กายวัชระ หรือกายทิพย์ขั้นเพชร และการบำเพ็ญอาวุธทิพย์ชั้นเพชร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 8 พฤศจิกายน 2011.

  1. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    ศิษย์พี่พูดซะผมขนลุก..

    พูดถูกทุกประการ ขอคาราวะ ผมเริ่มกลัวตัวเองขึ้นมาหน่อยๆ แล้วครับตอนนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2016
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เรากลัวตัวเองไม่ได้ครับ เราต้องรักตัวเองต้องรักให้มากๆด้วย กลัวอดีตตัวเองก็ไม่ได้พัฒนาไปไหนครับ เพราะอดีตทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมาเราเป็นยังไง ปัจจุบันเราต้องพัฒนาให้มากกว่าเดิม ไม่ว่าเกิดอะไรก็นอบน้อมและรักให้มากๆ
    ที่บอกให้รักให้มากๆเพราะว่าอดีตที่เสียสละเดินทางผิดพลาดจนอาจอยู่ในนรกหรือเป็นปีศาจเพื่อให้ปัจจุบันได้เรียนรู้ รักเขาเถอะครับแค่เดินทางผิดเขาก็เจ็บแล้ว คุณไปเกลียดกลัวเขาอีก ทั้งๆที่เขาก็คืออดีตคุณแท้ๆ ให้อภัยตัวเองนะครับ
     
  3. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    ท่ามกลางสรรพสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมีสิ่งหนึ่ง ที่คงที่

    หลายสิ่งหลายอย่างเหมือนพยับแดด เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงแล้วจางหาย ยามผัสสะถูกกระทบเกิดขึ้น หวั่นไหว รู้สึกและจบลงในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกแห่งใจที่ถูกกระทบยามเมื่อตามเกลียวคลื่นแห่งสายใยลงสู่จุดลึกสุดแห่งจักรวาล รื้อฟื้นความรู้สึกเหล่านั้นเหมือนตามถอดถอนเสี้ยนหนามอันเจ็บปวด วิญญาณดวงแล้วดวงเล่าถูกปลดปล่อย คงไว้แต่ผู้พิทักษ์แห่งจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์
    ปลอบโยนเขา ให้อภัยเขา เราต่างก็ทำตามหน้าที่อันลางเลือน ยามเมื่อถึงที่สุดแห่งภาวะที่ไร้การปรุงแต่ง กระแสแห่งใจล้วนเชื่อมโยงด้วยอำนาจแห่งแสงที่บริสุทธิ์ ไร้อดีต ไร้อนาคต ไร้มิติและเวลา ในยามที่ส่วนลึกของจิตใจหาหลักยึดเกาะเพื่อเสาะหาสัญญาอันถูกซ่อนเร้น ดั่งนกนางนวลที่บินหาหลักยึดเกาะท่ามกลางทะเลแห่งสังสาระ น่าแปลกที่มีเสียงหนึ่งแหวกผ่านม่านแห่งสติและความระลึกรู้ ท่วงทำนองสำเนียงและภาษาของเธอช่างดูแตกต่าง เราไม่เคยพบเจอกันแต่เหมือนกับว่าเธอรู้จักฉันมากกว่าตัวฉันเอง ..
    เธอปลอบโยนฉันด้วยรอยยิ้มและสวมกอดฉันด้วยอ้อมกอดที่ฉันถวิลหา มันอ่อนโยนและอบอุ่นจนฉันไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งปีติไว้ได้ มันพรั่งพรูและหลั่งไหลออกมาเองราวกับว่ามันไม่ใช่ร่างกายของฉัน ฉันบังคับมันไม่ได้ ความสุขก็เช่นกัน หลั่งไหลลงมาดุจท้องนภาแห่งจักวาลถูกแหวกออก ทะลุออก ไหลลงสู่ห้วงใจที่เคยแห้งผากและเต็มไปด้วยริ้วรอยแผลแห่งความรวดร้าว บัดนี้แผลนั้นถูกเติมเต็มด้วยความรักและปีติสุขจนเอ่อล้นออกมาจากดวงตา.. ฉันไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่มันละเอียดกว่าทุกสิ่งที่ฉันเคยพบ ทรงพลังที่สุดในสากลจักรวาลและอ่อนโยนพอที่จะทำให้ฉันหมดมานะและอัตตาตัวตน ช่างเถอะฉันจะเป็นอะไรต่อไปหลังจากนี้ ฉันไม่สนใจอีกแล้ว ฉันยอม
    ก่อนหน้านี้ฉันรู้ว่า ในกายสังขารของฉันมีพวกเขาวนเวียนอยู่ ไปๆ มา ต่อมาฉันเริ่มมองเห็นว่า พวกเขามิใช่ตัวตนเดียวกัน พวกเขาบางคนแอบซ่อนอยู่ตั้งแต่ฉันจำความไม่ได้ พอฉันมองเห็นรอยต่อระหว่างวิญญาณแต่ละดวง พวกเขาก็ไม่อาจซ่อนเร้นอีกต่อไป ฉันขอให้เขาไปในที่ที่ดีกว่า เขาร้องไห้ ฉันร้องไห้ เราเข้าใจกัน เหลือไว้เพียงแต่ผู้พิทักษ์ทั้งสามที่ฉันคุ้นเคยดี

