ถึงเวลาแล้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย itsame, 24 มิถุนายน 2016.

  1. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    ที่บางคนในเว็บนี้ควรจะไปศรีธัญญา

    มีบอกว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าระดับ 4 ด้วยนะเออ ฟังมันโม้เหมือนจะบอกว่ามันยิ่งกว่าองค์ปฐม มันหาว่าองค์ปฐมเป็นพระพุทธเจ้าระดับ 1

    แถมมีโม้ควบหลายตำแหน่งเช่น เป็น God

    เห็นมีบอกเป็นเทพพิทักษ์จักรวาลด้วย เห็นได้ทุกมิติ มีเป็นเอเลี่ยนด้วยแถมมียานอวกาศส่วนตัว...

    มันมโนจนเพี้ยนแล้ว ใครเถียงมัน มันจะหาว่าเป็นฝ่ายมืดทันที ไม่งั้นก็โดนฝังชิพ

    บางคนเขาเพี้ยนเขายังพอรู้ตัวไอ้นี่ไม่มีเลย มันไม่มีวันกลับอีกแล้ว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2016
  2. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อ่านหลายเรื่องในเว็บนี้แล้วทำให้นึกถึงละครทีวีจักรๆวงศ์ๆที่เคยดูสมัยก่อนเรื่องดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง
    เพราะสุดท้ายแล้วตัวโยคีที่เป็นอาจารย์ของฝ่ายผู้ร้ายกลับกลายไปเป็นมารต่างดาวหรือเอเลี่ยนไปเสียฉิบ หักมุขได้เซอร์ไพรส์มาก ฤาษีโยคีผู้มีฤทธิ์กลายเป็นมารต่งดาวจำแลงร่างมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2016
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ อ้อ พวกที่หลงว่า "นางพราย" เป็น นางเงือก นั่นเอง สงสัย "ไกด์" โดนนางพราย "จับกิน" ไปแล้วมั้ง อิอิหุหุ 555
     
  4. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    เรื่องฝังชิพนี่ มนุษย์โลกอนาคตจะโดนทุกคน
    อยากมียานอวกาศส่วนตัวมั่งจัง
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    มันอาจเป็นที่นิสัยเค้า อยากเรียกร้องความสนใจ เพราะในชีวิตจริงตัวเองดูต่ำต้อยไง นวลเคยไปรักษากับศรีธัญญานะ ตอนแรกหมอไม่แน่ใจว่าเป็นไบโพลาร์ หรือมีอาการทางจิตเภทร่วมด้วย พอไปตามนัดทุกครั้ง จนหมอส่งตัวเปลี่ยนรพ. หมอถึงบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า คือที่เขียนเนี่ยอยากบอกว่าเราต้องแยกให้ออกในแต่ละอาการ นวลเป็นบ่อยที่อยากฆ่าตัวตาย แต่รายนี้เค้าอาจล้มเหลวในชีวิตจริง จึงต้องสร้างมายามาหลอกตัวเอง ว่าเป็นนั่นเป็นนี่ หรือเค้าอาจมีเรื่องเครียดปัญหาชีวิตที่แก้ไม่ได้ เค้าก้อจะหลบไปอยู่ในจินตนาการของตัวเอง ถ้าไม่มีญาติใกล้ชิดดูแลให้ความรัก คนประเภทที่ป่วยด้านนี้ จะกลายเป็นภาระสังคม เพราะบกพร่องในการใช้ชีวิตให้เหมือนคนปกติ ดูอย่างคนพิการบางคนยังหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่นวลวันๆคิดแต่จะฆ่าตัวตาย แทนที่จะสร้างประโยชน์ให้กับชีวิตตัวเองและสังคม จนเกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาจริงๆว่าเราเก่ง โดยไม่ต้องไปมโนว่าเป็นอะไร
     
  6. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    อาการอย่างนี้เรียกว่าหาความจริงไม่เจอ โลกนี้สร้างมาให้มีขีดจำกัด
    พวกที่อยากหลุดพ้นก็หาทางพ้นจากขีดจำกัดให้ได้ถึงได้นอนโรงบาลได้อย่างเดียว
    เพราะจิตหลุดวงโคจรของโลกไปแล้ว ไว้สร้างยานอวกาศทางจิตได้เมื่อไหร่จะไปตามกลับ
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    อันนั้นแสดงว่าเค้าบ้าอำนาจ..
     
