" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 27 เมษายน 2013.

  1. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ตกดึกหลังจากออกจากสมาธิแล้วก็เอนกายลงนอน...
    แหม...แห่กันมาถึงห้องนอน ร่วม 10 หน่วย...มาใกล้ตัวได้ขนาดนี้นี่ก็ต้องถือว่าของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ...
    นี่ถ้าไม่ได้ครูบาอาจารย์ท่านคุ้มครองอยู่ มีหวังจะเดี้ยงเป็นแน่แท้...
    ขนาดนี้แล้วยังจุกไปแอ่กนึง...ด้วยข้อหาไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน หมูเขาจะหาม...นิ..



    .... แบบนี้หนูเจอบ่อยเลยพี่ ... เคยโดนอาจารย์ด่าว่า " เพราะเธอไปเสือกเรื่องของเขาไง " .. คำนี้เจอตอนที่ถามอาจารย์เรื่องเด็กที่หนูไปขอรับเป็นลูกบุญธรรมแล้วมีผีแม่ลูกมาทำร้ายหนูไปช่วยเด็กคนนั้นไว้จนตัวเองเจ็บตัวเป็นรอยนิ้วมือสามรอย .. ตอนแรกแกไม่ตอบพอคะยั้นคะยอถามแกก็พูดคำนี้กลับมาคะ ... หน้าจ๋อย .. หงายเงิบเลยคะเงียบไปสามวิแล้วก็หัวเราะจนญาติโยมที่นั้งอยู่ที่นั้นหันมามองหนูหมดเลยคะ

    ... แต่บอกตามตรงนะคะ .. พระอาจารย์หนูสองท่านนี้ด่าหนูยังไงหนูก็ไม่เคยรุ้สึกว่าโกรธเลยคะ ... นั้งยิ้มมีความสุขคะ 5555555555 แต่ถ้าเจอเวลาที่เงียบไม่มองหน้าไม่ตอบนี้หนูรู้สึกแย่มาก ๆ เลยคะ ...
     
  2. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    เมืองไทย เมืองพุทธแท้ๆ ทำไมเรื่องพวกนี้มันเยอะมาก...

    ..... ง่าย ๆ คะพี่ ... ความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความไม่รู้จักคำว่าพอ ความไม่รู้ ... สิ่งเหล่านี้มันเป็นสาเหตุให้คนแสวงหาสิ่งที่สามารถสนองความต้องการของตนเองให้ได้ ... ทางออกที่ง่าย + ให้ผลเร็ว .. โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมพื้นฐาน

    เยอะพอๆกับกระเทย...มีทั่วทุกเสาไฟฟ้า อย่าที่อาจารย์เสรี ว่าไว้ไม่มีผิด...
    อยู่ต่างประเทศสบายกว่าเยอะ เดินไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่มีอะไร...


    .... เรื่องเพศที่สาม .. อันนี้ไม่ขอพูดถึง ... แต่เมืองนอกทุกวันนี้ก้ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทุกที่นะคะ ... เดี๋ยวนี้คนไทยไปอยู่ต่างแดนเยอะนะคะ .. และ ขอบอกว่า ... ส่วนมากจะผ่านแถมใช้เรื่องพวกนี้มาเยอะมาก ๆ .. ยิ่งสาวไทยที่ได้แฟนต่างชาตินี้ หรือ ที่เรียกติดปากว่า " เมียฝรั่ง " .. น่าปวดหัวมาก ๆ คะ .. หลัง ๆ นี้ได้ยินเข้าหูบ่อยขึ้น ... เราไม่ได้อยากจะกล่าวหาว่าเมียฝรั่งเป็นคนไม่ดีไปเสียทุกคน .. คนที่ดีเขาก็มี ...

    ... แต่มันก้ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนมากของคนกลุ่มนี้เคยทำงานในอาชีพสายมืดมาก่อนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว .. แถวบ้านเรียกว่า " พวกโสตาย " สาวคนกลุ่มนี้มักจะทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนเป็นชาวต่างชาติ .. และ ก็มักจะมีของขลัง ของดี ที่เกี่ยวกับแนวเสน่ห์ เมตตามหานิยม หรือ มีครูรับขันธ์ มาแล้วแทบทั้งสิ้น .. บางคนก็ไม่ได้ลงให้เห็น .. แต่บางคนนี้ลายพร้อยทั้งตัวทั้งยันต์ ทั้งรูปมงคลต่าง ๆ ... หนูก้ไม่อยากจะกล่าวถึงสักเท่าไหร่แต่มันก้มีเหตุจำเป็น ... เพราะของเหล่านี้ตราบใดที่คุณยังประพฤติตนดีไม่แตกแถวที่กำหนดไว้มันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ... แต่เท่าที่เห็นส่วนมาก " ทำไม่ได้ " ... ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาตามมามากมายพอสมควร

    .... นอกจากนี้ยังมีแบบตัวอยู่เมืองนอกกันหมดเลยนะคะ ... แต่โทรมาสั่งญาติที่บ้านให้ทำคุณทำของใส่คนอื่นซึ่งก็เป็นคนรู้จักกันคนไทยเหมือนกัน ... เพียงเพราะต้องการจะได้ " สามี " ของเขามาเป็นของตนเองด้วยเห็นว่าฝ่ายนั้นมีสามีรวยว่างั้นเถอะ ... กะเล่นถึงตายเลยทีเดียว .. ว่างละจะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ พอดีน้องสาวพี่คนนั้นเป็นลูกค้าประจำที่ร้านหนูคะ


    อยู่เมืองไทย จะเดินไปปากซอย ผ่านโรงเจ ยังต้องตั้งการ์ดไว้แน่นๆ...อะไรของเขากันนะ เล่นแต่คุณไสย มนต์ดำ เต็มไปหมด ปล่อยไปไหนไม่ได้ก็ฝังไว้ที่ต้นกล้วย...
    กล้วยธรรมดาๆ พ่อซัดซะก้านดำ เครือดำไปเลย...
    อืม...กล้วยพันธุ์ใหม่มั๊งนะ...
    ว่าแต่ เจ้าสำนักโรงเจ ไหงไม่กล้ากินกล้วยพวกนี้นะ...
    มันอะไรกันนักกันหนานะ...เมืองไทยเนี่ย...


    ... แบบนี้ก็ไม่น่ากินมั๊งคะพี่ .. แต่ถ้าเขาไม่ซัดออกมันก็เข้าตัวเขาจิคะ .. ธรรมชาติของคนเรามักรักตัวเองกว่าสิ่งใด ... ยิ่งพวกแนวนี้รักคนอื่นคงยากคะ ... เมืองไทยอยู่ยากขึ้นจริง ๆ มันยิ่งทำให้คำทำนายของ อ.ต๋อง แกเห็นภาพได้ชัดขึ้นทุกที ... ที่แกบอกว่าต่อไป " ปอบ " จะมีเพิ่มมากขึ้น .. เพราะคนเรียน หรือ ใช้คุณไสยย์มากขึ้น และ ไม่รู้จริง !
     
  3. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... จัดให้ตามคำขอคะพี่ ... แล้วแต่วาสนานะคะ .. ใน 8 งวดจะพลาดไม่เข้าเลยไม่เกิน 1 งวดคะ อิอิ

    [​IMG]
     
  4. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... บอกตรง ๆ ไม่ได้มีคนขอไว้ .. เอาแบบอ้อม ๆ ไปละกันนะคะ ..

    ............ ให้มามีเลข 7 ยืนเป็นหลักนะคะ ..

    ...... พอดีว่ามีมาเข้าฝันบอกสองรอบแล้ว .. แต่แผนกได้หวยในฝันพอตื่นมาดันลืมทุกครั้ง .. แต่ใบ้ว่ามีในที่ลงไว้ให้ดูด้านบนนั้นแหละคะ ... กลับขึ้นบนเป็นเลขตัวหนึ่ง กลับลงล่างจะเป็นเลขอีกตัวหนึ่งคะ ...
     