    ฉันรู้ว่า ท่ามกลางเหล่าผู้มาและไปล้วนมิใช่ตัวฉันเองแต่ฉันก็ไม่อาจอยู่ได้อย่างเดียวดายในโลกทั้งสามแห่งนี้ เสียงของเธอที่สำเนียงฟังดูแปลกไม่เข้ากับยุคแห่งสมัยนี้เหมือนเธอมาจากโลกแห่งอดีตหรือไร้กาลเวลาเกี่ยวโยง เธอบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า

    "เมื่อเธอชำระล้างจิตใจของเธอได้ดีแล้ว กิเลสและความเศร้าหมองเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เดินผ่านหน้าบ้านเธอเมื่อเธอไม่เปิดประตูรับใครกันจะเข้ามาได้ เมื่อยามที่เธอดื่มกินรสหวานอันไร้ขอบเขตแห่งปีติสุข เธอย่อมรับรู้ได้ว่ามันแทรกผ่านทุกอณูแห่งจิตวิญญาณ เพียงแค่เธอยืนมองมันอยู่หน้าประตูทางเข้าสู่ภาวะอันนิรันดร เธอแทบสำลักปีติที่พุ่งพล่านอยู่ในจิตวิญญาณจนเธอต้องล่าถอยออกมาตั้งหลักใหม่ด้วยอำนาจที่เธอไม่อาจคัดค้านหรือต้านทานได้"

    ร่างกายของฉันสั่นเทิ้มไปด้วยปีติระรอกแล้วระรอกเล่า ฉันคุดคู้เหมือนเด็กที่อยู่ในท้องของมารดา ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะรับหรือปฏิเสธใดๆ ฉันไม่อยู่ในฐานะใดๆ ที่ฉันคุ้นเคยอีกต่อไป ฉันไม่สนอีกต่อไปแล้วว่าฉันจะเป็นหรือตายใดๆ อีกสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าขณะลืมตานี้ แน่นอนมันไม่ใช่ความฝัน ฉันกรีดร้องครวญครางเหมือนดั่งมีเข็มนับหมื่นพันทิ่มแทงไปตามสรีระเรือนกาย ความรู้สึกนี้ช่างแปลกแยกและแตกต่างเหมือนเป็นส่วนผสมระหว่างความตายและการถือกำเนิดใหม่แห่งวาระจิต ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไร ดีหรือไม่ฉันเองไม่อยู่ในฐานะใดๆ เลย

    เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจางคลายออก เหลือแต่ใจถึงใจไร้การปลอมปนเธอตอบคำถามในใจของฉันว่า "มันคือความรักที่บริสุทธิ์เมื่อเธอปอกเปลือกแห่งราคะที่ห่อหุ้มออกจนหมดโดยไม่เหลือเยื่อใยใดๆ สายใยแห่งความปราถนาดีต่อผู้อื่นอย่างไร้เงื่อนไข สิ่งนี้อยู่ในทุกห้วงแห่งความมีอยู่ในจักรวาลสากลเป็นผู้โอบอุ้มโดยไร้การเลือกและคัดสรร เทพฯ อินทร์ฯ มาร พรหมณ์หรือสัตว์ใดๆ ล้วนมีอยู่ เธอจงถามใจเธอเองแล้วคำตอบก็จะปรากฏว่า กิจใดยังคั่งค้าง กิจใดที่เธอบรรลุแล้ว.. ฯ "
    ฉันร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ และร้องไห้ มันไม่ใช่ความสุขแต่มันสุขเกินกว่าจะมีจำกัดความใดๆ อธิบายมันได้ ฉันถามเธอว่าเธอคือใคร "เธอยิ้มและหันมามองฉันด้วยความรัก แต่ฉันมองไม่เห็นหน้าเธอ เธอตอบว่า "ฉันคือแม่ผู้มีแต่ความรักและปรารถนาดีต่อเธอ แม่ผู้ที่คอยปลอบโยนในยามที่เธอเหนื่อยล้า แม่ผู้เจ็บปวดไปกับทุกความทุกข์และเจ็บปวดที่เธอถูกกระทำ อย่าพยายามนึกหรือสร้างภาพใบหน้าของแม่เลย.. แม่ไร้รูปลักษณ์ ไร้กาลเวลาเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง แม่คือจิตวิญญาณแห่งความเมตตาที่มีอยู่ในจิตวิญญาณของเจ้าและของทุกๆ จิตวิญญาณ"

    เรี่ยวแรงสุดท้ายของฉันเกือบจะไม่อาจปรุงแต่งใดๆ ได้อีก แต่ฉันก็ยังลุกขึ้นนั่งทั้งน้ำตาและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่จิตใจของฉันนั้นนั้นโลดโผนเหมือนดั่งลูกธนูเพิ่งหลุดจากสาย ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงสุดท้ายแห่งจิตกำหนดเข้าสมาธิอย่างที่ฉันเคยทำ แต่วันนี้หน้าตามันแปลกไป จิตรวมลงที่จิตแต่ละเอียดกว่าที่เคยเป็น ใช่ฉันเคยเห็นสายหมอกสีม่วงครามแห่งจักรวาลนี้ มันสว่างเรืองแสงสีม่วงและอ่อนโยน เยือกเย็นถึงไขสันหลังแห่งจิต เริงร่าดั่งพยามัจฉาแหวกว่ายในท้องนทีแห่งสาระอันกว้างใหญ่ไพศาล ฉันไม่กล้าโน้มจิตเข้าสู่ภายในมากเกินไปเพราะทันทีที่มโนผัสสะถูกกระทบ ปีติก็พุ่งพล่านจนฉันสำลักมัน แต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมมันอีกต่อไป ฉันไม่หลีกหนีมันอีกต่อไป ฉันยอมรับมันโดยดี ไร้การผลักดันและแบ่งแยก ฉันคือส่วนหนึ่งของทุกๆ สิ่งและทุกๆ สิ่งคือตัวฉัน ฉันตามไปจนสุดปลายแสงสีม่วงเริ่มจางหาย อาการหมุนวนนั้นสิ้นสุด ฉันรู้ว่าฉันมาไกลเกินกว่าที่ฉันรู้และฉันก็ไม่คิดจะถอนตัวออกมา ..

    จุดที่ลึกที่สุดนั้นทรงพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยปีติ ฉันค่อยๆ ก้าวเข้าไปทีละน้อยๆ ในนั้นมีแต่ความจริงที่ไม่อาจถูกปิดบัง ฉันทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ร่างกายและจิตใจถูกอณูแห่งพลังที่ฉันไม่รู้จักทะลุทะลวงผ่านทุกซอกหลืบอันมิอาจซ่อนเร้นหรือปิดบังไว้ ฉันยอมแพ้ "ฉันหมดกำลัง" ฉันกำลังจะตาย ฉันยิ้มทั้งน้ำตาในท่าคุกเข่าล้มลงหัวทิ่มลงซบกับพื้นแล้วงอตัว "ฉันเหมือนทารกผู้เปลือยเปล่า" ฉันกำลังจะตาย น้ำตาฉันไหลไม่ยอมหยุดเปล่าเลยหาได้มีความกลัวแม้แต่นิดเดียวในใจ ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่ง ชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ฉันเห็นเธอยิ้ม "แม่ของฉัน"

