บอกเล่า แนะนำและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการฝึกสมาธิ เพื่อเป็นธรรมทาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พระจันทร์บนผิวน้ำ, 17 มีนาคม 2008.

  1. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมเป็นผู้เริ่มหันมาสนใจในพระพุทธศาสนาและการฝึกสมาธิ โดยความสนใจได้เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาของสำนักพิมพ์ต่าง จนเกิดความใคร่รู้เป็นอย่างมาก โดยมีเพื่อนแนะนำให้ลองเข้ามาหาความรู้ที่หลากหลายมากขึ้นใน website พลังจิตแห่งนี้

    ผมใช้เวลา3วันในการอ่านข้อความกับทั้งความรู้ทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ ทำให้ผมมีความต้องการในการเริ่มฝึกสมาธิ โดยผมลองหาวิธีต่างๆในการปฏิบัติด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการอ่านข้อความและหนังสือที่เกี่ยวกับอาณาปาณสติ เมื่ออ่านเข้าใจถึงวิธีปฏิบัติในขั้นแรก ก็ได้ลองปฏิบัติจริงดู

    ปรากฎว่าการกำหนดรู้ลมหายใจนั้นเมื่อได้พิจารณาลมหายใจเข้า แล้วจึงมีการหยุด แล้วออก แล้วจึงหยุด เป็นอย่างนี้วนเรื่อยไป ขณะพิจารณานั้นผมรู็สึกว่าหัวใจเต้นแรง พร้อมทั้งมีความรู้สึกว่าเหนื่อย ในจึงคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเพ่งความรู้สึกมากจนเกินไป จึงลองทำใหม่ ก็มีอาการที่ดขึ้นในกรณีที่ว่าเหนื่อยน้อยลงและหัวใจเต้นไม่แรงเท่าเดิม แต่มีอาการอยู่

    แต่เมื่อพิจารณาลมหายใจไปเรื่อยๆพบว่าลมหายใจนั้นจากตอนแรกๆที่ยาวบ้างสั้นบ้าง กลับเป็นลมหายใจที่มีอาการหายใจเข้าสั้นและน้อย หายใจอกสั้นและน้อย เกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องหายใจ แต่เมื่อพิจาราได้อย่างนี้แล้ว ความรู้สึกที่ว่านั้นหายไป กลายเป็นมาเป็นลมหายใจเข้าออกยาวแแบบธรรมดา หลังจากนั้นผมได้ลองเข้มาศึกษาหาความรู้จากข้อความที่นักฝึกสมาธิใหม่ที่ได้เข้ามาโพสถามเอาไว้แล้วจึงมีผู้มีประสบการณืมาตอบ

    ทำให้ผมได้มีความรู้ที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยผมได้อ่านถึงการฝึกกสิณ โดยผมลองอ่านอย่างละเอียดแล้วลองเลือกกสิณฝึกดู กสิณที่ผมเลือกนั้นผมไม่ทราบว่าเรียกอย่างไรเนื่องจากมีความรู้น้อยและได้อ่านข้อความที่บอกว่าให้นึกถึงใบหน้าของพระหรือพระพุทธรูปแล้วพิจารณาใหละเอียดว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร กระจ่างชัดเพียงใด ผมจึงได้ลองปฏิบัติโดยได้นำเอาภาพของพระพุทธชินราชที่มีอยู่ที่บ้านมาลองนั่งพิจารณา

    แล้วเพ่งดู ดูแล้วหลับตาแล้วนึก เมื่อลืม จึงลืมตามาดู แล้วทำซ้ำไปเรื่อยๆ แต่ภาพพระพุทธชินราชที่ผมเพ่งดูนั้น พอผมหลับตาลง กลับมีภาพใบหน้าของพระพุทธรูปจากที่ใดก็ไม่สามารถทราบได้มาปรากฏเด่นชัดกว่าภาพพระพุทธชินราชที่ผมได้กำลังเพ่งนั้น(ไม่ว่าจะทำอะไรเวลาใด ก็นึกถึงภาพนี้ได้เสมอ) เป็นภาพจากมุมต่ำทางด้านขวา

    เมื่อลองพิจารณาภาพที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าสามารถมองและพิจารณาได้เป็นภาพที่ใหญ่ขึ้นและกระจ่างชัดขึ้น โดยในการพิจารณานั้นในบางคราวภาพของพระพุทธรูปที่ปรากฏนั้นคล้ายกับว่าเป็นภาพสามมิติที่ผมสามารถมองได้รอบๆ มองบน มองล่าง (แทรก:บางครั้งเห็นเป็นทองคำ บางครั้งเห็นเป็นปูน แต่สิ่งนี้พิจารณาแล้วว่าเป็นเพราะสมาธิไม่เพียงพอ ประสบการ์ต่างๆจึงมาปนกันไปทำให้เกิดเป็นภาพต่างๆขึ้น)

