เข้าใจเช่นนั้นก็ขอให้งมต่อไป ... เอาซะว่าสมาบัติมาอ้างทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเข้า ไม่เคยลิ้มรส แล้วจะบอกให้ชัดเจนว่าท่านมีอะไรและท่านผ่านอะไรมาบ้าง...
มีศีล ๕ เป็นปรกติได้ก็สุดยอดแล้วครับ โดยเฉพาะข้อที่ ๔ นี้รักษาไม่ง่ายเลยนะ (การพิมพ์สนทนานี้ก็แทนคำพูดได้เลยทีเดียว...
บางท่านได้บอกไว้ว่า "ถ้าดับสติลงไม่ได้ก่อนแล้ว ก็ไม่มีทางจะพ้นจากความเป็นปุถุชน" ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น "ก็เพราะสติอยู่ในสังขารขันธ์" ......
หมดเวลาซะแล้วครับ ... เก็บไว้ตอบกับคนอื่นดีกว่า (^ ^)
แสดงว่าไม่กล้าอ่านข้อความที่ผมจะยกมาให้คุณอ่านหล่ะสิ ... ถ้าผมไม่พอรู้อะไรมาบ้างคงไม่กล้ามาพูดตำหนิพวกคุณที่เอาข้อธรรมสูง ๆ มาแปลเป็นของต่ำ ๆ...
ได้ครับ ค่อยว่ากันในตัวสีน้ำเงิน ... สรุปความเดิมคือที่คุณเข้าใจว่า "สังขารก่อน" หรือ "ผัสสะก่อน" ทีนี้...
อยากให้ผมยกลิงค์มาให้คุณอ่านมั้ยหล่ะ แล้วก็จะรู้...(^_^)
เพื่อดับกิเลสตัณหาราคะยังไงหล่ะครับ
รู้ความหมายรึป่าวหล่ะกับคำว่า "สงบที่คุณยกมาอ้างนี้" อย่าเอาคำพูดถึงสิ่งที่หมายถึงระดับโลกุตตรมาเป็นเพียงระดับโลกีย์ตามที่คุณเข้าใจสิครับ...
(- -)' ทั้งเว็บนี้เห็นแต่คุณนิวรณ์ กับ คุณวรณ์นิ นะที่ทำให้บอร์ดขับเคลื่อนเนี่ย ถ้าขาดพวกคุณสองคนแล้วใครจะเฝ้าบอร์ดต่อครับเนี่ย หาผู้สืบทอดยัง?
พวกใช้ปัญญาพิจารณาไปเรื่อยนี่แหล่ะ จะตอบคำถามของอชิตมาณพ ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องมี "วิจิกิจฉา" อย่างแน่นอนเพราะไม่รู้จักคำว่า "จบกิจพรหมจรรณ์"...
ขอบคุณที่ยกมาให้อ่านดูนะครับ
ทำวงจรมาให้ดูอย่างดีเลยนะครับเนี่ย เด็ดเลยครับ ขอดูก่อนนะ แสดงว่าคุณเข้าใจตามวงจรนี้ใช่มั้ยครับ? ดูตามวงจารของคุณแล้วนะครับ...
ขออภัยนะที่ไม่ได้ตอบไปยาว ๆ รวม ๆ เพราะต้องถาม ต้องตอบกันทีละประเด็นคำถามจึงจะเข้าใจกัน หากร่ายยาวก็จะไม่ได้อะไร สังเกตในพระไตรปิฎกสิ...
ก็ถ้าคุณแปลและเข้าใจความหมายตรงนี้ได้ ก็จะพอมองเห็นได้ ลองดูสักหน่อยก่อนสิครับเพราะมีระบุไว้ตรง ๆ เลย แต่จะเจอมั้ย??? ในลิงค์นี้ครับ สั้น ๆ หรอก...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา