เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ปิดตาองค์นี้ก็เป็นพระผงของหลวงปู่ทิมในยุคต้นอีกแบบหนึ่ง
    เป็นพระผงที่สร้างยุคแรกๆของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    คนรุ่นเก่าจะเรียกว่าพระปิดตาเนื้อน้ำตาล มีพิมพ์ใหญ่และเล็ก
    สูง1นิ้ว หนาอวบ เนื้อสีน้ำตาลเข้ม ผสมเกศาฝังพลอย ผงทอง
    เนื้อหาแน่นตัวและแห้งแกร่ง ยันต์หลังกดประทับเป็นธรรมชาติ
    ไม่เจอในสารบบพระปลอมของ ลป.ทิม ลงไว้เพื่อการพิจารณา
    จากข้อมูลของเจ้าของเดิม พระปิดตาพิมพ์นี้สร้างไว้ก่อนปี 15
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    รูปถ่ายยุคแรกๆแบบนี้ หลวงปู่ทิมได้เสกและจารไว้แน่นอน
    เจอบทความในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ฉบับวันที่ 16 สค.58

    http://www.dailynews.co.th/article/341806
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2015
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระปิดตาไม้แกะ อุดกริ่ง ของหลวงปู่ทิม ระยอง
    เป็นของดีเยี่ยมยอด ที่ทำไว้ในยุคแรกๆของท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Leonzz

    Leonzz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +363
    สุดยอดข้อมูลดีๆ
    องค์ในตำนานเลยครับองค์นี้
    มวรสารจัดจ้านมากๆ ขาวๆหม่นๆหนึกๆนุ่ม ดูง่ายสบายตาตลอดเวลา
    :cool:
     
  5. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
     
  6. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    รูปภาพหลวงปู่แบบนี้ใช่ที่ลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่16สิงหาคม 2558 รึเปล่าครับ:cool::cool:
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ที่เห็นมาสององค์จากพวงสร้อยพระที่เจ้าของเขาแขวนติดตัว ของคนที่ได้รับตกทอดจากพ่อซึ่งเป็นคนรุ่นเก่าที่ทำบุญสร้างโบสถ์กับวัดละหารไร่มาก่อน ก็เนื้อเดียวกันแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จ7ชั้นหรือ9ชั้น เนื้อแบบปูนเพชรรุ่นเก่าๆกดพระจากด้านหลัง มีกรอบบังคับในแม่พิมพ์ คนดูพระผงเก่งๆมองดูก็รู้อายุพระแล้วครับ จะต่างกับที่เห็นสิบกว่าองค์ในหนังสือพระหรือในเวปต่างๆ
     
  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ใช่แล้วครับ เป็นภาพถ่ายของท่านที่น่าบูชามากๆ ราคายังไม่แรงนัก
    ภาพองค์นี้เป็นห่วงสแตนเลส ผมแกะออกเพื่อถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น
    แต่มีคนทำปลอมออกมาแล้ว ดูดวงตาของท่านและดูกระดาษให้ดีๆ
     
  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    มีเพื่อนสมาชิกสอบถามเรื่องภาพถ่ายปี08 ของหลวงปู่ทิมมาหลายราย พร้อมส่งภาพมาให้ช่วยดูว่าแท้หรือไม่ เป็นอย่างไร ภาพชุดนี้มีการอัดภาพไว้2ครั้ง(ในปีเดียวกัน) เป็นภาพสองชุดเหมือนกัน ที่ทันหลวงปู่ทิมปลุกเสกแน่นอน ขอบอกวิธีตรวจสอบหรือดูด้วยตนเองแบบวิทยาศาสตร์ในเบื้องต้นง่ายๆดังนี้