  5. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    เอาไปเอามากลายเป็นใบ้หวยไปเสียแล้ว แต่เล่นไม่เป็น และไม่คิดว่าจะมีโชคอะไรทางนี้ :p

    เรื่องสำนักทรงที่เปิดสำนักและมีวิชาอาคมนี่ จริงๆเคยได้ยินแบบผ่านๆ และรู้ด้วยว่าสารพัดพิษยังไง แต่นึกภาพไม่ออกและไม่ตระหนักถึงเท่าที่ควร จนคุณกาลีนะมาเล่านี่แหละครับถึงมองเห็นภาพและก็ตระหนักถึงมันด้วย แบบชัดเจน.. ส่วนตัวเคยเห็นแต่ร่างทรงแบบอยู่เงียบๆในหมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่ทรงแค่ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ที่ปกครองอาณาเขตแถวนั้นเท่านั้น ไม่มีวิชาอาคม ไม่ได้เปิดสำนัก กับอีกตัวอย่างหนึ่งคือญาติที่เคยไปไล่ดูดวงตามสำนักทรงหลายสิบที่แล้วเจอดีเข้าให้ โดนส่งผีมาหลอกว่าเป็นเทพจะเอาเป็นร่างทรงเป็นสิบตน เสียเงินเสียทอง เสียเวลาไปน่าดู.. สุดท้ายพระพรหมที่มาลงทรงให้นั้น(ซึ่งมาเอง)ท่านก็เหมือนมาลงให้พ้นจากพวกนี้แค่นั้น และก็ลงกันแค่ปีละครั้งเฉพาะวันไหว้ครู หรือนอกนั้นขอท่านลงในกรณีพิเศษยกเว้นวันที่ท่านจะไม่มาและช่วงเข้าพรรษา ซึ่งก็ไม่ค่อยมีเหตุอะไรให้ท่านมาลงอยู่ดี ...เหล่านี้ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นจริงหรือไม่จริง.. หรือไม่จริงแต่มีเจตนาดีอย่างไร เพราะสัมผัสอย่างเขาไม่ได้ แต่ก็พอจะมีภูมิคุ้มกันแยกแยะได้นิดหน่อย

    วิชาอาคมต่างๆเคยได้ยินอดีตเณรชาวปกาคยอที่วัดพระพุทธบาทตากผ้าเล่าเหมือนกัน เข้าเล่าแบบที่คุณระมิงเล่ามา และในกระทู้ที่ลบไปแล้ว แต่เขาเล่าคร่าวๆ ตอนนั้นก็ฟังๆไปไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เชื่อว่ามีจริงแต่ในใจคิดว่ามันคงไม่ขนาดที่เขาเล่า ก็มาสะดุดใจที่คุณระมิงค์เล่าที่ว่ากางอาคมกันกลางถนนหรือปล่อยของใส่กันอีรุงตุงนัง ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาบ้างแล้วแต่ไม่คิดว่ามันจะซัดกันอย่างกับในหนังการ์ตูนแบบนี้

    ที่มันไม่หายไปจากยุคเสียที ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นยุคที่เหมาะกับการแพร่ระบาดของมันก็เป็นได้ เพราะใจคนต่ำทรามได้เหมาะกับคุณสมบัติของวิชามืดเลยทีเดียว มันจึงมีช่องทางแพร่เชื้อได้ง่าย คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่าเป็นของแปลกเป็นของดี ล่อลวงชักจูงได้ง่าย เดี๋ยวนี้เห็นว่าในหมู่นักศึกษาวัยรุ่นนั้นมีความสนใจเกี่ยวกับองค์เทพในแบบที่จะเป็นร่างทรง กับวิชาอาคมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าเป็นแฟชั่นเลย ญาติผมที่ทำงานในรัฐสภาแกบอกว่า ผู้ใหญ่ข้างในนั้น ส่วนใหญ่เล่นของ เล่นวิชาอาคมกันเกือบทุกคน... เยี่ยมมาก...:cool: ซึ่งคิดว่าคงเป็นไสยดำกันแน่ๆ อาจจะไม่ขนาดว่าใช้วิชาได้เอง ก็คงจะมีเครื่องรางพวกนี้หรือมีสำนักเป็นสื่อกลางให้เขาใช้งานวิชาอาคมอยู่เบื้องหลัง

    ก็ถึงว่าครูบาอาจารย์ท่านถึงได้ย้ำนักย้ำหนากัน ว่าเอาพระรัตนตรัยดีกว่า ไปเอาอย่างอื่นมีแต่หลงทางไม่ก็ฉิบหาย... เพื่อกันไว้ไม่ให้คนหลงผิดกัน เพราะของพวกนี้มีอยู่มากกว่าที่เราคิดนี่เอง
     
  6. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    เอาไปเอามากลายเป็นใบ้หวยไปเสียแล้ว แต่เล่นไม่เป็น และไม่คิดว่าจะมีโชคอะไรทางนี้ :p

    ... คือ ลืมไปแล้วเหรอคะที่พี่ระมิงค์ว่าถ้าผีมาบอกหวยให้เอามาบอกในกระทู้นี้ด้วย .. เห้อ ๆ งวดที่แล้วไม่มีมาบอกเลยสักท่าน .... แต่รอบนี้มาสองรายคะ .. บอกเป็นตัวเลขมาเลย .. แต่พอเขาลืมตาขึ้นมากลับลืม .. คือจำไม่ได้ทั้งหมด .. ประมาณครั้งล่าสุดท่านที่บอกมีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปสีออกดำ ๆ มีตัวอักษรขึ้นเต็มตัวยืนอยุ่แต่ไม่มีใครมองเห็นเขามองเห็นแล้วยกมือไหว้ท่านเลยให้มาเลยเลขสามตัว 3 ชุด แต่ท่านบอกว่าถ้าถูกให้ทำบุญให้ท่านด้วยท่านก็แจ้งชื่อมา .. แต่เขาจำไม่ได้ เห้อ ๆ และท่านบอกว่าถ้าบอกคนอื่นเลขตัวนั้นจะไม่ถูกจะเปลี่ยนเป็นตัวอื่น .. คือ ให้แฟนคนเดียว ... แต่ท่านก่อนหน้านั้นเป็นผู้หญิงก็บอกมามาแค่สองตัวชัด ๆ ลืมอีก .. เห้อ ๆ

    เรื่องสำนักทรงที่เปิดสำนักและมีวิชาอาคมนี่ จริงๆเคยได้ยินแบบผ่านๆ และรู้ด้วยว่าสารพัดพิษยังไง แต่นึกภาพไม่ออกและไม่ตระหนักถึงเท่าที่ควร จนคุณกาลีนะมาเล่านี่แหละครับถึงมองเห็นภาพและก็ตระหนักถึงมันด้วย แบบชัดเจน.. ส่วนตัวเคยเห็นแต่ร่างทรงแบบอยู่เงียบๆในหมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่ทรงแค่ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ที่ปกครองอาณาเขตแถวนั้นเท่านั้น ไม่มีวิชาอาคม ไม่ได้เปิดสำนัก กับอีกตัวอย่างหนึ่งคือญาติที่เคยไปไล่ดูดวงตามสำนักทรงหลายสิบที่แล้วเจอดีเข้าให้ โดนส่งผีมาหลอกว่าเป็นเทพจะเอาเป็นร่างทรงเป็นสิบตน เสียเงินเสียทอง เสียเวลาไปน่าดู.. สุดท้ายพระพรหมที่มาลงทรงให้นั้น(ซึ่งมาเอง)ท่านก็เหมือนมาลงให้พ้นจากพวกนี้แค่นั้น และก็ลงกันแค่ปีละครั้งเฉพาะวันไหว้ครู หรือนอกนั้นขอท่านลงในกรณีพิเศษยกเว้นวันที่ท่านจะไม่มาและช่วงเข้าพรรษา ซึ่งก็ไม่ค่อยมีเหตุอะไรให้ท่านมาลงอยู่ดี ...เหล่านี้ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นจริงหรือไม่จริง.. หรือไม่จริงแต่มีเจตนาดีอย่างไร เพราะสัมผัสอย่างเขาไม่ได้ แต่ก็พอจะมีภูมิคุ้มกันแยกแยะได้นิดหน่อย

    ..... คือ ในความเป็นจริงเขาฮิตมานานแล้วคะ .. แต่จะไม่เปิดตัวแบบชัดเจนแบบเดี๋ยวนี้ ... พวกดารานั้นแหละตัวดี นักการเมืองทุกระดับ ข้าราชการ ... เราเห็นเขาสนใจกันเยอะแบบนี้มานานแล้วนะ .. แต่เวลาต่อหน้าคนที่ไม่สนิทจะทำเป็นเฉย ๆ ไม่อะไร .. กลัวว่างมงาย ... พอเริ่มเป็นที่ยอมรับแบบเปิดเผยก็เลยปล่อยกันเต็มที่คะ .... แถมทุกวันนี้ตำหนักต่าง ๆ ยังฉลาด และ แผนสูงขึ้น .. มีการวางแผนทำการตลาดที่ฉลาดขึ้น และ น่าเชื่อถือมากขึ้น ..

    .... เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านเหล่านั้นจะมาตอนไหนเมื่อไหร่ ... เพราะหลัง ๆ เราจะพยายามทำอะไรด้วยตนเองก่อนจะขอท่านเหล่านั้นให้ช่วย .. รู้สึกเกรงใจ แบบเหมือนเราละอายใจที่จะขอ .. แต่ถ้ามาจะเป็นอาการแบบญาณแฝงมามากกว่ามาแบบเต็ม .. ไม่รู้จะบอกว่ายังไงดีให้เข้าใจ ... เอาเป็นว่า " เหมือนมีเราสองคนในกายเรากายเดียว นิ่งสงบ เบา " ..

    ... แต่มีคนมาเล่าให้ฟังหลายคนแล้วว่า เราตามพวกเขาไปที่บ้าน .. คือ ตัวเราก็อยู่ร้านปกตินี้แหละคะ .. แต่น้องบางคนที่มาหาเราเขาบอกว่าเห็นเป็นเราไปหาพวกเขาที่บ้าน บางคนก้ฝันว่าเราไปหาที่ห้องก็มี ... เราก็ถามเขาว่าแน่ใจนะว่าเป็นเราไม่ใช่เห็นคนอื่นเป็นเรา .. แต่คำยืนยันมักเหมือนกัน คือ หน้าพี่เลยละที่พวกเขาเห็น .. เราก็เลยถามกลับว่าแต่คนนั้น " ผมสีดำสนิทใช่ไหม๊ " ทุกคนจะนิ่งและคิดสักพักแล้วตอบกลับมาว่า " ใช่ ผมสีดำ " ... เจอแบบนี้ประมาณ 5 คนละ ... แต่มีพี่คนหนึ่งที่แกถอดจิตได้แกเคยเห็นแปลกกว่าคนอื่น .. คือ เรากับแกช่วงนั้นจะคุยกันบ่อยมากเพราะมีเรื่องที่ต้องแลกเปลี่ยนความรู้กัน ก็คุยกันในเน็ตแบบนี้แหละคะแล้วแกก็บอกว่าแกเห็นเราแปลกดีนะ .. เราก็งงว่าเห็นเรายังไง .. แกบอกว่า " เห็นเธอมีสองคนแบบแบ่งครึ่ง หน้าฝั่งหนุ่งเป็นคนหนึ่งอีกฝั่งหนึ่งเป็นคนหนึ่ง แต่คล้ายกัน " .. เราก็ตกใจเล้กน้อยแต่รู้อยู่แล้วว่าพี่แกถอดกายทิพย์ได้ .. และเรามักฝันเห้นแกหลายครั้งด้วย ... แต่ที่เห็นแบบนี้ก็มีสองคนคะแฟนเราเป็นอีกคนที่เห็นหน้าเราแบ่งเป็นสองซีก ... แต่เป็นแบบหน้าเรานี้แหละเพียงแต่ " ซีกหนึ่งขาวอีกซีกดำ " ... หึ ๆ ปกติก็ตัวดำอยู่แล้วนะ ... ยังจะมีดำกว่านี้อีก ... :'(
     
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    555+ ชอบมากเลย "โสตาย"...
    พวกเมียฝรั่ง สายอีสาน จะพูดกันหลายคน...แล้วต่อท้ายด้วยคำว่า "โสสุดๆเลยพี่"
    ตอนนั้นก็งงเหมือนกัน...แปลว่าไรอ่ะ...แต่ก็ไม่มีใครอธิบาย...
    ลูกน้องที่เป็นโฟร์แมน ให้นิยามว่า พวกนี้อยู่พัทยามาจนไม่มีที่อยู่แล้วครับ เละหมดแล้ว เรียกว่า เน่าจนไม่มีที่จะหากินแล้ว ก็มาจับแขก จับฝรั่ง มาตายเอาดาบหน้า...

    ฟังนิยามแล้วแหยงมาก...ฟังบางรายเล่าวิชาที่เขาเอามาผูกมัดผู้ชายเอาไว้แล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะสกปรกได้ขนาดนี้...
    ตอนหลังนี่เจอพวกกระเทยไทย ที่เฉาะไปแล้ว(เขาเรียกกันอย่างนั้น)...
    พวกนี้หนักกว่า ผู้หญิงอีก...
    จนทุกวันนี้ ผมคบหาได้ทุกชาติ แต่ถ้าเจอคนไทย ผมต้องแกล้งทำเป็นคนญี่ปุ่นซะ...ด้วยหน้าตาใกล้เคียง ซามูไรญี่ปุ่น...มั่วได้พอจะเนียนๆ...

    พวกที่ใช้ไอ้งั่ง กับอีเป๋อ ของต่ำๆพวกนี้ก็มีเห็น...ไอ้งั่งนี่ผู้ชายใช้ใส่มือผู้หญิงแล้วบีบมือไว้ เดินตามกลับมาที่บ้านเลยนะ...แต่แก้ง่ายๆให้เอาใบหนาดฟาดไปที่หัวไอ้งั่ง 3 ทีก็หาย...ส่วนอีเป๋อ นี่ไม่รู้เหมือนกันว่าแก้กันอย่างไร...

    อีกรายนึงที่ทำของต่ำๆได้ขึ้นดีจริงๆ คือเจ้าของวิชา เทพภมร เป็นการใช้แมงภู่ แมงผึ้ง ผมเห็นของที่เขามาผสมลงในเนื้อเครื่องรางแล้ว น่าสะอิดสะเอียนมาก เคยไปเจอของเขาชิ้นนึง รุ่นแรก ทำเป็นผีเสื้อ เพ้นท์สี แรงมากๆ... แค่ได้กลิ่นห่างๆ มันเล่นงานเราได้ถึงตัวเลยนะ...ส่งผีเสื้อตายแล้ว บินมาเกาะที่กระจกหน้าต่างบ้าง ส่งผึ้งตายแล้วบินมาจะต่อยที่ฝ่าเท้าบ้าง...เจ้าสำนักนี้เคยปล่อยของไปเล่นงานหลวงพ่อคูณกะจะฆ่าท่าน หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมก็โดนมันทำใส่...แต่พระระดับนี้แล้วนะ...หุหุหุ...มันผู้นี้จึงต้องกระอักเลือด หายหน้าไปหลายเดือน บาดเจ็บสาหัส...หายดีแล้วยังมีหน้าจะมาลองกะเรา...

    ผมถือคติว่า ไม่ทำใครก่อนนะ...ถ้าไม่เหลืออดเหลือทนจริงๆแล้ว ก็ไม่ทำใคร สู้อยู่ของเราเงียบๆดีกว่า ทนได้ก็ทน...แต่ถ้าต้องลงมือแล้ว ไม่เคยยั้งสักที...เพราะการปราณีศัตรู มันเท่ากับทำร้ายตัวเอง...นิ...

    จะเล่นคุณไสยพวกนี้ ต้องรักษาสัจจะ แล้วสมัยนี้เท่าที่เห็น รักษากันไม่ได้แทบทั้งนั้น แต่ก่อนผมเรียนมา ตาลุงแกว่าไสยขาวน่ะ...ไม่ใช่ไสยดำ ...
    เงื่อนไขข้อบังคับจะเยอะมาก ห้ามแม้แต่ร้องเพลงในห้องส้วม ซึ่งผมไม่ใช่คนชอบร้องเพลงอยู่แล้ว อันนี้รอดตัวไป ห้ามถ่มน้ำลายรดพื้น อันนี้ผมเป็นคนถ่มน้ำลายไม่เป็น ห้ามลอดราวตากผ้า ห้ามกินมะเฟือง เวลากินข้าวต้องเสก กินน้ำต้องเสก ตื่นเช้ามายังไม่พูดกับหันไปทางทิศเหนือให้เสกน้ำล้างหน้า..ฯลฯ พวกนี้เคยทำมาตั้งกะสมัยสิบขวบ...ทำได้อย่างที่เขากำหนดไว้ วิชาอะไรก็ใช้ขึ้นหมด มันได้ผลทันตาเห็นทีเดียว...แต่โตมานี่เลิกใช้ไปนานแล้วนะ...เอาทางพุทธทางพระ ปฏิบัติธรรมดีกว่า...แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยก็ไม่ใช่นะ...

    อยากฟังแม่กาลีนะเล่าเรื่องเกี่ยวกับไสยดำที่นิยมทำกันทางภาคอีสานซะหน่อยว่า เดี๋ยวนี้เขามีอะไรกันบ้างแล้ว...
    พวกวิชาเขมรต่ำ เขาพัฒนากันไปถึงไหนบ้างแล้ว...
    แล้วเขาแก้เขากันอย่างไรบ้าง...

    ส่วนตัวผมทุกวันนี้อาศัยอารธนาบารมี พระผู้มีพระภาคทุกๆพระองค์ แล้วสวดบารมี 30 ทัศน์ก็พอแล้ว...เพียงแต่วิธีนี้ ผู้ใช้ต้องมีกำลังใจเข้าถึงไตรสรณคมน์ อยู่ในเกณฑ์ที่พอสมควรแล้ว ไม่งั้นก็ไม่ได้ผลเหมือนกันนะ...

    อ้อ...แล้วเดี๋ยวนี้พวกที่โกนหัวห่มเหลืองแล้วไปคบหากับพวกปอบอาคม ก็มีมากด้วยกัน..แล้วของเขาก็ทำได้แรงจริงอะไรจริง เหมือนอย่างท่านที่อยู่ทางเชียงราย แล้วอ้างว่าเป็นฤษีดำ ฤษีขาว มาเข้าทรงเนี่ย...วิชามันเยอะ แรง แล้วก็มีบริวารเยอะ...พวกนี้ ชาวบ้านๆ ไม่รู้ ไปโดนเรื่องพวกนี้ครอบงำเข้า จะทำยังไงดี? บางทีก็นึกนะว่า โล้นพวกนี้ทำลายพระศาสนา...ซึ่งนับวันนี้จะมีเยอะด้วยกัน ญาติโยมไม่มีวิชา ไม่สามารถรู้เห็นได้ จะทำยังไงล่ะเนี่ย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2014
  8. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .

    เรียนถามท่านระมิงค์และท่านกาลีนะ ขอระบุชื่อเลยละกัน
    กระทู้ก่อนไม่มีใครตอบเลย คงเพราะเค้าไม่รู้ว่าถามใคร
    หรือว่าเราเพ้อเจ้อเกินเหตุ ทำให้มันไม่น่าสนใจกันน๊า สงสัยนิดหน่อย

    คือจากใบกล้วยสองใบนั้นน่ะครับ ที่ไม่เห็นว่าเป็นนางตานี
    แต่เป็นไปได้มั้ยว่า เค้าจะไม่ใช่อย่างที่เราไม่เห็น
    บางทีอาจจะเคยเป็นนางตะเคียนรึเปล่า แต่ต้นตะเคียนไม่มีแล้ว
    จึงต้องมาอาศัยต้นกล้วยเป็นที่พักไปก่อน เพื่อรอใครอยู่แถวนั้น
    หรืออาจจะเป็นอย่างอื่น ที่มีฤทธิ์เดชมากกว่าค่าเฉลี่ย แยะแยะ

    ที่ถามเพราะว่า คืนนั้น ตอนตีสี่ มีเสียงใครมาเรียกชื่อเล่นซะด้วยสิครับ
    แว่วๆ ว่าน่าจะเป็นเสียงผู้หญิง เล่นซะเราต้องตื่นตาลืมอย่างนิ่งๆ เลย
    นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ที่มีใครมาเรียกชื่อเราได้ เรียกแค่ครั้งเดียว ตื่นเลย

    คือสงสัยว่าถ้าเป็นใครมาเรียกได้จริงๆ น่าจะมีฤทธิ์แยะกว่านางตานีรึเปล่าครับ
    คิดเอาเองว่าเคยเจอมาแยะเหมือนกัน แต่ไม่เคยมีใครรุกเข้ามาเรียกชื่อได้ ถึงในฝันเลย

    คิดเอาเองว่าเคยโดนโจมตีหลายครั้งหลายหน แต่ก็ไม่ค่อยสะเทือนเท่าไหร่
    คงเพราะระบบป้องกันเรามีหลายชั้น หลายท่าน หลายรูปแบบ ทั้งด้านมืดและสว่างไสว

    ก็ขอเรียนถามด้วยนะครับ ยังมีอีกแยะเลย ที่อยากจะทราบ หรือเปล่าก็ไม่รู้ ๕๕๕


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  9. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ตั้งแต่ยังวัยแรกรุ่นนั้น ผมถูกสั่งมาว่า ถ้าเห็นอะไรแว๊บๆ ไหวๆ จะใบกล้วย ต้นไม้ กิ่งไม้ เห็นด้วยหางตา...
    ห้ามเดินหนี ให้จ้องมองให้รู้แน่ๆ อย่างชัดเจน...ถ้าผีก็ให้มันรู้ว่าผี...ถ้าไม่ใช่ก็ให้รู้ว่าไม่ใช่...หากวิ่งหนีเสียก่อนแล้ว ต่อไปจะเป็นคนขี้ขลาด ขี้กลัว เห็นอะไรนิดๆหน่อยๆก็จะกลัวไปหมด...แล้วร้อยละ99.99มักจะไม่ใช่ผี...

    เรื่องเสียงเรียกในฝันจนตื่นนั้น ก็มีหลายสาเหตุ บางทีไม่ต้องเป็นวิญญาณที่มีฤทธิ์มาก แต่มีบุพกรรมเก่าร่วมกันมา ก็สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ บางทีเป็นเทวดามาแกล้งหยอกเอาก็มี บางครั้งเป็นอาการที่จิตทรงอุปจารสมาธิอ่อนๆ หูสามารถได้ยินเสียงจากที่ไกลๆได้ก็มี...ที่ผมเจอเรียกชื่อที่หน้าบ้านยามดึกๆ ผมก็เดินลงไปเปิดบังตาดูให้มันชัดว่า เป็นคนหรือเป็นผี ทั้งๆที่กลัวใจจะขาด แต่เพื่อไม่ให้มันค้างคาใจ แล้วจะสงสัยไม่เลิก...ผมก็ลงไปเปิดบังตาดู...มันก็ไม่มีคน เงียบทั้งซอย แล้วมันก็ผ่านประตูเข้ามา แล้วตอนตี 3 มันก็มาถีบประตูห้อง แล้วมานอนโยกที่เตียงนอนที่เป็นไม้ซี่ๆ ตอนนั้นพึ่งจะ 14 ทิพยจักขุญาณยังไม่สำเร็จ จึงเจอแค่ คาถานายผี สะกดเอาไว้อยู่ตรงนั้น...ทำได้เท่านั้นเอง...ที่เหลือก็ได้แต่ช่างมัน...

