    เด่วมันก็จะคลาย ความยึดมั่นถือมั่น
    และคลายตัวได้ของมันเองนั่นหละครับ
    มันถึงจะค่อยๆกลับคืนสู่เนื้อหาเดิมแท้ธรรมชาติแห่งตนได้
    เนื้อหาที่ไม่สร้างเชื้อให้ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิด
    จากจิต จากกายนี้ได้อีกนั่นหละ

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    o ในแง่ธรรมะฝ่ายนำออกจากภพ
    ก็ต้องกราบเชิญเจ้าของกระทู้มาสดับ
    ธรรมว่าด้วยญาณเก้าจับอีกเจ็ด
    ถึงจะแน่วแน่มั่นคงโอนไปโลกุตระ

    o อาทีนวานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นโทษะ
    มากพร่ำพรรณาถึงปาปะแต่หนหลังอย่างงั้นอย่างงิ
    นิพพิทานุปัสสนาญาณญาณคำนึงเห็นด้วยความหน่ายนิ
    แต่ยังติดอยู่นี่ไม่รู้จะไปทางไหนจะถามก็แหมลีลา

    o มุจจิตุกัมยตาญาณญาณหยั่งรู้อันให้ใคร่จะพ้นไปเสีย
    พิจารณาให้ดีสิมีทางไหนจงเร่งรีบควานหา
    จะยากอะไรแค่กำหนดรู้ไปว่าจิตไม่เลื่อมใสความสงัด
    ยังขนขยะยักแย่ยักยันดูหนังอ่านข่าวพิโธิผิถังเดี๋ยวปั๊ด!!

    o ปฏิสังขานุปัสสนาญาณญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทาง
    ต้องหมั่นวางกิจกรรมทางโลกลงก่อนจึงจะพายงั๊ด!!
    พอให้เกิด"จิตเลื่อมใสในสมาธิ"อันคราวนี้จะกระทบโลกในมุมกลับ
    โทษะโมหะโลภะชะงักเห็นความเกิดดับแทนที่จะจมหลง

    o สังขารุเปกขาญาณญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร
    จะค่อยๆเสด็จองค์ลงกระชับกระทบปั๊ปมีแต่ปลิดปลง
    ความคลายเมาคลายหลงแน่นหนาสัมมาสัมโพชฌงค์
    แต่ยังไงจะค้างเติ่งตรง จะต้องดูหลงไหลแล้วรู้ไหลแล้วรู้ให้ดีๆ

    o สัจจานุโลมิกญาณญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจจ์
    จะค่อยเจนจัดไม่หยุดค้าง................................................
    ....................................................................................
    จบ เว้ยเฮ้ย โพธิสัตว์หน้าไหนก็อึ้งกิมกี่ สาวกอินทรีย์ดี ต่อเอาเอง
     
  5. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    เข้ามาคุยในเว็บธรรมะก็เหมือนเจอเพื่อนรู้ใจครับ

    ถ้าลองเอาเรื่องแบบนี้ไปเล่าให้เพื่อนบ้าน หรือเพื่อนฝูงฟัง อาจเจออาการทำหน้าเหมือนมีอีกาวิ่งบินผ่านหัว

    ธรรมะคุยไม่ได้กับทุกคน.....
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อ้าว !! งงเต๊กเลย ฟังรู้เรื่อง หรอ

    ถ้าฟังรู้เรื่อง

    ลวกเพ่ กำหนดเห็น สองสิ่งนี้ด้วย

    สิ่งนึงเป็นกระแส หิวอารมณ์โลกๆ เสพข่าว
    เสพนั่น เสพนี้ แต่ยังไม่โหลยโถ้ยเกินไป มีอยู่ในจิต