    -การจารด้านหลัง เท่าที่เจอมาหลายๆใบ จะไม่เป็นยันต์ปั๊ม แต่จะจารด้วยปากกาลูกลื่น ไม่เคยเจอแบบตวัดปลายอักขระเรียวแหลม แต่ลายเส้นจะค่อยๆลากน้ำหนักแบบเน้นๆ ไปจนสุดปลายเส้นตัวเฑาะว์แบบช้าๆ ลองนึกถึงผู้ชราภาพเขียนหนังสือด้วยการกำหนดจิตตามไปด้วยช้าๆ และรอยจารจะไม่เหมือนกันเลยสักใบเดียว เพียงคล้ายๆกันเท่านั้น

    -ภาพถ่ายต้นฉบับครั้งแรก หรือภาพที่อัดซ้ำครั้งที่สองในปีเดียวกันเมื่อ2508 จะคมชัดกว่าภาพcopy ที่ทำขึ้นเมื่อไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมานี้(ของปลอม) ลองพิจารณาที่ก้านธูปและพระประธานด้านหลังหลวงปู่ทิม ให้นำภาพที่สงสัยมาวางเรียงกัน ใช้โปรแกรมแต่งภาพให้ทุกภาพมีลุกษณะความเข้ม ความสว่างและโทนสีในระดับเดียวกัน จะแยกได้ระดับหนึ่งว่า ภาพใดคมชัดในรายละเอียดเล็กๆน้อย ภาพใดcopyซ้ำมาใหม่ แสง สี และเงาของวัตถุในภาพจะบอกได้ดีว่า ภาพใดคือต้นฉบับหรือภาพใดแต่งภาพใหม่ หากมีโปรแกรมแต่งภาพ จะทำการแยกแยะได้ง่ายมาก

    -ส่งภาพให้นักแต่งภาพมืออาชีพวิเคราะห์ ภาพใดเป็นต้นฉบับ ภาพใดcopyซ้ำ หรือภาพใดแต่งภาพเพื่ออัดมาใหม่ ได้ทดลองทำแล้ว ผลออกมาพอที่จะพึ่งพาเชื่อถือได้ ภาพที่แต่งมาและอัดขึ้นใหม่เพื่อให้คมชัดขึ้น จะมีความเข้มของเงาวัตถุผิดจากความเป็นจริงของต้นฉบับ (มืออาชีพมองแล้วชี้เลยว่า อันนี้แต่งภาพใหม่) ส่วนภาพที่copy จากภาพถ่ายเก่า ก็จะมีความเลือนจางหายของวัตถุมากกว่าต้นฉบับ จนสังเกตุได้ง่าย ลองทำดูครับ หามาสักสี่ภาพ แล้วเทียบดูความคมชัดลึก และมิติต่างๆของภาพ
    หากเป็นของเลียนแบบ กระดาษที่อัดภาพจะเป็นกระดาษรุ่นใหม่ ความคมชัดของรูปน้อยลงเห็นได้ชัดเจน กระดาษขาดความเก่า แห้ง ต่างกับอายุของรูปที่แท้จริง และผิวพื้นกระดาษไม่มีร่องรอย ลอกผุกร่อนแบบดั้งเดิม จะมีมิติความตื้นลึกขององค์ประกอบภาพเองในตัวภาพ สีขาวต้องไม่ขาวจนไม่เห็นรายละเอียด หรือสีดำก็ไม่ดำจนเกินไป

    "...ภาพถ่ายภาพเดียว แทนคำพูดนับล้านคำและมีค่าถึงหลักล้านเลยก็มี....”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    คุยกับเพื่อนๆสมาชิกหลายรายถึงปัญหาพระขุนแผนผงพรายกุมารของ ลป.ทิม ขอให้ข้อคิดเป็นแนวทางการคัดกรองแยกของดีออกจากของแอบมั่ว สำหรับพระผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ที่มีคำถามมานานปีและยังทะเลาะกันจนทุกวันนี้ แต่เรื่ององค์ไหนเก๊ องค์ไหนทันเสก องค์ไหนแท้ ขอผ่านไปก่อน วันหน้าจะมีวิธีคัดแยกเพื่อจะหาพระดีสักองค์เอาไว้บูชาติดตัว (ต่างกับการคัดแยกเพื่อทำธุรกิจพระ) แต่พระขุนแผนของท่านยุคต้นๆ ที่คนยังรู้จักกันน้อยนั้น มีสร้างไว้จริงๆ

