การสวดอิติปิโส ให้ผู้ป่วยอายุ +1 มีผลต่อผู้สวดให้อย่างไรบ้างครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สามัคคีรัก, 26 กันยายน 2016.

  1. สามัคคีรัก

    สามัคคีรัก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2016
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ ในเวปทุกท่านครับ
    มีข้อสงสัยคือ การสวดอิติปิโสให้ผู้ป่วยอายุ +1 มีผลต่อผู้สวดให้อย่างไรบ้างครับ?
    -ทางด้านไม่ดีมีอะไรบ้างครับ?
    -ทางด้านดีคือช่วยให้ผู้ป่วยหายกลับมาเป็นปกติ (ผู้ป่วยบางเคส) ใช่ไหมครับ?
     
  2. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ด้วยความเคารพ ถ้านาย ก ทำผิดติดคุก นาย ข มาติดเเทนได้ไหมครับ อาจจะช่วยได้บ้างเช่น ประกันตัว ช่วยเหลือคดีต่างๆ ก็คล้ายๆกันครับ

    คุณควรจะต้องบอกเรื่องนี้กับผู้ป่วยเเล้วให้ เขา อนุโมทนาบุญครับถึงจะเป็นผลมากขึ้น เเละให้เขาส่งบุญต่อให้เจ้ากรรมนายเวรครับ บุญมากหนีกรรมได้ เเต่ถ้าเกิดเเล้วผ่อนหนักเป็นเบาได้

    อุทิศบุญให้ทั้งเจ้ากรรม เเละ เทวดา พรม พระ ให้ท่านด้วยครับ บางครั้งเจ้ากรรมนายเวร เขาก็ไม่ยอมก็ได้ ต้องให้ อีกฝั่งช่วยเช่นกัน

    อีกวิธีถ้าจิตของคนป่วยมีจิตที่สะอาดยอมรับความผิด เเละตั่งใจทำความดีในชีวิตที่เหลืออยู่ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เป็นพระอริยเจ้า ยิ่งทำจิตให้สูง เจ้ากรรมนายเวร ไม่กล้าเข้าครับ เพราะระดับความดีจิตต่างกัน ถ้าทำได้นะครับถ้าทำได้จะดีมาก เช่นพระ โสดาบัน ลองอ่านใน เนตดูครับคืออะไร สั้นๆคือ 1 ศีล 5 ครบ 2 รู้ว่าตัวเองต้องตายแน่ 3 เเละนับถือพระพุทธเจ้าในความดีของท่าน อย่างจริงจังจริงใจ

    ถ้าป่วยหนัก ให้เอาเทปมาเปิดให้ คนป่วยฟังชอบอันไหนเอามาเปิด เพราะเวลาตายจิตจะมีปิติความพอใจในพระ จะไปสวรรค์เป็นอย่างน้อยครับ



    ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ครับ แต่ถ้าผิดในทางที่เจตนาดีก็ไม่เสียหายครับ ดีกว่าตั่งใจทำชั่วครับ ก็ลองไปทำไดูครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2016
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ฟังแบบหูไว้หูนะครับ
    ถ้าเราสวดแล้วส่งบุญจากการสวด
    ให้คนอื่นๆ กิริยาที่เกิดกับจิตคนนั้นคือ
    จะไปดึงให้จิตคนนั้นเกิดการใช้
    สัมผัสภายที่มีไปหนุนในด้านพลังงานผ่านทางด้านหลัง
    ขึ้นไปข้างบนเพื่อไปกระตุ้นให้ได้รับ
    ความช่วยเหลือจากข้างบนอีกที
    และจะกระตุ้นให้คนนั้นๆมีความคิด
    ที่จะสวดบทนี้ตามมาภายหลังร่วมด้วยครับ..

    ส่วนด้านที่เกิดกับผู้สวดคือ ขณะที่สวดจะเกิด
    การปรับธาตุร่างกายตัวเอง ให้เข้าสู่สภาวะสมดุลย์
    ทำให้มีส่งผลให้โรคบ้างอย่างในร่างกายอาจหายขาดได้
    และในขณะที่อุทิศส่วนกุศลจิตจะขยายตัว
    ไม่เป็นวงกลมได้ชั่วคราวครับ
    ปล.ฟังหูไว้หู
     
  4. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ประการแรก การสวดอิติปิโสเท่าอายุ+ 1 คือ พุทธานุสติ ส่วนใหญ่ถ้าตั้งใจจริง จิตจะเข้าถึงระดับอุปจารสมาธิ หมายถึง ระงับนิวรณ์ได้(แต่อาจแกว่งกลับไปหานิวรณ์ได้ง่ายกว่าอัปปนาสมาธิ)