    ผมปฏิบัติได้เพียงเท่านี้ก็ได้เข้ามาอ่านใน website นี้อีก เห็นว่ามีการเพ่งแสง(อาโลกกสิณ) จึงลองนำมาปฏิบัติดู ไม่ทราบว่าถูกหรือผิดแต่อย่างใดในการทดลองปฏิบัติ โดยเริ่มแรกของการปฏิบัตินั้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีความตั้งใจ คือบังเอิญมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเห็นพระจันทร์เสี้ยวแล้วโดนก้อนเมฆบัง เห็นเพียงไม่กี่วินาที ภาพนั้นก็ติดเข้ามาในจิตทันที เมื่อนึกถึงก็เปนภาพที่แจ่มชัด สามารถมองให้เล็ก หรือขยายขนาดภาพให้ใหญ่แล้วละเอียดได้ เมื่อลองนั่งสมาธิแล้วพิจารณาภาพพระจันทร์นั้นต่อ ก็พยายามคิดว่าให้พระจันทร์กลายเป็นดวงสว่างสีขาว กลับเกิดภาพกลายเป็นมีแสงสว่างมากเป็นดวงเล็กๆออกมาจากหลังภาพพระจันทร์นั้น (ภาพคล้ายๆกับการเกิดปรากฏการ Diamon Ring ของการเกิดสุริยุปราคา)

    แล้วภาพพระจันทร์นั้นก็หายไป เหลือแต่ดวงสว่างจ้านั้น ดวงสว่างนั้นสามารถบังคับให้ไปทางซ้านและขวาได้(แต่ยังไม่ได้ทุกครั้ง และบางครั้งภาพหายไป ต้องเริ่มต้นที่ภาพดวงจันทร์ใหม่ แต่ได้ความรู้สึกว่าเร็วขึ้น) เมื่อจับจ้องในจิตถึงภาพดวงสว่างนั้น ก็อธิฐานว่าให้ดวงสว่างนั้นกลายเป็นเพชร(อันนี้ได้อ่านมาจาก website นี้วิธีการฝึกกสิณ) ในใจไม่ทราบว่าพยายามมากหรือย่างไร รู้สึกเกร็งขึ้นมา
    จากภาพดวงสว่างนั้นที่พยายามเปลี่ยนให้เป็นเพรช หรือดวงแก้ว กลับปลี่ยนรูปร่างไปมาเป็นเพชรบ้าง เป็นแก้วบ้าง สว่างบ้าง มืดบ้าง แล้วต่อมาก็รู้สึกว่าแรงของสมาธิหมดลง รู้สึกได้ว่าได้เวลาลืมตา พอลืมตาแล้วก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมา ก็พยายามหายใจเข้าออกยาวๆสามครั้งแล้วลองปฏิบัติต่อด้วยวิธีการเดิม แล้วทำอยู่อย่างนั้นประมาณสี่ครั้งก็รู้สึกว่าพอ

    นี่คือประสบการณ์(เมื่อคืน)ในการฝึกสมาธิของผู้ที่เพิ่งเริ่มแล้วมีความรู้น้อยอย่างผม ขอความกรุณาผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำแนวทางที่ถูกต้องและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องให้ผมด้วยนะครับ​

    ขอเชิญท่านทั้งหลายในการบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆ และขอคำชี้แนะด้วยนะครับ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มีนาคม 2008
  2. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +38,356
    สาธุ ขออนุโมทนาด้วยครับ เลือกปฏิบัติเอาอันที่ตัวเองชอบ เมื่อปฏิบัติแล้วรู้สึกว่ามีความสุข ไม่อึดอัด ไม่เหนื่อย จะเป็นกรรมฐานที่เหมาะกับตัวเราเองนะครับ
     
  3. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    เอาภาพพระพุทธรูปที่ปรากฎขึ้นเองนั่นแหละครับ
    ภาวนาควบไปกับลมหายใจ
    อย่าบังคับลมหายใจนะ [​IMG]
     
  4. treeufo

    treeufo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +30
    สวัสดีครับเท่าที่ อ่านๆ มานะครับ คุณทำได้ดีทีเดียวนะครับ แต่จิตยังส่ายไปส่ายมาครับ
    อาจจะเป็นช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ค่อยชิน