    "แปลกตรงที่มันไม่จบ แปลกตรงที่ฉันรู้ว่า "ฉันต้องทำอะไรต่อไป"
    โลกนี้ไร้เหตุบังเอิญและฉันเองก็เลิกคิดแล้วว่า ฉันรู้อะไร ไม่รู้อะไรอีกต่อไป "เมื่อศิษย์พร้อม ครูที่แท้จริงก็ปรากฏ" ขอบคุณศิษย์พี่ทั้งหลายที่ชี้แนะหากกุศลมีจริง หากทุกสิ่งไม่ใช่ความฝัน ข้าขอตั้งจิตอฐิษฐานมอบสิ่งเหล่านี้ทั้งกุศลและผลบุญบารมีอุทิศให้แด่ทุกท่านที่เมตตา ขอคาราวะ "ตันเถียน"

    ยิ่งหนียิ่งห่างไกล จากตัวตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2016
  4. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เมื่อถึงเวลาที่สมควร ทุกสิ่งย่อมกลับมาเป็นเธอ ความเป็นเธอที่แท้จริงเปรียบดังเสมือนมหาสมุทรที่ถูกกลั่นแล้วกลั่นอีกจนเหลือความบริสุทธิ์แค่หยดเดียว ความรักไร้ขีดเท่านั้นที่จะน้อมรับทุกสิ่งที่เป็นเธอไว้ได้ แม้แต่เพียงเสี้ยวที่เธอไม่พอใจในสิ่งที่เธอเป็นย่อมพลักไสให้ความเป็นเราห่างออกไป และห่างออกไป
    เมื่อลูกๆพร้อมที่จะก้าวเดินในเส้นทางที่ควรเดิน พระบิดาหรือพระมารดา ย่อมให้ในสิ่งที่ลูกๆทั้งหลายควรได้
    ไม่ต้องถามตัวเองว่าเมื่อไหร่ เมื่อสิ่งนั้นปรากฎเธอจะเข้าใจคำว่ารักตัวเองคืออะไร รักของพระบิดามารดาคืออะไร และจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าความรักคืออะไร
     
  5. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    มีแต่น้ำตาแหละคำว่า "ขอบคุณ" ผมพูดได้เพียงแค่นั้น ขอบคุณและขอบคุณ
     
  6. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    "เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
    โลกทั้งใบเป็นสีชมพู.."
    ฉันเข้าใจแล้ว ความรักคือสิ่งใด?:cool:

    เมื่อคืนเข้ามาโพสด้วยความรัก
    วันนี้อ่วมอรทัย..
    แสดงว่าความรักไม่เหมาะกับเรา:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2016
  7. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    เหตุที่รู้ว่าความรักคือสิ่งใด
    เพราะฉันรู้ว่ารักตัวเองที่แท้จริงเป็นอย่างไร?

    มีเพียงสองสิ่งเท่านั้น ที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้
    สิ่งหนึ่งคือ"จักรวาล"
    อีกสิ่งนึงนั้นคืือ"ความโง่เขลาของมนุษย์"
    ทว่า.ฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น..:cool:
     
  8. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    เมื่อถึงเวลา.. สิ่งหนึ่งนั้นต้องออกไป
    เพื่อเปิดช่องให้สิ่งที่เหมาะสมกว่าแก่เวลา.ได้เข้ามา
    ฉันได้เรียนรู้และตระหนักด้วยตัวฉันเองว่า
    นับจากนี้ไป.จะไม่ผลักไสในทุกสิ่งที่ได้เข้ามา
    เพราะทุกสิ่งที่เข้ามาคือสิ่งที่ดีที่สุด..
    สำหรับชีวิตเรา...ในช่วงขณะ..
    อย่าปฎิเสธที่สิ่งเข้ามา
    โลกนี้ไม่มีอะไรบังเอิญ...:cool:
     