    เช่นนี้ ย่อมระงับความวิตกกังวล ความฟุ้งซ่านที่ผู้สวดมีเกี่ยวกับผู้ป่วยได้บ้าง (กรณีเป็นบิดามารดาบุตรธิดา สามีภริยา ญาติ หรือเพื่อนสนิทมากๆ) ย่อมเรียกสติกลับมาได้บ้าง ซึ่งจะทำให้มีเวลามองเห็นสัจธรรม คือ ความเจ็บป่วย ความเสื่อมไป หรือภัยแห่งชีวิตตามปกติ มากกว่าจะมัวอาลัยอาวรณ์ บางคนวิตกกังวล กลัวการสูญเสียหรือเป็นทุกข์ตามผู้ป่วยที่เป็นบุคคลที่รัก สามารถจัดการงานเกี่ยวกับผู้ป่วยได้ดีขึ้น

    ประการที่สอง หลังสวดมนต์อิติปิโส ย่อมตามด้วยบทอุทิศกุศล และแผ่เมตตา ซึ่งระดับจิตชั้นอุปจารสมาธิ ย่อมมีผลในระดับหนึ่ง แม้ไม่เท่าชั้นอัปปนาสมาธิ จิตที่สงบปราศจากนิวรณ์ชั่วคราว จิตที่มีเมตตา บุคคลอื่นย่อมสัมผัสได้ จิตของบุคคลหรือสัตว์ที่อยู่ในภาวะที่สามารถรับรู้กระแสจิตดังกล่าว จะโดนการเห็นผ่านรูปกายผู้สวดมนต์ ทางสายตา ทำให้จิตผู้ป่วยสงบได้บ้าง มีความสุขสงบตามได้บ้าง (เคยเห็นคนเมาไม่รู้เรื่อง เจอพระที่มีเมตตามากๆ เค้าหายสร่างเลย แต่พระเณรธรรมดาเค้ายังไม่รู้ตัว ยังเมาอยู่นะ มันเห็นกันได้เลยว่า คุณสมบัติทางจิตของแต่ละบุคคลมีผลต่อจิตคนอื่นด้วย) ส่วนในระดับละเอียดที่ไม่ใช่การสัมผัสเมตตาจิตโดยตรงก็มี แต่อธิบายลำบาก แต่เอาว่า มีผลต่อจิตของบุคคลที่เราแผ่เมตตาหรือสวดมนต์อุทิศให้แน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรู้ด้วยตนเอง

    หมายถึงว่า นัยยะในทางการแพทย์ อะไรที่ทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ และมีความสุข หรือสงบใจได้ เย็นใจ หรืออบอุ่นมั่นใจได้ มันมีผลต่อจิตของเค้า เมื่อจิตเค้าเข้มแข็ง กายก็จะเข้มแข็งตาม ในรายเคสเมื่อจิตใจดีขึ้น โรคภัยก็หายได้ (แต่ถ้าวิบากกรรมหนัก ก็อาจแค่ทำให้ทุเลาหรือบรรเทาความเจ็บปวด ซึ่งก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย)

    ดังนั้น ถ้าคนป่วยอาการโคม่า หรือเหยียบจะโคม่า การสวดมนต์แผ่เมตตา หรือทำกรรมฐานแล้วอุทิศให้ ก็มีผลอยู่ แต่ถ้าขั้นที่ป่วยแบบยังรู้ตัว นอกจากเราจะทำเองแล้ว ถ้าเค้าสามารถทำกรรมฐานข้อใด หรือทำจิตอย่างใดในสภาพที่อาจทำได้ ก็แนะนำเค้าให้ทำเอง จะมีผลโดดยตรงกว่า (ถ้าชั้นอัปปนานี้ จะมผลสูงมาก เพราะขนาดโคม่าอยู่แค่ชั้นอุปจารสมาธิ จิตของผู้ป่วยก็สามารถรับรู้ได้ในหลายกรณี (แปลว่า ต้องมีกรณีที่จิตเค้ารับรู้ไม่ได้))

    จึงไม่เสียหายอะไรที่จะสวดมนต์แผ่เมตตาให้คนป่วย

    ปล. เป็นสิ่งที่อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้อยู่ แต่ถ้าคิดว่า การสวดอิติโสเป็นคาถาวิเศษ มนต์ปาฎิหาริย์ ผมว่าไม่ถึงขั้นนั้นนะครับ

    เว้นแต่ประเภทพระโพธิสัตว์ระดับสูง ซึ่งเคยทราบมาว่า บางท่านสามารถรับเอาความทุกข์คนอื่นมาได้เลย แต่ท่านต้องรับแทนนะครับ แต่ว่า อาจมีความซับซ้อนเรื่องกรรม ซึ่งถ้าคนที่ยึดมั่นแต่ถ้อยคำว่า ใครทำกรรมอะไร คนนั้นก็รับเอาเอง มันจะจำกัด เพราะกรรมมันซับซ้อนกว่านั้น เช่น พระโพธิสัตว์กระโดดให้เสือกิน ทำให้แม่เสือไม่กินลูกเสือ หรือไม่กินคนที่ผ่านป่านั้น ถ้าพระโพธิสัตว์ไม่บำเพ็ญบารมีข้อนี้ เสื่อก็ต้องกินคนอื่น ถ้ากินคนไม่ได้ แม่เสือก็กินลูกเสือ แต่การทำแบบนั้น ก็เป็นการสร้างมหากุศลใหญ่ของท่านด้วยเช่นกัน แต่ว่าอย่างไรก็ตาม พระโพธิสัตว์เองก็ยังอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมอยู่ดี แต่ว่า เป้นความสามารถหรือคุณสมบัติที่ท่านนั้นบำเพ็ญมานะครับ ลำพังสวดมนต์อย่างเดียวคงทำไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2016
  5. พระtoshi

    พระtoshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +270
    ตอบกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อมนะ
    1.ไม่มีผลอะไรเลย สวดก็แค่สวด ระลึกถึงพระรัตนตรัยไม่ได้รักษาคนป่วยครับ อีกอย่างนึงคนสวดก็สวดลักษณะแค่เอาแต่อภินิหารหวังจะให้คนป่วยหายเท่านั้น ตนเองไม่ได้ฝึกจิตกันจริงๆไม่มีทาง
    2.มีผลทางจิตใจให้คนป่วยเข้มแข็งขึ้นบ้างพอมีภูมิต้านทานอาการเจ็บป่วยได้เพียง 1ส่วนพันเท่านั้น
    คุณทุกข์ใจจริงๆเรียนผูกได้มันก็ต้องเรียนแก้ได้ หลวงพี่เคยทำแล้ว ข้อแม้มีสองอย่างเท่านั้น อย่างแรก คนที่จะสวดให้คนป่วยเองน่ะต้องฝึกปฎิบัติธรรมเอง ไม่ใช่มานั่งสวดแล้วคนป่วยจะดีขึ้นตามที่เขาบอกหรอก โลกนี้ไม่มีอะไรง่าย ในบทสวดคำสอนบางบทของพระศาสดาก็มีอยู่ คุณต้องฝึกต้องทำเองเท่านั้น ไม่งั้นก็เลือกเอาคือไปหาหมอผี หาหมอพระให้เสียตังค์เอาเอง อย่างที่สองถ้าคนป่วยยังพอมีสติรับรู้ได้บ้างยิ่งดีเลย หลวงพี่ใช้วิธีนี้ฝึกและให้พวกเขารักษาตนเอง ไม่ใช่การอ้อนวอนขอ หลักฐานคำยืนยันยังมีจากคำบอกเล่าและในกลุ่มลูกศิษย์หลวงพี่เอง และคนบางคนที่หลวงพี่รักษาพวกเขาแบบนี้ก็ยังอยู่กลับไปทำงานส่งเงินมาเลี้ยงลูกเล็กๆได้ไม่ต้องเป็นภาระกับทางบ้านต้องมาดูแลอีกต่อไป ที่เขาหายเป็นปกติก็เพราะอย่างที่สองนี่แหล่ะ ทุกข์เองดับเอง หลวงพี่สอนและชี้ทางให้ก็เห็นเขาหายป่วยดีนี่ แต่คนสมัยนี้ชอบอะไรทันใจแนวอภินิหารงมงาย หลวงพี่ก็ช่วยไม่ได้หรอกตราบใดถ้ายังอ้อนวอนอยู่อย่างนี้
    ...หลวงพี่ให้คุณเลือกเอาเอง ชี้ทางสว่างให้แล้วล่ะ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    �ط��س�ѡ���ä - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع <---- กดตัวหนังสือน้ำเงินครับ

    ส่วนตัวมองว่า ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายผู้ป่วย ณ เวลานั้น
    ร่วมกับผู้สวดร่วมด้วย ส่วนพระคาเป็นอย่างไร
    เชิญติดตามอ่านได้ตามลิงค์ข้างบน
    สุดแล้วแต่จะพิจารณานะครับ
    และต้องไม่ลืมว่า สุดท้ายก็ต้องตาย
    เหมือนๆกันทุกคนนะครับ (^_^)
     
  7. สามัคคีรัก

    สามัคคีรัก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2016
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    กราบอนุโมทนา สาธุครับ
    ข้อ1 ขอนมัสการ กราบเรียนถามหลวงพี่ครับ
    ข้าพเจ้าเคยปฏิบัติและทำให้คนที่ป่วยได้หายไปแล้ว...หลายราย
    อยากทราบว่า....จิตของข้าพเจ้าที่ได้หมั่นบำเพ็ญภาวนาและรักษาศีล ๕ โดยตลอด อันนี้คือจิตที่ละเอียดส่งผลทำให้ได้มรรคผล ใช่ไหมครับ?
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พุทธคุณรักษาโรค

    ถ้ายังเข้าไม่ถึง ก็คงไม่เข้าใจ นั้นเองครับ นกกับปลา ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...