ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ธาตุแท้เผย ไม่ยอมรับประชาธิปไตยถ้าโหวตรอบ2. กลุ่มโปรอียูชนะแน่นอน เพราะรู้าาเหตุว่าทำไมผลโหวตที่ให้ออกจากอียูจึงชนะ ก็สามารถหาวิธีให้พวกตนเองชนะโดยใช้ได้ทุกวิธีอย่างหน้าด้านๆ

    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    กลุ่มโปร-อียูล่ารายชื่อได้ทะลุ 3 ล้านรายชื่อในเวลาเพียง 2 วันเพื่อเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติ Brexit รอบที่สอง เมื่อแพ้ลงคะแนน ก็เสนอให้มีการจัดการลงคะแนนใหม่ ประชาธิปไตยแบบตะวันตกหนะ...
    -----------------
    https://www.rt.com/uk/348437-brexit-petition-parliament-millons/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/ rUZKv1M7HUY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    26 มิ.ย.59 กองกำลังฝ่ายโปรรัฐบาลแห่งชาติของลิเบีย ซึ่งเป็นรัฐบาลผสมที่ยูเอ็นสนับสนุนได้บุกเข้าปิดล้อมพวกไอซิสไว้ในบังเกอร์ใต้ดินที่เมือง Sirte แล้วก็แจกลูกระเบิดให้กิน แต่เนื่องจากว่าพวกไอซิสเป็นโรคภูมิแพ้ระเบิดจึงได้จบชีวิตภายในบังเกอร์ดังกล่าวไปอย่างน้อย 14 ราย RT news รายงาน
    ----------------
    https://www.youtube.com/watch?v=rUZKv1M7HUY
     
  3. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการโหวตรอบสองหรือรอบสามสี่ห้าก็ตาม
    ก็ในเมื่อรอบแรกไม่ได้มีผิดกติกาใดๆแล้ว ก็ไม่มีเหตุให้ต้องโหวตใหม่อีก
    โหวตใหม่เท่ากับว่าความศักสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตยปท.นั้นมีมลทิน
     
  4. เห็ดถอบ

    เห็ดถอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +300
    ประชาธิปไตรกลวงๆครับเป็นแค่ปาหี่หลอกหากินไปเรื่อยๆ
     
  5. เห็ดถอบ

    เห็ดถอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +300
    เมื่อตอนเที่ยงได้ยินรายงานข่าวทางทีวีแว่วๆว่า ปธด.ของตุรกียอมขอโทษรัสเซียแล้วในกรณียิงเครื่องบินตก ถ้ามีรายระเอียดเอามาลงด้วยน่ะครับ ขอบคุณครับ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/rUZKv1M7HUY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    26 มิ.ย.59 กองกำลังฝ่ายโปรรัฐบาลแห่งชาติของลิเบีย ซึ่งเป็นรัฐบาลผสมที่ยูเอ็นสนับสนุนได้บุกเข้าปิดล้อมพวกไอซิสไว้ในบังเกอร์ใต้ดินที่เมือง Sirte แล้วก็แจกลูกระเบิดให้กิน แต่เนื่องจากว่าพวกไอซิสเป็นโรคภูมิแพ้ระเบิดจึงได้จบชีวิตภายในบังเกอร์ดังกล่าวไปอย่างน้อย 14 ราย RT news รายงาน
    ----------------
    https://www.youtube.com/watch?v=rUZKv1M7HUY
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    ตุรกีหงุดหงิดโป๊ปเสด็จเยือนอาร์เมเนีย กล่าวหาว่าโป๊ปเป็นพวกคลั่งสงครามศาสนา เอากะหมอนี่ดิ

    [​IMG]

    --------------

    นึกแล้วว่าจะต้องมีภาคต่อจากฝ่ายตุรกี หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเยือนอาร์เมเนีย ก็มีจริงๆ ซะด้วย วันที่ 26 มิ.ย.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "วาติกันหักล้างข้อกล่าวหา 'โป๊ปนักทำสงครามศาสนา' ของฝ่ายตุรกีในการสร้างรอยร้าวจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนีย" (Vatican debunks Turkey’s ‘crusader pope’ accusations in Armenia genocide row)

    รายงานข่าวบอกว่า นครรัฐวาติกันได้ออกมาแก้ข้อกล่าวหาให้กับจุดยืนของโป๊ปเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนียว่าเป็นอุดมคติ (ideology) ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพและการปรองดองกัน ไม่ใช่สงคราม และได้หักล้างการวิพากษ์วิจารณ์ของกรุงอังการาที่กล่าวหาโป๊ปฟรานซิสว่ามีอาการทางจิตแบบพวกครูเสดเดอร์ (“crusader” mentality)

    [แหม… ทีตัวเองสนับสนุนพวกไอซิสให้ก่อสงครามแย่งแผ่นดินซีเรียเอย ก่อสงครามในประเทศเพื่อกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดเอย การปลุกระดมโดยอ้างศาสนาอิสลามเพื่อหาแนวร่วมในเกมสงครามรุกรานประเทศซีเรียเอย กลับไม่บอกว่าตัวเองเป็นพวก Crusader เลยนะแอร์โดกัน - ผู้แปล]

    การที่โป๊ปเสด็จเยือนอาร์เมเนียเป็นเวลาสามวัน ซึ่งเป็นตอกย้ำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนีย (Armenian genocide) ในปี 1915 โดยเติร์กอ็อตโตมานได้จุดประกายให้เจ้าหน้าที่ของตุรกีแสดงออกถึงการประณาม (โป๊ป)

    หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาได้กล่าวแถลงการณ์ครั้งแรกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว (การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนีย) เมื่อเสด็จไปถึงกรุงเยเรวานในวันศุกร์ที่ผ่านมาก นาย Nurettin Canikli รองนายกรัฐมนตรีของตุรกีก็ได้เรียกแถลงการณ์ของโป๊ปฟรานซิสว่าเป็น "โชคร้ายอย่างยิ่งยวด" (greatly unfortunate) ซึ่งกรุงอังการาจะไม่ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง (Ankara does not “take seriously.”)

    [สงสัยว่าคงจะเป็นโชคร้ายของกรุงอังการามากกว่านะครัช คริๆ... ไม่ take seriously แต่ทำไมถึงได้ออกมาดิ้นกันจังอ่ะ อูยยยยยส์ เข้าตัวอีกแล้วนะครัช ปากไม่ตรงกับใจภาษาชาวบ้านเรียกว่า "แตหลอ" หรือเปล่าครับท่านรองนายกฯ? - ผู้แปล]

    นาย Canikli ได้กล่าวหาโป๊ปฟรานซิสว่าเข้าข้างผลประโยชน์ของสหภาพยุโรปเมื่อวันเสาร์นี้ว่า "เป้าหมายก็คือการบีบให้ตุรกีจนมุม (The goal is to squeeze Turkey in the corner.) โชคร้ายที่มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการสะท้อนและร่องรอยทั้งหมดของอาการทางจิตแบบคลั่งสงครามศาสนาในการกระทำของผู้นำทางศาสนาและโป๊ป"

    [เขาไปไว้อาลัย ณ อนุสรณ์สถานชาวอาร์เมเนียที่ถูกกองทัพอ็อตโตมานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหมือนกับผู้นำของประเทศอื่นๆ ที่เดินทางไปเยือนสถานที่แห่งนี้ก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน และก็ได้มีการกล่าวสุนทรพจน์ด้วย ไม่เป็นจะแปลกตรงไหน ตุรกีลูกหลานของอ้อตโตมานพยายามปฏิเสธความรับผิดชอบของตนเองมาโดยตลอด ซ้ำร้ายยังจ้องจะว๊ากใส่คนนั่นคนนี้ที่ไปเยือนสถานที่แห่งนั้นด้วย นอกจากจะไม่สำนึกในความผิดของตัวเองในอดีตแล้วยังพยายามทำผิดซ้ำอีก น่าเศร้า! - ผู้แปล]

    รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า ตุรกีได้ปฏิเสธการบรรเลงการสังหารหมู่ชาวอาร์เมเนียล้านกว่าคนอย่างเมามันที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรอ็อตโตมานในปี 1915 กรุงอังการายืนยันว่าชาวอาร์เมเนียที่ถูกฆ่า (ล้างเผ่าพันธุ์) เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง [เออ… ในทางกลับกันถ้าเหยื่อเหล่านั้นเป็นชาวเติร์ก วันนี้ตุรกีจะพูดแบบนั้นอยู่หรือไม่? - ผู้แปล]

    เมื่อวันเสาร์นี้ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกนครรัฐวาติกันได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของตุรกีอย่างแข็งขันเกี่ยวกับเรื่องอาการทางจิตคลั่งสงครามศาสนา (‘Crusades’ mentality) เมื่อโป๊ปใช้คำว่า "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" (genocide) เพื่ออธิบายการสังหารหมู่ชาวอาร์เมเนียนขนาดใหญ่ (massacre) ซึ่งมีจำนวนถึง 1.5 ล้านคนเมื่อ 1 ศตวรรษที่แล้ว

    หลวงพ่อ Federico Lombardi กล่าวว่า "แถลงการณ์ของสมเด็จพรสันตะปาปาฟรานซิสหรือการกระทำของท่านไม่ได้นำไปสู่แนวคิดคล้ายการทำสงครามศาสนาเลย วาติกันมองว่าโป๊ปฟรานซิสให้ความสำคัญที่การฟื้นฟูการเจรจาทางจิตวิญญาณ (to resurrect the “spirit of dialogue.”)"

