จุดที่ยากลำบากของการปฏิบัติธรรม^.^

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 26 เมษายน 2006.

  1. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    [​IMG]


    ๒๐. จุดที่ยากลำบากของการปฏิบัติธรรม



    การปฏิบัตินั้น เท่าที่ผมสังเกตมา พบว่ามีจุดที่ยากลำบากอยู่ ๒ จุดด้วยกัน ใครผ่าน ๒ จุดนี้ได้ การปฏิบัติก็จะค่อนข้างง่าย เพราะ จิตจะพัฒนาไปได้เอง แต่ถ้าผ่านไม่ได้ ถึงปฏิบัตินานเพียงใด ก็ยากที่จะได้ผลอันน่าเย็นใจ



    จุดแรกที่ยากลำบากมากก็คือ จุดที่จะเปลี่ยนจากผู้ไม่มีสติ สัมปชัญญะ ให้เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ หรือรู้จักสติสัมปชัญญะ จุดนี้ยากมาก เข้าขั้นยากแสนเข็ญทีเดียว เพราะเท่ากับการปลุก “จิตที่หลับไม่รู้ตื่นมาชั่วกัปป์กัลป์” ให้ลืมตาตื่นขึ้นมา

    นักปฏิบัติเกือบทั้งหมด ในทุกๆ สำนัก จะปฏิบัติไปด้วยจิตที่หลับฝัน นั่งก็นั่งฝัน ยืนก็ยืนฝัน เดินก็เดินฝัน เพราะอำนาจของโมหะครอบงำจิต ซึ่งไม่ให้อะไรมากไปกว่าความสงบ หรือปรากฏการณ์ทางจิต ที่เกิดจากความสงบ



    พระป่า ท่านจะปลุกจิตให้ตื่นด้วยการบริกรรมพุทโธ หรือกำหนดลมหายใจ หรือการทำสมถกรรมฐานอื่นๆ จนจิตรวมเป็นหนึ่ง แล้วจับเอา “จิตผู้รู้”ที่พ้นจากการครอบงำของโมหะออกมาได้ ซึ่งการจะสังเกตเอาจิตผู้รู้ออกมาได้นั้น ไม่ใช่ทุกคนที่ทำสมถะจะทำได้ แต่จะต้องเป็นสมถะที่มีปัญญาสัมมาทิฏฐิเป็นเครื่องชี้นำเท่านั้น สมาธิที่มีสัมมาทิฏฐิชี้นำ จึงจะเป็นสัมมาสมาธิ หรือเป็นสมาธิที่เป็นไปเพื่อความมีสติสัมปชัญญะนั่นเอง คือจิตจะมีสติรู้อารมณ์ และมีสัมปชัญญะรู้ตัวไม่เผลอตามอารมณ์ไป ผลก็คือจะสามารถจำแนกอารมณ์หรือสิ่งที่ถูกรู้ ออกจากจิตผู้รู้ได้ในที่สุด อันจะเป็นฐานของการจำแนกรูปนามเพื่อการเจริญวิปัสสนาต่อไป



    พวกเราชาวเมืองทำสมาธิยาก ก็ยังมีวิธีที่จะปลุกจิตให้ตื่นด้วยปัญญา คือใช้ความสังเกตกายใจของตนไปเลย จนพบว่า กายก็ถูกรู้ เวทนา สัญญา สังขาร ก็ถูกรู้ หรืออย่างที่ผมพยายามไล่จี้พวกเรานั้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อกระตุ้นให้จิตตื่น และรู้จักสติสัมปชัญญะนั่นเอง


    เมื่อมีจิตที่ตื่น รู้ตัว มีสติและสัมปชัญญะแล้ว ก็จะมาถึงจุดที่ยากลำบากที่สุดอีกจุดหนึ่ง คือ ทำอย่างไร จิตที่ตื่นเป็นแล้ว จะตื่นได้ต่อเนื่อง ไม่หลงหลับฝันอีก (อันที่จริงจิตย่อมเกิดดับทีละขณะ จึงไม่มีใครทำสติให้ต่อเนื่องได้ มีแต่การทำให้เกิดสติบ่อยที่สุดจนถี่ยิบ จะรู้สึกเหมือนมีความต่อเนื่องเอง)



