กินเจกับไม่กินเจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย bayong, 2 มีนาคม 2008.

  1. bayong

    bayong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +29
    พี่ๆครับ

    การที่เรากินเจ กับไม่กินเจ มีส่วนทำให้เราเข้าถึงการภาวนาได้เร็ว
    จริงหรือป่าวครับ
     
  2. ruethai

    ruethai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +85
    ทานมังสะวิรัสมาประมาณ 1 ปี คะ ดีมากนะคะ มีพี่ที่นับถือกันบอกว่า ถ้าทานมังสะวิรัสหรือเจ จะทำให้การเจริญสมาธิดีขึ้นคะ ถ้าคุณไม่สะดวกก็พยายามเลี่ยง ๆ ตามแต่ความสะดวกและอำนวยคะ การรักษาศีลให้ครบ 5 ข้อ ก็ดีมากนะคะ ลองปฏิบัติดูคะจะเห็นผลกับตัวเองคะ ถ้าสนใจเรียนสมาธิขอเรียนเชิญมาเรียนหลักสูตร"ครูสมาธิ" กับหลวงพ่อวิริยังค์ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นได้นะคะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.samatith.com ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครรุ่นที่ 22 อยู่คะ ไม่ทราบว่าเต็มรึยัง ลองดูนะคะ
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    สาธุ...ตามความคิดส่วนตัว

    กินเจ ย่อมทำให้จิตใจ และ ร่างกายของเราบริสุทธิ์ จากการไม่ผิดศีลปาณาติปาตา ฯ

    แต่ คนที่กินเจมีหรือไม่ ที่ตบยุงฆ่าแมลง ศีลข้ออื่นก็ขาดประจำ

    กับคนที่ไม่กินเจ ทานเนื้อสัตว์แต่รักษาศีล ๕ ได้บริสุทธิ์

    คนไหนที่น่าจะเจริญภาวนาได้ดี ได้เร็วมากกว่ากัน


    ดังนั้น
    คนที่ทานเจต้องมีศีล ๕ ครบถ้วน จริงจะนับว่าดีที่สุด

    แต่
    ถ้าพุทธเถรวาท เท่าที่รู้ไม่มีข้อยืนยันว่า
    คนกินเจถือศีล ๕ กับ คนกินเนื้อถือศีล ๕ จะมีใครเจริญภาวนาได้เร็วกว่ากัน

    แต่
    ถ้าพุทธมหายาน เท่าที่รู้คนที่ทานเจมีศีล ๕ บริสุทธ์ ย่อมจะเจริญภาวนาได้ดีกว่า คนที่ทานเนื้อถือศีล ๕

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2008
  4. DDS3334

    DDS3334 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +398
    ความเห็นส่วนตัวนะครับ จะกินเจหรือไม่กินเจ ไม่มีผลเท่าไร อยู่ที่จิตมากกว่า อย่ากินมากเกินไปจนเป็นอุปสรรค หรือคอยแต่กังวลเรื่องอาหารการกิน จนไม่ได้สนใจเรื่องการทำสมาธิเท่าที่ควร ผลก็จะมีน้อย เดินทางสายกลางดีที่สุดตามที่พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนเอาไว้
     
  5. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    การกินเจ ก็ทานให้ร่างกายได้อาหาร เพียงไม่เบียดเบียนผู้อื่น
     
  6. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    กินเจ หรือ มังสวิรัส ย่อมได้ผลแห่งการปฏิบัติที่ดีกว่า ร่างกายก็จะเบา จิตเราก็ดี สบายใจ เกิดตัวเมตตาขึ้น เพราะการกินเนื้อสัตว์แต่ละชนิดจะทำให้ไวต่ออารมณ์ต่างๆได้ง่าย เช่น อารมณ์ร้อน อารมณ์ทางเพศ และโรคภัยต่างๆ ในเวลาที่เรากำลังกินไก่ย่าง หมูย่าง หรือกินเนื้อสัตว์ต่างๆ คุณเคยรู้สึกบ้างไหมว่าเราเหมือนอีแร้งอีกา เหมือน.... กำลังกินซากศพ กินเนื้อหนังซากสัตว์ อันนี้ผมจะเป็นอยู่เรื่อยเลย ผมเองพยายามกินให้น้อยๆลง เลิกกินเนื้อบางชนิด เน้นกินพวกปลา กับผักครับ สาธุ......
     