    พระขุนแผนผงพรายกุมารของ ลป.ทิมที่โลดแล่นและมีข้อถกเถียงในวงการพระเวลานี้ มี 4 แบบ
    -พระขุนแผนผงพรายกุมาร ที่สร้างก่อนปี16
    -พระขุนแผนผงพรายกุมาร บล็อกลองพิมพ์
    -พระขุนแผนผงพรายกุมาร บล็อกนิยม
    -พระขุนแผนผงพรายกุมาร บล็อกสอง

    ไม่มีใครตัดสินว่าแบบไหนแท้ แบบไหนทันกันแน่ ท่ามกลางฝุ่นควันของปัญหาที่คละคลุ้งรอวันจางเบาลงในวันใดวันหนึ่ง(หรืออาจคละคลุ้งมากกว่าเดิม) หลายคนมีเงินพอแต่ก็กล้าๆกลัวๆที่จะเช่าบูชาพระผงขุนแผนสักองค์ ต่างคนก็ว่าบล็อกนี้ซิทันแน่ แต่คนนั้นก็สวด คนนี้ก็เตือน เราลองมาคัดกรองด้วยตนเองแบบ “เอาที่สบายใจแล้วกัน” ดีกว่า จะได้มองเห็นข้อปัญหาที่ควรนำมาขบคิดและมองลึกลงไปในความเป็นไปได้ด้วยตัวเอง มีเงินแล้วต้องมีภูมิต้านทานด้วย จะได้ของดีที่กล้าพอจะแขวนเดี่ยวๆ พระของหลวงปู่ทิมแท้ๆต้องดีและมีพุทธคุณ

    ไม่เจาะจงจะจับผิดบล็อกใดหรือของกลุ่มใดเลยด้วยสัจจริง วันนี้จึงเอาแบบง่ายๆก่อน ลองไล่ดูภาพพระขุนแผนผงพรายกุมาร ซึ่งสร้างในยุคสมัยที่แตกต่างกัน โดยต่างวันเวลาการกำเนิดต่อกันชัดเจน ไล่หาภาพของแต่ละบล็อกและแยกกลุ่มเก็บไว้แต่ละชุด(ที่ดีที่สุดคือจัดกรุ๊ปแหล่งที่มาหรือเจ้าของไว้ด้วย) แต่จะพบว่า มีพระขุนแผนบางบล็อก ที่มีการยืนยันว่าแท้ ว่าทัน ว่าดีเป็นมาตรฐานสามารถบูชาได้ บางองค์ด้านหลังมีตะกรุดฝังไว้ซึ่งก็อาจเป็นได้ถือเป็นปกติธรรมดา แต่ที่แปลกตาคือบางองค์ (ที่มีกลุ่มสนับสนุน มากกว่าสองบล็อค)กลับมีพระเครื่องของ ลป.ทิม(แบบที่สร้างหลังปีที่สร้างพระขุนแผนนั้นๆ) ฝังไว้ด้านหลัง ที่เป็นข้อขบคิดคือ พระเครื่องที่ฝังไว้ด้านหลังเป็นวัตถุมงคลที่สร้างในปีถัดมา เช่นฝังปรกมะขาม ฝังปิดตารูปเหมือน หรือฝังวัตถุมงคลที่ยังไม่เกิดขึ้นในช่วงที่สร้างพระขุนแผนบล็อกนั้นๆ หากดูแล้วการฝังไว้เป็นในลักษณะเกิดขึ้นพร้อมๆกับการกดพระลงในแม่พิมพ์