    ขั้นแรกนั้นน่ะครับ ต้องตั้งใจรักษาศีลนะครับ เพราะศีล เสมือนเป็นรากฐานของสมาธิ
    และเมื่อขณะทำสมาธิภาพพระพุทธรูปจะชัดหรือไม่ชัดก็อยู่ที่การรักษาศีลนี่แหละครับ
    ถ้าทำได้จะเห็นพุทธรูปในจิต ทั้งสัดส่วน ขนาด สีผิว ทรงหน้า ทุกอย่างจะชัดเจนหมด
    ครับ และการรักษาศีลนี่แหละครับ จะทำให้เราสามารถปรารถนา นั่งสมาธินาเท่าไหร่
    ก็ได้และการกราบขอขมาพระรัตนตรัยทุกครั้งที่ทำด้วยนะครับ แผ่ส่วนบุญกุศลก็ทำ
    ทางจิตนั่นแหละครับ

    การดูแล้วจับภาพพระพุทธรูปนั้น เมื่อหลับตาหรือลืมตา ภาพพระพุทธรูปก็ยังตรึงอยู่ใน
    หัวอยู่ข้างในจิต

    เมื่อขณะจับลมหายใจเข้าก็รู้ว่าสั้นยาวแค่ไหน แต่เมื่อทำสมาธิไปเรื่อยๆจะรู้สึกว่าแทบจะ
    ไม่รู้สึกถึงลมหายใจ ตอนแรกๆถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องจับลมหายใจครับคือ ไม่สนในลม
    หายใจว่าจะมีหรือไม่มีแต่แรกๆเลย ไม่ต้องกลัวตาย เพราะยังไงเราๆท่านก็ไม่พ้นความ
    ตายอยู่แล้วครับ เมื่อไม่สนลมหายใจก็จะพบกับปิติก็คืออาการแปลกประหลาดต่างๆนาๆ
    เช่นตัวโยกไปมา แสงต่างๆ เสียงการของหัวใจนั่นก็ใช่ครับ ภาพลามก ไม่ต้องสนใจอย่า
    เอาจิตไปจับ ไปไหลกับมันเพราะมันก็จะพาเราไหลไปเรื่อยๆ อิอิอิ ตัวโยกนั้นตอนแรกๆ
    ผมก็เป็นถึงกับกลิ้งไปกลิ้งมาท่าประหลาดๆที่ไม่น่าจะทำได้ ก็ได้ทำพอไม่สนใจมัน ก็กลับ
    มานั่งสมาธิท่าเดิมเลยแปลกจริงๆนึกแล้วยังขำไม่หาย เมื่อผ่านปิติก็จะเจอความสุขในการ
    นั่งสมาธิก็ไม่ต้องสนใจเช่นกันเพราะจะทำให้เราติดความสุข สบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
    ก่อน ถ้าเกิดเวทนาขึ้นคือปวดขา ต่างๆนาๆที่จะปวดไม่ต้องสนใจแต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็
    น้อมขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยครับ ก็คือพระพุทธรูปที่คุณ
    กำหนดนั่นแหละ ผมก็เป็นครับน้อมขอพระบารมี สักพักนึงรู้สึกถึงพลังงานๆนึง มาช่วยกด
    อาการปวดขาแทบแตกของผม แต่ถ้าเราชินเราขออีกพระองค์ท่านก็ไม่ช่วยครับ เพราะถือ
    ว่าทำได้แล้ว พระองค์ท่านจะช่วยตอนต้นๆปฏิบัติครับ อิอิอิ

    ในตอนทำสมาธินั้นเราก็เอาภาพที่เราจับคือ ภาพพระพุทธรูป มากำหนดขึ้นในจิตแล้วกำ
    หนดว่ามีเราอีกคนกำลังฝึกนั่งสมาธิต่อหน้าพระพุทธรูปแต่ต้องกำหนดพระพุทธรูปให้
    อยู่สูงกว่าเรานะครับ แล้วเอาจิตเกาะภาพพระพุทธรูปที่เรากำหนดไว้ให้เหนียวแน่นเลย
    นะครับพิจารณาถึงสัดส่วนสีผิว รูปหน้า ถ้าภาพพระเปลี่ยนไปยังไงก็ตามดูไปเรื่อยๆนะ
    ครับไม่ต้องกำหนดให้เหมือนเดิม อย่างผมๆจับพระพุทธรูป จากผิวสีเหลืองก็กลายเป็น
    แก้วทั้งองค์พระพุทธรูป จากแก้วก็กลายเป็นแสง เริ่มจากแสงน้อยๆจนแสงกลบตัวเราที่
    กำหนดเลย เหมือนนั่งอยู่ในแสงสว่าง ผมคงฝึก อาโลกสิน มามากมั้ง อิอิอิ