    หลวงพ่อ Federico Lombardi กล่าวต่ออีกว่า "โป๊ปไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสงครามศาสนา พระองค์ไม่ได้พยายามที่จะก่อสงครามหรือสร้างกำแพงใดๆ แต่พระองค์ต้องการที่จะสร้างสะพาน... พระองค์ไม่ได้ตรัสคำพูดใดๆ ที่เป็นการต่อต้านชาวตุรกีเลย" สถานีวิทยุ Vatican Radio รายงาน

    [สรุป… นี้ฝ่ายที่ออกมาดิ้นเหมือนพวกกินปูนร้อนท้องก็คือ "ไก่งวง" รู้สึกว่า พักนี้ตุรกีจะเที่ยวทะเลาะกับชาวบ้านไปหมดเลยนะ ก่อนหน้านี้ก็ขัดแย้งกับฝรั่งเศส หาเรื่องกรีซ สร้างศัตรูกับรัสเซียโดยไม่จำเป็น งัดข้อกับเยอรมัน ขัดแย้งกับซีเรียเพราะกระหายน้ำมันดิบของซีเรีย เคยทะเลาะกับจีน จะมีเพื่อนกับเขาไหมนี่? อ้อ… วันก่อนแอร์โดกันนัดไปจูจู๊บกับเนทันญาฮูแห่งอิสราเอลที่กรุงโรม อ้างว่าเพื่อปรับสัมพันธ์เข้าสู่ระดับปรกติกรณีปาเลสไตน์หลังจากที่งอนกันอยู่หลายปี สุดท้ายก็เข้าทำนองฝนตกขี้หมูไหล... เมื่อบีบี้กับแอร์โดกันไปสุมหัวกัน - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    27/06/2559
    ----------
    https://www.rt.com/news/348506-crusader-pope-armenia-genocide/
    Pope Francis Remarks on Armenian Genocide Not Directed Against Turkey
    Pope Francis Visits Armenian Genocide Memorial Complex in Yerevan
    https://www.youtube.com/watch?v=rI9XNSWXdiY
    https://www.rt.com/news/348497-israel-turkey-normalize-ties/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/bFkq1uOLynk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เยอรมันเริ่มทะยอยจัดส่งรถถังปืนใหญ่อัตตาจร Panzerhaubitze 2000 คันแรกไปให้ลิทัวเนีย จากที่ตกลงกันว่าลิทัวเนียจะซื้อ 21 คัน โดยจะทะยอยจัดส่งให้ระหว่างปี 2015-2019 คันแรกเพิ่งจะส่งไปปี 2016 นี้ Panzerhaubitze 2000 ใช้กระสุนขนาด 155 mm รัศมีการยิง 40 กม.
    -------------
    https://www.youtube.com/watch?v=bFkq1uOLynk
    https://en.wikipedia.org/wiki/Panzerhaubitze_2000
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “แมร์เคิล-ออลลองด์” เห็นพ้องยุทธศาสตร์รับมือ “เบร็กซิต” ยอมรับอังกฤษไม่มีทาง “หวนกลับ” โดย MGR Online 27 มิถุนายน 2559 15:49 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2559 17:59 น.)

    [​IMG]
    #ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี (แฟ้มภาพ)

    เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส มีความ “เห็นพ้องต้องกัน” เกี่ยวกับวิธีรับมือสถานการณ์ที่ติดตามมาจากผลประชามติ “เบร็กซิต” ในอังกฤษ

    แหล่งข่าวใกล้ชิดผู้นำฝรั่งเศสระบุว่า ทั้ง ออลลองด์ และ แมร์เคิล ซึ่งกำลังจะหารือร่วมกันอีกครั้งที่กรุงเบอร์ลินในวันนี้ (27 มิ.ย.) “ต้องการความชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไม่แน่นอน” หลังจากที่ผลประชามติในอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (23) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทวีปยุโรป

    ออลลองด์เตือนว่า “หากแยกกันอยู่ เราก็เสี่ยงที่จะเกิดความแตกแยก ความไม่ลงรอย และการทะเลาะเบาะแว้งกัน”

    การที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวเป็นประเทศแรกทำให้อียูเผชิญความปั่นป่วนชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่กระแสหวั่นวิตกของนักลงทุนส่งผลให้มูลค่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกดิ่งรูดถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24) ทันทีที่ผลประชามติถูกประกาศออกมา

    ผู้นำชาติยุโรปจะร่วมหารือทางการทูตกันในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดแผนรองรับ ขณะที่บางคนเรียกร้องให้อังกฤษเดินเรื่องถอนตัวออกไปโดยเร็ว ท่ามกลางหวั่นกลัวว่าจะเกิดปรากฏการณ์ “โดมิโน เอฟเฟกต์” กระตุ้นให้กลุ่มที่ลังเลสงสัยในสหภาพยุโรป (eurosceptics) ออกมาเคลื่อนไหวบ้างในรัฐสมาชิกอื่นๆ

    ประธานาธิบดีออลลองด์ จะหารือกับ โดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงปารีสในช่วงเช้าวันนี้ (27) ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลินเพื่อพบกับแมร์เคิล และนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลี หลังจากนั้นจะมีการประชุมซัมมิตอียูที่กรุงบรัสเซลส์ในวันอังคาร (28) คาดว่านายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ จะเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากผู้นำชาติอื่นๆ ให้ต้องเริ่มกระบวนการถอนตัวออกจากอียูให้เสร็จสิ้นภายใน 2 ปี

    ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่ซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ยังคงดิ่งรูดต่อเนื่อง (27) ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ จอร์จ ออสบอร์น เตรียมออกถ้อยแถลงก่อนเปิดตลาดที่อังกฤษเพื่อบรรเทาความวิตกของนักลงทุน

    โบริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนผู้เป็นแกนนำฝ่ายหนุนเบร็กซิต และคาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่แทนที่ คาเมรอน ยืนยันว่าสหราชอาณาจักรจะยังคง “ยกระดับ” ความร่วมมือด้านต่างๆ กับอียูต่อไป ส่วน เจเรมี คอร์บีน หัวหน้าพรรคแรงงานฝ่ายค้าน ซึ่งถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อผลประชามติด้วยการ “ลาออก” ยืนยันว่าตนจะยังเสนอตัวทำหน้าที่ต่อ หากมีการเลือกตั้งผู้นำพรรคคนใหม่

    ประธานาธิบดีออลลองด์กล่าววานนี้ (26) ว่า การตัดสินใจของอังกฤษนั้น “ไม่มีทางหวนกลับ” ได้อีกแล้ว “และสิ่งที่ครั้งหนึ่งไม่เคยมีใครคาดคิด กลับกลายเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้อีกต่อไป”

    จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะเดินทางไปเยือนทั้งลอนดอนและบรัสเซลส์ และได้ให้สัมภาษณ์ที่กรุงโรมเมื่อวันอาทิตย์ (26) ว่า ตนรู้สึก “เสียดาย” ที่ชาวอังกฤษตัดสินใจเช่นนี้ แต่สหรัฐฯ จะยังคงร่วมมือกับอียูอย่างแน่นแฟ้นต่อไป

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยืนยันเช่นกันว่า ความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐฯ กับอียูจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้อังกฤษจะแยกตัวออกไปก็ตาม