    เครื่องมือเดียวที่จะช่วยให้ จิตตื่น อย่างต่อเนื่อง คือการเจริญสติปัฏฐาน

    ผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือสิ่งบางสิ่ง เป็น เครื่องรู้ เครื่องอยู่ของจิต หรือเป็นวิหารธรรม เพื่อกระตุ้นความรู้ตัวของจิตให้ต่อเนื่อง จะใช้อะไรก็ได้ ตามความถนัดของแต่ละบุคคล เพื่อให้รู้เท่าทันกายใจของตน อย่างเป็นธรรมชาติธรรมดาที่สุด



    วิหารธรรมของจิต จะเป็นอะไรก็ได้ ในกาย เวทนา จิต ธรรม เพราะจุดสำคัญของการเจริญสติปัฏฐาน ไม่ได้อยู่ที่ว่า รู้สิ่งใด หากแต่อยู่ที่ว่า รู้อย่างไร หากรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ด้วยจิตที่เป็นกลาง ปราศจากความยินดียินร้าย ก็ใช้ได้ทั้งนั้น เพราะทำให้มีสติสัมปชัญญะต่อเนื่อง พร้อมทั้งเจริญปัญญาไปด้วย


    ฝากให้พวกเราสังเกตจิตใจของตนให้ดี ว่าการทำความรู้ตัวอยู่นั้น มี ๒ ลักษณะด้วยกัน อย่างหนึ่งรู้ตัวแล้ว จิตนิ่งๆ รวมเข้ามา อัดเข้ามา หยุดอยู่ที่รู้ ลักษณะเช่นนี้จะเหมือนมีความรู้ตัวชัดเจน โดยไม่เห็นความจงใจ หรือความตั้งใจ ที่จะรู้ตัวให้ชัดๆ เหมือนมี “รู้ อยู่ในรู้” อีกชั้นหนึ่ง ความรู้ตัวชนิดนี้ยังใช้ไม่ได้ เพราะจิตล็อคตัวเองให้หยุดนิ่ง หรือเป็นการเพ่งจิตนั่นเอง ไม่สามารถเจริญปัญญาได้จริง



    ไม่เหมือนความรู้ตัวที่เป็นธรรมชาติ ธรรมดา ไม่ได้จงใจจะรู้ตัว หากแต่เจริญสติปัฏฐานไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังผล เป็นลักษณะ “รู้ อยู่ที่รู้” ไม่ใช่การเพ่งจ้องจิตผู้รู้ คือรู้ไปอย่างสบายๆ ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏ แล้วหากจิตเกิดปฏิกิริยายินดียินร้ายขึ้นมา ก็รู้เท่าทันจิตตนเองไปเรื่อยๆ ความรู้ตัวชนิดหลังนี้แหละครับ ที่จะเป็นทางแห่งปัญญาได้จริง




    ใครที่รู้ตัวเป็นแล้ว ขอให้เจริญสติปัฏฐานกันเข้านะครับจะรู้การกระทบทางกาย เช่น เท้ากระทบพื้น หลังกระทบพนักเก้าอี้ มือกระทบเม้าส์ นิ้วกระทบคีย์บอร์ด นิ้วกระทบนิ้ว นิ้วกระทบก้อนกรวด การกระพริบตา เอี้ยวตัว กลืนน้ำลาย ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ขับถ่าย การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้รส การได้สัมผัส การไหวกายทั้งกาย การไหวกายบางส่วน การเฝ้ารู้เวทนาทางกาย การเฝ้ารู้เวทนาทางใจ การเฝ้ารู้ความเกิดดับของกุศลและอกุศลในจิต การเฝ้ารู้ทันกลไกการทำงานของจิต ฯลฯ