  8. คุณกันฌามี

    คุณกันฌามี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +65
    เรื่องฝังชิต ปัจจุบันคนเราก็โดนอยู่แล้ว

    เช่น โฆษณาต่างๆ ภาพวาด เพลง แม้แต่การปฎิบัติ

    เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณอยากรับหรือไม่ แต่เขาจะป้อนให้เสมอ ไม่สนด้วยว่ามันจะถูกหรือผิดยังไง

    ตราบใดที่เราไม่ตั้งคำถามหรือใช่ปัญญาคิดวิเคราะห์ดู คุณก็โดนชิพกันทั้งนั้น
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ฝังชิพตามความหมายที่ว่านั้น คือ การถูกจูงจิต ค่ะ

    ถ้าเรามีสติพอ เราจะไม่ถูกฝังชิพ หรือ ถูกจูงจิตไปในทางที่ผิดได้ค่ะ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    การจูงจิตคืออะไร?

    หาข้อมูลมาให้อ่านค่ะ

    การจูงจิต คือ การพุ่งกระแสจิตไปยังบุคคลเป้าหมาย

    คือ พอสัมผัสเกี่ยวข้องกับใครเข้าก็อาจสามารถละทิ้งความคิดเดิมของตน ไปรับเอาความคิดของคนอื่นมาไว้กับตัวได้ง่าย ๆ

    ความจริงในเรื่องนี้ ก็คือ พลังจิตที่อ่อนแอ จะพ่ายแพ้ต่อพลังจิตที่แข็งแกร่งของบุคคลอื่นเสมอ ถ้าอยู่ในคนหมู่มาก ก็คือ ทำนองพวกมากลากไป ..อย่างเช่น กรณีประท้วงเป็นต้น

    นักปลุกม๊อบเพื่อการชุมนุมแสดงพลังทั้งหลาย มักจะสร้างอารมณ์ร่วมด้านลบเหล่านี้ จูงจิตคนอื่นๆ ให้มาเกาะกลุ่มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าใครมีพลังจิตอ่อนแอ ขาดความหนักแน่น หรืออ่อนไหวทางอารมณ์มากๆ จะตกเป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้เสมอ เข้าทำนองพวกลากมากไป ดั่งโบราณกล่าวไว้ว่า "คบคนพาลพาลไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล" ก็ด้วยหลักการจูงจิตที่กล่าวถึงนี่เอง

    คนที่มีพลังงานด้านลบในจิตใจ ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไกล มิเช่นนั้นแล้วพลังงานอารมณ์ด้านลบของพวกนั้น จะถูกจิตใต้สำนึกของเราน้อมนำมันเข้ามาสู่จิตสำนึกเราอย่างไม่รู้ตัว เพราะจิตสำนึกมันไม่มีเหตุผล มันไม่อาจแยกผิดชอบชั่วดีได้และมันคิดเองไม่ได้ มันมีหน้าที่ดึงดูดพลังงานนั้น ๆ ตามความต้องการของจิตสำนึกแต่เพียงอย่างเดียว พลังงานทางอารมณ์ด้านลบของหมู่คณะ ที่สามารถจูงจิตที่ดี ๆ ของเราให้เปลี่ยแปลงไปแบบเดียวกันกับพวกเขาได้ เช่น ความกลัว ความคลั่งแค้น ความโกรธ ความสะเทือนใจ จะเห็นว่า นักปลุกม๊อบทั้งหลายเพื่อการชุมนุมมักแสดงพลังทั้งหลาย มักจะสร้างอารมณ์ร่วมด้านลบเหล่านี้...

    คนที่ขาดความเชื่อมันในตนเอง จิตใจรวนเร หรือ ใจคอโลเลหากความแน่นอนไมอะไรไม่ค่อยจะได้ คนที่ไม่ค่อยชอบการคิด ไม่ยอมใช้ความคิดของตน โดยชอบให้คนอื่นคิดแทนตนเอง

    คนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้อารมณ์นำหน้าการคิด ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ จิตใจเต็มไปด้วยพลังทางอารมณ์ด้านลบ

    สองสิ่งนี้ จะเป็นผู้จูงจิตได้ง่ายเช่นเดียวกัน (ข้อมูลจิตจักรวาล)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2016
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ จริง ๆ แล้ว ตามความหมายที่กระทู้นี้ ชี้เป้า ไปนั้น กระทู้นั้น "ยังไม่ถึงขั้น การจูงจิต" สักนิดเดียว ยังอ่อนหัดกว่านั้นมาก

    +++ การระบุภาษาให้ถูกต้องตามอาการของกระทู้นั้น คือ "การหลอกให้ฝันเอาเอง" เท่านั้นแหละ ไม่เกินนั้นไปได้หรอก

