วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เหรียญรัตนจักรชัยสิทธิ์ ปี 46**

    (หลวงปุ่ชื้น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ปลุกเสก)


    เนื้อทองแดงรมดำ ตอกโค๊ตกำกับทุกเหรียญ รุ่นสร้างตึกเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ.2546 พระพิมพ์นี้พุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกัน และที่สำคัญ มหาลาภครับ มีประสพการณ์มากและ เหรียญสร้างได้สวย ไม่ผ่านการใช้

    วัตถุมงคลนี้ยังเข้มขลัง ด้านแคล้วคลาด คงกะพัน และเมตตามหานิยม มหาอุตม์อีกด้วย

    พระปรุหนัง และ เหรียญรัตนจักร สร้างเพื่อหารายได้ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา

    พระคณาจารย์ที่เจริญจิตภาวนาปลุกเสก
    1.พระธรรมญาณมนี (ลพ.ไวทย์)
    2.พระราชสิทธิมงคล (ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน)
    3.พระครูสุนทรยติกิจ (ลพ.ละเอียด)
    4.พระสังวรสมณกิจ (ลป.ทิม วัดพระขาว)
    5.พระครูประโชติธรรมวิจิตร (ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว)
    6.พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ (ลพ.พูน วัดบ้านแพน)
    7.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (ลพ.รวย วัดตะโก)
    8.พระครูภัทรกิจโกศล (ลพ.หวล วัดพุทธไธสวรรค์)


    และปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ของดีที่น่าเก็บ อนาคตดี ดีแน่นอน!!!

    หลวงปู่ ชื้น วัดญาณเสน อริยะสงค์เจ้า ของจริงเพียบพร้อมทุกอย่าง
    น่าบูชา น่ากราบไหว้ที่สุด ค่ะ!

    พระปรุหนังที่ถือว่าเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ชื้น ท่านเป็นผู้บอกให้ทาง รพ.อยุธยา จัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์ให้ทาง รพ.อยุธยา ท่านทำพิธีปลุกเสกเดี่ยวครั้งแรกที่ วัดญาณเสน และทาง รพ.อยุธยา ได้ทำพิธีปลุกเสกครั้งใหญ่ขึ้น โดยนิมนต์พระเกจิ จ.อยุธยา ร่วมปลุกเสก(4)

    ตอนที่ หลวงปู่ชื้น ท่านมาพักฟื้นร่างการที่ รพ.อยุธยา วัตถุมงคลชุดนี้ อยู่ในห้องท่านปลุกเสกอีกนานเป็นเดือน


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0715.jpg
      DSCN0715.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      110
    • DSCN0723.jpg
      DSCN0723.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      101
    • DSCN0722.jpg
      DSCN0722.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.8 KB
      เปิดดู:
      104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2014
  2. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สมเด็จสาวหลง ผสมผงอิทธิเจ
    หลวงปู่ปรง สาสโน วัดห้วยเจริญสุข สิงห์บุรี

    พระสมเด็จสาวหลง หลวงปู่ปรง วัดห้วยเจริญสุข สิงห์บุรี จัดสร้างเมื่อท่านอายุได้ 94-95 ปี
    เป็นพระผงที่หนุ่มๆ แถวทัพทันและละแวกนั้นนิยมห้อยบูชาติดตัวกัน เพราะมีอิทธิคุณสมชื่อ
    พระรุ่นนี้ถึงแม้จะเป็นยุคท้ายๆ ของท่าน แต่ก็มีความพิเศษอยู่มาก
    เพราะท่านได้รวบรวมผงต่างๆ ที่ท่านลบไว้และเก็บสะสมไว้มานาน มาผสมอยู่ในสมเด็จรุ่นนี้อยู่มาก
    ทั้งผงปถมัง แบงค์ห้าร้อยเก่าป่น ว่านสาวหลง และผงอิทธิเจมหาเสน่ห์ที่โด่งดังของท่าน

    ผงวิเศษต่างๆ ท่านจะเขียนลบเอง โดยเฉพาะผงอิทธิเจของท่านถือว่าสุดยอดมากๆ เด็ดขาดทางมหานิยม มหาเสน่ห์
    ขนาดที่ว่าเวลาที่ท่านลบผงและทำผงอิทธิเจ จะมีพวกแมลงต่างๆ มากมายมารุมเกาะตามตัวและใบหน้าของท่านเต็มไปหมด