    เพียรรู้ให้เป็นปัจจุบัน ด้วยจิตที่สบายๆ เป็นธรรมชาติธรรมดาที่สุด ลองดูให้ต่อเนื่องสัก ๗ วัน ถ้าไม่ได้ผลก็ลองสัก ๗ เดือน ถ้ายังไม่ได้ผลอีก ก็ลองสัก ๗ ปี แล้วค่อยมาดูว่า จะไม่ได้ผลอะไรดีงาม ขึ้นมาบ้างทีเดียวหรือ

    ๗ ปีนั้นสั้นนิดเดียว สั้นกว่าฟ้าแลบเสียอีก เมื่อเทียบกับเวลาที่เราเป็นเด็กจรจัด หลงทางในสังสารวัฏนี้




    --------------------------------------------------------------------------------



    (โดยคุณปราโมทย์ วันอังคารที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ๑๑:๑๗:๒๑)
    __________________
     
  2. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    ที่มาค่ะ ..จาก วิมุตติปฏิปทา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
     
  3. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    โมทนาด้วยที่นำมาเผยแพร่
    หนทางในการพ้นทุกข์ไม่ว่าสายไหน
    ถ้าตรงทางแล้วเป็นจริงๆ อย่างที่ท่านเขียนไว้ครับ
     
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    มีทุกอย่างที่คนทั่วไปไม่มี แล้วปล่อยวางได้ นี่ก็ยาก

    นับเป็น ปรมัตถบารมี
     
  5. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    นี่แหละที่ผมกำลังทำอยู่ จิตชอบไหลลงสู่ที่ต่ำ ยากจริงๆ ท่านกล่าวไว้ถูกต้องจริงๆ ขออนูโมทนาคุณน้ำใส ในธรรมบรรณาการนี้ด้วย สาธุ
     
  6. muay

    muay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +301
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ กำลังพยายามปฏิบัติอยู่ค่ะ
    ธรรมะสวัสดีค่ะ
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    เจริญในธรรมครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านร่วมอนุโมทนาครับ
    สาาาาา...ธุ
     
  8. prapaisri

    prapaisri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +151
    ขออนุโมทนาค่ะ รู้ว่ายาก แต่ก็พยายามปฎิบัติ หลับบ้างตื่นบ้าง ก็เป็นธรรรมดาค่ะ
     
  9. ฤษี

    ฤษี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +94
    ปัญญาเกิดจากอะไร

    ไม่มีเด็ก ผู้ใหญ่จะมีไหม

    ก้าวแรกไม่มี ก้าวที่สองจะมีไหม

    เราไม่รู้จักนอน แล้วเราจะตืนได้ไหม
     
  10. aircgo

    aircgo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +646
    รู้ตัวเองดีคัฟว่ายังอ่อนด้อยน่ะ....ทางฝึกหัด....
    ทั้งๆที่รู้...ว่าต้องปล่อยว่าง....ทางความคิดและ
    ทางอารมณ์....ขอให้เพื่อนๆนักธรรมทุกท่าน....
    มีแต่ความเจริญทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยบารมีของ....
    องค์พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โมทนาด้วยคร๊าบบ
     
  11. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,066
    อ่านแล้วงงเล็กน้อยเพราะไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม...
    แต่ก้อยก็คิดเหมือนกันนะว่า จุดที่ยากที่สุดคือ สติสัมปชัญญะ .. โมทนา
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คือ มีสติอยู่กับปัจุบัน