    +++ โดยเฉพาะ ในตอนนั่งสมาธิ หรือ ตอนเริ่มนอน พวกที่อยากจะดู "เหงือก" ก็จะเริ่ม จินตนาการเอาเองไปเรื่อย ๆ

    +++ ตามที่ "อ่านมาก่อนนอน" ทำนองนั้น ไม่มีอะไรมาก จากนั้นพอเริ่ม "เคลิ้ม ๆ" ก็เริ่ม "นิยาย" แห่งตนเอง เป็นตุเป็นตะ เอาเอง

    +++ สรุปคือ มันเป็นการ "หลอกให้ฝัน" แล้วจึง แสดงตนเป็น "ผู้วิเศษ" อะไรทำนองนั้น

    +++ กฏแห่งกรรมตรงนี้ ส่งผลให้บุคคลผู้นั้น เหลวไหล + คว้าน้ำเหลว ตลอดเวลาในระยะใกล้เคียง 1 กัปป หลังจากออกมาจาก "นรก" แล้ว

    +++ อย่างที่กล่าวมา ตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับ ชิพ หรือการจูงจิตใด ๆ เพราะ วิธีการในกระทู้นั้น Low Tech อย่างมาก


    +++ เรื่องของ ชิพ เป็นเรื่องในระดับ Artificial Neural Networks (ANNs)

    +++ เป็น "การกระตุ้น" ระบบประสาทสัมผัสเฉพาะส่วน ในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ประสาทสัมผัสในการมองเห็น

    +++ หาก ANNs นั้น Advance จริง ๆ ก็จะสามารถ เลียนแบบ Neural Networks ได้ทั้งระบบ


    +++ ส่วนใหญ่ เรื่องจริง ๆ เกี่ยวกับพวก ต่างดาว นั้นมักจะเป็นการฝึกแบบ Tele View (เมกา+รัสเซีย)(มีอัตตา) หรือไม่ก็ จิตต่างดาว มาเข้าทรงเสียมากกว่า

    +++ ในศาสนาพุทธก็มีการฝึกแบบ Kalachakra Tantra สูตรอยู่ (หากพิมพ์เป็น ภาษาไทย จะหาไม่เจอนะ) หลัก ๆ คือการ "แยกออกจากอัตตา" จนเข้าสู่ เนื้ออวกาศ (ไร้อัตตา)

    +++ การปรุงแต่ง "จะเกิดขึ้นไม่ได้" ในสภาวะนี้ รู้-เห็น อย่างไร ก็คืออย่างนั้น ทั้งหมดจะเกี่ยวกับเรื่องของ กาลอวกาศ รวมทั้งพวก อุตระกุรุทวีป อมรโคยาทวีป ชมพูทวีป เป็นต้น

    +++ เรื่องพวกนี้ "จะไม่กล่าวในที่นี้" เพียงแค่แสดงให้เห็นว่า ของจริง นั้นยังมีอยู่ เท่านั้นเอง


    +++ เรื่องของ "การจูงจิต" จะให้ตัวอย่างแบบ "ง่าย ๆ" ไว้ตรงนี้ ลองทำดู ก็จะรู้ได้เอง

    +++ รู้จัก "กระป๋อง Coke" หรือป่าว มีมันมีตัว "C" จริง ๆ กี่ตัว

    1. หากเห็นกระป๋องเป็น "สีแดง" แสดงว่า ชอบ original
    2. หากเห็นกระป๋องเป็น "สีขาว" แสดงว่า ชอบ diet
    3. หากเห็นกระป๋องเป็น "สีอื่น" แสดงว่า ชอบ ตามนิสัย
    4. หากเห็นกระป๋องมี "ชฏา" แสดงว่า มโนเข้าแทรก หรือไม่ก็เป็น กสินโทษ

    +++ การ จูงจิต มีแค่ "ให้เห็น ความจำ" ว่า มันมีตัว "C" จริง ๆ กี่ตัว เท่านั้นเอง

    +++ ตรงนี้แหละ คือ "การจูงจิต" อาจมีเทคนิคที่ "พิศดาร" มากกว่านี้ก็ได้ แล้วแต่ ผู้นำ-ผู้สอน ว่าจะมีเจตนาไปทางไหน เป็นคุณ-โทษ ต่อศาสนาพุทธอย่างไร

    +++ การจูงจิต เป็นเพียงแค่ "อุบาย" อย่างหนึ่งในเรื่องของจิตเท่านั้น ทั้งหมดขึ้นกับ "เจตนา+ความสามารถ" ของผู้สอนเป็นหลักว่า จะนำให้เข้าสู่ "สภาวะธรรม" ได้อย่างไร นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...