    พระเครื่องของท่านจะกดพิมพ์เอง ทำแบบโบราณที่วัด ปลุกเสกนานมากแบบทิ้งทวน
    ให้บูชา 600 บาท พร้อมจัดส่งค่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 19/11/56

    - คุณสุภาภรณ์ RH 4853 1660 5 TH
    - คุณพรเมธินทร์ RH 4853 1661 9 TH
    - คุณอุเทน RH 4853 1662 2 TH
    - คุณศุภวัฒน์ RH 4853 1663 6 TH
    - คุณประจวบ RH 4853 1664 0 TH
    - คุณชาญวิทย์ RH 4853 1665 3 TH
    - คุณวรางคณา RH 4853 1666 7 TH
    - คุณสุชาติ RH 4853 1667 5 TH
    - คุณวีระพงษ์ RH 4853 1668 4 TH
    - พระสุรพงศ์ EK 4229 5189 6 TH
     
  4. Sanguank

    Sanguank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,386
    จองรายการนี้ครับ
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการจองรายการนี้ค่า:cool:
     
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เหรียญรัตนจักรชัยสิทธิ์ ปี 46**

    (หลวงปุ่ชื้น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ปลุกเสก)


    เนื้อทองแดงรมดำ ตอกโค๊ตกำกับทุกเหรียญ รุ่นสร้างตึกเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ.2546 พระพิมพ์นี้พุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกัน และที่สำคัญ มหาลาภครับ มีประสพการณ์มากและ เหรียญสร้างได้สวย ไม่ผ่านการใช้

    วัตถุมงคลนี้ยังเข้มขลัง ด้านแคล้วคลาด คงกะพัน และเมตตามหานิยม มหาอุตม์อีกด้วย

    พระปรุหนัง และ เหรียญรัตนจักร สร้างเพื่อหารายได้ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา

    พระคณาจารย์ที่เจริญจิตภาวนาปลุกเสก
    1.พระธรรมญาณมนี (ลพ.ไวทย์)
    2.พระราชสิทธิมงคล (ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน)
    3.พระครูสุนทรยติกิจ (ลพ.ละเอียด)
    4.พระสังวรสมณกิจ (ลป.ทิม วัดพระขาว)
    5.พระครูประโชติธรรมวิจิตร (ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว)
    6.พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ (ลพ.พูน วัดบ้านแพน)
    7.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (ลพ.รวย วัดตะโก)
    8.พระครูภัทรกิจโกศล (ลพ.หวล วัดพุทธไธสวรรค์)


    และปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ของดีที่น่าเก็บ อนาคตดี ดีแน่นอน!!!

    หลวงปู่ ชื้น วัดญาณเสน อริยะสงค์เจ้า ของจริงเพียบพร้อมทุกอย่าง
    น่าบูชา น่ากราบไหว้ที่สุด ค่ะ!

    พระปรุหนังที่ถือว่าเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ชื้น ท่านเป็นผู้บอกให้ทาง รพ.อยุธยา จัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์ให้ทาง รพ.อยุธยา ท่านทำพิธีปลุกเสกเดี่ยวครั้งแรกที่ วัดญาณเสน และทาง รพ.อยุธยา ได้ทำพิธีปลุกเสกครั้งใหญ่ขึ้น โดยนิมนต์พระเกจิ จ.อยุธยา ร่วมปลุกเสก(4)

    ตอนที่ หลวงปู่ชื้น ท่านมาพักฟื้นร่างการที่ รพ.อยุธยา วัตถุมงคลชุดนี้ อยู่ในห้องท่านปลุกเสกอีกนานเป็นเดือน


    (((ปิดรายการนี้ค่า))))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0715.jpg
      DSCN0715.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCN0716.jpg
      DSCN0716.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.5 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSCN0718.jpg
      DSCN0718.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.2 KB
      เปิดดู:
      61
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 21/11/56

