New@ลูกสวาท ทาทอง จารปลายเหล็ก ปี66 วัดชายนา(สุดยอดเครื่องรางเมตตา มหาเสน่ห์)@น.54ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย punnapak, 19 มกราคม 2015.

  1. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 79 พระขุนแผน รุ่น2 เนื้อดินเผา โทนสีน้ำตาลดำ ปี48 หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    พระขุนแผน หลวงพ่อตัดวัดชายนา รุ่น2 เนื้อดินเผา เนื้อโทนน้ำตาลดำ ปี 48
    สุดยอดมหาเสน่ห์ - สาวหลง – คงกระพัน


    **เป็นรุ่นที่ติด1ใน5 สุดยอดวัตถุมงคล ของหลวงพ่อตัด

    ***ประสบการณ์และพุทธคุณเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวงการพระขุนแผนสำหรับ
    ***พระขุนแผนของหลวงพ่อตัด วัดชายนา โดยเฉพาะรุ่น 2 นี้ เน้นทางด้านเมตตามหานิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งคงความเป็นมหาอุต คงกระพัน แคล้วคลาด อันลือชื่อของหลวงพ่อตัด


    รุ่นนี้ทางวัดดำเนินการจัดสร้างเอง น่าใช้มาก พุทธคุณครอบคลุมทุกด้านค่ะ
    แคล้วคลาด คงกระพัน เสน่ห์เมตตา
    มีสองเนื้อ คือ เนื้อผงพุทธคุณ กับเนื้อดินเผา



    ***เนื้อดินเผานั้น พิมพ์ที่วัด เผาเองที่วัดโดยพระอาจารย์(หลวงพ่อตัด)เป็นผู้ดำเนินการผู้เดียวไม่ได้ให้เด็กวัดหรือ ศิษย์เข้าไปยุ่ง
    สร้างประมาณ8,000 องค์
    การเผา จึงทำให้สีพระมีหลายวรรณะ ทั้ง สีแดง สีนวล และสีดำ



    ***ความพิเศษของพระขุนแผนสำนักวัดชายนา คือ จะมีการวางยันต์ หัวใจพระสีวลี นะชาลีติ ไว้ เพื่อให้พระขุนแผนของวัดชายนา ใช้ได้ดีทั้งเมตตา และเงินทองค่ะ***

    วิธีบูชา ตั้งนะโม 3 จบจากนั้นจงทำจิตให้แน่วแน่เป็นสมาธินึกถึงพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์แล้ว ว่าคาถาดังต่อไปนี้ "อิติ ปาระมิตาติงสา อิติ สัพพัญญูมาคะตา อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเต นะโม พิศวาสหลงไหล พิศมัยยินดี ใจจิตคิดถึง เคล้าคึงวิญญา วิชชาจาระณะสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา"
    3จบ หรือ 7จบ ก็ได้แต่ที่สำคัญเลยเวลาที่ท่องคาถานี้เราต้องนึกถึงใบหน้าของบุคคลนั้นด้วย จึงจะสัมฤทธิประสิทธดีนักแล

    ขอบคุณข้อมูลจากเว็บเพื่อนบ้านนะคะ


    ***ขุนแผนองค์นี้สวยมากค่ะ ทั้งหน้าตาและยันต์ติดชัดเจนค่ะ ทั้งด้านหน้าและหลัง เนื้อโทนน้ำตาลดำขึ้นอยู่กับการเผาค่ะ)เลี่ยมพลาสติกเรียบร้อย พร้อมห้อยบูชาค่ะ

    ขนาดองค์พระ กว้าง 2.8 ซม. สูง 5 ซม. น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ


    ประสบการณมากมายจากผู้ที่ได้บูชาขุนแผนรุ่นนี้

    รับประกันพระแท้และความศักดิ์สิทธิ์ตลอดชีพ ทุกกรณีค่ะ
    จองบูชาแล้วค่ะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2017
  2. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 80 สมเด็จเปียก หลังยันต์นูน สุดยอดพระสมเด็จอันลือลั่น หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก

    สมเด็จเปียก พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์นูน ปี2533
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก


    มวลสารการจัดสร้าง
    จัดสร้างด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น
    ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม
    ผงพระวัดปากน้ำ
    ผงเก่าวัดระฆังฯโดยหลวงเตี่ยวัดโพธิ์เป็นผู้มอบให้และ
    ผงพุทธคุณต่างๆของหลวงพ่อยิดและ
    ***ที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำมันว่านสักยันต์ที่หลวงพ่อได้ผสมลงไปและเห็นเป็นคราบ สีเหลืองที่อยู่บนพื้นผิวขององค์พระ


    ***พระสมเด็จเปียกพิมพ์ใหญ่ หลังยันต์นูน จำนวนการจัดสร้างเพียง 1,000 องค์
    ***พระสมเด็จเปียกพิมพ์ใหญ่ หลังยันต์จม จำนวนการจัดสร้างเพียง 500 องค์


    ***สมเด็จรุ่นนี้ดังมานานมากแล้ว และเป็นพระรุ่นแรกๆของหลวงพ่อยิดที่ดังมาช้านานที่เรียกกันว่าพระสมเด็จ เปียกเนื่องจากพระสมเด็จรุ่นนี้ผสมแก่น้ำมันว่านสักยันต์หลวงพ่อยิดจึงทำให้ พระแข็งตัวช้าบางองค์ใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะแข็งตัวลูกศิษย์จึงเรียกติด ปากว่าพระสมเด็จเปียก“พระสมเด็จเปียก”
    จะมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีอย่างสูงยิ่ง


    ***พระสมเด็จที่มีคุณค่าแบบนี้ใช่ว่าจะหาบูชากันง่ายๆ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองไปถามกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อและผู้ที่เคยใช้ บูชา แล้วจะรู้ว่าคำว่า “พระดีจริงๆ” นั้นเป็นเช่นไร

    ***เป็นพระสมเด็จรุ่นที่หลวงพ่อยิดปลุกเสก และลูกศิษย์และพระลูกวัด เห็นกระจายเต็มห้องต่อหน้าต่อตาค่ะ สุดยอดที่จะบรรยายจริงๆสำหรับพุทธคุณสมเด็จเปียก

    ***พระสภาพสวยค่ะ เป็นพิมพ์ใหญ่ หลังยันต์นูน จัดสร้างเพียง1,000องค์ พร้อมมวลสารสุดยอดดังที่กล่าวด้านบน และหาบูชาได้ยากยิ่ง

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพนะคะ
    ผู้ศรัทธานอกเว็บ บูชาแล้วค้า^^
    <table height="63" cellpadding="0" cellspacing="0" width="507"><tbody><tr align="center"><td>
    </td></tr><tr align="center"> <td>
    </td></tr><tr><td>
    </td></tr></tbody></table>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__6324278.jpg
      S__6324278.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.5 KB
      เปิดดู:
      189
    • S__6324279.jpg
      S__6324279.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74 KB
      เปิดดู:
      59
    • S__6324277.jpg
      S__6324277.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.2 KB
      เปิดดู:
      206
    • 861.jpg
      861.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      83
    • 756-0004.jpg
      756-0004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      208
    • 1394724614_3.jpg
      1394724614_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.3 KB
      เปิดดู:
      143
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2015
  3. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอทราบราคาบูชารายการที่80 ครับ
     
  4. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณ เมธี เรียบร้อยค้า^^

    ขอบพระคุณมากๆนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    ประวัติ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก

    หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโน หรือ พระครูนิยุตธรรมสุนทร แห่งวัดหนองจอก ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ท่านเป็นอีกหนึ่ง ในบรรดาพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมอภิญญาอาคมขลัง ท่านถวายตัวเป็นถตาคตสืบทอดและเผยแพร่พุทธศาสนาตามแนวทางของพระศาสดาอย่าง แท้จริง อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างวัดหนองจอกด้วยมือของท่านเอง จากที่รกร้างเต็มไปด้วยป่าไผ่และดงหนาม จนสำเร็จเป็นวัดที่เจริญและงดงามในปัจจุบัน


    ย้อนกลับไปประมาณซัก 10 ปี ผู้ที่นิยมพระเครื่องน้อยคนที่ไม่รู้จักชื่อ หลวงพ่อยิดแห่งวัดหนองจอก ด้วยที่ว่างานสรงน้ำปีละครั้งเดียว (หมายถึงว่า ใน 1 ปีหลวงพ่อยิดท่าน อาบน้ำเพียง 1 ครั้งคือในงานสรงน้ำนั่นเอง)

    และจะอนุญาติให้ลูกศิษย์ที่มาสรงน้ำท่านใช้แปรงทองเหลือง (ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำความสะอาดพื้นปูนซีเมนต์) ขัดทำความสะอาดตัวท่าน โดยที่แปรงทองเหลืองที่แสนคมหาได้ระคายผิวหนังของหลวงพ่อยิดแม้ซักนิด เป็นข่าวขจรขจายไปทั่วในเวลานั้น ส่วนวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดที่ขึ้นชื่อคือ ปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหารย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงพ่อยิดติด ตัวแล้วจะดีเด่นในด้าน เมตตามหานิยมและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงอีกทั้งมีผู้ประสบ เหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภจากการบูชาวัตถุมงคลจากหลวงพ่อยิดติดตัว ชื่อเสียงของหลวงพ่อยิดจึงโด่งดังมากในยุคนั้น ปัจจุบันแม้หลวงพ่อยิดท่านได้ละสังขารไปแล้ว แต่วัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ดีเด่นในด้านเมตตาแคล้วคลาด เล่นหาบูชากันในวงกว้าง

    ชาติภูมิ

    หลวงพ่อยิดท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2476 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด มีนามเดิมว่ายิด ศรีดอกบวบ บิดาชื่อ แก้ว มารดาชื่อพร้อย มีพี่น้องร่วมสายโลหิต 7 คน ท่านเป็นคนที่ 4

    อุปสมบท

    เมื่ออายุ 6 ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์ พระอาจารย์หวล วัดนาพรม (ท่านเป็นน้าของ ด.ช.ยิด) และเห็นว่าเป็นเด็กที่ชอบอยู่วัด และจะเดินตามหลวงน้าไปวัดทุก ๆ วัน ในตอนเช้าหลังจากใส่บาตรแล้ว ครั้นอายุได้ 9 ขวบได้บวชเป็นสามเณร ณ.วัดนาพรหม โดยมีพระอธิการหวล (หลวงน้า) เป็นอุปฌาย์ ได้ศึกษาอักขระเลขยันต์และฝึกปฏิบัติสมาธิกับพระอธิการหวล และครูหลี แม้นเมฆ มีความสนใจในด้านวิชาอาคม สักยันต์และร่ำเรียนศึกษาพระธรรมวินัย ควบคู่กันไป และได้ขออนุญาติออกธุดงค์วัตรกับพระอุปฌาย์ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร โดยออกธุดงค์เป็นเวลา 4ปี และได้ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาตอนอายุ 14 ปี และในช่วงนี้นี่เองที่หลวงพ่อยิด เริ่มมีชื่อเสียงจากการ สักยันต์ เนื่องจากเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน ได้ลองให้หลวงพ่อยิด สักยันต์ ให้แล้วเกิดมีประสบการณ์ จึงเล่ากันปากต่อปากและมีผู้มาสักยันต์มากขึ้น (ขณะนั้นอายุประมาณ 17-19 เท่านั้น)

    เมื่ออายุได้ 20 ปีก็ได้อุปสมบทตามประเพณี โดยมีหลวงพ่ออินทร์ วัดยางเป็นพระอุปฌาย์ พระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า จันทสุวัณโณ และได้ศึกษาด้านวิชาอาคม เพิ่มเติมโดยฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อศุข วัดโตนดหลวง และได้ออกธุดงค์ศึกษากรรมฐานหายเข้าป่าหลายปีจนได้กลับมาวัดนาพรหม ในปี พ.ศ. 2487 ก็ได้ทราบข่าวการป่วยของบิดา จึงคอยดูแลจนกระทั่งบิดาเสียจึงลาสิกขาออกมาดูแลมารดาซึ่งแก่ชรามาก และได้แต่งงานมีครอบครัว ส่วนลูกศิษย์เก่า ๆ ที่ได้จากการสักจากหลวงพ่อ พอรู้ข่าวก็ได้มาสักกันเพิ่มขึ้นจนมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่มีบางคนที่ได้รับการสักยันต์จากหลวงพ่อแล้วกลับประพฤติตนเป็นอันธพาล จนทางตำรวจท้องที่ต้องขอร้องอาจารย์ยิด(ขณะนั้น) ให้เพลา ๆ การสักยันต์ลง

    ต่อมาจึงมีการเลือกเฟ้นจนแน่ใจแล้ว จึงจะทำการสักให้ จนกระทั่งปี 2518 จึงได้อุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก โดยมีหลวงพ่อเปี่ยมเป็นพระอุปฌาย์ ได้รับฉายา จันทสุวัณโณ เช่นเดิม ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 51 ปี เมื่ออุปสมบทแล้วก็เดินทางไปจำพรรษาเป็นพระลูกวัดที่ วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรีจ.ประจวบฯ ได้พบกับอุบาสิกาใจบุญ 2 ท่าน ยกพื้นที่ดินว่างเปล่าพื้นที่ 21 ไร่ 2 งาน ให้โดยปรารถนาให้ท่านสร้างวัดขึ้น ที่ดินผืนนี้เต็มไปด้วย ป่าไผ่ และดงต้นหนาม ซึ่งหลวงพ่อได้ปลูกกระต๊อบหลังเล็ก ๆ ไว้ และก็เริ่มถางป่าไผ่ พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนพื้นที่รกทึบเริ่มโล่งมากขึ้น จนกระทั่งบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการสักยันต์ และพวกที่เคยได้รับการรักษายาสมุนไพร ได้รู้ข่าวการสร้างวัดใหม่ของหลวงพ่อก็ได้มาร่วมกันสร้างวัดด้านผู้ชายก็ ช่วยถากถาง ผู้หญิงก็ช่วยหุงหาอาหาร แจกจ่ายและได้รวมกันสร้างกุฏิขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ ในขั้นแรก และต่อมาได้พัฒนาเป็นวัดหนองจอกในปัจจุบัน

    มรณภาพ


    เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2538 สิริอายุ 71 ปี 30 พรรษา

    วัตถุมงคล


    หลวงพ่อยิด ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลแบบทดลองสร้างดูพุทธคุณตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์ยิด โดยสร้างเป็นตะกรุดเพียงไม่กี่ดอก ได้มาเริ่มสร้างวัตถุมงคลแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนสร้างวัดหนองจอกนี่เอง โดยสร้างเป็นเหรียญรูปหล่อ และปลัดขิก และสร้างเรื่อยมา เพราะลูกศิษย์ลูกหาต่างแสวงหา เพราะต่างก็เชื่อมั่นในพุทธคุณของวัตถุมงคลที่หลวงพ่อจัดสร้างขึ้น




    ประวัติ หลวงพ่อยิด อีกหนึ่งที่มา... มีดังต่อไปนี้ครับ

    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เสก “ปลัดขิก” จนกระดิกได้

    เมื่อพูดถึง “ปลัดขิก” นับเป็นเครื่องรางของขลังที่พระเกจิอาจารย์ดังในอดีตหลายองค์นิยมสร้างกัน อาทิ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา,หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี,หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก เพชรบุรี, ฯลฯ

    ปลัดขิกของแต่ละท่าน ล้วนโด่งดัง-เข้มขลังด้วยประสบการณ์ เล่าขานสืบมาจนทุกวันนี้ หนึ่งในเกจิอาจารย์ที่สร้างตำนาน “ปลัดขิก” จนดังสะท้านประเทศก็คือ “หลวงพ่อยิด จนฺทสุวณฺโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ วิทยาคมของท่านนั้นแก่กล้าขนาดที่ว่า สามารถเสกปลัดขิกบินรอบวัด ก่อนจะแจกจ่ายให้ญาติโยม นี่คือเรื่องจริงที่หลายๆ คนได้ประจักษ์กับสายตามาแล้ว

    หลวงพ่อยิด เกิดในสกุล “สีดอกบวบ” เมื่อวันอังคารที่ 10 มิ.ย. 2467 ณ บ้านหัวหรวด ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ของนายแก้ว และ นางพร้อย

    สมัยเด็กไปอยู่กับหลวงพ่อหวล (มีศักดิ์เป็นน้า) ที่วัดประดิษฐนาราม (วัดนาพรม) จนกระทั่งบวชเป็นเณรเมื่ออายุ 9 ขวบ และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ ภาษาขอม เลขยันต์ พร้อมกับเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง

    อายุ 14 ปีลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัว ซึ่งย้ายไปประกอบอาชีพ ที่อ.กุยบุรี จนอายุ 20 ปีก็กลับมาอุปสมบทที่วัดนาพรม มีหลวงพ่ออินทร์ (เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรีขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหวล เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอาจารย์พ่วง วัดสำมะโรง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “จนฺทสุวณฺโณ” มีความหมายว่า “ผู้มีวรรณะดุจพระจันทร์”

    ต่อมาบิดาเสียชีวิต ท่านจึงลาสิกขาออกมาดูแลมารดา และได้มีครอบครัว อยู่กินกับนางธิติจนมีบุตรหนึ่งคน ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งในปี พ.ศ.2517 ณ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาผู้มีจิตศรัทธาซึ่งเลื่อมใสในตัวท่านได้มอบที่ดิน 21 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี ให้สร้างเป็นสำนักสงฆ์ชื่อ “สำนักสงฆ์พุทธไตรรัตน์” เมื่อปี พ.ศ.2518 ก่อนจะขออนุญาตสร้างเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2527 ตั้งชื่อว่า “วัดหนองจอก” ปี พ.ศ.2535 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานพัดยศแก่ท่าน เป็น “พระครูนิยุตธรรมสุนทร”

    หลวงพ่อยิด นั้นได้ชื่อนักพัฒนาที่มีฝีมือรูปหนึ่ง เห็นได้จากการสร้างสรรค์พัฒนาให้วัดหนองจอก จนเป็นวัดที่สมบูรณ์มีถาวรวัตถุทางศาสนาครบ ยากที่จะหาวัดใดๆ สร้างได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ ท่านยังพัฒนาจิตใจและการศึกษาของเด็กและเยาวชนอย่างเต็มที่ โดยสนับสนุนด้านทุนการศึกษา,ทุนอาหารกลางวันแก่โรงเรียนหลายแห่งใน จ.ประจวบฯ รวมทั้งร่วมสร้างสาธารณประโยชน์แก่สถานที่ราชการและหน่วยราชการมากมาย

    สมัยยังชีวิต ท่านมีกิจนิมนต์ในการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังทั่วประเทศจนแทบไม่มีเวลา พักผ่อน ในวันเสาร์ 5 ท่านปลุกเสกวัดแรกที่ จ.นครสวรรค์ วัดสุดท้ายที่วัดหนองจอก แต่ละวัดจะปลุกเสกวัดละ 30 นาที รวมทั้งหมดวันเดียวปลุกเสก 9 วัด

    การรับแขกของหลวงพ่อยิดแต่ละวันนั้น บางวันแทบไม่ได้ลุกไปห้องน้ำเลย นอกจากฉันอาหารเพลเท่านั้น แม้แต่ยามอาพาธ ก็ยังแสดงความอดทน ออกมาต้อนรับญาติโยมเหมือนไม่เป็นอะไรเลย