    เรื่องไปไหนมาไหนดูโน่นรู้นี่ ผมไม่ค่อยได้ทำมานานแล้ว แต่ทุกครั้งที่จะไปไหนมาไหน ผมถือสาว่าจะต้องอารธนาบารมีพระผู้มีพระภาคเจ้าไปด้วยทุกครั้ง เมื่อองค์สมเด็จทรงสงเคราะห์แล้ว เวลานั้น พรหมเทวดาจะพากันไปด้วยมาก หลวงพ่อและครูบาอาจารย์ท่านก็ไปด้วย เวลามีอะไรสงสัยผมก็อาศัยถามเอาจากท่านเหล่านี้ บางครั้งนึกว่าจะสงสัยยังนึกไม่ทันเสร็จท่านรู้แล้วว่าจะถามอะไรท่านก็ตอบให้ฟังก่อนแล้วก็มีบ่อยๆ...

    เรื่องไปด้วยกำลังฌาณสมาบัติของตัวเองนั้น ผมก็ยังยอมรับว่าไม่เก่งเพียงนั้น ยังต้องอาศัยบารมีหรือว่ากำลังของพระท่านสงเคราะห์บ้าง ครูบาอาจารย์บ้าง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ปลอดภัยดีกว่า และเป็นการแสดงความเคารพในครูบาอาจารย์ด้วยอีกทางหนึ่ง...

    สิ่งใดควรรู้ท่านก็จะบอกให้รู้ ซึ่งส่วนใหญ่คือเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องด้วย ถ้าสิ่งไหนไม่ได้มีบุพกรรมที่ต้องเกี่ยวข้องด้วย นิดเดียวท่านก็ไม่ตอบ ไม่บอก อาจด้วยเพราะไม่มีประโยชน์ก็เป็นได้...เรื่องการจะรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น ผมยังทำไม่ได้ มีเพียงรู้บางเรื่องที่พระท่านให้รู้ เมื่อรู้แล้ว บางเรื่องก็เล่าได้ บางเรื่องก็เล่าไม่ได้ก็มี...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็มักจะเตือนตัวเองเหมือนอย่างที่หลวงพ่อท่านได้เคยเตือนเอาไว้เสมอๆว่า "เรื่องที่รู้นี้ เป็นเหตุให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้หรือไม่?"

    เรื่องด้านสว่าง ด้านมืดมาช่วยกันปกป้องหลายชั้นนั้น ผมก็ขอให้ระมัดระวังเอาไว้จะดีกว่า เนื่องเพราะที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยเห็นว่าด้านมืดจะมาปกป้องพร้อมๆกับด้านสว่างได้ ถ้าพรหมเทวดามา พระพรหมท่านจะอยู่ใกล้ ไกลออกไปเป็นเทวดา เหล่าด้านมืดทั้งหลายจะไกลไปถึงทางช้างเผือกเห็นจะได้...ส่วนถ้าด้านมืดเข้ามาใกล้ พรหมเทวดาท่านจะไม่มาอย่างเด็ดขาด ไม่มีเรื่องพุทธกับไสยไปด้วยกัน...
    พุทธส่วนพุทธ...ไสยส่วนไสย...แยกจากกันดั่งน้ำมันกับน้ำ ไม่เข้าด้วยกัน...

    ด้านสว่างนั้น หากกฎของกรรมเข้ามาสนอง ก็ไม่สามารถกันได้ครับ...เจ้ากรรมนายเวรที่ถึงกำหนด ถึงวาระของเขาแล้ว เขาเข้ามาได้ถึงตัว ถึงห้องพระ จะไปนั่งบริกรรมในโบสถ์ก็เข้าไปถึงได้ครับ...ดังนั้นก็ไม่ควรประมาท...ในวิชาพิชัยสงครามก็มีการใช้วิชาพวกนี้เช่นกัน ในอดีตขนาดพระยาโกศาปาน โกศาเหล็ก โดนเข้าก็เจียนตายก็มี...แม้ผู้มากบารมีที่เคยโดนเข้าก็ถึงตาย...เพียงแต่ผู้ใช้วิชานี้จะถูกปิดกั้นมรรคผลนิพพาน เนื่องเพราะเป็นวิชาที่รุนแรง ชั่วร้ายเกินไป...

    ส่วนด้านมืดนั้น เหนือฟ้ายังมีฟ้า เอาด้านสว่างมาไล่ไปก่อนก็ได้ หรือใช้วิชาคัดของที่ป้องกันเราเอาไว้ ออกไปที่อื่นชั่วคราวก็ได้ หลังจากนั้นก็จะมีเจ็บจริง ตายจริงเกิดขึ้น...
    ดังนั้นเกราะป้องกันจริงๆที่พึงมีไว้ให้ได้ คือ การละสังโยชน์ 3 ข้อต้นให้ได้เด็ดขาด จึงจะเป็นเกราะที่หวังพึ่งได้ครับ...ส่วนเกราะอื่นๆที่ผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายผูกขึ้นนั้น ไม่มีเกราะไหนที่ปราศจากวิธีทำลาย...
     
  10. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... เงิบ .... การบ้านมหาโหกันเลยทีเดียวคะ ..... :':)'(


    ส่วนเกราะอื่นๆที่ผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายผูกขึ้นนั้น ไม่มีเกราะไหนที่ปราศจากวิธีทำลาย...


    ... ถูกต้องที่สุดคะ ... อ.ต๋อง ท่านก้บอกมาประมาณเช่นนั้น .. แต่ตีความส่วนนี้ยังไม่ออกคะ ... แกยกตัวอย่าง เช่น บ้านต่อให้มีเกราะคุ้มกันแข็งแกร่งแค่ไหน ต่อให้เราทำกำแพงรั่วรอบขอบชิด + มีประตูแน่นหนาแค่ไหน ... สิ่งเหล่านี้มันก็ยังมีวิธีทำลายได้ .. บางครั้งคนที่ทำลายเกราะอาจจะเป็นตัวเราเอง หรือ คนใกล้ชิดได้ ...
     
  11. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ใบกล้วยนั้น เห็นด้วยหางตา แต่ตอนหลังก็จ้องดูนะครับ แต่มองไม่ค่อยเห็น
    ต้องมองข้ามรั้วบ้านไป และมันอยู่ไกลถึงหลังบ้าน ซึ่งไกลและมืดด้วย
    แต่ก็มองเห็นได้ คล้ายเรืองแสงเลย (แต่หลังบ้านมืดๆ อาจจะมีเปิดไฟไว้รึเปล่า)
    ไม่ได้กลัวและไม่ได้วิ่งหนีนะครับ อย่าเข้าใจผิด เค้าไม่ยอมนะเออ ขอบอก 555