    - คุณวิรุฬห์วิทญ์ RH 4853 1554 2 TH
    - คุณบุญนาศ RH 4853 1555 6 TH
    - คุณมกร RH 4853 1556 6 TH
    - คุณฐิชาดา RH 4853 1557 3 TH
    - คุณฐิตารัตน์ RH 4853 1558 7 TH
    - คุณอิศรา RH 4853 1559 5 TH
    - คุณองอาจ RH 4853 1560 0 TH
    - คุณเสน่ห์ RH 4853 1561 3 TH
     
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #ตะกรุดพญาเหล็กไหลสีปีกแมลงทับ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#37

    (ใช้ฝังในร่างกาย หรือเลี่ยมคู่กับวัตถุมงคล อื่นๆ) ของแแท้ 100%


    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    - ให้บูชา 850 (รวมจัดส่ง)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0270.jpg
      DSCN0270.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.4 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN0271.jpg
      DSCN0271.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.5 KB
      เปิดดู:
      36
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **นกสาริกา ครูบาคำเป็ง**6


    สาริกาครูบาคำเป็งเป็นเนื้องา สาริกา หลวงปู่ได้สร้างสาลิกาตัวเล็ก สวยงาม ปลุกเสกด้วยมนต์คาถา มหาเสน่ห์ เมตตาค้าขาย โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง สาลิกาปากพระร่วงเหมาะสำหรับคนค้าขายจะคอยเรียกลูกค้าเข้ามาซื้อของในร้านตลอดวัน คนทำงานอาชีพขายประกัน เซลล์แมน นายหน้าขายบ้าน ขายที่ดิน พริสตี้ใช้สาลิกาปากพระร่วงจะดีมากจะเป็นคนช่างพูดช่างเจรจาจะมีวาจาไพเราะใครได้เจรจาด้วยก็จะหลงใหลในคำพูด จะทำให้ผู้ที่เราเจรจาด้วยมีเมตตาต่อเรา เอ็นดูเรา บูชาสาริกาปากพระร่วงไว้ดีไม่มีจน ไม่ขัดสนเงินทอง เพื่อนฝูง ญาติมิตรจะเป็นเสน่ห์แก่ตัวเราอีกด้วย

    "การะกาสะ การะวิโก"

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0335.jpg
      DSCN0335.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.2 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCN0347.jpg
      DSCN0347.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.2 KB
      เปิดดู:
      86
    • DSCN0351.jpg
      DSCN0351.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.3 KB
      เปิดดู:
      93
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2013
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    *เหรียญปรุหนัง*

    (หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา เนื้อชินตะกั่ว ปี46)


    รายละเอียด เหรียญพิมพ์พระปรุหนัง หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน อยุธยา เนื้อชินตะกั่ว มีโค๊ดตอกกำกับทุกองค์ รุ่นสร้างตึกเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ.2546 พระพิมพ์นี้พุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกัน และที่สำคัญ มหาลาภค่ะ แบ่งออกมาให้เช่าบูชากันค่ะ สวยทุกองค์

    วัตถุมงคลนี้ยังเข้มขลัง ด้านแคล้วคลาด คงกะพัน และเมตตามหานิยม มหาอุตม์อีกด้วย

    พระปรุหนัง และ เหรียญรัตนจักร สร้างเพื่อหารายได้ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา

    พระคณาจารย์ที่เจริญจิตภาวนาปลุกเสก
    1.พระธรรมญาณมนี (ลพ.ไวทย์)
    2.พระราชสิทธิมงคล (ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน)
    3.พระครูสุนทรยติกิจ (ลพ.ละเอียด)
    4.พระสังวรสมณกิจ (ลป.ทิม วัดพระขาว)
    5.พระครูประโชติธรรมวิจิตร (ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว)
    6.พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ (ลพ.พูน วัดบ้านแพน)
    7.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (ลพ.รวย วัดตะโก)
    8.พระครูภัทรกิจโกศล (ลพ.หวล วัดพุทธไธสวรรค์)

    และปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ของดีที่น่าเก็บ อนาคตดี ดีแน่นอน!!!

    หลวงปู่ ชื้น วัดญาณเสน อริยะสงค์เจ้า ของจริงเพียบพร้อมทุกอย่าง
    น่าบูชา น่ากราบไหว้ที่สุด ค่ะ
    !
    พระปรุหนังที่ถือว่าเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ชื้น ท่านเป็นผู้บอกให้ทาง รพ.อยุธยา จัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์ให้ทาง รพ.อยุธยา ท่านทำพิธีปลุกเสกเดี่ยวครั้งแรกที่ วัดญาณเสน และทาง รพ.อยุธยา ได้ทำพิธีปลุกเสกครั้งใหญ่ขึ้น โดยนิมนต์พระเกจิ จ.อยุธยา ร่วมปลุกเสก

    ตอนที่ หลวงปู่ชื้น ท่านมาพักฟื้นร่างการที่ รพ.อยุธยา วัตถุมงคลชุดนี้ อยู่ในห้องท่านปลุกเสกอีกนานเป็นเดือน

    หลวงปู่ชื้น ท่านยังบอกว่าพระชุดนี้ดีครบค่ะ! คนที่ รพ.อยุธยา ลูกศิษย์ท่านทั้งนั้น..

    พระเครื่องชุดนี้ ของดีราคาถูก รีบเก็บค่ะไม่ผิดหวัง
    ของดีที่น่าเก็บ อนาคตดี ดีแน่นอน...

    รับประกันแท้ ไม่มีกล่อง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0763.jpg
      DSCN0763.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      39
    • DSCN0760.jpg
      DSCN0760.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      38
    • DSCN0770.jpg
      DSCN0770.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.8 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2013
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 27/11/56

    - คุณสุชาติ EK 6395 6161 2 TH
    - คุณวณัฐ EK 6395 6162 6 TH
     
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **สีผึ้งสาย (บน)ครูบาคำเป็ง**


    สีผึ้งหลวงปู่แบ่งแยกเป็น ๒ สาย สายบนใช้ด้านโชคลาภ หนุนดวง เสริมดวง สายล่าง เสน่ห์ล้วนๆ ใช้ได้ผลดี แรงที่สุดมีความเข็มขลัง ท่านตั้งชื่อ สีผึ้ง ผูกจิต ดลใจ ท่านเขี้ยวมาชั้นดี สะอาดที่สุด หลวงปู่ใช้เวลาเสกตั้งแต่ สมัยอยู่ถ้ำ เป็นเวลาหลายปี ถ้าหากสีผึ้งนี้ไปตกอยู่กับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นจะได้เมียสวย ได้เมียรวย เมียรัก เดินไปไหนผู้หญิงมารุมล้อม ขอไปอยู่ด้วย หลวงปู่หัวเราะฮึๆ สำหรับหญิงสาว ใช้สีผึ้งนี้ พอใกล้ชายคนไหน ชายคนนั้นจะถวิลหาทุกค่ำคืน สีผึ้งนี้ยังใช้ได้กับนักเรียน ครูบาอาจารย์ นักร้อง นักแสดง ให้ใช้กับคนที่ตัวเองปราถนา อยากให้เขารัก วิธีใช้ สีผึ้งสายล่าง ให้ป้าย ต้ังแต่เอวลงมา ทุกๆวัน หลวงปู่บอกสีผึ้งนี้ไม่มีผลอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัย หากว่าเราอยู่ในศิลในธรรม ห้ามใช้ผิดลูกเมียเขานะโยมไป

    สำหรับสายบน ให้ใช้ด้านโชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เสริมดวง หนุนดวง เวลาจะไปทำมาหากิน ทำงาน สมัครงาน เข้าหาเจ้านาย เจรจาธุรกิจ ใช้สีผึ้งทาที่ปาก ฝามือ แขน และอธิฐานขอ สีผึ้งก็จะสำแดงฤทธ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เราไปติดต่อ พูดคุยได้เมตตาเอ็นดู ถูกชะตาสนใจเรา เจรจาราบรื่นตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ดวงดีขึ้นเรื่อยๆ

    คุณวิเศษของสีผึ้ง ทั้ง ๒ สาย คือสามารถเสี่ยงทายได้ โดยท่อง คาถา"ฮัมฮำอำอะ อึอะอะอำ" ๓จบ วนที่หน้าขา อธิฐานจะบอกให้ยกขาแล้วเบาหรือหนักตามแต่ใจจะเสี่ยงทาย