    ยิ่งเรื่องการเขียน การจารวัตถุมงคลด้วยแล้ว บางวันถึงขนาดไม่ได้ฉันข้าวก็มี เมื่อเขียน,จารเสร็จแล้ว ท่านจะเอานิ้วที่ซีดแนบเนื้อติดกระดูกให้ผู้อยู่ใกล้ชิดดู จนต้องช่วยกันบีบนวดให้เพราะสงสารท่าน





    เรื่องแปลกของหลวงพ่อยิดเรื่องหนึ่งก็คือ ท่านสรงน้ำปีละครั้ง ในเดือน 4 ในวันอาทิตย์แรกของข้างแรม สาเหตุก็เนื่องมาจาก ท่านได้รับปากกับอาจารย์ที่สอนวิชาอาคมให้สมัยที่ยังเป็นฆราวาส เมื่อเรียนจบแล้ว ท่านก็อาบน้ำ จนกระทั่งบวชเป็นพระก็สรงน้ำปีละครั้งตลอดมาจนมรณภาพ

    ลูกศิษย์และผู้เคารพศรัทธาจะเอาแปรงทองเหลืองขัดตัวท่าน ท่านจะยิ้มเพราะไม่เจ็บ และไม่ระคายผิวหนังแม้แต่น้อย กระทั่งปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมา จึงงดใช้แปรงขัดเนื่องจากหมอขอร้อง เพราะแม้ผิวหนังท่านจะคงกระพันจริง แต่เนื้อและเส้นโลหิตไม่ได้คงกระพันด้วย อาจจะเป็นอันตรายได้

    ท่านมักจะสอนศิษย์เสมอว่า การที่จะปลุกเสกวัตถุมงคลให้ขลังนั้นจะต้องมีสมาธิ และสัจจะ โดยเฉพาะสัจจะสำคัญมาก เพราะฉะนั้น วัตถุทุกชนิดเมื่อผ่านการปลุกเสกจากท่าน จึงเชื่อถือกันว่ามีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ที่โด่งดังและรู้จักกันดีทั่วประเทศก็คือ “ปลัดขิก” ซึ่งท่านปลุกเสกจนกระดุกกระดิกเคลื่อนไหวได้ เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็น

    แม้แต่ผู้ที่มีความรู้เป็นถึงนักเรียนนอกอย่าง ม.ล.ปาณสาร หัสดินทร อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ยังนับถือ เพราะได้ประสบมากับตาตนเอง คุณวิเศษในปลัดขิกที่ผ่านการปลุกเสกจากท่าน ใช้ดีในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ค้าขาย เรื่องแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ตะขาบ แตน ต่อ แมงป่อง เอาไปวนบริเวณที่กัดจะหายเป็นปลิดทิ้งทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธาเป็นที่ตั้ง

    แต่สิ่งหนึ่งที่ฝังอยู่ในใจศิษย์ตลอดมาก็คือภาพอดีตที่ฉายให้เห็นถึงคุณงามความดีที่
    ท่านสร้างไว้ให้วัดหนองจอก,พระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งไม่มีวันลบเลือนไปง่ายๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    สวัสดีวันพระใหญ่ค่ะ^^

    ทำบุญ สร้างกุศล สร้างบารมี กันนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2015
  7. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้คุณกฤช เรียบร้อยค้า^^

    เลขEMS EN5340 9756 8TH
    ขอบคุณมากๆค้า^^

     
  8. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 81 สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด ปี49 เนื้อแดง(หายากสุด)ตะกรุดทองเหลือง

    สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด ตะกรุดทองเหลือง ปี49 เนื้อแดง(หายากที่สุด)

    สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    หลวงพ่อตัด ท่านได้เคล็ดลับนี้มาจากหลวงพ่อกริช วัดเขากระจิว ในการทำพระพิมพ์สมเด็จเยี่ยวชะนีนั้น

    มวลสารสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้ก็มีอยู่ด้วยกัน 4 อย่างคือ
    1.ยอดสวาท
    2.ยอดรักซ้อน
    3.ยอดสาวหลง
    4.เยี่ยวชะนี

    แต่ถึงกระนั้นภายหลังก็มีการเพิ่มว่านและมวลสารที่เน้นหนักในด้านเมตตามหา เสน่ห์อีกหลายอย่างใส่เพิ่มเตืมเช้าไปเต็มที่ในการสร้างแต่ละครั้งด้วย

    ในส่วนของเยี่ยวชะนีนั้น ส่วนใหญ่จะได้มาจากวัดหนองตาแต้ม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราที่วัดนั้นเลี้ยงชะนีไว้ ส่วนการเก็บเยี่ยวชะนีก็จะเก็บมาโดยเอาใบมะยม ใบขนุน ใบคูณ รองให้ชะนีเยี่ยวรด แล้วนำใบไม้มาผึงแดด และบดเป็นผง
    ***ในส่วนของการปลุกเสกก็ใช้คาถา"นะมหาอ่อนใจ " และ นะเมตตา เป็นหลักในการปลุกเสกวัตถุมงคล ด้านเมตตาของวัดชายนาทั้งหมด

    ***ซึ่งวิชานะเมตตา หลวงพ่อท่านได้เรียนมาจาก หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี ส่วนวิชานะมหาอ่อนใจนั้น เป็นวิชาจากฆารวาสชื่อโยมมอญ ซึ่งหลวงพ่อเรียนอยู่ถึง 3 ปี เพราะโยมมอญท่านหวงวิชานี้มาก

    พระพิมพ์สมเด็จเยี่ยวชะนี สุดยอดเนื้อผง สุดยอดเมตตา มหาเสน่ห์

    องค์พระขนาดพระ 2.5 x 3.5 ซ.ม. ขนาดกำลังน่าบูชา

    ***สมเด็จเยี่ยวชะนี ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเนื้อผงของวัดชายนาเลยทีเดียว พิมพ์นี้เคยสร้างครั้งแรกในปี 2548 มีหลายโทนเนื้อ กดพิมพ์ในแต่ล่ะเนื้อไม่มากนัก ต่อมาในช่วงปี 2549-2550 ก็มีการจัดสร้างอีกครั้ง ในปีนี้มีจัดทำไว้ด้วยกันหลายเนื้อ เริ่มกดพิมพ์ครั้งแรกประมาณปลายปี2549ถึงต้นปี 2550 เป็นเนื้อขาวครีมปัจจุบันขึ้นคราบไขสวยงาม มีทั้งฝังตะกรุดทองคำ เงินแท้ ทองเหลือง ช่วงกลางปี 2550 ก็มีกดพิมพ์อีก มีด้วยกันหลายเนื้อ เช่น เขียว ขาว ดำ เหลือง ออกน้ำตาล เทา เนื้อออกลายๆก้นครก

    ***เนื้อที่กดในช่วงปลายปี49ถึงต้นปี50และกลางปีนั้นค่อนข้างนิยมโดยเฉพาะ องค์ ที่กดพิมพ์หนาๆ เพราะมีน้อย เหตุเพราะได้เข้าพิธีปลุกเสกใหญ่รวมเกจิเมืองเพชรหลายองค์ และเข้าพิธีปลุกเสกในคืนวันเพ็ญ ปี 2550 ด้วย

    ***รวมๆแล้วทุกเนื้อที่กดพิมพ์ตั้งแต่ปลายปี49ถึงต้นปี50ถึงกลางปี 2550 ไม่น่าเกิน 1000 องค์ นอกจากนี้ก็ยังมีการกดพิมพ์อีกครั้งช่วงต้นปี 2551 เนื้อออกสีแดง แล้วก็ทำลายบล็อกทิ้ง ปิดตำนานการสร้างสมเด็จเยี่ยวชะนี

    ***ซึ่งรวมแล้วทั้งหมด ที่ทางวัดใช้พิมพ์นี้ในการสร้างสมเด็จเยี่ยวชะนีพิมพ์นี้ มีไม่เกิน 3000 องค์

    ***ถือเป็นพระผงอีกหนึ่งรุ่นที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และทรงคุณค่าเพราะเป็นพระที่สร้างและทำมือที่วัดทุกขั้นตอน

    ***ประกอบกับผู้ที่นำไปบูชาล้วนมีประสบการณ์มากมายในเรื่องเมตตา มหาเสนห์ โชคลาภ อย่างน่าอัศจรรย์


    คาถาสำหรับอารธณาสมเด็จเยี่ยวชะนี และวัตถุมงคลด้านเมตตาของวัดชายนา

    คาถานะมหาอ่อนใจ

    นะ มหาอ่อนใจ พุทหลงไหล หล่ามล้น โมพระบ้าบ่นพึมพำ ธาระกำหัวอก สังฆะวิตก มาหาธัมมะโศกาน้ำตาไหล ยังมีสายใจ อาลัยหลง ยะจงงง จงจังงัง ****** **** นะโมพุทธายะ

    ขอบพระคุณข้อมูลจากเว็บเพื่อนบ้านนะคะ

    ***สำหรับองค์นี้เนื้อแดงค่ะ(เนื้อหายากที่สุด)
    ฝังตะกรุดทองเหลือง


    ***พระหนาล่ำ พระสภาพสวยมากๆค่ะ(พระสภาพสวยหาได้ยาก เนื่องจากส่วนมากเนื้อจะแตกรานเนื่องจากการกดพิมพ์)

    สุดยอดมหาเมตตา มหานิยม เป็นของดีรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสบการณ์มากมายจนเล่าไม่หมดค่ะ

    รับประกันพระแท้และความศักดิ์สิทธิ์ตลอดชีพค่ะ
    บูชาแล้วค่ะ โดยคุณกฤช^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2015
  9. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 82 สมเด็จปรกโพธิ์ หลังหนุมานเชิญธง เสาร์5ปี36 หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก

    สมเด็จปรกโพธิ์ หลังหนุมานเชิญธง เสาร์5 ปี2536
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก


    ***สุดยอดพุทธคุณโดดเด่นมาก เรื่องการงาน มหาอำนาจ มหาบารมี มหาเสน่ห์ และมหาเศรษฐี อย่างยิ่งยวด
    ***ทั้งมหามวลสาร ทั้งมหาพุทธคมของเกจิอาจารย์ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อีกทั้งความบริสุทธิ์ในการจัดสร้างเองและกดพิมพ์ทั้งหมดเองที่วัด


    ความเป็นมาของการจัดสร้าง
    เมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๕ ทางผู้เขียน นายไชยา อ่ำสำอางค์ หรือพระไชยา ปัญญาธโร ในขณะนั้น ได้เปิดดูปฏิทิน ปีพ.ศ.๒๕๓๖ พบว่าวัน ที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นวันเสาร์ ๕ จึงนำความเรื่องนี้ปรึกษากับหลวงพ่อยิดว่าจะทำพระสมเด็จปรกโพธิ์ให้หลวงพ่อ ได้เก็บไว้แจกใน วันเสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อท่านจึงอนุญาติให้จัดสร้างจึงเรียก ช่างเผด็จ กิตติโสภาพันธุ์ ไปแกะบล็อกเป็น พระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์ครู หลังจากแกะบล็อกเสร็จได้นำไปให้หลวงพ่อดูพอหลวงพ่อได้ดูบล็อกแล้วท่านได้พูด แบบภาษาเพชรบุรีว่า
    “เห็นทำแต่หลังยันต์ครูกันหลังหนุมานตัวเก่งของฉันไม่มีใครทำเลย”ด้วย เหตุผลและคำพูดของหลวงพ่อคำนี้เลยต้องให้ช่างไปแกะบล็อกด้านหลังใหม่เป็นหนุ มานเชิญธงหลวงพ่อยิดท่าน เขียนยันต์หนุมาน ให้ไม่ทันท่านจึงบอกช่างให้ไปเอา แบบหนุมานเชิญธง ในหนังสือมหายันต์หลังจากที่ช่างแกะบล็อกเสร็จเรียบร้อยแล้วได้นำกลับมาให้ หลวงพ่อดูอีกครั้งท่านได้บอกว่าดีแล้วจากในบางครั้งที่ท่านไปเจอพระเนื้อ ขาวๆที่โรงงานกดพิมพ์มาเองเพื่อเป็นตัวอย่างมีบ้าง ไม่เกิน ๑๐ องค์ ความตั้งใจแรกที่จะให้โรงงานปั๊มขึ้นมา ๑๐,๐๐๐ องค์ พอหลวงพ่อได้ยินว่าให้ปั๊มที่โรงงานท่านจึงบอกว่าทำไมไม่ปั๊มกันเองด้วยความ เกรงใจช่างได้ถามช่างว่าจะว่าอย่างไร ช่างเผด็จ จึงบอกว่าถ้าหลวงพ่อต้องการอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรปั๊มที่วัดก็ได้งั้นบล็อก นี้ไม่คิดตังค์ขอถวายให้หลวงพ่อไปเลยงานหน้าถ้ามีอะไรจะให้รับใช้ก็บอกจาก นั้นจึงได้ปรึกษาหลวงพ่อต่อว่าจะปั๊มอย่างไรผสมผงอย่างไรเพราะทุกคนไม่มี ประสบการณ์หลวงพ่อท่านจึงบอกให้ไปหาผงว่านมาจึงได้ผงว่านมาต่างๆนาๆและที่ มากที่สุดคือว่านสาวหลง หลวงพ่อท่านยังให้ไปเก็บเปลือกหอยชายทะเลและเปลือกหอยที่ว่านี้ตามที่หลวงพ่อบอก หาได้เพียงสองที่คือชายหาดริมทะเลบางควาย อ.ชะอำ ชายหาดริมทะเลบ้านใหม่ หมู่ที่ ๑ ต.สามร้อยยอด อ.ปราณบุรี (ในสมัยนั้น) ผงปูนขาวกล้วยน้ำว้าน้ำผึ้งเดือนห้า ข้าวก้นบาตรตอนเช้าที่พระบิณฑบาตได้มา เกศาหลวงพ่อและสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อบอกมีคนนำรูปเหมือน รัชกาลที่ ๕ ทรงยืนขนาดองค์ใหญ่ชำรุด มีคนนำมาทิ้งไว้ที่หน้าพระอุโบสถวัดหนองจอกหลวงพ่อท่านบอกว่าอันนั้นดีมาก เป็นพิธีใหญ่ของสำนักพุทธประทีป พ.ศ.๒๕๐๐ เอาผงที่องค์รัชกาลที่ ๕ มาตำผสมใส่ด้วยยังมีการนำว่านดอกทอง ที่นำมาจากวัดทุ่งแฝก ด.หนองพลับ อ.หัวหิน ในสมัยนั้น โดยคุณประทวน (อ๊อด) พันธุ์ฟัก บ้านหนองยายอ่วม แนะนำไปขอมาจากอดีตเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ผงเทวดาศักดิ์สิทธิ์บนฝาผนังถ้ำลับแล ต.หนองพับ ที่ชาวบ้านที่นั่นนับถือเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์มาผสมด้วย ใช้พระกับเณรช่วยกันตำผงว่านต่าง ๆ นานา ชนิด เปลือกหอยใช้ตะแกรงร่อนแป้งร่อนผงออกมาในองค์พระท่านจะเห็นเป็นเส้นหยาบ ๆ นั้นคือว่านสาวหลงเห็น เป็นเม็ดข้าวก้นบาตรก็มีเห็นมีเกศาข้างในก็มีเพราะผสมรวมกันกับผงด้วยเหตุผล ด้วยจิตที่มุ่งมั่นด้วยจิตที่บริสุทธิ์ช่วยกันตำผงโดยใช้ครกไม้สมัยโบราณโชค ดีที่เจ้าอาวาสวัดท่าลาว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้ให้พระกับเณรมาช่วยกันตำผงและช่วยกันปั๊มองค์พระครกแรกแก่ว่านจึงออกน้ำตาลดำครกที่สองอ่อนว่านลงมานิดจึงออกน้ำตาลอมขาวเหลือง ครกที่ สามผงและผงปูนเปลือกหอยมากหน่อยจึงออกอมขาวความตั้งใจที่จะทำ ๑๐,๐๐๐ องค์จึงได้ไม่ถึงพระกับเณรช่วยกันตำด้วยจิตที่เป็นกุศลถึงกับสู้ไม่ไหวมือ ไม้แตกเจ็บมือขณะที่ตำผงกันช่วยกันตำครั้งละ ๒ รูป รูปหนึ่งขณะที่ตำหลวงพ่อสอนให้ภาวนา นะมะพะทะ - มะพะทะนะ - พะทะนะมะ - ทะนะมะพะ อีกรูปหนึ่งหลวงพ่อสอนให้ภาวนา นะโมพุทธายะ - โมพุทธายะนะ - พุทธายะนะโม - ธายะนะโมพุท - ยะนะโมพุทธา หลวงพ่อท่านบอกว่านั่นคือการเรียกธาตุเล็กธาตุใหญ่น้อมจิตด้วยความตั้งใจ จริงอันบริสุทธิ์จึงสามารถปั๊มพระรุ่นนี้ขึ้นมาได้ทั้งหมดสามครก เมื่อนับรวมแล้วได้ ๔,๖๘๒ องค์ ครกแรกได้ประมาณ ๕๐๐ องค์ ครกที่สองได้มาประมาณ ๑,๕๐๐ องค์ส่วน ที่เหลือ คือครกที่สามจะเห็นได้ว่าเจอสีขาวมากกว่าส่วนที่เห็นเป็นตะกรุดทองคำหรือ ตะกรุดเงินคือพระกับเณรที่ช่วยกันตำผงขออนุญาตต่อหลวงพ่อให้ลงตะกรุดให้แล้ว นำมาปั๊มไว้บูชากันเองผมคิดว่าน่าจะมีไม่เกินอย่างละ๕องค์จึงหายากมาก ๆจน แทบไม่อยากจะพูดถึงแต่ก็ต้องขอบอกทุกท่านเอาไว้เผื่อท่านใดโชคดีไปเจอมาก็ ต้องดูให้ดีนะครับต้องเป็นการกดปั๊มในพิมพ์เท่านั้นไม่ใช่เป็นการเจาะฝังและ ตะกรุดหลวงพ่อยิด รอยจารต้องชัดเจนนี้คือที่มาของพระสมเด็จหลังหนุมานเชิญธงเสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๓๖ หลังจากที่ปั๊มพระเป็นองค์แล้วพระจะแห้งช้ามากเพราะประสบการณ์ที่เราไม่รู้ เมื่อพระแห้งช้ามากจึงได้นำแล็กเกอร์เคลือบเอาไว้ที่แห้งก่อนก็ไม่ได้เคลือบ ท่านอาจจะเจอมีทั้งเคลือบและไม่เคลือบแล็กเกอร์หนุมานติดชัดสมบรูณ์ก็มีติด ไม่ชัดก็มีเพราะเป็นพระที่พระกับเณรช่วยกันปั๊มขึ้นมาความสวยความโดดเด่นอาจ จะน้อยแต่มากด้วยพุทธคุณสูงสุด ๆ ปลายเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๓๖ ทำเสร็จแล้วบรรจุใส่ลังไว้ในกุฏิหลวงพ่อท่านได้ปลุกเสกมาตลอดจนถึง วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ที่เป็น วันเสาร์ ๕ คืนนั้น หลวงพ่อได้ปลุกเสกเป็นคืนสุดท้ายจึงได้แจกออกไปให้กับศิษยานุศิษย์โดยหลวง พ่อท่านได้ถวายให้วัดท่าลาวไปแจกงานทอดผ้าป่า ๑,๐๐๐ องค์ ถวายไปแจกงานทอดผ้าป่าวัดไร่เนินอีกประมาณ ๑,๕๐๐ องค์ และที่เหลือหลวงพ่อยิดท่านได้เป็นผู้แจกเองทั้งหมด

    ทำไม!!
    พระเครื่องรุ่นนี้ถึงมีคุณวิเศษมากมาย และเป็นที่แสวงหาของนักสะสมพระเครื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่ามีส่วนผสมของว่านสาวหลงมากที่สุดในบรรดาพระเครื่องของหลวง พ่อยิด และที่ด้านหลังยังมียันต์หนุมานตัวเก่งของหลวงพ่อยิดอีก นี้แหละของดีสุดยอดที่สุดของหลวงพ่อ

    ต้องยอมรับ อย่างยิ่งว่าสมเด็จปกโพธิ์หลังหนุมานเชิญธงเสาร์ ๕ ปี พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นการหล่อหลอมจากจิตอันบริสุทธิ์ของพระสงฆ์ทุกองค์ในสมัยนั้น และทำตามขั้นตอนตามคำบัญชาจากหลวงพ่อยิด ทุกขั้นตอน ในการสร้างพระชุดนี้เริ่มต้นตั้งแต่ผสมผงและตำผงให้ละเอียดก่อนจะนำมาผสมกับ มวลสารต่าง ๆ ตำจนผงเหนียวแน่นได้ที่ จึงนำออกมาปั้มเป็นองค์ ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจอย่างสูงในขณะนั้นไม่มีแม้แต่ฆราวาสคนเดียวที่ เข้ามายุ่งเกี่ยวเป็นพระสงฆ์และสามเณรล้วน ๆ ที่ได้สร้างพระรุ่นนี้ให้เป็นองค์ขึ้นมาได้ ขณะที่ตำผงหรือปั้มพระไม่มีแม้แต่คำพูดคุยกันเพราะทุกองค์ ต้องมีใจเป็นองค์ภาวนาคาถาอยู่ตลอด ที่หลวงพ่อยิดท่านได้สอนบอกมา ถ้ามีการคุยกันตอนไหนในเรื่องอื่น ๆ ก็ต้องหยุดตำผงหรือปั้มพระก่อนและเลือกทำปั๊มองค์พระเป็นช่วง ๆ เวลา ในแต่ละวันใช้เวลาในฤกษ์ดี ๆ ฤกษ์มหาสิทธิโชค เป็นต้น ในแต่ละวันหลวงพ่อยิดท่านบอกไว้ว่ายกตัวอย่างวันนี้มีฤกษ์ดีเวลาเท่าไหร่ ถึงเวลาเท่าไหร่ ตอนกลางวันและตอนกลางคืนเราจะใช้ฤกษ์ยามอันนั้น ปั๊มเป็นองค์พระในเวลานั้นๆที่หลวงพ่อยิดได้กำหนดไว้ให้ในแต่ละวัน ส่วนมากจะเป็นราชาฤกษ์กับฤกษ์มหาสิทธิ์โชค ที่หลวงพ่อยิดท่านบอกและกำหนดตารางเวลามาให้ ในจำนวนพระทั้งหมดครกหนึ่ง ครกสอง ครกสาม ผมเองในสมัยนั้น (หมายถึงพระอาจารย์ไชยา) เป็นคนนั่งปั๊มประมาณ 90% ที่เหลือจะเป็นพระหลวงตาวัดท่าลาวอีกรูปหนึ่ง ที่ช่วยปั๊มและได้รับการมอบหมายจากครูบาอาจารย์จากหลวงพ่อยิดเรียกว่าต้อง ขึ้นครูก่อนกับหลวงพ่อยิดถึงจะมามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำพระรุ่นนี้ได้ และด้วยประสบการณ์ที่ไม่มีกันเวลาปั๊มออกมาบางองค์ก็ติดหนุมานชัดบ้าง บางองค์ก็ไม่ชัดบ้าง เนื่องจากส่วนผสมบางอย่างอ่อนบ้างแก่บ้าง องค์ไหนแห้งช้า จึงได้ใช้แลคเกอร์เคลือบเอาไว้ ถึงได้เห็นว่ามีทั้งเคลือบแลคเกอร์และไม่เคลือบ การเคลือบแลคเกอร์นั้นผมเป็นคนเคลือบเองทั้งหมดในสมัยนั้น ยังมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยอีกมากมายในการสร้างพระรุ่นนี้ จึงนำข้อมูลมาให้ทราบพอโดยสังเขป

    สรุปสุดท้ายพระรุ่น นี้สร้างจากความบริสุทธิ์ใจไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆทั้งสิ้น และเพื่อเชิดชูคุณบารมีของหลวงพ่อยิด ที่เป็นหนุมานตัวโปรดของท่าน เรื่องกล่าวขานอีกมากมาย ให้เป็นตำนาน เล่าขานชั่วลูกชั่วหลาน


    !!หมายเหตุ....
    จุด ดำๆที่ได้เห็นในสมเด็จปกโพธิ์หลังหนุมานเชิญธง นั้นคือมวลสาร เม็ดกล้วยน้ำหว้าและผงผิวที่เคลือบองค์เสด็จพ่อ ร.๕ ที่เห็นเป็นเส้นๆเป็นว่านสาวหลง จะออกสีน้ำตาลบ้าง ออกน้ำตาลอมแดงบ้าง ถ้าส่องกล้องไปแล้วที่เห็นเป็นเกล็ดๆ คือเกล็ดเปลือกหอยมงคลต่างๆ บางองค์ก็เห็นเส้นเกศาหลวงพ่อยิดโผล่ออกมาก็มี เพราะผสมในครกตอนตำผงไม่ได้โรย ตอนปั้มเป็นองค์ สำหรับเนื้อว่านยังมีอีกมากมาย ว่านเฒ่าหนังแห้ง ว่านนางกวัก ว่านมหาสิทธิโชค เป็นต้น และที่เห็นเป็นเส้นดำๆคือว่านเขาหลง จากเทือกเขาภูพานดานสาวคอย อ.นาแก จ.นครพนม และในบางองค์จะเห็นว่าองค์พระเป็นรู นั้นคือเม็ดข้าวก้นบาตร ที่เป็นก้อนตำไม่แหลกเวลาแห้งตัวสนิทบางองค์จะหลุดออกมาจึงทำให้ที่องค์พระ เป็นร่องรอยเหมือนรูโดยตัวเจาะหรือบางองค์ไม่หลุดออกมาก็จะเห็นเม็ดใสๆ หรืออมแดง บางองค์ใสจนกลายเป็นเม็ดพระธาตุ นั้นคือเม็ดข้าวก้นบาตร ที่หลวงพ่อยิดท่านได้ให้นำออกมาผสมเป็นมวลสาร เป็นต้น (พระสมเด็จปรกโพธิ์หลังหนุมาน)


    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    องค์นี้บูชาแล้วค้า โดยผู้ศรัทธานอกเว็บค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2015
  10. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอราคารายการที่ 81,82
     
  11. krit_kasem

    krit_kasem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +751
    ขอจองตาม pm นะครับคุณแพร
    รายการที่ 81 สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด ปี49 เนื้อแดง(หายากสุด)ตะกรุดทองเหลือง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2015
  12. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 83 ขุนแผนรุ่น1 พิมพ์ใหญ่ พิมพ์แขนอ่อน ปี47 เนื้อน้ำตาลเข้ม สุดสวยค่ะ หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    ขุนแผนรุ่น1 พิมพ์ใหญ่ พิมพ์แขนอ่อน ปี47 เนื้อดิน เนื้อโทนน้ำตาลเข้ม
    หลวงพ่อตัด วัดชายนา


    ***สุดยอดของขุนแผนเมตตา มหาเสน่ห์ อันโด่งดัง เป็นที่ประจักษ์และยอมรับในวงการพระเครื่องพระขุนแผน


    ***ขุนแผนรุ่น1ของหลวงพ่อตัด วัดชายนา เล่ากันว่าลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงวัดได้แกะบล็อกมาถวาย ซึ่งในการกดพิมพ์ช่วงแรกนั้น จะเป็นพระขุนแผนที่มีลักษณะแขนตรงพาดเข่าลงไป บางองค์จะมีการเขียนเลขหนึ่งใหญ่ที่ฐานบ่งบอกว่าพระชุดนี้มีการผสมผงลงไป ด้วยค่อนข้างเยอะในส่วนขององค์ที่แขน ตรงนั้นมีราวๆ 200 องค์

    ***หลังจากนั้นจึงมีการแก้บล็อกโดยใช้เข็มสกิดให้แขนออกด้านข้าง ซึ่งแบบนี้เป็นแบบที่เราคุ้นเห็นและเห็นกันอยู่บ่อยๆ ด้านหลัง จารมือหลายยันต์ หลายแบบ หรือเรียบไม่ได้จารก็มี ยันต์ด้านหลังองค์พระแยกเป็นยันต์ต่างๆ เช่น ยันต์ปลายศีล ยันต์นะหน้าทอง ยันต์นะปัดตลอด ยันต์นะปัฐมัง ฯลฯ

    ***จำนวนสร้างของพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ทั้งก่อนและหลังแก้บล็อกสร้างไว้ราวๆ 4,500 องค์ แต่เนื่องจากการกดพิมพ์ในสมัยนั้นทำด้วยมือล้วนๆ จึงทำให้พระส่วนใหญ่แตกหัก มีสภาพไม่สมบูรณ์ จึงทำให้มีหมุนเวียนอยู่ไม่มาก อีกทั้งผู้ที่มีครอบครองเก็บบูชากันหมด
    เนื่องด้วยประสบการณ์ในด้านมหาเสน่ห์ มหาเมตตา เด่นชัดเป็นอย่างมาก และเป็นที่ประจักษ์ยอมรับกันในวงการพระเครื่องพระขุนแผน จึงทำให้หาบูชาได้ยากยิ่ง