  7. อมตนคร

    อมตนคร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +299
    การภาวนาให้ได้ผลดีขึ้นอยู่กับการถือศีลมากกว่า
    คนที่ถือศีลแปดการภาวนาย่อมสําเร็จได้ง่ายกว่าคนที่ถือสีลห้า
    แต่ถ้าเป้นพระสงค์จะสําเร็จง่ายกว่า คนถือศีลแปด
    การปฎิบัติธรรมขึ้นอยู่กับ ศีล ก่อนเป้นอันดับแรก
     
  8. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +38,356
    ทำตามที่คิดว่าตัวเองไม่เดือดร้อนยุ่งยากดีที่สุด คือทางสายกลาง ซึ่งแต่ละบุคคลย่อมมีทางสายกลางที่ไม่เหมือนกัน และบุคคลย่อมแตกต่างกัน เป็นธรรมดา
     
  9. penney

    penney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อานิสงส์ของเมตตา ช่วยให้การเจริญสมาธิได้ดีขึ้นค่ะ

    ดังนั้น นอกจากศีล 5 แล้วควรจะเจริญ พรหมวิหารสี่ด้วยค่ะ
    โดยเฉพาะเมตตา ดังที่บอกค่ะ ช่วยให้เข้าสมาธิได้เร็ว และดีขึ้น
    อานิสงส์ของเมตตามี 11 ประการค่ะ
    ๑. นอนหลับสบาย
    ๒. เวลาตื่นก็สบาย
    ๓. ไม่ฝันลามก
    ๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
    ๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
    ๖. เทวดาทั้งหลายรักษา
    ๗. ไฟไม่ไหม้ ไม่ถูกยาพิษและอาวุธ
    ๘. หน้าตาเบิกบาน ใจมั่นคง
    ๙. สีหน้า ผ่องใส
    ๑๐. ไม่หลงใหลในเวลาตาย
    ๑๑. เมื่อยังไม่สำเร็จอรหันต์ ก็ได้เกิดในพรหมโลก”
    แอบนอกเรื่องแต่ก็คล้ายๆจะเป็นเรื่องเดียวกันใช่ไหม๊คะ
     
  10. คนอีสาน

    คนอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +283
    อย่าคิดมากเรื่องการกิน กินก็ควรระลึกจิตให้สักแต่ว่ากินอย่าให้มีอารมณ์มาแทรกให้มีสติไว้เสมอ อริยะสงฆ์หลายรูปก็ทานเนื้อสัตว์ อย่าคิดมาก การคิดมากจะเป็นปัญหาต่อสมาธิครับ อนุโมทนา
     
  11. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    อีกไม่เกิน 4 ปี จะรู้ว่า กินเจ กับ กินเนื้อ ต่างกัน ราวฟ้ากับเหว
     
  12. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    กินจกับไม่กินเจ

    ท่านมหา... ถามปัญหา หลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง

    [​IMG] หลวงปู่ครับ "การไม่ฉันเนื้อสัตว์ กินเจ มีผลดีต่อการปฏิบัติหรือไม่ครับ"[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    หลวงปู่ท่านตอบด้วยเมตตาว่า....
    [​IMG] "วัว... ควาย..มันกินแต่หญ้า ไม่เห็นมันไปนิพพานได้ซักตัว" !!!![​IMG] [​IMG] [​IMG]