    ที่สงสัยว่าเค้าจะมาเรียกชื่อในฝันนั้น ก็มีเหตุปัจจัยประกอบด้วยครับ ไม่ใช่แค่เดาเอา
    1. มาเรียกในคืนนั้นเลย ซึ่งไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครเรียกชื่อเราได้โดยง่าย
    2. ในจิตที่รับรู้ได้ แน่ใจว่าเป็นเพื่อนใหม่ ไม่ใช่สหายที่คุ้นเคย หรือรู้จักกัน
    3. ถ้าเป็นเทวดา หรือเทพฝ่ายดี จิตจะจับสัมผัสได้ หรือถ้ารู้จัก ก็จะจำได้
    4. เสียงเรียกคล้ายผู้หญิง พูดเหมือนหัดพูดได้ใหม่ๆ จับสำเนียงได้ชัดเจน
    5. คืนหรือสองคืนถัดมา ก็มาอีก หน้าเกือบเละๆ แต่เห็นแค่เลือนๆ ไม่น่ากลัว
    เพราะเคยสั่งไว้หลายครั้งแล้วว่า ใครจะมาให้เห็น อย่าให้น่ากลัว เดี๋ยวเราโมโห 555
    วันนั้นพอเห็นเลือนๆ ก็ไล่ไป ให้ไปทำหน้าใหม่ที่ยันฮีก่อน สวยๆ แล้วค่อยมาใหม่
    อีกวันสองวัน ตอนนั่งสมาธิ ก็มาอีก คราวนี้พอได้ ผิวเนียนเชียว แต่ยังไม่สวยมาก 555

    เรื่องคาถาอาคมเราก็ไม่มีนะครับ ขี้เกียจจำ ไม่ชอบท่อง ใช้แรงแห่งจิตอย่างเดียวพอแล้ว
    ส่วนญานอะไร สำเร็จขั้นไหนอย่างไรบ้าง ก็ไม่เคยสนใจ ไม่ทราบ และไม่ถามใครด้วย

    เรื่องไปไหนมาไหน นี่เคยทำแค่ครั้งเดียวเอง เมื่อสิบแปดปีที่แล้วโน่นแน่ะครับ
    ตอนฝึกอยู่ที่สำนักปราชญ์แดนใต้ เคยลอยออกจากตึกนอน กลับไปที่บ้าน
    ไปถามน้องชายว่าลูกเป็นชายหรือหญิง คำตอบว่าชาย นั่นเป็นครั้งเดียวที่ตั้งใจทำ ก่อนนอนครับ
    เวลาไปไหนมาไหน ไม่เคยชวนใครไปด้วยซะที แต่ปกติจะคล้ายอยู่ในฌานตลอดทั้งวันทั้งคืน
    นี่จะเป็นเหตุให้ใครๆ คอยตามไปดูแลเอง ด้วยเพราะชอบใจในเรา ก็ไม่ทราบได้นะครับ

    แต่เรื่องคำถามแล้วคำตอบมาเร็วหรือมาก่อนถามเสร็จ อันนี้เป็นประจำ เป็นมานานหลายปี
    เป็นมาตั้งแต่ก่อนศึกษาธรรมะอีกนะครับ จะว่าไปก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว ที่เป็นเหมือนคนแสนรู้ 555

    เรื่องครูบาอาจารย์นี่ ทำผมกลุ้มใจมาก เวลามีคนถาม ก็ไม่รู้จะตอบว่าไง ใครเป็นอาจารย์
    ก็ฝึกด้วยตัวเอง จากหนังสือที่มีขายตามร้านทั่วไป เวลาฝึกก็ถามตอบกับตัวเอง มั้งนะ
    ทั้งโยคะ ปราณยาม ไท้เก็ก การเดินลมปราณแบบกำลังภายในของจีน พวกเต๋าและเซ็น
    พลังจักรวาลหรือชี่กง และอีกเยอะแยะ เรียกว่าในร้านมีอะไรขาย เราเคยฝึกมาเกือบหมดล่ะมั้ง นะ

    จนอายุสามสิบ ถึงทิ้งโลกเข้าสวนโมกข์ ศึกษาอย่างจริงจัง ทุ่มสุดตัวเลยครับ งานนั้น
    ตอนเข้าไป ยังไม่รู้เรื่องหลักธรรมหรือเรื่องศาสนา ทราบพอๆ กะคนทั่วไปล่ะมั้ง นะ
    แต่เคยอ่านงานเขียนของท่านพุทธทาสมาสองสามเล่มเอง อย่างคู่มือมนุษย์ ที่โด่งดัง
    กับอะไรอีกก็จำไม่ได้แล้ว แต่คงเข้าถึงได้โดยเร็วและง่ายดาย อันนี้พอจำได้

    เรื่องพระพรหมกับมารนั้น สำหรับเรา พวกเค้าคงยอมอยู่ใกล้ๆ กันได้แล้วมั้ง เดาเอานะครับ
    เพราะเราก็ไม่ทิ้งด้านมืด การจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ต้องใช้พลังด้านมืดด้วยครับ
    แค่พลังเทพ คงสร้างผลดีให้ได้แค่กับตัวเองคนเดียว ซึ่งมันไม่เท่ห์ สำหรับเรานะ 555

    เรื่องกรรม เราก็ไม่กลัว เมื่อเข้าถึงอำนาจแห่งกฏอิทัปปัจยตาแล้ว ก็เข้าใจกระแสทั้งหมดทั้งสิ้น
    ด้วยอำนาจแห่งอานาปานสติ กรรมก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักหรอกครับ เราเชื่องั้นนะ

    เรื่องฤทธิ์หรือคาถาอาคมเราก็ไม่เคยฝึกฝน ใครจะใช้ฤทธิ์ทำลาย คงไม่มีผลหรอกมั้ง นะ
    มั่นใจในอำนาจแห่งตาทั้งเก้า ของท่านพุทธทาสมาก มากกว่า และมากที่สุดครับ 555
    ไม่เคยกลัวเลย เรื่องมืดๆ ไม่ระคายผิวหรอกครับ 555 (โปรดระวังแมงโม้ บินเข้าตาด้วยครับ)

    อีกอย่าง เราเคยเสกระฆังทองคุ้มกายไว้แล้ว ให้นายกองกัซ ผู้บ้าเลือด เตร่อยู่ใกล้ๆ
    มียักษ์วัดแจ้งคุมหลัง ครุฑอยู่ด้านหน้า นาคอยู่ด้านขวา ข้างซ้ายเป็นหน่วยลึกลับ แบบว่า
    ...อีกหนึ่งซ่อนใจ
    เร้นกายหลีกหลบ
    ยากเย็นเห็นพบ
    ชอบหลบหลีกตา
    ...ปากกาเธออยู่
    ล่วงรู้วาจา
    จำนรรปัญญา
    เจรจาเพียงใจ


    คือเค้าไม่ชอบเสนอหน้าน่ะครับ ขออภัยด้วยที่ต้องบอกกล่าวด้วยกลอน

    ยาวไปหน่อยนะครับ แต่ก็อยากจะเล่าให้ฟังโดยละเอียด เผื่อจะมีใครอยากทราบแยะๆ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
  12. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ว้าย..

    นึกขึ้นได้ ที่เชียงราย เหรอคะ ฤษีดำ กับ ฤษีขาว


    พายุ ตอนนี้มาทำงานที่เชียงรายค่ะ อยู่แถววัดไหนคะ ข้าน้อยจะหลบ ค่ะ


    อืม..