    ***องค์นี้เป็นพระขุนแผนรุ่น1 พิมพ์ใหญ่ พิมพ์แขนอ่อน(แขนออกด้านข้าง) เนื้อดิน เนื้อโทนน้ำตาลเข้ม สวยมากๆค่ะ สำหรับองค์นี้ ทั้งหน้าตาและยันต์ด้านหลัง หลวงพ่อกดพิมพ์ติดชัดเจนมากค่ะ จัดสร้างเป็นรุ่นแรก เมื่อปี47

    *ขนาดองค์พระค่อนข้างใหญ่ ขนาดประมาณ 3.3x6 ซม.*

    ***ด้านหลังจารยันต์ปลายศีล โดดเด่นมากโดยเฉพาะเรื่องการเจรจาธุรกิจ ติดต่อ ค้าขาย เป็นเมตตามหาเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งค่ะ และหายากมากๆค่ะ สำหรับองค์สวยสมบูรณ์แบบนี้

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพทุกกรณีค่ะ
    บูชาแล้วค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2016
  13. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณ กฤช เรียบร้อยค่ะ^^

    ขอบพระคุณมากๆนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 84 สมเด็จปรกโพธิ์ หลังหนุมานเชิญธง (เนื้อแก่ว่านสาวหลง ครกแรก) หพ.ยิด วัดหนองจอก

    สมเด็จปรกโพธิ์ หลังหนุมานเชิญธง เสาร์5 ปี2536
    (เนื้อแก่ว่านสาวหลง ครกแรก)
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก


    ***สุดยอดพุทธคุณโดดเด่นมาก เรื่องการงาน มหาอำนาจ มหาบารมี มหาเสน่ห์ และมหาเศรษฐี อย่างยิ่งยวด อีกทั้งยังคงความเป็นมหาอุต
    ***ทั้งมหามวลสาร ทั้งมหาพุทธคมของสุดยอดเกจิอาจารย์อันเลื่องชื่อ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    อีกทั้งความบริสุทธิ์ในการจัดสร้างเองและกดพิมพ์ทั้งหมดเองที่วัด



    ความเป็นมาของการจัดสร้าง
    เมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๕ ทางผู้เขียน นายไชยา อ่ำสำอางค์ หรือพระไชยา ปัญญาธโร ในขณะนั้น ได้เปิดดูปฏิทิน ปีพ.ศ.๒๕๓๖ พบว่าวัน ที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นวันเสาร์ ๕ จึงนำความเรื่องนี้ปรึกษากับหลวงพ่อยิดว่าจะทำพระสมเด็จปรกโพธิ์ให้หลวงพ่อ ได้เก็บไว้แจกใน วันเสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อท่านจึงอนุญาติให้จัดสร้างจึงเรียก ช่างเผด็จ กิตติโสภาพันธุ์ ไปแกะบล็อกเป็น พระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์ครู หลังจากแกะบล็อกเสร็จได้นำไปให้หลวงพ่อดูพอหลวงพ่อได้ดูบล็อกแล้วท่านได้พูด แบบภาษาเพชรบุรีว่า
    “เห็นทำแต่หลังยันต์ครูกันหลังหนุมานตัวเก่งของฉันไม่มีใครทำเลย”ด้วย เหตุผลและคำพูดของหลวงพ่อคำนี้เลยต้องให้ช่างไปแกะบล็อกด้านหลังใหม่เป็นหนุ มานเชิญธงหลวงพ่อยิดท่าน เขียนยันต์หนุมาน ให้ไม่ทันท่านจึงบอกช่างให้ไปเอา แบบหนุมานเชิญธง ในหนังสือมหายันต์หลังจากที่ช่างแกะบล็อกเสร็จเรียบร้อยแล้วได้นำกลับมาให้ หลวงพ่อดูอีกครั้งท่านได้บอกว่าดีแล้วจากในบางครั้งที่ท่านไปเจอพระเนื้อ ขาวๆที่โรงงานกดพิมพ์มาเองเพื่อเป็นตัวอย่างมีบ้าง ไม่เกิน ๑๐ องค์ ความตั้งใจแรกที่จะให้โรงงานปั๊มขึ้นมา ๑๐,๐๐๐ องค์ พอหลวงพ่อได้ยินว่าให้ปั๊มที่โรงงานท่านจึงบอกว่าทำไมไม่ปั๊มกันเองด้วยความ เกรงใจช่างได้ถามช่างว่าจะว่าอย่างไร ช่างเผด็จ จึงบอกว่าถ้าหลวงพ่อต้องการอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรปั๊มที่วัดก็ได้งั้นบล็อก นี้ไม่คิดตังค์ขอถวายให้หลวงพ่อไปเลยงานหน้าถ้ามีอะไรจะให้รับใช้ก็บอกจาก นั้นจึงได้ปรึกษาหลวงพ่อต่อว่าจะปั๊มอย่างไรผสมผงอย่างไรเพราะทุกคนไม่มี ประสบการณ์หลวงพ่อท่านจึงบอกให้ไปหาผงว่านมาจึงได้ผงว่านมาต่างๆนาๆและที่ มากที่สุดคือว่านสาวหลง หลวงพ่อท่านยังให้ไปเก็บเปลือกหอยชายทะเลและ เปลือกหอยที่ว่านี้ตามที่หลวงพ่อบอก หาได้เพียงสองที่คือชายหาดริมทะเลบางควาย อ.ชะอำ ชายหาดริมทะเลบ้านใหม่ หมู่ที่ ๑ ต.สามร้อยยอด อ.ปราณบุรี (ในสมัยนั้น) ผงปูนขาวกล้วยน้ำว้าน้ำผึ้งเดือนห้า ข้าวก้นบาตรตอนเช้าที่พระบิณฑบาตได้มา เกศาหลวงพ่อและสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อบอกมีคนนำรูปเหมือน รัชกาลที่ ๕ ทรงยืนขนาดองค์ใหญ่ชำรุด มีคนนำมาทิ้งไว้ที่หน้าพระอุโบสถวัดหนองจอกหลวงพ่อท่านบอกว่าอันนั้นดีมาก เป็นพิธีใหญ่ของสำนักพุทธประทีป พ.ศ.๒๕๐๐ เอาผงที่องค์รัชกาลที่ ๕ มาตำผสมใส่ด้วยยังมีการนำว่านดอกทอง ที่นำมาจากวัดทุ่งแฝก ด.หนองพลับ อ.หัวหิน ในสมัยนั้น โดยคุณประทวน (อ๊อด) พันธุ์ฟัก บ้านหนองยายอ่วม แนะนำไปขอมาจากอดีตเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ผงเทวดาศักดิ์สิทธิ์บนฝาผนังถ้ำลับแล ต.หนองพับ ที่ชาวบ้านที่นั่นนับถือเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์มาผสมด้วย ใช้พระกับเณรช่วยกันตำผงว่านต่าง ๆ นานา ชนิด เปลือกหอยใช้ตะแกรงร่อนแป้งร่อนผงออกมาในองค์พระท่านจะเห็นเป็นเส้นหยาบ ๆ นั้นคือว่านสาวหลงเห็น เป็นเม็ดข้าวก้นบาตรก็มีเห็นมีเกศาข้างในก็มีเพราะผสมรวมกันกับผงด้วยเหตุผล ด้วยจิตที่มุ่งมั่นด้วยจิตที่บริสุทธิ์ช่วยกันตำผงโดยใช้ครกไม้สมัยโบราณโชค ดีที่เจ้าอาวาสวัดท่าลาว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้ให้พระกับเณรมาช่วยกันตำผงและช่วยกันปั๊มองค์พระครกแรกแก่ว่านจึงออกน้ำตาลดำครกที่สองอ่อนว่านลงมานิดจึงออกน้ำตาลอมขาวเหลือง ครกที่ สามผงและผงปูนเปลือกหอยมากหน่อยจึงออกอมขาวความตั้งใจที่จะทำ ๑๐,๐๐๐ องค์จึงได้ไม่ถึงพระกับเณรช่วยกันตำด้วยจิตที่เป็นกุศลถึงกับสู้ไม่ไหวมือ ไม้แตกเจ็บมือขณะที่ตำผงกันช่วยกันตำครั้งละ ๒ รูป รูปหนึ่งขณะที่ตำหลวงพ่อสอนให้ภาวนา นะมะพะทะ - มะพะทะนะ - พะทะนะมะ - ทะนะมะพะ อีกรูปหนึ่งหลวงพ่อสอนให้ภาวนา นะโมพุทธายะ - โมพุทธายะนะ - พุทธายะนะโม - ธายะนะโมพุท - ยะนะโมพุทธา หลวงพ่อท่านบอกว่านั่นคือการเรียกธาตุเล็กธาตุใหญ่น้อมจิตด้วยความตั้งใจ จริงอันบริสุทธิ์จึงสามารถปั๊มพระรุ่นนี้ขึ้นมาได้ทั้งหมดสามครก เมื่อนับรวมแล้วได้ ๔,๖๘๒ องค์ ครกแรกได้ประมาณ ๕๐๐ องค์ ครกที่สองได้มาประมาณ ๑,๕๐๐ องค์ส่วน ที่เหลือ คือครกที่สามจะเห็นได้ว่าเจอสีขาวมากกว่าส่วนที่เห็นเป็นตะกรุดทองคำหรือ ตะกรุดเงินคือพระกับเณรที่ช่วยกันตำผงขออนุญาตต่อหลวงพ่อให้ลงตะกรุดให้แล้ว นำมาปั๊มไว้บูชากันเองผมคิดว่าน่าจะมีไม่เกินอย่างละ๕องค์จึงหายากมาก ๆจน แทบไม่อยากจะพูดถึงแต่ก็ต้องขอบอกทุกท่านเอาไว้เผื่อท่านใดโชคดีไปเจอมาก็ ต้องดูให้ดีนะครับต้องเป็นการกดปั๊มในพิมพ์เท่านั้นไม่ใช่เป็นการเจาะฝังและ ตะกรุดหลวงพ่อยิด รอยจารต้องชัดเจนนี้คือที่มาของพระสมเด็จหลังหนุมานเชิญธงเสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๓๖ หลังจากที่ปั๊มพระเป็นองค์แล้วพระจะแห้งช้ามากเพราะประสบการณ์ที่เราไม่รู้ เมื่อพระแห้งช้ามากจึงได้นำแล็กเกอร์เคลือบเอาไว้ที่แห้งก่อนก็ไม่ได้เคลือบ ท่านอาจจะเจอมีทั้งเคลือบและไม่เคลือบแล็กเกอร์หนุมานติดชัดสมบรูณ์ก็มีติด ไม่ชัดก็มีเพราะเป็นพระที่พระกับเณรช่วยกันปั๊มขึ้นมาความสวยความโดดเด่นอาจ จะน้อยแต่มากด้วยพุทธคุณสูงสุด ๆ ปลายเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๓๖ ทำเสร็จแล้วบรรจุใส่ลังไว้ในกุฏิหลวงพ่อท่านได้ปลุกเสกมาตลอดจนถึง วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ที่เป็น วันเสาร์ ๕ คืนนั้น หลวงพ่อได้ปลุกเสกเป็นคืนสุดท้ายจึงได้แจกออกไปให้กับศิษยานุศิษย์โดยหลวง พ่อท่านได้ถวายให้วัดท่าลาวไปแจกงานทอดผ้าป่า ๑,๐๐๐ องค์ ถวายไปแจกงานทอดผ้าป่าวัดไร่เนินอีกประมาณ ๑,๕๐๐ องค์ และที่เหลือหลวงพ่อยิดท่านได้เป็นผู้แจกเองทั้งหมด