    ตลอดช่วงสุดสัปดาห์มีเสียงเรียกร้องจากบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอียู รวมถึง ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งต้องการให้อังกฤษเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากอียูโดยเร็วที่สุด แต่รัฐมนตรีต่างประเทศ ฟิลิป แฮมมอนด์ ของอังกฤษ กลับประกาศว่า ลอนดอนจะไม่หวั่นไหวไปกับแรงกดดัน และ “จะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้”

    ปีเตอร์ อัลต์ไมเออร์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็ออกมาสนับสนุนให้นักการเมืองอังกฤษ “ใช้เวลาทบทวน” ผลที่จะตามมาจากการอำลาอียู

    คาเมรอนประกาศจะสละตำแหน่งในเดือน ต.ค. และเปิดทางให้นายกฯ คนใหม่เข้ามารับหน้าที่เจรจากับอียูต่อไป โดยคาดว่าจะมีการประกาศใช้มาตรา 50 ในข้อตกลงลิสบอน ซึ่งกำหนดกรอบเวลา 2 ปีสำหรับรัฐสมาชิกที่ต้องการเจรจาถอนตัวจากอียู

    ผลประชามติยังสะท้อนถึงมุมมองที่แตกแยกระหว่างพลเมืองในสหราชอาณาจักรเอง เพราะในขณะที่ชาวอังกฤษโหวตสนับสนุนค่าย “LEAVE” ถึง 52% และโหวต “REMAIN” เพียง 48% แต่ชาวสกอตแลนด์นั้นโหวต REMAIN มากถึง 62%

    นิโกลา สเตอร์เจียน รัฐมนตรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า รัฐสภาสกอตแลนด์อาจพิจารณาใช้อำนาจคัดค้าน “เบร็กซิต” และจะเริ่มเจรจากับเจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ถึงความเป็นไปได้ที่สกอตแลนด์จะขอเป็นสมาชิกอียูต่อไป

    สเตอร์เจียนยืนยันด้วยว่า ประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอังกฤษรอบที่ 2 มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “คลินตัน” เล่นงาน “ทรัมป์” ที่ส่งเสียงเชียร์ “เบร็กซิต” ขณะโพลล่าสุดชี้เธอกำลังมีคะแนนนำ โดย MGR Online 27 มิถุนายน 2559 17:43 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2559 17:58 น.)

    [​IMG]

    #ฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครต ปราศรัยต่อที่ประชุมนายกเทศมนตรีสหรัฐฯ ณ เมืองอินเดียแนโปลิส เมื่อวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) ซึ่งเธอพาดพิงโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่แคนดิเคตของพรรครีพับลิกัน ที่ไปพูดคุยโวเชียร์ “เบร็กซิต” ขณะอยู่ในสนามกอล์ฟที่สกอตแลนด์

    เอเอฟพี/MGR ออนไลน์ - “ฮิลลารี คลินตัน” ว่าที่ผู้สมัครของพรรคเดโมแครตในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ ซึ่งผลโพลล่าสุดที่เผยแพร่ในวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) ชี้ว่าชักจะทำคะแนนนำห่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่แคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน ได้โอกาสหวดกระหน่ำใส่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ปากไม่มีหูรูดอย่างแรง สืบเนื่องจากจุดยืนของทรัมป์ซึ่งออกมาเชียร์ลั่นเรื่อง “เบร็กซิต” โดยเธอระบุว่าในสถานการณ์อันสับสนวุ่นวาย “การแสดงความคิดเห็นแบบคุยโว” สร้างความเสียหายมากกว่าก่อให้เกิดผลดี

    ทรัมป์กล่าวยกย่องเรื่องที่อังกฤษโหวตถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปว่า “ยอดเยี่ยม” โดยบอกกับพวกนักข่าวระหว่างที่เขาเดินทางไปเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันศุกร์ (24) ที่ผ่านมาว่า เขาคิดว่าเบร็กซิตคือ “สิ่งที่ยิ่งใหญ่”

    คลินตัน ผู้ซึ่งหวดกระหน่ำใส่ทรัมป์ระหว่างกล่าวคำปราศรัยในการประชุมของนายกเทศมนตรีทั่วสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยชื่อว่าที่คู่แข่งขันของเธอตรงๆ แต่บอกกับผู้นำองค์กรบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นเหล่านี้ว่า สหรัฐฯสมควรที่จะถูกปกครองโดย “พวกซึ่งถือผลประโยชน์ของประชาชนอเมริกันต้องอยู่นำหน้าผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนบุคคลของพวกเขา”

    ทั้งนี้ ทรัมป์ไปสกอตแลนด์คราวนี้เพื่อร่วมเปิดสนามกอล์ฟ “ทรัมป์ เทิร์นเบอร์รี” ของเขาที่ทำการตกแต่งปรับปรุงใหม่

    อเมริกาต้องการผู้นำ “ที่มีความเข้าอกเข้าใจว่า การแสดงความคิดเห็นแบบคุยโวในช่วงเวลาปั่นป่วนวุ่นวายนั้น แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นตัวการก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายมากยิ่งขึ้นไปอีก” คลินตันบอก

    “และด้วยเหตุนี้เอง ความเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์และความมั่นคงจึงเป็นสิ่งสำคัญเหลือเกินในช่วงเวลาเช่นนี้”


    ทรัมป์ ผู้ซึ่งพึ่งพาอาศัยแรงศรัทธาแบบประชานิยมและถ้อยคำโวหารต่อต้านผู้อพยพในการรณรงค์หาเสียงของเขา กำลังพยายามอวดโอ่ว่าขบวนการต่อต้านอียูของอังกฤษนั้น เป็นการเคลื่อนไหวซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของเขา

    คลินตันเองก็กล่าวยอมรับในการปราศรัยวันอาทิตย์ (26) ว่า “เหมือนอย่างที่พวกเราเพิ่งได้เห็นกันมา ในอังกฤษนั้นมีประชาชนจำนวนมากที่รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ พวกเราเองก็ทราบกันดีว่าในบ้านเราก็มีประชาชนที่รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจเช่นเดียวกัน”

    อย่างไรก็ตาม เธอบอกกับเหล่านายกเทศมนตรีซึ่งมาพบปะประชุมกันที่เมืองอินเดียแนโพลิส ในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯว่า “ไม่ควรมีใครเลยที่เกิดความสับสนเกี่ยวกับความมุ่งมั่นผูกพันที่อเมริกามีต่อยุโรป ไม่ว่าจะเป็นพวกผู้ปกครองเผด็จการในวังเครมลิม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีที่อยู่ในสนามกอล์ฟที่สกอตแลนด์”

    ผลการสำรวจหยั่งเสียงครั้งใหม่ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ (26) ชี้ว่าคลินตันกำลังเป็นฝ่ายนำในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี โดยโพลของวอชิงตันโพสต์-เอบีซีนิวส์ ระบุว่า 51% ของผู้ตอบคำถามบอกว่าจะโหวตคลินตัน มีเพียง 39% จะออกเสียงเลือกทรัมป์

    ส่วนโพลอีกเจ้าหนึ่งของวอลล์สตรีทเจอร์นัล/เอ็นบีซีนิวส์ แสดงให้เห็นคลินตันนำหน้าน้อยกว่านั้น นั่นคือได้ 46% ขณะที่ทรัมป์ได้ 41%


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บรัสเซลส์ลั่น“ไม่คุยนอกรอบ” จนกว่าอังกฤษจะใช้ม.50 ลาออก - จัดลำดับเอสแอนด์พีชี้ เม็ดเงิน 2.08 ล้านล้าน หายจากระบบการเงินโลกวันประกาศBREXIT
    โดย MGR Online 27 มิถุนายน 2559 18:48 น.