    แจ่มเลย.....(i) (i)
    [​IMG]หลวงพ่อฤษีท่านฉันมังสวิรัตในพรรษาแรก ๆอยู่2 ปี เมื่อพิจารณาแล้วกิเลสมันก็ไม่ได้ลดเพราะการกินเจ จึงฉันตามปรกติ

    (i) [​IMG]การกินเจเพื่อสุขภาพถือเป็นเรื่องดี เพราะมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ดูจากฟันเหมือนจอบ ต่างจากสัตว์กินเนื้อ เช่น เสือ ,ปลาฉลามฟันจะแหลมเพื่อกัดกินเนื้อ มีกรดเกลือในกระเพาะมากกว่าคนเพื่อย่อยเนื้อ

    (i) [​IMG]แต่ถ้าถือกินเจ เป็นไปเพื่อหลุดพ้น เพื่อตบะ เพื่อบริสุทธิ์ ถือเป็นสีละพตปรามาศ (ความเชื่อที่ผิดไปจากศีล)แล้วจะบันลุธรรมได้อย่างไร เพราะสีละพตปรามาศ เป็นตัวกั้นอริยะข้อที่1 ในสังโยชน์ 10
     
  13. Tenpokensin

    Tenpokensin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +1,639
    พระภิกษุสงฆ์ฉันเนื้อตามปกติ เพราะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะฉันอะไร ใครใส่บาตรหรือถวายมาก็ต้องฉันไปตามนั้น และอีกอย่างตถาคตก็ไม่ได้ตรัสห้ามฉันเนื้อสัตว์

    ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิดและความรู้สึกส่วนบุคคลแล้วว่าจะกินอะไร ใครมีจิตเมตตาไม่อยากเบียดเบียนชีวิตหรือกินเนื้อสัตว์ก็กินเจ แบบนั้นก็ดี
    ใครจะกินตามปกติและหมั่นเจริญภาวนา แผ่เมตตา แบบนั้นก็ดี

    ไม่มีอะไรถูกอะไรผิด ขึ้นอยู่กับหนทางปฏิบัติของแต่ละคนเพราะไม่ว่าจะวิธีไหนท้ายสุดก็มีจุดหมายปลายทางที่เดียวกัน สาธุ
     
  14. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    ความเห็นส่วนตัว คิดว่าทานเจ หรือลดการทานเนื้อสัตว์ลง จะทำให้จิตใจสบาย เกิดความเมตตา สงบเป็นสมาธิง่ายขึ้น และจากการที่เราไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ จะทำให้เรารักษาศีล โดยเฉพาะข้อ 1 ได้ง่ายขึ้นค่ะ

    แต่สำหรับจะภาวนาก้าวหน้าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่างค่ะ สำหรับเราคิดว่าการลดละเลิกทานเนื้อสัตว์ส่งเสริมทางหนึ่งค่ะ ^^
     
  15. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    ฝากให้คิด

    (f) เราเข้าใจกันว่า เราเว้นเนื้อสัตว์แล้วสัตว์จะถูกฆ่าน้อยลง(f)
    แต่ความเป็นจริงของโลก(i) (i) (i) (i)
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]เมื่อพ่อค้าขายไก่ ขายหมู ได้น้อยลง เพื่อลดต้นทุนและเพื่อทำให้ไก่หมูขายราคาสูงขึ้น [​IMG] [​IMG] ต้องนำไก่ไปทิ้งทะเลและกำจัดหมูเล็กเพื่อลดต้นทุนอาหาร รอบละ 2-3ล้านตัว[​IMG]ถึงเราไม่กินสัตว์ก็ถูกฆ่าอยู่ดี[​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]เพราะฉนั้น สายกลาง....มีก็กิน[​IMG] ไม่มีก็ไม่ไปยินดีให้เขาฆ่านำเนื้อมาเพื่อเราจะดีกว่า[​IMG][​IMG][​IMG]
     
  16. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    อีกไม่เกิน 4 ปี จะไม่มีเนื้อสัตว์ให้มนุษย์บนโลกนี้กินอีกแล้ว
     