    อนุโมทานกับคุณน้ำใสครับ
     
  13. tepamorn

    tepamorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    786
    ค่าพลัง:
    +1,081
    จิตดูจิต อารมโกรธเกิดจึงรู้ว่าโกรธสติจึงรู้ตามระงับโกรธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2008
  14. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    การปฏิบัติธรรมต่อเนื่องนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้มาก เพียงแค่ทรงอยู่แค่นั้นเองครับ... มันไม่ได้เกินนี้เลย แต่ตีความให้มากก็เพื่อให้คนที่ชอบคิดนั้นทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าคิดน้อยลง ปฏิบัติให้มากเข้า..มันก็ไม่ต้องแปลให้ยาก

    มันก็ครือๆกัน
     
  15. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    ขอเสริมนิดนึงในแง่ของคำว่าทรงอารมณ์ ถ้าพยายามทำให้มันคงที่ไม่หายไปไหน ยังถือว่าไม่ใช่ทรงอารมณ์แบบทีทำให้เกิดปัญญา

    แต่เป็นการทรงอารมณ์ของฤาษี ชีไพร ทำให้เกิดสมาธิ ความสงบ หรือได้กำลังสมาธิ แต่ถ้าเห็นการเกิด-ดับของจิต ได้ต่อเนื่องกัน เปรียบเหมือนน้ำที่ไหลที่ละหยด จนภายหลังไหลเร็วขึ้นๆ ถี่ขึ้นๆ ก็ทำให้ดูเหมือนสายน้ำติดต่อกันได้
     
  16. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    อะไรที่เข้าไปรู้ ไปเห็นได้ ก็คือ ของถูกรู้

    ของถูกรู้ ก็ไม่ใช่อะไรอื่น คือ มีสัญญา สังขาร
    ของถูกรู้ ถูกเห็น เหล่านั้น ก็ไม่เที่ยงทั้งหมด
    ใครยึดว่าสิ่งที่เรารู้ เราเห็น แล้วรู้ว่ามี ก็ถือว่า
    ยังมีสติไวไม่พอที่จะเห็นในความไม่เที่ยงนั้น
    ต้องเจริญสติให้ไวขึ้นอีก จนเห็นมันเกิดดับได้
    จริงๆ สังขารนั้นไม่มีอยู่จริง นั้นแหละสภาวะความ
    เป็นจริงของ ของถูกรู้ เหมือนเรามองใบพัด ถ้าเรา
    เคลื่อนสายตาเราให้ไว เราก็จะเห็นใบพัดเป็นซี่ๆได้
    ก็จะเห็นว่า ที่แท้มันขาดจากกัน ของถูกรู้นั้นไม่เที่ยง
    แล้วพอแยกออกว่านี่รูปใบพัด นี่สังขารวงพัดลมเป็นผืนกลม
    ก็จะแยกออกมันเป็นส่วนๆ เห็น รูป เห็น นาม แยกมันได้
    ก็เท่ากับพบ โสฬสญาณวิปัสสนาข้อแรก นามรูปปริจเฉทญาณ
    ก็จะสามารถทำวิปัสสนาจริงๆจังๆได้

    ต้องไม่ลืมว่าวิปัสสนานั้น จะมาเน้นที่อารมณ์ ขันท์5 ไม่ใช่ธาตุ
     
  17. phuttham

    phuttham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +165
    การปฏิบัตินั้นก็คือการมีสติรู้อยู่ทุกขณะ โดยที่จิตนั้นรู้อยู่เป็นปรกติเป็นธรรมดาไม่เป็นการบังคับจนเกินไป แล้วสิ่งที่ยากที่สุดของผมก็คือความคิดของผมเองน่ากลัวที่สุด สาธุ .............
     
  18. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    ขออนุโมทนา ..

    จิต สติตั่งอยู่ ..ไม่เผลอ ..

    ทุกข์มีก้อ รู้ว่าทุกข์ และจัดวางไว้ ..
    รู้ว่า นี่คือทุกข์ ..แล้วนิ่งเฉย ..รู้ทันมัน ไม่ไปทุกข์กับมัน ..

    ความโกรธ โมโห ก้อรู้ว่า โกรธ ..
    แต่ ไม่ไปโกรธ ..ตาม ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...