รู้ตัวว่าป่วย แต่ไม่รักษาต้องการจะตาย บาป หรือไม่คับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สุรีย์บุตร, 3 มีนาคม 2008.

  1. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ถ้ารู้ตัวว่าป่วย แต่ไม่ยอมกินยา หรือเอายาไปซ่อนไว้ไม่ไห้คนไกล้ชิดรู้ว่าไม่กิน
    เพราะไม่ต้องการจะอยู่ต่อแล้ว ต้องการจะตาย
    เหมือนเช่นปู่ของผม เป็นเบาหวาน ตอนหลังมาไม่ยอมกินยา คือเอาแต่เปลือกยามาไห้ดูว่ากินยาแล้ว แต่ได้เอายาเก็บไว้หลังตู้เสื้อผ้า นี่มาเจอยาตอนที่ปู่ตายไปแล้วครับ สุดท้ายน้ำตาลขึ้นสูง และหัวใจวายตายบนเตียงในห้องนอนในที่สุด
    มีความสงสัยว่า ทำแบบนี้ บาป หรือ ไม่เพราะเหตุได
    ;)
     
  2. tippavan

    tippavan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +1,583
    บาปแน่นอนค่ะ เข้าข่ายทำปาณาติบาตแก่ตน การรู้อยู่ว่าจะต้องตายถือว่าเป็นผู้ไม่ประมาท แต่ก็ควรรักษาร่างกายเพื่อบรรเทาเวทนา รักษาขันธ์ 5 ที่มีคุณเหมือนครูบาอาจารย์ที่ทำให้เห็นทุกข์ แต่ไม่เกาะในมัน รักษาหายก็หาย ไม่หายก็ถือว่าช่างมัน ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ก็ใช้มันเพื่อประกอบความดีสืบไป
     
  3. ฉัตรชัย พรหมแก

    ฉัตรชัย พรหมแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +590
    การรักษากายเนื้อให้เป็นไปตามธรรมชาติ หากบ้านหลังคารั่ว มั่วแต่นั้งมองโดยไม่ทำอะไรเลย ย่อมได้ชื่อว่าคนไร้ประโยชน์
    ( เอามาจากหลวงปู่ชาสอนพระ ) เราไม่ใช่พระอรหัต
    แต่หากคุณคิดว่าคุณเป็นผู้พ้นแล้ว ก็เป็นเรื่องของคุณ ผมขอขมาโทษด้วยที่ล่วงเกิน แต่หากคุณยังไม่พ้น ก็ควรเร่งรักษากายให้แข็งแรง ทุกคนต้องตายแน่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ตาย
    และ ทุกขเวทนาก่อนตายนั้นเราไม่รู้ว่ามันเจ็บปวด และ ทรมานแค่ไหน หากจิตไม่มั่นคงแล้ว ย่อมไปทุกข์คติก่อนทำให้เสียเวลาเกิดมาเป็นมนุษย์
    หากเราเข็มแข็ง ทั้งกายใจ ย่อมไปสุคติ เกิดมามีโรคร้ายเป็นกรรมอดีตชาติ
    หากปัจจุบันไม่เร่งทำความดีจะเอาบุญที่ไหนไปอยู่แดนสุคติได้นาน หมดบุญก็พุ่งลงไปทุกคติ จะมาร้องขอเอาที่ใครได้ สาธุ
     
  4. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,696
    เป็นกรรมหรือเปล่า ความเห็น 2 อธิบายได้แล้ว
     
  5. อมตนคร

    อมตนคร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +299
    ถ้าเราป่วยแล้วไม่ไปหาหมอเราจะบาปได้ยังไงละ
    เราไม่ได้ทําไรร่างกายของเราให้ตายไวขึ้นสักหน่อย
    ที่เราป่วยเพราะร่างกายของเรามันพังไปเอง
    แล้วถ้าเราไม่ต้องการมันอีกต่อไป เห็นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา ถ้าคิดไว้แบบนี้เมื่อเราตายเราจะไปนิพพาน คือการที่เราไม่กลัวตายนะเเหละเป็นการตัดขันธ์ห้า
    คนที่ตัดขันธ์ห้าได้ ก็ไปนิพพานได้
    หลวงพ่อ
     
  6. HippY Thong

    HippY Thong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +143
    งั้นก็อย่าหายใจกันล่ะถ้าคิดว่าบาป เพราะการหายใจก่อใ้ห้เกิดอนุมูลอิสระที่จะไปทำให้ร่างกายเสื่อมลง หาทางมีชีวิตอยู่รอดโดยไม่ต้องหายใจก็แล้วกัน
     