    เมื่อยามปกติถ้ามีภาพไหนแทรกขึ้นมาก็จับภาพพระพุทธรูปเลยนะครับ ในใจต้องนึกแต่
    พระพุทธรูปนะครับ บอกกับตัวเองว่าถ้าเป็นภาพอื่นเราไม่สน เราจะจับแต่ภาพพระพุทธ
    รูปเท่านั้น ภาพไหนโผล่มาตัดทิ้งเลยครับ ความคิดไหนแหลมมาก็ตัดทิ้ง สมาธินั้นไม่มี
    หมดแรงหรอกครับ ที่รู้สึกเหนื่อยๆนั่นเกิดจากเรายังไม่ชินกับการจับภาพพระพุทธรูปกับ
    การตัดความคิดน่ะครับ อาจจะมีมึนๆกันบ้าง ผมก็เป็นต้องไปนอนพัก กินยาแก้ปวดหัวกัน
    เลย แต่พอชินอาการเหล่านี้จะหายไปเอง หลังๆพอผมคิดมากขึ้นกลับจะปวดหัวแทน กลับ
    กันซะอย่างนั้น แต่มีสติมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ รู้หมดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เหมือนอยู่ใน
    อีกโลกนึงโลกที่ปราศจากความคิด แต่ก็ใช่จะไม่มีความคิดนะครับคือ มีน้อยมาก ก็ต้องทำ
    พอดีๆถ้ามันฝืนๆก็ให้ภาพอื่นๆมันขึ้นมาบ้างก็ได้ครับ คิดบ้างก็ได้เอาให้สบายๆจิต เข้าสู่สาย
    กลางของจิต ที่เขาเป็นบ้า เพื้ยน วิปลาส เพราะฝืนกันเกินไปนี่แหละ ก็เริ่มว่าวันหนึ่งๆ เรา
    จะจับภาพพระพุทธรูปให้ได้1 ครั้งต่อวันต่อไป 2 3 4 5 ครั้งค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆ จนยาม
    ปกติรู้เลยว่าเรากำลังคิดถึงเรื่องอะไร อะไรที่ทำให้เราเกิดคิดเรื่องนั้น ภาพนั้นทำไมต้องเกิด
    มีสติรู้หมดเมื่ออะไรเกิดขึ้น

    ถ้าติดขัดตรงไหนก็โพสต์ถามกันได้เลยครับ ถ้าผมตอบไม่ได้ท่านผู้รู้ท่านอื่นๆจะตอบ
    คำถามแทนผมเองครับ ใครสนใจจะลองนำไปฝึกบ้างก็ได้นะครับ

    อุปสรรค ที่ขวางการปฎิบัติของเราก็คือ นิวรณ์5
    อุปสรรคในการทำสมาธิ คือความคิดที่ไวกว่าสติที่เราทำครับ สติเราต้องไวกว่าความคิดครับ
    สติก็คือที่บอกให้จับพระพุทธรูปนั่นแหละครับ ยิ่งมีความคิดมาก อุปทานก็จะมากตามครับ

    Tree

    โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ
     
  5. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ผมฝึกมาก็นานแล้ว ยังไม่รู้ว่ายังไงจะดีที่สุดเลย บางครั้งจับลมหายใจ อยู่ๆก็ ตึงสันจมูก วิ่งไปหว้างคิ้ว จนรู้สึกได้ตลอดเวลาและมีก้อนแข็งๆนูนขึ้นที่หว่างคิ้วด้วย เคยจับความรู้สึกไว้ตอนนอน จนความรู้สึกทั่วตัวหายไปหมด เหลือแค่หว่างคิ้วแต่ อยู่ๆไม่รู้อะไรดลใจ ผมเลิกจับความรู้สึกที่หว่างคิ้วไปเฉยๆ
    ก็เลยไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี เพราะเลิกไปกลางคัน
    ตอนนี้ หันมาเดินจงกรมและนั่งสมาธิจับลมหายใจ รักษาสติธรรมดาแล้ว
    เวลาทำงานคือนั่งเฝ้าร้าน ก็คิดถึงสังขาร คิดถึงความตายของเรา ของคนอื่น และจับลมหายใจบ้าง
    คือยังไม่รู้ว่า ควรจะเอาอย่างไงแน่นอนเลย จึงไม่สามารถแนะนำอะไรได้ครับ
    - -
    แต่ได้อ่านข้อความของคุณ จขกท แล้วก็โมทนาด้วยครับ
    ผมไม่มีคำแนะนำอะไร แต่สำหรับตัวผมเองบอกกับตนเองเสมอว่า
    สติ สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดนะ
     