  9. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    เข้ามาเป็นปี ยังไม่เจอที่ค้นหา ก่ะว่า จะไม่เข้ามาแล้ว
    มะกี้ ก็ว่าจะเข้ามาอ่านดูเป็นครั้งสุดท้าย บังเอิญเจอกะทู้นี้
    ยังไม่ได้อ่านทั้งหมด แค่หน้านี้หน้าเดียว ความรู้สึก เปลี่ยนเลย
    ประทับใจมากครับ กับความเห็นของทุกๆท่าน สัมผัสได้ถึงความรัก
    ที่บริสุทธิ์ อ่อนโยน ที่กล่าวมาไม่ไช่ต้องการจะยกยอใคร มันคือ
    ความจริงใจแท้ๆ พร้อมไปกับความรู้สึกใหม่ๆ เลยบอกตัวเอง ว่า
    จงสิงสถิตย์ต่อไป เว็บนี้มีของดี-อย่าตาถั่ว มองให้ทั่วๆ
     
  10. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขอโทษท่านดอกไม้ด้วยนะครับที่ถือวิสาสะเข้ามาตอบในกระทู้ของท่าน บางครั้งธรรมเขาก็แสดงออกมาเอง ผมเองก็เป็นเพียงทางผ่านเท่านั้นครับ
     
  11. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    เมื่อคืนเข้ามาโพสด้วยความรัก
    วันนี้โดนอ่วมอรทัยทั้งวัน
    แสดงว่าความรักไม่เหมาะกับเรา...
    ปล.ขออภัยท่านจขกท.ที่ทำกระทู้เลอะเทอะ:'(
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    กระทู้สาธารณะนะครับ ไม่ใช่ของผม แสดงความคิดเห็นได้ตามสบายครับ
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ ธรรมดาของธรรมเป็นแบบนั้นละครับ
    เริ่มต้นจากความรักแท้ ต่อไปคือ การถูกทดสอบด้วยการ
    ถูกบีฑาธรรม เหมือนทรมานจิตใจให้กำเนิดใหม่น่ะครับ
     
  14. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขอบคุณครับ เจ้าของกระทู้ก็เหมือนเจ้าของสมมุติในห้องนี้ละครับ ขอไว้ก่อนเป็นดี
    เอาเป็นว่าขอทุกๆกระทู้ของท่านดอกไม้เลยนะครับ แจมได้ก็จะแจมเพื่อขัดเกลาตัวเองนี่ละครับ
     
  15. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    ทรมานจิตใจให้กำเนิดใหม่

    ผมว่าแล้วมันแปลกๆ อยู่ จริงอยู่ ในสภาวะทรงตัวของสติ ตัวรู้เกิดแล้วดับไปตามสภาวะธรรมทรงไว้แต่เพียงความว่างสว่าง ไร้การปรุงแต่ง เมื่อสติและปัญญารวมลงที่จิต กิเลสและนิวรณ์ไม่อาจหลอกล่อได้อีก แต่องค์ความรู้ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาจากจิตวิญญาณบางดวงผู้สูงส่ง พยายามผลักดันให้กระทำบางอย่าง สิ่งนี้เป็นเหมือนภาระกิจใหม่และการเดินทางเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ที่ไม่แน่ใจก็คือว่า มันเป็นกิเลสหรือเราปรุงแต่งไปเอง ถ้าปรุงแต่งไปเองทำไมมันมีขั้นตอน มีกระบวนการที่ชัดเจนตั้งแต่การศึกษาศาตร์ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคิดว่ามันมีอยู่ ไปจนถึงกระบวนการฝึกจิตและบริหารพลังแฝงต่างๆ
    ถ้าเป็นกิเลส ทำไมกิเลสถึงเกิดซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ และต่อเนื่อง คงมีแค่เพียงเหตุผลเดียวกระมัง คือเรื่องทั้งหมดมันเป็นจริง
    รบกวนท่าน Frozen flower อธิบายเพิ่มอีกสักหน่อยครับ ขอบคุณครับ
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ถ้ามันเป็นความจริง มันต้องเป็นแบบ "องค์รวม"
    ถ้ามันเป็นแค่ความคิด เราจะคิดไปเองคนเดียว
    ไม่มีเหตุและผลแบบองค์รวมเกิดขึ้นแน่นอนครับ
     
  17. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    ในฝันผมมีกระบี่สามเล่ม