    [​IMG]
    (ซ้าย)ฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป

    เอเจนซีส์ - แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปยืนยัน ทางบรัสเซลส์จะไม่เปิดการเจรจานอกรอบกับอังกฤษจนกว่าที่จะได้รับจดหมายแจ้งการลาออกอย่างเป็นทางการ และเริ่มใช้กฎหมายมาตรา Article 50 สนธิสัญญากรุงลิสบอน ในขณะที่สถาบันสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (s&p) ออกมาชี้ มีเงินจำนวน 2.08 ล้านล้านดอลลาร์หายไปจากตลาดทุนโลกทันทีในวันศุกร์(24 มิ.ย)หลังผลสำรวจประชามติอังกฤษออกมา

    NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(27 มิ.ย)ว่า สถาบันจัดลำดับทางการเงิน สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (s&p) ออกมาชี้ ว่าในวันประกาศผลการลงประชามติBREXITทำให้เม็ดเงินร่วม 2.08 ล้านล้านดอลลาร์ได้หายวับไปจากตลาดทุนทั่วโลกในพริบตาเมื่อวันศุกร์(24มิ.ย) เป็นตัวเลขความเสียหายสูงกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีตในช่วงวิกฤตเลห์แมน บราเธอร์ส(Lehman Brothers) สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สหรัฐฯล้มละลายในปี 2008 รวมไปถึงวิกฤตตลาดหุ้นแบล็กมันเดย์ 1987 เสียอีก

    ทั้งนี้พบว่าตลาดหุ้นยุโรปได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยพบว่าตลาดหุ้นทั้งในมิลานและมาดริดตกไปมากกว่า 12% หนักมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ในขณะที่เบนช์มาร์กFTSE 100 ของอังกฤษตกไปเกือบ 9% ในช่วงหนึ่งภายในวันประกาศผลการลงประชามติ แต่กลับขึ้นมาปิดต่ำกว่า 3.15% สำเร็จ

    ซึ่งสภาพการณ์เลวร้ายเริ่มต้นในเอเชีย โดยพบว่าตลาดหุ้นนิเคอิของญี่ปุ่นตกไป 7.9 % และสภาพการณ์นี้ส่งไปถึงตลาดหุ้นวอลสตรีทของสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าดัชนีสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส 500 ตกไป3.6%

    ด้านโมฮิต บาจาจ (Mohit Bajaj ) ผู้อำนวยการบริษัท ETF trading solutions ประจำWallachBeth Capital LLC ในนิวยอร์ก ได้ให้ความเห็นว่า ภาวะการขายออกอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะนักลงทุนคาดการณ์ผิดในผลที่จะออกมา และทำให้ทุ่มไปในอีกฝั่งแทน

    ในขณะเดียวกันในฝั่งเงินดอลลาร์ การสูญเม็ดเงินในวันศุกร์(24 มิ.ย)ได้ลบสถิติที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 28 กันยายน 2008 ซึ่งเป็นวันที่ทางสภาคองเกรสไม่ผ่านมาตรการอัดฉีดเงินจำนวน 700 พันล้านดอลลาร์ในการอุ้มวอลสตรีทในขณะนั้น ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นสูญเม็ดเงินไปถึง 1.94 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว

    สื่อสหรัฐฯรายงานต่อว่า ทางสถาบันจัดลำดับทางการเงินได้ทำการคาดคะเนโดยใช้ดัชนี S&P Global Broad Market Index หรือ BMI ในการคำนวนที่รวมไปถึงตลาดทุนในอีก 47 ประเทศ และพบว่า ยอดความเสียหายในวันศุกร์(24 มิ.ย)คิดเป็นเปอร์เซนต์ของ market capitalization อยู่ที่ 4.7%

    นอกจากนี้ยังพบว่า ดัชนี the MSCI all-country world ของคู่แข่งได้ตกลงไปถึง 4.76 % ในวันศุกร์(24มิ.ย) นับว่าเป็นยอดสูญเสียที่หนักที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2011 ไปอยู่ที่ 5.09 % ในวันแรกของการเปิดซื้อขายหลังจากที่ทางสถาบันจัดลำดับการเงิน แตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส ได้ลดระดับความน่าเชื่อถือจาก AAA

    และในขณะเดียวกันเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(27 มิ.ย)ว่า ในการประชุมอียูซัมมิตในวันอังคาร(28 มิ.ย)ที่จะถึงนี้จะเป็นการพบปะที่น่ากระอักกระอ่วนใจระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอนที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันศุกร์(24 มิ.ย)รับผิดชอบต่อผลการลงประชามติประกาศแยกตัว และฝ่ายบรรดาชาติผู้นำสมาชิกอียูอีก 27ชาติที่ในขณะนี้ยังแบ่งเป็นฝ่ายต้องการให้มีการเดินหน้าตามกระบวนการแยกตัวออกทันที และฝ่ายที่ประกาศว่ายังสามารถประวิงเวลารอต่อไปได้สักพัก

    แต่อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียนชี้ว่า แหล่งข่าวสหภาพยุโรปได้เปิดเผยว่า ทางทีมกฎหมายของอียูระบุว่า ***ตามกฎหมายแล้ว ชาติสมาชิกไม่สามารถถูกบังคับให้เริ่มต้นกระบวนการขอลาออกได้***

    ทั้งนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปได้เปิดเผยกับสื่ออังกฤษต่อ โดยย้ำว่า ***ในขณะเดียวกัน ทางบรัสเซลส์สามารถปฎิเสธที่จะเปิดการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับอังกฤษ ก่อนที่กระบวนการลาออกจากความสมาชิกจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ***

    “ตราบเท่าที่ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ ตราบเท่านั้นจะยังไม่มีการเจรจาใดๆเกิดขึ้น” แหล่งข่าวบรัสเซลส์ชี้ และกล่าวต่อว่า ทางสหภาพยุโรปได้ล้มเลิกความหวังที่จะเห็นกระบวนการลาออกของอังกฤษโดยการเริ่มต้นใช้กฎหมายมาตรา Article 50 ของสนธิสัญญากรุงลิสบอน เกิดขึ้นในที่ประชุมซัมมิตวันอังคาร(28 มิ.ย)ที่จะถึงนี้แล้ว

    และแหล่งข่าวยุโรปคนเดิมยังให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า “ในขณะนี้อังกฤษอยู่ในวิกฤตที่ร้ายแรง แต่ทว่าอังกฤษกลับยังไม่เห็นถึงอันตรายในการตัดสินใจเช่นนั้นออกมา” และแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อียูยังย้ำว่า “ทางอียูพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการอย่างเร็วที่สุด ทางเราต้องการให้กระบวนการเกิดขึ้นโดยเร็วเท่าที่จะเป็นได้”

    เดอะการ์เดียรายงานว่า ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รีย์ มีกำหนดจะเยือนกรุงลอนดอนเพื่อหารือหลังจากนั้นในวันจันทร์(27มิ.ย) หลังจากที่เดินทางไปหารือกับบรัสเซลส์ก่อน ในขณะที่ผู้นำเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี จะร่วมหารือในกรุงเบอร์ลิน ก่อนที่จะมีการประชุมซัมมิตเกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ในวันพรุ่งนี้(28 มิ.ย) ซึ่งเคร์รีย์ได้ตอกย้ำให้อังกฤษและสหภาพยุโรปลดความขัดแย้งให้น้อยที่สุด ด้วยการเจรจาอย่างสร้างสรรค์

    ทั้งนี้ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกอียู สื่ออังกฤษชี้ว่าคาเมรอนรับบทหนักที่ต้องทำหน้าที่อธิบายถึงจุดยืนของอังกฤษในช่วงเวลาอาหารค่ำในคืนวันอังคาร(28 มิ.ย) และหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีอังกฤษจะออกจากที่ประชุมร่วม โดยที่ไม่เข้าร่วมการพูดคุยของกลุ่มยูโรโซน 27 ชาติที่เหลือในวันพุธ(29 มิ.ย)

    เดอะการ์เดียนชี้ว่า ในขณะเดียวกัน มาร์ติน ชูลซ์ ประธานสภายุโรป เป็นผู้นำเสียงเรียกร้องให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการลาออกให้เร็วที่สุดในวันอังคาร(28 มิ.ย)นี้ “ทางเราหวังว่าทางอังกฤษจะส่งมาทันที” ชูลซ์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เยอรมัน บิลด์ และเสริมต่อว่า “ช่วงเวลาวันอังคารที่จะมีการประชุมซัมมิต ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม”

    ในขณะที่ฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวให้ความเห็นว่า การเจรจาสมควรที่จะเริ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อียูได้เปิดเผยกับเดอะการ์เดียนว่า ยุงเกอร์ได้ต่อสายถึงคาเมรอนในวันศุกร์(24 มิ.ย) แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษว่า เห็นสมควรให้เริ่มต้นใช้มาตรา Article 50 อย่างทันที “การตัดสินใจจากพลเมืองอังกฤษเป็นสิ่งที่ชัดเจน และการดำเนินการต่อจากนั้นเพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ”