  6. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    เวลานี้ผมได้ศึกษาหนังสือเรื่อง คู่มืออาณาปาณสติภาวนาอย่างสมบูรณ์แบบ ของท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านใดที่มีประสบการณ์ในการฝึกปฏิบัติแล้ว ขอความกรุณาช่วยชี้แนะเพิ่มเติมด้วยนะครับ ส่วนตัวผมนั้นจะลองเริ่มปฏิบัติดู ถ้าเป็นอย่างไรจะนำมาโพสไว้ในที่นี่เพื่อขอคำแนะนำหรือชี้แนะเพิ่มเติมนะครับ
    ขอขอบคุณมากครับ
     
  7. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เด็กใหม่ฝีมือดี .........ยอดเยี่ยมจริง...ยินดีด้วย
    รักษาการปฏิบัตินี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดไป อย่าทิ้งแม้สักหนึ่งวัน ....มิฉะนั้นจะหาไม่เจอ อาจตลอดชีวิตก็ได้

    อนุโมทนาครับ
     
  8. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบพระคุณมากครับที่ร่วมอนุโมทนา
    ผมจะตั้งใจปฏิบัติให้เห็นจริงครับ
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ขออนุญาติแนะนำนิดหน่อย

    กรณีอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส เนื่องจากธรรมบรรยายของท่านนั้น
    ละเอียดละออ ถ้าตรงไหนมีข้อควรพิจารณามากๆ ต้องพิจารณาละเอียด
    ท่านจะเขียนวนซ้ำ จุดนี้ช่วยตรวจเราได้หนึ่งข้อ คือ ถ้าเราอ่านปุ๊ปเห็น
    ว่าข้อความซ้ำแล้วอ่านกระโดดข้ามทันทีโดยไม่ดูรายละเอียด อันนี้ต้องระวัง
    แล้วครับ มีการเลือกศึกษาแบบชอบไม่ชอบ หรือ matching กับความอยาก

    แต่ถ้าอ่านแล้ว มีแต่ซึ้งรสธรรมกถา ซึ้งในภาพของการใช้พยัญชนะ ในการ
    เล่นคำ เพื่อกระเทาะสภาวะธรรมที่บรรยายได้ยาก อันนี้ก็แจ่ม

    แต่ก็อาจผลิกได้อีก โดยเฉพาะนักอ่าน หรือ หนอนหนังสือ เมื่อมาอ่านจะปิติ
    ในรส ในอรรถ และพัยญชนะเหมือนกัน แต่เป็นความเข้าใจแบบโลกธรรม คือ
    ฉลาด ซึ่งก็ทำให้สำคัญผิดในรสธรรมจริงๆไป

    แต่สำหรับ จขกท นี้คงไม่เข้าข้อหลัง เพราะรสในอรรถในธรรมนั้นมีเยอะมาก ตราบใด
    ที่เดินน้อมตัวลงต่ำอยู่ ก็ไม่น่าเป็นห่วงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2008
  10. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอขอบพระคุณมากครับสำหรับคำแนะนำที่มีประโยชน์
    ในขณะนี้ผมได้อ่านศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากหนังสือของท่านพุทธทาสภิกขุเป็นรายชื่อดังนี้
    1.คู่มือศึกษาธรรมะอย่างถูกต้องตามหลักที่พระพุทธองค์ทรงมุ่งหมาย(ศึกษาธรรมะอย่างถูกวิธี)
    2.วิถีแห่งการเข้าถึงพุทธธรรม
    3.ภูเขาแห่งวิธีธรรม
    4.คู่มืออาณาปาณสติภาวนาอย่างสมบูรณ์แบบ
    ขณะนี้ได้อ่านศึกษาจบไปแล้วทั้ง4เล่มแล้ว และกำลังศึกษาของพระครูท่านอื่นๆและศึกษาจากผู้มีประสบการณ์ที่โพสเข้ามาในwebsiteนี้และยังมีความประสงค์ในการขอคำชี้แนะจากท่านผู้มีประสบการณ์อีกมากมาย
    ขออนุโมทนา
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    อย่าอ่านเยอะครับ ปลอดภัยกว่า

    อย่าคลุกคลีบุคคลครับ ปลอดภัยกว่า ( เพราะชวนคุย ก็เท่ากับอ่านหนังสือ )