    และ เวลาเดียวกัน นะลวกเพ่ เน้นว่า เวลาเดียวกัน

    สิ่งหนึ่งก็บึ๊ดจั้๊บบึด ภาวนามันหนุกหนาน ตั้งมั่น อยู่ในจิต

    " เห็นสองกระแสนั้น พาดอยู่ในจิต เคียงคู่กันไป "

    แล้ว ลวกเพ่ ก็ตลบยก

    " เห็นสองกระแสนั้น พาดอยู่ในจิต เคียงคู่กันไป "
    เป็น สภาวะธรรม อย่างนึง รสเดียว กิจเดียว เกิดแล้วก็ดับ อีกที

    แล้วสังเกต อาการ กำเริบของ กระแสทั้งสอง ที่มันรั้งไปรั้งมา

    ทีนี้ เทวดาอย่างลวกเพ่ ก็อาจจะสำคัญว่า หมดและ ไปเจอ
    พระพุทธองค์ ก็อาจจะไปอวดว่า เราก็หนึ่งในตองอู ข้ามโอฆะได้
    ไหนลองไปถามสิว่า พระพุทธองค์ข้ามโอฆะมาอย่างไร

    เทวดา หงายเก๋ง !!

    ฮิวววววววววววววววววววววววววววววววววส์
     
  7. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ตรงที่รั้งไปรั้งมา ไม่ง่าย.....
     
  8. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมก็เห็นนะอารมณ์ฟุ้งซ่าน ยิ้่งนิ่งเท่าไรยิ่งเห็น มันรุนแรงกว่าภายนอกอีก
    ผมก็ไม่คิดจะไปควบคุมมัน มันอยากทำงานปล่อยมัน แต่ผมนิ่ง

    ตรงนี้ล่ะ ความปกติสามัญเริ่มเกิดกับผมทีละน้อยๆ
     
  9. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    โลกเป็นทุขเป็นธรรมดา ท่ายึดไปตามโลกก้ทุขเหมือนโลก
    ผมว่าทุขสุขอยู่ในใจ ท่ามีแต่ความร้อนใจไม่พอใจเป็น ปติคะ เลือกเอาแต่สุขแต่สงบ มันก้เป็นโลภะอย่างหนึ่ง ความไม่รู้ในโลภะปติคะที่เกิดก้คือโมหะ พระพุทธเจ้าสอนไฟทั้งสามว่าเป็นทุข การคิดเห็นแบบจขกทนี้เป็นมรรคจริงๆหรอครับ หรือเพราะโมหะทำไห้หลงไปในปติคะเละฉันทะจึงไม่รู้ว่าสุขสงบอยู่ตรงไหน
     
  10. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    สุขมันเฟก ....
     
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ก็แค่เล่นไปตามบทบาทแหละครับ แม้แต่ความคิดก็ยังไม่ใช่เราจริง
     
  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เปนเหมือนกัลตลอดๆ
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    อ้าว...นึกว่าเฟคแต่ทุกข์ หึหึ
     
  14. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมบ่นครับ

    จะกล่าวสรุปขยายความเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ ถือว่าซะว่าเป็นการเสพธรรมอย่างหนึ่งนะครับ

    อาการเบื่อมันเป็นอาการที่มาจากการโยนิโสพิจารณาธรรมต่างๆที่พุ่งเข้ามาและใจระลึกได้เร็วกว่าเมื่อก่อน เร็วกว่าอย่างไร? ยกตัวอย่าง....เมื่อมีอาการไม่ชอบใจเข้ามากระทบเกิดเป็นโทสะ เมื่อก่อนโทสะจะลอยฟุ้งอยู่พักหนึ่ง จิตถึงจะย้อนมาดูเห็นว่ามีโทสะ หรือบางครั้งขาดสติไม่กลับมาย้อนพิจารณาระลึกถึง แต่ช่วงหลังๆมานี้โทสะเริ่มเกิดขึ้นมาปุ๊ปจิตจับได้ทันทีและตอบตัวเองได้ทันทีว่ากำลังจะมีโทสะ บางครั้งโทสะดับลงทันทีที่จิตเห็น บางครั้งไม่ดับทันทีแต่เบาลงและดับในลำดับถัดไป บางครั้งไม่ดับแต่ระหว่างที่พูดออกไปอย่างหัวเสียพูดไปจิตก็จับโทสะไปด้วย และก็หลังจากพูดเสร็จโทสะก็ดับลง และไม่ยืดยาว