    เราก็คิดในลักษณะวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ด้วยเหตุและผลได้ง่ายๆว่า พระองค์นั้นไม่ได้สร้างตามปีที่ควรจะเป็นข้อเท็จจริง แต่ทำขึ้นในเวลาหลังจากเกิดวัตถุมงคลแบบที่ฝังด้านหลัง หากพระแบบใดสร้างปี15-16 จะไม่สามารถเอาวัตถุมงคลที่สร้างในปี17-18 มาฝังด้านหลังได้เลย หรือพระแบบใดที่ข้อมูลว่าสร้างปี17 ก็จะไม่สามารถเอาวัตถุมงคลที่สร้างในปี18มาฝังด้านหลังได้เลย ยังไม่มีใครนั่งยานไทม์แมชชีนไปโลกอนาคตเพื่อเอาของในวันหน้ามาใช้ในวันนี้ได้ หากเสียเวลาสักสองวัน นั่งไล่ดูภาพสักสองสามร้อยภาพของแต่ละบล็อกแต่ละพิมพ์ ก็พอสรุปได้ด้วยตัวเอง เก็บภาพพิมพ์ขององค์ที่พิลึกมีปัญหานั้นไว้ เมื่อเจอองค์อื่นๆในบล็อคเดียวกัน ก็เทียบลายเส้นแม่พิมพ์พระ (ทำง่ายหากใช้โปรแกรมแต่งภาพลายเส้น) หากเทียบเคียงแล้วเป็นพิมพ์เดียวกัน ก็วางไว้แล้วกราบลาท่านเสียแต่เนิ่นๆ

    เมื่อได้ปัญหาและวิเคราะห์ด้วยตนเองเบื้องต้นบ้างแล้ว พระขุนแผนบล็อคนั้นๆก็เลิกสนใจไปได้เลย มองข้ามไปเลย ถึงแม้ใครๆว่าแท้ ว่าดีก็ตามเถอะ แม้จะเจอแบบที่ไม่ได้ฝังของในโลกอนาคตไว้ก็ตามที เพราะองค์ที่เขาว่าแท้ๆแบบที่ฝังของต่างปีต่างเวลาการกำเนิดไว้ มันหลอกหลอนเสียแล้ว ต่อให้ปรับปรุงแก้ไขมาอย่างไร ก็ไม่พ้นเบ้าหลอมเดียวกัน ยังมีของดีให้เลือกอีกมากหากรู้วิธีพิจารณา บทสรุปนี้ยังสามารถต่อยอดได้อีกมาก เช่นเจาะลึกกลุ่มผู้กำเนิดและทีมเผยแพร่ เพราะปลาแห้งที่เก็บไว้ยังสามารถแปรรูปไปได้หลายอย่าง หรือพิจารณาถึงรูปแบบเนื้อหาและโทนสี ในองค์ที่เจอแบบพิลึกหลุดโลกของความเป็นจริง
     
  11. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
     
  12. UnPajero

    UnPajero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2013
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +281
    ขอทราบราคาด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  13. Leonzz

    Leonzz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +363
    สุดยอด!!!
    หมู Like.jpg
     