    สีผึ้งครูบาคำเป็ง เป็นอะไรที่ลูกศิษย์ต่างแสวงหากันและรู้ถึงพลังอำนาจในสีผึ้ง โดยฉะเพราะสีผึ้งสายล่างของหลวงปู่สุดยอด......ขอบอกๆๆๆ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** พระคำข้าว รุ่น 2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก)**1


    สมเด็จพระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราชในวิหารแก้ว 100 เมตรวัดท่าซุง มี ๒ รุ่น

    รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔

    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง

    วิธีอาราธนา พระคำข้าว และ พระหางหมาก

    คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นที่สุด

    แล้วตั้งนะโม ๓ จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า

    “ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด

    เกร็ดความรู้บางอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว

    (คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

    อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ...(ลาภอย่างไร)

    เป็นอันว่า เราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน

    ...ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่ คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่าง พระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด สมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ สมเด็จองค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ

    หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ

    (คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓)

    ..."องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า "พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ" ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน"...ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...

    ...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
    ...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
    ...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์

    ****************************************
    หลวงพ่อวิรัช โอภาโส เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
    (อดีตเลขาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

    ท่านกล่าวถึงการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อฯไว้ดังนี้ครับ

    เรื่องการปลุกเสก (10 พ.ค. 32) หลวงพ่อเล่าว่า เมื่อหลวงพ่อไปถึงวิหาร 100 เมตร ท่านนั่งหน้าพระประธาน พูดถึงการทำพิธีปลุกเสกพระ (พุทธาภิเษก) ไปถึงจะนั่งแน่นปั๋งไม่ได้ อารมณ์หนักเกินไป ต้องทำอารมณ์เบาๆ จึงจะถูกจึงจะคลุมได้ดี

    - ปกติพระสารีบุตร มาด้านปัญญา
    - พระโมคคัลลานะ มาด้านฤทธิ์

    ทั้ง 2 องค์ นั่งคนละข้างของหลวงพ่อ แต่ว่าเวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะ ท่านจะคุม เพราะว่าเสกของเรื่องของฤทธิ์ เป็นหน้าที่ของท่าน

    ท่านจะคุม บอกว่าอารมณ์หนักไปนิด เอาเบาอีกหน่อย บอกให้เขยิบอีกนิด พอเข้าที่ก็บอกให้ทรงอยู่อย่างนั้น

    จากนั้นทำอารมณ์เบาๆ ขอให้ท่านคลุมทุกอย่างหมด อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า และทำอารมณ์เบาๆ ขอท่านว่าเราต้องการอย่างไรบ้าง ท่านก็จะเมตตาทำให้เอง จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพระ เราก็คุยไปเรื่อยเดี๋ยวเดียวแสงสว่างคลุมหมด ก็เสร็จ (ไปถึงไปนั่งเป๋งไม่ได้หรอก อารมณ์มันหนักเกินไปไม่ได้ ต้องใช้อารมณ์เบาๆ)

    พอเสร็จ พระพุทธเจ้าจะตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหม และท่านปู่พระอินทร์มาบอกช่วยดูแลวัตถุมงคลเหล่านี้ด้วย ถ้าใครใช้ขอให้ช่วยดูแลด้วย (เว้นแต่พวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีผล)

    ถ้าท้าวมหาพรหม (ท้าวสหัมบดีพรหม) และท่านปู่พระอินทร์คุม ลูกน้องทั้งหมด ทั้งพรหมและเทวดา ต้องมาคุมวัตถุมงคลทั้งหมด ไปไหนก็สบาย

    ดังนั้น เวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะต้องมาคุม ต้องใช้ฤทธิ์ สำหรับพระพุทธเจ้ารวมทั้งสมเด็จองค์ปฐม มาเป็นประธานอยู่แล้ว


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0013.jpg
      DSCN0013.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.4 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN0014.jpg
      DSCN0014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.3 KB
      เปิดดู:
      31
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** พระคำข้าว รุ่น 2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก)**2


    สมเด็จพระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราชในวิหารแก้ว 100 เมตรวัดท่าซุง มี ๒ รุ่น

    รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔

    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง

    วิธีอาราธนา พระคำข้าว และ พระหางหมาก

    คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นที่สุด

    แล้วตั้งนะโม ๓ จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า

    “ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด

    เกร็ดความรู้บางอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว

    (คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

    อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ...(ลาภอย่างไร)

    เป็นอันว่า เราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน

    ...ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่ คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่าง พระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด สมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ สมเด็จองค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ

    หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ

    (คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓)

    ..."องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า "พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ" ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน"...ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...