    ทำไม!! พระเครื่องรุ่นนี้ถึงมีคุณวิเศษมากมาย และเป็นที่แสวงหาของนักสะสมพระเครื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่ามีส่วนผสมของว่านสาวหลงมากที่สุดในบรรดาพระเครื่องของหลวง พ่อยิด และที่ด้านหลังยังมียันต์หนุมานตัวเก่งของหลวงพ่อยิดอีก นี้แหละของดีสุดยอดที่สุดของหลวงพ่อ

    ต้องยอมรับ อย่าง ยิ่งว่าสมเด็จปกโพธิ์หลังหนุมานเชิญธงเสาร์ ๕ ปี พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นการหล่อหลอมจากจิตอันบริสุทธิ์ของพระสงฆ์ทุกองค์ในสมัยนั้น และทำตามขั้นตอนตามคำบัญชาจากหลวงพ่อยิด ทุกขั้นตอน ในการสร้างพระชุดนี้เริ่มต้นตั้งแต่ผสมผงและตำผงให้ละเอียดก่อนจะนำมาผสมกับ มวลสารต่าง ๆ ตำจนผงเหนียวแน่นได้ที่ จึงนำออกมาปั้มเป็นองค์ ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจอย่างสูงในขณะนั้นไม่มีแม้แต่ฆราวาสคนเดียวที่ เข้ามายุ่งเกี่ยวเป็นพระสงฆ์และสามเณรล้วน ๆ ที่ได้สร้างพระรุ่นนี้ให้เป็นองค์ขึ้นมาได้ ขณะที่ตำผงหรือปั้มพระไม่มีแม้แต่คำพูดคุยกันเพราะทุกองค์ ต้องมีใจเป็นองค์ภาวนาคาถาอยู่ตลอด ที่หลวงพ่อยิดท่านได้สอนบอกมา ถ้ามีการคุยกันตอนไหนในเรื่องอื่น ๆ ก็ต้องหยุดตำผงหรือปั้มพระก่อนและเลือกทำปั๊มองค์พระเป็นช่วง ๆ เวลา ในแต่ละวันใช้เวลาในฤกษ์ดี ๆ ฤกษ์มหาสิทธิโชค เป็นต้น ในแต่ละวันหลวงพ่อยิดท่านบอกไว้ว่ายกตัวอย่างวันนี้มีฤกษ์ดีเวลาเท่าไหร่ ถึงเวลาเท่าไหร่ ตอนกลางวันและตอนกลางคืนเราจะใช้ฤกษ์ยามอันนั้น ปั๊มเป็นองค์พระในเวลานั้นๆที่หลวงพ่อยิดได้กำหนดไว้ให้ในแต่ละวัน ส่วนมากจะเป็นราชาฤกษ์กับฤกษ์มหาสิทธิ์โชค ที่หลวงพ่อยิดท่านบอกและกำหนดตารางเวลามาให้ ในจำนวนพระทั้งหมดครกหนึ่ง ครกสอง ครกสาม ผมเองในสมัยนั้น (หมายถึงพระอาจารย์ไชยา) เป็นคนนั่งปั๊มประมาณ 90% ที่เหลือจะเป็นพระหลวงตาวัดท่าลาวอีกรูปหนึ่ง ที่ช่วยปั๊มและได้รับการมอบหมายจากครูบาอาจารย์จากหลวงพ่อยิดเรียกว่าต้อง ขึ้นครูก่อนกับหลวงพ่อยิดถึงจะมามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำพระรุ่นนี้ได้ และด้วยประสบการณ์ที่ไม่มีกันเวลาปั๊มออกมาบางองค์ก็ติดหนุมานชัดบ้าง บางองค์ก็ไม่ชัดบ้าง เนื่องจากส่วนผสมบางอย่างอ่อนบ้างแก่บ้าง องค์ไหนแห้งช้า จึงได้ใช้แลคเกอร์เคลือบเอาไว้ ถึงได้เห็นว่ามีทั้งเคลือบแลคเกอร์และไม่เคลือบ การเคลือบแลคเกอร์นั้นผมเป็นคนเคลือบเองทั้งหมดในสมัยนั้น ยังมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยอีกมากมายในการสร้างพระรุ่นนี้ จึงนำข้อมูลมาให้ทราบพอโดยสังเขป

    สรุปสุด ท้ายพระรุ่น นี้สร้างจากความบริสุทธิ์ใจไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆทั้งสิ้น และเพื่อเชิดชูคุณบารมีของหลวงพ่อยิด ที่เป็นหนุมานตัวโปรดของท่าน เรื่องกล่าวขานอีกมากมาย ให้เป็นตำนาน เล่าขานชั่วลูกชั่วหลาน

    !!หมายเหตุ....จุด ดำๆที่ได้เห็นในสมเด็จปกโพธิ์หลังหนุมานเชิญธง นั้นคือมวลสาร เม็ดกล้วยน้ำหว้าและผงผิวที่เคลือบองค์เสด็จพ่อ ร.๕ ที่เห็นเป็นเส้นๆเป็นว่านสาวหลง จะออกสีน้ำตาลบ้าง ออกน้ำตาลอมแดงบ้าง ถ้าส่องกล้องไปแล้วที่เห็นเป็นเกล็ดๆ คือเกล็ดเปลือกหอยมงคลต่างๆ บางองค์ก็เห็นเส้นเกศาหลวงพ่อยิดโผล่ออกมาก็มี เพราะผสมในครกตอนตำผงไม่ได้โรย ตอนปั้มเป็นองค์ สำหรับเนื้อว่านยังมีอีกมากมาย ว่านเฒ่าหนังแห้ง ว่านนางกวัก ว่านมหาสิทธิโชค เป็นต้น และที่เห็นเป็นเส้นดำๆคือว่านเขาหลง จากเทือกเขาภูพานดานสาวคอย อ.นาแก จ.นครพนม และในบางองค์จะเห็นว่าองค์พระเป็นรู นั้นคือเม็ดข้าวก้นบาตร ที่เป็นก้อนตำไม่แหลกเวลาแห้งตัวสนิทบางองค์จะหลุดออกมาจึงทำให้ที่องค์พระ เป็นร่องรอยเหมือนรูโดยตัวเจาะหรือบางองค์ไม่หลุดออกมาก็จะเห็นเม็ดใสๆ หรืออมแดง บางองค์ใสจนกลายเป็นเม็ดพระธาตุ นั้นคือเม็ดข้าวก้นบาตร ที่หลวงพ่อยิดท่านได้ให้นำออกมาผสมเป็นมวลสาร เป็นต้น (พระสมเด็จปรกโพธิ์หลังหนุมาน)

    ***สำหรับองค์นี้เป็นเนื้อแก่ว่านต่างๆ โดยเฉพาะแก่ว่านสาวหลงเป็นอย่างมากค่ะ กดพิมพ์มาจากครกแรก ซึ่งจัดสร้างเพียง500องค์ ซึ่งเป็นครกที่แก่มวลสารมากที่สุดค่ะ

    องค์นี้มีบิ่นด้านหน้านิดหนึ่งนะคะ สภาพสวยตรงตามรูปทุกประการค่ะ สุดยอดพระผงพุทธคุณ สุดยอดพระรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อยิด ที่มากด้วยประสบการณ์ และหาบูชาได้ยากยิ่งค่ะ

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    ปิดรายการค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__6979590.jpg
      S__6979590.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.5 KB
      เปิดดู:
      108
    • S__6979591.jpg
      S__6979591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      74
    • 756-0004.jpg
      756-0004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      58
    • 861.jpg
      861.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      70
    • 415717-38f3b.jpg
      415717-38f3b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      73
    • 1394724614_3.jpg
      1394724614_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.3 KB
      เปิดดู:
      81
    • showimage.jpg24.jpg
      showimage.jpg24.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.1 KB
      เปิดดู:
      62
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2019
  15. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 85 เหรียญ"มั่งมีทรัพย์" หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ปี45

    เหรียญ"มั่งมีทรัพย์" หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ปี2545
    "สุดยอดเหรียญประสบการณ์เรื่องมหาเศรษฐี มหาโชค มหาลาภ"