    ผมฝันโดยตลอดมาว่าผมมีกระบี่สามเล่ม สองเล่มเป็นกระบี่คู่ติดอยู่ข้างหลังไขว้กันตลอดเวลาไม่เคยห่างกาย อีกเล่มถือติดมือตลอดเวลา กระบี่เล่มที่ถือนั้นมีความไวและอานุภาพเป็นเลิศประสานเข้ากับร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกันควบคุมโดยจิตที่ดูดกลืนกินวิญญาณโดยคู่ต่อสู้ไม่รู้ตัวว่าถูกดูดกลืนจิตวิญญาณ กระบี่โดยทั่วไปนั้นจะหลุดออกจากฝักทันทีกระบี่คู่ต่อสู้ถูกชัก แต่กระบี่เล่มที่ถือนั้น หลุดออกจากฝักและตัดผ่านเลือดและวิญญาณเพียงแค่คู่ต่อสู้ขยับจิต
    ส่วนกระบี่คู่นั้นจะใช้ก็ต่อประสานกายและหลอมรวมจิตวิญญาณเป็นหนึ่งความเร็วในการใช้เมื่อประสานเข้ากับจิตวิญญาณโดยการหลอมรวมจะดูเหมือนว่ากระบี่ที่ถือนั้นมีเป็นพันๆ เล่ม อานุภาพนั้นสุดประมาณได้มีไว้ต่อสู้กับจิตวิญญาณที่กล้าแกร่งโดยเฉพาะและมิเคยได้ออกจากฝักเลย.. "กระบี่ไร้เงา"
    แค่ฝันน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2016
  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    งั้นฝันด้วยนะครับ ก็มีกระบี่เล่มหนึ่งทำจากใจเต็มไปด้วยความรักไม่ต้องชักออกจากฝักก็มีแต่ให้ ให้ตลอดเวลา ถึงแม้รู้ตัวว่าโดนดูดจิตและวิญญานก็ยังคงให้ ให้ด้วยความรักต่อไป ถึงแม้โดนกระบี่แทงเป็นพันล้านเล่ม ก็ยังคงให้ ให้ด้วยความรัก ถึงต้องตายด้วยกระบี่นั้นก็ยังคงให้ ถึงแม้ต้องตายเกิดกี่ครั้งก็ให้ต่อไปเพื่อหวังว่าซักวันกระบี่สามารถแทงเข้าถึงหัวใจเพื่อให้เขาได้รับรู้ความรักอย่างแท้จริง.....
    ล้อเล่นขำๆนะครับ:cool:
     
  19. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๔.๒๓
    ที่ วัดตาแต้ม รอเผา


    นิทานปะทะความฝัน

    ..เราเคยมี กระบี่ อยู่ที่ใจ
    ฟันอย่างไว เทียบใกล้ ความไวแสง
    อานุภาพ ยามใช้ ให้รุนแรง
    ด้วยจิตแฝง ฝังใส่ ในลีลา

    ...แต่ผ่านมา เนิ่นนาน ที่รานรบ
    เราพานพบ วิถี ที่ใฝ่ฝัน
    ด้วยมิมี ศัตรู ให้โรมรัน
    เหตุข้ามขั้น ขีดไป ในจิตรา

    ...ด้วยวิชา ธรรมมา ที่ข้าพบ
    จึงเลิกรบ กับใจ ในกายฉัน
    เปลี่ยนทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่ห่างกัน
    ให้ประสาน ใกล้ชิด เป็นมิตรเกลอ

    ...แม้มีเผลอ อยู่บ้าง ในบางจิต
    มีโวยติด ตามบ้าง ในบางหน
    แต่สติ ฝึกไว้ ในใจตน
    ออกกระโจน ห้ามไว้ อย่างไวเอย


    สุนทรทู่ / กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์
    .
     
  20. เกียรติคุณ

    เกียรติคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +34
    ท่านพี่นี่สุดยอดเลย

    เล่นเอาหัวใจผมสลายเลยนะเนี๊ยะ ใจที่บริสุทธิ์ไม่อาจทำลายได้ด้วยกระบี่นับพันเล่ม แต่เข้าถึงได้ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์เฉกเช่นเดียวกัน ใจต่อใจ (ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยความบริสุทธิ์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...