  17. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    จงเชื่อผู้ที่รู้มากที่สุดในจักรวาลเถิด

    ไม่มีใครรู้ได้ดีกว่า พระพุทธเจ้า อีกแล้ว
     
  18. keawnum

    keawnum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +51
    กินเนื้อมากๆท้องผูก รบกวนการปฏิบัติ ยกเว้นอยากละสมมติของอารมณ์เจ็บปวดเอาเลย อย่ากินเพราะคิดว่าอร่อยเป็นพอ กินเจนานๆไป อาจขาดสารอาหารได้ ก็กินนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมหน่อยละกัน กินเพื่ออยู่เป็นพอ

    กินเจกับไม่เจไม่ต่างอยู่ที่ใจกับเจตนาจ่ะ
     
  19. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    พิจารณากันตามภูมิปัญญาของแต่ละท่านเถิด

    อย่ากินผมเลย ! กลอนสะกิดใจ



    สัพเพ สัตตา เสียงร้องขอ ชีวิตจิตหวั่นไหว

    เสียงห่ำหั่น เข่นฆ่า น่าสยอง

    เสียงซวบซาบ ดาบคมเชือด เลือดไหลนอง

    เสียงกรีดร้อง สะท้านจิต สะกิดใจ

    เสียงสัพเพ สัตตา พาให้คิดว่าชีวิตนี้ มีค่า กว่าสิ่งไหน

    อเวรา อย่ามีเวร อย่ามีภัย
    ชีวิตใคร ใครก็หวง อย่าล่วงเกิน

    ท่องสัพเพ สัตตา มาแต่ไหน ยังเข้าใจ ในเนื้อแท้ ้แค่ผิวเผิน

    ยังฆ่าบ้าง กินบ้าง อย่างเพลิดเพลิน ยังใช้เงิน ซื้อชีวิต อนิจจา

    สัตว์เกิดกาย มาใช้กรรม ที่ทำไว้ เป็นเป็ดไก่ กุ้งปลา ูและหมูหมา

    ตามเหตุต้น ผลกรรม ที่ทำมา มิใช่ฟ้า ประทานมา ให้คนกิน

    มีปัญญา แต่ไฉน จึงไม่คิด
    มองชีวิต กลับเห็น เป็นทรัพย์สิน

    เสียงกรีดร้อง ก่อนตาย ใครได้ยิน น้ำตาริน เมื่อถูกเฉือด เลือดกระเซ็น

    พูดว่าเขา เกิดมา เป็นอาหาร เขาลนลาน หนีตาย ใครมองเห็น

    เขาจนใจ พูดไม่ได ้เถียงไม่เป็น ช่างเลือดเย็น เข่นฆ่า ไม่ปราณี

    มีพืชผัก มากมาย นับไม่ถ้วน ทุกกลิ่นรส สดใส หลายหลากสี

    ธรรมชาติ วางไว้ อย่างดิบดี สัตว์วิ่งหนี พืชเต็มใจ ให้กินมัน

    เพราะเรากิน เขาจึงฆ่า เอามาขาย เราสบาย แต่สัตว์โลก ต้องโศกศัลย์

    ท่องสัพเพ สัตตา มาทุกวัน
    เมตตากัน โปรดอย่าฆ่า และอย่ากิน



    ประพันธ์โดย
    คุณประวิทย์ ชัยศิริสัมพันธ์
    ใครๆ ก็ไม่รักผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2008
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    (good)


    จะทานอะไร ก็ทานไปเถอะ ครับ
    แล้วแต่เหตุปัจจัย

    แต่ให้ทานไปเพื่อระงับความหิว
    เพื่อให้สังขารทรงตัวอยู่ได้
    เพื่อให้มีร่างกาย เหมาะแก่การเจริญธรรม

    ไม่ใช่ทานเพราะติดในรสชาด
    ไม่ใช่ทานเพราะอยาก
    ไม่ใช่ทานเพราะเขาว่าดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...