    อาการโทสะเป็นอาการที่จับได้ง่ายสุด จึงยกมาเป็นตัวอย่างแรกสุดยังมีอาการอื่นๆอีกมากมาย
    จิตไปจับว่ากำลังพูดเพ้อเจ้อ ทั้งก่อนจะพูดเลยไม่พูด หรือบางครั้งก็จับระหว่างที่พูด จิตไปจับว่ากำลังหลงอยู่ในโลก(โมหะ) ๆลๆ หรืออื่นๆอย่างที่โพสไปแล้วเมื่อตอนต้นกระทู้
    ส่วนเรื่องอยากมีอยากได้ อยากซื้อ ช่วงนี้จะไม่ค่อยเห็นอาการเหล่านั้นแสดงออกมาให้เห็นแล้ว มีก็ใช้ ไม่มีก็ไม่ใช้ อะไรก็ได้ แต่ยังสังเกตุอยู่ตรงที่ยังอยากได้ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นหรือทดแทนของที่เสียอยู่เป็นปกติ


    เมื่อจิตมันไวขึ้น มันก็พิจารณาภาวนามันหนุกหนานละครับ พิจารณามันเกือบจะทั้งวันทั้งคืน เกิดอะไรขึ้นเมื่อพิจารณาทั้งวันทั้งคืน? เหนื่อยครับ....บางครั้งจิตบอกตัวเอง พอก่อนๆ ขอหัวโล่งๆแป๊ปนึง เล่นกระทบอะไรก็พิจารณาไป(เกือบ)หมด แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่อง ทุกเคส ทุกช๊อตที่จิตจับมาพิจารณา ถ้าไม่มีแง่มุมให้เล่นก็ปล่อยผ่าน หรือบางครั้งจิตเหมือนออกอาการไม่มีกำลัง ก็ปล่อยผ่านเช่นกัน

    เมื่อพิจารณาเข้าไปมากๆมันก็เบื่อสิ่งต่างๆไปเอง ที่เปรยเอาไว้ตอนต้นกระทู้กับคำว่าว่า"ตาย" มันไม่ใช่อยากจะตายจริงๆ แต่เป็นอุปมาเปรียบเทียบอยู่แบบโลกๆจะมีอะไรดีไปในทำนองนั้นครับ

    เมื่อมันเบื่อมากๆ ปวดหัว(จากการพิจารณา) มากๆ ใจมันก็ค่อนข้างอยากจะไปทางหาความสงบ อารมณ์ตอนนี้อยากไปเที่ยวป่าอยากไปลองนั่งสมาธิใต้โคนไม้เงียบๆ อยากทำสมาธิตอนกลางวันก็อยากจะหาที่เงียบๆนั่ง แต่เมื่อไม่สามารถทำได้ก็แก้ด้วยการรู้ลมหายใจแบบลืมตาไปก่อน วันหนึ่งๆเมื่อมีความรู้สึกอยากสงบเข้ามาแต่ยังทำไม่ได้ ก็อาศัยวิธีนี้แก้ขัดไปพลางๆก่อน


    พิจารณาเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อตนเองในแง่ที่จะมีผู้ที่เข้ามาเสนอแนะแนวทางต่างๆแบบคอมเมนท์บนๆ

    ก็เลยบ่นๆให้ฟังประมาณนี้ครับ.......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2017
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กั๊กๆๆๆๆๆ