    ศึกษามาเยอะแล้ว 4 เล่มนี้ ก็เยอะพอแล้ว เดินหน้าปฏิบัติเลยครับ

    แต่ถ้าไปแนวสมถะยานิก เล่น ฌาณ ก็ต้องหาครูบาอาจารย์ที่นิยมวิเวกเข้าไว้( ไม่ใช่ถูกจัดให้วิเวกนะ )
    ไม่อย่างนั้นจะพาเราเข้ากลุ่มคนอีก จะยิ่งปลีกตัวยาก เพราะกุศลบางอย่าง
    ชักและนำ
     
  12. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    "ไม่อย่างนั้นจะพาเราเข้ากลุ่มคนอีก จะยิ่งปลีกตัวยาก เพราะกุศลบางอย่าง
    ชักและนำ"
    ขอภัยในความเขลา กรุณาช่วยขยายความด้วยครับผม
    ขอขอบคุณมากครับ<!-- / message -->
     
  13. แอบยิ้ม

    แอบยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +455
    เมื่อปฏิบัติธรรมมาได้ระยะหนึ่ง
    มักจะมีสิ่งเกิดขึ้น ๒ อย่าง คือ
    ๑. เกิดกระแสดึงดูดผู้อื่นให้มาสนใจเรา อยากคบหาสมาคมกับเรา อันจะเป็นเหตุให้ปลีกตัวยาก
    ๒. เกิดมีมารมาผจญ ทั้งในรูปของอารมณ์อันเป็นอุปสรรคขัดขวางกางกั้น การดำเนินจิตของเรา
    และมาในรูปบุคคลที่มาชักชวน หรือชักนำให้เราเกิดการไขว้เขว แล้วหลุดออกจากการปฏิบัติธรรม
    "มาร" คือผู้ขัดขวางไม่ให้เราบรรลุความดี
    ที่สำคัญคือ เทวบุตรมาร กิเลสมาร ขันธมาร และอภิสังขารมาร
    เราจึงต้องมีครูบาอาจารย์ผู้เก่งกล้า คอยเป็นที่พึ่งครับ
     
  14. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมอยู่ที่ลำปางครับ สามารถเดินทางไปจังหวัดใกล้ๆได้โดยไม่กระทบกับงานที่ทำเป็นประจำ ท่านใดพอจะแนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรมในระแวกนี้ได้บ้างครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
    ป.ล.ขอบคุณ คุณแอบยิ้มครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2008
  15. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    สวัสดีครับ
    ขณะนี้ผมได้ลองปฏิบัติตามแนวอาณาปาณสติแล้วนะครับ เมื่อนำความรู้สึกการเข้าถึงสมาธิ(เฉพาะความรู้สึกของตนเองมาเปรียบเทียบ)ของวิธีการเพ่งกสิณ(อาโลกกสิณ) ขณะนี้โดยส่วนตัวแล้วเมื่อลองจับความรู้สึกแล้วจะถนัดการเพ่งกสิณมากกว่า เมื่อคืนก่อนนอนผมไปลองปฏิบัติดูดังเป็นผลดังนี้ครับ
    ตอนเย็นของเมื่อวานได้ลองนั่งพิจารณาหลอดไฟที่เพดานเห็นเป็นแสงสว่างจ้า(สีขาว) ก็เลยนึกขึนมาได้ว่า ตัวเราคงใช้สิ่งนี้เป็นตัวเพ่งอาโลกกสิณได้เพราะไม่ต้องไปเสาะหาจากที่ไหน จากนั้นพอเริ่มมองละพิจารณาจำเป็นภาพให้ติดตา มองประมาณสามถึงสี่ครั้งก็ได้ภาพนั้นติดตามา เมื่อถึงเวลาก่อนนอนจึงเริ่มทำอีกครั้งหนึ่ง พอลองหลับตาก็นึกภาพออกได้ตามปกติ จากนั้นเริ่มตัดภาพสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ความสว่างจากดวงหลอดไฟออกไป เหลือแต่ความสว่างของหลอดไฟเพียงอย่างเดียว จากนั้นพยายามคิดให้แสงสว่างนั้นกลายเป็นดวงกลม(โดยมีความสว่างเท่าเดิม) ก็ได้ตามนั้น(ผมไม่ทราบว่าการพยายามคิดให้เป็นนี้ถูกต้องหรือไม่ หรือสิ่งที่ถูกต้องคือมันจะเป็นไปเอง) จากนั้นดวงกลมสว่างตามที่ผมพยายามคิดให้เป็นนั้นกลายไปเป็นดวงกลมสว่างที่อยู่บนผิวน้ำสงบนิ่ง(ไม่เคยนึกภาพนั้นมาก่อน) จากนั้นก็พิจารณาต่อพยายามจับให้ดวงสว่างนั้นอยู่นิ่ง เมื่อทำใหนิ่งได้แล้วก็พยายามทำให้เคลื่อนที่ไปมา เปลี่ยนรูปร่างไปมา(ไม่ทราบว่าถูกหรือผิดประการใด) เมื่อทำเช่นนั้นจนคล่องแล้ว จึงพยายามคิดให้เป็นแก้วใส่ต่อไป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นแก้วใส(บางครั้งก็กลับมาเป็นดวงสว่างตามเดิม แล้วก็ต้องพยายามทำใหม่ ขณะเริ่มทำใหม่รู้สึกเกร็งๆเมื่อถึงตอนนี้ เมื่อคิดว่าให้ผ่อนคลายงก็ทำได้อีก) จากนั้นผมจึงลองเอาความรู้สึกที่เป็นแก้วใสนี้ไปนึกถึงพระพุทธรูป(ตามภาพที่ออกมาเองเมื่อโพสกระทุู้ครั้งแรก) พระพุทธรูปก็กลายเป็นถาพที่ใส่ไม่มีสี จากนั้นนำความรู้สึกเดียวกันไปนึกภาพเป็นอะไรอีกหลายอย่างสิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นภาพใสไม่มีสีไปหมด(เหลือเพียงเส้นขอบสีขาวเท่านั้น ส่วนฉากหลังออกจะมืด) จากนั้นก็หลับไปครับผม