    แต่ทว่าในแถลงการณ์ลาออกบริเวณด้านหน้าบ้านเลขที่ 10ถนนดาวน์นิงสตรีท คาเมรอนกลับประกาศว่า หน้าที่นี้จะเป็นของผู้ที่จะมารับไม้ต่อจากเขาในเดือนตุลาคม

    ทั้งนี้ในที่ประชุมซัมมิตวันอังคาร(28 มิ.ย)ที่จะถึงนี้ โดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรปจะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ซึ่งเขามีกำหนดจะพบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟร็องซัว ออล็องด์ ในเช้าวันจันทร์(27 มิ.ย)ก่อนจะบินไปกรุงเบอร์ลินเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล และนายกรัฐมนตรีอิตาลี มัตเตโอ เรนซี ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

    และนอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวอื่นๆในวันอาทิตย์(26 มิ.ย)ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูง ที่เรียกว่า “sherpas” ของบรรดาชาติสมาชิกยุโรป ได้มีการหารือในกรุงบรัสเซลส์เป็นครั้งแรกโดยที่ไม่มีอังกฤษเข้าร่วม เพื่อเตรียมพร้อมการประชุมซัมมิตที่จะถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งสัญญาณว่า ทางสหภาพยุโรปรวมเป็นหนึ่งเดียวหลังจากการลงประชามติ BREXIT ของอังกฤษที่คาดไม่ถึง

    โดยแหล่งข่าวอียูย้ำเพิ่มเติมว่า ***อังกฤษจะยังไม่สามารถเจรจาการค้ากับทางสหภาพยุโรปได้จนกว่าจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปไปแล้ว***

    นอกจากนี้เดอะการ์เดียนรายงานว่า มีรายงานว่าทางฝรั่งเศสและเยอรมันได้จัดทำเอกสารจำนวน 10 หน้าเสนอแนวทางใน 3กรอบใหญ่ด้วยกันคือ (1) ความมั่นคง (2)การโยกย้ายและผู้อพยพ และ(3) งานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ สำหรับชาติสมาชิกอียูในการหารือเพื่อจะพยุงสหภาพยุโรปที่มีอายุ 60ปีไม่ให้ง่อนแง่น หลังเกิดกระแสการเลียนแบบ BREXIT หลังจากนั้น

    นอกจากนี้ในวันเสาร์(25 มิ.ย)ทัสค์ ได้แต่งตั้งให้ นักการทูตเบลเยียม Didier Seeuws เป็นตัวแทนจากสหภาพยุโรปในการเจรจากับอังกฤษในอนาคต

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    แอร์โดกรวย... เอ้ย แอร์โดกันร่อนจดหมายถึงปูตินขอโทษต่อการเสียชีวิตของนักบินรัสเซีย วิงวอนขอเป็นเพื่อนกับรัสเซียอีกรอบ ไหนแลบลิ้นออกมาซิแอร์โดกัน จะดูว่ามีกี่แฉก!

    [​IMG]

    --------------

    เออเฮอะ! หลังจากที่แอร์โดกันนัดพบกับบีบี้ที่กรุงโรม ไม่รู้ว่าสองแสบผู้กระหายแผ่นดินซีเรียนี้กำลังวางแผนอะไรกัน ล่าสุดปธน.ของตุรกีก็ยอมเขียนจดหมายถึงปูตินซะงั้น

    [​IMG]

    วันที่ 27 มิ.ย.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "แอร์โดกันขอโทษปูตินกรณีการเสียชีวิตของนักบินรัสเซีย เรียกร้องให้รัสเซียเป็นมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" (Erdogan apologizes to Putin over death of Russian pilot, calls Russia ‘friend & strategic partner’) [ใครจะไปคบกับลูกพี่ไอซิสหละครับ นี่รัสเซียนะไม่ใช่สหรัฐ - ผู้แปล]

    [​IMG]

    เดี๋ยวจะหาว่าสื่อฯ รัสเซียเต้าข่าวขึ้นมาเอง The Washingto post ของสหรัฐก็พาดหัวข่าววันเดียวกันนี้ว่า "ประธานาธิบดีของตุรกีขออภัยสำหรับการยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก" (Turkish president apologizes for downing of Russian jet)

    [​IMG]

    รายงานข่าวบอกว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้เปิดเผยจดหมายที่ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีกล่าวขอโทษ (apologized) ต่อการเสียชีวิตของนักบิน (รัสเซีย) ซึ่งถูกสังหารหลังจากที่เครื่องบินรบของรัสเซียถูก (F-16 ของตุรกีแอบยิง) ตกเหนือชายแดนซีเรีย-ตุรกีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำเนียบเครมลินกล่าว

    [​IMG]

    แอร์โดกันได้แสดงออกถึงความพร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านต่างๆ กับกรุงมอสโคว์ นาย Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของรัสเซีย (Kremlin) กล่าวเมื่อวันจันทร์นี้

    เหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงการยิงเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24 ของรัสเซียตกได้นำมาซึ่งสถานการณ์ที่เลวร้ายในความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซียในประวัติศาสตร์เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งรัสเซียบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "การแทงข้างหลัง" (stab in the back = ลอบกัด)

    นาย Peskov กล่าวว่า "ผู้นำของประเทศตุรกีได้แสดงออกถึงความเห็นใจและความเสียใจอย่างลึกซึ้ง (deep sympathy and condolences) ต่อญาติของนักบินรัสเซียที่เสียชีวิตและกล่าวว่า 'เสียใจ' (sorry)" [เสียใจแล้วคุณทำทำไม? - ผู้แปล]

    ในจดหมายดังกล่าว แอร์โดกรวย อุ้ย… ขออภัยพูดผิดอีกแล้ว แอร์โดกันได้เรียกร้องให้รัสเซีย "เป็นเพื่อนและหุ้นส่วนด้านยุทธศาสตร์" ของกรุงอังการา (Erdogan called Russia “a friend and a strategic partner” of Ankara…) ซึ่งทางการของตุรกีไม่ต้องการที่จะสูญเสียความสัมพันธ์ (กับรัสเซีย)

    "พวกเราไม่เคยมีความปรารถนาหรือส่งมอบเจตจำนงค์ใดที่จะยิงอากาศยานซึ่งเป็นของรัสเซียตก" (We never had a desire or a deliberate intention to down an aircraft belonging to Russia.) จดหมายเขียนเอาไว้ จากแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของทำเนียบเครมลิน

    [ไม่ต้องการ ไม่ปรารถนา แล้วขีปนาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศจากเครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีที่ไล่ล่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24 ของรัสเซียมันร่อนออกมาเองหรือไง ถ้าวันหนึ่ง S-400 ของรัสเซียบังเอิญทำงานเองโดยอัตโนมัติสอยเครื่องบินรบของตุรกีตกในซีเรียบ้าง แล้วรัสเซียพูดแบบเดียวกันนี้ แอร์โดกันจะรับได้หรือเปล่าหละ? - ผู้แปล]

    รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า ตามแถลงการณ์ฉบับนี้ จดหมายของแอร์โดกันได้เน้นย้ำว่า "ฝ่ายตุรกีขอยอมรับความเสี่ยงทั้งหมด และได้พยายามเป็นอย่างยิ่งในการนำร่างของนักบินรัสเซียมาจากฝ่ายค้านซีเรีย โดยนำมาไว้ที่ประเทศตุรกี องค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับพิธีกรรมก่อการฝังศพได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางศาสนาและด้านการทหารทั้งหมด"

    [เป็นไงเล่าอิทธิพลของแอร์โดกันในซีเรียใหญ่คับฟ้าจริงๆ สามารถสั่งให้พวกกบฏซีเรียนำร่างของนักบินที่ถูกพวกกบฏซีเรียสังหารไปไว้ในตุรกีได้ แต่ไม่สามารถห้ามไม่ให้พวกกบฏเหล่านั้นสังหารนักบินรัสเซียที่ยิงปืนใส่ในขณะกำลังโดดร่มได้ - ผู้แปล]

    ในจดหมายของแอร์โดกันยังได้กล่าวอีกว่า "กรุงอังการาได้ปฏิบัติต่อครอบครัวของนักบินชาวรัสเซียราวกับว่าเป็นครอบครัวหนึ่งของชาวตุรกี และพร้อมสำหรับการริเริ่มใดๆ ที่จะเยียวยาความเจ็บปวดและความรุนแรงจากความเสียหายที่ได้กระทำไป"