    ...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
    ...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
    ...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์

    ****************************************
    หลวงพ่อวิรัช โอภาโส เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
    (อดีตเลขาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

    ท่านกล่าวถึงการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อฯไว้ดังนี้ครับ

    เรื่องการปลุกเสก (10 พ.ค. 32) หลวงพ่อเล่าว่า เมื่อหลวงพ่อไปถึงวิหาร 100 เมตร ท่านนั่งหน้าพระประธาน พูดถึงการทำพิธีปลุกเสกพระ (พุทธาภิเษก) ไปถึงจะนั่งแน่นปั๋งไม่ได้ อารมณ์หนักเกินไป ต้องทำอารมณ์เบาๆ จึงจะถูกจึงจะคลุมได้ดี

    - ปกติพระสารีบุตร มาด้านปัญญา
    - พระโมคคัลลานะ มาด้านฤทธิ์

    ทั้ง 2 องค์ นั่งคนละข้างของหลวงพ่อ แต่ว่าเวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะ ท่านจะคุม เพราะว่าเสกของเรื่องของฤทธิ์ เป็นหน้าที่ของท่าน

    ท่านจะคุม บอกว่าอารมณ์หนักไปนิด เอาเบาอีกหน่อย บอกให้เขยิบอีกนิด พอเข้าที่ก็บอกให้ทรงอยู่อย่างนั้น

    จากนั้นทำอารมณ์เบาๆ ขอให้ท่านคลุมทุกอย่างหมด อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า และทำอารมณ์เบาๆ ขอท่านว่าเราต้องการอย่างไรบ้าง ท่านก็จะเมตตาทำให้เอง จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพระ เราก็คุยไปเรื่อยเดี๋ยวเดียวแสงสว่างคลุมหมด ก็เสร็จ (ไปถึงไปนั่งเป๋งไม่ได้หรอก อารมณ์มันหนักเกินไปไม่ได้ ต้องใช้อารมณ์เบาๆ)

    พอเสร็จ พระพุทธเจ้าจะตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหม และท่านปู่พระอินทร์มาบอกช่วยดูแลวัตถุมงคลเหล่านี้ด้วย ถ้าใครใช้ขอให้ช่วยดูแลด้วย (เว้นแต่พวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีผล)

    ถ้าท้าวมหาพรหม (ท้าวสหัมบดีพรหม) และท่านปู่พระอินทร์คุม ลูกน้องทั้งหมด ทั้งพรหมและเทวดา ต้องมาคุมวัตถุมงคลทั้งหมด ไปไหนก็สบาย

    ดังนั้น เวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะต้องมาคุม ต้องใช้ฤทธิ์ สำหรับพระพุทธเจ้ารวมทั้งสมเด็จองค์ปฐม มาเป็นประธานอยู่แล้ว


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0015.jpg
      DSCN0015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN0016.jpg
      DSCN0016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      35
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** พระคำข้าว รุ่น 2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก)**4


    สมเด็จพระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราชในวิหารแก้ว 100 เมตรวัดท่าซุง มี ๒ รุ่น

    รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔

    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง

    วิธีอาราธนา พระคำข้าว และ พระหางหมาก

    คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นที่สุด

    แล้วตั้งนะโม ๓ จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า

    “ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด

    เกร็ดความรู้บางอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว

    (คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

    อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ...(ลาภอย่างไร)

    เป็นอันว่า เราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน

    ...ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่ คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่าง พระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด สมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ สมเด็จองค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ

    หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ

    (คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓)

    ..."องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า "พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ" ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน"...ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...