    ดูโทษะ อะใช่

    แต่ ดูไม่ถึง โทษะ แว้ว

    ถ้า ดูโทษะ ต่อ แค่เปิดตา ตากระทบแสง เกิดอาการรู้
    วรรณะ ความแตกต่าง .....นั่น ก็ได้มาจากการมี โทษะ

    พอดูไม่ทัน ก็เลย โน้นนน จะวิ่งเข้าป่า จะหาแต่ ที่ ตามันช๊อบชอบ

    โทษะ ลากไป เจ็ด !!!
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ดู โทษะ จิตจะมากไปด้วยการ พิจารณา นาม

    กาย จะหลงลืม

    ตรงนี้ เรียกว่า ขาดสัมปชัญญะ

    พอขาด สัมปชัญญะ ราคะกิเลสจะลาก กายไปเสพ
    นี่ก็คือ มันแฝงเข้ามา ....

    ดู โทษะ อะใช่ แต่ให้ เพิ่มการรู้กาย เข้ามาด้วย
    ไม่งั้นจะไม่ทันพวก โลภะมูลจิต คราวนี้ กิโลเจ็ด เลย จิ๊กโก๋ สบายใจ
     
  17. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    รู้กาย ก็ กายคตาสติ เลยเนอะ สติปัฐฐาน เลยง่ายดี จบในที่นั่งเดียว แก้ทุกอาการ ยิ่งกว่ายาวิเศษ กิกิกิ
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ไปฮองดู

    แล้ว การภาวนา จนเหนื่อย จะพบว่า การที่ ไม่หลงลืมกาย
    จมการภาวนาส่วนนามอย่างเดียว มันจะมี ฟุตเวิร์ก ในการ
    ภาวนา วิปัสสนา แล้ว ถอยมาเก็บ ฌาณ แล้วก็ รีบบึ๊ดจั๊ม
    บึ๊ดไป วิปัสสนาต่อ ......

    หากมันมี การสลับไปมา เรียกว่า มันก้ำเกินกัน

    ถ้า ภาวนาให้มากๆ จะเห็นว่า มันไม่หายไป คือ วิปัสสนาก็มีอยู่
    สมถะก็เก็บอยู่ เข้าสู่ " กิจเดียว รสเดียว "

    จะเริ่ม พาดกระแส เซ็นโอนลอย ออกมหาสมุทร 7วัน 7ชาติ ฯ

    กรณี จิตมันจมไปข้างวิปัสฯ หรือ สมถะ ให้กำหนดรู้ นิกันติ ทุกขาปฏิปทา

    ถ้ามันมีแต่ พาดกระแส ให้กำหนดรู้ สุขขาปฏิปทา

    เอา ทุกขาปฏิปทา สุขขาปฏิปทา ปฏิปทาใดๆ ยกขึ้นมาเห็นความเกิดดับอีก

    เห็นอะไร รู้อันนั้น เกิดดับ โลดดดดดด

    จนกว่า จะ อึ๊ๆ อ๊ะๆ สดับธรรมะ อ้าว โง่อยู่ตั้งนาน ฮิวววววววส์
     
  19. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    บางทีมันมีการพิจารณา ซากศพเดินกันเต็มฟุตบาทด้วย บางทีก็ลากไปนู่น ธาตุ 4 (แบบโลกียะ) แบบนี้ก็มี โอยเยอะ บางทีนึกไม่หมด พิมพ์เสร็จไปแล้วนึกขึ้นได้ เหมือนจะเรียกได้ว่ากรรมฐานมีกี่กองจิตมันไปลากมาหมดเองเบย แต่ยอมรับว่าช่วงนีต้องเน้นกาย สติปัฐฐานเยอะๆหน่อยจริงๆ อุปสรรคมันเยอะเกินนน - -"
    *** แก้ไข พิมพ์ผิด
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    แหม อย่าจะ ไหลก๊อก

    แต่ ภาวนาไปเถอะ หนุกหนาน คุ้มค่าแว้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...