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระขุนแผนหลวงปู่ทิมองค์นี้ ใครพบเจอที่ใด เห็นอยู่ร้านใดหรือไปตกอยู่ที่ใคร กระซิบบอกกันบ้างนะครับ หรือแจ้งมาที่ siamaraya@gmail.com ผมมีรางวัลให้งามๆ องค์นี้ถูกโขมยไปนานครบ15ปีพอดีจนถึงวันนี้ มีตำหนิด้านหลังที่จดจำได้ง่าย ภาพนี้ถ่ายไว้นานแล้วโดยใช้กล้องธรรมดา แจ้งความพร้อมสำเนาภาพนี้ไว้นานมากๆจนบันทึกแจ้งความคงจะเปื่อยยุ่ยแล้ว อยากได้คืนมากๆ จะเป็นพระบล็อคอะไรลองพิจารณาดูดีๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เคยได้ฟังมาว่า สมาชิกในเวปนี้บางท่าน มีครูอาจารย์ดีที่จับสิ่งใดก็บอกย้อนหลังได้ว่า สิ่งนี้ใครสร้าง ใครเสก ทำเมื่อไร ผ่านอะไรมาบ้าง ตอนนี้ชาติต้องการคนมีดีแบบนี้ด่วน รางวัลก็มีให้งามๆเป็นล้านบาท หรือใครมีเจโตปริยญาณ หรือสำเร็จอตีตังสญาณ ภูมิปัญญาที่รู้เรื่องในอดีตที่เกิดไปแล้ว เห็นเหตุการณ์ที่ล่วงมาแล้ว มีเพื่อนที่อยู่ในกรมสรรพาวุธหน่วยอีโอดีมีเม็ดลูกปืนจักรยาน ส่วนประกอบเล็กๆของระเบิดอำมหิต อยากให้ช่วยวิเคระห์ด้วยวิชาดีที่บอกมา และอยากรู้ชื่อคนทำ คนวางระเบิดสักหน่อย มีดีแล้วต้องช่วยชาติ ช่วยคนสุจริตที่ไม่เกี่ยวข้องเลยแบบนี้ ได้บุญมากด้วยครับ
     
  16. ครุฑา

    ครุฑา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +3,089
    ใครทำกรรมเวรกับประเทศชาติบ้านเมืองไว้ วิญญาณบรรพบุรุษและพญายมราชก็จะลากลงไปนรกในไม่ช้าไม่นานครับพี่ครับ
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    อ่านพบมา เห็นว่าดีและน่าจะเตือนใจคนได้อีกหลายคน ขอนำมาลงไว้ครับ

    คุณนายไฮโซคนหนึ่ง…..ใจบุญสุนทาน ชอบตักบาตรทุกเช้า ตักบาตรเสร็จ ก็แต่งสำรับกับข้าวอย่างบรรจงประณีต เพื่อเอาไปถวายท่านเจ้าประคุณสมเด็จผู้เป็นเจ้าอาวาส ด้วยความเคารพนับถือในจริยาวัตรของท่าน คุณนายชอบฟังท่านคุย เล่าเรื่องต่างๆเรียกว่าตักบาตรเสร็จ คุณนายต้องมาวัดทุกวันถวายอาหารเสร็จก็คุยกับพระสมเด็จ ตัวคุณนายเองก็ชอบพูดกับคนอื่นว่าตัวเองทำบุญที่โน่นมา ที่นี่มาหรือมีความอิ่มเอิบใจในบุญกุศลเหลือหลาย

    วันหนึ่ง…หลังจากคุณนายกลับแล้ว พระหนุ่มรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จ เข้าไปกราบเรียนว่า...
    " คุณนายคนนี้ใจบุญสุนทานจริงๆ แต่เคยได้ยินว่าเป็นคนใจแคบ เหลือแม่อยู่คนเดียว ปล่อยให้อดๆอยากๆ ไม่เอาใจใส่ ปล่อยให้อยู่ห้องแคบๆหลังบ้าน ส่วนตัวเองและลูก ๆอยู่ตึกใหญ่โต สะดวกสบาย เวลาพูดจากับแม่ ก็ฟังไม่ได้ หยาบคาย ขู่ตะคอก กระแทกกระทั้น ผิดกับตอนมาคุยกับสมเด็จที่วัด ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ แม่จะออกมาเดินเล่นหน้าบ้านก็ไม่ได้ ไม่ยอมให้ออก เพราะมีแม่แก่ๆหลงๆลืมๆ สติไม่สมประกอบ คงจะอายเขา มีคนเขาเล่าให้ฟังหลายรายแล้ว เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบได้ "