  7. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    น่าคิดแฮะ งั้นก็อย่ากินด้วยดีไหมครับ
    อะ นอกประเด็นแฮะ (นึกได้ว่าไม่เกี่ยวกับป่วย)
    การกินการหายใจเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดาของมนุษย์
    ป่วยก็เป็นธรรมดา แต่จะรักษาหรือไม่นี่สิ

    ;)
     
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860

    เอ.....คิดไปอีกอย่าง น่ะ

    บางทีคงเป็นเพราะกรรมที่เจ้ากรรม นายเวร ตามมาถึง
    จึงปิดกั้นไม่ให้ใครมารักษารวมถึงตัวผู้ป่วยเองด้วย[​IMG]

    เคยเจอเคสนี้มาทีนึง คล้ายๆกัน คนป่วยอยากตายไม่อยากรักษา
    ลูกหลานพาไปนอน รพ. หมอบอกว่าไม่เกิน 1 เดือน ตายแน่ เพราะอายุ 80 กว่า แล้ว[​IMG]

    แต่พออุทิศมหาสังฆทานขออโหสิกรรม อนุโมทนาบุญเองได้

    อาการกลับหน้ามือเป็นหลังมือ กินได้ เดินได้เอง 3 วัน เท่านั้นกลับบ้านได้

    เออ......แบบนี้ก็มีด้วย [​IMG]


    (||) (||) (||) (||) (||) (||) (||)
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เป็นคำถามไม่ควรถาม และ เป็นคำตอบไม่ควรตอบ

    แต่เมื่อถามมาแล้ว ก็จำเป็นต้องชี้ให้ดูในบางเรื่อง

    ในสติปัฏฐาน 4 นั้น มีข้อหนึ่งคือ ดูเวทนา ซึ่งการดู เวทนา นี้คือ เวทนา ใน
    ขันท์ 5 หรือ ทุกขเวทนา เนื่องจากการเจ็บป่วยทางการ ชาติ ชรา และ มรณะ

    น่าจะเป็นอย่างหลังจริงไหมครับ เพราะอยู่ดีๆจะให้ดูเวทนาในขันท์ 5 นั้นไม่ได้
    แน่เพราะต้องผ่านการดูจิตเสียก่อน

    การดู เวทนา อันเนื่องมาจากชาติ ชรา และ มรณะ ไม่ใช่ของง่ายๆที่นึกเห็น
    ความเจ็บปวดแล้ว คิดว่าเห็นคิดว่าดูอยู่ก็ไม่ใช่ แต่ ปัญญา ซึ่งก็หมายถึง
    ปัญญาอินทรีย์ของจิต(ปราศจากสมมติ) ต้องมีมากอยู่ก่อนแล้ว ถึงจะทำได้
    เพราะข้อเท็จจริงในการดูเวทนานั้น จะมีระยะเวลากำกับด้วย ถ้าดูแบบไม่มี
    เวลากำกับ เอาแต่ปวดหนอๆ ก็คงไม่เห็นได้ง่ายๆ จะหมดเวลาเสียก่อนจะสำเร็จ

    ถ้าใครดูเวทนาแล้วบริกรรม เจ็บหนอ ตายหนอ ชราหนอ อันนี้เป็นการเห็นโดย
    เอาปัญญาแบบความคิดเข้าไปจับ ซึ่งจะไม่มีทางเห็นสภาวะธรรม ถ้าเอาปัญญา
    ที่มาจากธาตุรู้(จิต)จับอยู่ละก้อ จะได้สภาวะธรรมที่ละเอียดแน่นอน จะ
    สามารถแยกนาม และ รูปได้ จนกระทั่งแยกขันท์ 5 ได้ และได้วิปัสสนาญาณ
    ตามลำดับ

    การได้มาของเวทนา หรือ คนที่สมควรดูเวทนา ก็เพราะสังขารมีแต่เวทนาให้
    ดู หมายถึง สภาวะชีวิตเขาไม่ปรกติเหมือนเราๆ ก็จำเป็นต้องใช้เวทนาถึงจะ
    มีธรรมให้ดู แต่กรณีที่ไม่ได้เจ็บป่วยใกล้ฝั่งแล้ว สำหรับคนมีปัญญามาก
    ก็มีปรากฏในพระสูตรว่า พระภิกษุเน้นการดูเวทนา(ทุกข์ในไตรลักษณ์) ก็มี
    ปรากฏ เช่นภิกษุกลุ่มหนึ่งพากันปีนเขาแล้วถีบกระไดทิ้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องอด
    ตายแน่นอน

    ก็กล่าวชี้ไว้พอสังเขป ส่วนกรณีคำถามนั้น ที่บอกว่าไม่ควรตอบ เพราะเราไม่มี
    ทางทราบอินทรีย์ของคุณตาว่าเป็นอย่างไร ถ้าจะถามหรือชี้ไปก็เป็นที่เศร้า
    หมองในบางจุด แต่ก็อาจเป็นเรื่องแช่มชื่นในบางจุด แต่ภาวะหมิ่นเหม่อย่างนี้
    คนทั่วไปไม่ควรสดับเท่าไหร่ เหมาะกับบางคนเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2008
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ความคิดของผม ถ้าคุณปู่ทานยาแล้วหายป่วย หรือ ดีขึ้น