    พิธีพุทธาภิเษก ปลุกเสกวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545

    รายนามสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 9 รูป ร่วมพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลัง คือ
    1.หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี
    2.หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี
    3.หลวงพ่อผล วัดหนองแขม จ.เพชรบุรี
    4.หลวงพ่อหวล วัดนิคม จ.เพชรบุรี
    5.หลวงพ่อเสนาะ วัดป้อม จ.เพชรบุรี
    6.หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี
    7.หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด จ.เพชรบุรี
    8.หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    9.หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว จ.นครปฐม


    มีการจัดสร้างทั้งสิ้น 4 เนื้อ
    1.เนื้อทองคำ สร้าง 20 เหรียญ
    2.เนื้อเงิน สร้าง 519 เหรียญ
    3.เนื้อนวะโลหะ สร้าง 505 เหรียญ
    4.เนื้อทองแดง สร้าง 20,000 เหรียญ

    ***เหรียญนี้เป็นเนื้อทองแดงค่ะ สภาพสวยมากทั้งด้านหน้าและหลังติดยันต์ชัดเจน ไม่ผ่านการใช้งาน ตอกโค้ดด้านหน้า สุดยอดเหรียญประสบการณ์โดดเด่นมากเรื่องโชคลาภเงินทองดั่งชื่อรุ่น
    "มั่งมีทรัพย์"


    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    บูชาแล้วค่ะ^^
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    มีเพียง 1 เหรียญ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__7077909.jpg
      S__7077909.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.1 KB
      เปิดดู:
      59
    • S__7077910.jpg
      S__7077910.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • 12-300.jpg
      12-300.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.9 KB
      เปิดดู:
      64
    • 03-250.jpg
      03-250.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41 KB
      เปิดดู:
      96
    • 09-300.jpg
      09-300.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      97
    • 07-250.jpg
      07-250.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.8 KB
      เปิดดู:
      88
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  16. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    รายการที่ 86 สมเด็จเยี่ยวชะนี เนื้อโทนเหลือง ฝังตะกรุดทองเหลือง ปี49 จารหมึกทอง หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    สมเด็จเยี่ยวชะนี ฝังตะกรุดทองเหลือง ปี49 เนื้อโทนเหลือง จารหมึกทอง
    หลวงพ่อตัด วัดชายนา


    สมเด็จเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา

    หลวงพ่อตัด ท่านได้เคล็ดลับนี้มาจากหลวงพ่อกริช วัดเขากระจิว ในการทำพระพิมพ์สมเด็จเยี่ยวชะนีนั้น

    มวลสารสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้ก็มีอยู่ด้วยกัน 4 อย่างคือ
    1.ยอดสวาท
    2.ยอดรักซ้อน
    3.ยอดสาวหลง
    4.เยี่ยวชะนี


    แต่ถึงกระนั้นภายหลังก็มีการเพิ่มว่านและมวลสารที่เน้นหนักในด้านเมตตามหา เสน่ห์อีกหลายอย่างใส่เพิ่มเตืมเช้าไปเต็มที่ในการสร้างแต่ละครั้งด้วย

    ใน ส่วนของเยี่ยวชะนีนั้น ส่วนใหญ่จะได้มาจากวัดหนองตาแต้ม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราที่วัดนั้นเลี้ยงชะนีไว้ ส่วนการเก็บเยี่ยวชะนีก็จะเก็บมาโดยเอาใบมะยม ใบขนุน ใบคูณ รองให้ชะนีเยี่ยวรด แล้วนำใบไม้มาผึงแดด และบดเป็นผง
    ***ในส่วนของการปลุกเสกก็ใช้คาถา"นะมหาอ่อนใจ " และ นะเมตตา เป็นหลักในการปลุกเสกวัตถุมงคล ด้านเมตตาของวัดชายนาทั้งหมด


    ***ซึ่งวิชานะเมตตา หลวงพ่อท่านได้เรียนมาจาก หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี ส่วนวิชานะมหาอ่อนใจนั้น เป็นวิชาจากฆารวาสชื่อโยมมอญ ซึ่งหลวงพ่อเรียนอยู่ถึง 3 ปี เพราะโยมมอญท่านหวงวิชานี้มาก

    พระพิมพ์สมเด็จเยี่ยวชะนี สุดยอดเนื้อผง สุดยอดเมตตา มหาเสน่ห์

    องค์พระขนาดพระ 2.5 x 3.5 ซ.ม. ขนาดกำลังน่าบูชา

    ***สมเด็จเยี่ยวชะนี ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเนื้อผงของวัดชายนาเลยทีเดียว พิมพ์นี้เคยสร้างครั้งแรกในปี 2548 มีหลายโทนเนื้อ กดพิมพ์ในแต่ล่ะเนื้อไม่มากนัก ต่อมาในช่วงปี 2549-2550 ก็มีการจัดสร้างอีกครั้ง ในปีนี้มีจัดทำไว้ด้วยกันหลายเนื้อ เริ่มกดพิมพ์ครั้งแรกประมาณปลายปี2549ถึงต้นปี 2550 เป็นเนื้อขาวครีมปัจจุบันขึ้นคราบไขสวยงาม มีทั้งฝังตะกรุดทองคำ เงินแท้ ทองเหลือง ช่วงกลางปี 2550 ก็มีกดพิมพ์อีก มีด้วยกันหลายเนื้อ เช่น เขียว ขาว ดำ เหลือง ออกน้ำตาล เทา เนื้อออกลายๆก้นครก

    ***เนื้อที่กดในช่วงปลายปี49ถึงต้นปี50และกลางปีนั้นค่อนข้างนิยมโดยเฉพาะ องค์ ที่กดพิมพ์หนาๆ เพราะมีน้อย เหตุเพราะได้เข้าพิธีปลุกเสกใหญ่รวมเกจิเมืองเพชรหลายองค์ และเข้าพิธีปลุกเสกในคืนวันเพ็ญ ปี 2550 ด้วย

    ***รวมๆแล้วทุกเนื้อที่กดพิมพ์ตั้งแต่ปลายปี49ถึงต้นปี50ถึงกลางปี 2550 ไม่น่าเกิน 1000 องค์ นอกจากนี้ก็ยังมีการกดพิมพ์อีกครั้งช่วงต้นปี 2551 เนื้อออกสีแดง แล้วก็ทำลายบล็อกทิ้ง ปิดตำนานการสร้างสมเด็จเยี่ยวชะนี

    ***ซึ่งรวมแล้วทั้งหมด ที่ทางวัดใช้พิมพ์นี้ในการสร้างสมเด็จเยี่ยวชะนีพิมพ์นี้ มีไม่เกิน 3000 องค์

    ***ถือเป็นพระผงอีกหนึ่งรุ่นที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และทรงคุณค่าเพราะเป็นพระที่สร้างและทำมือที่วัดทุกขั้นตอน

    ***ประกอบกับผู้ที่นำไปบูชาล้วนมีประสบการณ์มากมายในเรื่องเมตตา มหาเสนห์ โชคลาภ อย่างน่าอัศจรรย์


    คาถาสำหรับอารธณาสมเด็จเยี่ยวชะนี และวัตถุมงคลด้านเมตตาของวัดชายนา

    คาถานะมหาอ่อนใจ

    นะ มหาอ่อนใจ พุทหลงไหล หล่ามล้น โมพระบ้าบ่นพึมพำ ธาระกำหัวอก สังฆะวิตก มาหาธัมมะโศกาน้ำตาไหล ยังมีสายใจ อาลัยหลง ยะจงงง จงจังงัง ****** **** นะโมพุทธายะ

    ขอบพระคุณข้อมูลจากเว็บเพื่อนบ้านนะคะ

    ***องค์นี้สภาพสวยมากค่ะ เนื้อออกโทนเหลือง ฝังตะกรุดทองเหลือง ด้านหลังจารหมึกทอง พระหนาล่ำเนื้อมวลสารจัด
    (พระสภาพสวยหาได้ยากมาก เนื่องจากส่วนมากเนื้อจะแตกราน ไม่สมบูรณ์เนื่องจากการกดพิมพ์)


    ***สุดยอดมหาเมตตา มหานิยม เป็นของดีรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสบการณ์มากมายจนเล่าไม่หมดค่ะ


    รับประกันพระแท้และความศักดิ์สิทธิ์ตลอดชีพค่ะ
    ราคาพิเศษทางpmนะคะ

    ***องค์สุดสวย องค์สุดท้าย หายากจริงๆค่ะ
    บูชามาจากวัดชายนาโดยตรง
    กำลังรอเจ้าของมาบูชาไปเป็นพระคู่บุญบารมีนะคะ
    รับประกันพระสวยแท้ตลอดอายุพระนะคะ***

    บูชาแล้วค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 566.jpg
      566.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.4 KB
      เปิดดู:
      123
    • 567.jpg
      567.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.3 KB
      เปิดดู:
      97
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.5 KB
      เปิดดู:
      68
    • 7501512980_984c7b8db9_b.jpg
      7501512980_984c7b8db9_b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      388.3 KB
      เปิดดู:
      57
    • LpTard2.jpg
      LpTard2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.2 KB
      เปิดดู:
      73
    • spd_20110901223556_b.jpg
      spd_20110901223556_b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2017
  17. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +1,014
    ถ้ายังอยู่จองครับ ตะกรุดมหาอุต ปี49 ขนาด3นิ้ว ลงอักขระมหาอุตโดยเฉพาะ เหลือให้บูชาอีก 1 ดอก ราคาบูชา 399 บาท
     
  18. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +1,014
    โอนเงินแล้วครับเมื่อ 09/10/15 เวลา 06.51 น.จำนวน 400 บาท ส่งของที่
    นายสมชาย รอดนุช 78/2 หมู่ 8 ถนนพระประโทน-บ้านแพ้ว ต.ดอนยายหอม
    อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
     
  19. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +699
    แจ้งจัดส่งพัสดุเรียบร้อยค้า^^

    เลขEMS EN8761 7785 2TH
    ขอบคุณมากนะคะ^^
     
  20. pinrat

    pinrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +1,235
    ขอราคาครับ+++++++++++

     

แชร์หน้านี้

Loading...