    สิ่งที่สงสัยคือ ภาพนิมิตที่เราเห็นนั้น เริ่มจากภาพหลอดไฟ กลายเป็นดวงสว่างจ้าสีขาว จนกลายเป็นแก้วใสนั้น เราต้องพยายามทำให้เป็น หรือว่าจะเป็นไปเองครับ ผมเกรงว่าผมพยายามทำให้เป็นแล้วเกรงจะผิดหลักไปครับ ขอความกรุณาผู้รู้ด้วยครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2008
  16. treeufo

    treeufo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +30
    สำหรับอานาปานุสสติ กรรมฐาน นั้นโดยส่วนตัวผมว่าไม่เหมาะกับผู้ที่ปฎิบัติใหม่ๆ ที่
    ยังฟุ้งซ่านมากๆ คือความคิดที่ผุดออกไปมาไม่สามารถหยุดมันได้ คิดในเรื่องไม่เป็น
    เรื่องคิดเรื่องไร้สาระและสารพัดจะคิด เหมือนจับลิงให้อยู่นิ่ง คนส่วนมากทำไม่ค่อยจะ
    ได้แล้วก็พาล เลิกปฏิบัติไป ก็ว่ากันต่างๆนา ว่าเป็นของยาก ถึงเวลาแล้วค่อยทำ ก็ว่ากันไป
    ละกันครับ

    จึงไม่ค่อยอยากจะพิมพ์แนะนำเท่าไหร่ บอกได้เล็กๆน้อยๆ เท่านั้นว่า กรรมฐานกองนี้
    อุปสรรคคือ สติที่ไม่มั่นคง เพราะ กรรมฐานกองนี้ สติต้องแกร่งมากๆๆ ครับ เพราะต้อง
    สู้กับความคิดที่เหมือนลิงโลด อาการเวทนาปวดขา สารพัดจะปวด ปิติคือแสง ภาพต่างๆ
    แมลงทิพย์อีก อื่นๆที่แทรกเข้ามาที่เป็นอาการแปลกประหลาด ไหนจะต้องจับลมที่ปลาย
    จมูกอีก สำหรับผมเองปฎิบัติมาช่วงแรกๆก็เละไม่เป็นท่า นั่งไม่เกิน 5 นาที

    ผมจึงแนะนำว่าถ้าใครสนใจจะฝึกกรรมฐานกองนี้ควรจะฝึกสติให้มากๆ หัดหาที่เกาะ
    เกาะให้เป็น เกาะให้เหนียวแน่น

    ถ้าพื้นฐานที่ผมกล่าวของคุณไม่ดี ผมรับรองได้ ล่มทุกรายครับ ไม่ต้องรีบทำให้สำเร็จ
    ไวๆ ในโลกนี้ไม่มีใครเก่งได้ไวหรอกครับ ค่อยๆปฏิบัติไป วันไหนไม่ต้องการปฏิบัติ
    ก็ไม่ต้องทำ วันไหนต้องการปฎิบัติก็ทำไป ทำพื้นฐานให้ดี กรรมฐานกองไหนๆ คุณ
    ก็สามารถทำได้เพราะหลักการ จะคล้ายๆกัน