    เรื่องคาถาอาคม การสักยันต์ ต่างๆ

    เห็นเพื่อนๆ ที่ทำงาน เคย เล่าให้ฟัง บ้างก็ไปสักยันต์มา

    เพื่อน กะข้าน้อย ตั้งข้อสังเกตุ(คิดไปเอง)ว่า

    คาถา หรือ วัตถุเครื่องรางของขลัง

    ๑ ที่ทำให้แคล้วคลาด เจ้าคนที่ครอบครอง ทางแคล้วคลาด จะไม่ค่อยถูกหวย ๕๕๕๕

    ๒ เครื่องรางอาคม แนว หนังเหนียวเคี้ยวไม่เข้า ผู้ครอบครอง ไม่ค่อยรวย

    ๓ เครื่องราง ที่ทำให้รวย คนครอบครอง ขี้โรค

    ๔ เครื่องรางที่แนวมหาเสน่ห์ พวกขี้เหร่ ชอบใช้


    ท่านผู้มีประสบการณ์ และความรู้ โปรดชี้แนะ ว่าที่ข้าน้อยคิดไปเองนั้น มีส่วนจริงบ้างไหมคะ


    ส่วนตัวข้าน้อยมาพิจารณา ดูแล้ว จึงมีความศรัทธา ความเชื่ออย่างยิ่งว่า ของฟรีไม่มีในโลก

    (ดังนั้น ถึงจะขี้โลภอยากได้ใคร่มี ขี้อิจฉา ข้าน้อยก็จะอดทนข่มใจ ฮือๆๆๆ)
     
  13. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ขายรถเครื่องซื้อละ งวดนี้ วะฮ่าๆๆๆๆ
     
  14. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    หนูพายุ ดูรู้เรื่องด้วยเหรอเนี่ย...ผมดูอยู่หลายเที่ยวแล้ว ไม่เข้าใจอ่ะ...
    ตีเลข ตีหวยไม่เป็น..แถมถ้าซื้อเมื่อไร..เลขจะเคลื่อน...
    เอาเป็นว่าไม่ซื้อ...รอหนูพายุถูกหวยแล้วตามไปถล่มดีกว่านิ...
     
  15. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ดูตารางใบ้ แล้วตาลายอย่างกับตารางผสมสูตรปุ๋ยอะไรสักอย่าง..

    แต่เรื่องคุณ Bat of Light เล่า ผมว่าพลังงาน ฝ่ายดี ฝ่ายชั่ว ฝ่ายดำ ขาว มันไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้นา.. เหมือนจิตเราถ้าสงบมันก็บันทึกบุญ กระแสบาปก็ไม่เข้า ถ้าโกรธหรือเศร้าหมองเมื่อไหร่กระแสบุญตัดไปบันทึกบาปทันที บุญก็ไม่เข้า ผมคิดว่าน่าจะแบบนั้นเหมืิอนๆกันอ่ะครับ
     
  16. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    [​IMG]

    ที่นี่เลย...เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าคงไปเข้าฝันแม่กาลีนะ :boo:
    ว่าแต่เครื่องรางประเภทไหน ทำให้รวยได้บ้าง...
    จะหามาแจกคนไทยในยามนี้...ให้รวยซะให้เข็ด...
    ว่าแต่ ของฟรีไม่มีในโลกนิ...
    ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง...แบบอัสนีย์ วสันต์ เปี๊ยบเลย...

    เคยคุยกับหลวงพ่อเทพ ท่านให้ความเห็นว่า ถ้าอาคมคุณไสยเขมรมันแน่จริง มันทำไมไม่ส่งไปฆ่า พวกพอลพต เฮงสำริน ฯลฯ ปล่อยให้คนพวกนี้ฆ่าคนเขมรตายนับล้านได้ยังไง...
    อืม...หลวงพ่อท่านว่ามาก็น่าคิดเหมือนกันนะ...
     
  17. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    หรือใช้วิชาคัดของที่ป้องกันเราเอาไว้ ออกไปที่อื่นชั่วคราวก็ได้ หลังจากนั้นก็จะมีเจ็บจริง ตายจริงเกิดขึ้น...

    ..... เห็นประโยคนี้เพิ่งนึกได้ว่า ... เมื่อสักสามปีก่อนพ่อแกเล่าว่าไปเจอวิชาดีมาวิชาหนึ่ง ... คือ คนที่เรียนวิชานี้มาถ้าไปเจอพวกที่มีวิชาอาคาเก่ง ๆ หรือ จะสลายวิชาของใครสักคนที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ ตนเอง ... เช่น สมมติว่าเรานั้งคุยกันบนแคร่ .. เพียงคนนั้นเขาตบที่แคร่ ( กี่ทีจำไม่ได้ ไม่ค่อยได้สนใจตอนนั้น ) วิชาอาคมของฝ่ายตรงข้ามจะใช้การไม่ได้ทันที ... แกเล่าประมาณนี้ตอนนั้นเห็นแกว่าจะไปคุยกับคนที่มีวิชานี้ดูว่ามันเป็นยังไง .. เพราะแกสนใจเรื่องแนวนี้อยุ่แล้ว .. แต่แกจะตรวจสอบก่อนว่ามันสมควรจะเรียน หรือ แค่ศึกษาดี ... แถบ ๆ อีสานใต้นี้แหละคะที่คนนั้นอยุ่
     
  18. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... มีคำแนะนำหนึ่งที่ อ.ต๋อง ท่านพูดถึง " กระเทย " ไว้เกี่ยวกับการเรียนวิชาอาคม หรือ ถือของต่าง ๆ ของกระเทยไว้คะ ... เอาที่จำได้อาจไม่ตรงทั้งหมดตามที่แกบอกมานะคะ

    ... ท่านบอกว่า .. กระเทยนั้นไม่สามารถจะทำของ เรียนวิชา อะไรกับเขาได้เพราะว่าชะตาส่งให้พวกเขามาเป็นชาย .. ซึ่งถือว่ามีวาสนาเยอะแล้วเพราะพวกเขาสามารถ " บวชเป็นพระ " ได้ตามที่พุทธองค์ทรงบรรญัติไว้ .. ต่างจากคนที่ถูกกำหนดให้เกิดมาเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถบวชเป็นพระได้เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านสรีระร่างกาย และ ความปลอดภัย .. ( ทุกคนเข้าใจข้อจำกัดนั้นนะคะ ) แล้วเมื่อพวกเขามีจิตใจที่ผิดแผกไปจากบุรุษเพศทั่วไปแล้วเอาจิตใจของอิสตรีเข้ามาแทนทำให้ " จิตใจ " ของพวกเขาไม่เข้มแข็ง ไม่อดทนพอ และ ยังมีบางพวกที่แต่งกายเป็นหญิงซึ่งง่ายต่อการทำผิดกฏบางข้อ ...

    ... ด้วยเหตุผลโดยประมาณมานี้ ... ต่อให้เรียนวิชาอะไรมา .. ทำของอะไรมา หรือ แม้มีคนทำของใส่ .... ไม่นานของเหล่านั้นจะเสื่อมลง ... ว่าง่าย ๆ คือ ถือไม่ได้ ... ต่างจากพวกผู้หญิงที่จิตใจเป็นชาย หรือ อยากเป็นชาย หรือ ทอม เลส ดี้ ... พวกนี้ไม่มีปัญหาเพราะเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว.

    .... มีคำบางคำที่แกพุดถือว่าแรงพอสมควร .. ซึ่งปกติอาจารย์แกก็เป็นคนแรงอยู่แล้วคะ 5555 แกบอกว่า " พวกนี้แม้แต่ผียังไม่อยากเลย แล้วเทวดาที่ไหนเขาจะอยากเข้าใกล้ ทำของอะไรใส่มันก็เสื่อมหมดแหละพวกนี้ "
     
  19. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ที่มันไม่หายไปจากยุคเสียที ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นยุคที่เหมาะกับการแพร่ระบาดของมันก็เป็นได้ เพราะใจคนต่ำทรามได้เหมาะกับคุณสมบัติของวิชามืดเลยทีเดียว มันจึงมีช่องทางแพร่เชื้อได้ง่าย คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่าเป็นของแปลกเป็นของดี ล่อลวงชักจูงได้ง่าย เดี๋ยวนี้เห็นว่าในหมู่นักศึกษาวัยรุ่นนั้นมีความสนใจเกี่ยวกับองค์เทพในแบบที่จะเป็นร่างทรง กับวิชาอาคมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าเป็นแฟชั่นเลย ญาติผมที่ทำงานในรัฐสภาแกบอกว่า ผู้ใหญ่ข้างในนั้น ส่วนใหญ่เล่นของ เล่นวิชาอาคมกันเกือบทุกคน... เยี่ยมมาก... ซึ่งคิดว่าคงเป็นไสยดำกันแน่ๆ อาจจะไม่ขนาดว่าใช้วิชาได้เอง ก็คงจะมีเครื่องรางพวกนี้หรือมีสำนักเป็นสื่อกลางให้เขาใช้งานวิชาอาคมอยู่เบื้องหลัง

    .... คือ มันเล่นกันทุกชนชั้นคะ ... แต่พวก นักการเมือง ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ วงการบันเทิง ... พวกนี้มาแรงอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ... ด้วยอาชีพของพวกเขามันต้องพึ่งของพวกนี้อยู่แล้ว ... ยังมีพวกอาชีพ " ความงาม " ฯลฯ ...