    และถ้าไม่ทานแล้วอาการหนัก หรือ อาจจะต้องตาย

    อ้างอิง ตามนี้ย่อม บาป


     
  11. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ผมยินดีที่ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ


    ผมลองพิจารณาดูว่าการไม่กลัวตายจะมีกรณีอะไรได้บ้าง ก็เหมือนกับการขายไอเดียไม่ต้องเชื่อทั้งหมดนะครับ
    ประเภทแรก ไม่กลัวตายเพราะหลงมาก โมหะมาก ไม่รู้ว่าตายแล้วต้องเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้ว่าตายแล้วต้องไปใช้กรรมในที่ชอบ ๆ หลงคิดว่าตายแล้วจะหมดทุกข์ในปัจจุบันว่าตนจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ คือพวกที่หลงโลก หลงวัฏฏะสงสารทั้งหลาย บางทีก็หลงเอาว่าตนพ้นจากอบายได้เสียแล้ว

    ประเถทที่สองคือพวกที่ไม่กลัวตายเพราะโลภมาก โลภะจัด พวกนี้ขอให้ข้าได้ในสิ่งที่ปรารถนาก็พอใจแล้วจะผิดจะถูกก็ไม่สนขอให้ได้เอาไว้ก่อน แม้จะตายก็ขอเสี่ยงเอา

    ประเภทที่สามคือพวกที่ไม่กลัวตายเพราโกรธมาก โทสะแรง พวกนี้ขอให้ข้าได้ระบายโทสะ ได้ล้างแค้น ได้ทำให้สิ่งที่โกรธแค้นพินาศไป ถึงแม้จะตายไปก็ยอม

    ส่วนประเภทสุดท้ายคือกลุ่มที่มีความเห็นถูกต้องดีแล้ว มีความมั่นใจได้แล้ว ว่าเมื่อตายไปตนจะไม่ต้องไปสู่อบายอีกแล้ว บางท่านก็มีความมั่นใจได้แล้วว่าจะไม่ต้องเกิดต้องต้องตายอีกแล้ว


    ข้อนี้ต้องขอโทษล่วงหน้าก่อนนะครับว่าผมมิได้ตั้งใจล่วงเกินท่านที่ล่วงลับไปแล้ว โดยท่านไม่มีโอกาสได้ชี้แจงถึงเหตุที่ท่านได้ทำลงไป
    คือผมมีความเห็น(เอาเอง)ว่าท่านเสียชีวิตในขณะที่ท่านมีโมหะแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบาปหรือไม่ และท่านก็จากไปพร้อมนำขณะจิตของโมหะติดไปด้วย ถ้าไม่มีกรรมอื่นมาส่งผล โมหะนี้จะสามารถเป็นชนกกรรมนำไปเกิดในภพภูมิที่รองรับโมหะนั้นครับ
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    มีคนสอนผมว่า เวลาตอบคำถามที่เห็นต่างกันให้เจริญพรหมวิหาร 4 ด้วยนะครับ ชี้แนะกันด้วยความรักนะครับ ใช้ปัญญาให้มาก และให้มิตรที่ดี แผรเปลี่ยนเป็นศัตรูครับ

    ผมจะคอยแอบดูอยู่ห่างๆ

    ขออนุโมทนา
     
  13. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ปู่ของผมนั้น ก่อนตายสภาพจิตไม่เศร้าหมอง มีสติรู้ตัวดีตลอด ยังพูดเล่นบอกผมเลยว่า เอาไว้เรา หมายถึงปู่ตายไห้ผมกับน้องมาเอาเงินบำนาญโดยพูดเป็นภาษาอังกฤษซะด้วยปู่ชอบพูดภาษาอังกฤษไส่ผมเป็นประจำ เพราะปู้เป็นอดีต ผ.อ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง
    ก่อนตายปู่ไปเที่ยวมาทั่ว สุดท้ายไปเมืองจีนมา
    ของที่กินอย่างสุดท้ายคือคอหมูย่าง ซึ่งหมอห้ามไม่ไห้กินเลย
    แต่เชื่อว่าปู่มีสติดีครับ ไม่อยากไห้เป็นบาป เพราะอยากไห้ปู่ไปดี

    อีกอย่างหนึ่งคือโรคที่ปู่เป็นเพียงแค่เบาหวาน ยาที่กินไม่ได้ทำไห้หายป่วย
    เพียงแค่คอยคุมระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นโรคที่ทรมานอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...