    ...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
    ...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
    ...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์

    ****************************************
    หลวงพ่อวิรัช โอภาโส เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
    (อดีตเลขาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

    ท่านกล่าวถึงการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อฯไว้ดังนี้ครับ

    เรื่องการปลุกเสก (10 พ.ค. 32) หลวงพ่อเล่าว่า เมื่อหลวงพ่อไปถึงวิหาร 100 เมตร ท่านนั่งหน้าพระประธาน พูดถึงการทำพิธีปลุกเสกพระ (พุทธาภิเษก) ไปถึงจะนั่งแน่นปั๋งไม่ได้ อารมณ์หนักเกินไป ต้องทำอารมณ์เบาๆ จึงจะถูกจึงจะคลุมได้ดี

    - ปกติพระสารีบุตร มาด้านปัญญา
    - พระโมคคัลลานะ มาด้านฤทธิ์

    ทั้ง 2 องค์ นั่งคนละข้างของหลวงพ่อ แต่ว่าเวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะ ท่านจะคุม เพราะว่าเสกของเรื่องของฤทธิ์ เป็นหน้าที่ของท่าน

    ท่านจะคุม บอกว่าอารมณ์หนักไปนิด เอาเบาอีกหน่อย บอกให้เขยิบอีกนิด พอเข้าที่ก็บอกให้ทรงอยู่อย่างนั้น

    จากนั้นทำอารมณ์เบาๆ ขอให้ท่านคลุมทุกอย่างหมด อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า และทำอารมณ์เบาๆ ขอท่านว่าเราต้องการอย่างไรบ้าง ท่านก็จะเมตตาทำให้เอง จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพระ เราก็คุยไปเรื่อยเดี๋ยวเดียวแสงสว่างคลุมหมด ก็เสร็จ (ไปถึงไปนั่งเป๋งไม่ได้หรอก อารมณ์มันหนักเกินไปไม่ได้ ต้องใช้อารมณ์เบาๆ)

    พอเสร็จ พระพุทธเจ้าจะตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหม และท่านปู่พระอินทร์มาบอกช่วยดูแลวัตถุมงคลเหล่านี้ด้วย ถ้าใครใช้ขอให้ช่วยดูแลด้วย (เว้นแต่พวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีผล)

    ถ้าท้าวมหาพรหม (ท้าวสหัมบดีพรหม) และท่านปู่พระอินทร์คุม ลูกน้องทั้งหมด ทั้งพรหมและเทวดา ต้องมาคุมวัตถุมงคลทั้งหมด ไปไหนก็สบาย

    ดังนั้น เวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะต้องมาคุม ต้องใช้ฤทธิ์ สำหรับพระพุทธเจ้ารวมทั้งสมเด็จองค์ปฐม มาเป็นประธานอยู่แล้ว


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0019.jpg
      DSCN0019.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.3 KB
      เปิดดู:
      32
    • DSCN0020.jpg
      DSCN0020.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 28/11/56

    - คุณธฤตภณ RH 4855 2918 5 TH
    - คุณบัญชา RH 4855 2919 9 TH
    - คุณอภิวัฒน์ RH 4855 2920 8 TH
    - คุณศักดิ์ดา RH 4855 2921 1 TH
    - คุณบันฑิต RH 4855 2922 5 TH
    - คุณธรรมจักร RH 4855 2923 9 TH
     
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 6/12/56

    - คุณยุทธวง EK 4234 9126 9 TH
    - คุณณัฐธนพงศ์ RH 4852 9179 2 TH
    - คุณนุกูล RH 4852 9180 1 TH
    - คุณอภิพัฒนศักดิ์ RH 4852 9181 5 TH
     
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 9/12/56

    - คุณอโนชา RH 4855 8090 5 TH
    - คุณพระพุทธบิดา RH 4855 8091 9 TH
    - คุณเบญจกรณ์ RH 4855 8092 2 TH
     
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 14/12/56

    - คุณภัควริษฐ์ RH 4855 9888 3 TH
    - คุณสังเวียน RH 4855 9889 7 TH
    - คุณวิโรจน์ RH 4855 9890 6 TH
    - คุณไพบูลย์ RH 4855 9891 0 TH
     
  20. มีนัม

    มีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +5,750
    จองโพส #731 กับ #736
    ทั้งหมด 2 เหรียญครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...