การสวดมนต์คาถากลับ จากท้ายมาหน้า ขลังจริงหรือครับ

การสวดต์ คาถาต่างๆ จากท้าย มาหน้า หรือที่เรียกว่าการสวดกลับหรือท่องคาถากลับ จะทำให้เพิ่มความขลังจริงหรือไม่ ช่วยตอบผมทีนะครับอยากรู้จริงๆ..ขอบคุณมากครับ.....

 

โดยส่วนตัวคิดว่าช่วยเพิ่มสมาธิขณะสวดมนต์ขึ้นมากกว่าค่ะ

ส่วนขลังขึ้นมั้ย คงต้องรอผู้รู้มาตอบ

 

เท่าที่รู้ที่ทราบ...ถ้าเป็นอิติปิโสถอยหลัง...ขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ ครับ

ถ้าบทอื่น ๆ ไม่ทราบแต่คิดว่าน่าจะมีความขลังเช่นกันครับ

 

ขลัง

หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม จ. สระแก้ว ท่านเก่งมากครับได้ยินว่าท่านสามารถท่องคาถาชินบัญชรถอยหลังได้ครับ และท่านก็ใช้ในการปลุกเสกวัตถุมงคลให้มีความขลังมากๆด้วย ที่รู้เพราะยามที่โรงงานโดนทั้งฟัน ทั้งแทง ทั้งตีด้วยขวด ตัวเองก็เมาอยู่ ยังไม่เป็นไรเลย

 

โดยส่วนตัวเชื่อว่า การท่องกลับหลังทำให้ต้องใช้สมาธิมากขึ้น ...ถ้าท่องได้ ก็คือสมาธิดี ...พลังจิตก็สูงขึ้น จะเอาไปรักษาโรค ปลุกเสกสิ่งของ ก็ย่อมได้ผลมากขึ้นตาม

ส่วนการสวดมนต์ธรรมดา (ไม่พลิกแพลง) ก็มีคำอธิบายในด้านขลังหลายอย่าง
1. เทวดา พรหม ท่านร่วมยินดี ในการสวดมนต์ ก็เลยได้รับความช่วยเหลือจากเทวดาและพรหม
2. จิตที่เป็นสมาธิ รู้ความหมายที่ดีของบทสวดมนต์ ทำให้เกิดกุศลจิต เป็นพลังงานด้านบวก
3. การสั่นสะเทือนในแง่ความถี่ เป็นการเคลียรพลังงานด้านลบในสิ่งแวดล้อม (คล้ายการใช้ Singing Bowl ของธิเบต หรือ การเป่าสังฆ์ของพราหมณ์)
4. บ้างก็ว่า บทสวดถูกแต่งโดยผู้มีพลังทางจิต และได้สร้างการเชื่อมต่อไว้ ...เมื่อเราสวด ก็จะเกิดการเชื่อมต่อด้านบวกกับผู้แต่ง หรือได้พลังงานด้านบวกตามที่ผู้แต่งตั้งใจไว้ ...เพราะผู้ที่แต่งบทสวด มักเป็นผู้มีพลังด้านบวก (คล้ายกับพลังจากเทวดาและพรหม แต่เป็นแนวพลังงาน ไม่เป็นตัวตนบุคคล ...คล้ายเป็นพลังงานที่ถูกบรรจุไว้ในความทรงจำของจักรวาล)
5. เป็นการสั่งจิตใต้สำนึกให้คิดแต่ด้านดี ตามความหมายของบทสวดมนต์
6. แม้เพียงเชื่อว่า สวดแล้วดี ก็มีผลดีต่อจิตใจ และจิตใต้สำนึกแล้ว (โดยไม่ต้องรู้ความหมายของบทสวด)
7. การสวดมนต์ด้วยการออกเสียง เป็นการสร้างความสั่นสะเทือนให้กับอวัยวะในร่างกาย คล้ายการท่องมนตราแบบทิเบต ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ...อาจชัดเจนในระบบหายใจ

 

ขออนุโมทนากับท่านที่สวดกลับหลังได้ครับ

ผมคิดว่าท่านจะได้บุญมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะ
๑. เจริญสมาธิ
๒. เจริญสติ
๓. ได้วิริยะบารมี

 

น่าคิด

 