    [ถ้านักบินคนนั้นเป็นคนตุรกี และถูกเครื่องบินรบของรัสเซียสอยตก แล้วรัสเซียก็พูดแบบนั้นบ้างว่า "โอ๋… เราจะปฏิบัติต่อครอบครัวของเหยื่อประหนึ่งว่าเป็นครอบครัวของชาวรัสเซียเลยนะ" แอร์โดกันจะชอบใจไหม? ถ้ารับได้ งั้นก็ลองส่ง F-16 ของตุรกีเข้าไปในซีเรียอีกซักฝูงซิครับ จากนั้นปูตินก็จะส่งจดหมายแบบเดียวกันนี้ไปให้แอร์โดกันบ้าง แลกบอกว่าเลิกแล้วต่อกันนะเพื่อนนะ อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองกันเลย ที่ยิงตกไปนั้นก็เพราะว่ารักและเห็นเป็นเพื่อนกันหรอกนะ ดีปะแอร์โดกัน - ผู้แปล]

    นอกจากนี้แล้ว แอร์โดกันยังได้แสดงความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค และการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายร่วมกับกรุงมอสโคว์ด้วย

    [พูดจริงอ่ะ งั้นพิสูจน์ด้วยการกระทำก่อนดีไหม สั่งให้เด็กของตุรกีหยุดสู้รบในซีเรียและถอนกองกำลังทั้งหมดกลับไปยังตุรกี บอกให้พวกไอซิสหยุดยึดแหล่งผลิตน้ำมันของรัฐบาลซีเรีย ทุกอย่างจบ สงครามจะยุติทันที แต่คำว่า "ผู้ก่อการร้าย" ในความหมายของตุรกีก็คือ "เคิร์ด" ไม่ใช่ไอซิสหรืออัลนุสราฟรอนท์ในซีเรีย - ผู้แปล]

    หนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกีรายงานว่า แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดแอร์โดกันได้ยืนยันว่าจดหมายดังกล่าวพร้อมกับคำขอโทษ (apology) ได้ถูกส่งไปยังกรุงมอสโคว์จริง

    แต่หนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกีไม่ใช้คำว่า "apology" โดยพยายามรักษาหน้าของแอร์โดกันว่า จริงๆ แล้วในจดหมายของแอร์โดกันใช้คำว่า "I am sorry" (แปลว่า "ผมเสียใจ") แต่เวอร์ชั่นของทำเนียบเครมลินตีความว่าเป็น "การขอโทษ" (I apologize.) สื่อฯ ตุรกีพยายามจะบอกว่า แอร์โดกันไม่ได้ขอโทษหรือขออภัย แต่แค่บอกว่า "เสียใจ" เท่านั้น เออดี... งั้นรัสเซียก็ "เสียใจ" กับการท่องเที่ยวที่ย่ำแย่ของตุรกีเช่นกัน

    สื่อฯ ตุรกียังรายงานอีกว่า รมว.ต่างประเทศของตุรกีจะเดินทางไปเยือนรัสเซียในเร็วๆ นี้ (ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.- 1 ก.ค.) เพื่อเจรจาปรับความสัมพันธ์กับรัสเซียให้เป็นปรกติ [มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกมั๊ง - ผู้แปล]

    ในขณะเดียวกัน วันที่ 27 มิ.ย.59 RT news ก็รายงานข่าวว่ารมว.ต่างประเทศของรัสเซียเจรจากับผู้แทนของแนวร่วมฝ่ายค้านซีเรียที่กรุงมอสโคว์

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    28/06/2559
    ----------
    https://www.rt.com/news/348562-putin-erdogan-turkey-pilot/
    https://www.washingtonpost.com/worl...7f8b4a-3c69-11e6-9e16-4cf01a41decb_story.html
    Erdogan sends condolences to Putin over death of Russian pilot in Syria | Russia Beyond The Headlines
    Владимиром Путиным получено послание Президента Турции Реджепа Тайипа Эрдогана • Президент России
    https://www.theguardian.com/world/2016/jun/27/kremlin-says-erdogan-apologises-russian-jet-turkish
    Erdogan apologises to Putin over death of Russian pilot | Business Standard News
    https://www.youtube.com/watch?v=3nUVpbyHJr8
    https://www.youtube.com/watch?v=FFArfDgqeuo
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    นายกรัฐมนตรีของเยอรมันประกาศว่าพวกเราจะต้องรีบทำอะไรซักอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นๆ ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของอียูตามอังกฤษ จากนั้นผู้นำเยอรมันก็รีบหารือกับผู้นำฝรั่งเศสโดยด่วน งานนี้ไม่มีเบลเยี่ยมเข้าร่วมด้วย มีข่าวลือว่าเยอรมันและฝรั่งเศสอาจจะดึงประเทศอื่นเข้าไปมีบทบาทแทนเบลเยี่ยมก็ได้ ไม่รู้ว่างานนี้เบลเยี่ยมไปเหยียบตาปาของป้าแมร์เกิลเข้าตั้งแต่เมื่อไร
    -----------------
    https://www.rt.com/news/348522-prevent-fleeing-eu-merkel/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/VpYKwAseEMU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    นี่… ก็กองทัพฝ่ายรัฐบาลยูเครนยังยิงปืนใหญ่และจรวดจากระยะไกลโจมตีบ้านเรือนประชาชนชาวยูเครนตะวันออกในสาธารณรัฐโดเน็ทส์ก ที่เมือง Gorlovka อยู่เรื่อยๆ แบบนี้แล้วจะให้การสู้รับมันยุติได้อย่างไร จากนั้นสหรัฐและอียูก็อ้างว่า สถานการณ์ในยูเครนยังไม่สงบ จึงยังไม่ยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย เดี๋ยวเถอะ วันไหนที่รัสเซียทนไม่ไหวแล้วยกกองทัพใหญ่เข้าไปในยูเครนตะวันออกอย่างที่ทำในซีเรีย แล้วจะหนาว (27 มิ.ย.59)
    -------------
    https://www.youtube.com/watch?v=VpYKwAseEMU
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/-IcOf-RwgVs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    โปแลนด์เริ่มขยับ... นาย Witold Waszczykowski รมว.ต่างประเทศของโปแลนด์เรียกร้องให้อียูทำการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาและการบริหารจัดการในอียูหลังอังกฤษทำประชามติถอนตัวออกจากอียู ระหว่างการประชุมร่วมกับรมว.ต่างประเทศของอียูหลายประเทศที่กรุงวอร์ซอเมื่อวันจันทร์นี้
    --------------
    https://www.youtube.com/watch?v=-IcOf-RwgVs
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/3CMus5FSPH8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    หลังจากที่อังกฤษทำประชามติออกจากอียู ยูเครนซึ่งถังแตก แต่กระหายอยากจะเข้าเป็นสมาชิกของอียูจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองในยูเครนก็ออกมาพูดวันก่อนนี้ว่า แม้ว่าอังกฤษจะออกไปแล้ว แต่อียูไม่ต้องห่วง เดี๋ยวยูเครนจะเข้าเสียบแทนเอง วันต่อมานายกรัฐมนตรีของเยอรมันกล่าวว่า เรื่องที่จะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของอียูนั้นไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจา แปลว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆ เหอะ จบนะโปโรเชนโก้! วันนี้ป้าอารมณ์ไม่ดีอ่ะ พูดแบบไม่รักษาน้ำใจยูเครนบ้างเลย อุตส่าห์ยอมแตกหักกับรัสเซีย หวังพึ่งพาอียู แต่ไหงถึงออกมาแบบนี้หละนี่ (27 มิ.ย.59)
    ------------
    https://www.youtube.com/watch?v=3CMus5FSPH8
    Don’t Worry Europe, Ukraine is Ready to Take UK's Place Following Brexit
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    3 บิ๊กอียูไม่ง้ออังกฤษหลังโหวต Brexit ฝรั่งเศสไล่ส่งยุเร่งกระบวนการถอนตัว
    โดย MGR Online 28 มิถุนายน 2559 02:32 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2559 09:26 น.)

    [​IMG]

    #นางอังเกลา แมร์เคิล(กลาง) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ขนาบข้างด้วย นายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอิตาลี มัตเตโอ เรนซี แถลงเข้าร่วมกันหลังการหารือเกี่ยวกับผลลัพธ์ Brexit ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เมื่อวันจันทร์(27มิ.ย.)