    สมเด็จฯท่านนั่งฟังเฉยไม่พูดว่าอะไร

    วันหนึ่งมีกิจนิมนต์ไปทำบุญบ้าน ขากลับก็เดินผ่านหน้าบ้านคุณนาย ท่านก็แวะบ้านคุณนายก่อน คุณนายดีใจมากที่สมเด็จฯมาเยี่ยมถึงบ้าน ถือเป็นมงคลอย่างสูงที่พระชั้นสมเด็จมาเยี่ยมถึงบ้าน จึงเรียกลูกหลานมากราบเท้าท่านเป็นการใหญ่ แล้วก็คุยกันเรื่องต่างๆมากมาย

    ในตอนหนึ่ง…สมเด็จท่าน ถามคุณนายว่า " พระในบ้าน มีไหม?"
    " มีเจ้าค่ะ…พระในบ้าน มีหลายองค์ เป็นพระเก่าๆทั้งนั้น สมัยสุโขทัยก็มี เชียงแสนก็มี อาราธนาท่านสมเด็จ ขึ้นไปดูข้างบนเจ้าค่ะ "

    สมเด็จท่านเฉย แล้วถามต่อว่า... " ได้ทราบข่าวว่า คุณนายมีแม่อีกคน เดี๋ยวนี้อยู่เสียที่ไหน? "
    คุณนายสะอึก เสียวแปลบเข้าไปในหัวใจ จะตอบตามตรง ก็กลัวว่า สมเด็จจะเดินไปดู หากเห็นสภาพความเป็นอยู่ของแม่แล้ว ท่านจะติเตียน จึงอึกๆ อักๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบว่า

    " ตอนนี้ท่านไม่อยู่เจ้าค่ะ ออกไปเยี่ยมญาติ อีกนานจึงจะกลับ "
    สมเด็จท่านนั่งนิ่งอยู่สักครู่ แล้วจึงลากลับ คุณนายก็ยังคงไปวัดเป็นปกติ

    วันหนึ่ง….สมเด็จท่านเห็นว่า วันนี้คุณนายยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาร่าเริง อารมณ์ดีหลังการทำบุญทำทาน สมเด็จจึงถามว่า…

    " พระในบ้านของโยมนั้น โยมดูแลเรียบร้อยแล้วหรือยัง "
    " เรียบร้อยเจ้าค่ะ ดิฉันจุดธูปเทียน ถวายอาหารบูชาเสร็จแล้วจึงมาที่วัด ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ "

    " อาตมาไม่ได้หมายถึงพระพุทธรูป พระในบ้านที่อาตมาถามถึงนี่ เป็นพระที่ยังมีลมหายใจ คือแม่พระ ผู้มีพระคุณสูงสุดแก่โยม แม่..ที่ให้ชีวิตเรามาโดยเอาชีวิตตัวเองเขาแลก คนที่เลี้ยงดูเรามา..ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนได้ดิบได้ดีทุกวันนี้ แม่ที่เหน็ดเหนื่อยทุกข์ทรมานแสนสาหัส แม่…ที่ทนหิวเพื่อให้ลูกอิ่ม แม่…ที่ทนหนาว เพื่อให้ลูกอุ่น แม่..ที่ไม่เคยนอนถ้าลูกของแม่ยังไม่หลับ "

    " ยามลูกเจ็บป่วยหรือร้องไห้ หัวใจแม่ก็เจ็บปวดและร้องไห้พร้อมกับลูกด้วย แม่อยากเอาความเจ็บปวดทั้งหมดของลูกมาไว้ที่แม่ถ้าทำได้ แม่…ที่ยอมตายเพื่อลูกได้ พระคุณของแม่นี้…..ใหญ่หลวงเกินกว่าจะคณานับ….เราต้องตอบแทนบุญคุณท่านบ้างนะโยม เอาตาดู…เอาหูใส่…เอาใจใส่ท่านบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ท่าน อดๆอยากๆ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ดูแลท่านบ้าง อาตมาได้ข่าวว่า….คุณโยมเหลือแม่อยู่คนเดียวและ…ไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของท่าน ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ อดๆ อยาก ๆ ไม่สงสารท่านบ้างหรือโยม "