การสวดมนต์แบบถอยหลังว่ากันว่าขลัง แต่คำว่าขลังนี้เกิดมาจากอะไร แล้วรู้ได้อย่างไรกับคำคำนี้ เหมือนจิตเราที่กลัวความร้อนจากไฟที่อยู่ข้างหน้า แต่พอไปโดนความเย็นเข้าก็สะดุ้งนึกว่าร้อน ทุกสิ่งเกิดมาจากจิตกำหนด จะขลังหรือไม่คนเท่านั้นที่บอกได้แต่จะขลังไปทำไมเมื่อทุกสิ่งคือภาพมายาเท่านั้น มนุษย์คือสัตว์โลกที่ชอบกำหนดให้มันเป็นไป เมื่อครั้งบรรพกาลพุทธองค์ทรงสอนให้สวดเพื่อความขลังหรือ แล้วหลักธรรมจริงๆคืออะไร ตั้งหน้าทำสมาธิเพื่อการใด หลุดพ้นหรอ หลุดแล้วไปไหน ในเมื่อจิตยังอยู่กับสิ่งที่จิตก่อ

 

อืมๆ น่าสนใจคับ จะลองสวดกลับหลังบ้าง

 

จิตใจตั้งมั่นขึ้นนะครับ

 

อนุโมทนาค่ะ คิดว่าน่าจะช่วยเพิ่มสมาธิมากกว่านะ ส่วนเรื่องความขลังก็อาจเป็นส่วนหนึ่งก็ได้

 

ก็ดีนะผมว่า

 

อนุโมทนา

ก็ต้องขลังสิครับ
เพราะท่องกลับหลังได้ ก็ต้อง ไม่ใช่ธรรมดา สิครับ

มันก็ต้องแม่นยำ ทำให้เราจำดี โบราณท่านคงให้ทำสิ่งนี้เพื่อความจดจำ

เพราะตอนผมเรียนบรรณารักษ์

รุ่นพี่รับน้อง ให้ท่อง ก-ฮ กลับหลัง คือ ฮ-ก กับ Z-A

เพราะต้องใช้ในการเรียงหนังสือขึ้นชั้น และเรียงบรรณานุกรม

เป็น ฮ.นกฮูก อ.อ่าง ฬ.จุฬา ห.หีบ เป็นต้น

ส่วนถ้าเป็นท่อง จากหน้าไปตามปกติ ก็ต้องไม่มี ก.ไก่ ข.ไข่

ต้องท่อง กอ ขอ ฃอ คอ ฅอ ฆอ งอ จอ ฉอ ชอ อย่างนี้เลย ครับ

ห้ามมามี ก.เอ๋ย ก.ไก่ ละ

ตอนนี้หลับตามโนภาพได้ว่า ตัวอักษรอะไรอยู่ก่อนอะไร หลังอะไร

มันก็ขลังขึ้นมาตอนนี้แหละครับ ท่าน

 

(good) ผมว่าดีครับใครสวดอิติปิโสถอยหลังได้นะ ผมว่าเขาจะมีความจำที่ดีด้วย มีสมาธินิ่งด้วย

 

อ่อ อย่างนี้นี่เอง ...เดี๋ยวจะลองสวดดูมั่งนะคะ เย้ๆ โมทนาค่า

 

ขอให้จำเริญ ๆ เด้อ ซ้าทุ

 

ผมว่าถ้าถ่ิงกลับหลังผลของคาถาน่าจะเปลี่ยนนะครับ
แบบว่า อิติปิโส มีผลอีกอย่างเมื่อเราถ่องเดินหน้า
แต่ในตำราท่านบอกว่าจะสามารถสเดาะกุญแจได้ถ้าท่องกลับหลัง
ลองคิดดูเอานะครับ

 

ช่วยให้มีสมาธิดียิ่งขึ้น

 

ผลของคาถา อยู่ที่การวางกำลังใจของผู้ท่องนั้น

ถ้าการสวดถอยหลัง ทำให้มีกำลังใจดีๆ ก็มีผลสูงครับ

ถ้าการสวดปกติ มีกำลังใจดีๆ ก็มีผลสูงเหมือนกัน

เพราะถึงท่องผิดไป แต่กำลังใจเหมือนเดิม ผลก็ดีเหมือนเดิมครับ

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจครับ

อนุโมทนาครับ