    Tree

    โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ
     
  17. treeufo

    treeufo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +30
    เมื่อคุณกำหนดภาพขึ้นมาแล้วอย่ากำหนดจิตให้เปลี่ยนแปลงภาพเองครับ ตาม
    ดูอย่างเดียว ว่าสีเหมือนที่เราดูมามั้ย รูปร่าง ใบหน้าพระพุทธรูปชัดเจนเหมือน
    ที่เราดูมาหรือเปล่า แล้วเกาะภาพไปเรื่อยๆ

    ทำแบบนั้นเหมือนคิดเองเออเอง เราต้องปล่อยไปตามจิตไม่มีบังคับในการเปลี่ยน
    แปลง

    แต่ใช้จิตบังคับทิศทางได้ครับ เล็ก ใหญ่ได้ สิ่งที่คุณเรียกว่าคิดคงไม่ใช่เพราะ
    ตอนนั้นเป็นกำลังของจิตแล้วครับ

    ที่บอกให้คุณกำหนดพระพุทธรูป เพื่อเป็นการเกาะในพุทธานุสสติ และฝึกกสินไป
    ในตัว และถ้าคุณปฎิบัติถึง จากพระพุทธรูปจะเปลี่ยนเป็นคนเอง อย่าสงสัยนะครับ
    ว่าทำไมแล้วกราบทูลถามต่อพระองค์ท่านได้เลย คุณก็จะได้รับเรื่องราวเฉพาะตน
    และการปฎิบัติที่เหมาะสม

    ประสบการณ์ที่ผมบอกให้คนอื่นกำหนดพระพุทธรูปก็มีคุณพ่อผมครับ ท่านจะได้พบ
    พระพุทธองค์ท่านเหมือนกัน ผมปฎิบัติก็พบเช่นกัน และคนอื่นๆอีก

    Tree

    โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ
     
  18. พระจันทร์บนผิวน้ำ

    พระจันทร์บนผิวน้ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอขอบพระคุณมากครับที่ช่วยแนะนำ
    ผมจะลองปฏิบัติดูครับ หากมีข้อสงสัยอีกประการใดผมจะขอความกรุณาอีกนะครับ
     
  19. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +38,356
    อย่าศึกษามากหลากหลายอาจารย์ จะทำให้ฟุ้งซ่านเกินไป เลือกที่คิดว่าชอบอย่างหนึ่งก่อนแล้วทำให้ดีก่อนแล้วค่อยไปศึกษาอย่างอื่น
    หลักสูตรครูสมาธิที่ ม.ราชภัฎลำปางก็น่าสนใจนะ(สายหลวงพ่อวิริยังค์)
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    การฝึกจิต อย่าเร่ง เพราะจิต มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัย

    เมื่อไม่รู้ จิตก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ

    แต่ให้ตัวจิตที่อยากรู้ พาเราไปเจอเหตุการณ์ที่ควรจะรู้

    ตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ เรา ศรัทธา

    แล้วขอให้ท่านเปิดทางและสอนเรา

    เมื่อเราเปิดจิตรับ เมื่อนั้นจะเกิดภาวะที่เรียกว่า ชี้นำ

    ปัญญาจะเกิดขึ้น แต่จงศึกษาไปตามที่เรา สามารถทำได้

    อย่าฝืนเพราะ จิตไม่ชอบ ถ้าเหนื่อยก็พัก เพราะจริตของคนไม่เหมือนกัน

    ถ้าเบื่อก็หา อะไรก็ได้ที่ทำให้จิตเรามีสมาธิจดจ่อ กับเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน

    วิปัสสนากรรมฐานเป็นกุศโลบายของทางพุทธ ให้จิตอยู่กับร่าง นิ่งๆ

    ถ้านิ่งเมื่อไร จิตก็จะละเอียด ถ้าจิตไม่นิ่ง จิตจะหยาบหรือ ว่าฟุ้ง คิดๆๆๆมาก

    จะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ ตัวตนที่เเท้จริงของตัวเองต้องการ

    ถ้าต้องการปฏิบัติ จงรักที่จะปฏิบัติ

    เพราะพลังจิตของความรัก จะทำให้จิตมีสมาธิเข้าใจง่ายที่สุด

    เหมือนกับที่เราสามารถเรียนวิชาที่เรารักนั้นเเหละ แล้วมันจะง่าย

    ถ้าเราเรียนวิชาที่เราเกลียดเราก็สอบตกเท่านั้นเอง

    ปัญญารู้ว่า อะไร ควรจะศึกษา แล้วให้ปัญญา พาไปนะจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...