    " โยมจัดอาหารมาถวายพระได้ทุกวัน…. แต่พระในบ้านอีกองค์นั้น…..โยมไม่เคยจัดให้….และตอนที่โยมจัดมาให้อาตมาสังเกตดูว่า โยมจัดมาให้อย่างดีประณีตบรรจง แต่ก่อนอาตมาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ฉันของโยมตามปกติ….แต่ตอนนี้บอกตรงๆเลยว่า กลืนไม่ค่อยลงมาหลายวันแล้ว อาตมาเป็นพระในวัด…ไม่ควรเอาเปรียบพระในบ้านของโยมเกินไป ถ้าพระในบ้านยังอด พระในวัดก็กลืนไม่ลง การทำบุญให้ได้บุญมานะโยม…ต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อนแล้วจึงถวายพระ "

    คุณนายไม่พูดอะไร…. ได้แต่นั่งน้ำตาไหล

    ลูกๆที่รักทุกคน…ท่านได้ดูแลพระในบ้านของพวกท่านดีแล้วหรือยัง ถึงแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย….ก็ยังดี บางคนกว่าจะรู้ว่าพ่อแม่เป็นพระแท้ พระดีในบ้านอันประเสริฐ ไม่ใช่พระเกจิต่างๆที่มัววิ่งไล่หาบุญอย่างบ้าคลั่งแทบทุกอาทิตย์ แล้วก็โอ้อวดกันแบบภาคภูมิใจในเฟสบุค ในสังคมโลกโซเชียลจอมปลอม วันนั้น..ก็สายเสียแล้ว…คือจะรู้เมื่อท่านทั้งสองไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้แล้ว
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    คืนนี้จะเทียบเคียงด้วยหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางในวันหน้าของผู้ที่สนใจในวัตถุมงคลของ ลป.ทิม โดยจะเอาของแท้ เทียบของปลอม เป็นชนิดที่ปลอมระบาดมากมายในเวลานี้
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ภาพถ่าย ลป.ทิมชุดนี้เป็นของผมเอง ไม่ได้เอาของใครมาเปรียบเทียบ ได้มาสองปีแล้ว
    เขาทำแบบเลี่ยมประกบกันสองใบ เลี่ยมมาแบบนี้แต่เดิม หากต้องการจะพิสูจน์ต้องแกะ
    แต่เมื่อได้นำมาเทียบเคียงกับภาพที่ชัดเจนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ พบว่า...ปลอมทั้งนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2015
  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    สมัยก่อนจะใช้ปากกาลูกลื่นหมึกแห้ง เช่นปากกาลูกลื่นบิ๊ก จะมีเส้นขนาด 1 มม. ลูกบอลปลายปากกาจะหมุนไปพร้อมกับน้ำหมึกจะออกมาตามจังหวะการหมุนของลูกบอลหัวปากกา ลายเส้นเมื่อขยายด้วยกล้องพิเศษ 50 เท่าดูแล้ว จะเป็นจุดๆต่อกัน ไม่ยาวต่อเนื่องติดสม่ำเสมอเท่ากันตลอดทั้งเส้น เพราะลูกบอลปลายปากกาที่เป็นทังสเตน จะหมุนเอาน้ำหมึกด้านบนกลิ้งลงมาที่กระดาษตามแต่ละองศาการเขียนและการกดน้ำหนัก ทำให้เส้นน้ำหมึกไม่เสมอกัน ส่วนปากกาลูกลื่นหมึกเคมี จะทำให้น้ำหนักเส้นเสมอกัน และเพิ่งมีในประเทศไทยเมื่อปี2541เป็นต้นมา เส้นสายจะต่อเนื่องและลายเส้นหมึกสม่ำเสมอ

    ภาพแรก เป็นลายเส้นด้านหลังของภาพเลี่ยมพลาสติก เป็นลูกลื่นหมึกเคมี
    ภาพที่สอง เป็นลายเส้นด้านหลังของภาพที่ได้มาใหม่ เป็นลูกลื่นหมึกแห้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...