    .... ใครเคยได้ยินคำด่าแบบนี้ไหม๊คะ " หน้าขาวปานว๊อก " .. ที่แปลว่า หน้าขาวเหมือนลิง ( ตามคำมันเลยนะคะ ) ... แต่มันมีอะไรที่ลึกไปกว่านั้นอีกคะ ... จำเรื่อง " ผีปอบ หรือ ผีกะ " ได้ไหม๊คะที่พวกนักแสดงทางเหนือเขาจะมีครูมีคายกันนะคะ นักแสดงที่ทำผิดครูผิดคาย หรือ พวกที่กลางวันนี้หน้าตาจัดออกไปทางธรรมดาค่อนไปทางขี้เหร่ ... แต่พอตกกลางคืนมาหน้าตาจะดูดี หล่อ สวย ขึ้นมายิ่งเวลาแสดงแล้วละก็ดูดีสุด ๆ นั้นแหละคะ .. ส่วนมากพวกนี้จะมีลิง หรือ ค่าง นั้งอยู่บนบ่าสองข้างคอยเลียหน้าเลียตา .. เวลาคนมองก็จะเห็นว่าคนนี้ สวย หล่อ ขึ้นมาทันที ... ว๊อก ในที่นี้ก็ คือ ปอบอีกปรเภทหนึ่ง นั้นเอง
     
  20. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042

    ฟังนิยามแล้วแหยงมาก...ฟังบางรายเล่าวิชาที่เขาเอามาผูกมัดผู้ชายเอาไว้แล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะสกปรกได้ขนาดนี้...
    ตอนหลังนี่เจอพวกกระเทยไทย ที่เฉาะไปแล้ว(เขาเรียกกันอย่างนั้น)...
    พวกนี้หนักกว่า ผู้หญิงอีก...


    ..... อิอิอิ ... แหม๋พี่คะไสยย์ดำเขาก็ต้องใช้ของออกแนวนี้ละคะ .. ของต่ำ ของอาถรรพ์ ของสกปรก ฯ มันถึงจะตรงสเปกของศาสตร์นี้ ... ของมันจะได้แรง ๆ ไอ้ของพวก คนเบือนหน้าหนี .. เทวดายังต้องส่ายหน้าลี้ขอหนีไปไกล คิดง่าย ๆ เลยนะพี่ที่เขาบอกว่า " น้ำมันพราย " นี้แรงใช้ได้ผลดีนัก ... มันยังทำมาจาก " น้ำเหลืองศพ " ... แค่นึกถึงสภาพตอนไปทำพิธีนี้ก็แทบจะกินอะไรไม่ลงแล้วคะ .... หรือ แบบทางใต้ที่เขาพอบ้านไหนมีลูกสาวพอตอนที่เกิดมาเขาจะเอาน้ำที่เด็กอาบมารอให้ตกตะกอนตากแดดเก็บไว้ให้ลูกสาวใช้ตอนโตเพื่อมัดใจชาย .... นึกสภาพตอนนี้สาวอายุสัก 20 ปี แล้วเอาน้ำขี้ไคล้ของสาวคนนี้ที่ตากไว้ปั้นเป็นก้อนตั้งแต่นางเกิดมาจนตอนนี้มาใส่ในอาหารให้ผุ้ชายกิน ... โอ้ววววว แม่เจ้า .... ข้าวผสมขี้ไคล้หมักมา 20 ปี ... มันจะน่ากินไหม๊นะ ... หนูไม่เอาด้วยละ ... เห้อ ๆ

    .... แล้วยิ่งสาวประเภทสอง ... ซึ่งแต่ละนางไม่ใช่จะสวยไปทุกคน ... และ ด้วยความอยากได้คนที่ตนเองต้องการมาครอบครองมันจะแรงกว่าผู้หญองทั่วไปแน่นอนเพราะบวกอารมณ์ความกล้า และ ความบ้าในแบบผุ้ชายเข้าไป .. พวกนางจะน่ากลัวมากคะ .. ทำให้นึกถึงภาพ " ผู้หญิง กับ กระเทยตบกัน .. ต้องไปอาบน้ำมนต์ล้างซวย 7 วัด " แถวบ้านจะพุดแบบนี้ ... เพราะนิสัย ขี้อิจฉา ริษยา อยากเอาชนะ แบบหญิง ๆ พอมีเรื่องจะตบกัน .. นึกสภาพผู้หยิงจะมีแรงไปตบสู้กระเทยได้ยังไงถ้าพวกนั้นเกิดบ้าเอาจริงขึ้นมา ... " แรงกระเทยนะ ผู้ชายชัด ๆ " ... ไม่ตายก็คางเหลืองละผู้หญิงคนนั้น ..

    .... แต่หนูไม่ได้เกลียดกระเทยนะคะ ... หนูชอบคบกระเทยคะ .. แต่เลือกคบนะคะ .. เพราะบางคนเขาก็ดีคะน่ารัก .. และ มีโอกาศได้ไปคลุกคลีกับพวกเขามาเยอะพอสมควร .. บางคนเขาก็เป็นเองโดยธรรมชาติ .. พวกนี้น่าสงสารคะ ... อย่างเพื่อนหนูคนหนึ่งเรียนมาด้วยกัน ... ร่างกายของเขานี้แมนมากคะ สูง ใหญ่ อกผายไหล่พึ่ง ... แต่เป็นกระเทยตั้งแต่เกิด นิสัยดีมาก ๆ ( คนที่อยู่ด้วยตอนพาเพื่อน อ. ไปหาพี่ร้านเสริมสวยนั้นแหละคะ ) ตกใจมากตอนที่พี่ตุ๊กแก่ทักว่า กระเทยคนนี้เป็นคนมีบุญบารมีมาเกิด .. เพราะกระเทยนางนี้ชาติก่อนนางเคยเป็น " พระระดับสูง " เป้นที่กราบไหว้ของผู้คนมากมายมาก่อนแถมมรณะภาพในผ้าเหลือง ... แต่ด้วย " กรรมบางประการ " จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ .. ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่คะ .. แต่วันนั้นเองที่พวกหนูรอดตายตอนขับรถกลับบ้านเพราะเพื่อนคนนี้เป็นคนเปลี่ยนมาขับรถให้ตั้งแต่ช่วงเขาจากสระบุรีจะเข้าโคราชจนถึงขอนแก่นอย่างปลอดภัยถึงจะเหนื่อยกันแบบไม่มีสาเหตุ .. แต่มันเป็นไปตามที่พี่เขาบอกไว้ก่อนจะกลับทุกอย่าง ... พี่เขายังบอกว่าถ้าเขาเห็นว่า .. สามคนที่มานี้ต่อไปจะมีคนที่สามารถทำประโยชน์ต่อคนอื่นได้มากในอนาคตเขาก้จะไม่ช่วยไม่บอก .. จะปล่อยให้ตายไปเลยดีกว่า .. เพราะการที่เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวในครั้งนี้พี่เขาก็ต้องซวยโดนเล่นงานเหมือนกัน ... ว่าแล้วเมื่อคืนก็ฝันว่าพี่เขามาหาเหมือนกัน เห้อ ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...