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี เปิดเผยหลังหารือในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ประกาศว่าภาวะซวนเซจาก Brexit คือแรงกระตุ้นใหม่สำหรับอียู และบอกฝากไปยังอังกฤษว่าจะไม่มีข้อตกลงใดๆ ก่อนที่ลอนดอนจะแจ้งต่อบรัสเซลส์อย่างเป็นทางการว่าจะถอนตัวออกจากกลุ่ม ขณะที่ผู้นำแดนน้ำหอมไล่ส่ง ระบุทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์หากกระบวนการแยกตัวดำเนินการอย่างรวดเร็ว

    คำเตือนจาก 3 ประเทศที่มีพลเมืองหนาแน่นที่สุดของอียูเป็นการส่งสัญญาณว่าลำดับแรกอังกฤษต้องใช้อำนาจตามมาตรา 50 แจ้งเจตนารมณ์ในการออกจากสหภาพก่อน แล้วถึงจะสามารถเจรจาอนาคตทางการค้าและความสัมพันธ์อื่นๆ กับทางกลุ่ม

    นางอังเกลา แมร์เคิล ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ที่มีประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส และมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี เข้าร่วม ระบุว่า “เราเห็นพ้องกันในเรื่องนี้ จะไม่มีการหารือกันทั้งอย่างไม่เป็นทางการหรือเป็นทางการต่อการออกจากอียูของอังกฤษ จนกว่าจะมีการยื่นคำร้องออกจากสหภาพยุโรป”

    จอร์จ ออสบอน รัฐมนตรีคลังของอังกฤษบอกก่อนหน้านี้ว่า ประเทศของเขาควรใช้อำนาจตามมาตรา 50 ก็ต่อเมื่อมีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างอังกฤษกับอียูเสียก่อน

    นอกจากนี้แล้ว นางแมร์เคิลยังประกาศว่าสมาชิก 27 ประเทศที่เหลือของอียูจะเดินหน้าโครงการยุโรป โดยระบุว่า “เราจะเสนอแนะสหายของเรา (อียู) ว่าเราจะวางแรงกระตุ้นใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า”

    นายกรัฐมตรีหญิงของเยอรมนีได้พูดก่อนหน้าการประชุมซัมมิต 2 วันในบรัสเซลส์ ร้องขอความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและแรงผลักดันร่วมใหม่สำหรับความร่วมมือในขอบเขตต่างๆ ในนั้นรวมถึงด้านกลาโหม การเติบโตหรือการจ้างงาน และความสามารถในการแข่งขัน

    แมร์เคิลย้ำว่า ไม่ควรมีช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อยาวนาน และอียูต้องตอบโต้แรงเหวี่ยงในประเทศอื่นที่พยายามผลักดันออกจากสหภาพเช่นเดียวกับอังกฤษ

    ด้านนายออลลองด์พูดจาขวานผ่าซากกว่านางแมร์เคิล โดยเร่งเร้าอังกฤษอย่ามัวเสียเวลาเหนี่ยวไกปืนในกระบวนการถอนตัวออกจากอียู ระบุทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์หากกระบวนการแยกตัวดำเนินการอย่างรวดเร็ว

    “การมีความรับผิดชอบคืออย่าทำให้เสียเวลา ไม่มีเวลาไปจัดการกับคำถามเกี่ยวกับการจากไปของอังกฤษอีกแล้ว อย่าให้ต้องเสียเวลาในการกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่เราต้องมอบแก่สหภาพยุโรป แก่สมาชิก 27 ชาติ” เขากล่าว “เพราะว่าไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าความไม่แน่นอน บ่อยครั้งที่ความไม่แน่นอนก่อพฤติกรรมที่ไร้เหตุผล และความไม่แน่นอนยังอาจทำให้ตลาดการเงินเคลื่อนไหวอย่างไร้เหตุผลด้วย”

    ในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เช่นกัน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลง 2 ชั้นจาก AAA และเตือนว่าอาจปรับลดเพิ่มเติมในอนาคต หลังจากชาวอังกฤษโหวตประชามติออกจากอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ส่วน ฟิทช์ ก็ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลง 1 ขั้นจาก AA+ เหลือ AA โดยมองว่าประชามติออกจากอียูจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การคลังภาครัฐ และความต่อเนื่องทางการเมืองของดินแดนแห่งนี้

    3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    China Xinhua News

    นักวิชาการจีนชี้! อังกฤษไม่น่าจะมีการลงประชามติใหม่อีกครั้ง

    [​IMG]

    ชาวอังกฤษที่สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปนั้นขอให้มีการ “ลงประชามติ” ใหม่อีกครั้ง โดยมีการรวบรวมรายชื่อผ่านเว็บไซต์ได้มากถึง 2.8 ล้านคน ส่วนสภาอังกฤษก็จะตัดสินใจกันอีกทีว่าจะมีการเจรจาเรื่องนี้หรือไม่

    อย่างไรก็ตาม นักวิชาการชาวจีนชี้ว่า อังกฤษไม่น่าจะมีการลงประชามติใหม่อีกครั้งได้ง่ายๆ แต่ในอนาคตนั้นอาจจะมีการถกเถียงในประเด็น “กลับคืนสู่อียู” นี้ต่อไป

    หนังสือขอลงประชามติอีกครั้งระบุว่า ต้องการให้มีการกำหนดกฎการเลือกตั้งใหม่ โดยอย่างน้อยต้องมีผู้ไปเลือกตั้งอย่างน้อยร้อยละ 75 อีกทั้งฝ่ายที่ชนะผลประชามติต้องมีสัดส่วนอย่างน้อยร้อยละ 60

    เหตุผลที่ยื่นขอลงประชามติอีกครั้งนั้น เนื่องจากการลงประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน มีคนไปเลือกตั้งเพียงร้อยละ 72 อีกทั้งฝ่ายสนับสนุนให้ออกจากอียูชนะในสัดส่วนร้อยละ 52 ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับเป็นผลสรุปความต้องการของชาวอังกฤษ

    ทางศาสตราจารย์โหว จ้วนจากมหาวิทยาลัย China Foreign Affairs University ของจีนให้ความเห็นว่า ในอนาคตอาจจะมีการถกเถียงในประเด็นถอนตัวจากอียูต่อไป ซึ่งจะทำให้ฝ่ายค้านได้เปรียบ จากนั้นสถานการณ์ทางการเมืองของอังกฤษก็ไม่ต่างอะไรกับหายนะ โดยเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงภายในประเทศ

    เขากล่าวว่า การที่อียูเร่งให้อังกฤษออกจากอียูนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าภายในอียูนั้นเกิดความรู้สึกขุ่นมัวและโกรธต่ออังกฤษ อีกทั้งยังต้องการรวบรวมอียูใหม่ให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยเร็ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผวาเบร็กซิต! คนอังกฤษแห่ทำ “พาสปอร์ตไอร์แลนด์” หวังยื้อสถานะพลเมืองอียู
    โดย MGR Online 28 มิถุนายน 2559 11:44 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2559 12:38 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กระแสหวาดกลัวผลประชามติ “เบร็กซิต” (Brexit) ทำให้พลเมืองสหราชอาณาจักรจำนวนมากแห่ยื่นคำร้องขอทำ “หนังสือเดินทางไอร์แลนด์” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือยังมีสถานะเป็นพลเมืองของสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไป

    โฆษกหญิงของสำนักงานไปรษณีย์อังกฤษ (UK Post Office) ซึ่งรับคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง ระบุว่า “ประชาชนในไอร์แลนด์เหนือขอทำหนังสือเดินทางไอร์แลนด์เพิ่มขึ้นจนผิดหูผิดตา แต่เรายังไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่ชัด”

    ผลประชามติว่าด้วยสมาชิกภาพของอังกฤษในอียูเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่โหวตสนับสนุนค่าย “LEAVE” ถึง 52% และโหวต “REMAIN” เพียง 48%

    พลเมืองอียูมีสิทธิ์ที่จะเดินทางไปทำงาน ศึกษาต่อ หรือพำนักอยู่ในรัฐสมาชิกทั้ง 28 ประเทศได้อย่างเสรี (free movement rights) และยังมีสิทธิ์เข้าถึงบริการสาธารณสุข สวัสดิการสังคม และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

    “มีผู้ยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางไอร์แลนด์เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ แต่เรื่องที่ว่ามีคนเข้าคิวยาวเหยียดหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางนั้นไม่เป็นความจริง” โฆษกหญิงของสถานทูตไอร์แลนด์ในกรุงลอนดอนระบุ

    กระบวนการเจรจาเพื่อออกจากสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี และจะเริ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลอังกฤษประกาศใช้มาตรา 50 ของข้อตกลงลิสบอน ปี 2007

    เงื่อนไขในการทำหนังสือเดินทางไอร์แลนด์ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Saraita101 ได้โพสต์ภาพป้ายประกาศที่หน้าสำนักงานไปรษณีย์เมืองเบลฟาสต์ ซึ่งระบุว่า “เนื่องจากผู้ที่ต้องการทำหนังสือเดินทางไอร์แลนด์มีจำนวนมากจนใบคำร้องไม่เพียงพอ เราจึงได้สั่งใบคำร้องเข้ามาเพิ่มโดยด่วน ซึ่งจะมาถึงในวันอังคารที่ 28 มิ.ย.”

    สถานทูตไอร์แลนด์ในกรุงลอนดอนได้ทวีตลิงก์ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์ขอทำหนังสือเดินทางและวิธียื่นคำร้อง ขณะที่มีข้อมูลจาก Google Trends ว่า คำว่า “Irish passport” มีสถิติการสืบค้นพุ่งสูงขึ้นทันทีที่ผลประชามติออกมาว่าฝ่ายหนุนเบร็กซิตชนะ

    วลี “Irish passport requirements” ถูกสืบค้นเพิ่มขึ้นถึง 800% ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ขณะที่ “how to get an irish passport” ก็ถูกสืบค้นเพิ่มขึ้น 250%

    ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทางไอร์แลนด์ถูกสืบค้นมากเป็นพิเศษโดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใน “ไอร์แลนด์เหนือ” ซึ่งแม้จะเป็นดินแดนของสหราชอาณาจักร แต่ก็มีคนเชื้อสายไอริชอยู่ไม่น้อย

    ทั้งนี้ ผู้ที่เกิดบนเกาะไอร์แลนด์ก่อนวันที่ 1 ม.ค. ปี 2005 มีสิทธิ์ที่จะได้รับสัญชาติไอร์แลนด์ ส่วนผู้ที่บิดามารดาเกิดในไอร์แลนด์ก็มีสิทธิ์ขอทำหนังสือเดินทางไอร์แลนด์ได้โดยอัตโนมัติ

    กระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ของไอร์แลนด์อ้างข้อมูลสำมะโนประชากรปี 2011 ซึ่งระบุว่า ปัจจุบันมีชาวไอริชอาศัยอยู่ในอังกฤษประมาณ 430,000 คน และประชากรอังกฤษราว 1 ใน 4 สืบเชื้อสายมาจากชาวไอริช

    ทางกระทรวงชี้ว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง และคาดว่าจะไม่กระทบการต่ออายุหนังสือเดินทางของพลเมืองไอร์แลนด์

    “ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางสหราชอาณาจักรไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขอทำหนังสือเดินทางของประเทศอียูอื่นๆ... และหวังว่าปรากฏการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อชาวไอร์แลนด์ที่ได้เวลาต่ออายุหนังสือเดินทางในช่วงนี้พอดี”


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อียู-นาโตหวั่นเบร็กซิตกระทบยุทธศาสตร์ทางทหาร
    โดย MGR Online 28 มิถุนายน 2559 18:40 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2559 20:13 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ระบุการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษนั้นเสี่ยงที่จะบั่นทอนยุทธศาสตร์ทางทหารของยุโรป โดยที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการลงนามในข้อตกลงที่สำคัญมากระหว่างชาติสมาชิกอียู และนาโต เพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้นมีแผนจะใช้การประชุมของอียูและการประชุมของนาโตในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูป 2 เสาหลักด้านความมั่นคงของซีกโลกตะวันตก โดยมุ่งเป้าที่จะให้ยุโรปลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ในการดูแลพื้นที่ละแวกใกล้เคียงของตนเอง

    “หลายอย่างดูจะหนักหนาสาหัสขึ้นมาก เดิมทีนาโตวางแผนจะเอาตัวเองไปเชื่อมโยงไว้กับสหภาพยุโรปที่เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่กลุ่มที่จะแตกแยกและอ่อนแอ” เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือของอียู-นาโต ระบุ

    เฟเดริกา โมเกรินี ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของอียู จะบอกกับบรรดาผู้นำอียูในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ขณะเผยแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีว่า การเผชิญกับท่าทีก้าวร้าวมากขึ้นของรัสเซีย รวมถึงปัญหาวิกฤตผู้อพยพและปัญหารัฐล้มเหลวบริเวณพื้นที่พรมแดนอียู ทำให้สหภาพยุโรปจำเป็นจะต้องดำเนินการด้วยตนเองโดยอัตโนมัติเมื่อถึงคราวจำเป็น

    เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลของหลายชาติร่วมมือกันเรื่องค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม โดยมีการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากเยอรมนี และฝรั่งเศส แต่อาจจะดูโหวงเหวงไปบ้างหากไม่มีอังกฤษซึ่งมีงบประมาณทางทหารมากที่สุดในอียู

    ด้วยการเป็น 1 ใน 5 ชาติที่มีทรัพยากรเพียงพอจะคุมภารกิจทางทหารในต่างแดนให้แก่สหภาพยุโรป อังกฤษถือเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของปฏิบัติการที่นำโดยอียู โดยมีการควักจ่ายราว 15 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงให้สินทรัพย์

    อังกฤษยังเป็นผู้นำใน “ปฏิบัติการแอตตาแลนตา” ปฏิบัติการต่อต้านโจรสลัดบริเวณนอกแหลมแอฟริกา โดยมีเรือหลายลำตรวจตราในบริเวณนั้นของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้งยังได้รับมอบหมายให้ส่งทหารไปร่วมกลุ่มสู้รบของอียู อย่างไรก็ตาม ทหารเหล่านั้นไม่เคยถูกส่งไป

    ข้อเสนอของโมเกรินีต่อบรรดาผู้นำอียูจะรวมถึงการเรียกร้องให้บรรดาภารกิจที่นำโดยอียูทำงานร่วมกับการรักษาพรมแดนของอียู เพื่อควบคุมการหลั่งไหลของผู้อพยพ ที่อาจจะยากขึ้นเมื่อไม่มีเรือของอังกฤษ

    “สิ่งที่อังกฤษทำนั้นมีความสำคัญ อังกฤษคือผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงรายใหญ่ในยุโรป” เลขาธิการใหญ่นาโต เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าว

    แต่ด้วยความหวั่นเกรงในแผนสร้างกองทัพอียู อังกฤษได้ต่อต้านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นของยุโรป โดยทางรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ไมเคิล ฟาลลอน เคยบอกกับรอยเตอร์ในเดือนนี้ว่า ไม่มีใครอยากเห็นทหารของตัวเองถูกควบคุมโดยบรัสเซลส์

    แต่ก็มีบางรายที่หวังให้ออกมาแบบนั้น เพราะการไม่มีอังกฤษคอยขัดขวางแผนของอียู ฝรั่งเศสและเยอรมนีก็จะได้เป็นผู้นำในสิ่งที่ทางเบอร์ลินเรียกว่า “สหภาพกลาโหมร่วม” เพื่อจะพัฒนาและแบ่งปันสินทรัพย์ โดยฝรั่งเศสได้เคยผลักดันแนวคิดที่จะให้มีสำนักงานใหญ่ทางทหารของอียู ที่เป็นอิสระจากนาโตไว้คอยปฏิบัติภารกิจ

    สโตลเทนเบิร์กระบุว่า ฟาลลอนเคยบอกเขาเรื่องที่อังกฤษจะไม่เสี่ยงเข้าร่วมในความพยายามของอียู-นาโต เพื่อตอบโต้การโจมตีไซเบอร์ของรัสเซีย ปฏิบัติการร่วมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อหยุดการหลั่งไหลเข้ายุโรปของผู้อพยพ หรือแม้กระทั่งแผนปิดกั้นการขนย้ายอาวุธเข้า-ออกลิเบีย ที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่นานนี้

    ถึงกระนั้นอังกฤษก็ยังสามารถเข้าร่วมภารกิจของอียูได้ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกในกลุ่มแล้วก็ตาม เหมือนกับแคนาดาและนอร์เวย์ แต่ก็ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่ในยุทธศาสตร์ระยะยาว


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...